ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (EXO) Up In The Air | Kaisoo/Kaido

    ลำดับตอนที่ #11 : Up In The Air : 10

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 693
      10
      18 ต.ค. 58




    Title : Up In The Air 10

    Author : Mithunajune

















    วันนี้พวกเขาได้ตื่นสายหน่อยเพราะจะไปย่าน Yu Yuan กัน ซึ่งกว่าร้านค้าจะเปิดก็สายๆแล้ว ทั้งคยองซูและจงอินตกลงพร้อมใจกันไม่กินอาหารชืดๆของโรงแรม แต่ออกไปหาโจ๊กที่ร้านแถวนี้กินเป็นมื้อเช้าดีกว่า



    โจ๊กหมูใส่เครื่องในมาเต็มๆหอมกรุ่นชวนน้ำลายสอ ทั้งคู่จัดการจนไม่เหลือแม้แต่เศษข้าวก้นชามตามตบท้ายด้วยชาจีนร้อนๆให้สบายท้อง 











    “โอย..อิ่มแน่นแต่เช้าเลย” จงอินยืดตัวแล้วลูบพุงที่นูนออกมา











    เขาชะเง้อหน้าไปหาคนที่ไม่ตอบรับอะไร คยองซูก้มหน้าอยู่กับโทรศัพท์ไม่ยอมสนใจ คิ้วเรียวขมวดนิดๆทำให้จงอินนึกสงสัยว่ามีอะไร









    “เรื่องงานหรือ?”












    “ไม่อะ จุนมยอนมันทะเลาะอะไรกับคริสวะ ไอ้ลู่มาฟ้องว่าไอ้จุนหงุดหงิดอะไรไม่รู้มาหลายวันแล้ว มันเลยเดาว่าน่าจะทะเลาะกับคริส” คยองซูว่า












    จงอินทำหน้าไม่รู้เรื่องแล้วนึกแปลกใจมั่งเลยแชทไปหาคริสว่าทะเลาะอะไรกับจุนมยอน มันตอบกลับมาทันทีเหมือนเฝ้าโทรศัพท์อยู่









    Kimkai : ทะเลาะอะไรกับพี่จุน







    Kris Wu : กูเหนื่อยละอะ

    Kris Wu : ไม่มีหวังก็เข้าใจอยู่นะ แต่เขาไม่เห็นหัวกูเลย







    Kimkai : แสดงว่าคราวนี้มึงไม่ง้อ?








    Kris Wu : กูแค่หลบมาทบทวนตัวเอง 

    Kris Wu : รอบนี้เขาด่ากูแรงมากเลยนะมึง แม่ง เห็นกูเป็นทาสในเรือนเบี้ยเหรอวะ

    Kris Wu : ด่าซะกูเป็นแบคทีเรียในอากาศเลยอะ







    Kimkai : เดี๋ยวมึงก็กลับไปง้อ







    Kris Wu : มึงก็รู้.. กูง้ออยู่แล้ว สัด

    Kris Wu : ขอกูพักแป๊ปได้ไหมล่ะ แม่งดื้อชิบหายคนอะไร









    จงอินรัวสติกเกอร์รูปอุนจิให้กับไอ้คนขี้แพ้ที่ทำเป็นปากดีแต่ก็ตายรังเหมือนเดิม คริสมันขี้หวงขี้ยุ่งแต่ก็ใจอ่อนยิ่งกว่าอะไร จุนมยอนก็เป็นพวกโลกส่วนตัวสูง ติสต์แตกชอบเข้าสังคม อยู่ดีๆมีไอ้นายแบบขี้ตื๊อมาตามแบบนั้นก็คงฟิวส์ขาดนั่นแหละ แต่ก็จริงอย่างที่คริสว่า.. คนอะไรใจแข็งเป็นบ้า คริสมันตื๊อมาเป็นเดือนๆไม่มีพัฒนาการอะไรเล้ยยยยย



    เขาส่งโทรศัพท์ให้คยองซูคนข้างกายดู รายนั้นหัวเราะขำส่ายหัวแล้วบอกลู่หานไปว่าไม่ต้องห่วง เดี๋ยวไอ้จุนก็มีคนไปง้อ













    .














