คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : i still choose to love you
“เพราะทุกครั้งที่พระอาทิตย์ขึ้น นั่นแปลว่าเราได้เกิดใหม่แล้ว จงใช้ชีวิตอย่างมีความสุขตามความหวังของตัวเอง เติบโตด้วยความสุข และร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด”
เป็นอีกช่วงเวลาที่เจ้าของห้องยังคงหมกตัวอยู่ภายในห้องนอนของตัวเองเนื่องด้วยงานแปลที่เธอรับมาเริ่มล้นมือจนผู้จัดการที่เข้ามาดูแลเธอต้องทำการแบ่งเบางานแปลในช่วงนี้ออกไปก่อน อีกทั้งยังต้องรับสภาพอารมณ์ของเจ้าของห้องอีกด้วย ดูเหมือนในช่วงสองสามวันมานี้เธอดูสึกว่างานที่เธอแปลออกมาไม่ได้รู้สึกหรือเห็นภาพภายในจินตนาการขนาดนั้น
‘ตะวัน’ เดินออกมาจากห้องน้ำหลังจากที่พาตัวเองเข้าไปล้างหน้าเพื่อให้ยามสายของวันนี้รู้สึกสดชื่นขึ้นมา หากเพียงแต่ว่าห้องที่ตอนนี้จะมีเธอเพียงอยู่แค่คนเดียวกับมีแขกไม่ได้รับเชิญอยู่ภายในห้องด้วยคงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากผู้จัดการส่วนตัวของเธอเอง
“มาตั้งแต่เมื่อไร” เธอเอ่ยถามออกมาก่อนจะเดินตรงไปยังบริเวณตู้เย็นก่อนที่จะเอาน้ำขึ้นมาดื่ม
“สักพัก” ‘ภูเขา’ หรือพูดง่ายๆ เลยเพื่อนสนิทในกลุ่มของเธอเองที่ภูเขาเข้ามารับงานเป็นผู้จัดการของเธอเพราะยังคงเป็นห่วงเพื่อนคนนี้เสมอ อาจเป็นเพราะว่าตะวันต้องเข้าโรงพยาบาลเกือบทุกเดือนเนื่องด้วยภาวะโลหิตจางและโรคนอนไม่หลับจนต้องพึ่งยาเกินขนาดที่ร่างกายจะรับไหว
ตะวันจำไม่ได้แล้วว่าตัวเองต้องกินยามากขนาดนี้มานานเท่าไร ไม่รู้สาเหตุว่าเป็นเพราะอะไร จำแทบอะไรไม่ได้เลยหลังจากพื้นที่โรงพยาบาลเมื่อ 5 ปีก่อน
เธอเดินไปนั่งที่โซฟาภายในห้องรับแขกโดยภูเขาก็นั่งตามลงมาพร้อมกับข้าวเช้าที่ซื้อเข้ามาเขารู้ว่าตะวันยังไม่ได้กินข้าวทั้งยังไม่ได้นอนอีกแน่ ๆ
“ได้อะไรมามั้ง” เธอถามพร้อมกับยื่นมือไปดูก่อนที่จะเบะปากใส่ภูเขา “อะไรอะโจ๊กอีกแหละกินจนหน้าจะเป็นโจ๊กอยู่แล้วภูเขา”
“ก็โทรมาแล้วไม่รับเอง กินๆ ไปเหอะ” ภูเขาว่าพลางก่อนจะลุกเดินไปยังโซนห้องครัวเพื่อไปหยิบชามมาใส่โจ๊กให้เพื่อนเธอกินโดยเจ้าตัวก็ยังทำหน้าบอกบุญไม่รับอยู่
“กินเสร็จแล้วจะพาไปหาของหวานกิน”
“พูดแล้วนะ”
“เออเพิ่งไปเจอคาเฟ่เปิดใหม่มาเดี๋ยวพาไปเพราะกูรู้ว่ามึงแปลไม่ได้แล้วฝืนแปลไป มึงได้เข้าโรงบาลอีกแน่”
“ภูเขามึงเวอร์ไม่ขนาดนั้น”
