อภิญญาหลุดโลก เมื่อฉันหลุดเข้าไปยังต่างโลก - นิยาย อภิญญาหลุดโลก เมื่อฉันหลุดเข้าไปยังต่างโลก : Dek-D.com - Writer
×

    อภิญญาหลุดโลก เมื่อฉันหลุดเข้าไปยังต่างโลก

    โดย JinShana

    อยู่ๆก็คิดอะไรสนุกๆขึ้นมาว่า "ต่างโลกจะเป็นยังไงนะ".... และสุดท้ายก็... ปิ๊วๆๆๆ ไปโผล่ที่ไหนก็ไม่รู้...

    ผู้เข้าชมรวม

    1,366

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    6

    ผู้เข้าชมรวม


    1.36K

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    7
    จำนวนตอน : 26 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  1 ส.ค. 66 / 18:56 น.

    อีบุ๊กจากนิยาย ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    ความรู้พื้นฐานในการแต่งนิยาย   

                                

    สมาธิมีทั้งหมด 9 ระดับ เรียกว่า ฌานสมาบัติ(เรียกย่อๆว่า ฌาน ) แบ่งเป็น รูปฌาน4 อรูปฌาน4 นิโรธ1 รวมทั้งหมดเป็น 9 ระดับ

    ยิ่งสมาธิสูง จิตก็จะยิ่งดูดซึมพลังได้มากขึ้น เพราะจิตมีความละเอียดและว่างมากขึ้น ทำให้สามารถรับพลังเข้าสู่จิตได้มากขึ้น (กายว่าง พลังก่อเกิด ยิ่งกายว่าง จิตว่าง พลังยิ่งเกิดได้มาก)

    ระดับพลัง มี10ระดับหลักๆ และมีเหนือขึ้นไปอีก แต่ยังระบุในที่นี้

    1.กายาระลึกรู้(ฝึกสติพื้นฐาน)

    2.รวบรวมลมปราณ(จิตเริ่มสงบ)

    3.สร้างรากฐาน(ลมปราณ หรือ พลังจิตก่อรูป)

    4.มโนมยิทธิครึ่งกำลัง(ใช้ความสามารถทางจิตได้แบบครึ่งกำลัง หรือพลังจิตพลังวิญญาณเริ่มใช้งานได้แบบครึ่งกำลัง)

    5.รูปฌาน1(ระงับกายสังขาร มีความนิ่งเป็นเอกัคคตารมณ์ คือ จิตเริ่มเป็นหนึ่ง ไม่สนใจอารมณ์หรือสิ่งไดๆที่มากระทบ รู้สิ่งต่างๆโดยปราศจากความคิดก่อกวน มีความนิ่งรู้ กาย จิต ทำงานโดยสัญชาตญานโดยไม่ต้องคิดอะไรให้มาก แต่สามารถทำงานต่างๆได้ โดยปราศจากความคิด เป็นต้น คล้ายๆ โกคูในดราก้อนบอล ในร่าง Ulntra instinct)

    6.รูปฌาน2(เข้าสู่พลังงานภายในโดยตรง ก่อเกิดพลังจิตหรือพลังปราณอย่างเต็มกำลัง ทำให้การรับรู้ทางกายเปลี่ยนไปเป็นกายพลังงานทั้งหมด)

    7.รูปฌาน3(พลังงานเริ่มควบแน่น ก่อเกิดเป็นอาการรัดตรึง หรือร่างกายเหมือนกลายเป็น ปรมาณู นิวเคลียส์ หรือก้อนอะไรสักอย่าง มีอาการบีบอัด แต่ไม่รู้สึกทรมาน กลับรู้สึกว่า ยิ่งแน่น ยิ่งมีความสุข)

    8.รูปฌาน4(เข้าสู่สภาวะความว่าง ไม่มีอะไรเหลือ พลังงานต่างๆ กลายเป็นความโล่ง ว่าง คล้ายระเบิดที่ระเบิดออกมาแล้วทุกอย่างก็หายไปหมด ว่างเปล่าไปหมด ตรงนี้เรียกว่า จิตว่างโดยแท้จริง หรือ สภาวะจิตดั้งเดิม เรียกว่า จิตเดิมแท้ ก็ได้)

    9.มโนมยิทธิเต็มกำลัง(หลังจากบรรลุรูปฌานทั้ง4แล้ว จะทำให้สามารถใช้ความสามารถทางจิตวิญญาณ หรือพลังวิญญาณ ได้อย่างเต็มกำลัง)

    10.อภิญญาใหญ่(ความสามารถระดับเทพเซียน เทพเจ้า ยังมีแบ่งกันออกไปตามความรู้ความสามารถ และระดับพลัง ตามความชำนาญ การฝึกฝน และความรู้ที่มี)

    ปล.ระดับขั้นทั้ง10นี่ ยังไม่ใช่ที่สุด ยังมีต่อ ซึ่งเดะค่อยว่ากันอีกทีหลังจากคิดออก แถมพอไปยังต่างโลกก็ยังมีระดับที่แตกต่างออกไปจากโลกเราหรือจากที่เรารู้จักกันสะอีก :D

