ฝนตกแดดออก...จิ้งจอกแต่งงาน

   หุบเขามรณะลูกใหญ่ รายล้อมไปด้วยป่าเวทย์ที่ล้วนแต่มีสิ่งลี้ลับมากมาย จิ้งจอกเป็นเพียงสัตว์ลี้ลับหนึ่งในบรรดาสัตว์เวทย์ในหุบเขาแห่งนั้น  สัตว์เวทย์หลายเผ่าพันธุ์ล้วนต่อสู้เพื่ออยู่รอดในหุบเขามรณะนี้

   ไม่เพียงแต่ภัยจากหุบเขาที่เป็นบ้านของเหล่าจิ้งจอกเวทย์ มนุษย์ที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านรอบหุบเขาก็ไม่อาจสิ้นไร้เขี้ยวงา เวทย์มนต์และของศักดิ์สิทย์ในหุบเขาล้วนล่อตาล่อใจให้เหล่ามนุษย์ผู้ฝึกตนเป็นยอดยุทธ์ให้ย่างกรายเข้ามาค้นหาของดีในหุบเขาแห่งนี้ ยังไม่รวมถึงนักล่าปีศาจที่หลั่งไหลกันเข้ามาทุกปีเพื่อสังหารปีศาจและสัตว์เวทย์จำนวนมากในหุบเขาแห่งนี้ เพื่อฝึกฝีมือให้ตนเป็นหนึ่งในใต้หล้า

   หากแต่ครั้งบรรพกาล เหล่าจิ้งจอกดำ จิ้งจอกแดง และจิ้งจอกขาว รวมเป็นหนึ่ง มีบรรพบุรุษปกครองเพียงหนึ่งเดียว ราชาจิ้งจอกเก้าชีวิตสามารถเอาชนะราชามนุษย์จอมเวทย์และเขียนข้อตกลงในการอยู่ร่วมกัน เผ่าพันธุ์มนุษย์ทวงถามถึงความปลอดภัยจากเหล่าอสูรในหุบเขา ราชาจิ้งจอกรับคำเหล่าสัตว์เวทย์ที่ออกไปนอกหุบเขาจะไม่ถูกปกป้องโดยตนอีกต่อไป  ข้อสัญญานี้ผูกพันขึ้นด้วยมีดสั้นที่จารึกสัญญาไว้ ราชามนุษย์มอบให้แด่หัวหน้าฝูงจิ้งจอก มันเป็นมีดสั้นเพียงหนึ่งเดียวที่สามารถสังหารจิ้งจอกเก้าชีวิตให้ตายในดาบเดียวได้ ราชามนุษย์ผู้ติดค้างหนี้ชีวิต ยอมจำนนหมดหนทาง จากไปต่างมีชีวิตอยู่ไม่ระรานกัน

   เวลาเนิ่นนาน ดอกท้อในหุบเขาหมุนเวียนเปลี่ยนฤดูไปหลายกาล เหล่าจิ้งจอกล้วนช่วงชิงความเป็นหนึ่ง  แบ่งแยกเผ่าพันธุ์ จิ้งดอกแดงที่มีมากกว่าจิ้งจอกอื่น แบ่งออกเป็นสองฝูง ปกครองในอาณาเขตที่ห่างไกลเพราะมิอาจอยู่ร่วมกันได้ จิ้งจอกดำปกครองหุบเขาแดนสนธยา ดินแดนแห่งรัตติกาลไร้เงาของอาทิตย์สีทอง จิ้งจอกขาวปกครองในเขตลุ่มแม่น้ำของหุบเขาที่เต็มไปด้วยสัตว์พิษและอยู่ในอาณาเขตที่ใกล้กับมนุษย์มากที่สุด เหล่าจิ้งจอกเวทย์ล้วนต่างอยู่อย่างโดดเดี่ยวไม่ใยดีต่อกัน