[Fic Tensei Shitara Slime Datta ken ] เกิดใหม่ก็กลายเป็นสไลม์ที่มีพลังเทียบเท่ากับจอมมารที่แท้จริง - นิยาย [Fic Tensei Shitara Slime Datta ken ] เกิดใหม่ก็กลายเป็นสไลม์ที่มีพลังเทียบเท่ากับจอมมารที่แท้จริง : Dek-D.com - Writer
×

    [Fic Tensei Shitara Slime Datta ken ] เกิดใหม่ก็กลายเป็นสไลม์ที่มีพลังเทียบเท่ากับจอมมารที่แท้จริง

    โดย KRIT224

    เมื่อผมตายจากการถูกมีดแถงเพราะช่วยเจ้ารุ่นน้องแต่พอได้เกิดใหม่แล้วผมก็ได้กลายเป็นสไลม์แต่วิวัฒนาการจนเป็นจอมมารที่แท้จริง?

    ผู้เข้าชมรวม

    4,265

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    211

    ผู้เข้าชมรวม


    4.26K

    ความคิดเห็น


    58

    คนติดตาม


    202
    จำนวนตอน :  24 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  4 ก.ค. 67 / 23:08 น.

    อีบุ๊กจากนิยาย ดูรายการอีบุ๊กทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    สวัสดีครับทุกคน นี่คือการกลับมารันวงการแต่งนิยายของไรน์หลังจากที่อารมณ์บ่จอยมาเป็นปีเนื่องจากปัญหาหลายอย่างที่รุมเร้าครับผม แต่การกลับมาในคราวนี้ไรน์มาพร้อมกับสโลแกนที่ว่ามาช้าแต่มาช้านะแทนครับผม 



    ก่อนที่เราจะเข้าสู่เนื้อหาของเรื่องนี้นั้นไรน์จะบอกว่าไรน์ได้แรงบันดาลใจจากเรื่องสไลม์สองเรื่องที่อ่านติดตามและได้อ่านถึงสองเรื่องและอนิเมะซีซั่น3ที่ฉายอยู่ทำให้ไรน์มีไฟในการแต่งขึ้นมาครับ 


    เอาล่ะเรามาเข้าสู่เนื้อหาคร่าวๆของเรื่องนี้กันครับผมทั้งพลังและลำดับขั้นของการวิวัฒนาการในเรื่องนี้กันนะครับ 


    ระดับความอันตราย


    C=เป็นมอนสเตอร์หรืออสูรที่มีความแข็งแกร่งพอต่อสู้ป้องกันตัวเองได้และมีแก่นเวทย์เล็กน้อย แต่ก็ถือว่าอ่อนแอมากในเวลาเดียวกันจึงเป็นเหยื่อมากกว่า 


    C+ =เป็นมอนสเตอร์หรือปีศาจที่มีระดับสติปัญญาขึ้นมาเล็กน้อยสามารถใช้เวทมนตร์หรือความสามารถได้นิดหน่อยในการต่อสู้กับศัตรู


    B=แข็งแกร่งมากทั้งด้านกายภาพ สติปัญญาและเวทมนตร์ถ้าโชคดีหน่อยอาจจะมีสกิลทั่วไปที่ดีมากๆจนสามารถพัฒนาเป็นเอ็กซ์ตร้าสกิลแต่ก็ต้องโชคดีมากจริงๆย้ำว่าต้องโชคดีจริงๆถึงจะมีได้ 


    A(ฮาซาร์ด)=เสี่ยงต่อการล่มสลายของเมืองขนาดเล็กของอาณาจักรหรือประเทศนั้นๆเลยทีเดียว


    A+(คาลามิตี้) =เสี่ยงต่อการล่มสลายของอาณาจักรขนาดเล็กหากไม่มีผู้เชี่ยวชาญหรือผู้ที่แข็งแกร่งในการเผชิญหน้าตัวตนระดับนี้ 


    S(ดิซัสเตอร์) =เสี่ยงต่อการล่มสลายของประเทศหรืออาณาจักรขนาดใหญ่เลยทีเดียวซึ่งพระเอกของเราเองก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วยเช่นกันตอนลืมตาตื่นใหม่ๆในลำดับขั้นของแรงค์และสายวิวัฒนาการ 


