Coffee shop secret service : หลงลืมคือตัวฉัน - Coffee shop secret service : หลงลืมคือตัวฉัน นิยาย Coffee shop secret service : หลงลืมคือตัวฉัน : Dek-D.com - Writer

    Coffee shop secret service : หลงลืมคือตัวฉัน

    โดย Juniorgugen

    ผู้เข้าชมรวม

    44

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    44

    ผู้เข้าชมรวม


    44

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักอื่น ๆ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  16 เม.ย. 67 / 01:21 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้

    Coffee shop secret service 

     

                      น่าแปลกที่เรื่องประหลาดมักเกิดในสถานที่ปกติ วันนี้อากาศเย็นสบาย มีลมอ่อนพัดเบา บรรยากาศเริ่มโพล้เพล้ ผู้คนในร้านเริ่มน้อยลงเหลือประมาณสองถึงสามโต๊ะ ซึ่งค่อนข้างจะปกติเหมือนทุกวัน ชายหนุ่มคนนึงเดินเข้าร้านมา เขามิใช่ลูกค้าประจำแน่นอน เราไม่เคยคุ้นหน้าเขาเลย เป็นชายหนุ่มวัยประมาณสามสิบ ทรงผมยังคงเนี้ยบเป๊ะอยู่แม้เป็นเวลาหลังเลิกงาน สวมเสื้อเชิ้ตพร้อมถือสูทอิตาลี สวมแหวนที่นิ้วนาง พร้อมนาฬิกาสวิสเรือนหรู ท่าทางน่าจะประสบความสำเร็จแต่วัยรุ่น หรือไม่ก็แค่บ้านรวยเฉยๆ เขาเดินเข้ามาพร้อมสั่งเอสเพสโซร้อนหนึ่งแก้ว ด้วยท่าทีสุภาพและนอบน้อม คงไม่น่าจะใช่พวกคนรวยที่ชอบวางท่าใหญ่โตเหนือคนอื่นล่ะมั้ง 

                      เสียงกระดิ่งประตูดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้เป็นหญิงสาววัยประมาณยี่สิบกลางๆ สวมกางเกงสแลคสีดำสนิท เสื้อเชิ้ตพอดีตัวพร้อมเสื้อนอกสีดำเช่นกัน ราวกับหลุดมาจากภาพ ”เลอ สโมคคิง” ในคอลเลคชันของอีฟว์ แซ็ง โลร็องอย่างไม่ผิดเพี้ยน เธออาจจะไม่ได้สวยสะดุดตาอย่างนางแบบ แต่เธอดูมีเสน่ห์ชวนมองแบบค่อนข้างหาตัวจับยากเลยทีเดียว เราค่อนข้างชื่นชอบในการแต่งตัวที่ทะมัดทะแมงและดูเท่เหมือนกับแสดงตัวตนของเธออกมา อาจเป็นเพราะชาวเอเชียอย่างเรายังไม่ค่อยคุ้นชินกับผู้หญิงที่แต่งตัวเช่นนี้ แต่ก็ไม่ได้จะประหลาดใจขนาดนั้น เพราะเราก็เคยเห็นลูกค้าแนวนี้มาบ้าง 

                      จากเวลาช่วงเย็นที่ลูกค้าไม่ค่อยแน่น กลับกลายเป็นมีผู้คนเข้ามามากอย่างน่าเหลือเชื่อราวกับเกิดพายุภายนอก แล้วทุกคนเข้ามาหลบฝน เหลือเพียงโต๊ะสุดท้ายให้ทั้งสองต้องจำใจนั่งร่วมกัน บรรยากาศในร้านค่อนข้างแน่นและพวกเราก็ยุ่งอยู่ทุกคน แต่ทั้งคู่กลับนั่งลิ้มรสกาแฟอย่างสงบเหมือกับทุกคนเป็นเพียงฝุ่นรอบตัว

                      “วันนี้คนเยอะเหมือนกันนะครับ” ฝ่ายชายเริ่มเปิดประโยคสนทนา

                      “ไม่รู้สิ คุณคิดว่าอย่างนั้นเหรอ” ฝ่ายหญิงถามคืน

                      “ผมพึ่งเคยมาน่ะ เลยไม่แน่ใจว่าปกติที่นี่คนเยอะรึเปล่า”

                      “ฉันก็เหมือนกัน” ทั้งคู่กลับมาเงียบอีกครั้ง เสียงภายในร้านยังคงคึกคักด้วยการสนทนาอันออกรสชาติ หากแต่มีเหมือนหลุมแห่งความเงียบของทั้งคู่ที่อยู่ท่ามกลางพายุ 

                      “กาแฟที่นี่ใช้ได้เลยนะ” ฝ่ายชายพูดขึ้น

                      “มันก็เหมือนกันหมดแหละ” ฝ่ายหญิงพูดด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่าย

                      “ทำไมล่ะ คุณกับผมยังไม่เหมือนกันเลย”

                      “คุณเป็นกาแฟงั้นเหรอถึงรู้ ก็จริงอยู่ที่เราไม่เหมือนกัน คุณเป็นชายหนุ่มผู้ร่ำรวยประสบความสำเร็จแต่ไวเยาว์ แต่ฉันเป็นผู้หญิงที่ดิ้นรนต่อสู้กับสังคมที่โหดร้าย เราไม่เหมือนกันจริงๆ ด้วย” เธอประชดประชันและหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด ไม่รู้สิ อะไรทำให้เธอโมโหได้ถึงขนาดนี้ การแต่งตัวของผู้ชายงั้นเหรอ นาฬิกาเรือนหรูของเขา เพศที่ต่างกัน หรือเพียงความหมั่นไส้การประสบความสำเร็จที่รวดเร็ว จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีใครรู้

