กาลเวลา ผันผ่าน เนิ่นนานกว่าจะรู้ตัวอีกที ฉันก็”รัก”เขาไปเสียแล้ว
.
..
10 ปีที่แล้ว
“ผมรักคุณ”
นี่คือคำพูดหนึ่งที่ออกมาจากปากของคนที่ฉันไม่คิดว่าจะได้ยิน
ด้วยตำแหน่งและยศถาบรรดาศักดิ์ของเขาคนนั้น ฉันไม่คิดเลยว่าจะมีช่วงเวลาแบบนี้เกิดขึ้นกับฉันได้ ‘กับฉัน’ ที่เป็นเพียงหญิงสาว(ที่อาจจะไม่ค่อยสาวแล้ว) ที่เข้ามาทำงานอยู่ในคฤหาสถ์ของผู้ครองที่ดินแถบนี้มาเป็นเวลานาน ‘กับเค้า’ ผู้ซึ่งเป็นบุตรชายเพียงคนเดียวของเจ้าของคฤหาสถ์หลังนี้
และวันนี้ วันที่เค้าได้เดินเข้ามาและพูดคำพูดที่ฟังดูแล้วทำให้ใจสั่น ที่เกิดขึ้นพร้อมๆกับคำว่า ‘ไม่เชื่อหรอก’ในตัวฉันเอง
“คุณหนูคะ
” ฉันค่อยๆเอ่ยออกมา
“
ผมรู้นะครับ ว่าคุณอาจจะไม่เชื่อ แต่ได้โปรด นี่คือความจริงในใจของผมจริงๆนะครับ”
คำพูดนั้นทำให้ฉันเงียบไป
“ได้โปรด... โปรดเชื่อใจผม ผมรู้แม้ว่าผมจะยังดูเด็กเกินไปในสายตาของคุณ แต่ทุกสิ่งที่ผมได้กลั่นกรองมันเพื่อที่จะพูดออกมานี้ ทั้งหมดนี่คือความรู้สึกของผมนะครับ”
สิ่งที่เขาคนนั้นพูดออกมา พร้อมกับสายตาที่ถูกส่งออกมานั้น มันทำให้ฉันถึงกับพูดไม่ออกเลยทีเดียว ทำไมคนคนนี้ถึงได้มาสารภาพรักกับคนอย่างเราได้นะ?
เมื่อสิบปีก่อน ฉันคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ไร้สาระมาก “ความรัก” คำๆนี้คืออะไร และมีความหมายถึงอะไรกันแน่นะ
รักแบบครอบครัว รักแบบเพื่อนฝูง หรือการรักแบบผู้มีพระคุณ
การจะชอบใครซักคนหนึ่ง ชอบสิ่งใดสิ่งหนึ่งของคนๆนั้น สิ่งที่ฉันเคยได้รู้สึกมา ได้ผ่านมันมาจนกระทั่งเดี๋ยวนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างกลับไม่เหมือนเรื่องในวันนี้เลยแม้สักนิดเดียว
การตัดสินใจของฉันในวันนั้น จนกระทั่งเดี๋ยวนี้ฉันยังไม่รู้เลยว่ามันเป็นเรื่องที่ผิดหรือไม่กันแน่ เพราะความรู้สึกในตอนนั้นมีเพียงความรู้สึกที่คิดเพียงว่า‘เรื่องแบบนี้มันไม่ควรจะเกิดขึ้น’ เพียงเท่านั้นเอง
คำพูดที่ฉันเคยได้พูดกับเขาคนนั้น แม้จนในวันนี้มันก็ยังฟังดูเลือนรางเหลือเกิน ทว่ามันกลับย้ำลงไปในใจของฉันอย่างน่าประหลาด ..เพราะอะไรกันนะ
‘น้ำตา
