The King of tiger The Kizer of dragon - The King of tiger The Kizer of dragon นิยาย The King of tiger The Kizer of dragon : Dek-D.com - Writer

    The King of tiger The Kizer of dragon

    www.dark-justice.com เว็บไซด์ที่เหล่า Dark Justice เปิดขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์เพียงหนึ่ง..... ฆ่า!!! ....

    ผู้เข้าชมรวม

    519

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    519

    ความคิดเห็น


    4

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  สืบสวน
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  5 มี.ค. 53 / 12:39 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

    กรุงเทพมหานคร วันเสาร์

    คืนนี้มีศึกรอบตัดสินระหว่าง 2 ทีมฟุตบอลดัง

    ร้านเหล้า ผับ บาร์ เปิดทีวีจอใหญ่ รอรับเหล่าแฟนบอล แถบทุกร้าน

    แต่มันกลับเงียบเหงาวังเวงยิ่งกว่า วันทำงานซะอีก

    ......ทำไม

    205205 ต่อ 12  ณ เวลา 23.58 น.

    210200 ต่อ 15 ณ เวลา 23.59 น.

    257001 ต่อ 33 ณ เวลา 00.00 น.

    สิ้นสุดการ vote





    www.dark-justice.com

    ยอดสมาชิก 300000 คน เข้าชมขณะนี้ 289001 คน










         

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ



      "ไม่!!!!!!!!!!!!!!!!!!! ฉันยอมแล้ว ฉันฆ่านังนั่นเอง จับฉันส่งตำรวจเถอะได้โปรด" 

      ชายฉกรรจ์ใบหน้ามีรอยสักรูปงู ร้องอ้อนวอนเสียงดังลั่น โหยหวนอย่างน่าสมเพช 

      เขาถูกจับมัดข้อมือ มัดข้อเท้าย ติดกับเก้าอี้ไม้

      เบื้องหลังของเขาคือ   ชาย 3 คนในชุดพีธีกรรมสีดำคลุมหัวด้วยฮูด 

      ด้านหน้าชุดประดับด้วยสีแดงรูปกางเขนขนาดใหญ่ ....

      ยืนสงบนิ่งคล้ายดั่งรูปปั้น.....

      แลดูคล้ายพิธีกรรมของพวกบูชาปีศาจ....

      ด้านข้างชายผู้โชคร้ายคือ สกอร์บอร์ด ขนาดใหญ่

      ตัวเลขกำลังนับขึ้น ทีละ 1 ทีละ 1...

      www.dark-justice.com

      ยอดสมาชิก 300000 คน เข้าชมขณะนี้ 289015 คน

      205205 ต่อ 12  ณ เวลา 23.58 น.

      210200 ต่อ 15 ณ เวลา 23.59 น.

      257001 ต่อ 33 ณ เวลา 00.00 น.

      สิ้นสุดการ vote

      ชายในชุดพิธีกรรม กล่าวขึ้น

      "นายเสือ โหยนารี ผู้ร้ายในคดี ข่มขืน ฆ่า ผู้หญิง 5 คน บัดนี้ได้ถูกตัดสิน

      ด้วยคะแนนโหวตให้ประหาร 257001 คน ต่อ คะแนนโหวตให้ส่งตำรวจ 33 คน

      โดยบทลงโทษคือเฉือนอวัยวะเพศก่อนแล้ว... ประหารด้วยเก้าอี้ไฟฟ้า"

      "ไม่!!! ส่งฉันให้ตำรวจเถอะ อย่าฆ่าฉัน ฉันยังไม่อยากตาย อย่า!!!"

      นั่นคือภาพสุดท้ายของ ชายฉกรรจ์ ก่อนหน้าจอมืดลง เว็บไซท์ปิดให้บริการ....

      ***

      แดดของเช้าวันอาทิตย์ทอแสงที่ขอบฟ้า

      ดูเหมือนวันนี้จะเป็นวันที่เหล่ามนุษย์เงินเดือนเฝ้ารอคอยตลอดสัปดาห์

      แต่ความเหนื่อยล้าจากการทำงาน สะกดให้เขาและเธอยังคงอยู่ในนิทรา

      ทำให้ร้านรวงดูเงียบเหงา ถนนหนทางรถราบางตา

      จะมีก็แต่ผู้พิทักษ์สันติราช และเจ้าหน้าที่รัฐในหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

      ทึ่ต้องโหมเข้าประชุมด่วน เนื่องจากเหตุการณ์ ฆ่าประจานเมื่อคืน

      ***

      แต่ยังมีเจ้าหน้าที่อีกคนที่แม้จะมีขั้นยศเป็นถึงสารวัตร แต่กลับไม่ได้เข้าร่วมประชุม

      เขายังคงนั่งที่ร้านกาแฟหลังโรงพักติดกับที่จอดรถ บรรดาเจ้าหน้าที่เดินผ่านไปมา

      บางคนทานข้าวเช้า พ่อค้าแม่ค้าขะมักขะเม้นกับการขายของ

      "กาแฟล่ายแล้ว" เจ็กขายกาแฟ วางแก้วลงบนโต๊ะ "ลื๊อชื่อคิงช่ายไม๊"

      "เอ่อ ใช่ เจ็กรู้ได้ไง" นายตำรวจสบตาเถ้าแก่ด้วยความประหลาดใจ

      "มีข้อความฝากถึงลื๊อ" อาเจ็กหยิบกระดาษแผ่นเล็กออกจากกระเป๋าเสื้อวางบนโต๊ะ

      แล้วเดินกลับไปขายกาแฟต่อ

      คิงรีบเปิดข้อความดู

      "พี่คิง ข่าวว่าเป้าหมายต่อไปของพวกมันคือลูกชายเศรษฐี ตระกูล อัครวิวัฒน์ ที่

      กลับจากต่างประเทศ ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ไม่ได้จริงๆ งานนี้เสื่ยงเกินไป พวกมัน

      มีแต่อดีตตำรวจโหดทั้งนั้น ผมเกือบเสร็จมันเหมือนกัน โทษนะพี่แต่งานนี้ขอผ่าน
      "

      คิงนิ่งไปชั่วขณะ ก่อนเอาไฟแช็กออกมาเผากระดาษมอดไหม้เป็นจุล

      ชายหนุ่มกวาดสายตามองรอบบริเวณ แม้จะไม่มีสิ่งใดผิดปกติแต่เขาก็สังเกตุเห็น

      ผู้ชายคนหนึ่งนั่งอยู่ในรถยนต์ที่จอดอยู่ เจ้าของรถหยิบหนังสือพิมพ์ขึ้นมาอ่าน

      ขณะที่คิงเดินตรงเข้าไปเคาะกระจกรถ

      ก๊อก..ก๊อก... เจ้าของรถเปิดหน้าต่างลง ยื่นหน้ายิ้มแป้นให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ

      "มีอะไรเหรอครับ.....ผั๊วะ!!" คิงซัดหน้าเจ้าของรถเต็มแรง 

      เขาเปิดประตูออกแล้วลากเจ้าของรถออกมา เลือดกำเดาไหลจนเต็มเสื้อ

      ท่ามกลางสายตาเจ้าหน้าที่หลายสิบคู่!

      "ใคร!!" คิงพูดสั้นๆ เป็นความนัยต์

      "นี่มันเรื่อง.....ผั๊วะ" ชายเจ้าของรถยังไม่ทันได้พูดอะไร ก็โดนอีกหมัดซัดที่หน้า

      "บอกมา ใคร!!!!" สารวัตรเงื้อหมัดขึ้น ราวกับว่าเขาบ้าไปแล้ว

      "โอเค! โอเค! ผมบอกแล้ว.... ผมบอกแล้ว" คนเลือดออกเต็มจมูกโบกมือยอมแพ้

      "ผบ.สันติ" คิงสะบัดมือออกลุกขึ้นยืน มองไปรอบๆ ก็เห็นสายตากำลังตกตะลึง 

      หลายสิบคู่

      "สองคนนั่นน่ะ มานี่ซิ" คิงชี้ไปที่นายตำรวจชั้นประทวนสองนายที่อยู่ใกล้ที่สุด เจ้า

      หน้าที่ทั้งสองแม้จะเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด แต่ก็ไม่กล้ารีรอ รีบวิ่งมาหานาย

      "เขาหกล้มน่ะ พยุงเขาไปห้องพยาบาลที"

      "เอ่อ ครับ" 

      สารวัตรหนุ่มเร่งฝีเท้าตรงไปที่รถของตัวเอง แล้วหยิบมือถือออกมา 

      กดเบอร์คนที่เมมชื่อว่า สิงห์

      "สิงห์ พี่ต้องการของร้อน"

      "โหพี่ นี่จะไม่ถามไถ่สารทุกข์สุขดิบกันก่อนเลยหรอ" สิงห์เย้าหยอก

      "...."