                      “ผมไม่รู้นะว่าคุณโมโหอะไร ถ้าเรื่องกาแฟทำให้คุณโกธร ผมก็ขอโทษด้วย” ฝ่ายชายขอโทษอย่างสุภาพ ก่อนที่จะลุกขึ้นจากโต๊ะออกไปนอกร้าน ทั้งร้านรู้สึกได้ถึงความตึงเครียดที่เกิดขึ้น เพราะปกติไม่เคยมีคนทะเลาะกันในร้านมาก่อน สิ่งนี้เหมือนเรื่องแปลกใหม่สำหรับร้านเรา

                      วันถัดมาทั้งคู่ก็มาถึงร้านเวลาเดิม และที่น่าแปลกคือต้องนั่งร่วมโต๊ะกันเหมือนเดิม ฝ่ายชายเริ่มเปิดบทสนทนาเหมือนวันก่อนอีกครั้ง ราวก็ลืมสิ่งที่เคยเกิดเมื่อครั้งนั้น 

                      “วันนี้ร้านยังคนเยอะเหมือนเดิมเลยนะครับ”

                      “ก็ปกติดีนะ แค่เหมือนตอนนี้จะไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่” เธอประชดด้วยน้ำเสียงเย็นชา ก่อนจะลุกออกไป 

                      เป็นเรื่องประหลาดอย่างพิลึกของร้านเราในช่วงหนึ่ง ทุกเย็นทั้งคู่จะมาที่ร้านเป็นประจำ และทุกครั้งที่ทั้งคู่มาถึง ร้านก็จะแน่นเต็มไปด้วยลูกค้าจนไม่เหลือโต๊ะพอสำหรับหนึ่งคนอยู่เสมอ ทำให้ทั้งคู่ต้องนั่งร่วมโต๊ะกันตลอด และมักจะจบด้วยการลุกขึ้นหนีของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอยู่เสมอ เหตุการณ์วนเวียนอยู่อย่างนี้จนพวกเราเลิกสนใจพฤติกรรมของทั้งคู่ และมองว่าเป็นเพียงลูกค้าประจำคนนึง เหมือนกับฝนที่ต้องตกเป็นประจำอยู่แล้ว เวลาผ่านไปหนึ่งปีทั้งคู่จู่ๆ ก็ไม่ได้มาร้านเราอีกเลยตั้งแต่ฤดูหนาว 

    เขาว่ากันว่าปีใหม่มักจะมาพร้อมสิ่งใหม่ๆ และจะทิ้งสิ่งร้ายๆ ไว้ในปีเก่า มีนายทุนคนหนึ่งเสนอเงินเข้ามาเพื่อซื้อร้านของเรา อีกทั้งยังให้สิทธิเราในการเป็นเจ้าของร่วมอีกด้วย อาทิตย์ถัดมาหลังหยุดยาวพวกเราทุกคนกลับมาทำงานอีกครั้งพร้อมกับจะได้เจอนายทุนใจดีเป็นครั้งแรก ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อเขาคือชายหนุ่มคนนั้น คนที่มาทะเลาะกับสาวที่ตนไม่รู้จักอยู่ทุกวัน หลังจากหายไปนานเค้ากลับมาพร้อมกับเงินก้อนโตที่จะมาพัฒนาร้านเรา พร้อมกับหน้าที่ผู้จัดการร้าน

                      “ผมดีใจอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานกับพวกคุณทุกคน ผมได้พบร้านนี้โดยบังเอิญในช่วงหลังเลิกงาน ที่นี่เหมือนมีบางสิ่งอย่างที่ทำให้ผมไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ผมเข้าร้านนี้ทุกเย็นอย่างกับที่นี่คือบ้านหลังที่สอง ผมได้พบภรรยาและครอบครัวที่อบอุ่นจากร้านนี้ ไม่รู้สิ ผมคิดว่าทุกคนจะมีสถานที่ ที่เกิดมาเพื่อบางสิ่งบางอย่างอยู่เสมอ และสำหรับผมคือที่นี่”

    สำหรับผมแล้วคิดว่านี่เป็นการกล่าวสุนทรพจน์ของหัวหน้าใหม่ที่ดูแปลกและอาจเกิดขึ้นจริงกับคนทั่วไปได้น้อยอยู่เหมือนกันนะ เป็นเรื่องน่ายินดีที่เขาเจอสถานที่ที่เหมาะสำหรับตน แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้อยู่ในสถานที่ที่ตนปรารถนาเสมอไปหรอก เพียงแค่เขามีสิ่งที่สามารถพาตัวเองไปในที่ที่เหมาะสมได้ แต่ผมว่าการสูญเสียและลืมเลือนสิ่งที่เหมาะสมกับเรา น่าจะเกิดขึ้นบ่อยหรือเป็นปกติกว่าคำกล่าวในสุนทรพจน์นั่นนะผมว่า 

    หลังผ่านไปเพียงหนึ่งสัปดาห์ทางเจ้าของใหม่ได้โละพนักงานเก่าทั้งหมดออก(รวมถึงผมด้วย) และเปลี่ยนรูปแบบร้านจากร้านกาแฟเล็กๆ ธรรมดาให้กลายร้านกาแฟชื่อดังที่มีแฟรนไชส์โด่งดังไปทั่วโลก

     

     

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×