    ระดับพลังแบ่งออกเป็น3ขั้นหลักๆ เรียกว่า “อภิญญา” แบ่งออกเป็น 

    ระดับเล็ก(พื้นฐาน) จะเริ่มใช้ได้ตั้งแต่ ขั้นที่3-7

    ระดับกลาง(ขั้นกลาง) จะเริ่มใช้ได้ตั้งแต่ ขั้นที่8-9

    ระดับใหญ่(ขั้นสูงสุด) จะเริ่มใช้ได้ตั้งแต่ ขั้นที่10ขึ้นไป

    ส่วนอรูปฌาน หรือ สิ่งที่ไม่มีรูป คือการฝึกเพิ่มเติมหลังจากฝึกเส็ดในขั้นที่ 8 จะมีการฝึกไปในอรูปฌาน4 เพื่อช่วยทำให้จิตมีความละเอียดมากยิ่งขึ้น ทำให้การควบคุม ดูดซับพลัง หรือสติปัญญา มีความฉลาด หลักแหลม เข้าใจสิ่งต่างๆได้ง่ายมากขึ้น แบ่งออกเป็น4ระดับ ได้แก่

    1.อากาสานัญจายตนะ(ใช้จิตจับอากาศเป็นอารมณ์จนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน โดยมีพื้นฐานของฌานที่4หรือรูปฌานที่4เป็นพื้นฐานก่อน จึงจะสามารถเข้าใจความเป็นหนึ่งของจิตได้ และสามารถเอาจิตไปจับอากาศและกลายเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้ อากาศเป็นสิ่งที่ไม่มีรูปร่าง จึงจัดเป็น อรูป จึงเรียกว่า อรูปฌาน)

    2.วิญญาณัญจายตนะ(เมื่อฝึกในขั้นอากาศไปแล้ว จะพบว่าแม้จะไม่มีอะไรเลยในอากาศ แต่ก็ยังมีการรับรู้อยู่ วิญญาณ จึงแปลว่ารับรู้ จึงกำหนดวิญญาณเป็นอารมณ์ต่อจนกว่าจะเป็นหนึ่งเดียวกัน)

    3.อากิญจัญญายตนะ(คือสภาวะของจิตเดิมๆ จิตที่ไม่มีอะไรเลย เมื่อเราจับวิญญาณอยู่ เราจะพบว่ามันไม่มีอะไรเลย เราจึงจับความไม่มีอะไรเป็นอารมณ์ต่อ)

    4.เนวสัญญานาสัญญายตนะ(หมายถึงความจำ ที่จำได้บ้าง ไม่ได้บ้าง เหมือนคนลืมเลือนหรือสมองเสื่อม อัลไซเมอร์ เมื่อเราจับอยู่ในความไม่มีอะไรเลย เราจะพบว่าเรายังมีความจำได้หมายรู้อยู่ เราจึงมาจับที่ความจำได้หมายรู้ต่อว่า มันจำได้บ้าง ไม่ได้บ้างเป็นอารมณ์)

    อรูปฌานทั้ง4นี่ จะฝึกหรือไม่ฝึกก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับการที่จะมีพลังพิเศษ จะขอเรียกโดยรวมว่า "อภิญญา" ก็แล้วกัน แต่เขาฝึกเพื่อเสวยอารมณ์อันละเอียดอ่อนของจิต ซึ่งการฝึกอรูปฌานนี่ ก็จะให้อารมณ์คล้ายๆกันกับการฝึก วิปัสนา ที่จะทำให้บรรลุธรรมเป็นพระอริยะเจ้าตามลำดับ แต่ไม่ได้ทำให้บรรลุธรรมแต่อย่างได เพราะเป็นการเข้าไปแช่อยู่ในฌาน ไม่ได้ถอยออกมาเพื่อหยิบจับธรรมชาติต่างๆขึ้นมาพิจารณาให้เกิดปัญญาและเห็นซึ่งความจริงแท้ของสรรพสิ่ง จึงทำให้ไม่สามารถบรรลุธรรมได้ เป็นต้น

    นิโรธ คือ ขั้นของการดับกระแสจิตทั้งปวง เป็นขั้นของผู้ที่จะสำเร็จเป็นพระอรหันต์ ดับสิ้นซึ่งกิเลส เป็นต้น

    พระอริยเจ้า มีทั้งหมด 8ระดับ 4คู่ แบ่งเป็น มรรค4 ผล4 รวมเป็น8 มรรคกับผล นับเป็น1คู่ 

    มรรค หมายถึง การเรียนรู้ การฝึกอยู่ ศึกษาอยู่ เดินตามอยู่

    ผล หมายถึง ความสำเร็จผล แปลกตรงๆตัวไปเลย

    พระอริยเจ้าแบ่งเป็นคู่ดังนี้

    1.โสดาบันมรรค / โสดาบันผล

    2.สกิทาคามีมรรค / สกิทาคามีผล

    3.อนาคามีมรรค / อนาคามีผล

    4.อรหันตมรรค / อรหันตผล

    นี้คือข้อมูลเบื้องต้นคร่าวๆ หรือ การไล่ระดับที่สำคัญๆให้ฟัง เพราะเมื่อแต่งไปแล้ว อาจจะไม่ได้มาเล่าอะไรพวกนี้มาก เลยต้องบอกเอาไว้อย่างละเอียดก่อน เพื่อความเข้าใจ เพราะตอนเริ่มเรื่องอาจจะไม่ได้มาอธิบายเรื่องระดับพวกนี้ให้ยุ่งยากมาก เพราะเดี๋ยวจากนิยาย จะกลายเป็นเรียนหนังสือไป จะหมดสนุกกันพอดี 555 :D

     

     

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    คำนิยม Top

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    คำนิยมล่าสุด

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    ความคิดเห็น