      เมื่อไม่มีอะไรตอบกลับมาสิงห์จึงรู้ว่า นี่เรื่องซีเรียส "เอาแบบหนักหรือเบาพี่"

      "เอามาก่อน เดี๋ยวพี่เลือกเอง"

      "ครับ เจอกันที่เดิมนะพี่"

      20 นาทีต่อมาสารวัตรคิงขับรถมาจอดที่ท่าเรือริมแม่น้ำเจ้าพระยา คิงเปลี่ยนเสื้อผ้า

      เป็นชุด ไพรเวท และนั่งรอในรถ

      เรือโดยสารลำหนึ่งขับเข้ามาเทียบท่า ชายหนุ่มกระโดดขึ้นบนเรือ ไม่มีวี่แววผู้คน

      "หวัดดีครับพี่" ชายหนุ่มผมยาวสวมเสื้อคลุมทหาร ห้อยประคำและพระเครื่อง 

      ยกมือไหว้แขกผู้มาเยือนด้วยท่าทีนอบน้อม เดินออกมาจากห้องคนขับ 

      "สบายดีไม๊ครับ"

      "สิงห์โทษนะ แต่พี่รีบ ของอยู่ไหน" 

      "เชพี่ ด้านหลังเลยคร้าบบ" หนุ่มเพื่อชีวิตเดินนำคิงกลับเข้าไปในห้อง

      สิงห์ดึงกล่องที่ซ่อนอยู่ใต้ที่นั่งออกมา "นี่เลยพี่ M16A1 บรรจุ 24 นัด ถีบเบา" หนุ่ม

      เซอร์ยื่นปืนกระบอกแรกให้

      "หรือว่าพี่อยากบู๊มันส์ๆ ก็ต้องนี่ AK-47 รุ่นยอดฮิต"

      "Beretta M72A , Glock 24 , Uzy แล้วก็อันนี้ของใหม่สุด Dragunov สั่งตรงจาก

      รัสเซีย "

      "Beretta 2 กระบอก M16A1 แล้วก็ไรเฟิล 5 หมื่นพอไม๊" 

      "โอ้โห จะเอาไปทำสงครามเหรอพี่ งั้นผมแถมกระสุนให้อย่างละลังละกัน"

      "อืม ก็ดี" คิงยกปืนขึ้นลองเล็ง "เอ้า นี่เงินสด เดี๋ยวช่วยเอาไปไว้ที่รถให้พี่

      ด้วยละกัน"

      "โอเคพี่ แต่ผมขอไปฉี่ก่อนนะ ไม่ไหวแล้ว"

      "เออตามสบาย" ระหว่างรอคิงบรรจุกระสุนปืนเข้าแม็กอย่างรวดเร็วสมเป็นมืออาชีพ

      จนเสร็จทุกกระบอก 

      "เฮ้ย เสร็จหรือยังวะ พี่รีบนะโว้ย" คิงชะโงกหน้ามาดูที่กาบเรือแต่ไม่มีวี่แววของ

      สิงห์ มีแต่รถตำรวจล้อมอยู่ที่ท่าเรือ 

      "สารวัตรทัดเทพ กรุณาวางอาวุธแล้วมอบตัวซะ คุณถูกจับในข้อหาทำร้ายเจ้า

      หน้าที่และมีอาวุธสงครามในครอบครอง" ผู้ที่ประกาศในโทรโข่งก็คือ ผบ.สันติ

      "ไอ้สิงห์!!" คิงรีบวิ่งกลับมาในห้องสะพาย เอ็ม 16 เหน็บ beretta 2 ด้านหลัง

      กระโดดออกทางด้านหลังอย่างรวดเร็ว

      "ตุม!!" ทันทีที่เสียงร่างกระทบน้ำ กระสุนปืนสั้นหลายสิบนัดก็ถูกรัวลงน้ำตามร่างนั้น

      ไป เสียงดังสนั่นหวั่นไหวราวกับเกิดสงครามกลางเมือง เรียกความสนใจชาวร้าน

      บ้านเรือนใกล้ๆ ออกมามุงกันยกใหญ่

      "เรือและคอปเตอร์ค้นหาทั่วบริเวณ อย่าให้ผู้ต้องหาหลุดรอดไปได้" ผบ.สันติ แจ้ง

      วิทยุอย่างร้อนรน 

      ***
      ณ คฤหาสน์ตระกูล อัครวิวัฒน์

      "ต้า! นั่นแกจะไปไหน" เสียงหนึ่งดังขึ้นผ่านห้องนั่งเล่น ไปที่วัยรุ่นหน้าประตู 

      "โธ่ป๊ะ อั๊วะขอออกไปหาเพื่อนมั่งดิ" ต้าลูกชายเศรษฐีหันมาตอบอย่างไม่พอใจผู้

      เป็นพ่อที่นั่งอยู่บนโซฟา

      "จะไปหาไอ้เพื่อนเลวๆ พวกนั้นอีกแล้วเหรอ" ชายวัยกลางคน 

      โยนหนังสือพิมพ์ลงโต๊ะดังปัง "ที่ต้องหนีไปอยู่ต่างประเทศเป็นปี ก็เพราะไปก่อ

      เรื่องกับไอ้พวกนั้น นี่แกยังไม่เข็ดอีกหรือไง หา!!

      ชายหนุ่มจ้องตาผู้พ่อ "ก็ถ้าอั๊วะจะไป ใครจะห้ามอั๊วะได้" เขาหันหลังกลับแล้วดึง

      ประตูเปิดอย่างแรง 

      "ผั๊วะ!!!" ร่างชายหนุ่มถูกแรงกระแทกอย่างรุนแรงจากเท้าของใครบางคน จนล้ม

      กลิ้งไม่เป็นท่า เจ้าของบ้านผู้พ่อตกใจรีบลุกขึ้นมาพยุงลูกชายอย่างเร็ว

      "ไงพวกจำเพื่อนเก่าคนนี้ได้หรือเปล่า" เจ้าของส้นตีนย่างสามขุมผ่านประตูเข้ามา

      เขาคือ ไคเซอร์ ผู้เป็นเจ้าของเว็บไซด์ www.dark-justice.com
      ร้อมชายฉกรรจ์

      อีก 2 คนแต่งตัวเหมือนพวกแก็งค์ฮาเล่

      "พวกลื้อเป็นใครวะ ทำไมไอ้พวกยามถึงปล่อยให้เข้ามาได้" เศรษฐีใหญ่ถามด้วย

      ท่าทางกริ่นเกรง ระหว่างต้าลูกชายวัยรุ่นยังคงนอนจุกจนพูดไม่ออก

      "ถ้าหมายถึงไอ้พวกใส่สูทข้างนอกละก็ มันตายหมดแล้ว" ชายฉกรรจ์ในชุดแก็งค์

      ซิ่งคนที่ 4 เดินออกจากทางประตูหลัง โผล่งพูดขึ้นในมือกำมีดสปาต้าเล่มใหญ่ที่

      ยังมีคราบเลือดสดไหลเป็นทางบนพรมราคาแพง

      "ท่านเศรษฐี ผมมีข้อเสนอให้ท่าน"  ไคเซอร์ย่อตัวลงสบตาเศรษฐีใหญ่

      "หนึ่งส่งไอ้นี่มาให้ผมแต่โดยดีแล้วท่านจะได้อยู่ใช้เงินที่เหลือ หรือว่า...." ไคเซอร์

