เกิดมาเพื่อกานและกาน
ก้อเปนเรื่องที่อธิบายถึงการเกิดมาเพื่อกันและกัน
ผู้เข้าชมรวม
99
ผู้เข้าชมเดือนนี้
0
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
เรื่องของเราสองคนมันมันเกิดขึ้นที่ตรงนี้ ที่ห้อง ป.5/3 ในเช้าวันเปิดเทอม ผมซึ่งย้ายมาเรียนที่นี่ แต่จะพูดว่าเป็นโรงเรียนใหม่ก็ไม่ถูก เพราะผมเรียนที่นี่จนถึง ป.2 วันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรกและผมก็กำลังสายแล้ว
"สองหนึ่งสอง สองสองสี่ สองสามหก สองสี่แปด......"
"ขออนุญาติเข้าห้องครับ"
เสียงทุกเสียงเงียบลงและหันมามองผมเป็นตาเดียว ผมรู้สึกอายมากจึงเดินก้มหน้าก้มตาเข้าห้องและหาที่ว่างนั่ง แต่มันก็เหลืออยู่ที่สุดท้ายก็คือที่หลังสุดของห้อง ที่จริงผมอยากนั่งหน้ามากกว่า เพราะผมสายตาสั้น แต่มันก็ช่วยไม่ได้ผมมาสายเองนี่นา
"หวัดดี นายชื่อไรเหรอ"
ผมไม่ทันสังเกตว่ามีเด็กผู้หญิงนั่งข้างผมอยู่ ผมหันหน้าขึ้นมองดูเธอ เธอดูแก่นๆซอยผมสั้นหยั่งกะเด็กผู้ชาย ขณะที่ผมกำลังจะแนะนำตัวเองนั้น เธอก็ลุกจากเก้าอี้แล้วยืนชี้หน้าผมเหมือนจะหาเรื่อง ตอนนั้นผมงุนงงเป็นอย่างมาก
"นาย....ใหญ่ใช่มั้ย”
เธอโผกอดผมทันที ตอนนั้นมันยิ่งทำให้ผมงงเข้าไปใหญ่เลย
"เธอสองคนที่ตรงนั้นน่ะทำอะไรกัน เงียบๆหน่อยชั้นกำลังสอนอยู่นะ"
เพื่อนๆในห้องหันมามองเราเป็นตาเดียวกัน ตอนนั้นเธอจึงยอมนั่งลง แต่ปากของเธอยังถามผมต่อไป แต่ก็ถามเบาลงกว่าตอนแรก
"ใหญ่ใช่มั้ย จำเราได้มั้ยเราแก้วไง แก้วที่เคยอยู่ข้างบ้านนายไง จำเราไม่ได้เหรอ เราคิดถึงนายมากเลยนะ นายเป็นยังไงบ้างล่ะ"
ผมไม่รุจะตอบคำถามไหนก่อนดี ผมบอกแก้วไปแค่ว่า
"อืมใช่เราชื่อใหญ่ แล้วเราก็จำเธอได้"
ตอนนั้นเธอโผกอดผมอีกครั้ง มันทำให้ผมรู้สึกว่าหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาทันที
แก้วเธอเป็นเพื่อนรักของผมตั้งแต่เกิดเลยก็ว่าได้ เพราะเราทั่งคู่เกิดวันเดียวกัน คือวันที่ 14 กุมภา แล้วเราสองคนยังเป็นคู่หมั้นกันอีกด้วยนะ บ้านของเราสองคนอยู่ติดกัน พ่อแม่ของเราสองคนก็เป็นเพื่อนรักกัน แม่ของเราสองคนก็ท้องเราพร้อมๆกัน และสัญญากันไว้ว่าถ้าลูกคลอดออกมาแล้วเป็นผู้หญิงกับผู้ชายโตขึ้นจะให้แต่งงานกัน แต่ผมก็ไม่ได้คิดอะไรกับแก้วเค้าหรอก เค้าก็ไม่ได้คิดไรกับผม
ตอนเด็กๆเราสองคนไปไหนไปด้วยกันไม่เคยห่างกันเลย ตนกระทั่งตอนที่ผมจบป.2 ครอบครัวผมก็ต้องย้ายเข้ากรุงเทพ แต่ด้วยสาเหตุอะไรนั้นผมก็จำไม่ได้ กลับมาคราวนี้เราต่างโตขึ้น ผมคิดว่ามันคงไม่เหมือนเดิม แต่เราสองคนก็ยังเหมือนเดิม
