ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Chapter??”?1〰
〰ผีน่ารักhh〰
"นายเห็นฉันจริงๆเหรอเซฮุน?" ตากลมโตยังคงเบิกกว้างมองคนตัวสูงที่จับข้อมืออย่างงุนงง
"หมายความว่าไง?นายเป็นผี?" ดวงตาคมจ้องอีกคนตอบเช่นกัน มือหนาที่จับข้อมือบอบบางอยู่ก็ออกแรงบีบมากขึ้นจนใบหน้าหวานเหยเกด้วยความเจ็บ
"จะว่าเป็นผีก็ไม่น่าใช่อีก ฉันสัมผัสนายได้ นายเองก็รู้สึกเจ็บด้วย" มือหนาค่อยๆคลายมือออกจากข้อมือบางช้าๆ
คนตัวเล็กผงกหัวขึ้นลง "ฉันไม่ใช่ผีหรอก"
"แล้วทำไมคนอื่นถึงไม่เห็นนาย?"
"คนอื่นไม่เห็นฉันน่ะไม่แปลกหรอก ต้องถามว่าทำไมนายถึงเห็นฉันถึงจะถูก"
คิ้วเข้มเลิกขึ้นอย่างสงสัย ผีแน่ๆคนตัวเล็กข้างหน้าเขาเป็นผีแน่ๆ แต่ทำไมต้องเป็นเขาที่เห็นและสัมผัสได้กันล่ะ เซฮุนมั่นใจว่าเขาไม่ใช่คนมีสัมผัสที่หกอย่างแน่นอน เกิดใหญ่มาจนอายุยี่สิบสองปีเข้าไปแล้วไม่เคยเจอสิ่งเล้นลับแม้แต่ครั้งเดียว ครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งแรก แต่ดันไม่ได้น่ากลัวแบบที่เคยจินตนาการไว้ ผีที่เขาเห็นตัวเล็กรูปร่างบอบบาง ใบหน้าสวยหวานเหมือนผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย แถมมีกลิ่นหอมเฉพาะตัวที่เขาเผลอสูดดมเข้าไปบ่อยๆ
"ไม่ใช่ผีแต่คนมองไม่เห็นงั้นเหรอ?ตกลงเป็นตัวอะไรแน่วะ?นางฟ้า?"
"สูญญากาศ ฉันคือสูญญากาศ"
คิ้วเข้มขมวดเป็นปม ทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงนุ่มๆก่อนจะหันมาจ้องอีกคนต่ออย่างประหลาดใจ ยิ่งคุยก็ยิ่งสับสน ยิ่งคุยยิ่งงุนงง ตกลงคนตรงหน้าเป็นตัวอะไรกันแน่
"คืออะไรวะ?"
"คงเหมือนกับวิญญานล่ะมั้งแต่ฉันยังไม่ตาย" ลู่หานยังเอ่ยเสียงเจื้อยจ้าวไม่หยุด ตากลมโตก็สำรวจห้องนอนไอดอลไปด้วยทุกซอกซุกมุมอย่างสนอกสนใจ
"ยังไม่ตายก็กลับเข้าร่างไปดิ มาล่องลอยแบบนี้คนอื่นเขากลัวนะเว้ย"
"นายกลัวฉันเหรอ?"
"ไม่อะ คิดว่าตัวเองตอนนี้น่ากลัวมากมั้ง มุ้งมิ้งสุด"
นิ้วเรียวเคาะลงบนริมฝีปากบางอย่างครุ่นคิดก่อนจะทรุดตัวลงนั่งข้างๆคนตัวสูง "ก็มีแต่นายที่เห็นฉันอะ แล้วนายก็ไม่กลัวฉันด้วย งั้นคงไม่เป็นไรมั้ง"
เซฮุนพรูลมหายใจออกมายาวเหยียดหันไปพิจารณาอีกคนตรงๆ "ไหนลองเล่าให้ฟังหน่อยสิว่าเรื่องมันเป็นยังไง"
"คืองี้" ปากเล็กฉีกยิ้ม "ฉันจมน้ำอะเลยนอนเป็นเจ้าชายนิทราแต่พระเจ้าดันยื่นเดิมพันมาให้ว่าถ้าภายในสามเดือนฉันเจอรักแท้และสามารถรักกับคนๆนั้นได้ทั้งที่ยังเป็นสูญญากาศ ฉันก็จะตื่นขึ้นมาอีกครั้ง"
"นิทานหลอกเด็กป่ะวะ นี่มันยุค2015แล้วนะเว้ย"
"คนอื่นมองไม่เห็นฉันจริงๆปะล่ะ มันคือความจริง"
"นายจะเจอรักแท้แล้วรักกับคนนั้นได้ไงวะในเมื่อไม่มีใครเห็นนาย" ปากบางหยุดพูดราวกับเพิ่งคิดอะไรได้ ตาคมเบิกโพรง กลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ ก่อนจะค่อยๆเปล่งเสียงออกมาอีกครั้งอย่างยากลำบาก "อย่าบอกนะว่ารักแท้ของนายคือฉัน?"
มือหนายกขึ้นกุมหน้าอกทุบมันเบาๆสามสี่ที ทำไมใจถึงเต้นแรงทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ก็เต้นปกติแท้ๆ หากสิ่งที่คนตัวเล็กพูดมาทั้งหมดเป็นเรื่องจริงก็หมายความว่าคู่แท้ของผีน่ารักตัวนี้คือเขางั้นเหรอ? แม้จะไม่รู้สึกกลัวอีกคนแต่ก็ได้แต่ภาวนาให้เรื่องนี้เป็นเพียงแค่ความฝันที่จางหายไปเมื่อลืมตาตื่น
"จะรู้มั๊ยเล่า ทั้งๆที่ฉันชอบคิมจงอินมากแท้ๆ ทำไมเขาถึงมองไม่เห็นฉันนะ"
"ย๊าส์!!!ฉันหล่อกว่าไอ้จงอินสิบเท่า ถึงไอ้จงอินเห็นนายมันก็ไม่พิศวาสนายหรอก อาจจะกลัวนายจนช็อคตายเลยก็ได้" เซฮุนตะโกนออกมาเสียงดังจนฝ่ามือบางของลู่หานตะปบปิดแทบไม่ทัน นิ้วชี้ยกขึ้นมาแตะริมฝีปากเป็นเชิงบอกให้เซฮุนเงียบ "ชวู่"
"ตะโกนทำไมเล่า อย่าลืมว่าคนอื่นไม่เห็นฉัน ไม่อยากโดนด่าว่าบ้าก็อย่าเผลอเสียงดังแบบเมื่อกี้อีก"
ใบหน้าที่ใกล้กันจนรับรู้ได้ถึงลมหายใจอุ่นๆของอีกคนทำให้หัวใจยิ่งเต้นแรงมากขึ้นไปอีก ดวงตาคมวูบไหวเพราะความรู้สึกแปลกๆที่ก่อตัวขึ้นข้างใน ก่อนจะสะบัดหน้าออกจากฝ่ามือนุ่ม
"เออๆ ไหนเล่าต่อดิ๊ ถ้าสามเดือนนายรักกับรักแท้ของนายแล้วไงต่อ"
"พระเจ้าไม่ได้ใจดีกับฉันมากขนาดนั้นหรอกนะ ฉันจะตื่นขึ้นมาพร้อมๆกับความทรงจำตลอดสามเดือนที่หายไป"
"หมายความว่านายจะลืมเรื่องราวทั้งหมดรวมถึงคนรักของนายด้วย?"
