ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    THE MYSTERIES OF PANDEARDIAMOND ความลับของประตูที่ปิดตาย

    ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 2 : เรื่องน่าประหลาดใจ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 152
      0
      29 ธ.ค. 52

    2

    เรื่องน่าประหลาดใจ

    ติ๊ก ติ๊ก ติ๊ก

    นัยน์ตาสีฟ้าจับจ้องมองเข็มวินาทีของนาฬิกาที่ขยับไปเรื่อย ๆ

    เหงื่อชื้นไหลซึมไปทั้งแผ่นหลัง แม้ว่าเธอกำลังนั่งอยู่ในห้องแอร์เย็นเฉียบ อาการเกร็งแทบจะเผยออกมาให้เห็นอยู่แล้ว ถ้าใบหน้าเธอปราศจากรอยยิ้มสบาย ๆ

    ทั้งห้องสัมภาษณ์เงียบกริบ

    เงียบ จนได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้นระรัวเป็นกลอง น้ำลายหนืดคอไปหมด

    แย่...แย่จนไม่เป็นตัวของตัวเอง

    “เอาล่ะ” เสียงแหบของสตรีรูปร่างผอมวัยประมาณ 40 กว่า ๆ เอ่ยขึ้น ขณะที่คณะกรรมการคนอื่น ๆ ในห้องเพียงจ้องมองและจดบันทึก

    “คุณเกลเตอเรสใช่ไหม”

    “ค่ะ” สายตาทุกคู่ในห้องตอนนี้จับจ้องมาที่เธอเพียงคนเดียวแล้ว เหงื่อเย็น ๆ ไหลมาจากฝ่ามือจนเปียกไปหมด การตกเป็นเป็นเป้าสายตาเป็นเรื่องที่เธอไม่ถนัดเอาซะเลย

    “ครูชื่อชาร์ล็อต ทีราเนท” เธอพูดพลางหยิบกระดาษบนโต๊ะมาอ่าน “ขอถามคำถามเธอซัก 2-3 ข้อนะ”

    จะขอทำซากอะไรเนี่ย...ยังไงก็ถามอยู่ดี

    เด็กสาวพยักหน้าเบา ๆ ตอบรับ

    “ทำไมเธอถึงมาสอบที่โรงเรียนแห่งนี้ล่ะ” เธอถามพร้อมยกถ้วยกาแฟบนโต๊ะมาจิบเบา ๆ ขณะที่คนถูกถามกำลังสะอึกเงียบกับคำถามนอกเหนือความคาดหมาย

    ใครจะคิดว่าเล่นถามเรื่องธรรมดาทั่วไปแบบนี้ ไอ้เราก็อุตส่าห์อัดวิชาการมาเต็มที่แบบรอบเช้า คิดว่าจะยากกว่ารอบเช้าตามคำบอกเล่าของคนเป็นพี่

    หน็อย...กลับไปต้องขอตบหัวด้วยความเคารพสักป้าบเหอะ

    เด็กสาวขยับยิ้มเจื่อน ๆ ถ่วงเวลา

    “เออ...ค่ะ” เธอหยุดชั่วครู่ขณะหัวสมองกำลังแล่นเร็วจี๋หาคำตอบกรณีฉุกเฉิน

    กรณีที่ต้องมั่วสด

    “โรงเรียนนี้พี่บอกว่า...น่าเบื่อ...แต่ใคร ๆ กลับบอกว่าเป็นโรงเรียนที่ดีที่สุดในเจเวนิส...” เธอหยุด

    ครูเลิกคิ้วรอให้เธอพูดต่อ

    “ฉันอยากพิสูจน์ว่าที่บอกว่ายาก...จะยากแค่ไหน ว่ายาก...แล้วฉันจะผ่านรึเปล่า ว่าดี...แล้วดีจริงไหม ว่าน่าเบื่อ...แล้วจะทนได้ซักกี่น้ำ”

    เธอกระพริบตากับคำตอบของจูเลีย

    คงจะงงแน่เลย เด็กสาวคิด

    ไม่แปลก ก็คนพูดยังงงเลยว่าพูดอะไรออกไป

    “แล้วตอนนี้ได้คำตอบบางข้อบ้างรึยัง” ครูถามต่อ

    จูเลียหัวเราะหึ ๆ ไม่อยากบอกว่า โคตรจะรู้ซึ้งถึงความยากเลย

    “ก็พอจะเข้าเค้านะคะ”

    “อืม” เธอพยักหน้ายิ้ม ๆ “งั้นคำถามข้อต่อไปนะ...ถ้ามีคนบอกเธอว่า พรุ่งนี้เป็นวันสุดท้ายของชีวิต...วันนี้เธอจะทำอะไร”

    เด็กสาวขมวดคิ้วกับคำถามแปลก ๆ อีกข้อ

    ใครจะตรัสรู้ฟะ...ก็วันนี้ยังไม่ตายนี่

    “คงหัวเราะเยาะคนบอกล่ะค่ะ” เธอขยับยิ้มบาง “คงไม่งี่เง่าพอจะหมดความหวังแล้วเชื่อในสิ่งที่พิสูจน์ไม่ได้ ใช้ชีวิตอย่างหมดอาลัยในความตายที่ยังมาไม่ถึง”

    พูดจบแล้วเธอก็แทบกัดลิ้นตัวเอง

    ถ้างั้น...ก่อนหน้านี้...

