ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (EXO) Up In The Air | Kaisoo/Kaido

    ลำดับตอนที่ #10 : Up In The Air : 09

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 770
      9
      12 ต.ค. 58




    Title : Up In The Air 09

    Author : Mithunajune




















    “ซื้อให้อันนึงสิ”













    จงอินชี้ไปที่โถเซรามิกสีเขียวอ่อนจนเกือบครีมที่ตั้งโชว์อยู่ในตู้ ลวดลายมังกรถูกปั้นขึ้นนูนบางๆ ชดช้อยราวกับภาพวาด













    “ไหนเงิน” คนข้างกายแบมือทำท่าจะรับกระเป๋าสตางค์











    นายแบบคนเก่งล้วงกางเกงแล้วส่งลูกอมในกระเป๋าให้แทน เจ้าตัวยิ้มเผล่แล้วชี้ไปที่โถสีแดงใกล้ๆกันบอกว่า ลูกอมสองเม็ดงั้นขอ 2 ชิ้นแล้วกัน 





    คยองซูที่อยู่ว่างๆมาหลายวันไม่ปล่อยให้เวลาไหลผ่าน เขาปลุกจงอินที่ย้ายมานอนด้วยกันแล้วแต่เช้าเพื่อตรงไป Shanghai Museum หนึ่งในสี่พิพิธภัณ์ที่ดีที่สุดของจีน คยองซูเล็งจะมาที่นี่ตั้งแต่รู้ว่าจะมาเที่ยวเซี่ยงไฮ้แล้ว ทั้งๆที่เป็นสถานที่ต้องมาของเซี่ยงไฮ้ แต่เขาที่เคยมาเซี่ยงไฮ้หลายรอบแล้วก็ไม่เคยมาเดินสักที เพราะมาทีไรก็มาทำงานแค่ไม่กี่วันตลอด 



    พิพิธภัณฑ์เซี่ยงไฮ้มีทั้งหมด 4 ชั้น ขนาดไม่ได้กว้างขวางจนเดินไม่หมดเลยทำให้พอจะเดินดูสบายๆไม่ต้องรีบได้ ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะ ผ่านไปสี่สิบนาทีแล้วยังเพิ่งจะขึ้นมาดูที่ชั้นสองกันเอง คิมจงอินที่เพิ่งอ่านหนังสือประวัติศาสตร์จีนช่วงปี 1800 ตื่นเต้นกว่าใคร ลากคยองซูเดินดุ่มๆหาชิ้นงานเด็ดๆแล้วเล่าเรื่องให้ฟังยาวไปหลายนาทีกว่าจะเดินต่อได้








    “เห็นที่นี่แล้วนึกถึง The Met ที่นิวยอร์คเลย ผมไปดูนิทรรศการ Through the looking glass มาด้วย” จงอินชี้ไปที่จานเซรามิกลวดลายจีน อ้างถึงนิทรรศการที่เพิ่งมีไปไม่นานมานี้ งาน The Met Gala เป็นงานยิ่งใหญ่ที่คนทั้งโลกจับตามอง ปีนี้มาในคอนเซปต์จีน ทำให้ช่วงนั้นมีดาราจีนหลั่งไหลไปเต็มทั้งเมือง










    “ที่นายเล่าไงว่าไปเจอกับเพื่อนสมัยมัธยมที่นั่น” จงอินไม่ได้ไปเดินพรมแดงงานนั้น แต่เขาบินไปทำงานหลังวันที่มี Met Gala สักสองอาทิตย์ได้ เลยมีโอกาสไปเดินดูนิทรรศการ










    “คยองซูจำได้ด้วยเหรอ”











    “ก็ที่ส่งรูปมาให้ดูด้วยไง ในแชทยังมีรูปอยู่เลย” คยองซูเลื่อนรูปในโทรศัพท์ให้ดู จงอินมองด้วยความตกใจนิดหน่อย จำไม่ได้เลยแฮะ..











    “นั่นแหละ ว่าแล้วก็อยากไปเดิน The Met อีก..” 











    “มันมีพิพิธภัณฑ์ย่อยอีกอันเพิ่งเปิดนี่ PS1 ที่แยกมาจาก MoMa” คยองซูนึกขึ้นได้ “คราวที่แล้วไม่ได้ไปมาใช่ไหม?”










