Fic markbam ตำนานรักผู้พิทักษ์มังกร(ᴅʀᴀɢᴏɴ ᴡᴏʀʟᴅ)

เพียงจินตนาการของผู้แต่ง ไม่ได้มีเจตนาทำให้ ศลป.เกิดความเสียหายแต่แต่งเพื่อความบันเทิงเท่านั้น เรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับชายXชาย ถ้าชอบก็เข้ามาอ่านกันเยอะๆน่ะค้ะ 

เกร็ดความรู้เรื่องของมังกร

 " มังกร เป็นสัตว์ในตำนานชนิดหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายกิ้งก่า มีเขา มี4ขา และมีปีก ซึ่งก็แล้วแต่เผ่าพันธุ์ว่าจะมีปีกแบบค้างคาว หรือมีปีกเหมือนนก สีของพวกมันจะมีหลักๆอยู่3สี คือ แดง น้ำเงิน และเขียว''

มังกร เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีพลังมากมาย ทั้งทางกายภาพ และทางเวทย์มนต์

1. ทางกายภาพ

มังกรบางตัวที่ชอบความรุนแรง และอยากแสดงให้ผู้อื่นเห็นถึงความมีอำนาจ พวกเขาเหล่านั้นมักนิยมใช้ความพละกำลังมากกว่าเวทย์มนต์ ไม่ว่าจะเป็นการใช้เล็บที่แหลมคม ใช้หางที่มีหนาม ใช้เขาพุ่งชน รวมถึงพลังทางกายภาพสุดยอดที่มังกรทุกตัวมีมาแต่กำเนิด นั่นคือ การพ่นไฟนั่นเอง

2. เวทย์มนต์

มังกรยุโรปจัดเป็นสิ่งที่ชีวิตที่ชาญฉลาด ที่สำคัญคือ ฉลาดยิ่งกว่ามนุษย์ ทำให้พวกมันมีวิชา มีพลังเวทย์มนต์ที่สุดยอดและทรงพลัง ซึ่งโดยมากจะเป็นเวทย์มนต์ที่เกี่ยวข้องกับธรรมชาติ แต่จะมีมังกรบางจำพวกเท่านั้นที่ใช้มนต์ดำ และพวกนี้เมื่อตาย จะยังคงมีชีวิตต่อได้ในร่างโครงกระดูก ทั้งนี้พลังเวทย์แต่ละชนิด ก็ขึ้นอยู่กับเผ่าพันธุ์ และสติปัญญาของมังกรแต่ละตัว

สำหรับมังกร โดยส่วนมากจะเป็นศตรูกับมนุษย์ เพราะ พวกมันมักชอบมาทำลายบ้านเมือง เพื่อแย่งชิงสมบัติที่มันชื่นชอบ หรือแม้แต่ทำเพื่อแย่งชิงอาณาจักร ด้วยเหตุนี้ มนุษย์จึงไม่นิยมชมชอบมังกรยุโรปนัก แต่ก็ยังมีอยู่บ้างที่มังกรมาคอยช่วยมนุษย์ แต่นั่นก็เป็นเพียงส่วนน้อยของเหล่ามังกร

มังกรนั้นมีแตกต่างกันออกไปในหลายพื้นที่ ในหลายทวีป เช่น มังกรจีน มังกรยุโรป และอื่นๆจะแตกต่างออกไปตามความเชื่อ

มังกรจีน

เป็นสัญลักษณ์โดดเด่นอันหนึ่งของจักรพรรดิและวัฒนธรรมจีน มีลักษณะที่มาจากสัตว์หลาย ๆ ชนิดผสมผสานกัน ลักษณะลำตัวยาวเหมือนงู มีเขี้ยวขนาดใหญ่หนึ่งคู่อยู่ที่บริเวณขากรรไกรด้านบน มีหนวดยาวลักษณะเหมือนกับไม้เลื้อย และมีแผงคอเหมือนกับของสิงโตอยู่บน คอ , คาง และข้อศอก มีเกล็ดสีเขียวเข้มทั่วทั้งบริเวณลำตัวรวมทั้งสิ้น 117 เกล็ด ซึ่งเกล็ดมังกรจำนวน 81 แผ่น มีคุณสมบัติเป็นหยางซึ่งเป็นเกล็ดที่มีความดี เกล็ดมังกรจำนวน 36 แผ่น มีคุณสมบัติเป็นหยินซึ่งจะเป็นเกล็ดที่มีความชั่ว ลักษณะเขาของมังกรจะมีสันหลังทอดยาวไปตามหลังและหาง เป็นหนามยาวและสั้นสลับกัน มีขา 4 ขาและกรงเล็บแข็งแรง

