คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : 1
ความรู้สึกจากส่วนลึก……
ความมืดมิดในยามค่ำคืนถูกขับไล่ด้วยแสงสว่างของดวงจันทรา
ที่ค่ำคืนนี้ดูจะส่องสว่างมากกว่าคืนไหนๆ ร่างสูงของอสูรหนุ่มเดินตรงไปยังระเบียงกว้างที่สามารถมองเห็นดวงจันทราได้อย่างชัดเจน
‘ยิ่งส่องสว่างมากเท่าไรดาวรอบข้างยิ่งดับแสงมากเท่านั้น’ ภายในห่วงความคิดไม่มีผู้ใดสามารถหยั่งถึง ทุกความรู้สึกถูกปิดบังซ่อนเร้นภายใต้ใบหน้าที่เรียบเฉยเพราะสำหรับเขาผู้เป็นจักรวรรดิที่ยืนอยู่เหนืออสูรทั้งหลายย่อมไม่สมควรที่จะแสดงด้านที่อ่อนแอออกมาให้ผู้ใดเห็น
แต่ถึงกระนั้นทุกสิ่งที่มีชีวิตล้วนแล้วแต่มีความรู้สึกและจิตใจ ช่างน่าสังเวชหนัก
อสูรหนุ่มสยบให้ความอ่อนแอเพียงจุดเดียวของเขา
ดวงตาสีอำพันจ้องมองไปยังดวงจันทราที่กลมโตมันสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนจากระเบียงห้องโถงที่เปรียบเสมือนพื้นที่ส่วนตัวของเขา
เรือนผมสีเงินเปล่งประกายเมื่อกระทบกับแสงของจันทรา อาวุธข้างกายยังคงประดับอยู่ที่ข้างลำตัวจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย
เพราะสำหรับอสูรหนุ่มการได้กลายเป็นอสูรผู้ยิ่งใหญ่ที่เหนือกว่าพ่อของตนเองคือสิ่งที่เขาปรารถนา
‘เจ้ามีสิ่งใดที่ต้องปกป้อง’
ถึงแม้จะผ่านมาหลายร้อยปีแต่คำพูดนั้นกลายเป็นคำถามที่หลอกหลอนเขาไม่จบสิ้นทุกครั้งที่เขานึกถึงท่านพ่อ
ทุกครั้งที่เขาต้องการจะก้าวข้าม ‘หึ! ข้าเสตโชมารูผู้นี้ไม่มีสิ่งใดต้องปกป้อง’
สายลมยามค่ำคืนของฤดูหนาวพัดพาเอาความเย็นเข้าปะทะกับร่างบาง
ริมฝีปากที่ขาวซีดเป็นสิ่งหนึ่งที่ยืนยันได้ดีว่าเธอนั้นยืนตากลมมาเนินนาน ผมดำสลวยพลิ้วไหวไปกับสายลม
“ดวงจันทร์วันนี้สวยเป็นพิเศษ” เสียงหวานเอ่ยออกมาเพื่อทำลายความเงียบพร้อมกับรอยยิ้มที่มุมปากใบหน้าที่งดงามราวกับเทพธิดาจ้องมองไปที่ดวงจันทร์ด้วยความเศร้า
เพียงเพราะคิดว่าใครคนนั้นจะมองไปยังดวงจันทร์เช่นเดียวกับที่เธอกำลังทำ 'ได้มองไปยังจุดๆเดียวกันเพียงเท่านั้น' ร่างบางย้ำเตือนกับตัวเองและหวังว่าความรู้สึกเหล่านี้เขาผู้นั้นจะสามารถสัมผัสมันได้
ความรู้สึกที่เธอเองก็ไม่เข้าใจ
หมู่บ้านคาเอเดะ
