ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ความรู้สึกที่เวียนวนบนฟากฟ้า (เส็ตโชมารู x ริน)

    ลำดับตอนที่ #1 : 1

    • อัปเดตล่าสุด 19 พ.ค. 61


    ความรู้สึกจากส่วนลึก……

    ความมืดมิดในยามค่ำคืนถูกขับไล่ด้วยแสงสว่างของดวงจันทรา ที่ค่ำคืนนี้ดูจะส่องสว่างมากกว่าคืนไหนๆ ร่างสูงของอสูรหนุ่มเดินตรงไปยังระเบียงกว้างที่สามารถมองเห็นดวงจันทราได้อย่างชัดเจน ยิ่งส่องสว่างมากเท่าไรดาวรอบข้างยิ่งดับแสงมากเท่านั้น ภายในห่วงความคิดไม่มีผู้ใดสามารถหยั่งถึง ทุกความรู้สึกถูกปิดบังซ่อนเร้นภายใต้ใบหน้าที่เรียบเฉยเพราะสำหรับเขาผู้เป็นจักรวรรดิที่ยืนอยู่เหนืออสูรทั้งหลายย่อมไม่สมควรที่จะแสดงด้านที่อ่อนแอออกมาให้ผู้ใดเห็น แต่ถึงกระนั้นทุกสิ่งที่มีชีวิตล้วนแล้วแต่มีความรู้สึกและจิตใจ ช่างน่าสังเวชหนัก  อสูรหนุ่มสยบให้ความอ่อนแอเพียงจุดเดียวของเขา ดวงตาสีอำพันจ้องมองไปยังดวงจันทราที่กลมโตมันสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนจากระเบียงห้องโถงที่เปรียบเสมือนพื้นที่ส่วนตัวของเขา เรือนผมสีเงินเปล่งประกายเมื่อกระทบกับแสงของจันทรา อาวุธข้างกายยังคงประดับอยู่ที่ข้างลำตัวจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย เพราะสำหรับอสูรหนุ่มการได้กลายเป็นอสูรผู้ยิ่งใหญ่ที่เหนือกว่าพ่อของตนเองคือสิ่งที่เขาปรารถนา เจ้ามีสิ่งใดที่ต้องปกป้อง ถึงแม้จะผ่านมาหลายร้อยปีแต่คำพูดนั้นกลายเป็นคำถามที่หลอกหลอนเขาไม่จบสิ้นทุกครั้งที่เขานึกถึงท่านพ่อ ทุกครั้งที่เขาต้องการจะก้าวข้าม  หึ! ข้าเสตโชมารูผู้นี้ไม่มีสิ่งใดต้องปกป้อง

    สายลมยามค่ำคืนของฤดูหนาวพัดพาเอาความเย็นเข้าปะทะกับร่างบาง ริมฝีปากที่ขาวซีดเป็นสิ่งหนึ่งที่ยืนยันได้ดีว่าเธอนั้นยืนตากลมมาเนินนาน ผมดำสลวยพลิ้วไหวไปกับสายลม ดวงจันทร์วันนี้สวยเป็นพิเศษเสียงหวานเอ่ยออกมาเพื่อทำลายความเงียบพร้อมกับรอยยิ้มที่มุมปากใบหน้าที่งดงามราวกับเทพธิดาจ้องมองไปที่ดวงจันทร์ด้วยความเศร้า เพียงเพราะคิดว่าใครคนนั้นจะมองไปยังดวงจันทร์เช่นเดียวกับที่เธอกำลังทำ 'ได้มองไปยังจุดๆเดียวกันเพียงเท่านั้น' ร่างบางย้ำเตือนกับตัวเองและหวังว่าความรู้สึกเหล่านี้เขาผู้นั้นจะสามารถสัมผัสมันได้ ความรู้สึกที่เธอเองก็ไม่เข้าใจ

