คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : CHAPTER 00 : จุดเริ่มต้นแห่งโศกนาฏกรรม
*แก้คำผิดจ้า*
ความสัมพันธ์ของพวกเรามันเปลี่ยนไปตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ??
อ่า...นึกออกแล้วละ
ก็ตอนที่เธอคนนั้นเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในห้องของพวกเรานั่นเอง
ผัวะ!!!
“หยุดนะบาคุโกคุง!!!”
เสียงหวีดร้องของอุรารากะดังขึ้นพร้อมกับเพื่อนสาวคนอื่น
ๆ ที่ต่างเข้าไปประคองร่างของเด็กหนุ่มเรือนผมสีเขียวเอาไว้ และป้องกันไม่ให้เจ้าของหมัดที่เต็มไปด้วยความโกรธเข้าไปทำร้ายรอบสอง
“ถอยไปซะยัยหน้ากลม!!
ไอเวรนั่นมันทำร้ายฮาสึมิ!!”
ดวงตาสีแดงวาวโรจน์
มือทั้งสองข้างเริ่มชื้นเหงื่อและมีระเบิดขนาดย่อมส่งเสียงข่มขู่เพื่อหวังให้หญิงสาวตรงหน้าถอยไป
“คุณชิโรนะแค่บาดเจ็บเล็กน้อยเองนะคะ
ทำไมพวกคุณต้องทำร้ายคุณมิโดริยะขนาดนี้ด้วย!!”
ยาโอโยโรสุตวาดใส่เหล่าเพื่อนชายตรงหน้าอย่างไม่พอใจ
สายตาผิดหวังมองพวกเขาราวกับไม่ใช่คนที่เธอรู้จักอีกต่อไป
โดยเฉพาะคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเพื่อนสนิทของร่างอ่อนแรงที่อยู่ในอ้อมกอดของเธอ
แม้กระทั่งคุณอีดะกับคุณโทโดโรกิก็ต่างทำร้ายคุณมิโดริยะเพื่อผู้หญิงคนนั้น
“ขอโทษฮาสึมิซะมิโดริยะ”
น้ำเสียงเย็นชาของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนสนิทเอ่ยสั่งให้เขาที่ไม่ได้เป็นต้นเหตุในการทำให้เธอคนนั้นบาดเจ็บขอโทษ
ทำไมกันล่ะ?
เขาไม่ได้เป็นคนผิดเสียหน่อย
ทำไมเขาต้องขอโทษเธอด้วย?
เรื่องราวมันแย่ลงตั้งแต่เมื่อ
2 เดือนก่อนที่เธอคนนั้นเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในห้อง A รอยยิ้มสดใส ท่าทางน่ารัก
และร่างกายบอบบางที่ชวนให้น่าทะนุถนอมขับให้เธอเป็นที่รักของทุกคนในห้องรวมถึงห้องอื่น
ๆ ด้วยเช่นกัน
ทว่าทุกอย่างกลับแปลกไปเมื่อจู่
ๆ เพื่อนชายในห้องของเขาก็ตามติดเธอคนนั้นยิ่งกว่าสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะคัตจัง
โชโตะคุง คิริชิมะคุงและคามินาริคุงที่มักจะตัวติดกับเธออยู่บ่อย ๆ
ไม่เพียงแค่พวกเขาสี่คน
แม้แต่อีดะคุงเพื่อนสนิทของเขาก็เปลี่ยนไป
และต่อมาก็กลายเป็นผู้ชายทั้งห้องที่ต่างคอยโอ๋ คอยเอาใจใส่ คอยดูแล
และคอยหาเรื่องทำร้ายเขายามที่เธอคนนั้นมีแผล
ทั้งที่คนอื่นต่างก็หลงใหลในความน่ารักของเธอ
แล้วทำไมเขาถึงไม่ตกบ่วงเสน่ห์หานั่นด้วยล่ะ?