มังกรยุโรป

มังกรยุโรปเป็นสายพันธุ์มังกรที่รู้จักกันโดยทั่วไป ทั้งนี้สาเหตุอาจจะมาจากการที่มังกรยุโรปมีรูปร่างที่สง่างามและน่าเกรงขามมากกว่ามังกรเอเชีย หรืออาจจะเพราะภาพยนต์ของทางฝั่งตะวันตกนั้นได้มีการนำมังกรยุโรปไปเป็นตัวละครในภาพยนต์

มังกรยุโรปมีลักษณะคล้ายกิ้งก่า มีเขา มีขา4ข้าง แต่เรื่องของผิวหนังมังกรยุโรปนั้น บางตัวจะเป็นเนื้อหนังไร้เกล็ด ส่วนบางตัวอาจจะมีเกล็ดปกคลุมบริเวณหลังคอ ด้านหลังตั้งแต่สันหลังจะถึงหาง หรือบางสายพันธุ์อาจจะขนปกคลุมทั้งตัว ส่วนเรื่องปีกของมังกรยุโรปก็ไม่ได้จำกัดเสมอไปว่า ปีกมังกรยุโรปจะมีลักษณะคล้ายกับปีกของคางคาว(ปีกแบบเนื้อหนัง)เสมอไป เนื่องจาก บางตัวมีปีกที่มีลักษณะเหมือนนก(ปีกที่มีขนเหมือนนก) ส่วนเรื่องสีผิวสามารถแบ่งออกเป็นกลุ่มใหญ่ได้3สีดังนี้

1.สีน้ำเงิน/สีฟ้า ไล่สีไปตั้งแต่สีน้ำเงินจนถึงสีเงิน

2.สีแดง ไล่สีไปตั้งแต่ สีทองแดงจนถึงสีแดงเข้ม

3.สีเขียว ไล่สีไปตั้งแต่สีเขียวจนถึงสีทอง ซึ่งกลุ่มสีเขียวจะครอบคลุมมากที่สุดของสีผิวมังกร

แต่สีผิวของมังกรไม่ได้กำหนดตายตัวว่าจะต้องมีสีใดดังนั้นถ้าเราเห็นมังกรสีรุ้งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลย

และก็ไม่ใช่เรื่องแปลกถ้ามังกรบางตัวจะมีมากกว่า1หัวหรือปีก1คู่มีขามากกว่า4ขาหรือหางมากกว่า1หาง

มันเป็นเสน่ห์ของมังกรที่ต่างออกไปจากตัวอื่นๆมันเป็นเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใครและยากที่จะมีใครเหมือนของมังกรแต่ละตัว

พลังและความสามรถ

เรื่องพลังและความสามารถของมังกรยุโรปถูกกล่าวขานกันมากมาย ไม่ว่าจะเป็นพละกำลังที่มหาศาล ความสามรถในการบินที่รวดเร็ว พลังสติปัญญาที่มากกว่ามนุษย์ หรือพลังเวทย์มนต์ที่มีเหนือกว่าจอมเวทย์ใดๆ และความสามารถในการพ่นไฟของพวกมัน

ทั้งนี้จะขอแบ่งพละกำลังและความสามรถของมังกรเป็น2ประเภท พลังเวทย์และพละกำลังทางกายภาพ

-พลังเวทย์มนต์ของมังกร -

เนื่องจากมังกรขึ้นชื่อเรื่องที่เป็นสัตว์วิเศษ เมื่อพูดถึงเรื่องวิเศษแน่นอนเรื่องแรกที่พวกเราหลายๆคนนึกถึงคือ "พลังเวทย์มนต์"

มังกรสามารถใช้ศิลปะเวทย์มนต์ได้อย่างดีเยี่ยมซึ่งมังกรส่วนใหญ่จะไม่ไปยุ่งกับเวทย์มนต์ดำแต่มีบางส่วนที่ใช้เวทย์มนต์ดำ

มังกรทั่วไปจะใช้เวทย์มนต์สีน้ำตาล(เวทย์มนต์ที่เกี่ยวกับพื้นดิน) เวทย์มนต์สีเขียว(เวทย์มนต์ที่เกี่ยวกับธรรมชาติเช่นต้นไม้ พืช)