    หมู่บ้านคาเอเดะ

    หลังจากเรื่องวุ่นวายของลูกแก้วสี่วิญญาณและนาราคุสิ้นสุดลงทุกอย่างก็สงบสุขเสียจนคาโงเมะกังวลใจ ครั้งหนึ่งยุคสมัยนี้เคยสงบสุขแต่แล้วผู้คนมากมายต้องเดือดร้อนเพราะความโลภและเห็นแก่ตัวของนาราคุ จะว่าไปก็ไม่ใช่เพราะนาราคุเพียงคนเดียว เพราะเธอเป็นผู้ที่นำพาเอาลูกแก้วสี่วิญญาณกลับมายังยุคสงครามเรื่องวุ่นวายมากมายจึงเริ่มมาจากเธอ ถ้าตอนนั้นเราไม่เข้ามาวุ่นวายกับบ่อกินกระดูกทุกอย่างคงไม่เกิดขึ้นความรู้สึกผิดที่ไม่ว่าจะผ่านมากี่ปีก็ไม่สามารถทิ้งมันไปได้ ใบหน้าที่งดงามฉายแววความเศร้าทุกครั้งที่เธอคิดถึงเรื่องอดีตเพราะถึงแม้เหตุการณ์เหล่านั้นจะผ่านไปแล้วแต่ความรู้สึกเหล่านั้นยังตราตรึงอยู่ภายในจิตใจ เปลวไฟของสงคราม ความชั่วร้ายของปีศาจ ความสูญเสีย ทุกอย่างยังไม่เลื่อนรางไป และยังคงเฝ้าภาวนาว่าเรื่องราวนั้นจะไม่กลับมาอีกเป็นครั้งที่สอง ร่างบางของคาโงเมะหญิงสาวที่มาจากยุคอนาคตยืนเหม่อมองออกไปยังพื้นป่าที่มีเรื่องราวมากมายซุกซ่อนอยู่จนตัวเองเผลอทำจานที่ถืออยู่หลุดมือ

    เพล้ง!!

    อ๊ะ!!  แย่จัง”  คาโงเมะหลุดออกจากภวังค์ในอดีตพร้อมต่อว่าตนเองที่ทำจานล่นพื้นจนเกิดเสียงดัง ต้องรีบเก็บเพราะถ้าเผลอใครเข้ามาเหยียบเข้าล่ะก็

    เฮ้! เจ้าไม่เป็นไรนะ ครึ่งอสูรหนุ่มในชุดกิมิโนสีแดงสดถามหลังจากเฝ้ามองเหตุการณ์มาสักพักเขามองเห็นความกังวลใจภายในจิตใจของเธอ เธอผู้เป็นที่รัก..

    ไม่หรอกฉันแค่ทำมันหลุดมือเฉยๆนะ ว่าแต่อินุยาฉะเข้ามาในครัวจะเอาอะไรหรอ คาโงเมะเปลี่ยนเรื่องคุยเพราะไม่อยากให้อินุยาฉะต้องกังวลใจ ถึงแม้จะรู้ว่าไม่มีวันเก็บความกังวลเหล่านั้นได้ตลอดก็ตาม ตั้งแต่เธอเลือกที่จะอยู่ที่นี่ เลือกที่จะทิ้งครอบครัวคุณแม่ คุณปู่และโซตะ ถึงแม้จะรู้สึกคิดถึงและรู้สึกผิดอยู่ก็ตามแต่ฉันก็ไม่ควรที่จะทำให้อินุยาฉะต้องลำบากใจจะว่าไปการใช้ชีวิตคู่นี่ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย

    เจ้าน่ะ คิดถึงโลกทางฝั่งโน้นสินะ หลังจากเงียบไปนานอินุยาฉะก็พูดขึ้น เขามองเห็นแววตาที่เศร้าสร้อยของคนตรงหน้าพรางโทษตัวเองที่ทำให้เธอมีความสุขไม่ได้มากพอ

