ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ❛AU Fanfiction Jujutsu Kaisen❜ – 水僊花 ✞ | RYOUMEN SUKUNA X OC

    ลำดับตอนที่ #2 : Chapter (2) - เรื่องกินไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่ถ้าไม่ได้กิน อันนี้เรียกหายนะ ต่อให้เป็นอิตาโดริจะชนะไหมก็ยังไม่รู้

    • อัปเดตล่าสุด 16 มี.ค. 64







    Chapter (2) - เรื่องกินไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่ถ้าไม่ได้กิน อันนี้เรียกหายนะ ต่อให้เป็นอิตาโดริจะชนะไหมก็ยังไม่รู้











    "สรุปคือตอนนี้คำสาประดับพิเศษกำลังอยู่ที่บ้านของอิตาโดริงั้นเหรอ?"


    'คุกิซากิ โนบาระ' สรุปความจากที่ฟุชิงุโระเล่า เธอไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่สีหน้าและท่าทางประหลาดใจเหล่านั้นก็สร้างความเข้าใจอะไรออกมาได้เยอะพอสมควรแล้ว "ชีวิตของหมอนั่นแลดูดึงดูดอะไรแปลกๆนะ"


    "อ่า…"ทายาทเซนอินส่งเสียงในลำคอออกมา "อิตาโดริจะชนะ"


    "ขอเถอะ ฟุชิงุโระ พูดคำอื่นบ้างเถอะย่ะ!"


    โนบาระกุมหน้าผาก ดูเอือมระอากับความเพ้อๆของทายาทเซนอิน 


    "แล้วอิตาโดริจะเอายังไง หมอนัานจะรับมือกับคำสาปพิเศษที่คนหนึ่งก็คือราชาคำสาป ส่วนอีกคนคือเมียของราชสคำสาปเนี่ยนะ"


    "อิตาโดริจะชน---"


    "เล่นมุกอื่นบ้างเถอะ!"


    โนบาระโวยออกไปหลังฟังซิกเนเจอร์ประโยควรรคทองนั่นซ้ำอีกครั้ง


    "ไม่น่าจะเป็นอะไรหรอก"


    "ทำไมล่ะ?"


    "ก็คนที่อยู้ในสถานการณ์นั้น คืออิตาโดริ" คนพูดก้มหน้าลงก่อนจะเงยขึ้นมาพูดต่อช้าๆไม่ได้รีบอะไร "ดีแล้วล่ะที่เป็นอิตาโดริ เธอลองนึกสภาพว่าเป็นอาจารย์โกะโจแทนสิ"


    พอได้ยินแบบนั้นโนบาระก็จินตนาการภาพของอาจารย์ผมสีพิสุทธิ์ที่มักปิดตาของตัวเองจนเธอก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงไม่โดนชนเสาสักทีคนนั้น - ภาพในจินตนาการของโนบาระทำให้หล่อนเผลอหลุดคำพูดหนึ่งออกมาให้เมงุมิได้ยิน


    "หายนะ"


    ถึงจะไม่ได้สนใจในตัวอาจารย์มากนัก แต่ถ้าเทียบกันนะ การรับมือคู่สามีภรรยาคำสาปคู่นั้นที่ต่อล้อต่อเถียงกัน ถ้าเป็น'อาจารย์โกะโจ ซาโตรุ' แค่คิดคุกิซากิก็คิดแต่คำว่าหายนะเข้ามา


    เอาเป็นว่าสู้ๆนะ อิตาโดริ












    "ข้าหิว"


    "ก็ไปหาอะไรกิน"


    "ข้าขี้เกียจ"


    "นอนมาเป็นพันปี ยังจะขี้เกียจอีกหรือไง?"


    อิตาโดริ ยูจิ กำลังคิดว่าตัวเองตกอยู่ในสถาการณ์ที่กบืนไม่เข้าคายไม่ออก ตาของเขามองที่แก้มของตนที่มีปากของสุคุนะปรากฎกำลังเถียงกับคำสาประดับพิเศษอยู่ - เพราะอาจารย์โกะโจไม่อยู่ ตอนนี้สถานการณ์เลยยังไม่ถูกประเมินว่าควรจะกำจัดคำสาปสาวพันปีที่มีซัมติงกับสุคุนะได้อย่างไร


    "เอะอะก็ว่าแต่ข้าเอาแต่นอน ทีเจ้านั่งเหม่อมาพันปีเล่า"


    "แล้วเจ้ามายุ่งอะไรกับการนั่งเหม่อของข้า"


    "คนแก่"


    "เจ้าก็แก่"


    "ทั้งสองคนพอกันเถอะนะ…."