ไม่ใช่แค่มิโดริยะที่ไม่ได้กลายเป็นทาสรักของเธอคนนั้น
พวกอุรารากะเองก็ไม่ได้เข้าข้างเธอเหมือนกับเพื่อนชายของเขา
ตรงกันข้ามพวกเธอไม่ชอบขี้หน้าเธอคนนั้นชนิดที่ไม่คิดจะชายตาแลหรือชวนไปเที่ยวตามประสาพวกผู้หญิงเลยสักครั้ง
นั่นทำให้เธอคนนั้นเกาะติดกับสี่คนแรกที่กล่าวออกมาอยู่ตลอดเวลา
ทั้งที่เธอแย่งทุกอย่างไปจากเขาแล้ว
ทั้งที่ไม่คิดจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกันอีกต่อไป ทั้งที่ต่างคนต่างอยู่
แล้วทำไมเธอถึงลากผมไปให้พวกเขาทำร้ายอีกด้วยล่ะคุณชิโรนะ ฮาสึมิ
“มะ...ไม่เป็นไรหรอกโชคุง
มิโดริยะซัง ‘แค่’
ไม่รู้ว่าฉันอยู่ตรงนั้นเอง เพราะงั้นเขาไม่ผิดหรอก”
โกหก...
เขากับเธออยู่กันคนล่ะฝั่ง
จะไปรู้ได้ยังไงว่าเธอจะมายืนฝั่งเดียวกับตอนที่เขากำลังใช้ท่าไม้ตายทำลายกำแพงหินนั่น
“จะรู้หรือไม่รู้ก็ช่าง
แต่นายต้องขอโทษเธอมิโดริยะ!!”
คิริชิมะเดินเข้ามาเพื่อหวังกระชากให้เขาไปขอโทษเธอคนนั้น
แต่ติดที่ถูกจิโร่กับอาชิโดะขวางทางเอาไว้พร้อมกับประกาศกร้าวว่า…
“ลองพวกนายเข้ามาสิ
อย่าหากว่าพวกฉันใจดำทำร้ายแม่ยอดยาหยีของพวกนาย”
จิโร่ที่เตรียมพร้อมใช้อัตลักษณ์ของเธอพุ่งเข้าใส่หญิงสาวที่อยู่ตรงกลางนั่นได้ทุกเมื่อ
ต่อให้ตรงหน้าจะมีบาคุโกยืนอยู่ หรือโทโดโรกิที่มีสีหน้าเกรี้ยวกราด
พวกเธอก็ไม่กลัวว่าจะโดนอีกฝ่ายทำร้ายกลับมา
มิโดริยะไม่ผิด
และเธอกับอาชิโดะก็เห็นกับตาว่ายัยนั่นพุ่งมาตอนที่เพื่อนผมเขียวกำลังฝึกซ้อมจนได้รับบาดเจ็บ
บรรยากาศตอนนี้เต็มไปด้วยความตึงเครียด
ต่างฝ่ายต่างไม่มีใครยอมใคร
หากใครเปิดก่อนที่เหลือก็พร้อมจะทะเลาะกันจนกลายเป็นความแตกแยกของห้อง A อย่างสมบูรณ์
และเพื่อไม่ให้เกิดเรื่องราวใหญ่ตัวไปมากกว่านี้
มีทางเดียวที่จะทำให้พวกเขาพอใจก็คือ...
“อ๊ะ! ไม่ได้นะเดกุคุง!!”