ลู่หานผงกหัวขึ้นลง ใบหน้าหวานสลดลงเพราะความหดหู่เศร้าหมอง
"ใช่ฉันจะลืมเรื่องราวทั้งหมดแต่คนรักของฉันจะยังจำได้เหมือนเดิม มันไม่แฟร์เลยว่าป่ะ"
วูบนึงในดวงตากวางเซฮุนเห็นความเศร้าในนั้น โดยไม่รู้ตัวเขาก็เผลอมีท่าทีที่อ่อนลง บางทีการอยู่ร่วมกับผีอาจไม่ใช่เรื่องน่ากลัวแบบที่คิด
"ทำไมนายถึงมาอยู่ที่นี่ได้?แล้วกลับบ้านไปได้ป่ะ?"
"ฉันก็ไม่รู้อะไรทั้งนั้นแหละ จู่ๆก็โผล่ที่นี่แถมยังเป็นสูญญากาศที่ไม่ได้มีพลังวิเศษเหี้ยไรเลยซักอย่าง หายตัวก็ไม่ได้ ไปไหนมาไหนยังต้องเดินเหมือนคนปกติ เจ็บได้เหมือนคนปกติ หิวเหมือนคนปกติด้วย"
ดวงตาคมเบิกโพรงอีกครั้ง เขาเริ่มเห็นเค้าลางของความวุ่นวายแล้วสิ เป็นผีแต่ยังต้องกินต้องหลับต้องนอนเหมือนคนปกติ มันจะไม่วุ่นวายเลยถ้าผีน่ารักตัวนี้ไม่มาสิงสถิตย์อยู่ที่หอพักของเขาและประเด็นที่สำคัญมากๆคือเขาดันเป็นคนเดียวที่เห็นและสัมผัสผีตัวนี้ได้
"หมายความว่า?"
"หมายความว่าฉันจะตามติดนายไปทุกที่เพื่อขออาศัยกินข้าวกับนาย แต่ที่หลับนอนไม่ต้องฉันจะไปนอนยัดกับจงอินเอง"
มือหนาฟาดลงบนหน้าผากมนของอีกคนเต็มแรงเพราะหมั่นไส้กับท่าทางเวลาเพ้อหนักถึงเพื่อนตัวดำ ตากลมหันมามองขวับอย่างไม่ชอบใจ ตีหน้าบึ้งตึงก่อนจะเปิดประตูเดินออกจากห้องไปท่ามๆกลางความตกตะลึงของเซฮุน
"อร๊ายยจงอินสนิทกับคยองซูจริงๆด้วย ชานยอลก็สนิทกับแบคฮยอน งุ้ยยมาสนิทกันให้เห็นแบบนี้ติ่งก็ดิ้นตายสิ" รอยยิ้มแพรวพราวราวกับสาวเพ้อฝันของลู่หานทำเอาเซฮุนที่เดินตามออกมาติดๆถึงกับสั่นหน้าไปมา จะว่าน่าเอ็นดูก็น่าเอ็นดู จะว่าน่ารักก็น่ารัก เพิ่งบอกว่าคลั่งไคล้จงอินไปหยกๆไหงตอนนี้มาจับจิ้นกับคยองซูไปซะได้ อนุภาพของหนุ่มวายช่างน่ากลัว
"อ้าวออกมาแล้วเหรอวะ?เป็นอะไรเปล่าคิ้วขมวดแบบนี้" ลีดเดอร์ซูโฮเอ่ยถามเมื่อเห็นน้องชายคนสนิทเดินออกจากห้องมาเงียบๆ
เซฮุนสั่นหัวเบาๆปฎิเสธ ปรายตามองจงอินที่กำลังวอแวคยองซูอยู่ครัว ก่อนจะพูดออกมา "สวีทกันให้น้อยๆหน่อย หน้าต่างมีหูประตูมีช่องเว้ย เผื่อมีคนนอกมาเห็นคาบออกไปตีใส่ไข่จะฉาวไม่รู้ตัว"
จงอินหันขวับมายกนิ้วกลางให้เป็นของขวัญแต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เขาสนใจหรอก ใบหน้าบึ้งตึงของคนตัวเล็กที่กำลังเดินปึงปังมาจ้องหน้าเขาอย่างเคืองๆต่างหากน่าสนใจกว่าเยอะ คิ้วหนายักคิ้วให้อย่างกวนอารมณ์
"ปากหมาจริงๆ"
ลู่หานกอดอกยืนมองเซฮุนที่ยักคิ้วหลิ่วตาให้อย่างท้าทาย "ไม่น่าเกิดมาหล่อเลยว่ะ เสียดายหน้าตาจริงๆ"
เซฮุนชะงักมองค้อนอย่างไม่พอใจได้แต่บ่นขมุบขมิบเบาๆไม่ให้ใครได้ยิน
"เซฮุนฉันหิว"
ร่างสูงถอนหายใจ มองหน้าอีกคนอย่างคาดโทษ ก่อนจะหันไปถามคยองซูว่ามีอะไรให้ทานบ้าง ลู่หานยกยิ้มที่มุมปากอย่างน้อยโอเซฮุนก็ไม่ได้ใจร้ายกับเขามากนัก
"ตักไปเยอะขนาดนั้นทานหมดหรือไง ทุกทีเห็นทานแค่แมวดม" ตาโตเบิกกว้างมองอย่างสงสัยเมื่อเห็นมักเน่ตักข้าวผัดกิมจิไปพูนจานใหญ่
"หิว ผมไปทานในห้องนะ อยากอยู่เงียบๆ"
ทั้งคยองซู จงอิน และเมมเบอร์ต่างมองตามร่างสูงสมส่วนของเซฮุนอย่างประหลาดใจ กินข้าวจำเป็นต้องเงียบขนาดไหนกัน แม้จะไม่ค่อยเข้าใจท่าทางแปลกๆของมักเน่มากนักแต่ทุกคนก็ไม่ได้สนใจต่างคนต่างหันไปโฟกัสกับสิ่งที่ตัวเองกำลังทำอยู่แทน
"นายไม่มีพวกอาหารจีน อย่างจาจังมยอนบ้างเหรอ?"
