ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    FIC Boku No Hero Academia / BNHA |Dark Uptight| (All Midoriya)

    ลำดับตอนที่ #11 : CHAPTER 09 : มิตรภาพไม่แปรเปลี่ยน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 8.35K
      894
      24 เม.ย. 65

    คำเตือน
    แฟนฟิคเรื่องนี้เป็นเพียงจินตนาการของผู้แต่ง มีการอ้างอิงจากอนิเมะเรื่อง My Hero
    เนื้อเรื่องไม่ได้ดำเนินตามอนิเมะ ออกแนวดาร์กแฟนตาซี
    มิโดริยะ อิสึคุเรื่องนี้ไม่ใช่คนดีและไม่ใช่มนุษย์
    มีฉากเรท 18+ บางตอน รบกวนทำความเข้าใจก่อนอ่าน
    และอย่าแบนนะคะ
    ___________________________________________________________



    EP.09
    มิตรภาพไม่แปรเปลี่ยน
               


    *ยังไม่ได้แก้คำผิด



    มิโดริยะกับฮิเมกิอยู่ภายใต้การดูแลของเหล่าอาจารย์ในยูเอย์มาได้ห้าเดือนแล้ว แน่นอนว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาตัวเขาต้องพบเจอกับความประสาทแดกของแม่นางฟ้าคนดีศรีโรงเรียนที่จ้องจะหาเรื่องอยู่ที่วี่ทุกวัน ยิ่งบางวันเห็นเขาอยู่เพียงลำพังก็สบโอกาสถอดหน้ากากนางฟ้าผู้อ่อนโยนและเป็นที่รักของเหล่านักเรียนยูเอย์แปรเปลี่ยนเป็นนิสัยอันแท้จริงของหล่อน

    ไม่ว่าจะเป็นคำพูดจิกกัดที่โคตรจะหยาบคาย หรือจะเป็นสีหน้าบิดเบี้ยวกับสายตาที่ใช้จ้องมองเขาอย่างรังเกียจเดียดฉันท์ และที่ดูน่ารำคาญสำหรับมิโดริยะมากที่สุดก็คงจะเป็นแผนการสุดแสนจะสิ้นคิดของอีกฝ่าย ที่เอะอะก็ล้มลงตรงหน้าของเขาท่ามกลางสายตานักเรียนคนอื่น ๆ บางครั้งก็จะห่อไหล่ทำตัวสั่นเทาพร้อมกับหยาดน้ำตาแห่งความกลัวแถมยังเรียกความสงสารและความเห็นใจจากเหล่าแฟนคลับของหล่อนได้ทุกครั้งอีกด้วย

    ซึ่งมันน่ารำคาญเป็นอย่างมาก จนบางครั้งก็อยากจะปล่อยให้คุณฮิเมกิกับเพื่อนสาวทั้งหกลากอีกฝ่ายไปตบหลงตึกเสียให้มันจบ ๆ ไปซะ

    มิโดริยะถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนที่ดวงตาสีเขียวหม่นจะหันไปมองผู้เป็นอาจารย์ที่ยังคงยืนอยู่หน้าห้องเรียน เช่นเดียวกับฮิเมกิที่ต้องละความสนใจจากวิวนอกห้องเรียนเพราะเสียงเรียกชื่อของเธอกับน้องเล็กจากอาจารย์แพนด้าที่เธอมักกลั่นแกล้งอีกฝ่ายให้หัวเสียเล่น

    ก็แหม...ที่นี่ไม่ใช่คฤหาสน์หงส์ดำที่มีนัตสึจังให้เธอแกล้งปั่นหัวนี่หน่า เพราะงั้นอาจารย์แพนด้าถึงได้เป็นเหยื่อให้เธอหยอกล้อเล่นยามเบื่อยังไงละ

    มิโดริยะ ชิราโฮชิจบคาบนี้ตามฉันไปที่ห้องพักด้วย

    เข้าใจแล้วครับเสียงทุ้มของเด็กหนุ่มผมเขียวขานรับอย่างเชื่อฟัง ซึ่งแตกต่างจากเด็กสาวผมเงินกำลังนั่งเท้าคางส่งยิ้มที่ไอซาวะไม่อาจคาดเดาความคิดได้ แม้อีกฝ่ายจะอยู่ภายใต้การดูแลของเขามาตลอดห้าเดือนแล้วก็เถอะ