อุรารากะพยายามยื้อแขนของเพื่อนสนิทเอาไว้แน่น
แต่ก็เปล่าประโยชน์เมื่อร่างเล็กของมิโดริยะมายืนหยุดอยู่ตรงหน้าหญิงสาวผมชมพู
“ขอโทษครับ” น้ำเสียงราบเรียบกับกลุ่มผมสีเขียวที่ก้มต่ำลงให้หญิงสาวตรงหน้า
ดวงตาสีใบไม้หลับตาก่อนจะเงยหน้าขึ้นกวาดสายตามองคนที่เหลือ
“แค่นี้พวกนายคงพอใจแล้วใช่ไหม”
ประโยคคำถามที่ไม่ต้องการคำตอบเอ่ยขึ้น
ก่อนที่เขาจะหันหลังเดินออกไปจากที่นี่ท่ามกลางเสียงตะโกนของเพื่อนสาวทั้งหก
ไม่อยากรับรู้
ไม่อยากเห็น ไม่อยากได้ยิน
ทุกสิ่งทุกอย่างมันจบลงแล้ว
มิตรภาพและความรักที่มีให้กับพวกเขาทั้งสองคนมันจบแล้ว
รอยยิ้มขมขื่นกับหยาดน้ำตาที่ไหลออกมาจากดวงตาสีใบไม้ท่ามกลางความโดดเดี่ยว
ไร้คนเคียงข้างดั่งเช่นทุกครั้ง
นี่คัตจัง
โชโตะคุง...พวกนายน่ะยังรักผมอยู่หรือเปล่า??
หรือความรักของพวกนายกลับยกให้เธอคนนั้นไปหมดแล้ว
นั่นสินะ...รักของผมน่ะมันไร้ค่าไปแล้วนี่
ไร้ค่าจนพวกนายอยากให้ผมหายไปจากสายตาของเธอคนนั้น
แล้วผมควรทำตามที่พวกนายบอกดีไหม?
ดวงตาสีเขียวที่มักสดใสอยู่ตลอดเวลา
บัดนี้มันกับมืดหม่นและว่างเปล่าอย่างน่าใจหาย
ความคิดบางอย่างเริ่มก่อตัวขึ้นอย่างเงียบ ๆโดยที่ไม่มีใครรู้ว่าพรุ่งนี้อาจจะเกิดเหตุการณ์สูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของโรงเรียนยูเอย์แห่งนี้
-Dark Uptight-
วันนี้เป็นการฝึกซ้อมเสมือนจริงของเหล่านักเรียนแผนกฮีโร่ทั้งสองห้อง
มิโดริยะเหม่อมองก้อนเมฆบนฟ้าอย่างคนไร้สติ
ท่ามกลางสีหน้าเป็นห่วงของเพื่อนสาวทั้งหกและนักเรียนห้อง B บางส่วนที่รู้ถึงความผิดปกติของพวกผู้ชายห้อง A
กับเพื่อนผมเขียวตอนนี้
พวกเขาได้ยินเสียงทะเลาะอยู่บ่อย
ๆ และบางครั้งก็เห็นเจ้าพวกนั้นลากมิโดริยะไปทำร้ายร่างกายจนสะบัดสะบอมดูไม่ได้
เดือดร้อนโมโนมะและเพื่อน ๆ ของเขาต้องลากไปทำแผลที่หอ B อยู่เรื่อย ๆ จนตอนนี้กลายเป็นสนิทกันไปแล้ว
“เฮ้! นายไม่เป็นไรนะมิโดริยะ!!”
เท็ตซึเท็ตซึเดินเข้าไปถามด้วยความเป็นห่วง
ก่อนจะได้รับรอยยิ้มบางเบากลับมาและยิ่งอีกฝ่ายไม่ได้พูดคุยเหมือนเมื่อก่อนก็พาให้นักเรียนชายห้อง
B แทบจะลากอีกฝ่ายให้ย้ายมาอยู่กับพวกเขาเสียเดี๋ยวนี้
ถ้าอยู่ห้อง
A แล้วมันลำบากก็มาอยู่ห้อง B ก็ได้
พวกเขายินดีต้อนรับมิโดริยะ
อิสึคุในกรณีพิเศษ!!