ทุกวันหลังเลิกเรียนแก้งจะนั่งเขียนไดอารีอยู่ในห้อง ไดอารีของแก้วเล่มใหญ่มากๆผมเคยจะหยิบขึ้นมาอ่าน แต่ก็โดนเธอดุเอา
"ใหญ่ทำอะไรน่ะ"
"ขอเราอ่านหน่อยไม่ได้เหรอ"
"ไม่ได้หรอก ในนั้นเราเขียนแต่เรื่องชายในฝันเราไว้ เธอไม่ต้องรู้หรอก"
"แต่เราเป็นคู่หมั้นเธอนะ"
"แต่เธอก็ไม่ได้คิดไรกับเราไม่ใช่เหรอ"
"เธอก็ไม่ได้คิดอะไรกับเราเหมือนกัน ถ้าอกหักอย่าร้องไห้มาหาเราแล้วกัน"
"เค้าไม่มีทางทำให้แก้วเสียใจหรอก"
แก้วเค้าเป็นผู้หญิงห้าว แถมยังซอยผมสั้นอีก ส่วนผมก็เป็นเด็กผู้ชายตัวเล็กๆผิวขาวๆแถมยังใส่แว่นตาอีก เราสองคนจึงถูกเพื่อนล้อบ่อยๆว่าเป็นทอมกับกระเทย พวกเพื่อนๆผู้ชายก็ชอบแกล้งผม ผมคิดที่จะสู้หลายครั้งแต่ผมก็สู้ไม่ไหวเพราะเขาตัวโตกว่าผมมาก และนี่ก็เป็นสาเหตุที่ผมต้องย้ายโรงเรียนกลับมาที่นี่ แต่แก้วเธอเป็นคนคอยปกป้องผมตั้งแต่เราอยู่อนุบาล วันหนึ่งที่แก้วโดดเข้ามาขวางผมนั้น เธอโดนต่อยที่เบ้าตาอย่างจัง ผมจึงสวนกลับพวกมันทันที แต่ผลก็คือผมโดนยำเละ
"จะสู้พวกมันทำไม ให้แก้วจัดการซะก็สิ้นเรื่อง เห็นมั้ยน่วมไปทั้งตัวเลย"
"ก็มันชกแก้วนี่นา"
"แล้วไงล่ะ สู้มันได้รึเปล่าล่ะ กลับบ้านไปแม่จะว่ายังไงบ้างเนี่ย"
แก้วคอยปกป้องผมจนเราจบป.6 แล้วเราก็ต่อม.1 ที่นั่นด้วยกัน ตอนนี้ผมจะปกป้องเธอบ้าง ผมตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็วตอนนี้แก้วสูงแค่ไหล่ผมเอง ไม่มีใครกล้ามาแกล้งเราสองคนอีกเลย
ตอนนี้เราสองคนยังเป็นเพื่อนซี้กันเหมือนเดิม ไปไหนเราก็ไปด้วยกันตลอด จนใครๆเขาก็ว่าเราเป็นแฟนกัน แต่ผมก็มักจะปฏิเสธอยู่เรื่อย เราสองคนจะกินข้าวด้วยกันทุกวัน แถมยังกินจานเดียวกันอีก เพราะแก้วเธอกินข้าวไม่หมดผมเลยต้องกินด้วย แต่ผมเป็นคนกินเค็มมากแก้วก็จะชอบดุผมบ่อยๆ กลัวว่าผมจะเป็นโรคไต แต่เธอก็จะกินเป็นเพื่อนผมตลอด
เราสองคนจะชอบปั่นจักรยานไปที่ลำธารแถวบ้าน ไปนั่งเล่นใต้ต้นไม้ด้วยกัน แก้วก็มักจะเอาไดอารี่ไปนั่งเขียนด้วยเสมอ
"แก้วไม่ให้เราอ่านจริงเหรอ เราอยากรู้ว่าชายในฝันแก้วเป็นใครน่ะ"
"จะรู้ไปทำไมล่ะ จะไปหาเรื่องเค้าเหรอ หรือว่าหึงแก้ว"
"ใครเค้าจะไปหึงเธอล่ะ ไม่อ่านก็ได้"
วันนี้เป็นวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นวันเกิดของเราสองคน และเราก็กำลังจะจบม.3 แก้วเธอเป็นคนเรียนเก่ง เธอจะไปสอบเข้าโรงเรียนประจำจังหวัด ส่วนผมเรียนอ่อนมาก ทุกปีผมจะได้ที่เกือบสุดท้ายตลอด ผมจึงคิดว่าคงจะไม่ไปสอบพร้อมกับแก้ว แต่พอเราจะต้องจากกันผมก็เพิ่งรู้ตัวว่า ที่ผมคอยตามแก้วตลอดเวลานั้นเพราะผมรักเธอ
“แก้ววันนี้เจอกันที่เก่าเวลาเดิมนะ เรามีของขวัญจะให้”
