จุดจบประเทศไทย - จุดจบประเทศไทย นิยาย จุดจบประเทศไทย : Dek-D.com - Writer

    จุดจบประเทศไทย

    โดย Mc Nak Mis

    จุดจบประเทศไทยอยู่ในมือของพวกเราทุกคน คนไทยต้องอ่าน

    ผู้เข้าชมรวม

    223

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    10

    ผู้เข้าชมรวม


    223

    ความคิดเห็น


    3

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  12 ธ.ค. 48 / 12:46 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      ไปเอามาให้อ่านนะคะ
      อ่านแล้วได้ข้อคิดมากเลย
      ยังไงก้อลองอ่านดูนะค่ะ
      แล้วยังไงก้อช่วยนำไปเผยแพร่ที่อื่นจะขอบพระคุณมาก
      ยังไงเราก็คนไทยเหมือนกันนะค่ะ

      จุดจบประเทศไทย ปี 2553

      จุดจบประเทศไทย......ถ้ายังเป็นคนไทยอยู่ช่วยอ่านด้วย
      เรื่องนี้คนไทยทุกคนควรที่จะได้รู้.....ประเทศต่าง ๆ
      ในโลกนี้มีเกิด มีดับ
      ตลอดเวลา.....ประเทศไทยก็ไม่พ้นวิถีนี้เช่นกัน
      สืบเนื่องจากการบรรยายของคุณนิติภูมิ ซึ่งเป็นสื่อมวลชน
      จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยมอสโค
      ซึ่งเป็นสถาบันที่สตาลินสร้างขึ้นเพื่อสร้างภูมิปัญญาหวังครองโลกในสมัยหนึ่ง
      ประเทศอินโดนีเชียจะแตกเป็น6-14ประเทศ
      ซึ่งในตอนนั้น นักรัฐศาสตร์ในมหาวิทยาลัยต่าง ๆ
      หัวเราะจนฟันกระเด็น
      แต่ต่อมาพอปี 2542 เหตุการณ์เริ่มเป็นจริง!
      ประเทศอินโดฯได้เริ่มแตกเป็นติมอร์
      และตอนนี้ก็กำลังจะเกิดประเทศอาเจะ
      และอีกหลายประเทศที่จะเกิดตามมา
      ในวันที่ 11 ธันวาคม 2543 ที่ผ่านมาที่งานคนดีศรีสังคม ณ
      หอประชุมวัฒนธรรมฯ
      คุณนิติภูมิได้บรรยายว่า
      ประเทศไทยจะต้องแตกเป็นประเทศใหม่อีก 4 - 6 ประเทศแน่นอน!
      ทั้งนี้ไม่ใช่เกิดขึ้นโดยบังเอิญ
      แต่เกิดขึ้นอย่างมีกระบวนการ
      โดยสถานการณ์จะเริ่มชัดขึ้นในปี 2553
      ซึ่งเป็นปีที่ข้อตกลง GATTs จะเริ่มมีผลสมบูรณ์
      การค้าเสรีจะมีผลสมบูรณ์
      สินค้าเกษตรต่าง ๆ
      จากต่างประเทศจะทะลักเข้ามาในประเทศไทยจำนวนมหาศาล
      ในขณะที่เกษตรกรของไทยจะไม่กินสินค้าเกษตรของไทยด้วยกัน
      และสินค้าเกษตรของไทยก็จะขายไม่ออกเนื่องจากมีต้นทุนที่สูงกว่าสินค้าเกษตรจากต่างประเทศ
      ประกอบกับการที่การพัฒนาการเกษตรของไทยได้พัฒนาอย่างผิดทิศทาง
