ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ความรู้สึกที่เวียนวนบนฟากฟ้า (เส็ตโชมารู x ริน)

    ลำดับตอนที่ #2 : 2

    • อัปเดตล่าสุด 19 พ.ค. 61


    ท้ายหมู่บ้าน

    นี่!อินุยาฉะแล้วคาโงเมะไม่มาด้วยหรอ?เสียงอสูรตัวกระจิริดเอ่ยถาม ก็ข้าบอกไปแล้วไงว่าคาโงเมะไม่ค่อยสบาย เจ้านี้น่ารำคาญจริงเลยชิปโป” 

    ก็ข้าคิดถึงคาโงเมะนี่ แล้วต้องไปปราบอสูรตั้งหลายวันนางก็คงเหงาแย่”  ชิปโปพูดด้วยสีหน้าเศร้าๆ ขนาดเดินทางไปยังหมู่บ้านอื่นเพื่อไปปราบอสูรกับอินุยาฉะ พักนี้อินุยาฉะเดินทางไปยังหมู่บ้านอื่นอยู่บ่อยๆ เพื่อปราบอสูรจึงทำให้ต้องทิ้งคาโงเมะไว้ตามลำพัง อันที่จริงลำพังอินุยาฉะคนเดียวก็เอาอยู่แล้วทำไมต้องลากข้ามาด้วยก็ไม่รู้ ชิปโปบ่นในใจเพราะถ้าบ่นให้อินุยาฉะในตอนนี้ได้ยินล่ะก็มีหวังกลายเป็นศพแน่ๆ อินุยาฉะที่ช่วงนี้อารมณ์ขึ้นๆลงๆยังไงชอบกล

    ว่าแต่รินจะไปด้วยหรือเปล่าอินุยาฉะถามขึ้นเพราะทั้งสองกำลังจะเดินผ่านบ้านของรินและส่วนใหญ่รินเองก็มักจะติดตามไปด้วยเพื่อไปหาสมุนไพรตามป่าเขา

    ข้าไม่รู้หรอกเพราะไม่ได้บอกรินไว้ล่วงหน้า

    แวะถามเลยล่ะกัน เฮ้! รินเจ้าอยู่หรือป่าวเนี่ยอินุยาฉะตะโกนถามทันทีที่เข้าใกล้บริเวณบ้านของริน นี่ถ้าคาโงเมะมาด้วยอินุยาฉะคงโดนดุไปแล้วโทษฐานเสียงดังโวยวาย

    บริเวณบ้านของรินนั้นเงียบสงบ บ้านอยู่ติดกับลำธารที่ฝั่งตรงข้ามเป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์ บริเวณบ้านที่เต็มไปด้วยสวนดอกไม้และพืชสมุนไพรมากมายจึงทำให้บ้านของรินให้ความรู้สึกที่ผ่อนคลาย ตัวบ้านไม้ยกสูงที่ไม่เล็กและไม่ใหญ่จนเกินไป บวกกับมีพื้นที่กว้างขวางจึงทำให้บ่อยครั้งพวกอินุยาฉะและคนในหมู่บ้านต่างแวะเวียนมาเที่ยวอยู่บ่อยครั้ง ถึงแม้หลายๆ คนจะอยากให้รินย้ายไปอยู่ในหมู่บ้านด้วยกันเพื่อสะดวกต่อการดูแลซึ่งกันและกัน แต่ก็มีเหตุผลที่รินไม่สามารถเข้าไปอยู่ในหมู่บ้านได้ นั้นก็เป็นเพราะรินนั้นเป็นคนของเซตโชมารุ ถึงจะไม่บ่อยนักที่เชตโชมารุพี่ชายต่างแม่ของอินุยาฉะจะมาเยี่ยมเยียนและดูเหมือนเขาเองก็ไม่อยากจะเข้าไปในหมู่บ้านสักเท่าไหร่ นั้นจึงทำให้รินเลือกที่จะอยู่ท้ายหมู่บ้านเพื่อให้การมาของเซตโชมารุนั้นสบายใจมากขึ้น แต่ถึงยังไงการอยู่ท้ายหมู่บ้านของรินก็ทำให้รินสบายใจมากกว่าด้วยจึงทำให้ไม่มีใครกล้าแย้ง

