คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : :Dangerous 5:สายเลือดของไอริส 100%
:Dangerous 5:สายเลือดของไอริส
‘สักวันเจ้าจะเป็นคนที่ทำลายล้างโลกใบนี้...มันถูกกำหนดเอาไว้แล้ว...สายเลือดของข้า’เสียงเย็นเยียบที่พร่ำบอกเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า
มันดังก้องอยู่ในหัวไม่จางหายไปไหน ราวกับกรอเทปกลับฟังคำนั้นซ้ำไปเรื่อยๆ
มันคอยกวนใจเธอเสมอมา
“...ริส...ไอ...ริ...”เสียงของใครบางคนเรียกไอริสที่เหม่อมองไปทางหน้าต่างหลังจากที่เนเทโล่ปล่อยให้พักกันตามอัธยาศัยไม่นาน
“...”ไอริสยังคงนิ่งเงียบไม่พูดอะไร
“ไอริส!”ไอริสสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะหันไปหาเจ้าของเสียงด้วยรอยยิ้ม
“อ...อะไรเหรอกอร์น?”เด็กหัวตั้งตรงหน้ามองเธอตาแป๋ว
ไอริสยิ้มให้กับท่าทางที่ไร้เดียงสานั่น
“ไปสำรวจเรือเหาะด้วยกันมั้ย?”ไอริสไม่พูดอะไรก่อนจะพยักหน้ารับ
กอร์นกับคิรัวร์เลยลากเธอไปสำรวจเรือเหาะด้วยกันทันที
ลากอีกแล้ว...นี่เห็นเธอเป็นตุ๊กตารึไงนะ?
วูบ...ควับ! เพี๊ยะ!
“โอ๊ย!!เป็นอะไรอีกเนี่ยยัยเพี๊ยน?!!”คิรัวร์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงปนรำคาญเมื่อไอริสหยุดเดินกระทันหันและหันไปทางอื่นอย่างรวดเร็วจนผมยาวๆนั่นฟาดเข้าเต็มๆหน้าของคิรัวร์อย่างแรง
เมื่อกี้...
“ขอโทษนะ...พวกนายไปสำรวจเรือเหาะเถอะ...เดี๋ยวฉันตามไป”ไอริสพูดแค่นั้นก่อนจะเดินออกไปอีกทางสร้างความงุนงงให้กับพวกเขาเป็นอย่างมากแต่ไม่นานพวกเขาก็เดินไปสำรวจเรือเหาะต่ออย่างไม่สนใจอีก
“ท่านเรียกฉันเหรอคะ?”ไอริสที่เดินเลี่ยงออกมาจากพวกกอร์นมองหน้าชายชราเล็กน้อย
ก่อนที่จะกล่าวขึ้นอย่างเงียบงัน เนเทโล่หัวเราะเบาๆก่อนจะพาไอริสไปในห้องใดซักห้องบนเรือเหาะ
ไอริสมึนงงเล็กน้อยก่อนจะเดินตามไป
“อ้าว?
มาแล้วเหรอยัยหนู!”เสียงของเม็นจิดังขึ้นทันทีที่ไอริสเดินเข้ามาในห้อง
ห้องที่เนเทโล่พามามี ซาร์ทอต เม็นจิ และบูฮาร่า นั่งอยู่บนโซฟา
ไอริสเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยพลันรอยยิ้มสดใสที่ประดับหน้าตอนนี้ได้เลือนหายไปราวกับไม่เคยมี
มาแล้ว...โหมดจริงจังของไอริส
“เข้าเรื่องเลยดีกว่าค่ะ”เสียงเย็นเยียบของไอริสทำให้อุณหภูมิรอบตัวลดลงอย่างรวดเร็ว
ความหนาววูบแล่นเข้าสู่ห้องนี้อย่างจัง ทำให้ทุกคนรับรู้ได้ว่าเด็กคนนี้เอาจริง
“โฮะๆๆ จริงจังเหมือนพ่อเจ้าจริงๆนะ”เนเทโล่กล่าวยิ้มๆก่อนจะได้รับสายตามองค้อนของไอริสไป
นี่ขนาดประธานสมาคมยังโดนจิก...ยัยหนูนี่มันร้ายนัก
“อะแฮ่ม! ก็ไม่มีอะไรมากหรอกแค่คิดถึ---
เห้ย! ล้อเล่นน่ะล้อเล่นแหม...”เนเทโล่พูดทีเล่นทีจริงกับไอริสจนเด็กสาวตรงหน้าทนไม่ไหวรีบเดินออกจากห้องอย่างไม่ลังเล
แต่ยังโดนเนเทโล่คว้าตัวเอาไว้ได้ทัน
“เข้า-เรื่อง”ไอริสกล่าวเสียงเย็น
สรุปใครใหญ่กว่าใครกันเนี่ย...