“ไม่ขนาดนั้นอะไรอาทิตย์ที่แล้วมึงฝืนทำงานจนต้องไปให้น้ำเกลือที่โรงบาลตั้งสองคืน มึงเอาไรมาพูดว่าไม่เวอร์”
ยอมรับก็ได้ว่าเป็นพวกที่ชอบฝืนทำงานให้เสร็จในเวลาสมองกำลังแล่น ก็ให้ทำยังไงละนิสัยนี้แก้ยังไงก็แก้ไม่หายสักที
ภูเขาเดินกลับมาพร้อมกับชามในมืออีกสองใบก่อนที่จะลงไปนั่งที่พื้นโดยที่ไม่ถามเจ้าของห้องเลยสักนิด ภูเขาเทโจ๊กใส่ถ้วยก่อนที่จะดันถ้วยไปหาตะวันที่ตอนนี้ลงมานั่งข้างล่างเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถ้าจะถามว่าทำไมถึงไม่ไปกินที่ห้องครัวกันคงเป็นเพราะความขี้เกียจเป็นหลักเลยก็ว่าได้
ใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่นาทีในการจัดการโจ๊กตรงหน้าเสร็จ ตอนแรกตะวันบอกจะเป็นคนจัดการล้างชามเองแต่ก็โดนผู้จัดการหยิบไปล้างพร้อมกับไล่เธอไปอาบน้ำเพื่อที่จะได้ไปคาเฟ่ตามเวลาที่นัดหมายไว้กับ ‘สกาย’ และ ‘นีโม’ เพื่อนของเธออีกสองคน
ในยามนี้ทั้งภูเขาและตะวันย้ายตัวเองลงมาจากคอนโดก่อนที่จะพาร่างของตัวเองขึ้นรถของผู้จัดการของเธอในทันทีโดยที่ไม่ลืมเอกสารและโน๊ตบุ๊คที่เธอไม่เคยลืมพกหรือห่างออกจากตัวเลยแม้แต่น้อยให้ทำไงได้ในเมื่อมันชินไปแล้วสำหรับนักแปลอิสระอย่างเธอ
ทั้งสองใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงในการขับรถมายังสถานที่ที่เธอนัดเพื่อนสนิทอีกสองคนไว้
“ไม่ลืมอะไรใช่ป่ะ” ภูเขาเอ่ยถามก่อนจะมองไปยังตะวันที่ตอนนี้กำลังย้ายตัวเองออกจากตัวรถโดยไม่ลืมหยิบของสำคัญลงไปด้วย
“ไม่ลืมๆ แกรีบลงเหอะเดี๋ยวสกายกับนีโมตีกันตายก่อน”
“มึงลงไปก่อนเดี๋ยวกูลงตามไป”
เมื่อได้ยินดังนั้นตะวันย้ายร่างของตัวเองออกมานอกรถก่อนที่จะเดินตรงไปยังคาเฟ่ คาเฟ่นี้รู้สึกว่าจะตั้งอยู่ใกล้ๆ กับมหาลัยของเธออีกทั้งสถานที่ยังถูกตกแต่งไปตามโทนสีขาวสบายตาพร้อมทั้งยังมีการตกแต่งตามเทศกาลอีกต่างหาก ตะวันซึมซับความรู้สึกนี้ไว้และหวังว่าความรู้สึกนี้จะส่งผลไปยังงานแปลของเธอ
“Little My ยินดีต้อนรับครับ” พนักงานต้อนรับเอ่ยกล่าวทักทายทันทีหลังเห็นเธอเดินเข้ามายังภายในร้าน เธอก้มหัวเล็กน้อยเป็นเพราะไม่ค่อยชินกับการก้าวต้อนรับแบบนี้ เธอมองไปหากลุ่มเพื่อนของเธอที่ตอนนี้ไม่รู้ว่าไปนั่งอยู่โซนในของร้าน
“ไม่ทราบว่าลูกค้ามองหาอะไรอยู่เหรอครับ?” พนักงานต้อนรับเอ่ยกับเธออีกครั้ง
“คือ-” แต่ก่อนที่เธอจะเอ่ยอะไรออกมาเพื่อนตัวดีของเธอก็เดินเข้ามาหาโดยทันที