    นั่งรถไฟใต้ดินไปจนถึงสถานี Yu Yuan เห็นร้านค้าเรียงรายตั้งแต่เดินขึ้นสถานี ความพิเศษคือตึกที่ร้านค้าพวกนี้ตั้งอยู่เป็นแบบจีนโบราณทั้งหมด มองไปทางไหนก็มีแต่อาคารเก่า คยองซูที่ชอบป้ายจีนแบบโบราณหน้าร้านเอามากๆเล่นเดินถ่ายรูปแทบทุกร้านจนแทบไม่ได้มองข้าวของเลย



    ด้านจงอินเองก็สนุกสนานเต็มที่ เขาเดินดูของแปลกตาที่หาไม่ได้ในเกาหลีหรือประเทศตะวันตกอื่นๆมาดู เป็นสเน่ห์แบบเอเชียตรงที่ตลาดแบบนี้จะมีของที่เป็นผลิตผลตกทอดมาตามกาลเวลาวางให้นักท่องเที่ยวได้เห็นอยู่เสมอ 










    นอกจากทั้งคู่จะทอดสายตากับบรรยากาศดีๆรอบตัวเอาไว้เต็มเปี่ยมก็ถูกจับตาด้วยคนรอบตัว อาจจะเพราะวันนี้แต่งตัวมาใกล้ๆกัน แถมหนึ่งในนั้นก็รูปร่างหน้าตาดีขนาดเป็นนายแบบได้ สายตาของหลายคนเลยมาหยุดที่พวกเขาบ่อยครั้ง



    คยองซูอยู่ในชุดกางเกงขาสั้นสีน้ำเงินเข้มพับปลายขา สวมเสื้อเชิ๊ตสีขาวแขนสั้นกุ๊นขอบสีน้ำเงินจากพอล สมิธ รองเท้าสานหนังสีน้ำตาลสบายๆ แว่นกรอบกระอยู่ที่เดิมของมัน และเพิ่มกิมมิกด้วยหมวกผ้าสีขาวตุ่นๆ กับกระเป๋าหนังสะพายข้างใบเล็กจากอินเดียที่ใส่ได้แค่โทรศัพท์กับเงิน



    ด้านจงอินดูสูงชะลูดด้วยกางเกงยีนส์ทรงหลวมเอวสูงแบบวินเทจพับปลายขาอย่างไม่ตั้งใจนัก สวมเสื้อยืดลายทางสีน้ำเงิน รับกับรองเท้าผ้าใบสีขาวครีมหุ้มข้อได้ดี ผมสีเข้มไม่ถูกจัดทรงอะไรทั้งนั้น เส้นผมสุขภาพดีถูกปล่อยให้ระใบหน้าอย่างเป็นธรรมชาติ ใบหน้าเข้มมีแว่นกันแดดกรอบกลมสวมอยู่






    คิมจงอินในลุควินเทจหล่อกระชากใจจริงๆให้ตาย..













    “กินอะไรเย็นๆหน่อยไหม ร้อนอะ” คยองซูเสนอเมื่อเห็นเม็ดเหงื่อเป็นเม็ดขึ้นตามขอบหน้าอีกฝ่าย











    “อือ ชามะนาวไหม? ไม่ใส่น้ำตาลนะ?” 









    พอเห็นคยองซูพยักหน้ารับจงอินก็แทรกตัวฝูงชนไปสั่งน้ำจากร้านใกล้ๆ ชามะนาวไม่หวานสองแก้วเย็นเฉียบถูกส่งให้ในเวลาอันรวดเร็ว จงอินหยิบทิชชู่ติดมือมาด้วย เขาถอดหมวกคยองซูออกแล้วเปิดเหม่งขึ้นไป ใช้ทิชชู่ซับเหงื่อที่กระจายอยู่ทั่วใบหน้า พอเสร็จก็จัดแจงสวมหมวกกลับให้เหมือนเดิม










    “อือ ขอบใจ” คุณนักเขียนว่า










    ทั้งคู่ดื่มน้ำจนชื่นใจก็เดินเล่นกันต่อ ไล่ไปจนถึงสะพานกลางน้ำ ไฮไลต์ของที่นี่ ผู้คนเยอะแยะอัดแน่นเต็มพื้นที่ทำให้นึกขยาดไม่อยากเดินเข้าไปเท่าไหร่ เลยได้แค่เลียบๆเคียงๆชะโงกไปดูปลาคาร์พสารพัดสีในน้ำเท่านั้น คราวนี้เหนื่อยกับการเจอคนเยอะๆจนต้องเดินเลาะออกมานั่งพักกันที่มุมตึกหนึ่ง