“แหม...หลานรัก...ปู่ก็แค่อยากรู้ว่าเจ้ามาสอบแล้วรู้สึกเป็นยังไงบ้าง
แค่นั้นเอ๊ง”เนเทโล่กล่าวเสียงสูง “แล้วเรื่องนั้นล่ะเป็นไงบ้าง?”
“สนุกดี...เจอกับของเล่นน่าสนใจด้วย...ส่วนเรื่องนั้นยังไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงค่ะ...ตราบใดที่ฉันยังสอบอยู่...จะไม่เกิดอันตรายแน่นอนค่ะ”ไอริสตอบด้วยแววตาเฉยเมยแต่ประโยคที่เล่าถึงของเล่นชิ้นใหม่
แววตาของเธอดูเป็นประกายเหมือนเด็กธรรมดาคนหนึ่ง
“โฮะๆๆ ดีแล้วล่ะดีแล้ว แค่นี้ก็สบายใจได้เปราะนึงล่ะนะ”
“ฉันไปได้แล้วใช่มั้ยคะ”ไอริสกล่าวด้วยสีหน้าเซ็งๆก่อนจะได้รับการอนุญาตให้ออกไปได้จากปู่ของเธอ
.
.
.
.
.
ตึก...ตึก...
ไอริสที่กลับมามีรอยยิ้มเฉกเช่นเดิมกำลังเดินตามทางไปเรื่อยๆอย่างเหม่อลอย
แต่ก็ดันไปเจอแจ็คพ็อตสุดอันตรายที่เธอไม่ค่อยอยากที่จะเข้าไปยุ่งด้วยเท่าไหร่เสียได้
“หึๆๆ นึกว่าใคร...ที่แท้ก็ยัยเด็กหน้ายิ้มนี่เอง”ฮิโซกะมองมาทางเด็กสาวตัวเล็กที่กำลังจะเดินสวนไปอย่างนึกอยากจะแกล้งกับท่าทางน่าหมั่นไส้ที่คิดเมินเขาขึ้นมา
“หุบปากค่ะ...แล้วก็ช่วยหลีกทางไปจะได้มั้ยคะ”ไอริสพูดยิ้มๆแต่คำพูดคำจากลับสวนทางกัน ฮิโซกะมองท่าทางแบบนั้นด้วยความหมั่นไส้
“ถ้าไม่หลีกล่ะ? เธอจะทำอะไรได้...”ฮิโซกะเดินดิ่งเข้ามาหาไอริสที่ยืนยิ้มอยู่กับที่นิ่งๆ
“ก็...”เด็กสาวพูดค้างไว้ให้เติมเองก่อนที่จะ...
ปั่ก!!
“อุก!”ฮิโซกะสำลักลมทันทีที่ไอริสหวดขาเตะเข้าเป้าของเขาเต็มๆจนฮิโซกะทรุดนั่งกุมเป้าอย่างเจ็บปวด
ก่อนที่เด็กสาวจะเดินผ่านไปอย่างกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ฝากไว้ก่อนเถอะยัยเด็กแสบ...อุก...