คนตัวเล็กที่เพิ่งตักข้าวผัดกิมจิเข้าปากเอ่ยถามออกมา รสชาติที่ไม่คุ้นลิ้นทำให้เขาไม่ค่อยเจริญอาหารมากนัก
"ย๊าส์!มีให้นายกินก็บุญโขแล้ว" เซฮุนบอกเสียงห้วนตวัดตามองอย่างขัดใจ
"ก็รสชาติมันไม่คุ้นลิ้นอะ ไม่เคยกินอะเข้าใจมะ?"
"อย่ามาตลก ใครจะไม่เคยกินข้าวผัดกิมจิบ้าง นายไม่ใช่คนเกาหลีหรือไง?"
"เออเดะ ฉันเป็นคนจีน"
คิ้วเข้มเลิกขึ้นอย่างฉงน แต่ก็กระจ่างเมื่อได้ยินประโยคถัดมาจากปากของผีน่ารัก "ฉันเป็นแฟนคลับexoเลยเรียนภาษาเกาหลี ไม่งงนะ"
"ว่าแต่ชื่ออะไร?"
"ฉันเหรอ?" ตาโตช้อนขึ้นมองเซฮุน "ลู่หาน เสี่ยวลู่หาน"
.
.
.
.
นั่งล้อมวงดูหนังกลางดึกดูเหมือนจะเป็นกิจกรรมกระชับความสัมพันธ์ระหว่างเมมเบอร์ได้ดี แต่ทว่าหนังรักโรแมนซ์ไม่ใช่สไตล์เขา โอเซฮุนเอนตัวพิงกับพนักพิงโซฟาอย่างเบื่อหน่าย อยากหนีเข้าไปนอนเล่นในห้องก็คงเป็นการกระทำที่เสียมารยาทจนเกินไป นิตยสารแฟชั่นหัวนอกถูกหยิบมาอ่านฆ่าเวลา พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นร่างบางกำลังนั่งเบียดเสียดกับจงอินและคยองซู
.
.
.
.
นั่งล้อมวงดูหนังกลางดึกดูเหมือนจะเป็นกิจกรรมกระชับความสัมพันธ์ระหว่างเมมเบอร์ได้ดี แต่ทว่าหนังรักโรแมนซ์ไม่ใช่สไตล์เขา โอเซฮุนเอนตัวพิงกับพนักพิงโซฟาอย่างเบื่อหน่าย อยากหนีเข้าไปนอนเล่นในห้องก็คงเป็นการกระทำที่เสียมารยาทจนเกินไป นิตยสารแฟชั่นหัวนอกถูกหยิบมาอ่านฆ่าเวลา พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นร่างบางกำลังนั่งเบียดเสียดกับจงอินและคยองซู
ใบหน้าสวยงามที่ไม่มีใครเห็นเปลี่ยนเป็นสีแดงจัดเมื่อลองพิงตัวซบกับแผงอกแกร่งของจงอิน ก่อนจะย้ายร่างมานั่งข้างโอเซฮุนแทน ริมฝีปากล่างถูกฟันขาวขบกัดแน่นจนห้อเลือด ชายเสื้อยืดราคาแพงของไอดอลหน้าเป๊ะก็ถูกมือเล็กของสุญญากาศจับไว้แน่นเช่นกัน อากัปกิริยาเขินอายของลู่หานทำเอาชายหนุ่มถึงกับสั่นหน้าไปมาอย่างระอา
"มึงสั่นหน้าทำไม?อิจฉากูอะดิ" คิมจงอินเอ่ยถามพลางวาดวงแขนยาวโอบรัดเอวบางของคนรักตัวเล็กไว้หลวมๆพร้อมยกยิ้มยียวน
"เหอะ มึงมีอะไรให้กูอิจฉา?" คนถูกพาดพิงสวนกลับด้วยคำถามรุนแรง
"กูมีแฟน" จงอินตอบแล้วยักคิ้วให้อย่างเป็นต่อทำเอาร่างเล็กที่ถูกโอบรัดอยู่หน้าร้อนผ่านจนต้องหันไปถลึงตาโปนๆตำหนิรุ่นน้องคนพิเศษ
โอเซฮุนถอนหายใจยาว เขาไม่ได้รู้สึกอิจฉาเลยซักนิด เป็นแฟนคยองซูก็คงไม่ต่างกับกระสอบให้คนตัวเล็กซ้อม เวลาก็ไม่ค่อยจะมีให้อีกต่างหาก ระดับโอเซฮุนไม่จำเป็นต้องมีแฟนเป็นตัวเป็นตนหรอก เป็นโสดให้ไอดอลสาวสวยหุ่นดีเรียงคิวเข้ามาจีบหล่อๆดีกว่า ใครควรอิจฉาใครกันแน่
"เขาเป็นแฟนกันจริงๆด้วย อร๊ายยย"
ร่างสูงปรายตามองท่าทางดีดดิ้นของผีหนุ่มแล้วยกเบียร์ที่เหลืออยู่ก้นกระป๋องขึ้นมากระดกดื่มเงียบๆ
"กินด้วยดิวะ" กระป๋องเบียร์ถูกแย่งไปโดยฮยองตัวนุ่มนิ่ม เซฮุนตวัดสายตามองอย่างเคืองๆก่อนจะเบิกตากว้างอย่างตกใจเมื่อได้ยินเสียงอวดครวญของร่างสุญญากาศ ร่างเล็กถูกแบคฮยอนนั่งทับตักจนหน้าเบ้ ส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือพร้อมกับพยายามดันร่างของอีกคนให้ลุกจากตักแต่ไม่เป็นผล หันมาช้อนตามองใบหน้าคมคมอย่างหงุดหงิด