หลังจากเรื่องวุ่นวายของลูกแก้วสี่วิญญาณและนาราคุสิ้นสุดลงทุกอย่างก็สงบสุขเสียจนคาโงเมะกังวลใจ
ครั้งหนึ่งยุคสมัยนี้เคยสงบสุขแต่แล้วผู้คนมากมายต้องเดือดร้อนเพราะความโลภและเห็นแก่ตัวของนาราคุ
จะว่าไปก็ไม่ใช่เพราะนาราคุเพียงคนเดียว เพราะเธอเป็นผู้ที่นำพาเอาลูกแก้วสี่วิญญาณกลับมายังยุคสงครามเรื่องวุ่นวายมากมายจึงเริ่มมาจากเธอ
‘ถ้าตอนนั้นเราไม่เข้ามาวุ่นวายกับบ่อกินกระดูกทุกอย่างคงไม่เกิดขึ้น’
ความรู้สึกผิดที่ไม่ว่าจะผ่านมากี่ปีก็ไม่สามารถทิ้งมันไปได้
ใบหน้าที่งดงามฉายแววความเศร้าทุกครั้งที่เธอคิดถึงเรื่องอดีตเพราะถึงแม้เหตุการณ์เหล่านั้นจะผ่านไปแล้วแต่ความรู้สึกเหล่านั้นยังตราตรึงอยู่ภายในจิตใจ
เปลวไฟของสงคราม ความชั่วร้ายของปีศาจ ความสูญเสีย ทุกอย่างยังไม่เลื่อนรางไป และยังคงเฝ้าภาวนาว่าเรื่องราวนั้นจะไม่กลับมาอีกเป็นครั้งที่สอง
ร่างบางของคาโงเมะหญิงสาวที่มาจากยุคอนาคตยืนเหม่อมองออกไปยังพื้นป่าที่มีเรื่องราวมากมายซุกซ่อนอยู่จนตัวเองเผลอทำจานที่ถืออยู่หลุดมือ
เพล้ง!!
“อ๊ะ!! แย่จัง” คาโงเมะหลุดออกจากภวังค์ในอดีตพร้อมต่อว่าตนเองที่ทำจานล่นพื้นจนเกิดเสียงดัง
‘ต้องรีบเก็บเพราะถ้าเผลอใครเข้ามาเหยียบเข้าล่ะก็’
“เฮ้! เจ้าไม่เป็นไรนะ”
ครึ่งอสูรหนุ่มในชุดกิมิโนสีแดงสดถามหลังจากเฝ้ามองเหตุการณ์มาสักพักเขามองเห็นความกังวลใจภายในจิตใจของเธอ
เธอผู้เป็นที่รัก..
“ไม่หรอกฉันแค่ทำมันหลุดมือเฉยๆนะ
ว่าแต่อินุยาฉะเข้ามาในครัวจะเอาอะไรหรอ”
คาโงเมะเปลี่ยนเรื่องคุยเพราะไม่อยากให้อินุยาฉะต้องกังวลใจ ถึงแม้จะรู้ว่าไม่มีวันเก็บความกังวลเหล่านั้นได้ตลอดก็ตาม
ตั้งแต่เธอเลือกที่จะอยู่ที่นี่ เลือกที่จะทิ้งครอบครัวคุณแม่ คุณปู่และโซตะ
ถึงแม้จะรู้สึกคิดถึงและรู้สึกผิดอยู่ก็ตามแต่ฉันก็ไม่ควรที่จะทำให้อินุยาฉะต้องลำบากใจจะว่าไปการใช้ชีวิตคู่นี่ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย
“เจ้าน่ะ คิดถึงโลกทางฝั่งโน้นสินะ” หลังจากเงียบไปนานอินุยาฉะก็พูดขึ้น
เขามองเห็นแววตาที่เศร้าสร้อยของคนตรงหน้าพรางโทษตัวเองที่ทำให้เธอมีความสุขไม่ได้มากพอ
“นี่!ฉันบอกแล้วไงว่าไม่ใช่เรื่องนั้น”
“ก็แล้วมันเรื่องอะไรล่ะ!