    “ไม่ได้ไปอะ วันที่จะไปดันแจ๊คพอตเจองานเปิดตัวงานใหม่เขาให้แค่คนที่ได้การ์ดเชิญเท่านั้น” จงอินว่า










    “อืม.. อยากไปเที่ยวเหมือนกันแฮะ ช่วงปลายปีไปไหนไหมล่ะ ไปเที่ยวกันไหม?” คนแก่กว่าเอ่ยปาก อย่างหนึ่งที่พวกเขาสนิทกันก็เพราะต่างคนต่างมีตารางเวลาประหลาดเนี่ยแหละ ทั้งคยองซูที่เป็นนักเขียน และจงอินที่เป็นนายแบบต่างทำงานไม่เป็นเวลาทั้งคู่ ไม่มีหรอกหยุดตามเทศกาลแบบคนอื่นเขา










    “คิดว่าไม่มีอะไรนะ..” เด็กหนุ่มทำหน้าครุ่นคิดนิดหน่อย “แต่เดี๋ยวขอไปเช็คกับพี่จงแดก่อนได้ไหม”










    “เอาสิ แล้วบอกด้วยละกัน” คยองซูก้มลงหยิบสมุดตารางงานตัวเองขึ้นมาดู “ช่วงตุลาฯจะเพิ่งส่งต้นฉบับหนังสือรวมคอลัมน์ของตัวเองไปพอดี หลังจากนั้นทั้งว่างทั้งมีเงินเลย”










    “เฮ้ย.. ของผมเดือนกันยาฯจะมีนิวยอร์คแฟชั่นวีคไง หรือจะรอเสร็จงานแล้วไปเที่ยวด้วยกันหลังจากนั้นดี?”










    “เออว่ะ แบบนั้นก็ดีนะ แต่คราวนี้ฉันบินตามไปทีหลังนะ ไม่เอาไปรอแบบคราวนี้แล้ว จะเที่ยวก่อนก็ไม่ได้” คยองซูยู่หน้าเมื่อคิดว่าต้องไปแกร่วรอจงอินเที่ยวด้วย ขืนเที่ยวก่อนคนแถวนี้มีงอนแน่










    “แบบนั้นก็ได้ ดีเลย ตกลงแบบนี้แหละ เดี๋ยวผมเช็ควันชัวร์ๆแล้วบอกอีกที” จงอินยิ้มให้กับความคิดในหัว แล้วก็นึกขึ้นได้ “แล้วต้นฉบับหนังสือต้องส่งตุลาฯไม่ใช่เหรอ?”










    “ก็เดี๋ยวเร่งตัวเองนั่นแหละ นี่ก็จะเสร็จกันหมดแล้วเหลือแต่เก็บรายละเอียด เนื้อหามันเอาจากคอลัมน์ที่เขียนไว้แล้วน่ะ”










    คยองซูหัวเราะแล้วส่ายหัวให้กับแผนใหม่กะทันหัน นี่เที่ยวยังไม่ทันจะจบทริปเลยคิดทริปใหม่กันอีกแล้ว เขาดึงแขนเด็กอยากไปเที่ยวให้เดินตามขึ้นไปที่ชั้นต่อไป ภาพวาดแบบจีนเผยให้เห็น เขาเลื่อนสายตาไปดูตามแผ่นกระดาษเหล่านั้น เพราะอ่านไม่ค่อยออกเลยไม่ได้สนใจเท่าไหร่นัก พวกเขาเดินไปจนถึงห้องข้างๆเป็นห้องจัดแสดงตราประทับจีน







    “คยองซูจำได้เปล่า.. ตอนที่ไปเมากันรอบแรกเคยพูดไว้ว่าจะไปนิวยอร์คด้วยกันน่ะ” คนข้างๆโพล่งขึ้นมาอีกครั้ง คยองซูนึกไปถึงตอนที่เขากับจงอินไปเมายับจนนอนในรถด้วยกัน














    ‘ถ้าเที่ยวอเมริกาต้องไปสักเดือน ขับรถข้ามรัฐน่ะถึงจะคุ้ม ไปแค่นิวยอร์คไม่คุ้มหรอก










    ‘คยองซูเคยไปหรือยัง?’










