ไออุ่นของใบพลู (yuri)
ใครจะคิดละว่าประธานบริษัทสุดเนี้ยบจะกลายเป็นยัยเด็กขี้แยที่เธอเคยปฏิเสธไปในอดีต แบบนี้จะทำอย่างไรดีล่ะ ยื่นใบลาออกเลยดีไหมหรือว่าแกล้งทำเป็นไม่รู้จักดี
ผู้เข้าชมรวม
1,022
ผู้เข้าชมเดือนนี้
11
ผู้เข้าชมรวม
ญญ ยูริ หญิงรักหญิง yuri Yuri YURI นิยายวาย ไออุ่น ใบพลู คลั่งรัก แอบบรัก หวานแหวว ตามจีบ ตื้อ ฟีลกู๊ด
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
บทนำ
เช้าสายที่แสนจะสดใสของวันจันทร์อันแสนวุ่นวาย
ร่างสูงของหญิงสาวหุ่นเพรียวในเสื้อเชิตสีขาวครีมตัดกับกางเกงสแล็คขากระบอกสีน้ำตาลเข้มได้เดินเข้ามาภายในตัวอาคารสูง
ดวงตาคมภายใต้แว่นหนาลอบมองพนักงานตอนรับหน้าลอบบี้อย่างประหม่า
มือบางถือแฟ้มเอกสารแนะนำตัวเอาไว้แน่น
“สวัสดีค่ะมาติดต่อเรื่องอะไรคะ?”
พนักงานหน้าลอบบี้เงยหน้าขึ้นถามคนมาใหม่ด้วยน้ำเสียงหวานพร้อมอมยิ้มมุมปากอย่างเขินอายให้เมื่อดวงตาคมที่อยู่ภายใต้แว่นหน้านั้นกำลังจับจ้อง
“มาสำภาษณ์งานค่ะ
ไม่ทราบว่าไปทางไหนเหรอคะ?”
“ช-ชั้นที่สี่สิบสองห้องซ้ายมือสุดค่ะ”
“ขอบคุณนะคะ”
ร่างสูงยิ้มรับอย่างนึกขอบคุณก่อนจะพลิกตัวกลับแล้วเดินไปตามคำแนะนำของอีกฝ่าย
โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าคนด้านหลังกำลังซุบซิบถึงความงามของตน
พอถึงชั้นที่สี่สิบสองก็เดินเลี้ยวซ้ายไปที่ห้องท้ายสุดสินะ
ไออุ่น
หรือ อินทิรา
บอกกับตัวเองในขณะที่ลิฟต์กำลังขึ้นไปถึงชั้นที่สี่สิบสอง
ทันทีที่ประตูลิฟต์ถูกเปิดออกร่างสูงก็ได้พบเข้ากับผู้ร่วมสำภาษณ์งานจำนวนมากที่เรียงรายกันนั่งรอคิวเรียกกันอยู่ตรงระเบียงทางเดินจากหน้าลิฟต์ถึงประตูห้องสัมภาษณ์
เธอลอบกลืนน้ำลายหนืดลงคอก่อนจะสูดลมหายใจเข้ารวบรวมความกล้า ในช่วงที่เศรษฐกิจย่ำแย่พอ
ๆ กับค่าครองชีพที่สูงขึ้นนี้ การได้เข้าทำงานในบริษัทดี ๆ อย่างบริษัทออกแบบอัญมณีและเครื่องประดับ
C.H.U.
ถือว่ามีชัยไปมากกว่าครึ่ง และครั้งนี้เธอจะพลาดไม่ได้อย่างเด็ดขาด
ไออุ่นตัดสินใจเดินไปนั่งที่เก้าอี้ตัวสุดท้ายเช่นเดียวกับลำดับคิวของเธอ
ดวงตาคมสีเปลือกไม้อ่อนสำรวจเอกสารในแฟ้มอย่างถี่ถ้วนกันพลาด
จะให้พูดอย่างไรดีล่ะว่าความสำคัญของการสอบสัมภาษณ์ในครั้งนี้นั้นมันมีผลกับอนาคตของเธอสูง
หนึ่งล่ะคือค่าคอนโด สองค่ารถ สามค่าอาหารหมาและไหนความเป็นอยู่ของมันอีกล่ะ
แถมแรงกดดันจากคนที่บ้านอีก ถ้าหากเธอสอบสัมภาษณ์งานครั้งนี้ไม่ติดมีหวังโดนพ่อกับแม่เรียกตัวกลับไปดูแลไร่ชาที่เชียงใหม่แน่
แค่คิดก็เหนื่อยใจ
แม้คนจะแออัดแต่บรรยากาศรอบข้างก็เป็นไปอย่างเรียบง่ายและไม่วุ่นวายมากที่ควร
ร่างสูงลอบมองสีหน้าของบรรดาผู้สมัครที่เดินออกมาจากห้องสัมภาษณ์
ไม่ว่าจะเป็นคนไหนต่างก็มีใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมั่นอกมั่นใจหลังเดินออกมาราวกับว่าพวกเขาจะได้รับเลือกอย่างนั้น