คนเดียวที่ได้เห็นและได้ยินเบือนหน้าหนีด้วยท่าทีเซ็งๆ
"บอกแบคฮยอนลุกไปที ฉันหนักจะตายอยู่แล้ว" ลู่หานสั่งด้วยน้ำเสียงกึ่งรำคาญเมื่อเห็นเซฮุนเอาแต่นั่งบื้อทำหน้าเหวอไม่ยอมช่วยทั้งที่เห็นอยู่เต็มสองตาว่าเขาทรมานขนาดไหน
"ฮยองลุกขึ้นก่อน" เซฮุนสะกิดไหล่แบคฮยอนเบาๆ
"มีอะไรอีก?มึงนี่น่ารำคาญจริงๆ" แบคฮยอนบ่นอย่างหัวเสียพลางลุกขึ้นมองหน้าน้องชายด้วยความไม่เข้าใจ
ดวงตาคมเหลือบมองร่างสุญญากาศที่ลุกขึ้นจากโซฟาทันก่อนที่แบคฮยอนจะนั่งทับลงไปอีกครั้งอย่างหวุดหวิด มุมปากยกยิ้มอย่างโล่งใจท่ามกลางสายตางุนงงของเหล่าเมมเบอร์
"แล้วฉันจะนั่งตรงไหนล่ะทีนี้" เสียงหวานบ่นพึมพัมพลางกวาดสายตามองไปรอบๆตัว โซฟาสองตัวถูกเมมเบอร์และเมเนเจอร์รวมแปดคนจับจองจนเต็มทุกพื้นที ดวงตากลมโตก้มลงสบตากับคนตัวสูงอย่างออดอ้อนแต่ก็ไร้การสนองจากอีกคน โอเซฮุนยกเบียร์ขึ้นดื่มต่อด้วยท่าทีสบายๆไม่สนใจท่าทางหงุดหงิดงุ่นง่านของผีหนุ่มแม้แต่น้อย
"อย่าเมินกันแบบนี้นะ เดี๋ยวฉันโมโหขึ้นมาจะแกล้งหลอกให้หัวโกร๋นเลย"
เซฮุนกระตุกยิ้มนึกขำกับคำขู่ที่ไม่ได้น่ากลัวเลยซักนิดของผีน่ารักแต่ก็แกล้งเมินต่อ
"ไม่กลัวใช่มั๊ย? ได้ คืนนี้ฉันจะทำให้นายจับไข้เอง"
"เซฮุนอ่า หาที่นั่งให้ฉันหน่อยสิ"
"เซฮุนอ่าบอกคยองซูลงจากตักจงอินก็ได้เดี๋ยวฉันยอมไปนั่งอึดอัดบนตักจงอินแทนเอง" เสียงหวานยังดังรบกวนไม่เลิกลา ใบหน้าหล่อเหลาหันมาจ้องใบหน้าสวยงามของผีหนุ่มด้วยความละเหี่ยใจปนรำคาญนิดๆ ดวงตากวางจ้องหน้าไอดอลหนุ่มกลับเช่นกัน ท่าทางออดอ้อนของลู่หานเวลานี้ทำเอาก้อนเนื้อที่อกข้างซ้ายของไอดอลที่ได้ชื่อว่าไร้หัวใจวูบไหวเต้นผิดจังหวะ ใบหน้าคมเข้มเบือนหนีความน่ารักตรงหน้าด้วยความรู้สึกแปลกๆ
เออยอมรับว่าน่ารักแต่นั่นผีนะเว้ย
"ทำไมนายใจร้ายแบบนี้วะ ขึ้นไปขี่คอนายดีมั๊ยห๊ะ?" ปากเล็กเบะออกอย่างเคยตัวพร้อมกับเท้าสะเอวมองร่างสูงด้วยความขุ่นเคือง
เซฮุนสั่นหน้าอย่างเอือมระอา ถ้าเป็นเรื่องจริงอย่างที่ลู่หานบอกก็เท่ากับว่าวิญญานของลู่หานจะวนเวียนอยู่รอบตัวเขาไปอีกสามเดือน เพิ่งผ่านไปแค่ไม่กี่ชั่วโมงเขายังรู้สึกว่าชีวิตมันวุ่นวายมากจนน่าปวดหัวขนาดนี้แล้วเวลาที่เหลืออีกสามเดือนเขาไม่ต้องเครียดจนเสียสติหรือไง มันไม่ได้ลำบากอะไรหรอกที่มีผีน่ารักมาตามวอแวเพียงแต่เมมเบอร์คนอื่นๆไม่รู้ไม่เห็นเหมือนกันกับเขามันเลยยากที่จะช่วยเหลืออีกฝ่ายตรงๆ
"รำคาญฉันใช่ไหมล่ะ?ไปโทษพระเจ้าสิฉันไม่ได้อยากให้นายเห็นซักหน่อย" ผีหนุ่มเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงกึ่งตัดพ้อพลางยกมือขึ้นกอดอกแล้วเดินไปเดินมาเหมือนคนกำลังใช้ความคิด
ไม่ได้บอกว่ารำคาญเพียงแต่คิดหาวิธีช่วยไม่ให้ตัวเองดูเหมือนคนบ้าอยู่ต่างหาก
"ถ้าเป็นไปได้ฉันก็อยากให้คนที่เห็นฉันเป็นคิมจงอินซะ...อ๊ะ" ร่างเล็กยังพูดไม่ทันจบประโยคก็ถูกฝ่ามือใหญ่กระชากแขนให้นั่งลงบนตัก ลู่หานหน้าเหวอและออกอาการเกร็งทันทีที่ถูกอ้อมแขนแกร่งโอบรัดที่ช่วงเอว ตาโตกระพริบปริบๆเพื่อขับไล่ความรู้สึกแปลกๆทิ้งก่อนจะหันไปมองหน้าอีกคนที่ยังคงทำหน้าบื้ออย่างงงงวย