และเวทย์มนต์สีฟ้า (เวทย์มนต์น้ำ) มังกรบางตัวจะสามารถสร้างภาพลวงตาเพื่อหลบหนียามฉุกเฉิน ถ้าหากมังกรตัวใดที่ใช้เวทย์ชำนาญในการใช้มนต์ดำ เมื่อตายไปจะสามารถคงชีวิตอยู่ต่อไปได้ในรูปร่างของโครงกระดูก

ทั้งนี้ความสามรถทางเวทย์มนต์ของมังกรขึ้นอยู่กับความฉลาดของพวกมันและพันธุ์ของพวกมัน

พละกำลังชองมังกร-

นอกจากมังกรจะมีความสามรถด้านเวทย์มนต์แล้วความสามารถเรื่องแรงและพละกำลังก็ไม่น้อยหน้ากัน

ไม่ใช่มังกรทุกตัวที่จะสนใจในเวทย์มนต์ มีบางตัวที่ชอบวิธีรุนแรง ดุดัน และบ้าพลัง ซึ่งจะทำให้ดูน่าเกรงขามมากว่ามังกรที่ใช้เวทย์มนต์เป็นเท่าตัว

อาวุธประจำตัวของมังกรคงหนีไม่พ้น การใช้เล็บที่แหลมคมจิกเข้าที่เข้าที่เนื้อของศัตรู ใช้ข่วนจุดสำคัญของศัตรู หางของมังกรบางตัวจะมีหนามแหลมซึ่งนั้นก็ใช้เป็นอาวุธป้องกันตัวได้เช่นกันและมีระยะมากกว่าการใช้เล็บข่วน ซึ่งถือเป็นอาวุธระยะกลาง

นอกจากหางและเล็บ มังกรสามารถใช้เขา เขี้ยว หน้าอก(ในกรณีที่มังกรตัวนั้นมีหนามแหลมที่หน้าอก) และการพ่นไฟ

สาเหตุที่นำการพ่นไฟมาจัดอยู่ในพละกำลังทางกายภาพคือ มังกรเกือบทุกตัวสามารถพ่นไฟได้และเป็นสิ่งที่ติดตัวมาตั้งแต่กำเนิดโดยไม่ตีองใช้เวลาฝึกฝนเพื่อให้ได้มาเหมือนเวทย์มนต์

ความสัมพันธ์ของมังกรและมนุษย์

มนุษย์ที่เป็นสิ่งมีชีวิตที่ลึกลับและซับซ้อนเช่นเดียวกับมังกร มนุษย์ชอบที่จะกลัวสิ่งที่ตนไม่เข้าใจ มนุษย์ได้กล่าวว่ามังกรคือสัญลักษณ์แห่งความชั่วร้าย ความโลภ เนื่องจากมังกรชอบที่จะขโมยสิ่งของล้ำค่า แก้ว แหวน เงินทอง หรือสิ่งใดที่มังกรปรารถนา

จากมนุษย์ ไม่ว่าจะด้วยวิธีการปล้น ขโมย หรือ แย่งชิงมาจากมนุษย์ มังกรยุโรปบางตัวลักพาตัวมนุษย์ไปเป็นทาสรับใช้ของมันก็มี

บางตัวต้องการจะยึดอาณาจักร โดยวิธีการไล่ทำลายหมู่บ้านหรือบริเวณรอบข้างของอาณาจักรที่มันหวังจะครอบครองทำแบบนี้เรื่อยๆจนในที่สุดมนุษย์จะยอมยกให้มัน หรือมังกรตัวนั้นจะโดนจบชีวิตด้วยดาบของอัศวินหรือเจ้าชายตามในนวนิยาย

แต่มังกรก็ไม่ได้เลวร้ายทุกตัว บางตัวอยู่ฝ่ายมนุษย์และปกป้องมนุษย์จะมังกรตัวอื่นก็มี

ดังนั้นความสัมพันธ์ของมังกรยุโรปและคนยุโรปดูท่าจะเป็นความสัมพันธ์ในแง่ของศัตรูมากกว่าจะเป็นแง่ของพันธมิตร

ที่อยู่อาศัยของมังกร

มังกรยุโรปจะมีที่อยู่อาศัยของตนเพื่อเก็บทรัพย์สมบัติของตนและเป็นที่พักพิงของตน โดยส่วนมากมังกรยุโรปจะอยู่อาศัยตามถ้ำ