“กว่าจะมาได้นะตะวัน” ‘นีโม’ ถามกับเธอเพราะที่จริงแล้วทั้งนีโมกะสกายเห็นเธอมาตั้งแต่เดินเข้ามาภายในร้านแล้วอีกทั้งท่าทางที่มองพนักงานเขาจนตาแป๋วอะโคตรน่ารักเลย
“ถึงสักพักแล้วน่าแล้ววนี้เห็นอยู่แล้วไม่ใช่เหรอว่าเข้ามาตั้งนานแล้วอะ” เธอพองลมออกมาตอนที่นีโมลากพาเธอขึ้นมายังชั้นสองของร้านโดยที่สกายยังคงนั่งคอยอยู่ที่โต๊ะ
“อ้าวแล้วไอ้ภูเขาอะ” สกายเอ่ยถามหลังจากที่ไม่เห็นเพื่อนตัวดีอีกคนของเขา
“คงเดินตามมาอยู่มั้ง แล้วสั่งอะไรไปมั้งเนี่ย” ตะวันเอ่ยถามก่อนจะมองไปยังโต๊ะที่ตอนนี้มีเพียงแค่เครื่องดื่มของโปรดเธอเท่านั้น ตะวันมองไปยังสกายทันที “ทำไมมีแต่เครื่องดื่มอ่ะเราอยากกินเค้กด้วย”
ตะวันพลางว่าพร้อมกับกอดอกมองคนตรงหน้าไปด้วยก็รู้นี้น่าว่าเธอเองก็ต้องการของหวานลงท้องเหมือนกัน
“ก็รอมึงเสด็จมาไง ของหวานมีเยอะมากมึงต้องชอบมากแน่ๆ แต่ก่อนอื่นมึงควรวางกระเป๋ามึงก่อนเลยเดี๋ยวพาลงไปเลือกเค้ก”
สกายบ่นทันทีเพราะเขารู้ว่าเพื่อนตัวดีของเขาชอบเค้กมากแค่ไหนถึงขนาดที่บางทีตู้เย็นในห้องของเธอเต็มไปด้วยขนมเค้กเยอะกว่าของสดภายในตู้อีกเห็นบอกแฟนคลับเอามาให้หรือที่ทั้งทำเองเพื่อไปแจกแฟนคลับด้วย
ตะวันวางกระเป๋าลงก่อนที่จะลงไปเลือกเค้กพร้อมสกายโดยเดินสวนกับภูเขาที่รายนั้นสั่งเค้กของเจ้าตัวพร้อมทั้งเพื่อนตัวดีไปอีกชิ้น แต่เจ้าตัวยังคงอ้างว่าของแค่นั้นไม่ถึงครึ่งกระเพาะเลยด้วยซ้ำ
ตอนนี้เธอมาหยุดอยู่ที่หน้าตู้เค้กของร้านโดยมีให้เลือกอย่างหลากหลายจนเธอเองเห็นแล้วต้องลอบกลืนน้ำลายเลยทันที น่ากินไปหมดแถมยังเลือกไม่ถูกอีกต่างหาก
“เป็นไงบอกแล้วไม่เชื่อโคตรเยอะ”
“จริงเยอะมากเอาไงดีอะอยากกินทั้งหมดเลย” เธอว่าพลางโดยตายังมองไปยังตู้เค้กโดยไม่วางตา “รู้ละ”
เธอเดินไปยังหน้าแคชเชียร์โดยที่สกายยังเดินตามหลังไปด้วยและถ้าเดาไม่ผิดเจ้าตัวแสบของกลุ่มต้องสั่งมาเกือบทั้งหมดแน่ๆ
“เค้กที่อยู่ในตู้เราเอาทั้งหมดอย่างละชิ้นค่ะ” เธอชี้ไปยังตู้เค้กที่เป็นแหล่งเป้าหมายของเธอ
“ทั้งหมดเลยนะครับคุณลูกค้าไม่ทราบว่าจะทานที่ร้านหรือรับกลับบ้านดีครับ?” พนักงานที่แคชเชียร์เอ่ยถามเธอ
“อืม เราเปลี่ยนใจทานที่ร้านอย่างละชิ้นแล้วก็รับกลับบ้านอย่างล่ะชิ้นด้วย” เธอพูดด้วยใบหน้ายิ้มแย้มก่อนจะหันไปยังสกายที่ตอนนี้ทำหน้าบอกบุญไม่รับอยู่ถ้าภูเขารู้มีหวังเขาคงโดนแน่ๆ
“โอเคครับ ทานที่ร้านไม่ทราบว่าให้ขึ้นไปเสริฟ์ที่ชั้นไหนของร้านดีครับ?”