    นี่!ฉันบอกแล้วไงว่าไม่ใช่เรื่องนั้น

    ก็แล้วมันเรื่องอะไรล่ะ! เจ้าไม่ยอมบอกข้าแล้วเมื่อไรข้าจะเข้าใจสักที ใช่ว่าชีวิตคู่ทุกคู่จะไม่มีการทะเลาะเบาะแวง แน่นอนว่าเขากับคาโงแมะก็เช่นกัน การกลับของคาโงแมะหลังจากหายไปในความมืดมิดถึงสองวัน หลังจากที่พาคาโงเมะกลับไปจนกระทั่งเธอเดินทางกลับมาและเลือกที่จะใช้ชีวิตกับเขาที่นี่ ไม่ใช่ว่าเขาไม่ดีใจตรงกันข้ามเขาดีใจมาก แต่เมื่อต้องมาคิดถึงคนอื่นที่คาโงเมะต้องจากมาเขาเองก็รู้สึกผิด ทั้งแม่ทั้งปู่และน้องชาย ถึงแม้คาโงแมะจะพูดด้วยรอยยิ้มว่าไม่เป็นไรก็ตามแต่เขาก็ไม่อาจลืมภาพวันนั้นได้เลย หลังจากที่คาโงแมะหายไปในความมืดถึงสองวันพอเขาไปช่วยและพากลับไปส่งที่บ้านทุกคนร้องไห้กันยกใหญ่ครั้งนั้นเป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกได้ว่าไม่ใช่เขาคนเดียวที่ต้องการคาโงแมะ ฉันน่ะเลือกแล้วว่าจะอยู่ที่นี่กับอินุยาฉะ คำพูดนั้นไม่เคยลืมมันเลย ทั้งความรู้สึกที่มี และความสุขก็เช่นกัน

    ก็เรื่องเดิมๆนั้นเหละ ฉันน่ะ

    ช่างเถอะ เจ้าน่ะอย่าคิดมากเลย อินุยาฉะพูดปัดเพราะเขารู้ดีว่าสิ่งที่คาโงเมะจะพูดคือเรื่องอะไร เธอคิดถึงโลกทางฝั่งโน้นก็จริงแต่ใช่ว่าเธอต้องการจะกลับไป นั้นคือสิ่งที่เธอจะตอบ เขาเคยไปปรึกษากับนักบวชมิราคุแล้วแต่คำตอบนั้นกลับเป็นเรื่องที่ยากลำบากมากสำหรับเขา ให้ท่านคาโงเมะคลอดลูกให้เจ้าซะสิ ใบหน้าแดงระเรื่อขึ้นทันทีที่นึกถึงเรื่องราวพวกนั้น เจ้าบ้ามิราคุ

    คาโงเมะ..

    เสียงเจื้อแจ้วดังไปทั่วบริเวณที่พักอาศัย เด็กจากในหมู่บ้านมากมายต่างวิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนานใบหน้าของเด็กๆ เต็มไปด้วยรอยยิ้ม รอยยิ้มที่บริสุทธ์.. จนบ้างครั้งความบริสุทธ์เหล่านั้นก็แสนจะน่ากลัว

    ท่านคาโงเมะเสียงนักบวชหนุ่มดังกังวานขึ้นทำให้คาโงเมะต้องล่ะสายตาจากภาพตรงหน้าไม่บ่อยนักที่นักบวชหนุ่มจะมานั่งคุยกับคาโงเมะตามลำพัง

    ท่านนักบวช?