    ยูจิตัดสินใจแทรกคำสาปอาวุโสทั้งคู่ 


    "เด็กอย่างเจ้าไม่ต้องมายุ่ง"


    สุคุนะว่ากลับ


    "เห เด็กมันก็มีหัวใจไหม พูดอะไรของเจ้ากัน ราชานิสัยเสีย"


    ยูจิเริ่มคิดว่าตัวเองคิดผิดที่คิดจะห้ามสงครามนี้ เขามองใบหน้าของคำสาปสาวพันปีที่ดูกระตุกยิ้มขึ้นมาด้วยสีหน้าที่เรียกว่ายียวนกวนประสาท ไหนจะคำพูดประโยคด้านบนที่พูดอีกเมื่อกี้ 


    หล่อนกำลังยั่วโมโหสุคุนะอยู่แน่ๆ


    คิดสิคิด


    นายมีเวลาคิดและลงมือปฏิบัติก่อนสุคุนะจะระเบิดนะ อิตาโดริ ยูจิ!


    "ทุกคนมีเวลาอีกแค่หนึ่งนาทีนะคะ ตอนนี้ต้องจัดจานแล้วนะ!!!"


    "ครับ เชฟ!"


    เพราะเปิดทีวีค้างเอาไว้ พอถึงฉากหนึ่งของรายการอาหารชื่อดัง เขาก็เผลอตอบรับออกไปท่ามกลางบรรยากาศที่กำลังตึงเครียด ปากบนแก้มของยูจินั่นค้างไม่ได้ขยับเถียงอะไรกับคำสาปสาว


    ส่วนตัวคำสาปสาวหันไปหาทีวีที่กำลังฉายภาพของรายการทำอาหารชื่อดังรายการหนึ่ง นั่น--- ผู้เข้าแข่งขันกำลังยกจานของตนเดินตรงไปหาคณะกรรมการ เก็นซาคุ ซุยเซ็น หันกลับมา เธอมองอิตาโดรอด้วยสีหน้าจริงจัง


    "เจ้าหนู ข้าหิว"


    "หา?"


    "ข้าหิว เจ้าทำอาหารให้ข้าหน่อยสิ"


    "แต่ผมไม่ว่างนะ...อ่า แต่ถ้าหิว งั้นเดี๋ยวอุ่นลูกชิ้นที่ทำค้างไว้มาให้นะครับ"


    "จะไปแบ่งนางทำไมกัน?"


    "น้ำใจเจ้าไม่มี ก็อย่ามาขัดเส้นทางบุญของคนอื่น พ่อคำสาป"


    "อย่าเถียงกันเลยนะ ทั้งสองคน"


    ยูจิยอมรับว่าเขาปวดหัวพอสมควรกับการต่อล้อต่อเถียงของสองคำสาปสามีภรรยาคู่นี้ แต่เขาก็หลุดออกจากสถานการณ์นี้ได้ ด้วยการลุกออกไปที่ครัว จะว่าไปปกติ สุคุนะก็ไม่ค่อยออกมามีปฏิสัมพันธ์เท่าไร


    แต่พอเป็นเก็นซาคุซัง ถึงออกมาต่อล้อต่อเถียงแบบนี้


    "หยุดความคิดของเจ้าไว้เลย ไอ้หนู"


    "ครับ พ่อ"


    เขาประชดราชาคำสาปที่มีแต่ปากบนแก้มของตัวเอง


    หยิบลูกชิ้นที่อยู่ในกล่องออกมาอุ่นก่อนจะใส่จานยกกลับไปหาคำสาปหญิงที่กำลังนั่งดูละครทีวีอยู่เงียบๆ อิตาโดรินั่งลงข้างๆ เว้นระยะห่างกับคำสาปก่อนจะวางจานไว้ให้บนโต๊ะข้างหน้าโซฟา


    "ลูกชิ้นหรือ?"