      เป็นการพัฒนาแบบปลูกพืชเชิงเดี่ยว
      ทำให้คนปลูกลำใยไทยก็จะปลูกแต่ลำใย
      จะกินข้าวก็ต้องซื้อข้าวเวียดนามมากิน
      คนปลูกข้าวไทยก็ต้องไปซื้อหอมกระเทียมจากจีนมากิน
      คนปลูกหอม
      กระเทียมจะไม่ซื้อลำใยจากไทยแต่จะไปซื้อจากเกาหลีมากิน
      เป็นวงจรอย่างนี้ทำให้สินค้าเกษตรของไทยขายไม่ได้
      เพราะแม้แต่เกษตรกรไทยด้วยกันก็ยังไม่ซื้อของเกษตรไทยด้วยกันมากิน
      เนื่องจาก
      สินค้าของต่างประเทศมีต้นทุนถูกกว่าสินค้าเกษตรของไทยมีต้นทุนที่สูงกว่า
      เพราะใช้ปัจจัยการผลิตปุ๊ยของต่างประเทศ
      พันธุ์พืชก็ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ
      เนื่องจากในอีก 10 ปีข้างหน้าพันธุกรรมท้องถิ่นจะถูกทำลายจาก
      GMOs
      และเมื่อเกษตรกรไทยซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ร้อยละ 80
      ของประเทศอยู่ไม่ได้
      วิกฤตที่มหาโหดสุดก็จะเกิดขึ้นกับประเทศไทย
      รัฐบาลไทยจะไม่มีปัญญาที่จะแก้ไขปัญหาได้
      เพราะมาตรการทางการเงินก็จะใช้ไม่ได้
      เนื่องจากธนาคารไทยกลายเป็นของต่างประเทศหมดแล้ว
      ไฟฟ้าก็แพงขึ้น น้ำมันก็แพงขึ้น
      โทรศัพท์แพงขึ้นเนื่องจากวิสาหกิจเหล่านี้กลายเป็นของต่างชาติหมดแล้ว
      เขาสามารถตั้งราคา
      ได้ตามใจชอบถ้ารัฐบาลไปขอให้ลดราคาก็จะได้รับคำตอบว่า
      เขาจะไม่มีกำไร
      ธุรกิจจะอยู่ได้ด้วยกำไรเท่านั้น
      ถ้าเขาไม่มีกำไรเขาก็จะตัดน้ำ ตัดไฟ
      ตัดโทรศัพท์
      คุณเลือกเอาว่าจะยอมจ่ายในราคาที่แพงหรือว่าจะยอมไม่มีใช้
      ดังนั้น รัฐบาลในอนาคตจะได้แต่นั่งทำตาปริบ ๆ ๆ
      เมื่อเกษตรกรไทยอยู่ไม่ได้
      การขายที่ดินราคาถูก ๆ และจำนวนมหาศาลจะตามมา
      คนที่มีกำลังซื้อก็คือชาวต่างชาติ
      ซึ่งปัจจุบันก็ปรากฏแล้วว่าที่ดินบริเวณภาคตะวันออกได้ถูกต่างชาติกว้านซื้อไปเป็นจำนวนมากแล้ว
      เกษตรกรไทยที่ขายที่ดินได้
      ก็ไม่ามารถนำเงินที่ได้ไปลงทุนให้เกิดรายได้ได้
      เพราะธุรกิจอื่นได้ตกอยู่ในกำมือของต่างชาติแล้ว
      ไม่ว่าจะเป็นการค้าปลีกก็ตกอยู่ในมือของ Big C, Lotus,
      Carrefour,ธุรกิจอาหารก็ตกอยู่ในมือของ KFC, Pizzahat,
      McDonal,สิ่งทอเสื้อผ้าก็ของพวกฝรั่งเศส ฯลฯ
      ดังนั้น เงินตราของไทยก็มีแต่จะถูกดูดออก
      เหมือนกับคนที่เลือดไหลไม่หยุด...
      เมื่อคนจนอยู่ไม่ได้...รัฐจะอยู่ได้ฤา ?