    ฮิเมะเข้าใจแล้วก็ได้

    พอทำสงครามประสาททางสายตากับผู้เป็นอาจารย์จนพอใจแล้ว เด็กสาวก็เอ่ยตอบผู้เป็นอาจารย์กลับไปด้วยน้ำเสียงสดใส ก่อนหันไปส่งสายตาจิกกัดให้กับโต๊ะข้าง ๆ ที่กำลังใช้ดวงตาสีแดงมองน้องเล็กของเธออยู่นั่นแหละ

    รู้ว่าเขาไม่แลก็ยังทุรนทุรายพาตัวเองไปอยู่ในสายตาของเขาอยู่ได้

    มนุษย์นี้ช่างดื้อรั้นอย่างน่าสมเพชเสียจริง

    ในเมื่อจ้องอีกฝ่ายไปก็เปล่าประโยชน์ ดังนั้นชิราโฮชิ ฮิเมกิจึงละความสนใจเด็กหนุ่มด้านข้าง และเปลี่ยนหมายเป็นใครอีกคนที่ช่วงนี้ฮิเมกิจับจ้องเป็นพิเศษ เด็กสาวหมุนเก้าอี้ไปด้านหลังทั้งตัวเพื่อประชันหน้ากับเป้าหมายโดยเฉพาะ รอยยิ้มหวานที่แสดงถึงความเป็นมิตรถูกมอบให้กับอีกฝ่าย ทว่าดวงตาสีม่วงหม่นนั้นมันกลับเต็มไปด้วยความเลือดเย็นและอาฆาต สร้างความสั่นกลัวให้แก่เด็กสาวผมสีชมพูจนถึงกับก้มหน้าก้มตามองโต๊ะกันเลยทีเดียว

    หึ!”

    เสียงหัวเราะที่แสดงถึงความดูแคลนอีกฝ่ายดังขึ้นในลำคอ และดูเหมือนอีกฝ่ายก็คงจะรู้ตัวว่าเธอกำลังเยาะเย้ยหล่อนอยู่ ถึงได้พยายามใจกล้าจ้องเธอกลับอย่างไม่ยอมแพ้ แต่สุดท้ายความกลัวกับความขี้ขลาดก็มีมากกว่าเพราะงั้นอีกฝ่ายถึงกลับไปก้มหน้าทำตัวลีบ ๆ ไร้ซึ่งความมั่นใจอย่างที่เคยทำมาตลอดยามอยู่ต่อหน้านักเรียกคนอื่นในยูเอย์

    นี่แหละหนากมลสันดานของพวกมนุษย์ ใจกล้า ปากเก่ง ทว่าขี้ขลาดตาขาวไม่ต่างจากพวกสัตว์ตัวจ้อยที่ริอาจมาอยู่เหนือศีรษะของราชสีห์

    ฮิเมกิเหยียดยิ้มให้แก่เด็กสาวผมชมพู ก่อนที่ร่างสูงเพรียวจะลุกขึ้นยืนและเดินตามหลังผู้เป็นน้องเล็กออกจากห้องเรียน ท่ามกลางสีหน้าโกรธเคืองของพวกมิเนตะเพราะไม่พอใจที่เด็กสาวผมเงินรังแกคนที่ตัวเองชอบต่อหน้าต่อตา

    ส่วนทางด้านชิโรนะที่ทั้งถูกเหยียดหยาม ทั้งถูกรังแกด้วยคำพูดและการกระทำโดยที่ตัวเองไม่สามารถตอบโต้อะไรอีกฝ่ายกลับไปได้เลยแม้แต่น้อย ก็ทำได้เพียงแค่กำหมัดจิกเล็บลงบนลงฝ่ามือ ระบายความเจ็บใจที่ตัวเองต้อยพ่ายแพ้ให้แก่สองคนนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ต่อให้ใช้มารยาชักจูงหรือเรียกร้องความสนใจจากคนรอบข้างให้ช่วยเธอจัดการสองคนนั้นมากขนาดไหน ทว่าสุดท้ายกลับเป็นเธอเสียเองที่ต้องเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ให้แก่อมนุษย์สองคนนั่น!