“เห้อ...”ไอริสถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายเมื่อเดินหนีตัวตลกจนพ้นก่อนจะเดินช้าๆแบบเดิม
ไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมสิ่งที่เธอไม่เคยต้องการถึงได้ถูกถวายใส่พานมาให้ตลอดแถมแต่ละอย่างนี่มันก็...นั่นแหละ
“อ้าว? ไอริส! ทางนี้ทางนี้!”เสียงของกอร์นเรียกความสนใจของไอริสได้เป็นอย่างดี
เด็กสาววิ่งเข้าไปหากอร์นกับคิรัวร์อย่างรวดเร็ว
โชคดีที่หาเจอ...
“ช้าชะมัดเลยยัยบ้า! นี่เธอหลงทางใช่มั้ยล่ะเนี่ยย”คิรัวร์พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงกวนประสาทซึ่งก็ได้รับหมัดลุ่นๆของไอริสชกเข้าที่หน้าจนลอยไปไกลเหมือนกัน
“โฮมรัน...”ไอริสพึมพำด้วยสีหน้าอารมณ์ดีสุดๆโดยมีกอร์นยิ้มแห้งๆให้เป็นฉากหลัง
“นี่ไอริส...ฉันมีเรื่องอยากจะถามเธอมานานแล้วน่ะ”กอร์นเปรยๆขึ้นเรียกความสงสัยของไอริสอย่างดี
เด็กสาวเลิกคิ้วเล็กน้อยก่อนจะยิ้มและพยักหน้าเป็นเชิง ถามมาสิ
“อะไรเหรอ?”กอร์นมองมาที่ไอริสด้วยรอยยิ้มก่อนะถามคำถามที่ทำให้เธอชะงักไป
“ครอบครัวของไอริสเป็นยังไงเหรอ?”
กึก! ครืน......
จิตสังหารถูกปล่อยออกมาจากตัวของไอริสตู้มใหญ่
จนทำให้คนที่อยู่รอบๆวิ่งหนีไป ขนาดคิรัวร์ยังเผลอกระโดดถอยหลังไปหลายก้าวพลางเหงื่อตกกับบรรยากาศน่าอึดอัด
แต่กอร์นกลับยังคงยิ้มให้ไอริสอย่างไม่เกรงกลัว
“เห้อ...ครอบครัวของฉันน่ะเหรอ?
ครอบครัวของฉันทุกคนเป็นฮันเตอร์ที่ทำงานให้ทางสมาคม...ฉันคงบอกได้แค่นั้น”จิตสังหารที่มาจากไอริสได้หายไปในชั่วพริบตา ก่อนที่เธอจะตอบคำถามของกอร์นอย่างปลงๆกับนิสัยของของเขา
แต่นั่นก็ทำให้เธอสนใจเด็กคนนี้นี่นะ...
“เห...งั้นที่ไอริสมาสอบเป็นเพราะทางครอบครัวสินะ!”กอร์นกล่าวขึ้นไม่ดูสถานการณ์ซึ่งไอริสก็ไม่ได้ว่าอะไร
แต่คิรัวร์ที่ดูอยู่ห่างๆกลับรู้สึกร้อนๆหนาวๆแปลกๆ
“ก็...ส่วนหนึ่งล่ะนะ...ถามทำไมเหรอ?”