    ‘คนปกติเขาว่างไปเที่ยวเมืองนอกเป็นเดือนๆที่ไหน’ คยองซูใช้ตะเกียบในมือชี้หน้าพ่อนายแบบคิวทอง










    ‘ทำเป็นคนทำงานออฟฟิศไปได้’











    ‘ฉันไม่ได้ทำแต่เพื่อนคนอื่นเขาทำนะ’











    ‘งั้นเราไปกันไหม?’











    ‘หือ?’











    ‘เอาไว้มีโอกาสแล้วไปขับรถเที่ยวกัน’










    ‘เอาสิ’

















    “จริงด้วย” เขารำพึงขึ้นมา









    “ก็ผ่านมานานแล้วนี่นา จำไม่ได้ก็ไม่แปลก” จงอินว่า เสียงสวบสาบของเสื้อผ้าแว่วผ่านหู แล้วก็รู้สึกได้ถึงท่อนแขนที่พาดลงมาที่คอ ปิดท้ายบทสนทนาด้วยเนื้อคำอุ่นซ่าน












    “แต่ก็จะได้ไปด้วยกันแล้วไง ถ้าทำได้ก็ขับไปเที่ยวนอกเมืองกันด้วยนะ?”












    “อืม ไปก็ไป”























    .(40%).


















    ห้องหยกจีนที่สวยงามจับตาเป็นห้องสุดท้าย









    ทั้งห้องเต็มไปด้วยผลิตภัณฑ์ที่ทำจากหยกสารพัดสี คนทั่วไปคิดถึงหยกก็จะนึกถึงหยกสีเขียว ใครที่มีความรู้มากขึ้นอีกนิดก็จะรู้ว่าหยกสียิ่งอ่อนยิ่งใสยิ่งแพง สีเขียวแก่ๆขุ่นๆนี่ราคาถูก แต่ถ้าสีเกือบขาวใสเลยคือมีราคาแพงมาก แต่หยกที่แพงมากที่สุดจะมีชื่อเรียกว่า Imperial Jade ที่จะเป็นสีเขียวสดใสเนื้อดีและเท่ากันทั้งชิ้น ส่วนในห้องนี้มีไปจนถึงสีชมพู สีเหลือง สีดำ สีม่วง ที่เกิดจากแร่ธาตุซึมเข้าไปในหิน



    หยกพวกนี้แข็งมาก คุณภาพของหยกนอกจากสีแล้วก็จะดูที่ความแข็งด้วย จะมีเลขเฉพาะไว้วัดความแข็งของหยกเลย คล้ายๆกับเพชรหรือหินแพงอื่นๆคือถ้ายิ่งแข็งยิ่งดี ฉะนั้นหยกสารพัดที่จัดแสดงในห้องนี้แล้วมีลวดลายสวยงามอ่อนช้อยแสดงให้รู้เลยว่าช่างต้องมีฝีมือมาก แกะสลักมาราวกับปั้นเอาจากน้ำแต่จริงๆแล้วแกะจากหินแข็งๆ



    วิจิตรจนคนทั้งคู่ที่เดินเคียงกันไม่ปริปากอะไรมาคุยกันเลย











    “สงสัยกลับไปเกาหลีต้องไปขโมยกำไลย่ามาใส่มั่งแล้ว” จงอินโพล่งขึ้นมาหลังจากเดินออกมาด้านนอกพิพิธภัณฑ์แล้ว 












    “หือ ผู้ชายใส่กำไลหยกกันด้วยเหรอ?” คยองซูว่า












    “บ้านผมเขาก็ใส่กันนะ ใส่เอามงคลน่ะ เป็นเม็ดๆถักกับเชือกเอา” จงอินทำท่าให้เห็นภาพ “เมื่อก่อนก็ใส่ติดตัวนะ พอมาทำงานแล้วต้องคอยถอดตลอด กลัวหายเลยเก็บไว้บ้านดีกว่า แต่พวกนั้นราคาถูกๆ ของแพงจริงต้องของย่านู่น ใส่แบบลายขาวเขียวแกะสลักด้วย ขโมยไปขายก็มีกินไปทั้งชาติ”