และเพราะผู้ชายห้อง
B เป็นพวกเกลียดขี้หน้าผู้ชายห้อง A เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องส่งตัวแทนไปขออนุญาต เท็ตซึเท็ตซึกก็จัดการลากมิโดริยะไปรวมกลุ่มกับห้อง B อย่างหน้าตาเฉย แถมยังเมินสีหน้าโกรธแค้นของพวกห้อง A อย่างกวนประสาทอีกต่างหาก โดยเฉพาะสีหน้าของบาคุโก คัตสึกิกับโทโดโรกิ
โชโตะที่รู้สึกไม่พอใจขึ้นมาเมื่อเห็นคนตัวเล็กอยู่ท่ามกลางวงล้อมของพวกผู้ชายห้อง
B
เหอะ! หาที่เกาะได้ไวดีนี่
ทุกการกระทำของนักเรียนแผนกฮีโร่ต่างอยู่ในสายตาของเหล่าอาจารย์ที่สังเกตอยู่เงียบ
ๆ โดยเฉพาะพฤติกรรมของนักเรียนชายห้อง A
ที่พักนี้มันแปลกเสียเหมือนกับโดนอะไรบางอย่างสิงอยู่ในร่างและเข้าทำร้ายมิโดริยะ
อิสึคุทุกครั้งที่ชิโรนะ ฮาสึมิได้รับบาดเจ็บ
ไอซาวะหรี่ตามองลูกศิษย์ของตัวเองที่ต่างพยายามเอาอกเอาใจนักเรียนหญิงคนนั้นราวกับทาสผู้ซื่อสัตย์
ความสงสัยก่อตัวขึ้นอย่างเงียบ ๆ และตัดสินใจว่าการฝึกซ้อมในรอบนี้จะจับให้คนที่มีปัญหามากที่สุดมาอยู่ด้วยกันเพื่อปรับความเข้าใจและกลับมาเป็นเหมือนเดิม
แต่ไอซาวะ
โซตะไม่รู้เลยว่าความคิดของเขาจะกลายเป็นความผิดบาปไปตลอดชีวิต
“บาคุโก
โทโดโรกิและมิโดริยะ พวกนายอยู่ทีมเดียวกัน”
“อะไรนะ!!!/ทำไมล่ะ” สองเสียงต่างประสานขึ้นอย่างไม่พอใจกับการจับทีมในครั้งนี้
แค่อยู่กับศัตรูหัวใจก็โกรธจะเป็นจะตายแล้ว ต้องมาอยู่กับคนที่เกลียดอีก
พวกเขาไม่บ้าตายเลยรึไง
ทำไมต้องเป็นไอ้เดกุไร้ค่านี่ด้วย?
ทำไมต้องเป็นมิโดริยะที่อยู่ทีมเดียวกับเขา
สองความคิดที่แสดงทางสีหน้าพาเอาคนที่ถูกมองว่าเป็นส่วนเกินหน้าเสียกว่าเดิม
หัวใจที่บีบรัดแน่นเต็มไปด้วยบาดแผลจากหนามแหลมคมทิ่มแทงครั้งแล้วครั้งเล่า
และแต่ล่ะครั้งก็มาจากผู้ชายสองคนนี้
เจ็บ...เจ็บแทบบ้า
และเพราะเป็นคำสั่งของอาจารย์ประจำชั้นที่ไม่สามารถขัดใจได้
ตอนนี้ทั้งสามได้มาประจำที่อยู่ตรงส่วนหนึ่งในของสนามเบต้า
ห่างออกไปเป็นกลุ่มของชิโรนะ ฮาสึมิที่จับคู่กับอีดะ ดวงตาสีชมพูใสหันมามองทางนี้อยู่บ่อย
ๆพร้อมกับรอยยิ้มที่พยายามฝืนทน ส่งมาให้ชายหนุ่มทั้งสองที่แทบจะออกไปจากตรงนี้เพื่อไปอยู่กับเธอ
“เริ่มการฝึกซ้อมได้!!!”
สิ้นเสียงของมิดไนท์
ระเบิดขนาดย่อมที่ฝังเอาไว้ตามอาคารก็เริ่มทำลายทุกสิ่งทุกอย่างพร้อมกับหุ่นยนต์วิลเลินพุ่งออกมาจากทุกซอกทุกมุม
“ไปตายซะ!!”