      4 จังหวัดชายแดนภาคใต้
      จะเป็นแห่งแรกที่จะขอแยกตัวออกจากประเทศไทย
      เนื่องจากความแตกต่างที่เห็นชัดเจนและความแตกต่างทางวัฒนธรรม
      ในปี 2553
      คนไทยภาคใต้จะเห็นด้วยกับการแยกประเทศ
      เพราะเห็นความล้มเหลวของรัฐบาลไทย
      การเมืองไทย การคัดค้านจะน้อยลง
      การสนับสนุนให้แยกจะทวีความรุนแรงขึ้น
      จนรัฐบาลไทยไม่สามารถควบคุมได้ถ้ารัฐบาลใช้กำลังทหาร
      ก็จะถูกต่างชาติส่งทหารมาต่อต้านกองทัพไทย
      ซึ่งแน่นอนกองทัพไทยไม่มีปัญญาไปต่อสู้อยู่แล้ว
      การแยกตัวจะสำเร็จได้ในไม่นาน
      จากนั้น ภาคตะวันออก บริเวณจันทบุรี ตราด ระยอง
      ฉะเชิงเทรา
      จะขอแยกตัวตามมา
      เนื่องจากที่ดินแถบนั้นกลายเป็นของต่างชาติหมดแล้ว
      เนื่องจากที่ดินบริเวณดังกล่าวถูกใช้เป็นแหล่งพันธุกรรมของต่างชาติ
      ทั้งสมุนไพร อาหารต่าง ๆ
      เมื่อรัฐบาลไทยเป็นอุปสรรคของต่างชาติ
      การขอแยกตัวก็จะทำได้ไม่ยาก
      นั่นหมายถึง การซื้อประเทศไทย
      คล้ายกับที่สหรัฐอเมริกาซื้อรัฐ Alaska จาก
      Russia
      ถ้าไทยต่อต้าน เจอทหารต่างชาติแน่
      เราจะเตรียมรับมือกับวิกฤติในอนาคตอย่างไร ?
      ผมติดตามงานเขียนคุณนิติภูมิ มาหลายปี
      และสิ่งที่เขียนในไทยรัฐหน้า 2
      เกือบทุกวันนั้น
      ไม่น่าเชื่อเลยว่า
      หนังสือพิมพ์ต่างประเทศจะเอาข้อมูลงานเขียนของนิติภูมิ
      ไปแปลลงหนังสือพิมพ์ต่างประเทศ ในการวิเคราะห์
      บ่อยครั้งที่นิติภูมิ มองการค้า การเมือง สังคมไปพร้อมกัน
      รวมทั้งประวัติศาสตร์เขามอง อาเจนติน่า
      ก่อนล่มสลายทางเศรษฐกิจ
      ก่อนล่มจริง...เขาทำนาย การเกิดสงคราม อเมริกากับอิรัค
      ข้อคิด
      รวมทั้งอนาคตชาวเชเชนไว้น่าสนใจ
      ผมว่า สิ่งที่เขาพูดเป็นไปได้นิติภูมิ
      ทำให้ผมต้องกลับมาซื้อของโชห่วยของคนไทย
      แทนที่ไปเดิน big-c, lotus, careflour,
      เพราะผมบอกแม่บ้านและลูก ๆ ว่า
      เราซื้อของร้านโชห่วย ข้างบ้าน
      ไม่ต้องไปห้างใหญ่อีกเพราะอะไร
      เพราะเราไป คาร์ฟู เงิน 100 บาทที่เราจ่ายไปจะไปสู่ฝรั่งเศส
      86บาท
      เหลือให้คนไทย 14 บาท
      เพราะของต่างชาติเกือบ 100 เปอร์เซนต์ บิกซี โลตัสเหมือนกัน
      นิติภูมิเคยเอาเปอร์เซนต์ที่ต่างชาติถือหุ้นมาลงให้ดู ของ 3ห้างดัง
      ผมตกใจมาก และตัดสินใจซื้อน้ำปลาข้างบ้านตั้งแต่วันนั้น