      แสยะยิ้ม "อย่าให้ผมต้องบอกทางเลือกอีกทางเลย"

      ***

      14.00 น. ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ท่ามกลางสายตาไทยมุงนับร้อยคู่ เจ้าหน้าที่

      ตำรวจอีกทั้ง หน่วยกู้ภัย ยังคงค้นหาร่างอดีตนายตำรวจ

      "เอ่อ ท่านครับขออนุญาตครับ" นายตำรวจยศร้อยเอกตะเบะผู้บังคับบัญชา

      "มีอะไร" ผบ.สันติหันมามองอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์

      "ศูนย์แจ้งมาว่า มีคนร้ายบุกเข้าไปที่คฤหาสน์ของเจ้าของบริษัทซีบี และลักพาตัว

      ชายวัยรุ่นซึ่งเป็นบุตรชายไปครับ คาดว่าจะเป็นฝีมือของคนร้าย แก็งค์ไคเซอร์ครับ"

      "แล้วท่านเจ้าสัวเป็นยังไงบ้าง" 

      "ปลอดภัยครับ"

      "สั่งให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนด้านไอที ติดตามเว็บไซท์ของพวกมัน สั่งให้หยุดการ

      ค้นหา   ประสานงานกับสถานีตำรวจทั่วกรุงเทพฯ ระดมกำลังทั้งหมด ออกตาม

      หาลูกชายท่านเจ้าสัวให้เจอ!!" 

      "ครับ!!!" จบคำสั่ง เจ้าหน้าที่ทุกคนต่างแยกย้ายกันทำงานอย่างร้อนรน คงมีแต่ 

      ผบ.สันติ และลูกน้องคนสนิทเท่านั้นที่ยังรั้งอยู่ริมแม่น้ำ ท่าทางของผบ.สันติ 

      เครียดจนดูออก

      "ท่านครับ ผมมีข้อสงสัยครับ" หมวดธีระ โพล่งขึ้น

      "ยังไง"

      "โดยปกติเหยื่อของพวกมันทั้ง 97 ราย เป็นคนร้ายในคดีอุกฉกรรจ์ทั้งสิ้น แต่ว่า

      คราวนี้กลับเป็นลูกชายของเศรษฐีใหญ่ หรือว่า....."

      "หมวด!" เสียงตวาดใส่หน้าของนายตำรวจ ทำให้เขาสะดุ้งเล็กน้อย "อย่าพูด

      พล่อยๆ ถ้ายังอยากทำงานที่เขตนี้ต่อ .... " 

      "เอ่อ....ครับผม"

          

      ณ ห้องเช่าย่านคลองเตย

         สิงห์ซึ่งเปียกโชก เดินอย่างรีบเร่ง ตรงเข้าไปไขกุญแจห้องพักอย่างร้อนรน 

      เมื่อปลดกุญแจเปิดประตูห้องได้เขากลับเจอแรงกระแทกจากคอมแบ็ทที่

      กลางหลัง จนล้มกลิ้งไม่เป็นท่า

      "ไอ้สิงห์" เสียงตะคอกดังขึ้นพร้อมกับแรงกระชากคอเสื้อของชายหนุ่มให้ลุกขึ้น

      อีกครั้ง "มันอยู่ที่ไหน!!"

      "ผมไม่รู้พี่ อ๊อก!!!" หมัดตรงสวนเข้าที่กลางลำตัวของสิงห์อย่างจัง ตบท้ายด้วยลูก

      ถีบจากคอมแบ็ท ร่างเขากระเด็นไปชนทีวีแตก

      "มันอยู่ไหน" สารวัตรเลือดขึ้นหน้า พุ่งหมัดตรงใส่เบ้าตาสิงห์อีกสองหมัด

      "ผมไม่รู้จริงๆ พี่" ชายหนุ่มยกมือไหว้อย่างหวาดหวั่น น้ำตาไหลออกมาจาก

      ดวงตาที่เขียวช้ำ สิงห์กลัวจนฉี่ราด โทสะของสารวัตรหนุ่มเริ่มลดลง

      "ทำไมวะ ข้าช่วยแกมาตลอดทำไมแกถึงทรยศข้า ทำไม"

      "ถ้าผมไม่ช่วยมัน มันฆ่าผมตายแน่แล้ว.........ใครจะดูแลแม่แทนผมล่ะ" คำพูด

      ตอกเข้ากลางใจดำของคิง นั่นเป็นเหตุผลที่เขายอมปล่อยมันจนถึงป่านนี้

      "แล้วแกติดต่อมันยังไง พูด!!"

      "มันจะติดต่อมาเอง ผมเคยลองโทรกลับไปแต่ไม่ติด สงสัยเป็นเบอร์ตู้ 

      ผมไม่รู้จริงๆนะพี่"

      มีโทรศัพท์มาครับ ใครว่างช่วยรับด้วยครับ ...................มีโทรศัพท์มาครับใครว่าง

      ช่วยรับด้วยครับ...............


      ริงโทนมือถือสิงห์ดังขึ้นเขาค่อยหยิบขึ้นมาเป็นเบอร์ที่ไม่รู้จัก คิงพยักหน้าให้รับสาย

      "ฮัลโหล"

      "ขอสายสารวัตรคิง" 

      "ของพี่" สิงห์ยื่นโทรศัพท์ให้คิง 

      "ไค!!"

      "ไงคิง ตามหาฉันอยู่เหรอ....." มือของคิงเย็นวาบหัวใจเต้นแรง "นายก็รู้ว่าฉันไม่มี

      ทางบอกที่อยู่ให้ใครรู้ หึหึ นายกลายตำรวจเลือดร้อนไปแล้วยังงั้นเหรอ"

      "ไค สิ่งที่แกคิดจะทำมันทำให้จะทำให้แกต้องตาย ปล่อยมันออกมาซะให้

      กฎหมายลงโทษมันดีกว่า"

      "คิงเอ๋ย นายยังคงเป็นนาย....ที่ไร้เดียงสาเหมือนเดิม นายคิดจริงๆเหรอว่า

      กฎหมายจะช่วยทุกคนได้ จุ๊จุ๊ ...กฎหมายก็คือสิ่งที่ผู้มีอำนาจสร้างขึ้นมาเพื่อ

      ปกป้องพวกมันและพวกพ้องก็เท่านั้น ใครไม่ใช่พวกมันกฎหมายก็เป็นเพียง 

      งูในบ้าน
      ทีพร้อมจะกัดคอเราได้ทุกเมื่อ จำเรื่องตลกสมัยที่เราทำงานไม่ได้เหรอ

      คิง อย่างตอนที่มีน้องสาวนักการเมืองถูกลวนลามสิ มันเล่นฟ้องร้องเรียกค่าทำ

      ขวัญเป็นแสน แต่ผู้หญิงจนๆถูกข่มขืน..ฆ่า จับคนร้ายได้ศาลกลับพิพากษาให้มัน

      รอลงอาญาเพราะเป็นความผิดครั้งแรก ถ้าพวกเศรษฐีจะโดนกุ๊ยเอามีดแทง...
       
      ใช้ปืนยิงกุ๊ยตายกฎหมายบอกเป็นป้องกันตัว ถ้าคนธรรมดายิงกุ๊ยที่จะมีดมาแทง

      ตาย กลับติดคุกหาว่าทำเกินกว่าเหตุ ฮะฮะๆ "

      "แต่ก็ไม่ใช่ว่านายจะมาใช้ศาลเตี้ยตัดสิน"

      "3 ปีแล้วสินะคิง นายก็คงหาทางเข้ามาในเว็บไซท์เฉพาะที่ฉันสร้างขึ้น....

      นายไม่เข้าใจความหมายของมันเหรอ"

      "ความหมายของการฆ่าประจานนะเหรอ นี่ไม่ใช่ยุคพ่อขุนอีกแล้วนะ"

      "ความหมายของเสียงจากใจของเหล่าผู้ถูกรังแกต่างหาก"

      "หา!!"