“เอาขึ้นไปเสริฟ์ที่ชั้นสองเลยครับ อ่อเพิ่มอเมริกาโนเย็นอีกหนึ่งแก้วด้วยครับ”
“แกสั่งให้ใครอะ”
“ของแกไงจะทำงานด้วยไม่ใช่อ่อ” สกายว่าก่อนที่จะเจอสายตาที่คุ้นเคยที่มองมายังเขาและตะวัน เป็นไปไม่ได้น่าหมอนั้นจะมาทำงานอยู่ที่นี่เหรอไม่เจอกันเลยตั้งแต่เรื่องครั้งนั้นเลยนะ
“สกายเป็นอะไรเราจ่ายเงินเสร็จแล้วเดี๋ยวเขาเอาขึ้นไปให้ส่วนตัวกลับบ้านเขาบอกจะเก็บไว้หลังจากพวกเราลงมา” ตะวันว่าพลางโบกมือไปมาอยู่ตรงหน้าของสกาย
“เออปะขึ้นเหอะเราแค่เหม่อนิดหน่อยนะ”
พูดจบทั้งเขาและตะวันก็เดินขึ้นไปยังชั้นสองของร้านทันทีโดยไม่รู้ว่าการกระทำทั้งหมดยังคงอยู่ในสายตาของเขาคนนั้น ตุลาเห็นตะวันตั้งแต่เดินเข้ามาในร้านก่อนที่จะเดินลงมาสั่งเค้กและเดินขึ้นไปยังชั้นสองโดยเพื่อนที่เคยสนิทด้วยกันจนลับสายตา โชคดีแค่ไหนที่ตอนนี้นทีออกไปข้างนอกเพื่อไปซื้อของทำขนมเค้กมาเข้าครัวไม่งั้นก็คงเป็นไปได้ว่า นทีกับตะวันจะได้เจอกันอีกผ่านหน้าแคชเชียร์เป็นแน่ๆ
“พี่ตุลาเหม่ออะไรอะมาช่วยเราเสริฟ์เค้กไปชั้นสองทีลูกค้ามาแค่สี่คนทำไมสั่งเยอะจัง” กันยาหันมาบอกคนเป็นพี่ที่ตอนนี้ทั้งสองมือเต็มไปด้วยจานเค้กแถมทั้งยังถือไม่หมดด้วย ตุลาได้แต่ส่ายหัวให้กับคนน้องก่อนจะเดินไปช่วยถือจานเค้กไปเสริฟ์ให้ลูกค้าที่เคยเป็นเพื่อนสนิทด้วยกัน
ทั้งสองคนเดินไปยังชั้นสองโดยตุลายังคงเดินนำเพราะเหมือนว่าไอ้เจ้ากันยายังไม่ได้เห็นตะวันแน่ๆ ถึงได้ทำตัวนิ่งมาเสริฟ์ขนาดนี้ ทำไมยิ่งเดินมาใกล้ๆ กับโต๊ะถึงได้ใจเต้นขนาดนี้นะทั้งกลัว ทั้งมองหน้าไม่ได้อีกต่างหากทำยังไงดี จู่ๆ ขาที่เคยก้าวเดินถึงได้หยุดอยู่กับที่ขนาดนี้ตอนนี้ภูเขาหันมาสบตาด้วยเชิงอารมณ์สายตาที่เกลียดจนไม่สามารถปิดมันไว้ได้
ตุลาเดินเข้ามาเสริฟ์โดยสายตายังคงมองไปยังร่างเล็กตรงหน้าที่เอ่ยขอบคุณก่อนที่จะรับเค้กทั้งหมดมาไว้ยังโต๊ะ พร้อมทั้งน้องของเขาที่มองไม่วางตาเหมือนกันจนผมจำเป็นต้องกระตุกมือน้องเอาไว้แต่คงไม่เป็นผลสักเท่าไรในเมื่อน้องชายตัวดีของเขาเอ่ยออกไป
“พี่ตะวัน”
ตะวันหันมามองหน้าพนักงานสองคนในร้านที่เดินเข้ามาเสริฟ์ให้เธอโดยที่ทั้งสองยังคงไม่ไปไหนอีกทั้งยังเรียกชื่อเธออีกด้วย ทำไมถึงรู้จักเธอละเพราะจำได้ว่าเธอเองก็เพิ่งมายังร้านนี้เป็นครั้งแรกเหมือนกัน
“พี่ทำไมห่างเหินกันขนาดนั้น ผมกันยาไงพี่”
ตะวันยังคงมองมาที่เขาด้วยสีหน้าที่ไม่เข้าใจจนเธอเอ่ยออกมาทำให้ดวงใจของเขาถึงกับชามือที่เคยจับมือไว้กับพี่ชายของเขารู้สึกได้ว่ามันบีบแน่นจนไม่สามารถเอื้อนเอ่ยอะไรออกมาได้ประโยคที่ทำให้น้ำตาของเขาร่วงลงมา
“ขอโทษนะ”
“.....”
“พวกคุณเป็นใครเหรอคะ เราไม่เคยรู้จักพวกคุณมาก่อน”
โคตรเจ็บเลยทั้งที่เราเคยรู้จักกันขนาดนั้นแค่เพียงรอยยิ้มที่เธอส่งมาถึงได้รู้ว่าภายในดวงตานั้นไม่มีอีกแล้วสายตาที่มองมาเพื่อมอบความห่วงใยเอาไว้เป็นเพียงสายตาของคนที่ไม่รู้จักกันเท่านั้นมีเพียงแค่ความใสซื่อที่คงยังประดับไว้ยังดวงตาของเธอ
The sun sets to rise again
พระอาทิตย์ตกเพื่อที่จะขึ้นอีกครั้ง
TBC
ความคิดเห็น