      เพราะว่าต่างชาติถือหุ้นกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ แล้วบางห้าง 86เปอร์เซ็นต์
      สอนลูกว่ามันจะแพงกว่าห้าง 3 บาท ก็ซื้อที่นี่มันจะแพงกว่า 5
      บาทก็ซื้อที่นี่
      เพราะมันจะเป็นภาษีคนไทย กลับมาหาลูกเอง ผมคิดแบบนี้จริง ๆ ๆ
      ถ้าซื้อจากห้าง 1,000บาท มันไหลไปต่างประเทศ 900บาท
      ที่เหลือ 100 บาท
      ที่เห็นจ่ายค่ายามเฝ้าห้างไง มองอาเจนติน่าง่ายนิดเดียว
      ห้างต่างชาติบุกไปตั้งมากกว่า 400 ห้าง ทั่วประเทศ
      คนอาเจนติน่าจึงทำเงินส่ง คาร์ฟู ส่งห้างต่างชาติ เกือบ100
      เปอร์เซ็นต์
      เงินคนทั้งชาติของชาวอาเจน จึงไหลไปหมด
      ในประเทศจึงไม่เหลืออะไร
      ทางสุดท้ายที่ไม่น่าเชื่อเลยว่าทำได้
      ผมพาลูกผมหัดทานขนมกรอบให้น้อยลง
      เลิกกิน kfc และพยายามทานให้ลดลง และจำนวนหน ต่อปีน้อยสุด
      ผมอธิบาย
      วิธีสิ้นชาติแบบทางเศรษฐกิจตั้งแต่เริ่มจนจบให้เด็กที่บ้าน
      และลูกฟัง
      หัดให้ลูกมาทานบัวลอย ขนมชั้น ข้าวเหนียวเปียกแทน
      ถั่วดำข้าวเหนียว ดีครับ
      ได้ผล...ลูกเปลี่ยนวิธีกิน... วิธีคิดไปเลย...
      เปลี่ยนไปได้มาก
      พอเย็นสั่งผมซื้อเต้าส่วนบ้าง ขนมชั้นบ้าง ลูกเดือยบ้าง
      ผมพูดนิดนึงที่เขาเข้าใจคือ ผมไปตลาดซื้อไก่ทอดแม่ค้ามา 3
      ขาไก่ทอดแบบไทย ๆ
      แล้วผมไป kfc ซื้อมา 3 ชิ้น เลือกน่องครับเหมือนกัน
      ราคาต่างกันลิบเลย
      ผมก็อธิบายคำว่า license (ค่าลิขสิทธิ) ให้ลูกฟัง
      ผมบอกว่า ซื้อไก่ 35 บาท ค่าไก่ 15 บาท
      ที่เหลือเป็นค่าลิขสิทธิ
      ไก่แม่ค้าที่ถูกเพราะไม่มีค่าลิขสิทธิ ใบตองที่ห่อขนมไทย
      ไม่มีลิขสิทธิ
      มันเป็นวัสดุธรรมชาติ ย่อยสลายได้ไม่ถึง 3 เดือน
      ขนมต่างชาติ ห่อสวย แพง เพราะยี่ห้อมันมีลิขสิทธิ
      เวลามันหล่นที่พื้น ไม่มีคนเก็บมันจะย่อยสลายภายใน 200 ปี
      ผมสอนแบบนี้ ลูกผมเปลี่ยนวัฒนธรรมไปเลย
      ผมทำได้และได้ทำแล้ว
      ปล.ใคร่จะขอกรุณาช่วยนำบทความไปเผยแพร่ต่อ
      จะเป็นพระคุณมากครับ
      ยาวไปหน่อย แต่อยากให้อ่าน
      เพื่อที่ไทยเราจะได้อยู่รวมเป็นชาติไทยต่อไป รักชาติหน่อย ช่วยกันหน่อยครับ
      ซื้อสินค้าไทย เลิกได้แล้วกับการซื้อของแบรนเนม
      มันจะทำให้ชาติล่มจม
      ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×