    “ฉันก็ใส่นะ แม่ไปดูดวงมาแล้วบอกว่าใส่มุกจะดี ก็เลยต้องหามาใส่” คยองซูยกกำไลบนมือให้ดู ชี้ให้เห็นเชือกถักสีดำที่มีมุกสีดำเม็ดหนึ่งร้อยอยู่ เขาเป็นคนใส่กำไลติดมืออยู่แล้วสองสามเส้น เลยใส่มุกได้แบบไม่รู้สึกเขินเท่าไหร่












    “อ้าวนี่มุกเหรอ ไม่เคยสังเกตเลย” จงอินแปลกใจ












    “อืม.. ผู้ชายใส่มุกมันดูแปลกๆน่ะ เลยต้องทำให้ดูไม่เหมือนมุกหน่อย”










    ทั้งคู่เดินไปจนถึง Shanghai Urban Planning Exhibition Center ที่อยู่ไม่ไกลกัน ระหว่างทางต้องลอดทางเชื่อมใต้ถนนเลยได้เจอ Hong Kong Underground Commercial Center มีร้านขายของเรียงรายทั้งแถบน่าสนใจไม่น้อย แอบแวะดูร้านขนมไปหลายร้านเลย สุดท้ายก็จบลงที่กินไอศกรีมไปคนละแท่ง







    Shanghai Urban Planning Exhibition Center เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงผังเมืองของ Shanghai และแบบจำลองสถานที่ต่างๆของเมือง ทีเด็ดของที่นี่อยู่ด้านบนที่มีผังเมืองของเซี่ยงไฮ้ขนาดใหญ่มากๆจัดแสดงอยู่ ใหญ่โตมโหฬารชนิดที่ต้องใช้เวลาเดินละเลียดดูทีละหน่อยๆถึงจะสะใจ เพราะทำได้ละเอียดและสมจริง ทั้งตัวผังเมืองยังมีการปิดไฟแสดงเป็นช่วงตอนกลางคืน ให้เห็นไฟระยิบระยับสวยมาก 



    นอกจากนั้นที่นี่มีการฉายหนัง 360 องศาด้วย ในหนังจะพาคนดูลอยไปยังที่ต่างๆในเซี่ยงไฮ้ให้เห็นรายละเอียดของแต่ละที่ ถ้าพาเด็กๆมาก็คงจะเพลิดเพลินกันได้ง่ายๆ ขนาดพวกเขาที่อายุจะสามสิบเข้าไปแล้วยังไปเล่นกันด้วยเลย ถือเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ทำออกมาได้เยี่ยม เพราะเต็มไปทั้งข้อมูลและเทคโนโลยีล้ำได้ใจ










    “คืนนี้ไปหาดไวทั่นกันเลยไหม หาอะไรดื่มกัน” จงอินถามเมื่อเดินวนมาจนถึงโซนย่านตึกเก่าที่โด่งดังของเซี่ยงไฮ้ ตึกสีขาวแบบโบราณเรียงรายให้เห็นความสวยงามแม้จะเป็นแค่แบบจำลอง











    “ไหวเหรอ? ยังไม่ได้นอนเต็มๆเลยนี่ วันนี้ฉันก็ลากมาแต่เช้า” คยองซูเอียงหน้าถาม











    “ไหวอยู่นะ ก็กินข้าวก่อนแล้วค่อยหาร้านนั่ง”











    “คืนนี้นอนก่อนไหมล่ะ พรุ่งนี้จะได้ไปกินได้ ถ้าอยากดื่มก็จิบๆอะไรจากร้านที่จะกินข้าวเย็นก็ได้”












    จงอินนิ่งไปแล้วก็พยักหน้ายอมเอาอย่างที่คยองซูว่า ก้มลงเอาหน้าเกลือกกับไหล่เล็กนั่นอย่างไม่กลัวหน้าจะพังเหมือนจะบอกว่า ‘เหนื่อยจริงๆด้วยล่ะคยองซู’ ทำงานติดกันมาทั้งอาทิตย์ก็เหนื่อยอยู่หรอก แต่ก็อยากเที่ยวด้วยเพราะไม่ได้มีเวลาเยอะ แถมเป็นทริปต่างประเทศแรกที่เที่ยวเพียวๆของพวกเขาด้วย








    “งั้นวันนี้กินนี่กันดีกว่า.. ซาลาเปาทอด” คยองซูเปิดให้จงอินดูโทรศัพท์ที่แคปรีวิวเอาไว้เพียบ 