    เกลียด...เธอเกลียดมันเหลือเกิน

    ขนาดเธอ จงใจ ฆ่ามันให้ตายอย่างน่าสมเพชต่อหน้าคนอื่นแล้วแท้ ๆ แต่มันก็ยังกลับมาสร้างความหงุดหงิดให้แก่เธอไม่พอ ยังพายัยปีศาจน่าขนลุกมารังแกเธอให้อับอายเสียทุกครั้งที่เดินเข้าไปหาเรื่องเจ้าตัวน่าขยะแขยงนั่น

    หากมีตัวช่วยที่สามารถทำให้เธอกำจัดพวกตัวน่ารังเกียจนี่ได้ ชิโรนะ ฮาสึมิก็พร้อมกระโจนไขว่คว้าโอกาสอันแสนน้อยนิดเพื่อกำจัดพวกมันให้หายไปจากสายตาของเธอทันที

    ฉันต้องเป็นที่หนึ่ง และทุกคนต้องสนใจฉันแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น!!!’

    ความคิดอันแสนบิดเบี้ยววนเวียนอยู่ในหัวของเด็กสาวผมชมพูอยู่ตลอดเวลา และเธอก็คงไม่รู้สึกตัวว่ายามนี้ยังนั่งอยู่ในห้องเรียนพร้อมกับคนอื่น ๆ ที่ส่วนใหญ่ยังนั่งอยู่ที่โต๊ะไม่ไปไหน แน่นอนว่าทุกคนย่อมเห็นสีหน้ากับแววตาของเด็กสาวได้อย่างชัดเจน ย่อมเกิดข้อกังขาในใจของเหล่าเด็กหนุ่มที่ยังคงอยู่เคียงข้างอีกฝ่ายอย่างไม่ลืมหูลืมตา ทว่าหนนี้ย่อมมีส่วนหนึ่งเริ่มคิดเกี่ยวกับพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของเด็กสาวที่พวกตนชื่นชอบ

    บางทีพวกเขาต้องเฝ้าจับตามองชิโรนะบ้างเสียแล้ว

    ท่ามกลางความสับสนของเหล่านักเรียนชายห้องเอบางส่วน ดวงตาสีแดงที่มักส่องประกายอยู่สม่ำเสมอและเต็มไปด้วยความจริงใจต่อคนรอบข้าง บัดนี้ผู้เป็นเจ้าของกำลังเหล่มองเด็กสาวด้านหลังด้วยสีหน้านิ่งเฉยราวกับไม่ได้เป็นเดือดเป็นร้อนกับท่าทีแปลกไปของเด็กสาวผมชมพูเหมือนเพื่อนสนิทที่นั่งอยู่ด้านหลัง

    ตรงกันข้าม...เจ้าตัวนั้นเพียงแค่หันไปจ้องประตูห้องเรียนที่ถูกปิดสนิทด้วยฝีมือของเด็กสาวผมเงิน เหม่อมองมันด้วยความรู้สึกหลากหลายที่ไม่อาจจำแนกออกมาเป็นหมวดหมู่ออกมาได้ ทว่ามีเพียงความรู้สึกเดียวที่คิริชิมะ เอย์จิโร่สามารถตอบได้ว่าตัวเองในตอนนี้นั้นกำลังรู้สึกเช่นไร

    หึ!”

    เสียงหัวเราะในลำคอกับรอยยิ้มเหยียดหยามอันแสนหาได้ยากบนใบหน้าของสุภาพบุรุษแห่งห้องเอ โดยที่เพื่อนสนิทด้านหลังอย่างพวกคามินาริหรือแม้แต่เด็กสาวผมชมพูอย่างชิโรนะ ฮาสึมิไม่มีวันได้เห็นมัน และคงไม่คิดว่าเพื่อนที่แสนดีอย่างเจ้าตัวจะแสดงท่าทางแบบนี้ออกมาได้

    ทั้งโง่เขลาและน่าสมเพช

    นี่แหละคือคำตอบบนใบหน้าของคิริชิมะ เอย์จิโร่

     



    -Dark Uptight-

     



    เน่ ๆ อาจารย์แพนด้ากำลังพาพวกเราไปไหนเหรอ~~~”

    ฮิเมกิเอ่ยถามคนเป็นอาจารย์ที่เดินนำหน้าพวกเธอ ดวงตาสีม่วงหม่นกวาดมองเส้นทางที่ดูยังไงก็ไม่ใช่ทางไปห้องพักอาจารย์อย่างที่อีกฝ่ายกล่าวในห้องเรียนเลยสักนิด

    คิดจะทำอะไรกันแน่?