    S+(คาทัสโทรฟ) =เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของมวลมนุษยชาติเช่นมังกรที่แทัจริงทััง4ตน จอมมารที่แท้จริง(จอมมารที่ลืมตาตื่น) 


    เดม่อน(ปีศาจ) -เป็นตัวตนที่เกิดขึ้นจากความชั่วร้ายที่ไม่สามารถบรรยายได้จากจิตใจก่อนที่ผู้จะเป็นเดม่อนนั้นจะสิันอายุขัยในตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นมนุษย์จากต่างโลกไม่ก็โลกเดียวกันกับที่ริมุรุอาศัยอยู่แต่ก็น้อยเช่นเดียวกันแต่ด้วยความที่น้อยนั่นแหละถึงได้แข็งแกร่งมากจนยากในการต่อกร หากไม่ได้ต่อสู้มาอย่างโชกโชนหรือมีประสบการณ์ในการปราบปีศาจก็อย่าหวังว่าจะมีชีวิตรอดกลับบ้านได้ 


    เดม่อนนั้นมีอยู่4ประเภทได้แก่


     เลชเซอร์เดม่อน(ปีศาจชั้นต่ำ) ไม่มีสติปัญญาแต่ถึงอย่างนั้นก็มีพลังสูงมากเลยทีเดียว 


    เกรตเตอร์เดม่อน(ปีศาจชั้นสูง) ปีศาจระดับนี้จะมีความแข็งแกร่งอยู่ในแรงค์A ซึ่งความแข็งแกร่งของพวกนี้นั้นนอกจากพลังเวทย์แล้วนั้นก็ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ที่ตัวเองมีและการขัดเกลาพลังเองก็เช่นเดียวกัน 


    อาร์คเดม่อน(ขุนพลปีศาจ) =มีปีศาจไม่กี่ตนที่สามารถมาถึงในลำดับนี้ได้ด้วยตัวเองยกเว้น7ปีศาจจุดเริ่มต้น ความแข็งแกร่งนั้นอยู่ในระดับแรงค์A+กันเลยทีเดียว 


    เดม่อนลอร์ด(ขุนนางปีศาจ) =คือสายวิวัฒนาการของอาร์คเดม่อนซึ่งเชื่อกันว่าคือขั้นสูงสุดแล้วแต่ความจริงแล้วไม่ใช่เลยยังมีสูงกว่านั้นและน่าสะพรึงยิ่งกว่านั้นอีก 


    เดม่อนก็อต(เทพปีศาจ)=จุดสูงสุดของสายวิวัฒนาการของปีศาจทุกตนซึ่งมีน้อยตนมากแถมเงื่อนไขของมันเองก็ยังลึกลับแถมเป็นปริศนาจนมาถึงทุกวันนี้ที่แม้แต่วัจนะแห่งโลกเองก็ไม่อาจเข้าใจได้ 


    มังกรที่แทัจริง(ระดับS+คาทัสโทรฟ) มี4ตนในโลกนี้ซึ่งแข็งแกร่งมากชนิดที่ทุกเผ่าพันธุ์ต้องร่วมมือกันในการกำราบลงเลยทีเดียว 


    ส่วนสิ่งมีชีวิตที่คล้ายคลึงกับมังกรนั้นจะมีแรงค์อยู่ในระดับAถึงA+ ตามสติปัญญาและสกิลประจำตัวของพวกมัน 


    จอมมาร(ที่ยังไม่ลืมตาตื่น) มีความอันตรายอยู่ในระดับA+  


    จอมมารที่ลืมตาตื่นหรือจอมมารที่แท้จริง=อยู่ในระดับSขึ้นไปตามพลังและสกิล 


    เซียน=วิวัฒนาการอีกขั้นหนึ่งของมนุษย์ที่ทำให้มนุษย์นั้นสามารถต่อสู้กับจอมมารหรือจอมมารที่ลืมตาตื่นได้ขึ้นอยู่กับว่ามีสกิลหรือไม่ 


    ผู้กล้า=วิวัฒนาการขั้นสูงของมนุษย์ที่แข็งแกร่งและทรงพลังยิ่งกว่าเซียน ในทุกด้านแต่ต้องได้รับเลือกจากโลกเสียก่อน 