’ แปลกมากที่มันกลับไหลออกมา ‘ในวันนี้’ ไม่ใช่ ‘ในวันนั้น’ ความรู้สึกทุกสิ่งทุกอย่างที่ไม่เคยได้มี ไม่เคยได้รู้จัก กลับมารู้จักด้วยเวลาเพียงสั้นเพียงแค่วันๆเดียว
10 ปีก่อน
“ได้โปรด ไปด้วยกันกับผมเถอะนะครับ” เขาพูดออกมา ในขณะที่ฉันกำลังทำความสะอาดม่านผืนใหญ่ในคฤหาสถ์อย่างที่ทำอยู่เป็นประจำ
“
คุณหนูคะ” ไม่มีคำพูดอื่นในนอกจากคำๆนี้และใบหน้าที่แสดงถึงความประหลาดใจของฉันที่ได้ถูกส่งออกไปให้กับผู้เป็นนาย
“ผมรักคุณ” เขาพูดออกมาอีกครั้งด้วยใบหน้าที่ฉันพยายามคิดว่าเขาคงทำให้ดูหน้าเชื่อถือ
แต่ฉันก็เงียบตอบเขากลับไป
“ผมรู้ว่าคุณคิดยังไง”เขาพูดออกมาอีก
“แต่ที่ผมทำแบบนี้ ไม่ใช่แค่เพื่อต้องการจะหนีจากงานหมั้นที่ท่านพ่อจัดขึ้นเท่านั้นนะครับ” พูดเสร็จเขาก็ทำสีหน้าเหมือนจะอ้อนวอนให้ฉันเชื่อในสิ่งที่เขาได้พูดนั้นอย่างเต็มที่
แต่ฉันก็ยังเงียบ
“คิดซะว่านี่คือคำขอเพียงครั้งเดียวในชีวิตของผมก็ได้ครับ”เขาพูดพร้อมกับก้มหน้าซึมลงไป อย่างคิดว่าคงจะหมดหวังแล้วแน่ๆ
แต่ในใจของฉันนี่สิ
สำหรับฉันแล้ว เขาเป็นอะไรกันแน่นะ?
คุณหนูผู้น่ารักที่มีอายุรุ่นราวคราวลูกงั้นหรือ?
หรือเป็นคนที่ฉันให้ความเอ็นดูและเลี้ยงดูเสมือนลูกของตนมาตั้งแต่ยังแบเบาะ?
หรือจะเป็นเพียงคนแปลกหน้าที่มาร้องขอสิ่งที่จะทำให้ชีวิตที่เหลือทั้งชีวิตของฉันต้องจบสิ้นลง
แต่สิ่งที่เป็นข้อสงสัยที่สุดในใจของฉัน แปลกมันกับเป็นเรื่องที่ว่า ทำไมเขาถึงได้มาพูดเรื่องนี้กับฉัน กับฉัน ไม่ใช่คนอื่น
ไม่ใช่กับสาวใช้จำนวนมากมายในคฤหาสน์หลังนี้ ที่บางคนทั้งสาว และสวยกว่าฉันมากมาย ทำไมถึงเป็นฉันกันนะ
เพราะความเผลอไผล ความเอ็นดู ความอยากรู้ หรืออยากลอง? กับสิ่งต่างๆที่ในชีวิตไม่เคยได้พบหรือจะเป็นเพราะเหตุผลอะไรก็ตามแต่ แต่สิ่งที่ฉันได้ทำลงไปในวันนั้น ฉันไม่คิดเลยว่ามันจะเป็นสิ่งที่นำความเสียใจอย่างที่สุดมาให้กับตัวฉัน ในวันนี้
“เราอยู่ด้วยกันมานานเหลือเกินนะคะ.. คุณหนู”เสียงที่แหบระโหยจากการร้องไห้อย่างหนักจนไม่น่าเชื่อถูกเปล่งออกมาจากลำคอของฉันและนี่คือสิ่งสุดท้ายที่ฉันได้พูดกับเขาในเวลาสุดท้ายของชีวิต
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น