"ฉันเอ่อฉันไม่ได้บอกให้นายช่วยแบบนี้ซักหน่อย" ลู่หานพูดเบาๆ ก้มหน้าลงชิดกับอกด้วยความประหม่า
"เงียบเถอะน่า" เสียงทุ้มเข้มดังขึ้นข้างหู ก่อนจะสัมผัสได้ถึงอัตราการเต้นของหัวใจเซฮุนที่เต้นเร็วและแรงไม่ต่างจากเขาแม้แต่น้อย ร่างเล็กดิ้นยุกยิกเพราะแผ่นหลังที่ชิดกับแผงอกของคนตัวสูงมากเกินไปทำให้รู้สึกอึดอัด
"อยู่นิ่งๆหนักแล้วยังไม่รู้ตัวอีก" เซฮุนเอ่ยตำหนิผีน่ารักตัวนี้ออกมาเบาๆ ส่วนผีร่างเล็กนั่งตัวเกร็งมากกว่าเดิมเมื่อโดนทักท้วงเรื่องน้ำหนักตัว
มุมปากเผลอยกยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว ลู่หานไม่ได้หนักอย่างที่เขาว่าเลยซักนิดเพียงแต่เวลาที่ดิ้นยุกยิกบนตักมันสุ่มเสี่ยงที่อะไรต่อมิอะไรจสัมผัสกันเกินไป แอลกอฮอล์ที่กระดกเข้าไปทำให้ร่างกายสูบฉีดจนคึกคักไม่น้อย ไหนจะกลิ่นตัวหอมอ่อนๆที่โชยมาแตะจมูกก็ชวนให้รู้สึกวาบหวิวแปลกๆ เขายังไม่อยากบริหารมือในคืนนี้เพราะฉะนั้นผีน่ารักตัวนี้ควรนั่งนิ่งๆดีที่สุด
"มีใครจะแดกเบียร์ต่อกับกูมั้ง?" ชานยอลละใบหน้าออกจากตู้เย็นมาถามพลางยกนิ้วขึ้นมานับจำนวนคนก่อนจะหอบเอากระป๋องเบียร์ไปแจกจ่ายให้ทีละคน
"อย่าให้เมามากนะพวกมึงพรุ่งนี้มีงานบ่าย" จงแดหันมาสั่งทิ้งท้ายแล้วกอดคอเพื่อนรุ่นพี่สุดซี้เข้าห้องนอนไป ชานยอลกระตุกยิ้มร้ายหันมาชนแก้วกับเมมเบอร์ที่เหลือต่อ
"อย่าให้ไอ้ฮุนกินเยอะมันเมาแล้วเรื้อน" ซูโฮเอ่ยแขวะมักเน่ที่นั่งพิงโซฟาเฉยๆไม่ได้สนใจบรรยากาศคึกคักรอบกายเลยแม้แต่น้อย ลู่หานเองก็หันมามองใบหน้าเรียบเฉยของเซฮุนด้วยเช่นกัน
"นายเมาแล้วเรื้อนจริงเหรอ?"
คนถูกถามไหวไหล่ปรายตามองที่นั่งข้างตัวที่ว่างตั้งแต่จงแดกับมินซอกลุกออกไป ผีร่างเล็กรีบย้ายตัวเองมานั่งข้างๆที่ยังว่างแทน อยู่ดีๆก็รู้ขึ้นเขินอายขึ้นมาเสียดื้อ โอเซฮุนต้องหนักจนทนไม่ไหวแน่ๆ
"ตักฉันมันน่านั่งกว่าใช่มั๊ย?"
บางทีลู่หานคิดว่าตัวเองอาจจะกำลังเมากลิ่นเบียร์ที่คละคลุ้งไปทั่วบริเวณถึงได้รู้สึกเห่อร้อนที่ใบหน้าแบบนี้ หรือไม่ก็อาจเป็นเพราะกล้ามท้องสวยงามของจงอิน ไม่มีทางใช่เซฮุนแน่ที่ทำให้เขาเขินอายจนไม่เป็นตัวเองแบบนี้ ถ้าจะให้เขาเป็นสุญญากาศก็ช่วยให้เขาหายตัวได้ทีเถอะจะได้หลบหนีสถานการณ์อึดอัดแบบนี้ได้ทันท่วงที
.
.
.
.
.
..
.
.
.
.
"ผมไปนอนก่อนนะ" ใบหน้าหล่อเหลาสั่นไปมาเพื่อขับไล่ความรู้สึกกรึ่มๆบนหัวทิ้ง เบียร์5-6กระป๋องที่เขากระดกเข้าไปไม่ไม่ทำให้เมามายจนไร้สติก็จริงแต่ก็ทำให้ร่างกายร้อนวูบวาบจนอยากปลดปล่อยขึ้นมาเสียดื้อๆ
"ปกติมึงคอแข็งนี่หว่า" คิมจงอินใช้เท้าสะกิดต้นขาเพื่อนร่วมไลน์เบาๆ
"ไม่รู้ กูอยากนอนแล้ว" ร่างสูงพูดทิ้งท้ายไว้แค่นั้นก่อนจะปรายตามองสูญญากาศข้างๆที่นั่งเท้าคางมองเพื่อนสนิทผิวแทนด้วยสายตาหวานเยิ้ม เซฮุนแสะยิ้มด้วยความรู้สึกสมเพชแล้วเดินโซเซเข้าห้องนอนไปทิ้งให้เมมเบอร์มองตามอย่างเป็นห่วง
ร่างสูงสมส่วนพาตัวเองมานอนบนเตียงนุ่มๆ มือหนาก่ายหน้าผากเขาไม่ได้อยากนอนอย่างที่พูดเลยซักนิดก็แค่อยากหนีความรู้สึกวุ่นวายใจเท่านั้น แต่เหมือนเขาจะหนีมันไม่พ้น เสียงโห่ร้องอย่างสนุกสนานยังดังขึ้นจากด้านนอกเป็นระยะ ผีหนุ่มที่ตามวอแวเขาทั้งวันก็คงนั่งจุมปุกมองใบหน้าคมคายของคิมจงอินอย่างมีความสุขอยู่แน่ถึงไม่ตามเขาเข้ามา พอคิดได้อย่างนั้นก็อดเหยียดยิ้มสมเพชไม่ได้จริงๆ