    ...เธอจะถอดใจไปทำไมกันหนอ...

    เหมือนบรรยากาศตึงเครียดเริ่มคลายลง อย่างน้อยเธอก็ใจเย็นลงบ้าง

    “ข้อสุดท้ายนะ” ครูพลิกกระดาษไปด้านหลัง “อะไรที่เธอคิดว่าชีวิตนี้เธอขาดไม่ได้”

    เด็กสาวเม้มริมฝีปากแน่น ก่อนหวนนึกไปถึงอดีต

    อะไร...ที่ชีวิตนี้เธอต้องเจออยู่ทุกวัน...ต้องเจอไปจวบจนวันสุดท้ายของชีวิต

    รอยยิ้มบนริมฝีปากคู่สวยแย้มออกช้า ๆ “คงจะเป็น...มิตรภาพละค่ะ” นิ้วบางขยับไปมาบนโต๊ะ “ชั่วชีวิตนี้ขาดไม่ได้คงจะเป็นเสียงหัวเราะ เสียงที่คอยบำรุงจิตวิญญาณ หากว่าต้องมรสักครั้งที่อยู่ครนเดียวบนโลกใบนี้...สิ่งแรกและสิ่งสุดท้ายที่จะขอคงจะเป็นใครซักคนหรือ...ซักตัว...ใครที่คอยร่วมทุกข์ร่วมสุขบนความเหงา”

    ใช่...นั่นคงจะเป็นคำตอบละมั้ง

     

    “ตื่น ๆ”

    เสียงอะไรดังแว่วมาไกล ๆ

    น่ารำคาญจริง...

    “จูลีย !” มันดังขึ้นพร้อมกับสัมผัสแรง ๆ ที่ไหล่

    “อือ” เด็กสาวคราง ก่อนขยับตัวพลิกไปอีกฝั่งพร้อมกับดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมศีรษะ

    “จูเลีย” คนปลุกซึ่งความอดมนต่ำอยู่แล้วกำลังหมดความอดทนตามระดับเสียงที่เย็นเยียบลงเรื่อย ๆ

    แต่...นิ่ง...

    โครม !

    แล้วร่างคนขี้เซาก็ลืมตาโพลงอยู่บนพื้นด้วยพระบาทของคนปลุกที่กำลังยืนหัวเราะหึ ๆ

    “มันเจ็บนะ” ผู้เสียหายโวยวาย

    “ก็ปลุกดี ๆ แล้วดันไม่ตื่นเองนี่น่า”

    “แล้วใครใช้ให้ใช้ตีนปลุกห๊ะ” จูเลียไม่ยอมแพ้ ขณะลุกขึ้นกุมศีรษะปอย ๆ “ถ้าสมองอันชาญฉลาดของเราฝ่อไป พี่จะทำยังไง” คนเกือบสมองฝ่อค้อนทางหางตา

    “ไม่ฝ่อหรอก เพราะมันไม่มีอยู่ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว” คำตอบเรียกเพลิงอารมณ์ในใจคนฟัง แต่ก่อนจะได้โต้ตอบ คนเป็นพี่ก็ยื่นมือมาให้

    เด็กสาวเลิกคิ้วงง ๆ ก่อนสะบัดหน้าหนีแล้วลุกขึ้นเอง

    “นั่นมันสมองพี่เจคแล้วล่ะ” คนเป็นน้องเดินดุ่ม ๆ ออกจากห้องด้วยอารมณ์ที่บูดสนิท

    เจคอบถอนหายใจเฮือก ก่อนก้มลงหยิบผ้าห่มที่กองอยู่บนพื้นโยนกลับขึ้นเตียง ก่อนจะวิ่งตามน้องสาวออกไป

     

    “จู รอก่อน” เด็กหนุ่มกระโดดตุ้บ ๆ ลงบันไดทีละ3-4 ขั้น เพื่อไล่ตามคนหงุดหงิด

    “จู” พี่ชายเรียก

    “รีบปลุกทำแต่เช้าเนี่ย” จูเลียโผล่หน้ามาจากห้องน้ำข้างทางเดินที่เจคอบกำลังผ่านพอดี เด็กสาวพูดพร้อมกับชี้ไปที่นาฬิกาข้างฝาผนัง ขณะที่อีกข้างจับแปรงสีฟันคาไว้ในปาก

