จากเรื่องเล็กกลายเป็นฝันที่ยิ่งใหญ่
เป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดว่าจะเปลื่ยนความฝันได้ในอนาคต
ผู้เข้าชมรวม
170
ผู้เข้าชมเดือนนี้
2
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ณ.หมู่บ้านแห่งหนึ่ง มีครอบครัวที่อบอุ่นมากมาย มินตราเป็นลูกสาวคนเดียวของบ้านหลังนี้และเป็นหลานคนสุดท้องของคุณย่าพริ้มเพรา พ่อของมินตรามีอาชีพรับราชการ แม่ของมินตรามีอาชีพทำธุรกิจส่วนตัว ตอนนี้มินตรามีอายุ8 ปี เรียนอยู่ชั้นป.2 เธอมีความฝันว่าโตขึ้นจะต้องเป็นครูให้ได้ ทุกเย็นหลังจากเลิกเรียน เธอได้เป็นครูสมัครเล่นโดยสอนเพื่อนข้างบ้าน แต่แล้ววันนึง โชคชะตากลับเล่นตลก มินตราได้มีโอกาสไปเยี่ยมญาติที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในตัวเมืองจังหวัด เธอไม่ชอบโรงพยาบาลเลย ไม่ชอบกลิ่นยา ไม่ชอบหมอ ไม่ชอบเข็มฉีดยาเลย แต่แล้วเธอได้ยินบทสนทนานี้ขึ้น
คุณตา:คุณหมอ อย่าทำผมนะ ผมกลัวแล้ว
คุณหมอ: คุณพยาบาล ช่วยเข็นคุณลุงเข้าไปในห้องฉุกเฉินด้วยนะ
คุณพยาบาล: ค่ะ คุณหมอ
เธอได้เห็นผู้ชายคนหนึ่งแก่ชรามากแล้วคุณตาคนนั้นมีอาการกลัวคุณหมออย่างมาก พยาบาลเข็นคุณตาเข้าไปในห้องฉุกเฉิน หลังจากนั้นเวลาไม่นานประมาณ1ชั่วโมง พยาบาลได้เข็นคุณตาออกมาแล้วบอกกับญาติคนไข้ว่าคนไข้เสียชีวิตแล้ว
มินตรา :คุณพ่อค่ะ ทำไมคุณตาเสียชีวิตได้เร็วจัง
คุณพ่อ :พ่อว่าไม่น่าจะเสียชีวิตเร็วขนาดนั้นนะ พ่อก็สงสัยเหมือนกัน ไม่รู้หมอเค้าทำยังไง
จากเหตุการณ์นั้นมา มินตราก็ได้ตั้งใจแน่วแน่มากที่จะเป็นหมอให้ได้ เธอจะได้มารักษาคนไข้ให้เท่าเทียมกัน ทุกคนจะต้องได้รับการรักษาที่ดีที่สุดเพราะเธอคิดว่าทุกชีวิตมีค่าไม่ว่าจะเป็นคนจนหรือคนรวย เธอจึงทำทุกวิธีทุกทางเพื่อที่จะได้เป็นหมอและสุดท้ายเธอก็ได้เป็นหมอสมปรารถนา
เมื่อมินตราได้เข้ามาอยู่ในคณะ เธอก็มีเพื่อนสนิท 4คนชื่อ แตงกวา น้องหน่า พีซ จ๋า เวลาไปไหนก็ไปด้วยกัน ไปเที่ยวด้วยกัน เรียนด้วยกัน ตลอกระยะเวลาที่เรียน มินตราได้เปิดหนังสือเล่มหนึ่งอ่านและชอบคำกลอนนี้มาก
อย่าเป็นหมอเพราะเห็นเป็นอาชีพสูง
อย่าเป็นหมอเพราะคนจูงให้เข้าหา