    "ครับ"


    เธอหยิบส้อมจิ้มลงที่เจ้าลูกชิ้นก่อนจะเป่ามันเบาๆ และค่อยๆจับมันใส่ปาก


    เพียงคำแรกที่เข้าปากไป สีหน้าของเก็นซาคุ ซุยเซ็นก็แสดงทีท่าพอใจ และหันกลับมาหาเขา


    "ข้าไม่ได้กินอะไรอร่อยๆแบบนี้มานานมากแล้ว"


    "เอาแต่นอนกินบ้านกินเมือง"


    "มีแค่ปากแล้วมีค่าเป็นแค่ของแสลงให้เด็กหนุ่มนี่กินเข้าไปอย่างเจ้า อย่าได้เห่าหอนมากเลย สุคุนะ"


    แรงนะ


    แต่ยูจิก็ชอบใจกับคำด่า เหมือนเก็นซาคุซังได้พูดสิ่งที่อยู่ในใจของเขาออกไปหมดแล้ว ใช่ สุคุนะ นิ้วของนายรสชาติมันแย่มากๆ เป็นของแสลงไม่น้อยเลย


    "พ่อหนุ่มตอนนี้เจ้าอายุเท่าไร?"


    คำสาปสาวพันปีเลิกสนใจสุคุนะ หล่อนหันมาเท้าคางมองเขาตรงๆและถามถึงอายุอานาม


    "สิบหกครับ"


    "โอ้ - ออกเรือนได้แล้วนะ"


    "เอ๊ะ?"


    "แอบปิ๊งสาวคนไหนอยู่หรือไม่? อยากแต่งงานกับใครหรือเปล่า เจ้าทำอาหารอร่อยมาก ข้าพร้อมเป็นผู้ใหญ่ในงานแต่งของเจ้านะ"


    "มันยังไกลตัวนะครับ ผมยังเด็กเกินไป…"


    เขายกมือเป็นปางห้ามญาติให้สาวเจ้าตรงหน้าใจเย็นลง


    "อ่า มนุษย์ยุคนี้มองว่าการแต่งงานในวัยนี้ยังเด็กไปหรือ?"


    "ครับ"


    "แย่จัง"


    เขาไม่ได้ตอบอะไรคำสาปข้างๆต่อ


    "ตอนข้ายังเป็นมนุษย์นะ อายุน้อยกว่านี้ก็ต้องถูกจับให้ดูตัวแล้ว" หล่อนเปรยเล่าเรื่องของตนให้เขาฟัง "และก็ต้องแต่งงานอย่างช่วยไม่ได้"


    "อย่างงั้นเองเหรอครับ"


    "เจ้าทำอาหารเก่งดีนะ พอๆกับอุราอุเมะเลย"


    "ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ"


    "นี่ ถ้าข้าเอานิ้วมนุษย์มาให้เจ้าทำ เจ้าจะปรุงให้อร่อยสู้อุราอุเมะได้ไหมนะ"


    "ขอเถอะครับ...ผมขยาดนิ้วมากๆเลยนะ"


    ยูจิแทบจะยกมือไหว้คำสาปสาวพันปีที่พูด - จากใจเลยนะ การกินนิ้วของสุคุนะ ทำให้เขาค่อนข้างจะขยาดกับนิ้วมนุษย์มากๆเลยล่ะ


    "โถ่...น่าสงสารนัก เจ้าไม่น่าจะต้องมากินของแสลงเช่นนี้เลย"


    "ปากแจ๋วเหลือเกินเลยนะ เจ้าน่ะ"


    "ก็มาลองสักหน่อยไหมเล่า?"


    อีกแล้ว


    ยูจิกำลังจะปวดหัวกับการทะเลาะของสามีภรรยาคำสาปคู่นี้อีกแล้ว 

    ขนาดนี้ไม่ยึดร่างเขาไปแล้วออกมาเถียงกันเองเหมือนตอนวันแรกที่กลับมาเจอกันเลย


    อ่า เขาเข้าใจความรู้สึกวันที่ฟุชิงุโระต้องเผชิญกับมันคนเดียวแล้วล่ะ


    "ข้าล่ะ ไม่เข้าใจเลย ทำไมอุราอุเมะถึงปลาบปลื้มในการทำอาหารให้คนอย่างเจ้าตรงไหน?"


    "ก็เจ้าวิจารณ์อุราอุเมะว่าสีผมเหมือนหวานเย็นเองไม่ใช่หรือไง?"