เป็นแค่วิญญานจะรักกับคนได้อย่างไร
ชายหนุ่มผุดลุกขึ้นมานั่งพิงหัวเตียงนั่งคิดทบทวนเหตุการณ์ประหลาดที่เกิดขึ้นวันนี้ เขาควรจัดการกับมันยังไง มันเป็นเรื่องที่ยากจะทำใจเชื่อได้แต่มันก็คือเรื่องจริง เรื่องจริงที่เขาไม่อยากยอมรับมันเท่าไหร่นัก หากเผลอพลั้งปากบอกใครไปก็คงไม่มีใครเชื่อและคงไม่แคล้วถูกมองว่าเป็นคนบ้าด้วย
เซฮุนพลิกตัวไปมาบนเตียงนานนับชั่วโมงแต่ก็ไม่สามารถข่มตาให้หลับสนิทได้ เตียงข้างๆยังไร้เงาของซูโฮรวมถึงแบคฮยอนที่เป็นรูมเมท ลมหายใจถูกพรูออกมาสุดความยาวหยิบสมาร์ทโฟนที่วางอยู่บนหัวเตียงขึ้นมาดูเวลาก็พบว่าเพิ่งตีหนึ่งกว่าๆเท่านั้น อาการว้าวุ่นในใจไม่สามารถสลัดทิ้งได้โดยการหนีเข้ามานอนนิ้วเรียวยาวกดเข้าแอพพลิเคชั่นไลน์เพื่อติดต่อเพื่อนสนิทที่ทำให้เขาหายจากอาการแปลกๆนี้ได้
สองขายาวลากเท้าเดินออกมาจากห้องนอนก่อนจะหายเข้าไปในห้องน้ำเพื่อชำระล้างร่างกาย ไม่นานก็กลับออกมาอีกครั้งพร้อมยีนส์สกินนี่สีเข้มและเสื้อเชิ๊ตยีนส์ยี่ห้อดัง กลิ่นน้ำหอมจากแบรนด์ดังที่หอมฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณดึงความสนใจให้ทุกคนรวมถึงที่ไม่ใช่คนหันมามอง
"ผมออกไปข้างนอกนะ" เซฮุนบอกพลางเสยผมสีควันบุหรี่ขึ้นด้วยท่าทีไม่สบอารมณ์ คิ้วเข้มขมวดมุ่นปรายตามองรอบๆตัวด้วยความหงุดหงิดที่เจ้าตัวเองก็หาสาเหตุไม่เจอ โอเซฮุนรู้เพียงว่ารอบตัวเขาตอนนี้มันดูขวางหูขวางตาไปซะหมด หรือจะหมั่นไส้ใบหน้ายิ้มแย้มของคิมจงอิน
"มึงจะออกไปไหนดึกป่านนี้แล้ว มานั่งดื่มด้วยกันนี่แหละ" มือหนาดึงแขนเพื่อนตัวขาวให้นั่งลงข้างๆกันแต่ก็ถูกเซฮุนสะบัดออกเต็มแรง จงอินมองปฏิกิริยาคล้ายหมาบ้าของเพื่อนด้วยความไม่เข้าใจ เมมเบอร์คนอื่นๆต่างก็ตกใจไม่น้อยกับอารมณ์ที่ขึ้นๆลงๆของมักเน่
"เสือก" เซฮุนว่าพลางดุนลิ้นก่อนจะเดินออกไปด้วยท่าทางที่ใครเห็นเป็นต้องมองออกว่าเจ้าตัวกำลังอารมณ์เสียอยู่แน่
"ย๊าส์!ทำไมนายนิสัยแย่อย่างนี้วะเซฮุน จงอินเขาเป็นห่วงนายควรขอบคุณไม่ใช่พ่นคำพูดบ้าๆนี่ออกมา" ผีหนุ่มรีบวิ่งมาขวางที่ประตู สองแขนกางออกกั้นไม่ให้คนตัวสูงปากร้ายได้เดินออกไป ดวงตากลมโตจ้องมองดวงตาคมด้วยสายตากรุ่นโกรธ
"บอกว่าอย่าเสือกไง" เซฮุนกระแทกเสียงแล้วเปิดประตูออกไปท่ามกลางความงุนงงของเหล่าเมมเบอร์
"มันเป็นเหี้ยอะไรของมันวะ" จงอินสบถออกมาเสียงดังในขณะที่มือหนาก็ขยี้กลุ่มผมของตัวเองเพื่อระบายความหงุดหงิด บรรยากาศที่เคยสนุกสนานกร่อยสนิท เมมเบอร์ที่เหลือมองหน้ากันเลิ่กลั่ก คนตัวเล็กที่นั่งใกล้จงอินที่สุดเอื้อมไปบีบมือหนาสีแทนเบาๆ ดวงตาที่เคยมีแต่ความอบอุ่นแข็งกร้าวขึ้นจนดูน่ากลัว คยองซูไม่ชอบสายตาแบบนี้ของจงอินเลย
ร่างสูงสมบูรณ์แบบเดินเข้าไปในคลับหรูท่ามกลางความสนใจของนักเที่ยวราตรีก่อนจะสอดส่องมองหาเพื่อนสนิทที่คงจับจองที่นั่งตรงโซนvipเอาไว้รอ รอยยิ้มแพรวพรายผุดขึ้นบนใบหน้าเมื่อเห็นใบหน้าที่คุ้นเคยนั่งควงสองสาวสวยหุ่นอวบอิ่มอยู่ในมุมอับลับสายตาคน
"เป็นเหี้ยไรวะถึงได้นัดกูออกมาดึกขนาดนี้ เสี้ยนว่างั้น?"