โดยที่ถ้ำของมัน อาจจะมีมากว่า1ห้อง แต่ห้องที่ใกล้ปากทางเข้าถ้ำของมัน จะเป็นห้องที่พวกมันใช้นอนหรือพักผ่อน สาเหตุที่พวกมันมาอยู่ห้องที่ใกล้ทางเข้ามากที่สุดเพื่อนะได้รู้สึกถึงการมาของศัตรูมังกรด้วยกันเองหรือแม้กระท่ังมนุษย์ ปากทางเข้าถ้ำของมันจะปกปิดไปด้วยพืชและหิน

หลักการในการหาที่อยู่อาศัยของมังกรคือ

-มีถ้ำที่ใหญ่พอที่มันจะเข้าออกได้

-ภายในถ้ำมีเนื้อที่มากพอให้พวกมันหมุนตัวหรือขยับได้ตามที่มันต้องการ

-มีเนื้อที่มากพอสำหรับสมบัติและทาส

หลักการสร้างถ้ำหรือที่อยู่

เริ่มแรกมังกรจะมองหาถ้ำ2ถ้ำที่อยู่ติดกัน จากนั้นเมื่อพวกมันตัดสินใจเลือกที่อยู่ได้แล้ว พวกมันจะขุดทางเดินกว้างที่กว้างพอสำหรับร่างกายพวกมันในการเชื่อมต่อถ้ำทั้ง2เข้าด้วยกัน จากนั้นพวกมันจะทำให้ถ้ำที่อยู่ด้านในสุดใหญ่ขึ้นและขัดมันด้วยความระมัดระวัง พวกมันจะตรวจสอบว่ามีรูหรืออะไรหรือไม่ แล้วมันก็จะขุดห้องต่อเพื่อให้ใช้ชีวิตอยู่อย่างสบายและสามารถรองรับสมบัติและคนรับใช้ของพวกมันได้

นี้เป็นวิธีที่ใช้กันทั่วไปในหมู่มังกรดินและน้ำ ส่วนมังกรไฟมีการใช้ชีวิตและสังคมต่างจากมังกรดินและน้ำส่วนเรื่องสายพันธุ์มังกรหลักๆยุโรปจะกล่าวในบทต่อไป

สมบัติของมังกร

มังกรเป็นสัตว์ที่รักงานศิลปะมากโดยเฉพาะ ศิลปะที่ทำจากทองเงินและทองคำ พวกมันชอบที่จะสะสมอัญมณีกับงานศิลปะที่พวกมันชอบไว้มากๆแต่พวกมันไม่คิดจะสร้างเองแต่จะ"ได้รับมา"จากพวกมนุษย์ด้วยหลากหลายวิธีเช่น การปล้น การเอาของจากเชลย

การแย่งชิง การค้าขายแลกเปลี่ยน การเจรจาต่อรอง หรือ การโกง หรืออย่างอื่นแต่วิธีที่พวกมันจะใช้จะขึ้นอยู่กับว่ามันสนใจในวิธีไหนมากกว่า อย่างไรก็ตามถึงพวกมันจะมีของเหล่านี้มากน้อยแค่ไหนพวกมันก็ไม่เคยรู้สึกพอ นี้ก็อาจจะเป็นสาเหตุที่มันโดนกล่าวว่าเป็นสัญลักษณ์และตัวแทนแห่งความโลภ

ความรู้เกี่ยวกับมังกรธาตุ

มังกรเป็นสิ่งแรกที่เกิดขึ้นในจักรวาล โดยในตอนที่จักรวาลเริ่มต้นใหม่ๆทุกอย่างอยู่ในภาวะเป็นน้ำที่ขุ่นขึ้น สรรพสิ่งทั้งมวลยังไม่แสดงตัวตนออกมา และก่อนที่โลกจะก่อตัวก็มีวิญญาณดวงหนึ่งกำเนิดขึ้นท่ามกลางสภาวะอันยุ่ง เหยิง ดวงวิญญาณนี้ลุกเป็นไฟหมุนตัวไปท่ามกลางอวกาศด้วยความหิวโหยและกระหายในความ ใคร่ เมื่อจักรวาลยังว่างเปล่า มันไม่พบสิ่งใดนอกจากเงาสท้อนของตัวเอง ด้วยความหิวมันจึงไล่งับหางและกลืนกินตัวเอง พร้อมทั้งผสมพันธุ์ไปด้วย ด้วยเหตุนี้มังกรตัวแรกก็กลายเป็นสองตัวจากนั้นก็ทวีคูณขึ้นไปเรื่อยๆ จนมังกรเต็มห้วงนภากาศไปหมด จากนั้นมันกลายเป็นสัตว์ต่างๆ รวมทั้งมนุษย์ด้วย สีกับมังกร แน่ นอนว่ามังกรนอกจากจะมีรูปร่างที่ต่างกันไปแล้ว สีสันของมันก็ยังขึ้นอยู่กับจินตนาการอีกด้วย สีสามารถสื่อความหมายอะไร และสามารถแบ่งระดับของมังกรเช่น

