บันทึกที่4 : คำสาปจมเรือไททานิค
=====================================
คงมะมีครัยมะรุจักเรืแอไททานิคนะงับ
เอิ๊ก ....เอากันจนเรือล่มO_o
แต่มีอีกกระแสนึงผมเอามาจากหนังสือชื่อว่า อาถรรพ์คำสาปอะคับ ของคอสมอส
งั้นมาอ่านพร้อมกันเลยคับ
คศ 1920
ก็มีนักโบรานคดีชาวอเมริกันอะคับ เดินทางไปอียิปต์เพื่อไปหานักอียิปวิทยาชาวอังกิดชื่อว่า ดักลาส เมอร์เรย์อะนะ ที่กรุงไคโร อียิป จุดประสงของเขาก็เพื่อขายสินค้าชิ้นนึง
สินค้านั้นก็คือ !บพระศพของเจ้าหญิงไอยคุปต์โบรานองค์นึง
เมื่อนักอียิปวิทยาเห็น!บพระศพถึงกะตาลึงเลยงะ เพราะมูลค่ามันมหาศาลเลยงับ
เจ้านักโบรานคดีเล่าว่าเขาพบที่วิหาร อะมอนรา(Amonra)<<<ชื่อ MVPนะเนี่ย ในธีบิส คาดว่าอายุราว1600ปี
เมอร์เรย์ตกลงจะซื้อ
เจ้านักโบรานคดีก็เลยบอกว่า "แต่มันมีอาถรรพ์หนร่อยนะ"
เพราะสิ่งที่จารึกบน!บมีข้อความว่า
"มันผู้ใดบังอาจรบกวนสถานที่ซึ่งเป็นที่ที่ร่างของข้าได้สถาปนาไว้ในอาณาจักรแห่งลุ่มน้ำไนล์ มันผู้นั้นจะต้องพบกับภัยพิบัติสยดสยองทุกวัน มันต้องตายทุกคน"
ความที่เมอร์เรย์ไม่เชื่อคำสาบ
จึงตัดสินใจซื้อ!บลง
พร้อมทั้งดีใจที่ได้ซื้อมาในราคาที่ถูก
ต่อมาไม่กี่ชั่วโมง มีข่าวว่านักโบรานคดีชาวอเมริกันผู้ซึ่งขาย!บให้ จบชีวิตลงอย่างปริศนา
หรือเพราะคำสาป?
เมอร์เรย์ตัดความรู้สึกฉงนทิ้ง และ รีบที่จะส่ง!บไปกรุงลอนดอนเพื่อจัดแสดง เมอร์เรย์จึงตัดสินใจจ้างบริษัทเดินเรือเพื่อขน!บไปนครลอนดอน
แต่ว่าสามวันหลังจากนั้น มีเหตุให้เขาได้ไปยิงปืนปรากดว่า ปืนเกิดระเบิดขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุโดนแขนเขาเปงแผลแหวะ
หมอต้องตัดแขนทิ้งกลายเปงคนพิการเลยอะคับ
อุบัดเหตุคราวนี้ทำให้ต้องส่ง!บไปกับเรือล่วงหน้า ส่วนตัวเขาก็พักรักษาอาการที่ไคโร
หลังจากที่เขาหายดีแล้ว
เขาก็รีบเดินทางไปลอนดอนแต่ระหว่างการเดินทางอยู่ในเรือ
เพื่อนของเขาที่มีส่วนในการขน!บพระศพ2คน และ หญิงรับใช้ชาวอียิปอีก1 พร้อมใจกันตายโดยไม่ทราบสาเหตุ
อย่างไรก็ตาม พอเมอร์เรย์ไปถึงอังกิด เขาก็รีบจัดการนำ!บพระศพออกจากโกดังท่าเรือกลับบ้าน
ที่บ้านนั่นละครับ
เขาตัดสินใจเปิด!บออกดู
เขาถึงกลับผงะเลยละ
ก็เพราะว่า ก็มัมมี่ที่เขาเห็นต่างจากที่เขาเห็นครั้งแรกอะ
มันดูเหมือนใบหน้าของคนมีชีวิตอยู่จิงจ้องมองเขาเขม็งด้วยความอาฆาต
คราวนี้ละจิ
เมอร์เรย์ปักใจเชื่อสนืทเลยว่า
สิ่งที่เขาเห็นและสัมผัสทั้งหมดคือ คำสาป
เมอร์เรย์จึงรีบหาหนทางเอา!บออกไปให้พ้นตัว หญิงร่วมชั้นเรียนของเขารับอาสาจะรับไว้เอง
ต่อมาแม่ของเธอล้มป่วยเสียชีวิต สามีทิ้ง แล้วตัวเธอก็เปงประสาทไปเลย
เมอร์เรย์เหงท่าจะไม่ดีจึงคิดหาทางมอบต่อไปที่พิพิดทะพันอังกิด
พิพิดทะพันก็แสนจะใจดี๊ใจดีรับเฉยเลย
แล้วก็เอามาจัดแสดงคับ
เปิดให้นักท่องเที่ยวซื้อบัตรเข้าชม
เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น
ขณะที่นักท่องเที่ยวคนหนึ่งกำลังถ่ายภาพ!บพระศพอยู่ดีๆ
ก็มีอันล้มตึงขาดใจตายคาที่เลย แค่นั้นยังมะพอ
นักอียิปวิทยาที่แตะต้อง!บ
ก็นอนตายตาเหลือกคาเตียง
กลายเปงข่าวไปทั่วอังกิดเยย
ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์อังกิดเลยตัดสินใจมอบให้พิพิธภัณฑ์แห่งชาตินิวยอร์ค
โดยจัดส่งไปทางเรือที่ดีที่สุด ทันสมัยทีสุด และใหญ่ที่สุด
นั่นคือ
เรือไททานิค นั่นเอง
เรือไททานิค เรือที่กล่าวกันว่ามะมีวันจม แต่ถ้าคนรู้ว่าขนย้ายพระศพก็คงจะกลัวกันแล้วไม่กล้าขึ้น
เรือไททานิคเที่ยวแรกออกเดินทางจาก เซ้าแธมป์ตัน สู่นิวยอร์ค วันที่
15เมษา คศ1912
แล้วทั่วโลกก็ต้องตะลึงกะข้าวว่า
เรือไททานิกชนภูเขาน้ำแข็งอัปปางลงกลางมหาสมุทรแอตแลนติก มีผู้โดยสารสียชีวิต 1498
ชะรอยเจ้าหญิงองคฺนี้คงต้องการอยู่อย่างสงบ ปราศจากการรบกวน
เธอจึงเลือกท้องน้ำที่ลึกที่สุดพร้อมด้วยบริวารติดตามอีก 1498 คน
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น