    “Yang’s fry dumpling เหรอ?” จงอินเงยหน้าขึ้นมาจากไหล่คยองซูเพื่อดูจอ












    “อือ เขาบอกเหมือนเสี่ยวหลงเปาแบบทอดน่ะ” นั่นคือมีซุปอยู่ข้างในด้วย “อยู่ตรงถนน Wujiang ที่แยกออกมาจากถนนหนานจิงน่ะ ไม่ไกลมาก”












    “ตามใจคยองซูเลย” นายแบบที่ยืนอยู่ด้านหลังเอื้อมมือมาไล่จอโทรศัพท์ กลายเป็นว่าโอบอีกคนไว้หลวมๆ “อืม.. เลยหิวแล้วเลยเนี่ย”











    “ไปกินเลยไหมล่ะ” คยองซูถาม












    “แต่เดี๋ยวดึกๆก็หิวอีก” 












    “ไม่เห็นเป็นไรเลย หิวก็ค่อยหาอะไรกินอีก จะได้นอนสบายๆ”











    “นี่ผมเป็นนายแบบนะ ให้เกียรติหุ่นด้วย!” จงอินตีเบาๆ












    “ก็ค่อยลดดิ นี่มาเที่ยวนะเว้ย” ฝ่ายนักเขียนก็ทำหน้า ‘ไม่เห็นจะเป็นไรเลย’ ใส่












    “เออๆๆๆๆ งานหายไม่มีเงินก็ช่วยมาเลี้ยงด้วย”











    Yang’s fry dumpling หรือ เสี่ยวหยางเชิงเจียนก่วนในภาษาจีนเป็นร้านไม่ใหญ่มากอยู่ในห้างหวงผู่ฮุ่ย แต่ป้ายแดงเด่นทำให้หาเจอไม่ยาก เพราะพูดจีนกันไม่ได้ทั้งคู่ทำให้เสียเวลาหน้าร้านไปพอสมควร เนื่องจากร้านนี้ต้องเลือกซื้อและจ่ายเงินหน้าร้านเลย ก่อนที่จะยื่นใบเสร็จให้กับพนักงานในร้านไปเอาอาหารที่สั่งมาให้



    ถึงราคาจะแค่ไม่กี่หยวนแต่ลูกหนึ่งๆก็ก้อนเบิ้มสะใจ แป้งบางเฉียบตามแบบจีนแท้ๆอัดแน่นด้วยหมูสับปรุงรสทั้งก้อน ปกติแล้วทั้งจานจะมี 8 ลูก คนอื่นเขากินกันแค่คนละ 4 ก็แน่นไปถึงคอหอยแล้ว แต่นี่ทั้งคยองซูทั้งจงอินล่อเข้าไปคนละจาน มีโอดครวญตอนหลังๆว่าอิ่มแล้วแต่ก็จัดการจนหมดเกลี้ยงอยู่ดี 









    “ไหนว่ากลัวอ้วนไง” คยองซูหันไปแซว











    “คนเราไม่ได้มาเที่ยวกันทุกวันน่า”











    “กลัวไปถ้าตัวบวมพี่จงแดมาด่าฉันแน่ๆ” พอนึกถึงสารพัดอาหารจีนที่กินกันมานี่ทั้งเค็มทั้งมัน ก็นึกได้ว่าอาหารเค็มนี่ตัวทำให้หน้าบวมเลยล่ะ ถ้าจงอินตัวบวมกลับไปคงไม่พ้นจะโดนผู้จัดการจอมเฮี้ยบดุเอาแน่นอน เห็นจงแดดูท่าทางใจดีคุยง่ายแต่ทำงานเนี้ยบน่าดู เป็นโรคเพอร์เฟคสุดๆก็ว่าได้











    “พี่จงแดไม่ว่าหรอก” จงอินเอนตัวเอามือลูบพุงน้อยๆ คิดในใจว่ากลับไปคงโดนเข้ายิมทั้งอาทิตย์











    “เออ พรุ่งนี้ไปเดิน Yu Yuan กันไหม เขาว่าเป็นถนนช็อปปิ้งแต่ตึกจีนเก่าสวยๆเต็มถนนเลย” คยองซูเสนอ