      "จากบรรดาผู้สมัครเกือบ 1 ล้านคน นายคงไม่รู้ว่าสมาชิกที่มีถึง 3 แสนคนนั่น 

      ไม่ใช่เป็นเพียงแต่นักท่องอินเตอร์เน็ทที่วันๆ เอาแต่โหลดเพลง หรือดูเว็บโป๊ แต่

      พวกเขาคือญาติพี่น้อง คนรัก เพื่อนของพวกผู้เสียหาย ผู้ที่ต้องตาย โดยไม่ได้รับ

      ความเป็นธรรม พวกเขาคือเหล่าผู้มีความคิดเหมือนกับฉัน ว่า กฎหมายไม่ได้ช่วย

      ให้พวกคนธรรมดาๆ อย่างพวกเขาได้อยู่อย่างปลอดภัย!!!"

      "นายก็เลยทำตัวเป็นพระเจ้าตัดสินพวกเขายังงั้นหรือไง"

      "เปล่า ฉันคือ ผู้ที่ฟังเสียงของพวกเขาเหล่านั้น เป้าหมายของพวกฉันก็คือ 

      พวกเลวที่มีอิทธิพล พวกสันดานชั่วที่ได้รับการอภัยโทษแต่ก็ยังออกมาทำเรื่อง

      เลวๆ โดยรู้ช่องทางหลบเลี่ยงไม่ให้ถูกจับอีก พวกนรกที่รู้กฎหมายเสแสร้งว่าตัว

      เองป่วยทางจิต จนได้รับการผ่อนผันโทษ ไม่ว่าพวกมันจะทำเลวขนาดไหนแต่

      กฎหมายก็ไม่ได้ลงโทษพวกมันให้สาสม กลับปล่อยพวกมันออกมาเป็นภัยต่อคน

      ทั่วไป ฉันก็แค่คืนความยุติธรรมให้เหยื่อที่โดนพวกมันทำร้าย ก็แค่นั้น"

      "แม้สิ่งที่นายพูดมันจะดูสวยหรู หรือเป้าหมายของพวกนายจะยิ่งใหญ่ขนาดไหน
       
      แต่นายก็อย่าลืมสิว่า คนเราสามารถทำผิดได้เพียงอารมณ์ชั่ววูบ แล้วถ้าหากเป็น

      นายมั่งล่ะ ถ้านายทำความดีมาตลอดแต่เพราะอารมณ์ชั่ววูบกลับต้องทำผิด นายไม่

      อยากได้รับการอภัยยังงั้นเหรอ "

      "ผมยอมที่จะแบกรับความผิดทั้งหมดแต่เพียงผู้เดียวครับ..... ท่านผู้พิพากษา"

      "ถ้านายยังไม่คิดจะหยุด ฉันจะเป็นคนหยุดนายเอง"

      "ได้สิ ฉันจะรอนาย ตี๊ด~" สัญญาณถูกตัดคิงรีบติดต่อไปหาเพื่อนที่หน่วย

      สื่อสารทันที

      "ฮัลโหลครับ ร้อยเอกภาคภูมิพูดครับ" ภูมิเพื่อนสมัยเรียนนายร้อยของคิงรับสาย

      ขณะประชุมเรื่องการจับกุมตัวสารวัตรทัดเทพหรือก็คือคิงนั่นเอง

      "ภูมินี่ฉันเอง"

      "ครับ สักครู่นะครับ" ภูมิลุกขึ้นเดินเข้าห้องน้ำแล้วรีบล็อกประตู

      "ไอ้บ้าเอ้ย นี่พวกเขากำลังวางแผนจับแกอยู่นะ ดันโทรมาแบบนี้ฉันก็กลายเป็นผู้

      สมรู้ร่วมคิดด้วยสิวะไอ้คิง"

      "เออ ฉันได้เบอร์ไอ้ไคแล้ว แกช่วยหาที่อยู่มันให้หน่อย"

      "โทษทีว่ะเพื่อนต่อให้แกได้เบอร์นายกมาฉันก็ช่วยแกไม่ได้ แกไม่เข้าใจเหรอวะ"

      "ภูมิแกยังเชื่อมั่นในตัวฉันอยู่หรือเปล่า"

      "เอ่อ...ความสัมพันธ์กับหน้าที่มันต้องแยกให้ออกสิวะ" ภูมิโต้ด้วยน้ำเสียงอ่อนลง

      "........" คิงนิ่งไปชั่วขณะ "ฉันจะส่งเบอร์มันไปให้ ถ้าคราวนี้ฉันจับมันไม่ได้ฉันจะให้

      แกเป็นคนจับฉันด้วยตัวเอง ตกลงไม๊"

      "หา!!! นี่แก.........." ภูมิลองคิดๆ หน่วยของผบ.สันติคงไม่มีทางจับตัวคิงได้แน่นอน
       
      หรือถ้าจับได้คนได้ผลงานก็คือผบ.สันติ แต่ถ้าเขาเป็นคนจับได้ผลงานก็จะตกที่เขา

      คนเดียว ตำแหน่งพันตำรวจตรีก็คงอยู่แค่เอื้อม หลังจากทบทวนทางเลือกทั้งหมด

      แล้ว "โอเค...ฉันรู้ว่านายเป็นคนพูดคำไหนคำนั้น อีก 15 นาทีจะส่งที่อยู่ไปให้"

         สายฝนหลั่งรินลงมาอย่างหนัก สะท้านจิตใจที่มืดมนของชายหนุ่มผู้หนึ่ง เขา

      เหม่อมองท้องฟ้าที่ดำมืดคล้ายจะบอกความนัยบางอย่าง ฤาวันนี้คือ วันที่เขาจะ

      ต้องถูกตัดสินบ้างแล้ว ไคหันกลับมามองเหล่าผู้ร่วมอุดมการณ์ของเขา สายตานับ

      สิบคู่จ้องมองเขาอย่างสงบคล้ายดั่งกำลังรอรับคำสั่ง คนพวกนี้มาจากหลากหลาย

      ที่ส่วนใหญ่เป็นตำรวจ บางคนถูกกลั่นแกล้งจนต้องออกจากราชการ บางคนยิง

      ฆาตกรที่ฆ่าข่มขืนลูกของเขาแต่กลับถูกตัดสินว่าทำเกินกว่าเหตุ บางคนเพราะไม่

      ยอมรับสินบนจากผู้มีอิทธิพลแต่กลับถูกกล่าวหาว่าทุจริต ความผิดของพวกเขาคือ

      เป็นคนซื่อจนเกินไป.... หรือเขาเพียงแต่อยู่ผิดที่ผิดเวลา
       
      แล้วจะมีใครบ้างที่รับฟัง ......

      มีกฎหมายข้อไหนบ้างที่จะมาช่วยเหลือให้ความเป็นธรรม ในเมื่อ....

      ศัตรูของพวกเขาก็คือผู้ถือกฎหมายเป็น อาวุธ!