บึ้ม!!!
น้ำเสียงคำรามกับระเบิดที่อัดใส่อย่างไร้ความปราณี
ดวงตาสีแดงเกรี้ยวกราดราวกับพายุลูกใหญ่ที่พร้อมทำลายได้ทุกเมื่อ
ข้างกันก็เป็นสันน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่แช่พวกศัตรูเอาไว้และถูกทำลายด้วยไฟข้างซ้าย
ใบหน้าเย็นชาเหลือบมองเพื่อนร่วมทีมอีกคนที่แยกออกไปจัดการศัตรูเพียงลำพัง
ใบหน้าโศกเศร้ากับดวงตาว่างเปล่าไร้แววเปล่งประกายสดใสนั่น
มันพาให้หัวใจของโทโดโรกิกระตุกวูบขึ้นมา
ความรู้สึกเป็นห่วงและอยากเข้าไปกอดอีกฝ่ายนี่มันคืออะไรกัน
ดวงตาสองสีสั่นไหวและสับสนยิ่งกว่าครั้งไหน
ภาพในหัวเริ่มบิดเบี้ยวสลับไปมาเหมือนกับมันถูกสับเปลี่ยนไม่ได้เรียบเรียงอย่างที่ควรจะเป็น
“อั่ก!!”
ร่างสูงเกินวัยนักเรียนเซเล็กน้อย
มือทั้งสองข้างจิกทึ้งกลุ่มผมสองสีแน่น พยายามหลับตาหายใจเข้าปอดลึก ๆ เพื่อรวบรวมสติให้กลับมาสุขุมเหมือนเดิม
ริมฝีปากแค่นเสียงเอ่ยเรียกคนตัวเล็กตรงหน้า
“มิโดริ--”
“กรี๊ดดดดดดดดดดด!!!!!!!!!!!!!”
“ฮาสึมิ!!!!”
ไม่ทันได้เอ่ยเรียกชื่อจนจบ
เสียงกรีดร้องของหญิงสาวที่เขากำลังตกหลุมรักก็พาเอาความทรงจำทุกอย่างหายวับไป เหลือเพียงแค่ความว่างเปล่าและเกลียดชังต่อร่างเล็ก
สองขาเปลี่ยนทิศทางมุ่งตามบาคุโกไปยังตำแหน่งที่หญิงสาวอยู่
และพวกเขาไม่ได้สนใจเสียงตะโกนของเพื่อนร่วมทีมอีกคนที่อยู่ด้านหลังเลยแม้แต่น้อย
“คัตจัง!! โชโตะคุง!! พวกนายจะออกไปจากจุดนี้ไม่ได้...อ๊ะ!!!” ร่างกายที่พยายามตามทั้งสองไป จู่ ๆ กลับหยุดนิ่งพร้อมกับภาพหมุนสลับไปมายามที่ร่างทั้งร่างล้มลงกระแทกกับพื้น
ความเหน็บชากัดกินร่างกายส่วนล่างจนขยับไม่ได้
ดวงตาสีเขียวสังเกตอะไรบางอย่างที่ติดอยู่ตรงขาทั้งสองข้างของเขา
มือข้างขวาพยายามเอื้อมไปแกะมันออกมาก็พบว่าเป็นกระดาษสี่เหลี่ยมสีเขียวของใครคนหนึ่งที่เขารู้จักดี
กระดาษนี้เป็นหนึ่งในอัตลักษณ์ของชิโรนะ
ฮาสึมิ
สีเขียวเป็นคำสั่งให้คนที่ถูกกระดาษแปะขยับตัวไม่ได้
หรือเรียกง่ายว่าเป็นอัมพาตชั่วคราว
“หมายความว่า…” มิโดริยะที่ประมวลผลออกมาได้อย่างรวดเร็วก็ถึงกับแค่นหัวเราะให้กับความน่าสมเพชของเขา