อย่าเป็นหมอเพราะชื่อเสียงและเงินตรา
อย่าเป็นหมอเพราะบุพการีให้เป็น
จงเป็นหมอเพราะจิตวิญญาณมี
จงเป็นหมอที่ดีไปทุกหน
จงเป็นหมอที่พร้อมช่วยเหลือคน
จงเป็นหมอที่พลีตนเพื่อประชา
เมื่อเวลาผ่านไปมินตราได้ไปฝึกงานที่โรงพยาบาลชนบทแห่งหนึ่ง โรงพยาบาลนี้ห่างไกลจากตัวเมืองประมาณ30 กิโลเมตร ชาวบ้านส่วนใหญ่บริเวณนี้มีอาชีพทำสวน บ่ายวันนึงเป็นวันที่มินตราได้มาอยู่เวร เธอได้พบกับคนไข้คนหนึ่ง
คนไข้: คุณหมอครับ ช่วยหยิบหนอนให้ผมออกหน่อยครับ ผมเจ็บเหลือเกิน
มินตราได้เปิดผ้าขาวม้าสีมอๆที่คนไข้ปิดอาไว้ มีแมลงวันมาบินว่อนแล้วก็มีกลิ่นเหม็นคลุ้งไปทั่วห้องตรวจ เธอได้ให้พยาบาลเตรียมเซ็ทสำหรับทำแผลในห้องฉุกเฉิก เธอได้เอาน้ำเกลือมาชะให้เป็นรอยแยกระหว่างก้อนเนื้อดำๆแดงๆกับแผ่นใยผ้าที่เห็นเป็นตะกรังให้หลุดออกทีละเล็กน้อย เสียงร้องของความเจ็บปวด เลือดออกซิทๆที่บริเวณเนื้องอกทำให้เห็นเป็นสีแดงฉาด เธอได้ทิ้งผ้าขาวม้าของคนไข้
คนไข้ : คุณหมอครับ อย่าทิ้งเลยครับ ผมมีผ้าอยู่ผืนเดียว
คนไข้เล่าว่าเขาเป็นโรคมะเร็ง เป็นโรคที่รักษาไม่หาย อาศัยอยู่กระท่อมข้างป่าช้า ซึ่งเขาคิดว่าคงเป็นที่สุดท้ายสำหรับชีวิตนี้ มินตราหยิบคีมคีบหนีบเนื้อเยื่อเพื่อจะเผยอเยื่อบางๆที่สงสัยว่ามีอะไรขยับไปมา เมื่อเห็นสิ่งมีชีวิตยาวเท่าเม็ดข้าวสารแต่อ้วนกว่า เธอได้คีบขึ้นมาทีละตัว ทุกครั้งที่มีการดึงให้ปากของหนอนหลุดจากการกัดกินเนื้อเยื่อ จากนั้นเธอได้ชุบยาฆ่าเชื้อโรคบริเวณที่เคยเป็นรังของสิ่งมีชีวิตขาวๆ ความเจ็บปวดได้หายเป็นปลิดทิ้ง คนไข้ได้ก้มลงกราบ ใบหน้าที่มีความสุขกับการได้รับการรักษา มินตราต้องรีบเข้าไปพยุงและให้ผ้าขนหนูผืนใหม่เอี่ยม ความรู้สึกนี้เธอได้นึกถึงที่อาจารย์หมอพูดว่า การที่เราได้รักษาคนไข้นั้น มันเป็นความสุขที่เกิดขึ้นจากงานที่มีคุณค่าในชีวิต รางวัลนี้ไม่จำเป็นต้องมีคนประกาศ คำชมนี้ไม่ต้องได้จากแพทย์ประจำบ้านรุ่นพี่ คะแนนนี้ไม่จำเป็นต้องได้จากอาจารย์อีกต่อไป แต่เป็นเสียงปรบมือที่กังวานในส่วนลึกขั้วหัวใจ
ผลงานอื่นๆ ของ aomZaZa ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ aomZaZa
ความคิดเห็น