“ได้จ๊ะเราก็มีอะไรจะให้ใหญ่เหมือนกัน”
ผมสั่งซื้อดอกไม้ช่อใหญ่ที่สุดด้วยเงินทั้งหมดที่มีอยู่ เพื่อจะสารภาพรักกับเธอ วันนั้นอากาศเย็นแต่ผมตื่นเต้นมากจนเหงื่อออกเต็มไปหมด สักพักแก้วก็มาถึง เธอถือไดอารีเล่มนั้นมาด้วย พอมาถึงเธอก็นั่งลงใต้ต้นไม้แล้วก็เขียนไดอารีต่อไป
“แก้วเรามีอะไรจะบอก”
“เอาไว้ก่อนได้มั้ยใหญ่นะ ให้แก้วเขียนให้เสร็จก่อนนะ”
“เขียนเรื่องไอ้บ้านั่นอ่ะเหรอ”
“อืม เดี๋ยวแปปนึงนะ”
“งั้นก็ไม่เป็นไร อ่ะเราให้ แฮปปี้เบิร์ดเดย์นะ เรากลับล่ะ”
“อ้าว.... ใหญ่ เดี๋ยวก่อนสิ รอแก้วด้วย
ผมปั่นจักรยานกลับบ้านอย่างรวดเร็วโดยไม่ฟังเสียงเธอ ตลอดทางกลับบ้านผมนึกอิจฉาผู้ชายคนนั้นของแก้ว แก้วเธอจะรู้มั้ยนะว่าได้ทำให้น้ำตาผู้ชายอกสามศอกอย่างผมไหลพรากตลอดทางกลับบ้าน
ผมไม่อยากเสียแก้วไป ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาผมจึงตั้งใจอ่านหนังสือ พักกลางวันผมก็ไม่กินข้าว เอาแต่นั่งอยู่ในห้อง เพื่อที่จะไปสอบเข้าโรงเรียนเดียวกับแก้ว และแล้วันสอบก็มาถึง
“ใหญ่จะไปสอบกับแก้วจริงเหรอ”
“อืม ที่นั่นอาจจะมีสาวๆสวยๆเยอะก็ได้”
“โธ่...นึกว่าจะตามไปคอยปกป้องเราซะอีก”
วันนี้เราสองคนจะไปดูผลสอบด้วยกัน อย่างที่คาดไว้ แก้วเธอติดสายวิทย์เป็นอันดับที่หนึ่งของสาย แล้วเธอก็ไล่ดูชื่อผม จนหมดรายชื่อสายวิทย์ก็ยังไม่มีชื่อผม และก็อย่างที่คาดไว้ไม่มีผิด ผมติดสายศิลป์อันดับเกือบสุดท้ายเช่นเคย แก้วเธอดีใจมาก เธอจึงโผเข้ากอดผมทันที
“ในที่สุดเราสองคนก็ได้เรียนม.ปลายที่เดียวกัน ไม่ดีใจเหรอใหญ่ ยืนเฉยทำไมล่ะ”
ไอ้ดีใจมันก็ดีใจอ่ะนะ แต่ว่า...คนที่ไปดูผลสอยเขาหันมามองเราสองคนหมดเลย ตอนนั้นผมรู้ว่าผมหน้าแดงเป็นอย่างมาก แก้วจึงคลายมือออกจากตัวผม
“เหมือนวันแรกที่ใหญ่ย้ายกลับมาเลยเนอะ จำได้ป่าว ตอนนั้นแก้วก็กอดใหญ่แล้วเพื่อนๆในห้องก็หันมามองเราแบบนี้แหละ”
“อืม....จำได้”
วันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรก เราสองคนมาโรงเรียนพร้อมกัน แก้วยิ่งโตเธอก็ยิ่งสวย ตอนเดินเข้าโรงเรียนมีแต่ผู้ชายหันมามองแก้ว แต่เธอก็เดินจูงมือผมเดินไปตลอดทาง
“ใหญ่พักกลางวันมาหาแก้วด้วยนะ จะได้ไปกินข้าวด้วยกัน แล้วตอนเย็นก็มารอรับแก้วกลับบ้านด้วยล่ะ”
“คร้าบ....คุณนายแก้ว ตามคำสั่งขอรับ”
“เดี๋ยวเหอะใหญ่”
“จ้า...บ๊ายบายจ๊ะ แล้วเจอกัน”
เราสองคนยังเหมือนเดิมทุกอย่าง ยังไปกินข้าวด้วยกันเหมือนเดิม และก็ยังกินจานเดียวกันเหมือนเดิม แต่แก้วกินข้าวน้อยลง หรือว่าเธอจะลดความอ้วนก็ไม่รู้ แต่ผมว่าเธอก็สวยอยู่แล้วนะ