มังกรแดง - Red Dragon 

มังกรไฟ เป็นสัญลักษณ์ของความสำเร็จและกระตือรือร้น แต่ในส่วนของมังกรสีแดง มันสามารถทำให้ผู้คนตกอยู่ในความหวาดกลัว สามารถทำลายเมืองเล็กๆ ได้ในพริบตาด้วยเปลวไฟของมัน เรียกเอาเลือดเนื้อและความเกลียดชังจากผู้คนได้ สรุปได้เลยว่าเป็นมังกรอารมณ์รุนแรง มังกรในตำนานของตะวันตกส่วนใหญ่ มักจะเป็นสีแดง และจากคำพรรณนาในบทกวีก็มักจะกล่าวว่าตัวของมันเป็นสีแดง บางที สีแดงนี้อาจจะหมายถึง เลือด ไฟ ความรัก และอารมณ์ที่ครุกรุ่นดั่งพายุก็เป็นได้ ส่วนสีนี้ในแถบตะวันออกมีความหมายถึงพายุ มังกรธาตุไฟ(Dragons of Fire) มังกร ในธาตุไฟปกครองอยู่ทางทิศใต้ หัวหน้ามังกรไฟคือ ฟัฟนิร์ (Fafnir) เป็นผู้ดูแลมังกรไฟและแสงอาทิตย์ ลำตัวเป็นสีแดงล้วน ลำตัวแห้งและร้อน มังกร ในธาตุไฟจะอยู่ในสายตระกูลของมังกรไฟและมังกรภูเขาไฟ และสายพันธุ์ที่มีความเกี่ยวข้องกับทะเลทรายและแผ่นดินที่แห้งแล้ง ซึ่งมังกรไฟและมังกรภูเขาไฟจะมีลักษณะเป็นสีแดง ส้ม และเหลืองเข้ม ตัวหนาและใหญ่ ลำตัว คอ และหางยาวเหมือนงู มังกรไฟบางชนิดจะชอบนอนจำศีลอยู่ในปล่องภูเขาไฟ และมันก็มีอาวุธประจำตัวคือลูกไฟที่มันจะพ่นออกมาเพื่อป้องกันตัวนั่นเอง และ จัดเป็นมังกรประเภทขี้หงุดหงิด ขี้โมโหและเอาใจยาก ซึ่งถ้าใครคิดจะไปยุ่งกับมันก็จะจบท้ายด้วยการโดนมันจับเผาเท่านั้นเอง  

มังกรน้ำเงิน - Blue Dragon 

มังกรแห่งสายน้ำ มีความหมายที่สื่อไปในอารมณ์ของความหงุดหงิด และมีความหมายถึงน้ำหรือทะเล โดยส่วนใหญ่มักจะใช้กับพวกงูทะเลที่มักจะมีอารมณ์แปรปรวนจนชอบมาล่มเรือที่ แล่นผ่านไ ปมาแถวมหาสมุทรอยู่บ่อยๆ นอกจากนี้สีฟ้าอ่อน นี้ยังอาจหมายถึงน้ำแข็งก็ได้เช่นกัน ซึ่งก็อาจจะหมายถึงมังกรน้ำแข็งที่มักจะอาศัยอยู่ในแถบที่มีอากาศหนาวเย็น หรือพวกมังกรจำศีล แต่มังกรพวกนี้มักจะไม่ค่อยมีเรื่องเล่าให้กล่าวถึงเท่ากับพวกมังกรไฟ ในส่วนของชาวตะวันออก สีฟ้าใสหมายถึงความสงบและเยือกเย็น มังกรธาตุน้ำ(Dragons of the Seas and Various Waters) มังกร ธาตุนี้เป็นมังกรที่อาศัยอยู่ในทะเล ทะเลสาบ แม่น้ำ สระน้ำ และในแหล่งน้ำต่างๆ ไม่ว่าจะมีขนาดเล็กหรือใหญ่ ขนาดตัวจะใหญ่พอๆ กันมังกรในเอเชีย นั่นก็คือ มีลักษณะยาวและมีลำตัวคล้ายงู แล้วก็ไม่มีปีกไม่มีขาด้วย หัวหน้าของมังกรน้ำนี้คือ เนลยอน (Naelyan) เป็นมังกรที่ดูแลมังกรน้ำและมังกรทะเล ซึ่งตัวของมันจะเป็นสีฟ้าทั้งตัว มีลักษณะเย็นและเปียกชื้น มังกรธาตุน้ำส่วใหญ่ลำตัวจะอยู่ในโทนสีฟ้า มีทั้งตั้งแต่ ฟ้าประกายเงิน สีฟ้าอ่อน ยันไปถึงสีฟ้าน้ำทะเล ซึ่งสีของตัวมันจะสอดคล้องกับถิ่นที่อยู่ของมันนั่นเอง ที่หลังและปากจะมีลักษณะของปุยๆ หรือกระจุกขนๆ ที่ดูคล้ายขนนก (นึกถึงเวลาเขาเชิดมังกรจีนไว้) รอบเบ้าตามีลักษณะเป็นกระดูกแข็งๆ ส่วนหัวมีลักษณะคล้ายงู ลำตัวจะเล็กหรือจะตัวยาวก็ได้ ขึ้นอยู่กับแหล่งที่อยู่อาศัย