ดวงตาคู่นี้มองแผ่นหลังกว้างของคนที่เขารักทั้งสองกำลังห่างออกไปเรื่อย ๆ
ภาพที่คัตจังกำลังโอบกอดผู้หญิงคนนี้อย่างทะนุถนอม
แตกต่างจากเขาที่โดนอีกฝ่ายทำร้ายเหมือนกับตอนที่ยังอยู่ม.ต้น
ภาพที่โชโตะคุงกำลังจูบหลังมือของผู้หญิงคนนั้นอย่างปลอบประโลม
มันซ้อนทับกับตอนที่เขาได้รับสัมผัสความอ่อนโยนจากอีกคนเป็นครั้งแรก
แหมะ
แหมะ แหมะ
หยาดน้ำตามากมายไหลอาบใบหน้าจนมันหยดลงบนพื้นหยดแล้วหยดเล่า
เสียงสั่นสะเทือนของตึกด้านหลังที่โดนระเบิดกำลังพังลงมาอย่างช้า ๆ
ดวงตาสีเขียวที่ตอนนี้มันว่างเปล่าไร้ความรู้สึกใด ๆ เหลือบมองซากตึกขนาดใหญ่ที่ลอยอยู่บนอากาศและกำลังล่วงลงมากระแทกกับพื้นที่เขาอยู่ในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้า
มิโดริยะมองภาพชวนบาดตาบาดใจตรงหน้าเป็นครั้งสุดท้าย
ก่อนอีดะที่เงยหน้าขึ้นมาจะเห็นและเบิกตากว้างอย่างตกใจ ร่างใหญ่ ๆ ของหัวหน้าห้องพยายามสะบัดมือของหญิงสาวผมชมพูออก
และพุ่งเข้ามาทางนี้พร้อมกับเสียงตะโกนที่เรียกให้คนที่อยู่ไม่ห่างจากจุดนี้หันไปมองร่างที่นอนนิ่งอยู่บนพื้นและกำลังจะถูกทับในไม่ช้า
“ไม่นะ!!
เดกุคุง!!!!” อุรารากะกรีดร้องสุดเสียง
สองขาพยายามวิ่งเข้าไปหาเพื่อนสนิทของเธออย่างไม่สนว่าตัวเองจะล้มลุกคลุกคลานแค่ไหน
พวกผู้หญิงคนอื่น ๆ รวมถึงพวกห้อง B ก็เช่นเดียวกัน
ใบหน้าหวาดกลัวกับน้ำตาที่ไหลอาบแก้มเพื่อนสาวทั้งหกผ่านดวงตาสีเขียวอ่อนแรงคู่นี้
รอยยิ้มบางเบาถูกมอบให้กับพวกเธออย่างที่ทำเป็นประจำ ก่อนจะหันไปยิ้มให้กับชายหนุ่มทั้งสองที่ทิ้งเขาไว้เพียงลำพังเป็นครั้งสุดท้าย
ต่อให้อีดะคุงที่มีความเร็วที่สุดมากแค่ไหนก็ไม่อาจยื่นมือเข้ามาได้
หรือต่อให้อาจารย์ไอซาวะจะใช้ผ้าที่อยู่บนคอเพื่อห้ามตึกที่กำลังหล่นลงมาก็ไม่อาจช่วยเหลือเขาได้
เพราะในตอนนี้ตึกนั่นอยู่ใกล้เขากว่าจะทำลายมันเสียแล้ว
ขอโทษนะครับแม่...ที่สุดสัปดาห์นี้คงจะไปหาไม่ได้
ขอโทษนะครับออลไมท์ที่ผมคงต้องคืนอัตลักษณ์ของคุณ
และอยากจะให้คุณส่งมอบมันให้กับรุ่นพี่มิริโอะ
ขอโทษนะครับคุณอุรารากะ
