เงินค่ารองเท้า
เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นเมื่อราวปีพุทธศักราช ๒๕๓๐ มีเรื่องเล่าขานของผู้ชายคนหนึ่งชื่อว่า “นายหมู”
ผู้เข้าชมรวม
29
ผู้เข้าชมเดือนนี้
3
ผู้เข้าชมรวม
กำลังใจ ดำเนินชีวิต ประสบการณ์ ชีวิต ข้อคิด บทเรียนในชีวิต เรื่องเล่า เรื่องสั้น จิตใจ ใจที่คิดบวก แรงบันดาลใจ มีสาระ บทเรียน
นายหมู เล่าว่า...
พ่อผมเสียตั้งแต่ผมยังเด็กๆ แม่ป่วยเป็นโรคหอบหืด และหัวใจโต...
หลังพ่อเสีย แม่ก็แต่งงานใหม่กับ “เขา” ผมกลายเป็นบุตรบุญธรรมและขอเรียกเขาว่า “พ่อเลี้ยง” ในความหมายที่เข้าใจง่าย
ผมเข้าใจในความรู้สึกของแม่ดีว่า ลำพังแม่ที่ป่วย คงไม่สามารถส่งผมเรียนสูงๆ เพื่อให้เป็น “ทรัพย์สิน” สำหรับการดำรงชีวิตของผมได้ การที่แม่แต่งงานใหม่กับพ่อเลี้ยง ซึ่งรับราชการและเขาส่งผมเรียนจนจบปริญญาตรี
โดยส่วนตัว ตั้งแต่เขามาเป็นพ่อเลี้ยงผม เราคุยปีละไม่ถึง ๑๐ คำ บางวันไม่ได้คุยกันเลย ผมไม่ได้เกลียดเขา ส่วนตัวรู้สึกถึงความเป็น “คนดี” ของเขาด้วยซ้ำไป เพียงแต่ลึกๆ เรารู้สึกว่า เขาไม่ใช่ “พ่อ” ก็เท่านั้นเอง
เมื่อผมจบปริญญาตรี มหาวิทยาลัยรามคำแหง ได้ประมาณปีกว่า ก็เข้าทำงานเป็น “นักข่าว” ที่หนังสือพิมพ์แห่งหนึ่ง เงินเดือนตอนนั้น ๒,๗๖๕ บาท เป็นเงินเดือนขั้นต่ำของวุฒิปริญญาตรี ทุกเดือน ผมจะแบ่งเงินเดือนส่วนหนึ่งให้แม่เท่านั้น
หลังจากทำงานได้ปีเดียว เมื่องานเริ่มอยู่ตัว ผมก็ลาบวชให้พ่อที่ล่วงลับ และอยากให้แม่ได้เห็นผ้าเหลือง ลาบวช ๗ วัน
เย็นก่อนบวชหนึ่งวัน ผมนั่งกินข้าวอยู่กับแม่ที่บ้าน...(บ้านผมเป็นบ้านไม้หลังเดียว ยกพื้นเล็กน้อย มีบันไดก้าวขึ้น ๔ ขั้น) พอดีกับที่เขากลับจากทำงาน ผมเห็นรองเท้าผ้าใบเก่าสีขาวที่เขาใส่ไปทำงาน ข้างขวาขาด มันอ้า มองเห็นถุงเท้าโผล่พ้นรองเท้า
ผมรู้ว่าเขาลำบาก เขาประหยัดเงิน เพื่อส่งน้องชายเรียน ปวช. ไหนจะค่าใช้จ่ายภายในบ้านที่เขาต้องรับผิดชอบทั้งหมด ค่าเลี้ยงดูยาย (แม่ของแม่ผม) ที่อายุมาก และสารพัดค่าใช้จ่าย
ผมลุกขึ้นยืน หยิบแบงก์ ๕๐๐ บาทออกจากกระเป๋าเงิน (สมัยนั้นก็ถือว่ามากอยู่) ยื่นให้เขาบอกให้เขารับไปเถอะ ไปซื้อรองเท้าใหม่ ผมบอกผมไม่เคยให้อะไรเขา แต่ครั้งนี้ ผมจะให้เขาเพื่อซื้อรองเท้าใหม่ไปทำงาน
เขารับเงินผมไป ผมเห็นเขาพับแบงก์ครึ่งหนึ่ง แล้วใส่ไว้ในกระเป๋าตังค์ของเขา
เราไม่ได้พูดอะไรกันอีก...
รุ่งขึ้นอีกวัน ผมก็บวช...
ตลอด ๗ วัน ผมศึกษาธรรมะ ผมไม่ได้คิดอะไรเลย ตัดจากทางโลกโดยสิ้นเชิงจนกระทั่งสึกออกมา
วันแรกที่ผมสึก แม่มารับกลับบ้าน เหมือนกับทุกวัน ตกเย็นผมก็มานั่งกินข้าวเหมือนเดิม
อยากรู้ว่า เมื่อเขาเห็นผมจะว่าอย่างไร...
แต่เขาไม่กลับมา
ราว ๒ ทุ่ม เพื่อนของเขามาที่บ้านบอกว่า เขาเสียแล้ว เส้นโลหิตในสมองแตก ตอนนี้ศพอยู่โรงพยาบาลราชวิถี
แม่ร้องไห้...ร้องไห้...แล้วก็ร้องไห้
ผมช็อก...งง...หูอื้อ...รู้สึกใจแป้วๆยังไงพิกล ยืนอยู่กับพื้น แต่เหมือนตัวล่องไปไหนต่อไหนไม่รู้
พอสติกลับมา ก็เรียกแท็กซี่ไปโรงพยาบาลทันที
คุยกับเพื่อนของเขา...บอกว่า เขามางานเลี้ยงกับเพื่อนๆ แล้วจู่ๆก็ฟุบลงกับโต๊ะ พวกเพื่อนจึงนำส่งโรงพยาบาล...
ตอนแรกที่มาถึงโรงพยาบาล เขายังเดินไปทำบัตรผู้ป่วยได้ แต่พอเข้าไปในห้องตรวจ เขาก็ไม่ออกมาอีกเลย...
เจ้าหน้าที่โรงพยาบาล รวบรวมทรัพย์สินของเขา ใส่ถุงพลาสติกเอามาให้แม่...
หยิบกระเป๋าสตางค์ของเขามาดู ไม่มีอะไรอยู่ในกระเป๋าเลย
มีแต่แบงก์ ๕๐๐ ใบเดียวที่พับอยู่...
--------------------------------------------
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ผลงานอื่นๆ ของ นายสามเหลี่ยม ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ นายสามเหลี่ยม
ความคิดเห็น