คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : บทที่ 2 ผู้ชายประหลาดจากดาวอังคาร (3)
เช้าวันทำงานที่ต่างคนต่างต้องใช้ชีวิตอย่างรีบเร่ง
อนินทิตาตื่นแต่เช้าและเดินตามกลิ่นอาหารลงมาชั้นล่างก็พบว่า
‘คนร่วมบ้าน’ เตรียมอาหารเช้าแบบง่ายๆ เท่าที่มีวัตถุดิบในครัวไว้
ออมเล็ตฝีมือเขารสชาติไม่แย่ แต่เธอไม่ค่อยกินมื้อเช้าอยู่แล้ว เลยรีบกิน
และอีกอย่าง...เพราะเธอทนดวงตาเป็นประกายพราวระยับที่จ้องเหมือนจะกินเธอเข้าไปไม่ไหวแล้ว
“ต้องจูบลาอีกไหม” คนกวนประสาทยิ้มเจ้าเล่ห์
คำถามของเขาทำเอาอนินทิตาปรี๊ดแตก
เธอสะบัดหน้าหนี แต่ก่อนออกไปยังมิวายยกนิ้วกลางใส่เขาอย่างหยาบคาย
ทั้งที่รู้ว่ามันไม่ดี แต่ทำอย่างไรได้...เธอทนไม่ไหวแล้ว
รามหัวเราะลงคอ
นับวันอนินทิตายิ่งเผยนิสัยที่แท้จริงออกมาเรื่อยๆ แบบนี้ก็ดี
เขาจะได้เข้าใกล้งานของเขาได้มากขึ้น
หลังจากสาวเจ้าของบ้านออกไปแล้ว
รามก็เดินออกจากครัวตรงไปที่หน้าต่างบ้าน มองจนแน่ใจว่าไม่มีใครสังเกตแล้ว
จึงออกจากบ้านของอนินทิตาอย่างเงียบเชียบ
หลบเลี่ยงตำแหน่งของกล้องวงจรปิดทุกตัวจากทุกมุมถนน จนกระทั่งมาถึงร้านเจนเซนที่เป็น
‘แหล่ง’ ของเขา
“ร้านเปิดเที่ยงตรง” คุณนายเจนเซนบอกเสียงเหนื่อยหน่ายเหมือนอย่างทุกครั้งที่รามเข้ามา
“ก็บอกว่าจะมาเตรียมของไง”
หนุ่มลูกครึ่งอเมริกัน-อินเดียหัวเราะหึๆ เขาไม่เดินเข้าไปในครัว
แต่หันกลับไปพลิกป้าย ‘ปิด’ ที่หน้าร้านแทน
“คุณไม่ต้องเฝ้าก็ได้ เจนเซน”
“ก็ดี คนแก่อย่างฉันจะได้ไปนอน”
คุณนายเจนเซนว่า
เบื่อกับการเป็นเจ้าหน้าที่รับหน้าถามหารหัสทุกคนที่เกี่ยวข้องเช่นกัน
รามกำลังคิดหาวิธีติดตามตัวอนินทิตา
ทว่าเสียงสัญญาณจากโทรศัพท์มือถือที่ดัดแปลงตัวเครื่องไว้จนใช้งานสะดวกไม่ต่างจากคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งดังขึ้น
ส่งผลให้หนุ่มมาดเข้มร่างสูงโปร่งต้องรีบผละออกจากหน้าร้านเจนเซนกลับเข้าไปในครัว
แล้วเปิดดูโปรแกรมที่สัญญาณเตือนไว้ ซึ่งก็ไม่ใช่อะไรเลย แต่เป็นเพื่อนสนิทของเขา
อัลเบอร์โตกับเชส สองพี่น้องอะลอนโซ และ วูล์ฟ ยัง นั่นเองที่พร้อมใจกันติดต่อมาหา...ดูแล้วไม่น่าใช่เรื่องดีเท่าไร
“ไงเพื่อน”
คนกะล่อนยังฉีกยิ้มหวานสู้นัยน์ตาวาววับของเพื่อนๆ ทั้งสาม
ที่ปกติแล้วต่างคนต่างอยู่กันคนละที่ แต่นี่มารวมตัวกันที่เพนต์เฮาส์ของเชสก์ในแมนฮัตตัน
นั่นหมายถึงต้องมีเรื่องใหญ่แน่นอน!