    ไอซาวะที่เห็นท่าทางระแวดระวังของเด็กทั้งสองที่เดินอยู่ด้านหลัง ก็ต้องถอนหายใจออกมากันเลยทีเดียว ใบหน้าเบื่อโลกกับขอบตาที่เหมือนคนไม่ได้นอนหันมามองสองลูกศิษย์เล็กน้อย ก่อนที่น้ำเสียงเอื่อยเฉื่อยจะเอ่ยประโยคที่ได้รับคำสั่งมาจากผู้อำนวยการตัวจ้อยให้ทั้งสองได้ทราบว่า...

    ผู้อำนวจการเนซึบอกว่าจะมีหนึ่งในผู้ปกครองมารับพวกเธอไปทำธุระข้างนอก

    หนึ่งในผู้ปกครอง? คำสั่งของอายาโตะงั้นเหรอ?? ฮิเมกิพึมพำกับตัวเอง ในขณะที่สายตาก็หันไปสบกับน้องเล็กที่เดินอยู่ข้าง ๆ อย่างรู้ความหมายกันเพียงสองคน

    จะว่ามันแปลกก็ไม่ใช่ เพราะตลอดห้าเดือนที่ต้องอยู่ในโรงเรียนยูเอย์ มีบ้างที่เธอกับอิสึคุจะได้รับอนุญาตให้ออกไปข้างนอก โดยมีเงื่อนไขในแต่ละครั้งคือการพาหนึ่งในอาจารย์ของยูเอย์ออกไปด้วยเสมอ แน่นอนว่าหนึ่งในผู้ปกครองก็ต้องตามประกบคอยดูแลความปลอดภัยของพวกเธอด้วยเช่นกัน

    คราวก่อนรู้สึกจะเป็นเวรของชูซาจังนี่หน่า แล้วครั้งนี้ถ้าฮิเมะจำไม่ผิดก็คงจะเป็นเวรครั้งแรกของ

    โอ๊ะ! ดูเหมือนจะมากันแล้ว

    เนซึที่กำลังยืนคุยอยู่กับแขกผู้รับหน้าที่ในการดูแลน้องเล็กทั้งสองจากคฤหาสน์หงส์ดำในวันนี้ หันมาเห็นไอซาวะกำลังพาเด็กในการปกครองมาทางที่พวกเขายืนอยู่ ก็ได้เอ่ยบอกกับเจ้าของร่างสูงโปร่งในชุดโค้ดสีดำตั้งแต่หัวจรดเท้า กลุ่มผมสีเดียวกับชุดที่สวมใส่และใบหน้าคมคายราวกับนายแบบหลุดออกมาจากนิตยสารชื่อดังค่อย ๆ หันมามองผู้มาใหม่ทั้งสามอย่างช้า ๆ

    ดวงตาสีแดงหม่นดั่งคนไร้ชีวิตแสดงถึงความแปลกใจ เพราะไม่คิดว่าการที่กลับมายังอดีตโรงเรียนของตัวเองอีกครั้งในวันนี้ จะกลายเป็นการพบกันระหว่างสองเพื่อนสนิทที่ห่างหายกันมาตลอดเกือบสิบปีเสียได้

    เรียวสึจางงงงง

    หมับ!!!

    มันเจ็บนะฮิเมกิ

    น้ำเสียงทุ้มสุดแสนจะราบเรียบเอ่ยบอกกับเด็กสาวในอ้อมกอด ดวงตาสีแดงหม่นหันไปสำรวจน้องเล็กประจำบ้านเพื่อหาบาดแผลหรือรอยขีดข่วนบนร่างกายขาว ๆ อย่างละเอียดถี่ถ้วน พอพบว่าไม่มีอะไรผิดปกติก็หันมาสำรวจเจ้าหญิงเพียงคนเดียวของบ้านต่อ

    ไม่มีร่องรอยผิดแปลกแต่อย่างใด เพราะฉะนั้นสามารถกลับไปรายงานอายาโตะได้อย่างหายห่วง

    อะ...อามาเนะ

    สบายดีสินะไอซาวะ อามาเนะ เรียวสึเกะเอ่ยทักทายเพื่อนสนิทพ่วงตำแหน่งคู่หูของตัวเองกลับไป แต่ดูเหมือนสติของอีกฝ่ายยังกลับมาไม่ครบตั้งแต่เห็นเขามายืนอยู่ต่อหน้า