หรือว่ากรรมการของที่นี่จะไม่เข้มมาก อืม.. ก็ดีแล้วล่ะ ค่อยผ่อนคลายหน่อย
ร่างสูงของหญิงสาวเอนตัวไปด้านหลังอย่างโล่งอกก่อนที่จะมีเสียงเอะอะโวยวายของคนหมู่มากดังขึ้นมาจากหน้าลิฟต์
เมื่อไออุ่นหันไปตามเสียงนั้นเธอก็ได้พบเข้ากับกลุ่มชายชุดดำนับสิบที่กำลังยืนเบิกทางให้ใครสักคนในชุดเดรสสั้นสีแดง
ใบหน้าสวยรูปไข่เดินเฉิดฉายท่ามกลางคนหมู่มาก ริมฝีปากแดงสีเชอรรี่ดูเข้ากันดีกับสีผมช็อคโกแลตเข้มของหล่อนไหนจะผิวพรรณ์ที่ขาวเปล่งปลั่งราวกับไข่มุกราคาหลายสิบล้านนั่นอีกล่ะ
คงต้องยอมรับว่าหล่อนสวยมาก ๆ มากมายจริงๆ
แทบไม่มีสัดส่วนตรงไหนของหล่อนติดลบเลยนอกเหนือไปจากแว่นกันแดดสีส้มลายฉูดฉาดที่กำลังบดบังสายตาคู่นั้นอยู่บนใบหน้า
มันคงจะดีถ้าหากเธอได้มองเห็นสายตาของหล่อนแบบชัด ๆ โดยที่ไม่มีอะไรเข้ามาขวางมากั้น
ร่างสูงนึกอยากอยู่ในใจอย่างเพ้อฝัน เธอมองร่างระหงของผู้หญิงคนนั้นเดินผ่านหน้าของเธอไปอย่างไม่ละสายตา
ดูจากการแต่งตัวแล้วหล่อนคงจะเป็นเจ้านายระดับสูงที่จะเข้าร่วมการสัมภาษณ์ในครั้งนี้เป็นแน่
แต่ว่า... หล่อนมาช้าไปหน่อยหรือเปล่า
‘ขอเชิญคุณ อินทิรา เข้าห้องสัมภาษณ์ด้วยค่ะ’
พระเจ้าคะไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรยังไงก็ขอให้ไออุ่นถูกคุณคนสวยเลือกรับเข้าทำงานด้วยเถอะเจ้าค่ะ
สาธุ!
ไออุ่นเดินเข้ามาภายในห้องสัมภาษณ์ด้วยความประหม่า
พอเอาเข้าจริง ๆ
ความมั่นใจที่พลั่งพลูออกมาเมื่อครู่กลับเลือนหายไปเสียทั้งอย่างนั้น ไม่ได้ ๆ
ฉันจะต้องพยายามให้มากกว่านี้ เธอบ่นพึมพรำกับตัวเองก่อนจะสูดหายใจเข้าเฮือกใหญ่อีกครั้ง
“สวัสดีค่ะดิฉันชื่ออินทิรา
ยลลักษณ์ อายุ 25 ปี จบปริญญาตรี-โทจากสาขาวิศวกรรมมัลติมิเดีย ของมหาวิทยาลัยABC
ค่ะ”
“ทำไมถึงอยากทำงานที่บริษัทนี้ล่ะ?”
“ชอบผลงานและภาพลักษณ์ที่โดดเด่นของบริษัทค่ะ
อีกทั้งตำแหน่งที่เปิดรับสมัครยังน่าสนใจและสอดคล้องกับความสามารถและทักษะของดิฉัน
เลยคิดว่าถ้าได้มาเป็นส่วนหนึ่งของที่นี่คงจะพัฒนาศักยภาพของบริษัทไปได้ไกลกว่าเดิมค่ะ”
ไออุ่นตอบด้วยน้ำเสียงฉะฉาน เธอมั่นใจว่าคำตอบและบุคลิกที่ผ่านการทำการบ้านอย่างดีของเธอนั้นคงจะโดนใจหัวหน้าฝ่ายบุคคลไม่คนใดก็คนหนึ่ง
แต่… มันเงียบเกินไปหรือเปล่า
ร่างสูงแอบกลืนน้ำลายหนืดหลังจากที่เธอเริ่มรู้สึกได้ถึงบรรยากาศภายในที่เย็นยะเยือก
ซึ่งมันผิดกับที่เธอคิดเอาไว้เมื่อครู่ อะไรกันนี่เธอทำอะไรผิดอย่างนั้นหรือทำไมคณะกรรมการถึงได้นั่งเงียบกริบจ้องหน้าเธอเขม้นอย่างนี้ล่ะ
เธอมั่นหน้ามากไปเหรอหรือว่าไง แต่ก่อนที่เธอจะฟุ้งซ่านไปมากกว่านี้
ผู้หญิงชุดแดงคนสวยก็ได้ยกมือบางขึ้นเอ่ยถาม
“เคยมีประวัติหลอกลวงใครมาก่อนไหมคะ?”