      "วันนี้จะมีใครบางคนมาที่นี่ เพื่อตัดสินผม" ไคเอ่ยด้วยน้ำเสียงเลื่อนลอยซึ่งผิดปกติ

      จากภาพพจน์ของผู้นำที่พวกเขาเคยรู้จัก "พวกคุณไม่จำเป็นจะต้องสู้กับเขา"

      "เงินในเป้แต่ละใบมี 500,000 บาท ขอให้พวกคุณรับไว้คนละใบแล้วแยกย้ายกัน

      หลบหนีไปซะ และผมรับรองว่าจะไม่มีใครตามไปเอาผิดกับพวกคุณได้"

      "ทำไมจู่ๆหัวหน้าถึงคิดจะเลิกล่ะครับ"

      "นั่นสิ แล้วยังงี้ไอ้พวกอาชญากรที่กฎหมายเล่นงานมันไม่ได้ มันก็ไปทำร้ายผู้คน

      อย่างสบายเลยสิครับ"

      "ใช่ ผมคนหนึ่งล่ะที่ไม่ยอมให้พวกมันทำกับคนอื่นเหมือนที่มันทำกับภรรยาผม"

      เสียงเอ่ยถามอีกหลายคำถามตามมาติดๆ กระแสของเสียงคือ อยากให้ยังคง

      ดำเนินภารกิจนี้ต่อไป

      "คนที่จะมาเขาคือ สารวัตรทัดเทพ" เพียงแค่เอ่ยนามทุกคนถึงกับนิ่งอึ้งเหงื่อไหล

      ออกจากหน้าผาก "ความเก่งของเขาคนนั้นไม่ต้องบอกทุกคนก็คงจำได้"

      "เจ้านั่นเก่งถึงขนาดหัวหน้าต้องกังวลเลยหรอ" สมาชิกใหม่กระซิบถามเพื่อนข้างๆ

      เขาไม่ได้เป็นอดีตตำรวจแต่เพราะครอบครัวถูกฆ่าตายแต่จับฆาตกรไม่ได้ ความ

      เจ็บแค้นและความมุ่งมั่นของเขาทำให้ไคยอมรับเขาเป็นหนึ่งในทีม 

      "นายว่าหัวหน้าเราเก่งไหมล่ะ"

      "ข้าว่าหัวหน้าโคตรเก่งเลยล่ะ"

      "เออ เขาเป็นพี่ชายแท้ๆของหัวหน้าว่ะ"

      "........" เจ้าของคำถามนิ่งอึ้ง  เริ่มรู้สึกกดดันเหมือนคนอื่นๆ "งั้นพวกเราก็ควรหนี

      ก่อนดีกว่า" เขาไม่รอช้าเดินไปหยิบเป้ใบหนึ่ง เขาหยุดสบตาไคแล้วยกมือตะเบ๊ะ

      ก่อนจะเดินออกจากประตูไป คนอื่นๆ แม้จะยังลังเลแต่ก็ทยอยหยิบเป้ออกไป จน

      เหลือเพียงคนสนิท 4 คน

      "พวกคุณเป็นคนดี อย่าได้เอาชีวิตมาทิ้งกับผมเลย" น้ำเสียงของเขาเยือกเย็น

      กว่าเดิมแต่แฝงด้วยความรู้สึกบางอย่าง

      "ผมไม่ได้ทำเพื่อคุณ แต่ผมทำเพื่ออุดมการณ์ของผมเอง" โกวิทย์ อดีตร้อยตำรวจโท

      "ลูกเมียที่อยู่บนสวรรค์ของผมคงจะโกรธผมแย่ถ้าทิ้งหัวหน้าไว้วันนี้" สุชาติ อดีตหน่วยจู่โจมพิเศษ

      "ภรรยาผมอยู่กับครอบครัวของเธอแล้ว ผมไม่มีอะไรต้องห่วง" อัครรัฐ อดีตสารวัตรกองปราบ

      "สัญชาตญาณของผมบอกว่า หัวหน้าต้องการคนช่วย และผมก็ไม่คิดว่าตัวเองจะตายวันนี้ด้วย" วรเทพ อดีตพลแม่นปืน นักกีฬาเหรียญทองโอลิมปิก

      ไคค่อยๆ สบตาแต่ละคน ก็ได้เห็นประกายความมุ่งมั่น สีหน้าแสดงออกถึงความ

      เด็ดเดี่ยว ไคมีรอยยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย "ใส่หน้ากากไว้อย่าให้ใครเห็นหน้า" กล่าว

      ด้วยน้ำเสียงห่วงใย

      เขาหลับตาสูดอากาศเข้าไปเต็มปอดก่อนจะระเบิดออกมา "เอาล่ะ!! เราต้องสู้กับ

      นักเรียนนายร้อยดีเด่น ประจำปี 2543 ผู้ซึ่งทำคะแนนสูงสุดของทุกวิชา และใน 5 ปี

      นี้เขายังเป็นสารวัตรกองปราบมือพระกาฬ ที่สามารถปิดคดีได้มากที่สุด"

      "เป้าหมายของเขาคือชิงตัวคนร้ายกลับไป...... 

      วรเทพข้ามไปที่ดาดฟ้าตึกฝั่งตรงข้ามด้านตะวันออก ตัวตึกนี้มีทางเข้าทาง 2 

      ทาง แต่คาดว่าเขาคงจะเข้าทางด้านหลัง
       
      โกวิทย์รอรับเขาที่ชั้นสองล่อให้เขาขึ้นมาที่ 3 ฝั่งตะวันออก 

      สุชาติบริเวณทางเดินนั้นมีเครื่องจักรเก่าอยู่ตลอดทางขอให้คุณวางระเบิดซีโฟร์
       
      ขนาดพอเหมาะ อย่าให้รุนแรงจนทำให้ตึกพัง เมื่อโกวิทย์ล่าถอยมาคุณช่วยยิงสกัด

      เปิดทางให้เขาด้วย เราจะบีบให้เขาจนมุมที่นั่นแล้วกดระเบิด ถึงคราวนี้มันจะไม่

      ตายแต่ก็คงบาดเจ็บสาหัส

      อัคระคุณเฝ้ามอนิเตอร์หากมีอะไรเปลี่ยนแปลงให้คุณตัดสินใจบัญชาการได้เต็มที่ 

      คนร้ายจะอยู่กับผมที่ห้องลงทัณฑ์ ผมจะทำหน้าที่เป็น dark justice ในคืนนี้เอง 

      เมื่อถึงเวลาที่กำหนด

      เราจะสำเร็จโทษมันทันที!! "

      "ขอให้ทุกคนปลอดภัย ........ เข้าประจำที่!!" หลังคำสั่งสุดท้ายสิ้นสุด อดีตตำรวจ

      กล้าทั้ง 4 แบกสัมภาระของตัวเองเตรียมตัว ณ จุดที่ได้รับมอบหมาย

      18.30 น. โรงงานร้างชานเมือง ซึ่งขณะนี้กลายเป็นสมรภูมิที่วางกำลังพลเตรียมตัว

      รับแขกผู้ได้รับเชิญเพียงหนึ่งเดียว

      แม้ฝนจะโปรยปรายลงมาทำให้บรรยากาศค่อนข้างเย็นแต่หัวใจของเหล่าผู้มี

      อุดมการณ์กลับร้อนรุ่มคุกรุ่นไปด้วยไฟแห่งสัญชาติญาณการต่อสู้ 

      ไม่เคยมีใครโต้เถียงถึงแผนการณ์ของไค เพราะผลการปฏิบัติการทั้งหมด สำเร็จ 

      100%

      ที่ผ่านมาพวกเขาเคยแต่วางแผนการสู้แบบ 1 ต่อ 10 ครั้งที่หนักที่สุดก็คือ การบุก

      จับตัวของเจ้าพ่อมาเฟียที่จ้างกองทหารรับจ้างเป็น 100 นาย คุ้มกันให้ออกนอก

      ประเทศ ครั้งนั้นเขาต้องสูญเสียสหาย 1 คนซึ่งถือเป็นความผิดพลาดและความเสีย

      หายมากที่สุด    นับตั้งแต่ก่อตั้งองค์กรของพวกเขาขึ้น แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่พวก

      เขาต้องใช้..... 

      4 คนรุมเพียงคนคนเดียว!! 

      285300 ต่อ 0 
      285333 ต่อ 0
      290025 ต่อ 0

      score board ผลการ vote ยังตัดสินให้ ลงโทษ ทั้งหมด


      นาฬิกาข้อมือของไคบอกเวลา 21.45 น. อีกเพียง 2 ชั่วโมง 15 นาทีจะถึงเวลาลง

      ทัณฑ์ ชายหนุ่มสวมชุดพิธีกรรมสีดำมีกางเขนสีแดงด้านหน้าชุด

      เขานั่งบนโซฟาตัวใหญ่มือทั้งสองข้างกุมดาบที่ตั้งตรงประดุจดั่ง 

      ....ราชา .... ผู้อหังการรอคอยสงครามอย่างเยือกเย็น

      เขาหลับตานิ่งสงบ นักโทษถูกจับนั่งบนเก้าอี้ไม้ มัดมือมัดเท้า ทำได้เพียงส่ายหน้า

      ไปมาน้ำตาเอ่อล้นด้วยความกลัว แม้อยากตะโกนร้องขอชีวิตแต่ก็ทำได้แค่ครางใน

      ลำคอเพราะถูกมัดปากจนแน่น

      ตูม!! เสียงหนึ่งดังขึ้น ไฟทั่งทั้งบริเวณดับหมดจนเหลือเพียงแสงไฟจากวิทยุสื่อ

      สาร เป็นสัญญาณบอกว่า เขาได้มาถึงแล้ว!