    คนฟังกระพริบตาปริบ ๆ อย่างนึกขำในใจ

    “อูอิ อนอะหอับอาออน” เธอทักท้วงต่อ แต่ไม่ยอมเอาแปรงออกจากปาก

    เจคอบขมวดคิ้วอย่างงุนงง ก่อนหัวเราะเยาะคนพูด

    “อะไอ” นัยน์ตางัวเงียมองมาอย่างคาดโทษ

    เขากลืนเสียงหัวเราะลงคอก่อนเอ่ย “เราฟังเป็นแต่ภาษาคน”

    คนไม่พูดภาษาคนค้อนขวับ ก่อนเอ่ยใหม่

    “ปลุกทำไม”

    เจคอบขยับยิ้มบาง ก่อนชูซองสีขาวขึ้นเหนือศีรษะ

    นัยน์ตาสีฟ้าเบิกกว้างอย่างตื่นเต้น ก่อนรีบพุ่งออกมาจากห้องน้ำด้วยความเร็วแสง และแทบจะกระชากซองจดหมายออกจากมือพี่ชายโดยตรง

     

    23 มกราคม 2550

    ถึง คุณจูเลีย เกลเตอเรส

    ก่อนอื่น ดิฉันต้องขอแสดงความยินดีกับคุณที่สามารถสอบผ่านเข้าเรียนที่โรงเรียนเพนเดียไดมอนได้ด้วยคะแนนสอบที่สูงพอสมควร ทางโรงเรียนต้องการทราบว่าคุณมีความประสงค์ที่จะเข้าร่วมโครงการ Science-Math Example Activities Request (SMEAR1) ซึ่งเป็นโครงการใหม่ที่จะส่งเสริมทัษะและกระบวนการด้านการคำนวณและความเป็นจริงให้กับนักเรียนผู้เข้าร่วม

    หากคุณประสงค์จะเข้าร่วมโครงการนี้โปรดมารายงานตัวรับการเข้าร่วมโครงการก่อนกำหนดจากนักเรียนธรรมดาในวันที่ 4 มีนาคม 2550

     

    ด้วยความปรารนาดี

    ชาร์ล็อต ทีราเนท

     

    นัยน์ตาสีฟ้าพราวระยับด้วยความดีใจผสมกับความงุงงง

    ดีใจ...ที่สอบติด

    งง...ว่าติดได้ยังไง

    ทั้ง ๆ ที่เธอทำข้อสอบมั่วไปซะขนาดนั้น ข้อสอบนั่นก็ยากยังกับจะคัดเอาเด็กไปแข่งโอลิมปิกอัจฉริยะ หรือว่าความจริงแล้วโรงเรียนนี้ตั้งใจคัดนักเรียนที่มั่วข้อสอบเก่งกันแน่

    “ติดห้องโครงการเหมือนเราด้วยแฮะ”

    เด็กสาวหันไปมองหน้าบุรุษที่ยืนยิ้มบางอยู่ข้าง ๆ

    “หือ” เธอมุ่นหัวคิ้ว “เราคิดว่าเขาเพิ่งจะมีปีนี้ซะอีก”

    “อ๋อ...ความจริงมันมีตั้งนานแล้วล่ะ เพียงแต่ว่าไม่เป็นทางการเท่าไหร่” จูเลียพยักหน้ารับรู้ ก่อนวนกลับเข้าเรื่องที่เธอสงสัย

    “พี่ว่าเข้าตรวจข้อสอบผิดเปล่า” เธอถามพลางยื่นจดหมายที่อ่านเสร็จคืนพี่ชาย

    เจคอบเหลือบมองซองที่ฉีกอย่างไว้ตัว “เอาไปทิ้งเองซิ จะมาให้คนอื่นไปทิ้งให้ได้ไง” เด็กหนุ่มดุ ขณะที่คนถูกดุกำลังงงอยู่ครู่หนึ่งว่าพูดถึงอะไร ก่อนเก็ตเมื่อลากหางตาคนเป็นพี่มาสิ่งที่อยู่ในมือเธอ

    “เอ่อ” จูเลียหัวเราะเบา ๆ “ใครจะบ้าเอาไปทิ้ง”

    นัยน์ตาคนบ้าทอกมองอย่างขำ ๆ ก่อนวกเข้าเรื่อง “เราว่าเขาคงตรวจผิดชัวร์เลย ไม่งั้นก็ลงคะแนนให้ผิดคน” เด็กหนุ่มพูดด้วยท่าทีจริงจัง ขณะที่คนสงสัย กำลังเริ่มใจคอไม่ดี คิดในใจว่าไม่น่าไปถามมันเลย