    "ก็มันจริงไหมเล่า สีเหมือนน้ำแข็งใสขนาดนั้น"


    ยูจิปล่อยให้ปากตรงแก้มและอีกชีวิตนึงเถียงกันต่อไปด้วยใจที่พยายามจะสงบของตัวเอง


    "ดังนั้นนะ เจ้าหนู"


    เธอชี้นิ้วมาหาเขา อิตาโดริเผลอตัวตรงยามที่ถูกเรียก


    "เจ้าจะเป็นภาชนะของราชาห่วยแตกอะไรนั่น ข้าไม่สนหรอก แต่มาเป็นเชฟของข้าเถอะ แล้วข้าจะไม่ทำให้เจ้าต้องไปกราบใคร"


    อิตาโดริ ยูจินิ่งไป


    เสียงริงโทนของโทรศัพท์มือถือตนเองดังขึ้นมาท่ามกลางความเงียบ เบอร์ที่ปรากฎเป็นเบอร์ของฟุชิงุโระ เขารับสาย นำอุปกรณ์สื่อสารของตัวเองแนบหูเอาไว้


    "ว่าไง ฟุชิงุโระ"


    "เดี๋ยวฉันกับคุกิซากิจะเข้าไปหานายนะ วันนี้"


    "อือ โอเค"


    "งั้น แค่นี้น---"


    "เดี๋ยว ฟุชิงุโระ!"


    เขารีบส่งเสียงห้าม ยังไม่อยากให้เพื่อนวางสายทิ้งตัวเองเอาไว้


    "ซื้อยาแก้ปวดหัวมาให้ฉันหน่อยสิ"


    ทางนั้นเงียบไป


    "อิตาโดริ นายจะชนะ"


    ชนะบ้าอะไรเล่า ฟุชิงุโระ


    และมาตัดสายดื้อๆแบบนี่เนี่ยนะ ! นายเข้าใจสถานการณ์ที่ฉันเจออยู่รึเปล่า













    "ซุยเซ็น"


    เสียงของท่านแม่ที่เรียกขานชื่อของหล่อน ทำให้หล่อนเงยหน้าจากตำราวิชาที่กำลังร่ำเรียนศึกษาขึ้นมา ตอนนี้ในหน้าหนาว หล่อนกลับมาที่เรือนหลังจากแต่งเข้าเรือนของสกุลเรียวเมนไป - พอผ่านมาสักระยะ ซุยเซ็นก็ขออนุญาตทางนั้นกลับมาพักที่บ้านของตัวเองเพราะความคิดถึงครอบครัว


    "คะ?"


    เธอเอ่ยตอบรับอย่างสงสัยกลับ


    "แต่งงานแล้วเป็นอย่างไรบ้างหรือ ลูก?"


    เธอยกยิ้มมุมปาก เป็นรอยยิ้ม


    ที่แม้แต่ครอบครัวก็ไม่มีวันเข้าใจ


    "ข้าสบายดีเจ้าค่ะ ท่านแม่"


    หล่อนบอกว่าหล่อนสบายดี "ข้าแข็งแรงดี ชีวิตของข้าปกติดี ไม่มีใครมายุ่งวุ่นวายอะไรกับตัวของข้า" บอกออกไปก่อนจะใช้มือปิดหนังสือที่กำลังอ่าน "ซึ่งเป็นสิ่งที่ข้ารู้สึกดีกับมันนะ"


    "อ่า...เป็นชีวิตแต่งงานที่ดูราบเรียบเกินไปนะ ซุยเซ็น"


    "เพิ่มเติมคือข้ากับเขาแทบจะตีหัวทุกครั้งเลย"


    "ซุยเซ็น"


    เจ้าของชื่อถอนหายใจ


    "แม่อยากให้ลูกมีความสุขกับครอบครัวที่ดีนะ - แม่ขอแค่นี้ได้ไหม?"


    อ่า


    พวกผู้ใหญ่แสนเอาแต่ใจ แสนเอาใจยากนัก


    นั่นเป็นความจริงที่เธอรับรู้หลังเติบโตขึ้น - ในตอนที่กำลังเด็กผู้ใหญ่คาดหวังในตัวเรา คาดหวังให้เราเป็นแบบไหน


    และเก็นซาคุ ซุยเซ็นก็ยอมรับว่าเธอเองก็เป็นผลผลิตจากความบิดเบี้ยวของสังคม


    "ไม่เลย ท่านแม่"


    เธอปฏิเสธ


    "ข้ามีความสุขดีที่เป็นแบบนี้"


    หญิงผู้เป็นแม่หน้าซีดดูไม่สู้ดีหลังได้ยินเธอเอ่ยออกไป ซุยเซ็นลุกขึ้นยืนเต็มส่วนสูงของเธอ