      แม้เหตุการณ์จะไม่ปกติ แต่เหล่าสมาชิกทั้ง 4 ยังคงสงบนิ่ง ในจุดเดิม

      "ในที่สุดนายก็มาถึง" ไคลืมตาขึ้นพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้า สายฟ้าแลบ ทำให้ทั้ง

      ห้องสว่างวาบขึ้นขณะหนึ่ง ร่างของคนอีกคนปรากฏขึ้นอีกด้านของห้อง ประสานตา

      กับไค "เดอะ คิง!"

      "ปล่อยมันซะ" คิงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง แต่กลับได้เพียงใบหน้าที่แสยะยิ้มของ

      ฝ่ายตรงข้าม "ฉันบอกให้ปล่อยมันยังไงล่ะ" คิงชักปืนออกมาจากด้านหลังเล็งเข้าที่

      ใบหน้าของน้องชายแท้ๆ 

      "ถ้าเป็นฉันจะไม่ทำแบบนั้น" ไคลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปหยิบดาบซามูไรอีกเล่ม เดิน

      เข้าหาคิง "ฉันรู้อยู่แล้วว่านายต้องหาทางเข้าอื่นได้แน่นอน"

      "หมายความว่ายังไง??" คิงนิ่งอึ้งเพราะ ยังไม่เข้าใจว่า ไคต้องการอะไรกันแน่ หรือ

      ว่านี่คือกับดักที่วางไว้อย่างรัดกุม รอให้ เขามาเป็นเหยื่อ!

      "นายก็รู้ว่าวิถีของปืนที่เป็นเส้นตรงนั่นทำอะไรเราสองคนไม่ได้ ถ้านายฝืนยิงทั้งๆที่รู้

      ผลอยู่แล้ว ก็จะเป็นการเรียกให้ลูกน้องทั้งหมดของฉันมาที่ห้องนี้" ไคแสยะยิ้ม 

      ทุกอย่างอยู่ในการคำนวนของเขาแล้ว

      "และแม้นายจะจัดการพวกเขาทุกคนได้ แต่ก็มีความเป็นไปได้สูงว่า เจ้าชาติชั่วคน

      นี้จะโดนลูกหลง ภารกิจนายก็จะสูญเปล่า"

      สายตาของทั้งคู่เริ่มปรับให้เห็นในความมืด ไคโยนดาบให้พี่ชาย คิงรับดาบด้วยมือ

      ข้างหนึ่งแต่ยังไม่ยอมลดปืนลง

      "นายคิดจะทำอะไรกันแน่" 

      ไคชักดาบออกจากฟักมุ่งตรงมาที่คิง "พิสูจน์ไง ว่าฉันคิดถูกมาตลอด" เงาดาบเงื้อ

      ขึ้นแล้วตวัดลงอย่างรวดเร็ว คิงกระโจนหลบแบบเฉียดฉิว 

      คิงเก็บปืนเข้าซองแล้วรีบชักดาบออก "หึ นายยังยึดถือ ไอ้กฎบ้าๆ ที่บอกว่าผู้ชนะ

      คือ ผู้ถูกเสมอนั่นอีกเหรอ" คิงฟันเข้าด้านซ้าย แต่ไคใช้ดาบป้องกันได้คมดาบ

      ปะทะกันรุนแรงจนเห็นสะเก็ดไฟ

      "ใช่! และเพราะกฎนั่นทำให้ฉันชนะมาตลอด" ไคก้าวเท้าซ้าย หมุนตัวเฉือนไปที่คอ
       
      แต่คิงก็ตามทางดาบทันพร้อมหมุนตัวหลบ

      ชิ้ง! เคร้ง! เคร้งๆ เสียงดาบ 2 เล่ม กระทบ เฉือดเฉือน ปัดป้อง จนทำให้นักโทษ

      เสียวฟันจี๊ดๆ เสียงคมดาบแหวกอากาศดังชัดเจนจนทำให้เสียวสันหลัง ท่ามกลาง

      ความมืดมิด คงมีเพียง 2 ซามูไรหนุ่มที่ยังคงรักษาจิตอันสงบ แต่ดุดัน ฟาดฟันกัน

      โดยมิได้มองเห็นความสัมพันธ์ระหว่างเครือญาติ เบื้องหน้ามีเพียงแต่ 

      ศัตรูคู่อาฆาตที่จักต้องฟาดฟันให้ดับดิ้น....

      "พยัคฆ์เรียกศูนย์ตอบด้วย พยัคฆ์เรียกศูนย์ตอบด้วย" วรเทพ

      "ศูนย์ได้ยินแล้ว สถานการณ์เป็นยังไงบ้าง" อัคระ

      "สงบมาก ไม่มีวี่แววหนูสักตัว"

      "ศูนย์เรียกอินทรีตอบด้วย"

      "อินทรีย์ได้ยินแล้ว สถานการณ์ปกติ" สุชาติ

      "ศูนย์เรียกฉลามขาวตอบด้วย"

      "ฉลามขาวได้ยินแล้ว ดูเหมือนจะมีใครบางคนตัดสายเมนของเรา ผมกำลังจะหา

      น้ำมันเติมเครื่องปั่นไฟอยู่" โกวิทย์

      "ศูนย์เรียก DJ (Dark Justice) ตอบด้วย"

      "......"

      "ศูนย์เรียก DJ ตอบด้วย ศูนย์เรียก DJ ตอบด้วย" อัคระและทุกคนหัวใจเต้นระรัว
       
      ทำไมหัวหน้าถึงไม่ตอบหรือว่า.......... ศัตรูจะบุกเข้าไปข้างในได้แล้ว!! ทุกคน

      พร้อมใจกันผละจากตำแหน่งที่ได้รับมอบหมายเพื่อจะมุ่งตรงไปที่ห้องลงทัณฑ์

      "DJ ได้ยินแล้ว" ไคฝืนกำวิทยุตอบกลับไป "สถานการณ์ปกติ ให้ทุกคนประจำ

      ตำแหน่งเดิม แฮ่ก" เขาพยายามปรับน้ำเสียงที่เหนื่อยหอบให้เป็นปกติที่สุด ไม่

      อย่างนั้นพวกลูกน้องของเขาต้องรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแน่นอน แต่มันก็ไม่ง่ายเลยที่จะ

      พูดแบบปกติทั้งๆที่มีบาดแผลถูกฟันที่ต้นแขนซ้าย เลือดไหลนองย้อมชุดสีดำ บาด

      แผลลึกจนเห็นกระดูก นี่อาจเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่คู่ต่อสู้จะชิงความได้เปรียบเอา

      ชัยไปทว่าฝ่ายคิงเองก็ได้แผลฉกรรจ์ ที่ขาขวาทำให้ความคล่องตัวในการเคลื่อนที่

      ลดลง ประเมินด้วยสายตาฝ่ายคิงต่างหากที่เป็นฝ่ายเสียเปรียบ

      "ทำไมคิงทำไมนายต้องปกป้องเจ้าพวกคนชั่วพวกนี้ด้วย"

      "เพราะฉันเชื่อมั่นในกฎหมาย"

      "นายก็รู้นี่ว่าไอ้พวกนี้กฎหมายทำอะไรมันไม่ได้ พวกมันสมควรได้รับโทษที่สาสม"

      "ใช่ แต่นั่นต้องเป็นไปตามกฏหมาย ถึงจะถูกต้อง หากทุกคนคิดแบบนาย สังคมจะ

      เป็นยังไง"

      "ก็เป็นที่ที่น่าอยู่กว่านี้ยังไงล่ะ ฉันก็แค่กำจัดคนที่ควรกำจัดเพื่อให้ คนทั่วไปที่