 มังกรม่วง - Purple Dragon 

มังกรธาตุลม (Dragons of Air) มังกร ธาตุลมปกครองทางทิศตะวันออก ซึ่ง หัวหน้ามังกรธาตุนี้ก็คือ แซร์อิซ(Sairys) เป็นผู้ดูแลมังกรในธาตุลม ตัวของแซร์อิซจะเป็นสีเหลืองทั้งตัว ค่อนข้างจะอุ่นๆ แล้วก็ชื้นๆ มังกรในธาตุนี้มีความสัมพันธ์กับสาย ตระกูล ดราโกนิค (Draconic) รวมไปถึงมังกรสายพันธุ์ที่มีความเกี่ยวข้องกับลม พายุ ฤดูกาล และเป็นมังกรที่เข้ากับสายพันธุ์อื่นๆได้ดี มังกรชนิดนี้ หมายถึง ความสูงศักดิ์ ปกติแล้วเราจะแทบไม่ได้ยินเรื่องเกี่ยวกับมังกรสีม่วง มังกรประเภทนี้จัดเป็นมังกรเจ้ายศเจ้าอย่าง มันมักจะคิดว่าตัวเองนั้นสูงส่งกว่าชาวบ้าน เชื่อกันว่าลมหายใจของมันเป็นสีม่วงด้วย! 

มังกรเงิน - Steel Dragon 

มังกรเหล็ก ราชาสีเงินผู้นี้มีนามว่าฮาไซ(HASAI)มีลักษณะ สีเงินทั้งตัว มีจมูกเป็นจงอยปากนก มีคางที่แข็งแกร่ง ลิ้นแหลม ชอบอยู่บนภูเขาสูงและรักในการบินเป็นพิเศษชอบบินอยู่บนท้องฟ้าที่กว้างใหญ่และมีเมฆมาก ชอบช่วยเหลือผู้บริสุทธิ์และมักรักษาอาการบาดเจ็บให้ผู้คนมีความสามารถพิเศษในการเปลี่ยนแปลงขนาดร่างกายตนเองและยังสามารถกลายร่างเป็นมนุษย์ได้ มังกรธาตุเงิน หมายถึง ความอ่อนโยนจัดอยู่ในประเภทมังกรที่ฉลาด มีความคิด และระแวดระวังภัยเป็นเลิศ แต่เมื่อมันแก่ตัวมากขึ้นมันก็มักจะอยู่เฝ้าสมบัติของตัวเอง มากกว่าไปสุงสิงกับมังกรตัวอื่นๆ มังกรประเภทนี้จะชอบสิ่งของที่สะท้อนแสงแวววาวทุกชนิด โดยเฉพาะกระจก มังกรสีเงินมักจะเป็นพวกอยู่ติดบ้าน ไม่ยอมออกจากถ้ำไปไหน มันชอบการจำศีล ไม่ก็ซ่อนตัวเงียบๆ ไม่ให้ใครรู้  