    เฮ้!! เจ้าไม่อยู่หรอจะว่าไปอินุยาฉะก็ค่อยดูแลรินด้วยเช่นกันในเรื่องความปลอดภัย มันก็แน่ล่ะนะเพราะถ้าเกิดอันตรายกับรินล่ะก็มีหวังพี่ชายต่างแม่คงดูถูกอินุยาฉะน่าดูว่าไม่สามารถดูแลใครได้

    จ๊ะ อยู่สิ มีอะไรหรอหญิงสาวมนุษย์เดินออกมาจากระเบียงบ้าน งดงาม นั้นคงเป็นสิ่งที่มนุษย์หนุ่มต่างพูดเมื่อเห็นริน ผมสีดำสนิทล้อมรอบใบหน้ารูปไข่ดวงตากลมโตที่สว่างสดใส รอยยิ้มที่ดูกี่ครั้งก็เต็มไปด้วยความจริงใจ ผิวพรรณที่ผุดผ่องกว่ามนุษย์ทั่วๆไปและกลิ่นกายที่หอมราวกับดอกไม้ในยามเช้า เสียงเจื้อแจ้วของรินนั้นเปรียบได้กับนกที่กำลังร้องเพลงขับขาน เพียงแค่มอง หน้าของชิปโปก็แดงระเรือขึ้นทันที

    พวกข้าจะไปหมู่บ้านถัดไปสักหน่อยเห็นว่ามีอสูรมาวุ่นวาย เจ้าจะไปด้วยไหมล่ะอินุยาฉะตามเสียงเรียบพรางยกมือขึ้นกอดอก

    อ่า แย่จังรินยังไม่ได้เตรียมตัวเลย มันกะทันหันเกินไป ท่านอินุยาฉะไปเถอะเดียวจะเสียเวลาเปล่าๆรินพูดด้วยสีน้าเป็นกังวลพรางยิ้มให้ชิบโป

    ไปเตรียมตัวซะ ข้ารอได้หมู่บ้านอยู่ไม่ไกลเดินทางไม่นานก็คงถึงอินุยาฉะพูดพลางนั่งลงกับพื้นเป็นการบ่งบอกว่าเขาได้ตัดสินใจแล้ว

    เอาแต่ใจแบบนี้ไง คาโงเมะเลยไม่รักเจ้าความปากไวของชิปโปเป็นเหตุนั้นจึงทำให้กำปั้นของอินุยาฉะถึงหัวของชิปโปทันทีที่พูดจบ

    โอ๊ย!!! เจ็บนะเจ้าบ้านี้!! ค่อยดูเถอะข้าจะรายงานคาโงเมะให้หมดเลย

    ก็ลองดูสิเจ้าบ้า! ข้าจะจับเจ้าให้เป็นเหยื่อล่ออสูรข้างหมู่บ้านนี้ดีไหมมันจะได้อิ่มแล้วไม่มายุ่งกับชาวบ้านอีกดีไหม!!!”

    เสียงทะเลาะตบตีกันระหว่างอสูรทั้งสองยังคงดังต่อไปเรื่อยๆ และดูเหมือนทั้งสองจะไม่สนใจรินอีกต่อไป รินจึงเข้าบ้านเพื่อเก็บของและเตรียมตัวออกเดินทางไปกับอินุยาฉะและชิปโป รินรักที่จะเดินทางไปในที่ไกลแสนไกล รักที่จะได้พบปะและพูดคุยกับผู้คน ได้เห็นในสิ่งต่างๆที่ไม่เคยเห็น ได้เรียนรู้สิ่งต่างๆที่ตัวเองยังไม่เคยรู้ มันติดเป็นนิสัยมาตั้งแต่เด็กจนโตเป็นผู้ใหญ่ นั้นอาจเป็นเพราะในวัยเด็กของเธอนั้นไม่เหมือนกับเด็กคนอื่นๆ ช่วงเวลาการเรียนรู้ของเธอจึงสำคัญเสมอ รินเปลี่ยนชุดที่ความรู้สึกทะมัดทะแมงรวบผมสีดำสนิทไว้ด้านหลังเพื่อไม่ให้ลุมล่ามจนเกินไป พร้อมทั้งเก็บเสื้อผ้าและอุปกรณ์ต่างๆเพื่อเดินทางไม่นานก็ลงมาหยุดอยู่ตรงหน้าอสูรทั้งสองที่ยังคงทะเลาะกันไม่หยุดเสียที