    “เดี๋ยวเราจะให้ครูชาร์ล็อตเช็คให้ใหม่อีกรอบหนึ่ง” ไม่ว่าเปล่าคว้ากระดาษขึ้นมาอีกแผ่นมาจ่าหน้าซองถึงโรงเรียนเพนเดียไดมอนด้วยความรวดเร็ว พลางวิ่งไปมาหลบคนเป็นน้องที่พยายามแย่งคว้ากระดาษในมือคนเขียน

     

    25 มกราคม 2550

    เรียน คุณครูชาร์ล็อต ที่เคารพ

    สวัสดีครับ ผมเจคอบเองครับ เนื่องมาจากว่าน้องสาวของผมไม่มั่นใจในผลสอบที่ได้รับมาจากทางโรงเรียน และต้องการตรวจสอบเพื่อความแน่ใจอีกที ซึ่งผมก็คิดว่าเป็นไปได้ที่เธอจะไม่ติดและหากคุณครูไม่รังเกียจกรุณา~~

     

    สุดท้ายเขาก็หลบไม่พ้นฝ่ามืออรหันต์ของน้องสาว หลังเผลอคิดคำพูดที่เหมาะสมถึงครูใหญ่ ส่วนคนแย่งกระดาษไปตอนนี้กำลังเท้าสะเอวจ้องมองเขาด้วยหน้าบูด ๆ หลังจากจัดการโยนกระดาษที่เคยเป็นจดหมายลงถังขยะเป็นที่เรียบร้อย

    “จะบ้าเหรอ เขียนไปทำซากอะไรน่ะ”

     “อ้าว! อะไรเนี่ย คนเขาอุตส่าห์ช่วยถามให้ เห็นว่าไม่มั่นใจ มาหาว่าบ้าอีก...” คนบ้าแกล้งตีสีหน้าลำบากใจ ขณะพยายามกลั้นหัวเราะ “รู้ไหมว่าถ้าเขาลงคะแนนผิดเนี่ย สงสารเจ้าของคะแนนแย่เลย”

    จูเลียเลิกคิ้ว ก่อนกวาดนัยน์ตาวนไปมาหนึ่งตลบแล้วตอบเหตุผล

    “ลงผิดนั่นแหละ กีแล้ว...ขืนครูเช็คใหม่แล้วเราสอบไม่ได้ขึ้นมาก็แย่สิ”

    “ยังไง” คนถามแกล้งโง่ต่อ

    “อ้าว! อย่าบอกนะว่าเรื่องง่าย ๆ อย่างนึ้คนฉลาดเขาไม่รู้กันน่ะ” เด็กสาวขยับยิ้มบาง “เขาก็จะหาว่า น้องโง่สอบไม่ติด แล้วพี่งี่เง่าจะสอบติดได้ยังไง” เจคอบอ้าปากเตรียมจะเถียง แต่จูเลียสังเกตเห็นก่อนเลยรีบเร่งสปีดเต็มสตรีมเพื่อไม่ให้ถูกคนเจ้าคารมวกกลับไปเรื่องอื่น “แล้วเขาก็จะตรวจคะแนนสอบพี่ใหม่ แล้วก็...ปิ๊ง !..เจคอบก็ตกนี่หว่า” จูเลียยิ้มกว้างขึ้นเมื่อเห็นพี่ชายทำหน้าไม่จืด “แล้วก็...โครม! ถีบพี่กระเด็นออกจากโรงเรียน”

    โครม! เสียงถีบที่ว่าดังขึ้นก่อนกำหนด แต่เป็นพระบาทหนัก ๆ ของคนที่เธอกล่าวหาว่าโดนถีบจากโรงเรียน

    “งี่เง่า” เด็กหนุ่มกอดอก “เราไม่มีทางสอบไม่ติดหรอกน่า...เฮ้อ...แย่ซะจริง...ทำไมจูเลียถึงไม่ได้เชื้อความฉลาดจากเราบ้างน้า...”

    เท่านั้นเองเส้นอารมณ์คนถูกกล่าวหาว่าโง่ก็ขาดผึง แล้วร่างคนเป็นพี่ที่ถูกถีบกระเด็นไปกองอยู่บนพื้นพร้อมกับเสียงหัวเราะสะท้านโลกาของน้องสาวตัวดี

    แต่เธอขำได้เพียง 2 วินาทีเท่านั้น เมื่อเจคอบแยกเขี้ยวพร้อมกับประกาศสงครามสายเลือดด้วยเสียงหัวเราะและ...

    หมัดหนัก ๆ ที่ใบหน้าคนเป็นน้อง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×