    จงอินนั่งกับฟุตบาท ชันเข่าข้างหนึ่งขึ้นมาให้วางแขนได้สบายๆ อีกข้างยืดไปข้างหน้า นายแบบหนุ่มจัดแจงจุดบุหรี่เย็นขึ้นสูบให้หายใจหายคอได้สะดวก คยองซูยืนมองภาพนั้นแล้วก็ยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายเอาไว้



    รูปในกล้องดูสวยมากจนเหมือนภาพจากนิตยสาร ทั้งบรรยากาศของเมืองเก่าที่รายล้อมและคนในรูปอย่างจงอินที่เหมาะเจาะไปหมดทุกส่วน โดยเฉพาะสายตานิ่งๆที่หันมามองกล้องอย่างพอดิบพอดี












    “อยากถ่ายก็บอก จะจัดท่าให้” จงอินว่า











    “ไม่ต้องอะ” คยองซูทรุดนั่งลงข้างๆแล้วขโมยบุหรี่ตัวนั้นมาสูบเสียเอง มือเรียวจัดการแต่งรูปให้สวยแล้วกดอัพโหลดลงอินสตาแกรม











    ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าขณะที่ตัวเองกำลังง่วนกับการแต่งรูปก็มีใครแอบเก็บภาพนักเขียนคนเก่งใจจดใจจ่อกับโทรศัพท์เอาไว้ ริมฝีปากแดงแนบอยู่กับบุหรี่สีขาว กลุ่มควันโชยขึ้นเป็นม่านบางๆล้อมกรอบหน้า จงอินถ่ายคยองซูเอาไว้แบบใกล้ๆ ใกล้จนเห็นกลุ่มแพขนตาผ่านกรอบแว่นทาบบนผิวเนื้ออ่อน






    และภาพนั้นก็ถูกอัพโหลดลงโปรแกรมเดียวกันอย่างรวดเร็ว












    “เฮ้ย.. ถ่ายตอนไหนอะ” เจ้าตัวเห็นจากรูปที่ถูกแท้กมา










    “เอาน่า เดี๋ยวคนไม่รู้ว่ามาด้วยกัน” คนถ่ายอธิบาย “พวกที่อยู่เกาหลีเหงาปากแย่ไม่มีเรื่องให้เม้าท์”











    “สูบบุหรี่ออกสื่อเนี่ยนะ”











    “เออว่ะ”











    คยองซูหัวเราะแผ่วๆพลางพ่นควันกลุ่มสุดท้ายไปในอากาศ เขาขยี้บุหรี่ลงกับพื้นแล้วลุกขึ้นยืนเต็มตัว จงอินเองก็ขยี้บุหรี่แล้วลุกขึ้นตามด้วย










    “ปะ! ไปย่านฝรั่งเศสกันต่อ” คยองซูคว้าแขนคนข้างตัวให้เดินตาม










    .












    ย่าน French Concession ตั้งอยู่บนถนน Huaihai ย่านนี้แต่ก่อนเป็นเขตปกครองเก่าที่ฝรั่งเศสเคยครอบครองอยู่ ตึกอาการเก่าต่างๆเลยออกมาเป็นแบบฝรั่งเศส สองข้างทางเรียงไปด้วยต้นเมเปิ้ลที่ชาวฝรั่งเศสเอามาปลูกไว้ตั้งแต่ตอนนั้น ร้านค้าทั้งไฮเอนด์ และโลคอลแบรนด์กระจายทั่วทั้งย่าน กะจากสายตาแล้วกว่าจะเดินกันครบก็คงเย็นพอดี



    จงอินเสนอให้หาอะไรกินกันก่อน พวกเขาเลยไปนั่งร้านบะหมี่สวยๆแถวนั้นสักร้าน ซัดบะหมี่แห้งกันไปจนเต็มคราบแล้วก็นั่งพักเล่นโทรศัพท์กันไปก่อนจะเริ่มช้อปปิ้งกัน








    คยองซูเล็งอยากได้ยีนส์วินเทจดีๆสักตัวเลยเดินไล่หาตามร้านต่างๆ หาเท่าไหร่ก็ยังไม่เจอที่ถูกใจ แต่ก็โดนอย่างอื่นไปแล้วทั้งแว่นตาแบรนด์ญี่ปุ่น กระเป๋าหนังใส่บัตร และสบู่สมุนไพรจีน ด้านจงอินที่เดินตามก็ได้ไปทั้งเสื้อยืดลายเจ๋งๆ รองเท้าหนังหุ้มข้อสีดำ และกระเป๋าเป้หนังตัดเย็บละเอียด











    “อยากได้ยีนส์อะ ช่วงนี้ไม่มีกางเกงใส่เลย” คยองซูบ่น











    “ตลกละ ไม่มีใส่คืออะไร ก็มีเต็มตู้” จงอินหรี่ตาจับผิด “หรืออ้วนขึ้น?”