    ไปกันเถอะรินพูดด้วยรอยยิ้มที่สดใสและไม่แปลกใจที่เห็นทั้งสองทะเลาะกันเป็นเด็กๆ เพราะทุกครั้งที่เดินทางไปกับท่านอินุยาฉะและชิปโปภาพแบบนี้มีให้เห็นทั้งทาง นั้นเลยทำให้การเดินทางไม่น่าเบื่อเลยสักนิด

    เสร็จสักที! ไปกันเถอะอินุยาฉะพูดขึ้นพรางโยนชิปโปที่เกาะอยู่บนหัวเขาออก นั้นจึงทำให้ชิปโปโวยวายไม่หยุดหย่น

    ท่านคาโงเมะไม่

    ไม่ไปหรอกไม่สบายน่ะไม่ทันจะถามจบท่านอินุยาฉะก็พูดตัดทันที และเดินนำไปโดยที่ไม่พูดอะไรต่อ สำหรับรินนั้นทราบดีว่าควรพูดต่อหรือควรหยุดเงียบอยู่เฉยๆ ดูจากท่าทางแล้วท่านคาโงเมะคงสบายดีแน่ๆ และที่แน่ๆ ก็คือทะเลาะกันมาสินะ ช่วงนี้ดูเหมือนจะทะเลาะกันบ่อยจังเลย เฮ้ออ รินแอบถอนหายใจเพียงลำพังและเดินตามอินุยาฉะไปอย่างเงียบๆ

     