“นายอยู่ส่วนไหนของโลกกันแน่ราม”
อัลเบอร์โตถามเสียงขรึม
“ก็...”
“อย่าคิดโกหกเชียว” วูล์ฟดักคอ เพราะแค่มองตาก็รู้ทันแล้วว่ารามเตรียมจะโกหกอีกแน่นอน
“และอย่าคิดว่าฉันจะหาไม่ได้ว่านายอยู่ที่ไหน”
เชสก์ขู่สำทับ
รามมองเพื่อนแต่ละคนแล้วก็ชักสีหน้าหงุดหงิด
“จะขู่ทำไมนักหนาวะ ถ้ามีวิธีหาว่าฉันอยู่ที่ไหน ทำไมไม่หาเลยล่ะ จะถามทำไม”
“ฉันอยากรู้ว่านายกำลังทำอะไร” อัลเบอร์โตถาม
เพราะเป็นคนเดียวที่หยุดความกวนประสาทของรามได้
คนถูกถามยิ้มเล็กน้อยแล้วตอบด้วยน้ำเสียงจริงจังกว่าทุกครั้ง
“ฉันก็แค่จะเก็บกวาดเหมือนทุกครั้งนั่นแหละ แต่ครั้งนี้ต้องเก็บทุกอย่าง
ปิดฉากแค่นี้ มันต้องใช้เวลาหน่อย”
“แล้วทำไมมีอะไรไม่บอก”
วูล์ฟถามพลางมองเพื่อนด้วยตาคมกริบราวกับจะมองไปถึงก้นบึ้งในจิตใจ
เพราะถ้าเป็นเมื่อก่อนรามจะบอกแผนเสมอ เป็นเสมือนอีกามหาภัยของเพื่อนๆ
ที่มาทีไรไม่เคยมีข่าวดีเลยสักครั้ง มีแต่เรื่องมาให้ตลอด แต่คราวนี้กลับอุบเงียบ
อยู่ที่ไหน ทำอะไร ไม่เคยบอกสักอย่าง
คนถูกถามไม่ตอบในทันที
แต่กลับนั่งนิ่ง ดวงตาคู่คมหวานไล่มองเพื่อนๆ แต่ละคนที่มารวมตัวกัน
รามมองเห็นความห่วงใยในสายตาของแต่ละคน ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาก็คงบอกและพร้อมจะหาเรื่องไปให้แบบไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น
แต่ตอนนี้คงไม่ได้
นี่ไม่ใช่เมื่อสักยี่สิบปีก่อนที่เวกัส
ตอนที่แต่ละคนยังเป็นวัยรุ่นใจร้อน กล้าที่จะทำอะไรเสี่ยงๆ
เพราะไม่มีใครรออยู่ข้างหลัง
“ฉันแค่จะเก็บกวาดน่า
ไม่มีอะไรเสียหน่อย พวกนายทำตัวเฉยๆ ไว้เหอะ อย่าเพิ่งติดต่อฉันมาก” ไหนๆ
ก็เปิดตัวทั้งสามในที่สว่าง ไม่มีเงาของเดอะดาร์กแฟนทอมติดตัวอีกแล้ว
ดังนั้นไม่ควรเข้ามาใกล้เขาให้เป็นเรื่องอีก
“นายแปลกไปนะราม”
เชสก์ตั้งข้อสังเกต เพราะที่อยู่ด้วยกันล่าสุด รามกวนประสาทจะตายไป
ทำอะไรแต่ละอย่างเคยสนที่ไหนว่าจะทำให้ใครเดือดร้อนบ้าง
‘อีกามหาภัย’
ยักไหล่ไม่แยแส แล้วตอบสั้นๆ “เอาน่า ไว้ใจฉันเถอะ”
“ไอ้ร้านขายตุ๊กตาคิตตี้ที่นายให้มาเนี่ย
ฉันลองให้นิมาโทร. ไปแล้ว ไม่เห็นมีคนเลย”
“ไว้เก็บกวาดเรียบร้อยเมื่อไหร่ไปเปิดแน่ๆ
พวกนายมาซื้อคิตตี้ด้วย”
“ฉันมีลูกชาย” เชสก์ออกตัวทันที
อเล็กซานโดรเป็นเด็กผู้ชายที่ชอบเล่นไดโนเสาร์มากกว่าเฮลโล คิตตี้
“แน่ใจเร้อ” รามทำหน้ากวนประสาท