    “แล้วแต่คยองซูจัดมาเลย แต่แอบอยากไปไหว้พระสักวันนะ ช่วงนี้พ่อผมป่วยบ่อย อยากไหว้พระให้เขาหน่อย” จงอินขอรีเควสเป็นพิเศษ พอโตขึ้นแล้วก็อยากไปวัดบ่อยขึ้น รู้สึกชีวิตไม่ค่อยมีช่วงสงบๆ











    “เอาสิ เดี๋ยวไปวัดดังสามวัดนั่นกัน ฉันไปมาอันนึงก็สวยดีนะ” คยองซูพยักเพยิดให้ลุกไปกันได้แล้ว ทั้งคู่เดินออกมานอกร้านจนได้ “แล้วคุณพ่อช่วงนี้ไม่ดีขึ้นเหรอ ตอนนั้นเข้าโรงพยาบาลไปตั้งนาน”










    “ก็ที่เล่านั่นแหละว่าพอหายกลับบ้านก็เหมือนใจเสียไปแล้ว รู้สึกตัวเองป่วยตลอด นี่แม่เลยจะลากไปเที่ยวให้ลืมๆไปมั่งว่าตัวเองแก่” คนเด็กกว่าหัวเราะเจือ












    คยองซูคว้ามืออีกคนมากุมไว้ ใช้เวลาไม่กี่วินาทีบีบกระชับแน่น ถ่ายทอดกำลังใจชั้นเยี่ยมโดยไม่ต้องพูดอะไร คิมจงอินกระตุกรอยยิ้มสมใจ กระชับมือกลับมาให้แนบชิดกว่าเก่า ใบหน้าหล่อเหลาเปล่งประกายท่ามกลางแสดงแดดสีส้มยามเย็นของเซี่ยงไฮ้ทำให้นักเขียนคนเก่งใจวิบหวิว










    เขาได้ยินเสียงความละโมบในใจกำลังกู่ร้องให้กอบโกยช่วงเวลาล้ำค่านี้ไว้



























    (mithuna’s talk)


    ครบร้อยแล้ววววว ฮิ้งงงงงงงง เที่ยวกันสะใจมาก โอยยยย เซี่ยงไฮ้นี่น่าเที่ยวจริงๆค่ะ ด้วยประวัติศาสตร์ของเมืองมันแล้วทำให้ความน่าสนใจของเซี่ยงไฮ้มีไม่สิ้นสุดจริงๆ แอบเห็นหลายคนบอกว่าฟิคมินี่มีแต่กินกะเที่ยว ฮ่าๆๆๆๆๆๆ อย่าเพิ่งเบื่อกันนะ มีเที่ยวอีกเยอะเลย แฮ่


    #UITAkaido @mithunajunejune





    *กำไลหยกนี่ชอบมากค่ะ รู้สึกว่าเป็นอัญมณีที่ไม่วิบวับเกินไป ดูจะใส่แล้วเท่ดี ตัวอย่างนี่เป็นหยกมรกตที่แพงที่สุด ที่เตรียมถวายแด่เฉียนหลงฮ่องเต้เมื่อ คศ.1970 ในวโรกาสการเฉลิมฉลองพระชนมายุครบ 80 พรรษา เนื้อใสสีเด้งมาก





    *Shanghai museum 





    *Shanghai Urban Planning Exhibition Center









    *Through the looking glass คิดว่าทุกคนจำได้ที่ริฮานน่าใส่ชุดไข่เจียวกับที่พี่คริสหน้าเทาไงคะ 


    เป็นหนึ่งในนิทรรศการที่ดีมากๆเท่าที่มิเคยไปดูมาเลยค่ะ ตอนที่ไปมาคือไปดู 2 รอบเลยเพราะชอบมากๆ  มีรายละเอียดและผลงานจีนทั้งเก่า ใหม่ และประยุกต์มาโชว์ให้เห็นกัน เสื้อผ้าแบบจีนจากแบรนด์ดังสวยจับตา ที่ชอบที่สุดคือในงานเปิดหนังจีนดังๆเรื่องโปรดของมิทุกเรื่องเลย ใครสนใจลองกูเกิ้ลดูแบบละเอียดๆได้ค่ะ




    mithuna

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×