ความทรงจำที่โดดเดี่ยวบนสวรรค์
"ฉันรู้สึกโดดเดี่ยวจัง.. คิดถึงความทรงจำดีๆนั้นจัง"
ผู้เข้าชมรวม
25
ผู้เข้าชมเดือนนี้
2
ผู้เข้าชมรวม
ครั้งหนึ่งผมเคยตกลงมายังโลกมนุษย์ด้วยความซื่อของผมเอง แต่ว่านั้นก็ทำให้ผมไม่อยากกลับไปสวรรค์อีกเมื่อผมได้รู้จักกับมนุษย์คนหนึ่ง ผมตื่นขึ้นมาในร่างมนุษย์ก็พบว่ามีมนุษย์คนหนึ่งมายืนดูผมข้างๆในป่าใกล้ๆบ้านหลังหนึ่ง “คุณเป็นอะไรรึเปล่า?” มนุษย์คนนั้นทักผมขณะที่ผมลุกขึ้น “อ๋อ! ฉันไม่เป็นไร ฉันสบายดี ไม่ต้องห่วง!” ผมตอบอย่างกระตือรือร้น “แน่ใจหรอ ว่าแต่คุณเป็นใครเนี่ย? ฉันไม่เคยเห็นคุณแถวนี้เลย” เขาถามผมด้วยความสงสัย “ฉันเป็นเทวทูตฉันชื่อมาสัน เรเดียนซ์แต่ฉันไม่ได้รับภารกิจอะไรจากพระเจ้าหรอกแค่ตกสวรรค์เพราะความซื่อเฉยๆ แล้วนายล่ะมนุษย์?” ผมได้แนะนำตัวผมให้เขาฟังก่อน “ฉันชื่อว่านิโคร มาร์ชเป็นศิลปินดิจิทัลธรรมดาคนหนึ่งที่อยากให้ผลงานมีชื่อเสียงแก่คนทั่วโลกเท่านั้นเอง” คำพูดของนิโครทำให้ผมเกิดความอยากรู้เพราะผมไม่เคยรู้จักอาชีพนี้ตั้งแต่อยู่สวรรค์แล้ว นิโครเห็นว่าผมสนใจ เขาเลยตัดสินใจ พาผมไปดูอุปกรณ์หลักๆของเขาว่าใช้อะไรบ้าง “เอาล่ะ นั่งรอตรงนี้ก่อนนะมาสัน เดี๋ยวฉันไปหยิบอุปกรณ์ในบ้านก่อน” นิโครให้ผมมานั่งรอที่ระเบียงหน้าบ้านของเขาเมื่อเขาพาผมมาถึงบ้านเขาแล้ว “โอเค ฉันกลับมาแล้วมาสัน” ผมเห็นนิโครกลับมาด้วยอุปกรณ์แปลกตาที่ผมไม่รู้จักก่อนที่เขาจะเริ่มแนะนำอุปกรณ์แต่ละชิ้นให้ผมฟังอย่างตั้งใจ ผมเลยได้รู้ว่าศิลปินดิจิทัลอย่างเขาจะใช้แท็บเล็ตกับปากกาแท็บเล็ตแบบพกพาเพื่อสร้างผลงานเป็นหลัก เขาโชว์ผลงานบางชิ้นให้ผมดูด้วยในแท็บเล็ต “ว้าวว! ผลงานนายสวยจังนิโคร” ผมยอมรับว่าผลงานเขาสวยมากในสายตาผมแต่นิโคลก็พูดประโยคหนึ่งขึ้นมา “ขอบคุณนะมาสัน แต่ถึงผลงานจะสวยก็ไม่ค่อบมีชื่อเสียงเหมือนศิลปินคนอื่นเลย อยากเป็นศิลปินที่มีชื่อเสียงสักวันบ้างจัง” ประโยคท้ายๆของนิโครทำให้ผมนึกไอเดียอะไรออกตั้งแต่ผมเห็นผลงานเขาที่มันแอบดูธรรมดาไปหน่อยในบางรูป ผมเลยลองแนะนำไอเดียให้เขา “นี่นิโคร ทำไมนายไม่ลองลงสีขั้วตรงข้ามหรือสีที่คิดว่ามันเข้ากันไม่ได้ดูล่ะ บางทีมันอาจจะสวยกว่าที่นายคิดก็ได้นะ” ผมเห็นสีหน้านิโครดูไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ แต่สุดท้ายเขาก็ลองดูกับงานเขา ผลคืองานมันสวยเหมือนที่ผมบอกไว้เป๊ะจากนั้นนิโครก็เอาผลงานเขาลงเน็ตโซเซียลไป “นายว่ามันโอเคแล้วหรอมาสัน?” ดูเหมือนเขาจะไม่มั่นใจผมเลยตอบเขาว่า “มันโอเคแล้ว มั่นใจในตังเองหน่อยนิโคร!” เมื่อเขาได้ยินคำพูดผมเขาก็ดูเหมือนจะสบายใจขึ้น ส่วนผลงานของนิโครชิ้นแรกก็เริ่มมีคนมาชมเยอะขึ้นด้วยในวันต่อมา และตั้งแต่วันนั้นนิโครเขาเริ่มมาถามไอเดียหรือแรงบันดาลใจจากผมบ่อยขึ้น ผมชอบมากเลยเวลาให้ไอเดียกับเขาเพราะผมจะได้เห็นเขามีความสุข