เจ้าไม่ยอมบอกข้าแล้วเมื่อไรข้าจะเข้าใจสักที” ใช่ว่าชีวิตคู่ทุกคู่จะไม่มีการทะเลาะเบาะแวง
แน่นอนว่าเขากับคาโงแมะก็เช่นกัน
การกลับของคาโงแมะหลังจากหายไปในความมืดมิดถึงสองวัน
หลังจากที่พาคาโงเมะกลับไปจนกระทั่งเธอเดินทางกลับมาและเลือกที่จะใช้ชีวิตกับเขาที่นี่
ไม่ใช่ว่าเขาไม่ดีใจตรงกันข้ามเขาดีใจมาก แต่เมื่อต้องมาคิดถึงคนอื่นที่คาโงเมะต้องจากมาเขาเองก็รู้สึกผิด
ทั้งแม่ทั้งปู่และน้องชาย
ถึงแม้คาโงแมะจะพูดด้วยรอยยิ้มว่าไม่เป็นไรก็ตามแต่เขาก็ไม่อาจลืมภาพวันนั้นได้เลย
หลังจากที่คาโงแมะหายไปในความมืดถึงสองวันพอเขาไปช่วยและพากลับไปส่งที่บ้านทุกคนร้องไห้กันยกใหญ่ครั้งนั้นเป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกได้ว่าไม่ใช่เขาคนเดียวที่ต้องการคาโงแมะ
‘ฉันน่ะเลือกแล้วว่าจะอยู่ที่นี่กับอินุยาฉะ’ คำพูดนั้นไม่เคยลืมมันเลย ทั้งความรู้สึกที่มี และความสุขก็เช่นกัน
“ก็เรื่องเดิมๆนั้นเหละ ฉันน่ะ”
“ช่างเถอะ เจ้าน่ะอย่าคิดมากเลย”
อินุยาฉะพูดปัดเพราะเขารู้ดีว่าสิ่งที่คาโงเมะจะพูดคือเรื่องอะไร
เธอคิดถึงโลกทางฝั่งโน้นก็จริงแต่ใช่ว่าเธอต้องการจะกลับไป นั้นคือสิ่งที่เธอจะตอบ
เขาเคยไปปรึกษากับนักบวชมิราคุแล้วแต่คำตอบนั้นกลับเป็นเรื่องที่ยากลำบากมากสำหรับเขา
‘ให้ท่านคาโงเมะคลอดลูกให้เจ้าซะสิ’ ใบหน้าแดงระเรื่อขึ้นทันทีที่นึกถึงเรื่องราวพวกนั้น
’เจ้าบ้ามิราคุ’
คาโงเมะ..
เสียงเจื้อแจ้วดังไปทั่วบริเวณที่พักอาศัย
เด็กจากในหมู่บ้านมากมายต่างวิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนานใบหน้าของเด็กๆ
เต็มไปด้วยรอยยิ้ม รอยยิ้มที่บริสุทธ์.. จนบ้างครั้งความบริสุทธ์เหล่านั้นก็แสนจะน่ากลัว
“ท่านคาโงเมะ” เสียงนักบวชหนุ่มดังกังวานขึ้นทำให้คาโงเมะต้องล่ะสายตาจากภาพตรงหน้าไม่บ่อยนักที่นักบวชหนุ่มจะมานั่งคุยกับคาโงเมะตามลำพัง
“ท่านนักบวช?”