“ค-คะ?”
“แล้วประวัติทำร้ายร่างกายล่ะ?”
“ไม่มีค่ะ”
ของแบบนี้จะไปมีได้ยังไงกันล่ะแม่คุณ
“แล้วแฟนล่ะคะ?”
“ม-ไม่มีค่ะ!” คำถามอะไรเนี่ย มันอยู่ในส่วนที่ต้องถามด้วยเหรอ?
แต่จะว่าไปผู้หญิงคนนี้ทั้งน้ำเสียงและโครงหน้าก็ดูคุ้น ๆ
เหมือนกับเคยเห็นที่ไหนมาก่อน
.
.
‘เมื่อไหร่จะเลิกตามตื้อพี่สักทีก็บอกไปแล้วนิว่าพี่ไม่ชอบ!’
‘ตะ ตะ แต่หนูชอบพี่อุ่น ฮึก!’
‘แต่พี่ไม่ได้ชอบเราเลิกตอแยสักที!’
‘ฮึก ฮึก ตะ แต่ หนู ชะ ชอบ พี่…’
‘เห้อ เอางี้ ไว้หนูมีเงินกองท่วมหัวพี่เมื่อไหร่ค่อยมาจีบพี่โอเคไหม?’
.
.
คงจะไม่ใช่หรอกมั้ง
ร่างสูงยิ้มแห้งให้กับความคิดของตัวเอง
เธอคงจะกังวลกับคำถามมากจนเกินไป
ถึงขนาดที่ย้อนเอาความทรงจำในอดีตของเธอกับเด็กสาวจอมตื้อมาคิด
ไม่มีทางที่คุณคนสวยตรงหน้าของเธอจะเป็นยัยเด็กขี้แยนั่น
ต่อให้วันเวลาจะทำให้เราสวยขึ้นก็เถอะแต่ไม่มีทางที่เด็กกะโปโลแก่แดดอย่างใบพลูจะโตขึ้นมาเป็นหนึ่งในผู้บริหารระดับสูงของที่นี่ได้หรอก
เพราะยัยนั่นนะเฉิ่มเบ๊อะจะตายไปไม่มีทางที่จะกลายร่างมาเป็นนางพญาสุดสวยตรงหน้าของเธอได้หรอกไม่มี!
“ยินดีด้วยนะคะ”
หล่อนบอกพร้อมกับลุกขึ้นยืนเต็มความสูง
ก่อนที่จะสาวเท้าเรียวเดินเข้ามาใกล้ๆจนใบหน้าของเราอยู่ห่างกันแค่ผ่ามือกั้น
“คะ?”
ไออุ่นทำหน้าตกใจเอียงคออย่างสงสัยภายในใจของเธอเต็มไปด้วยคำถาม
โดยไม่รู้เลยว่ากำลังเกิดสิ่งที่หน้าตกใจมากกว่าหลังจากนี้
“ตอนนี้คุณผ่านการสัมภาษณ์แล้วค่ะ”
หล่อนว่าพร้อมกับยกวงแขนเรียวขึ้นโอบกอดอย่างยินดี ซึ่งร่างสูงก็ได้แต่ยืนแข็งทื่อเป็นรูปปั้น
แม้จะตกใจแต่เธอก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าอ้อมกอดของอีกฝ่ายอบอุ่นและทำให้ใจชื้นมากแค่ไหน
อีกทั้งยังกลิ่นหอมอ่อนๆที่ลอยออกมาจากตัวของหล่อนนั่นอีกล่ะ
วันนี้เป็นวันที่ดีที่สุดเลยว่าไหม?
“พลูดีใดด้วยนะคะพี่อุ่น”
หล่อนกระซิบก่อนจะผละออกพรอมกับฉีกยิ้มหวานจนปิดไม่มิดต่างจากอีกคนที่กำลังทำหน้าตื่นตกใจอย่างบอกไม่ถูก
เมื่อกี้หล่อนแทนตัวเองว่าพลูอย่างนั้นหรือ ยะ อย่าบอกนะว่า
‘ตะ ตะ แต่หนูชอบพี่อุ่น ฮึก!’
“คะ
คะ คุณ คุณ คุณ...”
“คะพี่อุ่น?”
หล่อนทำปากว่าอย่างไม่ออกเสียง
“เธออ...”
“ขาพี่อุ่น...”
“บะ
บะ ใบพลู!!!!”
บ้าเอ้ย!!! ใช่ยัยเด็กที่ชื่อใบพลูนั่นจริง ๆ ด้วย
ผลงานอื่นๆ ของ ข้าวผัดไข่ดาว ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ ข้าวผัดไข่ดาว
ความคิดเห็น