      อ่อนแอได้อยู่อย่างปลอดภัย ไม่ต้องคอยวิตกว่าวันไหนจะถูกไอ้ขี้ยาเอามีดมาจี้คอ
       
      ไม่ต้องกลัวว่า วันไหนจะถูกไอ้พวกระยำลากไปรุมโทรมจนตายข้างถนน"

      "นายคิดผิด สังคมจะกลายเป็นการใช้ความรุนแรงเข้าตัดสิน ถ้าทุกๆคนคิดว่า คนที่

      มันทำร้ายเราสมควรตายกันหมด ต่อไปนายก็จะเห็นเด็กตัวเล็กๆ วิ่งถือปืนไล่ยิง

      เพื่อนที่มาแกล้ง นายจะเห็นคนฆ่ากันเพียงเพราะขับรถปาดหน้า สังคมแบบนั้นน่ะ

      หรือ คือสังคมที่น่าอยู่สำหรับนาย"

      "นายคิดเพ้อเจ้อมากเกินไปแล้ว" ไคกัดฟันพูดด้วยอารมณ์เกรี้ยวกราด

      เมื่อสมัยที่พวกเขายังเป็นนักเรียนอยู่ทั้งสองได้รับฝึกฝนวิชาเคนโด้จากพ่อบุญธรรม

      ชาวญี่ปุ่น ตั้งแต่จำความได้พวกเขาก็ถูกพ่อนำมาเลี้ยงแล้วโดยท่านพ่อไม่เคยบอก

      ให้พวกเขารู้ว่าพ่อจริงๆ นั้นคือใคร อะไรเป็นสาเหตุให้ท่านนำทั้งสองมาเลี้ยง 

      ทุกครั้งที่มีการแข่งขันระดับประเทศ ไคจะเป็นผู้ชนะเลิศ และคิงจะเป็นที่สองเสมอ
       
      นั่นไม่ใช่ว่าเพราะฝีมือที่แตกต่าง แต่เป็นเพราะคิงรู้ว่าน้องชายเป็นคนไม่ยอมคน 

      ต้องการเอาชนะไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม เมื่อถึงรอบสุดท้ายคิงจึงมักจะอ่อนฝีมือลง

      และแพ้คะแนนไป สำหรับเขานั่นคือ.... ภาระของพี่ชายที่รู้ว่าน้องต้องการสิ่งใด

      เวลา 23.53 น. ที่ score board ปรากฎตัวเลข 

      299989 ต่อ 0  อีกเพียง 7 นาทีจะเป็นเวลาลงทัณฑ์


      อดีตนักเคนโด้ทั้งสอง ใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง ฟาดฟันกันจนเหลือเพียงแรงฮึดเฮือก

      สุดท้ายที่อาจจะตัดสินกันภายในดาบเดียว.....

      นักโทษร้องไห้จนหมดแรงสลบไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ฝนเริ่มซาลงแล้วท้องฟ้าเริ่ม

      เปิดโล่งแสงสว่างจากจันทราสาดส่องคมดาบทั้งสองจนวาบวับ ลมหายใจของทั้ง

      สองเริ่มปรับเข้าสู่สภาวะปกติ ไคเป็นฝ่ายเริ่มเปิดฉาก เขาย่างสามขุมเข้าหาคิง

      อย่างใจเย็น คิงในตอนนี้รู้ว่าตัวเองเสียเปรียบจึงรักษาสติและความเยือกเย็นพร้อม

      รับการโจมตี เมื่อเข้าสู่รัศมีของดาบไคใช้แขนขวาลากดาบวนขวาช้าๆ คิงกระชับ

      ดาบทั้งสองมือบ่ายตาม

      วินาทีตัดสินเริ่มขึ้นไคเหวี่ยงดาบจากด้านล่างขึ้นด้านบน คิงก้าวถอยหลังเกือบไม่

      ทันแต่เมื่อพ้นจากรัศมีเขาแทงดาบเข้ากลางลำตัวของไค ไคแสยะยิ้มเหมือนเห็น

      เหยื่อติดกับ ฟันดาบลงที่กลางหน้าผากคิงอย่างรวดเร็ว

      พรึ่ง พรึ่ง พรึ่ง! ไฟทั่วทั้งบริเวณสว่างวาบ กล้องมอนิเตอร์กลับมาใช้งานได้อีกครั้ง

      แสงที่สว่างปลุกนักโทษให้ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง สิ่งที่อยู่เบื้องหน้าทำให้หัวใจของมัน

      เต้นระรัว

      "หัวหน้า!!!" อัคระตะโกนอย่างลืมตัวจนทำให้เพื่อนร่วมทีมที่ฟังวิทยุถึงกับสะดุ้ง

      ภาพที่เขาเห็นก็คือ..... 

      ไคถูกดาบแทงเข้าที่ท้อง!!

      "อึก!" เลือดสดๆ ค่อยๆซึมออกจากปากแผล ไคเจ็บสะท้านไปทั้งตัวแต่นั่นไม่เจ็บ

      เท่าใจที่มันจำต้องยอมรับความพ่ายแพ้ คิงใช้มือข้างหนึ่งกุมดาบที่แทงอยู่ส่วนมือ

      อีกข้าง จับที่ข้อมือถือดาบของไคอย่างแน่น!! 

      คมดาบผ่าได้เพียงปลายผมกลางหน้าผากของคิงเท่านั้น

      ไคพยายามควบคุมลมหายใจโดยสัญชาติญาณเพราะรู้ว่าหากหัวใจเต้นแรงเกินไป

      จะทำให้เลือดไหลออกเร็วขึ้น เขารวบรวมแรงที่มีทั้งหมด.....
       
      เดินเข้าหาคิง! ดาบแทงทะลุตัวไคออกไปทางด้านหลัง การกระทำที่ประหลาดนั่น

      ทำให้นักโทษตะลึงงัน

      "นายจะฆ่ามันใช่ไม๊คิง" ไคทิ้งดาบลงใช้มือทั้งสองข้างกระชากคอเสื้อขณะสบตาพี่

      ชาย "แกจะฆ่ามันใช่ไม๊ ตอบข้าสิวะ!!" เขาตะโกนออกมาอย่างลืมตัว

      "หัวหน้า!! สารวัตรทัดเทพวางอาวุธซะ....แล้วชูมือขึ้น" อัครรัฐวิ่งมาถึงเป็นคนแรก
       
      เขาตะโกนสั่งพร้อมกับเล็งปืนไปที่คิง 

      "ปล่อยมือจากหัวหน้าแล้วยกมือขึ้นเดี๋ยวนี้ ไอ้คิงข้าบอกให้ยกมือขึ้นเดี๋ยวนี้" สุชาติ

      "ทิ้งอาวุธซะ แล้วยกมือขึ้นไม่งั้นข้าจะยิงหัวแกให้กระจุย" วรเทพ

      "หัวหน้า หัวหน้า ถอยออกมาสิครับ" โกวิทย์

      ใบหน้าลูกน้องทั้งหมดของไคเกรี้ยวกราดด้วยความแค้น อารมณ์เดือดดาลที่เผาจน

      รู้สึกได้ว่าขนหัวลุกตั้งด้วยโทสะ ทุกคนพยายามเล็งปืนที่หัวของคิงหมายจะระเบิด

      สมองในนัดเดียวแต่เป็นเพราะร่างของไคบังวิถีกระสุนอยู่จึงไม่กล้าเสี่ยง

      !!! ทว่าสิ่งที่ทั้ง 4 คนไม่คาดคิดก็คือ ไคยกมือขึ้นเพื่อเป็นสัญญาณห้ามพวกเขา
       
      แล้วหันมามองทุกคนด้วยสายตาจริงจัง ก่อนจะหันกลับมามองไปที่นักโทษ จนทำ

      ให้ความยินดีที่ตนอาจจะรอดชีวิตเมื่อสักครู่หายวับ เพราะสายตาคู่นั้นเป็นสายตาที่

      อาฆาตพยาบาทอย่างรุนแรง จนรู้สึกเย็นวาบที่สันหลัง

      "มันคือ...อึ่ก. ไอ้พวกลูกเศรษฐีระยำกับเพื่อนอีกสิบสองคนที่ลากผู้หญิงขึ้นรถตู้

      แล้วพาไปรุมโทรมถ่ายคลิป ...อึก" ไคหันกลับมาจ้องตาคิง "อึก...ในบรรดาผู้หญิง

      นับสิบที่เป็นเหยื่อของมัน .... นายได้เห็นแล้วใช่ไม๊ ........ยังจำใบหน้าของเธอที่

      ร้องไห้จนหัวใจวายตายต่อหน้าเสียงหัวเราะของพวกมันได้ใช่ไม๊"