ตอนนี้ทั้งนิโครกับผมมักจะใช้เวลามาคุยด้วย แชร์ความคิดในหัวด้วยกันตรงระเบียงหน้าบ้านเขาทุกวัน ผมเคยถามนิโครด้วย “ทำไมนายถึงชอบวาดรูปตรงระเบี่ยงนี้แทนที่จะเข้าบ้านไปตากแอร์ล่ะ?” คำตอบที่ผมได้คือ “อ๋อ มันช่วยให้ฉันรู้สึกสงบและผ่อนคลายดีน่ะเวลาจะทอดถ่ายจินตนาการลงในแท็บเล็ตนี่” ส่วนผลงานของนิโครช่วงหลังๆมานี้มีคนชมและมาติดตามผลงานเขาเยอะกว่าเดิมมาก นิโครได้ร่วมวาดรูปกับศิลปินดิจิทัลชื่อดังคนอื่นด้วย เรียกได้ว่านิโครเขาแทบจะมีประสบการณ์เยอะพอสมควรเลยล่ะ จนในเวลาต่อมาผลงานของนิโครได้ติดท๊อปที่1ในปีนี้ ซึ่งเขาจะได้รับโล่เป็นรางวัลเก็บไปเป็นที่ระลึกและนั้นก็หมายความได้อีกว่าตัวของนิโครตอนนี้เป็นศิลปินดิจิทัลที่มีชื่อเสียงอย่างเต็มรูปแบบแล้ว ผมตอนนั้นปรบมือให้เขาเลยเพื่อแสดงความยินดีที่เขาได้เอื้อมคว้าความฝันของเขาได้ระหง่างที่เขานั่งรอรับโล่รางวัลจากขนส่งที่ระเบียงหน้าบ้านเขา ก่อนที่สักพักเขาก็ได้รับโล่รางวัลจริงๆ “เฮ้! นิโครฉันขอถ่ายรูปนายเป็นที่ระลึกหน่อยนะถ้านายไม่ว่าอะไรน่ะ” เขาก็ให้ผมถ่ายรูปเขาคู่กับโล่รางวัลด้วยความเต็มใจ แต่ว่านั้นก็เป็นรูปสุดท้ายที่ผมได้เห็น ได้อยู่และได้คุยกับเขา เพราะวันหนึ่งนิโครได้ให้ผมไปเก็บดอกไฮยาซินทัสเพื่อมาเป็นแบบให้เขา ผมเลยออกไปเก็บดอกไฮยาซินทัศปล่อยให้เขาอยู่เพียงลำพังที่ระเบียงหน้าบ้านแต่ผมไม่คิดว่าตอนผมกลับมาหาเขาพร้อมในมือเต็มไปด้วยดอกไฮยาซินทัส ผมจะเจอกับร่างของนิโครนอนแน่นิ่งบนพื้นระเบียงหน้าบ้าน “นิโคร! ไม่นะ! ไม่ใช่อย่างที่ฉันคิดใช่ไหม!? ทำไมนายถึงเป็นแบบนี้ล่ะ?? ใครทำนาย!?” ผมร้องไห้เสียใจมากที่ผมปกป้องนิโครไว้ไม่ได้จากการถูกรอบสังหารโดยกลุ่มคนแย่ๆที่อิจฉาผลงานนิโคร ก่อนที่ผมจะได้ถามอะไรต่อ นิโครได้พูดกับผมเป็นครั้งสุดท้ายว่า “มาสัน.. ขอบคุณนะที่ช่วยฉันมาตลอดตั้งแต่วันแรกที่เราพบกัน นายเป็นคนที่ทำให้ฉันมีความสุข สนุกที่สุดในชีวิตศิลปินอย่างฉันแม้กระทั่งวินาทีสุดท้ายของชีวิตฉันตอนนี้ ไม่ต้องร้องไห้นะมาสันอย่างน้อยนายทำให้ความฝันฉันเป็นจริงได้ฉันก็พอใจแล้วและนายเป็นเทวทูตที่ทำหน้าที่ดีสุดแล้ว.. ขอบคุณนะมาสัน เรเดียนซ์..” ก่อนที่เขาจะไม่พูดอะไรอีกเลย ผมเลยทำได้แค่กอดร่างเขาอย่างเศร้าเสียใจเป็นที่สุด ภายหลังต่อมาก็มีคนจากสวรรค์มาเจอผมและรับผมกลับสวรรค์ไปโดยผมก็ไม่ลืมที่จะหยิบแท็บเล็ตและรูปถ่ายติดตัวไปด้วยเพื่อที่ผมจะได้ไม่ลืมศิลปินผู้มีชื่อเสียงอย่างเขา นิโคร มาร์ช.
เนื้อเรื่อง
ค่าเริ่มต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
รีวิวจากนักอ่าน
นิยายเรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว
มาเป็นคนแรกที่เขียนรีวิวนิยายให้กับนิยายเรื่องนี้กันรีวิวถึงตอนที่ 0
รีวิวถึงตอนที่ 0
ผลงานอื่นๆ ของ FUKUR0 ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ FUKUR0
ความคิดเห็น