เซฮุนรับแก้วเครื่องดื่มจากสาวสวยที่ดูคลับคล้ายคลับคลาอดีตเกิร์ลกรุ๊ปวงนึงกรอกลงคอภายในครั้งเดียวแล้วหันไปยักคิ้วทักทายเพื่อนสนิท
"อารมณ์ไม่ค่อยดีว่ะ กูรู้มึงช่วยกูได้"
"เยริม มึงคุ้นหน้าบ้างป่ะเคยเดบิวท์เมื่อ4ปีก่อนแต่ไม่ดัง" ฮยอนบินว่าพลางดันร่างสาวสวยหุ่นดีให้ขยับเข้าไปชิดกับเพื่อนไอดอลมากขึ้น คบกันมานานแค่มองตาเขาก็ดูออกแล้วว่าอีกคนต้องการอะไร
"นูน่า?" ใบหน้าหล่อเหลาเอียงคอถามหลังจากร่างอรชรย้ายจากโซฟามานั่งบนตักเขาแทน แผ่นหลังของหญิงสาวเบียดชิดกับอกแกร่งสะโพกกลมกลึงกบดเบียดกับของขวัญจากพระเจ้าที่ซุกซ่อนอยู่ใต้กางเกงยีนส์ราคาสูงลิ่ว ใบหน้าสวยงามที่ฉาบไปด้วยเครื่องสำอางเอียงคอมองกลับพร้อมพยักหน้าขึ้นลงอยางมีจริต
"ก็ดีครับผมจะได้ไม่เสียเวลาสอน" เซฮุนแสะยิ้ม มือหนาก็เลื่อนไปสัมผัสเรือนร่างอวบอิ่มที่โผล่พ้นเสื้อผ้าน้อยชิ้นออกมา นัยน์ตาที่ฉายแววความต้องการออกมาอย่างปิดไม่มิดของหญิงสาวดูก็รู้ว่าพอใจและกำลังอยากได้เขาจนตัวสั่น
โอเซฮุนคือชายหนุ่มที่สาวสวยทุกคนพร้อมใจกันถวายตัวให้ ถ้าอยากได้เซ็กส์ที่ร้อนแรงเซฮุนพร้อมให้ได้เสมอ แต่ถ้าอยากได้ความจริงจังหรือชื่อเสียงคงต้องขอลา
จากสัมผัสที่หวาบหวามก็เปลี่ยนเป็นรสจูบที่ร้อนแรง หากมุมนี้ไม่ใช่มุมอับหลายคนคงได้เห็นฉากจูบที่เร่าร้อนไม่แพ้อากาศในค่ำคืนนี้ สองลิ้นเกี่ยวตวัดอย่างหื่นกระหายไม่มีใครยอมลดละ มือหนาสาละวนอยู่บริเวณต้นขาขาวเนียนของหล่อนก่อนจะหายเข้าไปในกระโปรงสั้นเต่อไม่สนใจสายตาของเพื่อนสนิทและคู่ขาที่มองมาอย่างสนอกสนใจแม้แต่น้อย
"อื้อ เซฮุนอ่า" หญิงสาวครางออกมาแข่งกับเสียงเพลงพลางเชิดหน้าขึ้นให้ริมฝีปากร้อนของไอดอลหนุ่มได้ซุกไซร้ลำคอขาวผ่องได้ถนัดขึ้น
"ไปต่อที่โรงแรมนะครับ" เซฮุนผละออกอย่างอ้อยอิ่งพร้อมยื่นที่อยู่โรงแรมหรูส่งให้หล่อน ชายหนุ่มหันไปล่ำลาเพื่อนสนิทเพียงเล็กน้อยก่อนจะเดินตรงไปยังทางออกของร้านด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม อารมณ์กำหนัดที่คั่งค้างมาจากหอพักถูกกระตุ้นขึ้นมาเมื่อครู่และกำลังจะถูกปลดปล่อยในอีกไม่ช้า
เซฮุนติดกระดมเสื้อพลางปรายตามองเตียงที่ยับยู่ยี่เพราะกิจกรรมเข้าจังหวะที่เพิ่งจบลงไปหมาดๆ หญิงสาวกายเปลือยเปล่ายังนอนหลับสนิทหลังบำบัดอารมณ์ให้เขามาทั้งคืน ไอดอลหนุ่มเขียนโน๊ตสั้นๆแปะไว้บนหัวเตียงเพื่อขอบคุณที่หล่อนมอบความสุขให้เขาตลอดคืนแม้มันจะเป็นเซ็กส์ที่เกิดจากความใคร่ล้วนๆแต่มันก็ทำให้เขาพอใจ เซ็กส์เมื่อคืนเป็นแบบที่เขาชอบ รุ่นพี่คนนี้ร้อนแรงจนเขาแทบไม่ต้องเปลืองแรงเหนื่อยแม้แต่น้อย ไว้โอกาสหน้าเขาอาจใช้บริการหล่อนอีกครั้ง
ท้องฟ้าข้างนอกเริ่มเห็นแสงสีส้มโผล่ขึ้นมารำไร เซฮุนดูเวลาบนนาฬิกาข้อมือเรือนหรูก็พบว่ามันใกล้หกโมงเช้าเต็มที เสียงเตือนจากมือถือยังดังรบกวนเป็นว่าเล่น เขาเหลือบมองรายชื่อที่โทรจิกเขายิกๆก่อนจะโยนทิ้งลงบนเบาะรถข้างๆอย่างไม่ใส่ใจ เบนซ์ราคาแพงขับไปตามท้องถนนแบบไม่เร่งรีบ เขามีงานบ่ายนั่นหมายความว่าเขาพอมีเวลาอ้อยอิ่งชมรถราที่วิ่งขวักไขว่บนท้องถนนไอ้อีกหลายชั่วโมง พลันนึกถึงผีหนุ่มขึ้นมาใบหน้าเปื้อนยิ้มก็บึ้งตึง ป่านนี้คงกำลังนอนซุกอกแน่นๆของจงอินอย่างที่เจ้าตัวว่า โดยไม่รู้ตัวชายหนุ่มก็เหยียบคันเร่งจนมิดไม่ถึง15นาทีก็โผล่มาที่คอนโดอย่างปลอดภัย
เซฮุนพรูลมหายใจช้าๆ ความจริงจังบนใบหน้าถูกปรับให้เป็นปรกติแม้ในหัวจะเต็มไปด้วยความคิดมากมายก็ตาม
"อะอ้าวเซฮุนกลับมาแล้วเหรอ?" ร่างเล็กผุดลุกขึ้นจากโซฟายกมือขึ้นสีตาไปมาด้วยใบหน้ากึ่งหลับกึ่งตื่น
ใบหน้าที่เพิ่งถูกปรับให้เป็นปรกติแปรเปลี่ยนเป็นความยุ่งยากเข้ามาแทนที่ ร่างสูงถอนหายใจแล้วตรงไปอาบน้ำเพื่อเตรียมตัวเข้านอน พยายามไม่สนใจใบหน้ากวางง่วงที่ดูน่ารักจนความวุ่นวายใจกลับมาเล่นงานเขาอีกครั้ง
"หายไปไหนมา?ทุกคนเป็นห่วงนะรู้มั๊ย?"