    เด็กๆเหล่านี้ส่วนใหญ่ก็เป็นเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันกับลูกข้าทั้งนั้น พวกพ่อแม่ของเด็กๆ ก็เลยไหว้วานให้ซังโกะช่วยเลี้ยงดูและสอนหนังสือให้ แถวๆนี้เลยไม่เงียบเหงาเลยท่านนักบวชหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบและมองตรงไปยังเด็กๆที่วิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน ถึงแม้ท่านนักบวชจะดูลามกและพูดเพ้อเจ้อไปบ้างแต่จากการเดินทางและร่วมต่อสู้กันมาคาโงเมะรู้ดีว่านั้นเป็นเพียงฉากหน้าเพียงเท่านั้น

    ผิดกับแถวบ้านของฉันกับอินุยาฉะ ที่นั้นเงียบสงบจนเกินไปด้วยซ้ำตั้งแต่คุณยายคาเอเดะตายไป รินก็แยกตัวออกไปอยู่เพียงลำพัง ที่บ้านก็เงียบเหงามีเพียงอินุยาฉะกับคาโงเมะอยู่กันตามลำพัง ถึงแม้จะมั่นใจได้ว่าจะไม่มีอันตรายใดๆก็ตาม แต่สำหรับเธอแล้วนั้นคือสิ่งที่ทำให้เธอต้องรู้สึกอ้างวาง เธอรู้ดีว่าเพื่อนๆของเธอที่เคยร่วมเดินทางกันมาต่างก็แยกย้ายและมีเส้นทางเป็นของตัวเอง แต่สำหรับคาโงเมะนั้นเธอกลับยังไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้ในหลายๆเรื่อง

    ท่านกำลังกังวลหรือกลัวอะไรอยู่ท่านคาโงเมะท่านนักบวชหนุ่มถามด้วยเสียงเรียบเฉยแต่คำถามนั้นกลับทำให้คาโงเมะรู้สึกสั่นไหว เธอกำลังกลัวนั้นคือความจริงการใช้ชีวิตคู่ให้ผ่านไปตลอดรอดฝั่งคิดว่ายากแล้วแต่การใช้ชีวิตคู่กับครึ่งอสูรนั้นยากยิ่งกว่า    “ที่ท่านไม่ยอมมีลูกกับอินุยาฉะเป็นเพราะท่านกลัวใช่ไหม?” 

    “………………………….!!!!”

    ความกลัวคือสิ่งที่ท่านสร้างมันขึ้นมาเอง สิ่งนั้นมันจะรบกวนจิตใจของท่าน มันจะทำให้ท่านไม่มีความสุขกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า     สิ่งตรงหน้างั้นหรอ? นั้นแหละคือสิ่งที่ฉันกลัวมากที่สุด

    ความรู้สึกของท่าน ท่านสร้างมันขึ้นมาเองได้ ข้าก็เชื่อว่าท่านจะลบมันได้เช่นกัน ครั้งแรกยอมน่ากลัวเสมอ ขนาดซังโกะเองยังกลัวเลย แต่ดูตอนนี้สิ555 นางมีความสุขที่ได้คลอดลูกให้ข้าจะตายไป

    เดียวนะ นี้ฉันกับท่านนักบวชไม่ได้คุยเรื่องเดียวกับหรอกหรอ คาโงเมะหันไปมองหน้าท่านนักบวชและปฎิเสธทันที

    เอออ คือไม่ใช่อย่างที่ท่านนักบวชคิดนะ

    ไม่เป็นไรๆ ยังไงข้าก็เอาใจช่วยล่ะกัน ถึงแม้จะรู้ดีว่าอินุยาฉะมันไม่ค่อยได้เรื่องก็เถอะนะ555” คาโงเมะหน้าแดงขึ้นทันทีเมื่อรู้ความหมายของท่านนักบวช

    แต่ถึงยังไงก็เถอะไม่ว่าท่านจะกังวลอะไรก็ตามสิ่งเดียวเลยที่ท่านไม่ต้องกังวลนั้นคือความรักที่อินุยาฉะมอบให้กับท่านนักบวชหนุ่มพูดเพียงเท่านั้นและลุกเดินจากไปเหลือทิ้งไว้เพียงคำถามมากมายในหัวของคาโงเมะและเสียงเจื้อแจ้วของเด็กๆที่ยังคงวิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×