“ฉันอยากรู้จักไอริสมากขึ้นน่ะ!”กอร์นตอบอย่างใสซื่อก่อนจะมองเข้าไปในดวงตาสีคาราเมลเข้มที่วูบไหวเล็กน้อยราวกับปิดบังอะไรบางอย่างอยู่
“ฉันว่าเราอย่ารู้จักกันมากกว่านี้เลยดีกว่านะ...”ไอริสหลบสายตาของกอร์นก่อนจะพูดขึ้นเบาๆท่ามกลางสายตาของกอร์นกับคิรัวร์
“ทำไมล่ะ?”กอร์นมองไอริสอย่างไม่เข้าใจและถามออกไป
“เพราะว่า...สายเลือดของฉันเป็นภัยต่อโลกใบนี้...อย่ารู้จักฉันให้มากแล้วพวกนายจะปลอดภัย...”เสียงของไอริสเย็นเยียบราวกับน้ำแข็ง พวกกอร์นตัวแข็งค้างอยู่อย่างนั้น
“วันนี้เหนื่อยมามากแล้ว...ฉันไปพักก่อนดีกว่า...แล้วเจอกันนะ
กอร์น คิรัวร์”ไอริสพูดขึ้นพร้อมยิ้มอย่างสดใสก่อนจะเดินไปหาห้องพักทันที
ทิ้งให้กอร์นกับคิรัวร์นึกสงสัยกับคำพูดนั้นของเธอ
ทางด้านพวกเม็นจิ
“ยัยเด็กนั่นยังไม่เปลี่ยนไปเลยนะ...”เม็นจิเปิดประเด็นสนทนาทันทีท่ามกลางความเงียบภายในห้อง
“นั่นสินะครับ...กระผมว่าเธอไม่เปลี่ยนไปเลยตั้งแต่เจอกันครั้งแรก...”ซาร์ทอตที่ดื่มกาแฟเสร็จก็กล่าวสมทบทันที
“ยังมีเรื่องปิดบังใครหลายคนเหมือนเดิม...โดยเฉพาะเรื่องสายเลือดของเด็กนั่น”บูฮาร่ากล่าวขึ้นเช่นเดียวกับเม็นจิ
แต่ซาร์ทอตที่ไม่รู้เรื่องสายเลือดของไอริสทำหน้างงเป็นไก่ตาแตก
“จริงสิ...ซาร์ทอตไม่รู้เรื่องนี้นี่นา”เม็นจิพูดขึ้นอีกครั้งอย่างรู้ทัน
ซาร์ทอตพยักหน้าเล็กน้อยเป็นเชิงขอให้เล่าให้ฟัง
“เคยได้ยินตำนานที่กล่าวถึงผู้สร้างและทำลายล้างโลกบ้างรึเปล่า?”เม็นจิเปรยๆขึ้นก่อน ซาร์ทอตพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะกล่าวตอบ
“ที่เล่าว่า ทุกๆ1000 ปีจะมีเด็กสาวสองคนเกิดขึ้นพร้อมกันในเวลาเดียวกันใช่มั้ยครับ”
“ใช่แล้วล่ะ...ตามตำนานเด็กสาวสองคนที่เกิดขึ้นมาจะมีหนึ่งคนเป็นผู้สร้างโลกและอีกคนเป็นผู้ทำลายล้างโลก”ซาร์ทอตเบิกตากว้างทันทีที่เม็นจิกล่าวถึงตรงนี้
“อย่าบอกนะว่า...”
“ใช่แล้วล่ะ...สายเลือดของไอริส...”เม็นจิเว้นช่องหายใจก่อนจะกล่าวประโยคถัดไปที่ทำให้ซาร์ทอตถึงกับชะงักค้างไป
“คือสายเลือดของผู้ทำลาย!”
“ฮัดชิ้ว!!”ไอริสจามขึ้นมาอย่างกะทันหัน
สงสัยจะเป็นหวัด...
.
.
.
.
.
Writer Talk
จบตอนครับ! เฉลยออกมาแทบหมดแล้วล่ะครับท่าน ลองเปลี่ยนขนาดตัวอักษรดูเอาขนาด
20 นี่พอดีมากมาย จริงๆที่แต่งให้นางเป็นผู้ทำลายโลกเนี่ยเพราะไม่อยากซ้ำใครครับ
แต่ไม่รู้ว่าไปซ้ำใครรึเปล่านะ555 เอาเป็นว่าติดตามเอาครับท่าน
บายบี----
ความคิดเห็น