“แต่งหญิงที่หาดไวกิกิก็หน้าหวานอยู่นะ
ตอนนั้นฉันแทบจะแสดงความยินดีด้วยที่นายได้ลูกสาว”
“กวนตีน” เจ้าพ่อด้านไอทีด่าออกมาจนได้
ถ้าเป็นเรื่องลูกชายสุดที่รักที่พลัดพรากมานานและเพิ่งได้เจอกันแล้วละก็...นิดหน่อยก็ห้ามแตะ
คนกะล่อนหัวเราะหึๆ แล้วตัดบท
“ฉันจะออกไปข้างนอกละ”
“นายไม่ให้ฉันช่วยจริงๆ หรือ”
วูล์ฟถามย้ำ เพราะในบรรดาสี่คน เขารู้จักรามเป็นคนแรก และคิดว่ารู้จักรามดีที่สุด
แม้ว่าความจริงแล้ว...ต่างก็ไม่มีใครรู้จักรามไปมากกว่าที่รามต้องการให้รู้เลยก็ตาม
“ไม่” รามตอบด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด
เรื่องแค่นี้เขาจัดการเองได้ ไม่ต้องให้ใครมาเดือดร้อนอีกแล้ว
สามหนุ่มมองหน้ากันเล็กน้อย
ก่อนจะพยักหน้ายอมรับและเคารพการตัดสินใจของราม แต่ก่อนตัดการติดต่อ
มิวายที่อัลเบอร์โตจะย้ำอีกครั้ง
“แต่ถ้านายมีอะไรให้ช่วย นายต้องบอกพวกฉันทันที”
“รู้แล้วน่ะ” รามทำเสียงรำคาญ
แล้วเป็นฝ่ายตัดการติดต่อเสียเอง
ถึงแม้จะไม่ใช่คนดีนัก
แต่เรื่องของเชสก์ทำให้รามคิดได้ ถ้าคนที่เดือดร้อนคือเชสก์คนเดียวเขาคงไม่สำนึกเท่าไร
แต่นี่มีภรรยาของเชสก์ ไหนจะอเล็กซานโดร เด็กชายตัวน้อยไม่รู้อีโหน่อีเหน่อีกคนที่เกือบตายหรือเกือบตกไปอยู่ในมืออาชญากร
นั่นทำให้เขาตัดสินใจได้ในที่สุด
ถ้าใครสักคนจะจบเรื่องนี้...ทางที่ดีควรเป็นเขาเสียเอง
สาบานได้เลยว่าคนอย่าง ราม
รามิเรซ ไม่ใช่คนดี แต่เขาก็ไม่เลวขนาดจะไม่สนใจว่าเคยทำให้เด็กตาดำๆ เดือดร้อน คิดได้อย่างนี้แล้วก็สบายใจขึ้นอีกเท่าตัว
รามไม่ได้อยากเป็นคนดีเท่าไร เพราะคนดีมักตายเร็ว
คนอย่างเขา...จุดมุ่งหมายในชีวิตไม่มีอะไรมากไปกว่ามีที่ซุกหัวนอนดี...และหรูหรา
ต้องมีของกินอร่อย...ระดับห้าดาวเท่านั้น มีเงินในบัญชีไม่ขาดสาย...ด้วยวิธีแฮกบัญชีชาวบ้าน
มีผู้หญิงไม่ขาด...แต่ไม่เน้นความผูกพันทางใจ ไม่ต้องทำงานงกๆ แค่นั่งหายใจทิ้งไปวันๆ
และรักษาชีวิตไว้ให้ได้นานที่สุดก็พอ
รามส่ายหน้าเล็กน้อย
ลืมเรื่องปณิธานที่จะขอเป็นคนเลวแต่อายุยืนไปก่อน
ยังมีภารกิจสองขั้วรออยู่ข้างหน้า แม้จะยังไม่แน่ใจว่าสิ่งที่กำลังทำจะถูกต้องและสำเร็จหรือไม่ก็ตาม
แต่เขาก็ ‘พร้อม’ แล้ว
ไม่มีแบบหนังสือนะคะ
เรื่องแสนรักซ่อนใจ (อัลเบอร์โตxหนูนา) มีวางขายแล้วค่า
E-book มาแล้ว จิ้มเลยยยย https://bit.ly/2DnWxc6
ความคิดเห็น