“เด็กๆเหล่านี้ส่วนใหญ่ก็เป็นเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันกับลูกข้าทั้งนั้น
พวกพ่อแม่ของเด็กๆ ก็เลยไหว้วานให้ซังโกะช่วยเลี้ยงดูและสอนหนังสือให้ แถวๆนี้เลยไม่เงียบเหงาเลย”
ท่านนักบวชหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบและมองตรงไปยังเด็กๆที่วิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน
ถึงแม้ท่านนักบวชจะดูลามกและพูดเพ้อเจ้อไปบ้างแต่จากการเดินทางและร่วมต่อสู้กันมาคาโงเมะรู้ดีว่านั้นเป็นเพียงฉากหน้าเพียงเท่านั้น
“ผิดกับแถวบ้านของฉันกับอินุยาฉะ
ที่นั้นเงียบสงบจนเกินไปด้วยซ้ำ” ตั้งแต่คุณยายคาเอเดะตายไป
รินก็แยกตัวออกไปอยู่เพียงลำพัง ที่บ้านก็เงียบเหงามีเพียงอินุยาฉะกับคาโงเมะอยู่กันตามลำพัง
ถึงแม้จะมั่นใจได้ว่าจะไม่มีอันตรายใดๆก็ตาม แต่สำหรับเธอแล้วนั้นคือสิ่งที่ทำให้เธอต้องรู้สึกอ้างวาง
เธอรู้ดีว่าเพื่อนๆของเธอที่เคยร่วมเดินทางกันมาต่างก็แยกย้ายและมีเส้นทางเป็นของตัวเอง
แต่สำหรับคาโงเมะนั้นเธอกลับยังไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้ในหลายๆเรื่อง
“ท่านกำลังกังวลหรือกลัวอะไรอยู่ท่านคาโงเมะ” ท่านนักบวชหนุ่มถามด้วยเสียงเรียบเฉยแต่คำถามนั้นกลับทำให้คาโงเมะรู้สึกสั่นไหว
เธอกำลังกลัวนั้นคือความจริงการใช้ชีวิตคู่ให้ผ่านไปตลอดรอดฝั่งคิดว่ายากแล้วแต่การใช้ชีวิตคู่กับครึ่งอสูรนั้นยากยิ่งกว่า “ที่ท่านไม่ยอมมีลูกกับอินุยาฉะเป็นเพราะท่านกลัวใช่ไหม?”
“………………………….!!!!”
“ความกลัวคือสิ่งที่ท่านสร้างมันขึ้นมาเอง
สิ่งนั้นมันจะรบกวนจิตใจของท่าน มันจะทำให้ท่านไม่มีความสุขกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า” สิ่งตรงหน้างั้นหรอ? นั้นแหละคือสิ่งที่ฉันกลัวมากที่สุด
“ความรู้สึกของท่าน ท่านสร้างมันขึ้นมาเองได้
ข้าก็เชื่อว่าท่านจะลบมันได้เช่นกัน ครั้งแรกยอมน่ากลัวเสมอ ขนาดซังโกะเองยังกลัวเลย
แต่ดูตอนนี้สิ555 นางมีความสุขที่ได้คลอดลูกให้ข้าจะตายไป”
เดียวนะ นี้ฉันกับท่านนักบวชไม่ได้คุยเรื่องเดียวกับหรอกหรอ
คาโงเมะหันไปมองหน้าท่านนักบวชและปฎิเสธทันที
“เอออ คือไม่ใช่อย่างที่ท่านนักบวชคิดนะ”
“ไม่เป็นไรๆ ยังไงข้าก็เอาใจช่วยล่ะกัน ถึงแม้จะรู้ดีว่าอินุยาฉะมันไม่ค่อยได้เรื่องก็เถอะนะ555” คาโงเมะหน้าแดงขึ้นทันทีเมื่อรู้ความหมายของท่านนักบวช
“แต่ถึงยังไงก็เถอะไม่ว่าท่านจะกังวลอะไรก็ตามสิ่งเดียวเลยที่ท่านไม่ต้องกังวลนั้นคือความรักที่อินุยาฉะมอบให้กับท่าน”
นักบวชหนุ่มพูดเพียงเท่านั้นและลุกเดินจากไปเหลือทิ้งไว้เพียงคำถามมากมายในหัวของคาโงเมะและเสียงเจื้อแจ้วของเด็กๆที่ยังคงวิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน
ความคิดเห็น