    “กวนตีนละคิมจงอิน” ฟาดมือเข้าที่หลังอย่างจังให้จงอินได้หัวเราะขำ










    ทั้งคู่เดินจนครบแล้วคยองซูก็ไม่ได้กางเกงเลยยอมถอดใจเอาของกลับไปเก็บที่โรงแรม อาบน้ำอาบท่าล้างตัวที่ไปเจอแดดเจอลมมาทั้งวันแล้วหลับพักกันสักชั่วโมง ถึงได้ตื่นขึ้นมาเตรียมหาข้าวเย็นกิน











    “ทริปกินจริงด้วยว่ะ” จงอินว่า










    “เที่ยวจีนเขาก็ต้องกินดิ” คยองซูยื่นอินสตาแกรมให้อีกฝ่ายดู “แฟนคลับใครเต็มอินสตาแกรมฉันเลย” 









    เพราะลงรูปจงอินนั่นแหละถึงได้มีคนมาคอมเม้นท์เต็มไปหมด มีแต่สาวๆมากรี๊ดว่าคิมจงอินหล่อสะท้านใจอย่างนั้นอย่างนี้ เรียกร้องให้เขาลงรูปอีกเพราะเจ้าตัวมันไม่ยอมลงรูปตัวเองเลย










    “ฮื้อ ก็คยองซูถ่ายผมหล่อ คนเขาก็ชอบกันไง” 











    คยองซูยักไหล่ไม่ใส่ใจนักแล้วก็ก้มลงเล่นโทรศัพท์ต่อ เช็คข่าวเช็คอีเมลไปตามเรื่องจนผ่านไปสักพักนั่นแหละคนร่วมห้องถึงเริ่มเรียกร้องความสนใจด้วยการมาเลื้อยอยู่ข้างตัว











    รู้อีกทีก็โดนจู่โจมให้รับจูบกลิ่นยาสีฟันแล้ว




    จงอินจูบด้วยแรงหมั่นเขี้ยว ดูดดึงจนปากแทบจะหลุดติดฟันไป เขาเลยบดริมฝีปากกลับไปบ้าง เรานั่งจูบกันอยู่อย่างนั้นจนเหนื่อยถึงได้หยุดเหลือแค่การแตะปากกันไปมา










    “หิวละอะ” จงอินกดปากซ้ำลงมา









    “ก็ลุก” เขาว่า










    จงอินยอมลุกขึ้นอย่างง่าย ไปหยิบรองเท้าคยองซูโยนมาให้เจ้าตัว แล้วทั้งคู่ก็มุ่งสู่ Xintiandi ย่านกินดื่มกลางคืนที่โด่งดังของเซี่ยงไฮ้












    .











    “คิดจะเดินแบบไปจนถึงเมื่อไหร่”












    “ก็คงทำไปเรื่อยๆแหละ แก่แล้วเป็นนายแบบไม่ได้หรือไง?”











    “ถามดูเผื่ออยากเลิกทำไง”











    “ก็คงทำอย่างอื่นด้วย แต่ไม่เลิกเดินจนกว่าคนจะไม่จ้าง.. คิดว่านะ”










    คยองซูขยับแว่นยกบุหรี่ในมือขึ้นสูบ กดควันให้อวลในอกแล้วพรูลมออกมาช้าๆ บรรยากาศของร้านอาหารเอาท์ดอร์สไตล์อิตาลีชวนให้นึกถึงครั้งแรกที่พวกเขาเจอกัน 



    ตอนนั้นยังดูเด็กๆอยู่เลย..