      ปืนของลูกน้องทั้งหมดยังไม่ลดลง แต่เหมือนว่าเรื่องราวที่ออกจากปากไคจะทำให้

      เขาอยากเปลี่ยนเป้าหมายใช้กระสุนทั้งหมดรัวใส่ร่างไอ้เลวที่นั่งกลัวจนตัวสั่นงันงก

      บนเก้าอี้แทน

      "....." คิงใช้มืออีกข้างประคองน้องตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ตัว ไคนั้นไม่มีเรี่ยวแรงแม้จะ

      ยืนอีกต่อไปแล้ว แต่กระนั้นเขาก็ยังฝืนตะโกนออกมาจนสุดเสียง

      "ตอบฉันสิว่านายยังไม่ลืมแอน!! แฟนที่คบกับนายมาเป็นสิบปีน่ะ!! " ไม่รู้เหตุใดแต่

      ขณะนี้ น้ำตากลับไหลพรั่งพรูออกมาจากดวงตาที่เจ็บแค้นของไค

      "บอกฉันสิว่าแกอยากจะฆ่ามัน บอกฉันสิว่าแกยังไม่ลืมเธอ!!!"

      "ใช่!!  ฉันอยากจะฆ่ามัน ฉันยังไม่เคยลืมแอนแม้แต่วันเดียว" บัดนี้สารวัตรหนุ่มมือ

      พระกาฬกลับเป็นฝ่ายที่ร้องตะโกนออกมาทั้งน้ำตา

      "แล้วทำไมคิง!! แล้วทำไม"

      "......." ไร้สุ้มเสียงตอบกลับ

      "นายปกป้องความยุติธรรมให้คนอื่น แต่ความยุติธรรมของนายกลับไม่มีใครปกป้อง"

      เลือดไหลเจิ่งนองรอบตัวของพี่น้องทั้งสอง......ดั่งกับว่าพวกเขาอยู่ในหลุมที่ลึก

      และเปียกชุ่มไปด้วยเลือด มันคือหลุมแห่งความขัดแย้งความความหมายของสิ่งที่

      พวกเขาต่างเชื่อมั่น

      ....ความยุติธรรม...

      ไคเริ่มรู้สึกว่าบรรยากาศมันเย็นมาก เย็นจนชาไปหมดทั้งตัวเขารู้สึกเหมือนคนที่ไม่

      ได้นอนมาเป็นปีๆ และบัดนี้ไม่เหลือแรงแม้จะกำคอเสื้อ ร่างของเขาค่อยๆทรุดลง

      "ฉัน...เกลียดนาย....คิง เกลียดความทุ่มเท....เสียสละของนาย ...ทั้งๆที่ ..ไม่มีใคร

      เห็นค่า เกลียดที่นายอ่อนข้อให้ฉันมาตลอด....... เกลียดสิ่งที่นายยึดมั่น..... กระทั่ง

      ยอมทิ้งหัวใจของตัวเอง........ฉันเกลีย..ด...."

      คำพูดประโยคสุดท้ายแผ่วเบาก่อนจะหายลับไปพร้อมกับของจิตวิญญาณ ไคเซอร์
       
      เจ้าของเว็บไซท์ Dark-Justice.com เสียชีวิตลง พร้อมกับไฟแห่งอุดมการณ์ของ

      คนสนิททั้งสี่ เพียงไม่ถึงชั่วโมงเสียงรถตำรวจก็ดังขึ้นทั่วบริเวณเพราะ ข้อมูลที่คิง

      ได้ให้ไว้กับเพื่อนสนิท นั่นหมายความว่าเขาเตรียมใจที่จะตาย และเผื่อหนทางให้

      นายตำรวจคนอื่นได้ทำหน้าที่ต่อไปแทนเขา 

      ตอนที่เขาพาตัวลูกชายเศรษฐีออกมานอกโรงงานร้าง ตำรวจและนักข่าวหลายร้อย

      คนกรูเข้าสัมภาษณ์ แต่ไม่มีตำรวจแม้แต่นายเดียวกล้าใส่กุญแจมือสารวัตรทัดเทพ
       
      หนำซ้ำยังเข้ามาโอบกอด บางคนร้องไห้ บางคนจับมือจนแน่นแสดงถึงความ

      ภาคภูมิใจและความยินดี แม้แต่ผบ.สันติเองยังจับมือเขาและโอบกอดเสมือนพี่ชาย

      เกิดอะไรขึ้น.......?

      ระบบทุกอย่างถูกเซ็ทให้เปิดอัตโนมัติหากเกิดการตัดไฟ ดังนั้นตอนที่โกวิทย์

      สตาร์ทเครื่องปั่นไฟ ไฟฟ้า คอมพิวเตอร์ และกล้องที่ใช้ถ่ายทอดสดจึงทำงาน

      อัตโนมัติ ทุกคนที่ได้เข้าชมทั้งประเทศได้เห็นและได้ยินทุกคำพูดระหว่าง คิงและ

      ไคเซอร์ แน่นอนรวมทั้งตำรวจที่เกี่ยวข้องทุกคนด้วย

      "คุณพิพัฒน์คะ จริงหรือเปล่าคะที่คุณได้ร่วมกับพวกรุมโทรมผู้หญิงน่ะคะ"

      "สิ่งที่ไคเซอร์พูดไว้ก่อนตายนั่นคือเรื่องจริงใช่ไม๊ครับ" บรรดานักข่าวรุมล้อม

      "จะบ้ากันไปใหญ่แล้ว" เจ้าสัวใหญ่ซึ่งเดินทางมาพร้อมพวกตำรวจตวาดใส่นักข่าว

      นับสิบ อย่างไม่ไว้หน้า ทั้งที่เป็นรายงานสด "พวกลื๊ออยู่ช่องไหนวะ เดี๋ยวอั๊วะจะสั่ง

      ให้สถานีไล่พวกลื้อออกให้หมด!!!  ไป ! ถอยไปจากลูกชายอั๊วะนะไม่งั้นเจอดีแน่" 

      "จริงครับ" สิ่งที่บรรดานักข่าวและเจ้าสัวที่ยืนอยู่ข้างๆ ไม่คาดคิด หนำซ้ำยังมีเจ้า

      หน้าที่ตำรวจนับร้อยและยังมีระดับเสธ. แทบไม่อยากเชื่อหูตัวเอง 

      "สิ่งที่คน ๆ นั้นพูดทุกอย่างผมและเพื่อนเป็นคนทำจริงๆ ครับ" ผู้เป็นพ่อถึงกับอ้า

      ปากค้าง...พิพัฒน์ อัครวิวัฒน์ ยอมรับสารภาพ......

      ในคดีร่วมกับพวกรุมโทรมหญิงและถ่ายคลิป จนทำให้ ผู้หญิงที่ชื่อ แอน (นาม

      สมมติ) ซึ่งป่วยเป็นโรคหัวใจ เกิดอาการช็อกและเสียชีวิต 

      พิพัฒน์ ถูกจับกุมทันที และก่อนจะขึ้นรถของผู้ต้องหา เขายังก้มลงกราบแทบเท้า

      ของผู้มีพระคุณ.......

      พร้อมกล่าวคำขอโทษด้วยน้ำตา......


                                จ้าวแห่งพยัคฆ์     ราชันย์แห่งมังกร 

                                                 ---จบบริบูรณ์---


























































      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×