    "ข้าไม่ได้ชอบพอกับสามีของข้า ท่านก็รู้ - เราสองเพียงแต่งงานกันเพราะผู้ใหญ่จับเราดูตัวและหมั้นหมาย ท่านก็รู้ในเมื่อท่านก็เป็นส่วนหนึ่งของมัน"


    เธอเดินไป เดินไปจนถึงห้องที่มีร่างของชายชราที่นอนป่วย เก็นซาคุ ซุยกะ รีบตามลูกสาวของตนมา ซุยเซ็นเดินเข้าไป นั่งลงข้างฟูกที่มีคนป่วยอัมพาตที่ไม่สามารถขยับเขยื้อนร่างกายได้กำลังจ้องมองเธอเขม็ง เขา...เก็นซาคุ โซริว บิดาของหล่อนที่เป็นส่วนหนึ่งของความบิดเบี้ยวในความรู้สึกในใจของเธอ


    "ตอนนั้นพวกท่านสอนข้าว่าข้าต้องยิ่งใหญ่และมีชื่อในประวัติศาสตร์ ข้าถึงจะมีค่า"


    หญิงสาวเอ่ยบอกถึงสิ่งที่อยู่ในใจ "ความสุขของข้าคือข้าต้องยิ่งใหญ่ ท่านแม่ ยิ่งใหญ่ให้ท่านและท่านพ่อเห็น


    ดวงตาสีเปลือกไม้กลับกลายเป็นสีฟ้าประหลาดเพียงชั่วครู่ สิ่งที่มารดาไม่เห็นแต่บิดาได้เห็นมันตรงๆ มันยิ่งทำให้เขาหวาดกลัวกับพลังไสยเวทที่ลูกสาวกำลังแสดงออกมาให้เห็น อ่า-- แต่ความกตัญญูคือเครื่องหมายของคนดีสินะ


    ดังนั้นเธอจะไม่ทำอะไร


    เธอจะแค่พูดสิ่งที่อยู่ในใจเพียงเท่านั้น


    "ข้ากับสุคุนะ เราเป็นเพียงคนที่เหมือนกัน เขามีแววตาที่เหมือนกับข้า นั่นคือสิ่งที่ทำให้ข้าเลือกที่จะแต่งงานกับเขา"


    เธอเปลี่ยนกลับให้ตาของตัวเองกลับมาเป็นสีเดิม


    "ที่สำคัญที่สุด…"


    เธอลากเสียง นึกถึงสามีของตนเอง


    มื้ออาหารสุดท้ายก่อนที่นางจะขอลากลับมาหาครอบครัว เรียวเมน สุคุนะที่ไม่เอ่ยลาอะไรออกมาตรงๆกับหล่อน


    เขาเพียงหันไปหาบริวารของเขาและเอ่ยออกมาให้เตรียมสำรับอาหาร


    คำพูดที่เขาพูดกับบริวาร


    "เจ้าไปเตรียมสำรับให้นาง ใช่ - ของนางที่ไม่มีผักดองน่ะแหละ"


    คำพูดนั้นทำให้หล่อนเผลอยิ้มออกมา


    เหมือนในตอนนี้ที่หล่อนนึกถึงคำพูดของอีกฝ่ายจนเอ่ยกับผู้เป็นมารดา


    "เพราะข้าเคยพูดลอยๆไปครั้งเดียว ว่าข้าเกลียดผักดองพอๆกับใบหน้าทะเยอทะยานของเขาและเขาก็ยังคงจำได้ ท่านแม่"










    ○●○●○●○● - taquila ❤

    ขอบคุณทุกคนที่สนใจฟิคปั่นๆ

    ฟิคนี้นะคะ เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกคนจะอมยิ้มหัวเราะระหว่างอ่าน

    ฟิคนี้ไม่เน้นกับสตอรี่ของอ.เกะเกะเป็นอย่างมาก หากใครที่ไม่โอเคกับแนวนี้สามารถปิดได้เลยนะคะ

    ระหว่างที่หายไปแอบแวบไปเปิดฟิครีไวล์เฮย์โจวจากไททันด้วยค่ะ

    ใครสนใจไปตำกันได้นะคะ

    เนื้อหาคนละมู้ดกับฟิคนี้มาก

    สำหรับวันนี้ต้องลาไปก่อน

    พบกันใหม่อีกครั้งในคราวหน้าที่ได้พบนะคะ







    SNAP
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×