    “ชีวิตคนเราเดาได้ด้วยหรือ” คนตรงข้ามเริ่มบทสนทนามาอีกครั้ง “วันนี้ทำอย่างนี้ ไม่ได้แปลว่าวันพรุ่งนี้จะยังทำอยู่ โอกาสและเวลามาแบบไม่รู้ตัวอยู่แล้ว ผมตอบไม่ได้หรอกว่าต่อไปจะทำอะไร”












    “ก็อยากรู้แผนคร่าวๆ” คยองซูว่า













    “อยู่กันมาขนาดนี้ไม่รู้อีกเหรอว่าผมไม่เคยทำตามแผน” จงอินยกเบียร์ขึ้นจิบ “ตามแผนแล้วเราคงไม่ได้อยู่ด้วยกันตรงนี้”












    “อืม.. นั่นสิ” เรื่องของเราเนี่ยล่ะผิดแผนที่สุดแล้ว












    “แล้วคยองซูจะเขียนหนังสือไปตลอด?”












    “เขียนไปเรื่อยๆแหละ แต่อยากไปเป็นอาจารย์” คิมจงอินเลิกคิ้วอย่างสนใจ










    คยองซูเลยอธิบายต่อ “ก็.. จริงๆแล้วชอบเล่าเรื่องให้คนฟัง ชอบสอนคนอยู่นะ คิดว่าพอเก่งกว่านี้คงจะรับงานบรรยายงานสอนเหมือนกัน”











    “ก็ดูเหมาะดี” จงอินว่า 











    ข้อความจากแชทรัวมาไม่หยุดเบนความสนใจไปเสียก่อน จงอินยกมือขอโทษแล้วกดเข้าไปดูเห็นคริสมันแชทมาไม่หยุด







    Kris Wu : มึง เช็คให้กูหน่อย จุนมยอนปาร์ตี้ที่ไหน

    Kris Wu : ให้พี่คยองซูถามให้หน่อย กูเห็นคนแท้กรูปเขามา

    Kris Wu : ไอ้เหี้ยเอ้ยยยยยยย จุนมยอนดูเมาสัดๆๆๆๆๆๆๆ

    Kris Wu : ไม่รับโทรศัพท์กูด้วยเนี่ย ทั้งพี่ลู่ทั้งจุนเลย







    และสติกเกอร์อีกเป็นสิบ..







    Kimkai : เออ เดี๋ยวเช็คให้แป๊ป








    จงอินนึกตลกกับเพื่อนที่แก่จะตายห่าแล้วยังทำตัวเป็นเด็กมัธยมใจร้อนไปได้ พอเช็คกับคยองซูที่โทรไปหาเพื่อนอีกคนถึงได้รู้ว่าจุนมยอนติสต์แตกจัดปาร์ตี้กะทันหันที่บ้าน จงอินจัดแจงบอกคริสเรียบร้อย มันฝากขอบใจคยองซูแล้วก็หายไปเลย สงสัยจะรีบซิ่งไปเฝ้า.. ไอ้ขี้ใจอ่อนเอ้ย!



    พวกเขานั่งคุยเรื่องสัพเพเหระไปกันจนอีกหลายชั่วโมง จงอินถึงได้รับโทรศัพท์ข้ามประเทศมาจากผู้จัดการของคริสด้วยประโยคที่แทบทำให้หัวใจหยุดเต้น

















    “จงอิน! คริสรถคว่ำ!”





















    (mithuna's talk)



    *Yu Yuan ที่โด่งดังค่ะ ตรงระเบียงนี่คนเขามาเที่ยวมาถ่ายรูปกันเพียบเลยน้า



    * French Concession ก็เป็นอีกย่านที่สวยมากกกกกกก มีตึกแบบยุโรปโบราณเรียงรางกันทั้งแถบเลย



    *Xintiandi ย่านกินเดิมยามค่ำคืนที่บรรยากาศดีสุดๆ แต่ราคาก็จะแพงหน่อยค่ะ ขายบรรยากาศอะเนอะ ให้อารมณ์ทองหล่อเอกมัย





    โอ๊ะ.. ไม่ได้อัพฟิคแบบ 100% ในครั้งเดียวนานเท่าไหร่แล้วเนี่ย 5555555 ตอนนี้มิมาถูกใจร้านกาแฟที่นี่ค่ะ นั่งทำงานมันแทบทุกวันเลย แถมพนักงานก็น่าร้ากกกกกก อากาศไม่หนาวไปไม่ร้อนไป เป็นช่วงเวลาที่เหมาะกับการเขียนฟิคจริมๆ แฮ่


    แจกันตอนหน้าฮะ #UITAkaido @mithunajunejune






    mithuna

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×