    ปราสาทเซตโชมารุ

    สูงขึ้นไปเหนือท้องฟ้าจนไม่สามารถเทียบได้ ยังคงมีปราสาทเก่าสีดำสนิทที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาว ปราสาทที่มากไปด้วยเมฆที่หนาทึบ มันยิ่งใหญ่เกินกว่าจะบรรยายได้ ปราสาทที่ครั้งหนึ่งเคยเงียบสงัดมาหลายร้อยปี แต่บัดนี้มันถูกเติมเต็มไปด้วยเหล่าอสูรทั่วสารทิศที่ต่างหลั่งไหลกันเข้ามาเพื่อทำพิธีที่สำคัญยิ่ง พิธีบูชาอสูรผู้ยิ่งใหญ่ ทั้งนี้เพื่อเป็นการแสดงความเคราพต่ออสูรที่อยู่ในจุดสูงสุดเหนืออสูรทั้งปวง แต่กระนั้นก็เพื่อเป็นการได้เห็นกับตาว่าอสูรที่อยู่ในจุดสูงสุดนั้นจะน่าเกรงครามเพียงใด ในโลกอสูรนั้นไม่มีอสูรตนใดที่มีความศรัทธา ดังนั้นการยืนอยู่จัดสูงสุดจึงเป็นเรื่องที่อันตรายเพราะนั้นหมายความว่า การจะถูกโค่นจากบัลลังนั้นทำได้ทุกเมื่อ เมื่อมีโอกาส จึงไม่แปลกที่วันนี้จะหมายถึงการประเมินจากอสูรจากทั่วสารทิศว่าอสูรที่อยู่ในจุดสูงสุดนั้นสามารถโค่นง่ายหรือไม่  แต่กระนั้นก็ยังมีอสูรบ้างกลุ่มที่มาที่นี่ก็เพื่อจะพึ่งพาบารมีและความยิ่งใหญ่ การถูกปกครองจากอสูรผู้ยิ่งใหญ่นั้นหมายถึงความปลอดภัยถึงแม้จะไร้เกียติแต่เพื่อการคงอยู่ของเผ่าพันธุ์ก็ถือเป็นเรื่องที่สมควรจะแลก อากิหนึ่งในอสูรสาวที่เดินทางมาเพื่อแสดงความเคราพต่ออสูรผู้ยิ่งใหญ่ อากิเป็นผู้นำของเงือกทะเล ซึ่งเผ่าพันธุ์ของพวกเธออยู่กันมาช้านานและสงบสุขภายใต้การปกครองของอสูรจิ้งจอกเงินจากรุ่นพ่อสู่รุ่นลูก อากิเงือกสาวผู้งดงามไม่เพียงต้องการอยู่ภายใต้การปกครองของอสูรจิ้งจอกเงินเท่านั้นนางยังยอมเป็นผู้รับใช้ที่ของอสูรจิ้งจอกเงินอีกด้วยเหตุผลเดียวนั้นคือ เมื่อช้านานก่อนที่เผ่าพันธุ์เงือกทะเลไม่มีอสูรผู้ยิ่งใหญ่ค่อยปกครองพวกเธอคือเผ่าพันธุ์ที่อ่อนแอและมักจะถูกรุกรานทั้งจากมนุษย์และอสูรนั้นเป็นเพราะความงดงามและเลือดของพวกเธอที่จะสร้างความเป็นนิรันดรให้กับผู้ที่ดื่มมัน จึงทำให้เกิดการสูญเสียมากมายเกี่ยวเผ่าพันธุ์ของนางรวมไปจนถึงท่านแม่ของอากิ แต่เมื่อได้อยู่ภายใต้การปกครองของอสูรจิ้งจอกเงินเผ่าพันธุ์ของนางก็ไม่เคยถูกรุนรานอีกเลยนั้นจึงทำให้ทั้งอากิและเผ่าพันธุ์ของนางพร้อมจะรับใช้อสูรจิ้งจอกเงินทุกประการ ซึ่งไม่เพียงเผ่าพันธุ์ของอากิเท่านั้นที่ความจงรักภักดี ยังมีเหล่าอสูรมากมายหลายเผ่าพันธุ์ที่ยอมรับใช้ด้วยความภักดีต่ออสูรจิ้งจอกเงิน ปราสาทที่ยิ่งใหญ่มากมายไปด้วยเหล่าอสูรทั้งจากแผ่นฟ้า ใต้มหาสมุทร ทั่วแผ่นดิน เสียงดังกึ่งกะถึกนั้นทำให้บริเวณโดยรอบปราสาทไม่หลงเหลือของสิ่งมีชีวิตอื่น แต่เมื่อประตูปราสาทถูกเปิดออกด้วยทหารผู้เฝ้าปราสาทเสียงโดยรอบกลับเงียบสงัดราวกลับทั่วปราสาทนั้นไม่มีอสูรตนใดอยู่ ณ บริเวณนั้น เสียงหายใจของเหล่าอสูรเริ่มเงียบลง บ่งบอกได้ว่าการมาของเขาผู้นั้นคือเรื่องที่น่ากลัว เซตโชมารุเดินออกมายังนอกปราสาทด้วยใบหน้าที่เรียบเฉยพร้อมอาวุธข้างกายที่ยังคงอยู่ติดตัวไม่ห่างรวมทั้งชุดเกาะที่บ่งบอกถึงความยิ่งใหญ่ อสูรหลายๆตนที่ไม่สามารถทนกับการจ้องมองใบหน้าของเซตโชมารุได้ต่างก็ก้มลงกับพื้นเพื่อบ่งบอกถึงความเคราพ ไม่ต้องการจะต่อกรด้วย เช่นเดียวกับอากิ เผ่าพันธุ์ของเธอสัมผัสได้ว่าเขาผู้นั้นสมควรที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวหรือไม่ บรรยากาศรอบตัวของเซตโชมารุในตอนนี้ราวกับมีพิษมากมายออกมาจากร่างกายที่ยิ่งใหญ่ของเขา พิษที่มีผลต่อจิตใจที่ถึงแม้เขาจะไม่กลายร่างเหมือนกับอสูรมากมายที่อยู่ในที่นี้ก็ตาม เซตโชมารุหยุดลงอยู่ตรงกลางระหว่างเหล่าอสูรนับร้อยตนเหตุผลเดียวนั้นคือรอ และเพียงไม่นานก็มีอสูรยักษ์สามตนกระโดดออกมาจากเหล่าอสูรนับร้อยสิ่งเดียวที่มันต้องการคือโค่นอสูรผู้ที่ขึ้นชื่อว่าอยู่ในจุดสูงสุด ยักษ์ทั้งสามต่างลงมือพร้อมกันเพราะคิดว่าพละกำลังจะสามารถเอาชนะเซตโชมารุได้แต่เพียงพริบตาที่ยักษ์ทั้งสามกระโดดเข้าไปนั้นร่างกายของพวกมันก็ถูกฟันด้วยเกรงเล็บทันที