มังกรเขียว - Green Dragon 

มังกรแห่งป่า มีลักษณะสีเขียวตลอดตัวแม้แต่เขามีคอยาวคร้ายไดโนเสาร์ ชอบอยู่ในที่ๆมี พุ่มไม้ ต้นไม้ใหญ่หรืออาจอยู่หลังน้ำตกที่น้ำท่วมถึงป็นสัญลักษณ์ของความสำเร็จ กลอุบายการเมืองและการลอบกัด มังกรเขียวชอบโกหกหรือล่อหลอก ชักจูงด้วยวาจามักหลอกให้เหยื่อเกรงกลัวก่อนจะจับกินเป็นอาหาร มีลมหายใจเป็นก็าซครอลีนที่เป็นพิษ มังกรธาตุไม้ หมายถึงโลก ดังนั้นมังกรสีเขียวก็คือมังกรที่มีความสัมพันธ์กับโลก และอยู่กับธรรมชาติ เชื่อกันว่ามังกรสีเขียวพ่นน้ำกรดแทนที่จะเป็นไฟหรือน้ำแข็ง ดังนั้นมังกรสีเขียวจึงสามารถบังคับความเป็นไปของธรรมชาติได้ ไม่ว่าจะเป็นการทำให้ต้นไม้เจริญงอกงาม ทำให้แผ่นดินไหว หรือเปลี่ยนกระแสน้ำได้   

มังกรทอง - Gold Dragon 

มังกร ทอง ส่วนใหญ่จะหมายถึงราชามังกรและราชินีมังกร มังกรสีทองนี้จะเป็นผู้พิทักษ์ทรัพย์สมบัติทั้งทองคำ เพชรพลอยและรัตนชาติ มังกรประเภทนี้จะเป็นมังกรนิสัยดีและมีความยุติธรรมและให้ความเท่าเทียมกัน กับมังกรทุกชนิด มังกรทองนี้ไม่ค่อยจะแสดงอารมณ์ออกมาเวลาอยู่ในที่สาธารณะ  

มังกรเหลือง - Thunder Dragon 

มังกรสายฟ้า เป็นที่กล่าวถึงกันมาตั้งแต่สมัยโบราณปรากฏตามตำนานต่างๆมากมายในโลกโดยมักแสดงออกในรูปแบบร่างอวตาลของเทพเจ้าที่โกรธกริ้วมนุษย์ที่ชั่วช้า ในตำนานจีนเชื่อว่าเมื่อฟ้าแล็บฟ้าร้องนั่นคือเทพเจ้ามังกรกำลังพิโรธ แต่ในตำนานยุโรปมังกรสายฟ้าถูกนำไปเปรียบกับอาวุธของเทพเจ้าที่แสดงออกมาในรูปแบบของโลหะและเสียงของอาวุธเมื่อยามปะทะกัน หนึ่งในตำนานมังกรสายฟ้าที่เป็นที่รู้จักกันดีเรียกขานนามมันว่า โคโรวาชิ(Kolowisi / Kolowissi)เป็นเรื่องเล่าของชาวพื้นเมืองอเมริกันเผ่าซูนิ(Zuni) ที่เล่าขานสืบต่อกันมาว่าครั้งหนึ่งมีหมู่บ้านแห่งหนึ่งตั้งอยู่ใกล้ภูเขาที่มีฟ้าผ่าตลอดทั้งปี มีหัวหน้าหมู่บ้านเป็นหมอผีที่เป็นที่เคารพของคนในหมู่บ้านเค้ามีบุตรสาวคนหนึ่งนางมีรูปลักษณ์สวยงามแต่มีนิสัยแปลกประหลาด ไม่ชอบสิ่งสกปรกแม้การเข้าใกล้ผู้คน พูดคุยหรือมองก็ล้วนเป็นที่น่ารังเกียจสำหรับเธอทำให้พ่อของเธอต้องแยกเธอออกให้ห่างจากผู้คน จนกระทั่ง วันเวลาผ่านไปหลายปีอยู่ๆสายฟ้าก็เงียบสงบลง พร้อมกับข่าวว่าเธอตั้งครรภ์และคลอดทารกชายออกมาคนทั้งหมู่บ้านรวมทั้งพ่อของเธอไม่มีใครรู้ว่าใครเป็นพ่อเด็ก จนกระทั่งคืนหนึ่งในขณะที่เธอกำลังหลับเด็กทารกได้เผยร่างจริงให้ได้เห็นปรากฏร่างเป็นงูยักษ์ มีเขางอกบนหัว จงอยปากหนามีครีบและเกร็ดขึ้นทั่วตัว มันเริ่มขดตัวเป็นวงกลมแล้วโอบกอดร่างนางผู้ให้กำเนิดไว้ภายใน รุ่งเช้าเมื่อหญิงสาวตื่นขึ้นนางหากลัวสิ่งที่ได้เห็นไม่....กลับโอบกอดมันกลับด้วยความรัก .... ครั้งสุดท้ายที่มีคนในหมู่บ้านเห็นปรากฏร่างมังกรยักษ์อุ้มร่างหญิงสาวบินไปที่ภูเขาสายฟ้าแล้วไม่ลงมาอีกเลย