    ก็นะ...ตอนที่เขาตายใหม่ ๆ เจ้าหมอนี่เป็นคนแรกที่เอาแต่วิ่งวุ่นพยายามตามจับตัวฆาตกรเป็นบ้าเป็นหลังเลยนี่

    แม้สุดท้ายจะเป็นเขาที่ลงมือฆ่าเศษเดนพวกนั้นร่วมกับชูซาคุและอายาโตะก็เถอะ

    นี่ ๆ เรียวสึจังจะพาพวกเราไปเที่ยวที่ไหนงั้นเหรอ?? ฮิเมกะผละออกจากอ้อมแขนของพี่รองประจำบ้าน พร้อมกับเอ่ยถามออกไปด้วยความตื่นเต้นระคนสงสัย ซึ่งด้านหลังก็มีมิโดริยะกำลังใช้ดวงตาสีเขียวหม่นจ้องมองด้วยความสงสัยเช่นเดียวกัน

    เป็นสถานที่ที่เกี่ยวกับอิสึคุน่ะ

    เกี่ยวกับผม??

    อ่า...พอไปถึงนายก็จะรู้เองเพราะเป็นคนไม่ค่อยชอบพูดเสียเท่าไหร่ พอจะสื่อสารกับเด็กน้อยทั้งสองหรือคนอื่น ๆ ก็มักจะรวบรัดคำพูดให้สั้นและกระชับใจความชวนให้คนฟังประมวลผลไม่ทันเสียทุกที

    มิโดริยะที่แม้จะยังสงสัยในคำพูดของพี่รองประจำบ้าน แต่ก็ต้องปัดความสงสัยนั่นทิ้งไป เมื่ออีกฝ่ายหันมาบอกให้เขารีบออกเดินทางก่อนมันจะมืดค่ำยามถึงที่หมาย แน่นอนว่าตัวแทนอาจารย์ของยูเอย์ที่ต้องออกเดินทางร่วมกับเหล่าอมนุษย์ทั้งสามย่อมไม่พ้นอาจารย์ประจำชั้นห้อง A อย่างไอซาวะ โซตะ

    ตลอดทางที่ทั้งสี่เดินออกจากตึกหลักของยูเอย์มายังรถคันหรูสีดำที่จอดเด่นอยู่หน้าตึก ล้วนมีแต่ความเงียบไร้ซึ่งบทสนทนาระหว่างกัน มีบางครั้งที่สองน้องเล็กหันไปสุมหัวปรึกษาเกี่ยวกับสถานที่อันเป็นปริศนาอย่างจริงจังยิ่งกว่าตอนจับมือกันรังแกนางฟ้าของยูเอย์เสียอีก และพอขึ้นรถมาแล้วก็ยังจมเข้าสู่โลกนี้มีเพียงแค่เราสองคนต่อ ทิ้งให้ผู้ใหญ่ทั้งสองที่นั่งอยู่ด้านหน้าของรถแผ่บรรยากาศมาคุกันอยู่สองคน

    ช่วงนี้นายเป็นยังไงบ้าง? และแล้วผู้ที่เป็นฝ่ายพ่ายแพ้คนแรกนั้นคือไอซาวะ ที่กำลังเอ่ยถามความเป็นอยู่ของเพื่อนสนิทที่กลับมาเจอกันอีกครั้งในสภาพอมนุษย์

    สบายดี

    งั้นเหรอ

    ไอซาวะเหล่มองใบหน้าเรียบนิ่งกับดวงตาสีแดงหม่นที่จดจ่ออยู่แต่ถนนด้านหน้า ท่าทางไร้ชีวิตราวกับหุ่นยนต์ที่ถูกป้อนข้อมูลให้ทำตามระบบไปวัน ๆ หากไม่เห็นสองมือกำลังบังคับพวงมาลัย กับน้ำเสียงที่พูดคุยโต้ตอบกับเขาในบางครั้ง โดยเฉพาะประโยคที่แสดงถึงความแปลกใจกับอาชีพที่เขากำลังทำอยู่ในตอนนี้

    คิดไม่ถึงว่าคนอย่างนายจะผันตัวมาเป็นอาจารย์สอนเด็กแบบนี้

    นั่นสิ...ตัวเขาเองก็ไม่คิดเหมือนกันว่าจะกลายเป็นอาจารย์คอยชี้นำเหล่าลูกเจี๊ยบฝึกหัดให้เติบโตเป็นฮีโร่ที่สง่างามในอนาคต แน่นอนว่าเหตุผลที่เขาเข้ามาเป็นอาจารย์ในยูเอย์ก็คงจะเป็น...