    แทบไม่ต้องชักดาบจาเค็นที่ยืนสังเกตอยู่ข้างๆพูดขึ้นทันที ช่างโง่เง่าซะจริงๆ ที่คิดจะมาต่อกรกับท่านเซตโชมารุผู้ยิ่งใหญ่ไม่นานหลังจากนั้นเหล่าอสูรจากท้องนภาราวสิบตัวพุ่งเป้าหมายจะโค่นบัลลังนั้น พิษมากมายจากเซตโชมารุก็ทำงานทันทีที่เหล่าอสูรนั้นเข้าใกล้

    ไม่ถึงตัวท่านเชตโชมารุก็ตายซะแล้วจาเค็นยังคงทำหน้าที่ได้ดีในการสรรญเสริญนายของมัน เหล่าอสูรมากมายยังคงพุ่งตรงไปยังเซตโชมารุเพียงหมายจะโค่นเขาซ้ำแล้วซ้ำเหล่าโดยที่เขาแทบไม่ต้องชักดาบเลยแม้แต่น้อย

    นี่คือคนที่ท่านปกครองมาโดยตลอดรึท่านพ่อหนึ่งคำถามพุดขึ้นเมื่อเหมือนเห็นเหล่าอสูรมากมายต่างต้องการจะขึ้นเป็นใหญ่หลังจากที่ท่านพ่อต้องตายไป ไม่ใช่ว่าพวกเขาจงรักภักดีหรอกเหรอ หรือที่พวกมันยังอยู่เพราะเพียงแค่ต้องการข้ามข้าผู้นี้ไปให้ได้ เพียงต้องการขึ้นมาแทนที่ท่านเซตโชมารุยังคงตัดเพ้อภายใจจิตใจขนาดที่ยังคงฟาดฟันเกรงเล็บไปกับเหล่าอสูรมากมาย พวกมันไม่คู่ควรที่จะให้เลือดต้องมาแปดเปลื้อนดาบแม้แต่น้อยไม่นานอสูรที่เคยอยู่ในปราสาทมากมายก็บางตาลงทันที ศพมากมายนอนเกลื่อนกลาดไปทั่วบริเวณ เซตโชมารุยังคงเดินไปเรื่อยๆ เหยียบย้ำลงบนศพและเลือดของอสูรผู้อวดดี ด้วยสีหน้าอันราบเรียบเซตโชมารุก็พูดออกมาว่า ถ้าอยากให้เผ่าพันธุ์ของพวกเจ้ายังคงอยู่ก็เลิกทำเช่นนี้ซะ



    ลึกลงไปยังมหาสมุทรอากิกำลังเล่าเรื่องที่ตนเองไปเจอมาให้เหล่าเงือกทะเลฟังถึงความยิ่งใหญ่ของเซตโชมารุ พอท่านเซตโชมารุพูดจบนะ พวกอสูรที่ยังคิดจะต่อกรก็ลงไปนั่งกับพื้นเลย

    นี่ท่านเซตโชมารุสังหารอสูรเป็นร้อยๆตัวเลยหรอหญิงชราของเงือกทะเลเอ่ยถาม

    แน่นอนสิท่าน บริเวณปราสาทเนี่ยเงียบสงัดและเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดเลยล่ะ ท่านเซตโชมารุต่อสู้กับอสูรนับร้อยตัวโดยที่ไม่กลายร่างและไม่ชักดาบเลยเหละ

     ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงๆ อสูรตนนี้ก็คงเลือดเย็นน่าดู

    ทำไมท่านพูดเช่นนั้นล่ะ ก็ในเมื่ออสูรพวกนั้นหวังจะฆ่าท่านเซทโชมารุนะ

    วิธีของท่านอินุไทโชกับท่านเซตโชมารุนั้นต่างกันหนัก ในตอนนั้นท่านอินุไทโชเพียงแค่สั่งสอนไม่ยอมสังหารอสูรตนใดเลย แต่พอมาเป็นท่านเซตโชมารุกลับทำได้โดยไม่ลังแลเลยแม้แต่น้อย ไม่ดูน่ากลัวไปหน่อยหรอกหรือ

    สำหรับข้า ข้าเห็นด้วยแล้วนะที่ท่านเซตโชมารุทำเช่นนั้นอย่างน้อยก็เป็นการบ่งบอกว่าท่านเซตโชมารุนั้นแข็งแกร่งเพียงใดอากิตอบหญิงสาวชราไปด้วยเหตุผลที่เธอนั้นเห็นว่าถูกต้อง

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×