มังกรขาว - White Dragon 

มังกรแห่งแสง มีลักษณะเป็นมังกรขนาดเล็ก ปกคลุมด้วยขน มีกรงเล็บที่แข็งแกร่งเพื่อใช้ใการปีนเขาสูง ชอบอยู่ในที่เย็นฉ่ำในแถบขั้วโลกเหนือ หรือไม่ก็ภูเขาสูงไม่ชอบที่ๆแสงแดดส่องถึง มักอยู่ตัวคนเดียวชอบสันโดดแต่เป็นอัจฉริยะและมีความทรงจำที่ดีมาก หายใจเป็นไอเย็นชอบให้อาหารแช่ในน้ำแข็งก่อนที่จะกินแต่ถ้าเหยื่อยังไม่ตายก็จะถูกจับแช่แข็งจนกว่าจะตายแล้วค่อยกิน แต่ถ้าเจอให้ขู่ให้ตกใจเพราะมังกรขาวขี้ขลาดและตกใจง่าย มังกธาตุแสง หมายถึง ความฉลาดสขุม เพราะสีขาวมีความหมายถึงแสงสว่างและศีลธรรม แต่ก็มีอยู่หลายเรื่องที่ให้มังกรขาวเล่นบทเป็นตัวร้าย เพราะมังกรชนิดนี้ฉลาดพอที่จะไม่พูดความจริงทั้งหมด ในประเทศจีนก็มีเรื่องเล่ามากมายเกี่ยวกับมังกรขาว และชาวจีนยังเชื่ออีกว่ามังกรขาวคือผู้รักษาความสมดุลย์ธาตุหยินและหยางใน โลก ทำให้โลกมีความสงบสุขด้วย สีขาวสำหรับชาวเอเชียคือสีแห่งการไว้ ทุกข์ มังกรขาวจึงกลายเป็นผู้เตือนแห่งความตายแต่ไม่ใช่ปีศาจอย่างแน่นอน มังกรขาวคือมังกรประจำทิศใต้   

มังกรดำ - Black Dragon  

มังกรแห่งความมืด มีลักษณะสีดำทั้งตัวตั้งแต่หัวจรดเท้าแม้แต่หัวใจก็ยังมีสีดำปกคลุมด้วยเกร็ดลื่น มีดวงตาที่น่ากลัวลึกล้อมรอบไปด้วยเกร็ด ลมหายใจเป็นพิษและเป็นกรดร้อน ชอบอาศัยอยู่ในที่ๆเหนียว เปียกใกล้หนองบึงที่มีกลิ่นเหม็นชอบกลิ่นที่น่าสะอิดสะเอียนของซากศพและน้ำเน่า อาหารที่โปรดปรานคือเนื้อมนุษย์และปลาไหล มังกรธาตุความมืด ชนิดนี้มักอยู่ในความคิดของคนทั่วไปแล้วมักจะเป็นไปในทางไม่ดี สีดำคือสีของปีศาจและความชั่วร้าย ผู้มีความเกียจชัง อิจฉาริษยาเรียกขานนามมันว่า อันดรากา(Ancalagon - Andracca)คนทั่วไปมักจะไม่ชอบมังกรสีนี้ และบางคนก็เชื่อว่ามันเป็นอมตะ เพราะสีดำเป็นสีแห่งความตายและมัจจุราช ซึ่งสีดำนี้ คนเรามักจะเอามาเปรียบเทียบกับสีของยามค่ำคืนอันมืดมิด ส่วน ในความเชื่อของชาวเอเชีย สีดำเป็นสีของความสับสน มังกรดำของคนเอเชียเชื่อกันว่าเวลามันพ่นไฟจะทำให้เกิดพายุฟ้าแลบแปรบปราบ และว่ากันว่ามังกรดำคือมังกรแห่งทิศเหนือ

อ้างอิง

http://kikkokstoryteller.blogspot.com/2015/03/10-dragon-ten-elements-fire-red-dragon.html?m=1

http://dragonicodyssey.blogspot.com/2014/09/dragonology-europeandragon1.html?m=1