"ทำไมมานอนตรงนี้ไม่ไปนอนกับไอ้จงอินล่ะ" เซฮุนเลือกที่จะเมินคำถามของสูญญากาศแล้วหันมาถามกลับแทนหลังจากมองไปรอบตัวแล้วก็พบว่ามันเงียบสนิท ตอนนี้ทุกคนคงกำลังนอนหลับฝันดีไม่มีใครตื่นมาได้ยินเขาโต้ตอบกับผีแน่
"ก็จงอินนอนกับคยองซูอ่ะ โซฟานี่ก็แข็งชะมัดเหม็นกลิ่นเบียร์ด้วยไม่รู้ว่าเมารึเปล่าเนี่ย" ผีหนุ่มบ่นพึมพำ
"เตียงฉันก็ว่างทำไมไม่ไปนอน"
"ใครจะกล้านอนเจ้าของยังไม่อนุญาตเลย" ลู่หานตอบด้วยท่าทีหงุดหงิดก่อนจะทิ้งตัวลงนอนบนโซฟาอีกครั้งเพราะยังง่วงอยู่มาก
เซฮุนหลุดขำพรืดออกมาเมื่อเห็นท่าทางขี้เซาของผีหนุ่ม อันที่จริงก็น่าสงสารไม่น้อยเป็นผีแท้ๆแต่ทำอะไรไม่ได้ซักอย่าง รอยยิ้มจางๆประดับบนใบหน้าหล่อเหลาอย่างไม่รู้ตัว ชายหนุ่มสั่นหัวเบาๆอย่างเอ็นดูก่อนจะเดินตรงไปยังจุดหมายเดิมเพื่อชำระคราบคาวที่ชวนให้รู้สึกเหนอะหนะตัวออก ฝ่ามือใหญ่กวักน้ำลูบหน้าเพื่อให้รู้สึกสดชื่น นัยน์ตาคมกริบในกระจกเงาสะท้อนใบหน้าง่วงงุนของผีน่ารัก ใบหน้าคมเข้มสะบัดไปมาเพื่อไล่ความคิดที่รบกวนความรู้สึกทิ้ง เซฮุนเดินออกจากห้องน้ำด้วยชุดนอนสบายๆอย่างกางเกงบอลขาสั้นและเสื้อกล้ามย้วยๆ มือหนาสะกิดหัวไหล่ร่างเล็กที่นอนคดคู้บนโซฟา
"ไปนอนในห้องด้วยกัน"
เปลือกตาสีสวยปรือขึ้นเล็กน้อยเมื่อถูกสะกิด ร่างบางโงนเงนเดินตามร่างสูงของไอดอลหนุ่มเข้าไปในห้องนอนติดๆ แบคฮยอนและซูโฮนอนเบียดกันบนเตียงใหญ่ ลู่หานชี้นิ้วไปที่เตียงขนาดสามฟุตครึ่งพลางเลิกคิ้วขึ้นถามอย่างสงสัย เซฮุนพยักหน้าหงึกหงักก่อนจะล้มตัวลงนอนเพราะสูญเสียพลังงานไปทั้งคืน ตากลมโตกระพริบปริบๆจ้องมองที่ว่างติดผนังอันน้อยนิดด้วยความงงงวย เซฮุนหัวเราะเบาๆตบปุๆลงบนเตียงเป็นการเชื้อเชิญให้ร่างเล็กขึ้นมานอนด้วยกัน
ลู่หานสอดตัวลงใต้ผ้าห่มขยับตัวไปชิดผนังห้องเพื่อเลี่ยงการสัมผัสกับอีกคนให้น้อยที่สุด แต่เตียงที่คับแคบไม่ได้ช่วยให้ห่างกันแม้แต่น้อย แขนเขายังสัมผัสกับแขนแกร่งของเซฮุนอยู่ดี ชายหนุ่มพลิกตัวร่างบางให้นอนตะแคงหันหน้ามาทางเดียวกัน ในเมื่อดิ้นไปยังไงก็ไม่เป็นผลผีหนุ่มเลยนอนนิ่งๆแต่จังหวะที่ช้อนตาขึ้นมองก็เผลอไปสบตากับเซฮุนเข้าพาลให้รู้สึกแปลกๆจนต้องรีบหลุบตามองต่ำ ลู่หานกระพริบตาถี่ๆไล่ความวูบไหวในใจก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองค้อนไอดอลหนุ่มเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆในลำคอ
"ฉันว่าฉันกลับไปนอนที่โซฟาดีกว่า" เสียงหวานเอ่ยทำลายความเงียบ
"แต่โซฟามันแข็งนะ"
"นอนด้วยกันนี่แหละ แบคฮยอนฮยองนี่น่ารำคาญชะมัดแอบหยิบหมอนข้างฉันไปนอนกอดอีกแล้ว งั้นขอกอดนายแทนหมอนข้างหน่อยละกันนุ่มนิ่มเหมือนกันเลย"
เซฮุนพาดแขนยาวลงบนเอวบางก่อนจะรั้งร่างบอบบางหอมกรุ่นเข้ามาชิดตัว ระยะห่างระหว่างพวกเขาร่นเข้ามาใกล้เรื่อยๆจนรับรู้ได้ถึงหัวใจที่เต้นผิดจังหวะของอีกฝ่าย ฝ่ามือเล็กดันแผงอกของร่างสูงออกแต่ไม่สำเร็จ เซฮุนไม่ขยับออกแม้แต่น้อยมือเล็กเลยผละออกมากุมอกที่เต้นระรัวของตัวเองแทน
"เซฮุนเขยิบออกไปหน่อย ฉันอึดอัด"
"เงียบแล้วนอนเถอะน่า"
ใบหน้าน่ารักเห่อร้อนขึ้นมาอย่างไร้สาเหตุ ดวงตาคมกริบมองมาไม่ละสายตา สุดท้ายก็เป็นผีน่ารักเสียเองที่ซุกใบหน้าแดงฉ่าลงซบแผงอกแข็งแรงเพื่อหลบหนีสายตาที่ชวนให้ใจสั่น
ตำแหน่งเมนกำลังสั่นคลอน คิมจงอินอาจถูกลดให้เป็นแค่เมนรองถ้ายังไม่เลิกทำตัวติดกับคยองซู
*P.S*
จบตอนแล้ว เย่!จุดพลุฉลอง
มาลงให้อ่านเล่นๆถ้ามีคนอยากอ่านต่อเราจะกลับมาต่อให้อย่างรวดเร็ว
ส่วนตัวชอบคาแรคเตอร์ลู่หานกับเซฮุนเรื่องนี้มาก
ให้กำลังใจเราหน่อยนะ จุ๊บบบ
ขอบคุณนะคะ????
@jintaoh94
#ผีน่ารักhh
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น