คุณยาโอโยโรสุ คุณจิโร่ คุณฮางาคุเระ
คุณอาชิโดะและซึยุจังที่ผมไม่สามารถอยู่คุยกับพวกคุณได้อีกแล้ว
ขอโทษนะคัตจัง
โชโตะคุงที่ผมไม่ได้บอกความรู้สึกที่เก็บซ่อนเอาไว้ออกไปให้พวกนายได้ยิน
แต่ตอนนี้คงเปล่าประโยชน์แล้วล่ะ
“ลาก่อนครับทุกคน”
รอยยิ้มที่ฉีกกว้างที่สุดพร้อมกับน้ำตาที่ไหลอาบเป็นสายส่งมอบให้กับเพื่อน
ๆ ของเขาเป็นครั้งสุด ก่อนที่ตึกขนาดใหญ่จะหล่นลงมาทับร่างทั้งร่างจนเหลือเพียงแค่มือข้างขวาโผล่ออกมาให้เห็นพร้อมกับเลือดสีแดงที่ไหลเป็นกองขนาดใหญ่ต่อหน้าอีดะกับอุรารากะ
ที่มาถึงในเวลาที่ตึกนั่นหล่นทับร่างของเพื่อนสนิทพอดี
ตุบ!!
ร่างอ่อนแรงทรุดนั่งลงกับพื้น
มือของหญิงสาวผู้ครอบครองอัตลักษณ์แรงโน้มถ่วงยื่นไปกุมมือของอีกคนอย่างแผ่วเบา
ร่างกายสั่นไม่หยุดพร้อมกับน้ำตามากมายไหลออกมาเป็นสาย ดวงตาสีน้ำตาลเหลือกโพลงเช่นเดียวกับอีดะที่ได้สติกลับมาหลังจากตกอยู่ในบ่วงทาสของผู้หญิงคนนั้น
ร่างกายสูงใหญ่เซไปมาก่อนจะนั่งลงข้าง
ๆ เพื่อนสาวตัวเล็ก ใบหน้าที่มักฉายแววจริงจังตลอดเวลาส่ายไปมาอย่างไม่เชื่อว่าภาพตรงหน้าจะเป็นเรื่องจริง
น้ำตาของลูกผู้ชายไหลออกมาไม่ต่างจากอุรารากะ ก่อนจะหลุบมองกองเลือดขนาดใหญ่ที่กำลังชโลมตัวเขากับอุรารากะเอาไว้
ริมฝีปากที่เคยพูดจาทำร้ายเพื่อนสนิทตัวเล็กอยู่ตลอดเวลา พยายามเอ่ยเรียกชื่อของอีกฝ่ายเพื่อหวังให้คนที่อยู่ใต้ซากตึกใช้พลังทำลายและบอกว่ามันเป็นเรื่องล้อเล่น
“มะ...มิโด...ริ...ยะคุง”
นี่...พวกนายอยากให้ผมหายไปใช่ไหม??
“มิโดริยะคุงงงงงงงงง!!!!!!!!!!!!!”
ผมน่ะ...หายไปตามที่พวกนายทุกคนต้องการแล้วนะ
จบ Begin
เข้าสู่เนื้อเรื่องหลักในตอนถัดไป.....
ร้องไห้เลยค่ะ แต่งไปก็นั่งฮึบไป
พยายามอธิบายให้จบรวดเดียวก่อนจะเริ่มเรื่องจริง
ขอต้อนรับเข้าสู่ลัทธิมิโดริยะสายดาร์กนะคะ
ไม่รู้ว่าทุกคนจะชอบกันไหม แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องที่มีเนื้อหาเรท 18+ เยอะมาก
(โดยเฉพาะฉากดูดเลือดนี่ ซี๊ดปากเลยค่ะ)
เอาเป็นว่าถ้าสนใจจะอัพเรื่อยๆนะคะ
ชอบก็เม้น ถูกใจก็ติดตามจ้าาาาา
ความคิดเห็น