    เพราะสัญญาที่ให้ไว้

    “….”

    สัญญาที่ว่าพวกเราจะสมัครเป็นอาจารย์คอยชี้นำเหล่าว่าที่ฮีโร่ด้วยกัน

    “….”

    ทั้งฉัน ทั้งไมค์ และนาย

    “….”

    อามาเมะที่ได้ยินเช่นนั้นก็ทำเพียงแค่นั่งเงียบ จดจ่อสมาธิกับการขับรถไปยังที่หมาย ถึงไม่ได้โต้ตอบอีกฝ่ายกลับไปแต่ไอซาวะรับรู้ได้ถึงบรรยากาศที่แผ่กระจายออกมาว่าเจ้าตัวรู้สึกผิดที่ไม่สามารถทำตัวคำสัญญาของพวกเราสามคนได้

    ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนหรอกว่าการแยกจากด้วยชีวิตจะมาเร็วถึงเพียงนี้ แม้ตอนนี้อีกฝ่ายจะกลับมาหาพวกเขาด้วยร่างกายเย็นชืด ไร้เสียงการเต้นของชีพจรและหัวใจ ทว่าก็ไม่อาจทำตามสัญญานั่นได้เช่นกัน

    การถูกตามล่าเพราะความอยากรู้อยากเห็นของมนุษย์ผู้เต็มไปด้วยความโลภเหล่านั้น ก็ไม่ต่างไปจากความวุ่นวายอันไม่มีที่สิ้นสุด ซึ่งต้องมาพะวักพะวงว่าตัวเองและครอบครัวสุดแสนสำคัญจะถูกพวกมันจับได้เมื่อไหร่ หรือไม่ต้องคอยกำจัดพวกมันครั้งแล้วครั้งเล่าจนนับไม่หวาดไม่ไหว

    เพราะฉะนั้นไอซาวะถึงได้เข้าใจเกี่ยวกับเหตุผลที่เจ้าตัวไม่เคยมาปรากฏตัวให้เขากับพรีเซนต์ไมค์เห็นเลยสักครั้ง และวันนี้พอได้มาเจออีกฝ่ายตรง ๆ ก็ดันมีประโยคหนึ่งที่ไอซาวะอยากจะบอกอีกฝ่ายตลอดหลังทราบข้อมูลจากหัวหน้าองค์กร B.S. อย่างอาคาชิจิ อายาโตะ

    นี่อามาเนะ

    หือ?

    ฉันดีใจที่ได้เจอนายอีกครั้ง แล้วก็…” นับเป็นครั้งแรกที่ไอซาวะ โชตะมีสีหน้าโล่งใจและสามารถยิ้มออกมาได้กว้างจนเห็นฟันทุกซี่ บ่งบอกว่าเจ้าตัวกำลังมีความสุขมากขนาดไหน ไม่รวมถึงประโยคถัดมาที่เรียกความสนใจจากสองน้องเล็กแห่งคฤหาสน์หงส์ดำให้หันมาจดจ่อกับผู้ใหญ่ทั้งสองเป็นทางเดียว

    ยินดีต้อนรับกลับอามาเนะ

    เรียวสึเกะที่ได้ยินประโยคของเพื่อนสนิทก็เผลอชะงักไปเล็กน้อย ดวงตาสีแดงหม่นไหววูบเพียงเสี้ยววิก่อนจะกลับมาราบเรียบดั่งเดิมคล้ายกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทว่าผ่านไปไม่ถึงหนึ่งนาทีเสียงทุ้มราบเรียบสม่ำเสมอตั้งแต่ต้นจนจบได้เอ่ยประโยคหนึ่งตอบกลับมาให้ไอซาวะและเด็กน้อยทั้งสองได้ยินว่า...

    อ่า

    “….”

    กลับมาแล้วไอซาวะ




    -T.B.C.-

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนเปิดให้แสดงความคิดเห็น “เฉพาะสมาชิก” เท่านั้น
    ×