    เดมิก็อต(กึ่งเทพ)=วิวัฒนาการขั้นสูงสุดของมนุษย์ที่ไปถึงได้ซึ่งในโลกมีแค่2คนเท่านั้นและพวกเขาได้จากไปแล้วและมนุษยชาติตอนนี้กำลังรอผู้กล้าสองคนนั้นกลับมาอย่างใจจดใจจ่อ 


    สกิล 

    สกิลทั่วไป=สกิลธรรมดาที่สามารถเรียนรู้และสร้างขึ้นมาเองได้จนสามารถใช้ได้อย่างช่ำชอง 


    เอ็กซ์ตร้าสกิล=เป็นการนำสกิลทั่วไปที่ใช้เป็นประจำจนช่ำชองมาหลอมรวมกันพัฒนากลายเป็นเอ็กซ์ตร้าสกิลเป็นสกิลที่เหนือกว่าและแข็งแกร่งกว่าสกิลทั่วไปหลายเท่า


    สกิลประจำเผ่าพันธุ์=สกิลที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิดของเผ่าพันธุ์นั้นสามารถแย่งชิงได้ก็จริงแต่ความสามารถนั้นอาจจะได้แค่ห้าสิบเปอร์เซ็นต์หรือน้อยกว่านั้นถ้าไม่แข็งแกร่งกว่าเผ่าพันธุ์นั้นๆที่แย่งชิงมา 


    ยูนีคสกิล=สกิลระดับนี้นั้นหายากเป็นอย่างมากมอนสเตอร์หรือมนุษย์หลายคนแทบจะไม่มีสกิลในระดับนี้เลยหากไม่ได้มีการวิวัฒนาการหรือมีต้นกำเนิดจากเผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่งเป็นทุนเดิม



    อัลติเมทสกิล=คือจุดสูงสุดของสกิลทั้งหมดทั้งมวลของผู้ที่ครอบครองนั้นจะมีและมีเพียงอัลติเมทสกิลด้วยกันเท่านั้นสามารถล้มกันได้และเมื่อล้มผู้ที่มีอัลติเมทสกิลได้แล้วนั้นผู้ที่ชนะหากมีความสามารถมากพอหรือเข้ากันได้กับสกิลก็จะได้มาแต่ถ้าไม่ก็ขึ้นอยู่กับวัจนะแห่งโลกหรือเจ้าของสกิลเองว่าจะมอบให้หรือไม่ หรืออีกวิธีก็หลอมรวมมันซะเลยกับสกิลของตัวเอง 


    อัลติเมทสกิล(พิเศษ) =มีเพียงแค่14สกิลในโลกใบนีัซึ่งแข็งแกร่งและทรงพลังเป็นอย่างมากชนิดที่ต้องใช้สกิลในระดับเดียวกันเข้าห้ำหั่นซึ่งแน่นอนขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของผู้ถือครองด้วยเช่นเดียวกันซึ่งมีดังนี้ 


    สายทูตสวรรค์ทั้ง7

    -มิคาเอล(ราชันย์แห่งความถูกต้อง)

    -อุริเอล(ราชันย์แห่งพันธสัญญา)

    -ซาริเอล(ราชันย์แห่งความหวัง)

    -เมตารอน(ราชันย์แห่งความบริสุทธิ์)

    -เกเบรียล(ราชันย์แห่งความอดทน)

    -รากุเอล(ราชันย์แห่งการกุศล)

    -ราฟาเอล(ราชันย์แห่งภูมิปัญญา)


    สายมหาบาปทั้ง7

    -ลูซิเฟอร์(ราชันย์แห่งความเย่อหยิ่ง)

    -เบลเซบิวธ์(ราชันย์แห่งความตะกละตะกลาม)

    -ซาตานาเอล(ราชันย์แห่งโทสะ)

    -แอสโมดิอุส(ราชันย์แห่งราคะ)

    -เบลเฟกอร์(ราชันย์แห่งความเกียจคร้าน)

    -แมม่อน(ราชันย์แห่งความละโมบ)

    -เลเวียธาน(ราชันย์แห่งความริษยา)


    สกิลระดับพระเจ้า=เป็นสกิลที่ต้องให้ผู้ถือครองนั้นเข้าห้ำหั่นด้วยกันยังไม่พอต้องรีดศักยภาพของอัลติเมทสกิลของตัวเองตลอดการต่อสู้จนเพดานของอัลติเมทสกิลนั้นพังทลายลงและก้าวข้ามขึ้นไปอีกขั้น 

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น