“ใหญ่เดี๋ยวนี้กินเค็มกว่าแต่ก่อนอีกนะ เดี๋ยวเป็นโรคไตนะ”
“ใหญ่ก็เป็นอยู่แล้วนี่แก้ว”
“ใหญ่รู้ได้ไงอ่ะ”
“ก็ใหญ่เป็นโรคไตหาหัวจาม ตามหาหัวใจไงจ๊ะ”
เราสองคนยังขึ้นรถเมล์กลับบ้านด้วยกันเสมอ ทุกเย็นผมก็ต้องไปรอแก้วเขียนเรื่องไอ้บ้านั่นเหมือนเดิม
“แก้วใหญ่อยากรู้จริงๆเลย ว่าไอ้หมอนั่นมันเป็นใคร ใหญ่จะได้ช่วยแก้วพิจารณาไงว่าดีหรือไม่ดี”
“ไม่ต้องรู้หรอกเค้าดีอยู่แล้วแหละ”
“แต่เราไม่เห็นแก้วชอบผู้ชายคนไหนที่เข้ามาจีบแก้วเลยนะ”
“แก้วชอบแต่ไม่ได้บอกเค้า แก้วจะรอเค้าบอกแก้วก่อน แล้ววันนึงแก้วก็จะเอาไดอารีที่แก้วเขียนเกี่ยวกับเค้ามาตลอดให้เค้าอ่าน”
ผมรู้สึกอิจฉาไอ้บ้านั่นหลายต่อหลายครั้ง แต่ทุกครั้งที่แก้วเขียนไดอารีแก้วจะมีความสุขเป็นอย่างมาก พอเห็นแก้วมีความสุขผมก็มีความสุขไปด้วย ผมจึงไม่ขัดข้องที่เธอจะเขียนเรื่องไอ้หมอนั่นต่อ เพื่อผมจะได้เห็นรอยยิ้มของเธอต่อไป
ตอนนี้เราสองคนก็ใกล้จะเรียนจบม.6แล้ว แก้วเธออยากเรียนคณะแพทย์ศาสตร์ ผมก็อยากเรียนคณะเดียวกับเธอนะ แต่ผมรู้ว่าผมทำไม่ได้แม้ผมจะพยายามแค่ไหนก็ตาม
แก้วเธอติดคณะแพทย์จริงๆ ส่วนผมติดศิลปกรรมศาสตร์ แก้วเธอสวยกว่าแต่ก่อนมาก ตอนนี้เธอกลายเป็นดาวมหาลัยไปแล้ว แต่ผมกลับรู้สึกว่าต่ำต้อยลงไปทุกวัน แก้วเธอก็ยังทำทุกอย่างเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน เคยเป็นยังไงเธอก็ยังเป็นอย่างนั้น ผมไม่รู้ว่าจะรู้สึกดีใจรึเปล่า เพราะเวลาไปไหนใครๆต่างมองผมด้วยสายตาที่เหยียดหยาม
วันหนึ่งก็มีผู้หญิงคนนึงมาสารภาพรักกับผม เธอชื่อเปิ้ลเป็นดาวคณะผมเอง แต่ผมก็ปฏิเสธไปเพราะผมยังรักแก้วอยู่คนเดียว
“ใหญ่ปฏิเสธเค้าไปทำไม เค้าออกจะสวย แถมยังเรียนเก่งด้วยนะ”
“ก็เราไม่ได้รักเค้านิ”
“หรือว่านายรักใครอยู่แล้ว” ผมถึงกับอึ้งไป “ว่าไงล่ะ”
“ถามแต่เรื่องคนอื่นเค้าแล้วตัวเองล่ะ ปฏิเสธหนุ่มๆคณะแพทย์เค้าไปทำไม”
“ก็เรายังรอชายในฝันเรามาสารภาพรักอยู่ไงล่ะ”
วินาทีนั้นผมจึงรู้ทันทีว่าผมไม่มีสิทธิ์ในหัวใจแก้ว เพราะเธอรอไอ้บ้านั่นมานานถึง 8 ปี ตั้งแต่ที่ผมกลับมาเรียนกับเธอ ผมจึงตัดสินใจคบกับเปิ้ล แต่เราก็ยังค่อนข้างจะเหมือนเดิม แต่ทีไม่เหมือนเดิมก็คือ เราไม่ได้เดินจูงมือกันไปไหนเหมือนแต่ก่อน เราไม่ได้กินข้าวจานเดียวกันเหมือนแต่ก่อน พอแก้วกินไม่หมดผมจะกินเปิ้ลเค้าก็ไม่ให้กิน แถมเวลากินของผมแล้วมันเค็มไปเธอก็จะบ่นผม บางครั้งเธอถึงกับเอาข้าวผมไปทิ้งแล้วไปซื้อมาให้ใหม่ แต่ผมก็ต้องเติมน้ำปลาอยู่ดี
ตอนนี้ปี 4 แล้วผมเรียนใกล้จะจบ แต่แก้วเหลืออีก 2 ปี ตอนนี้แก้วก็ยังไม่ได้คบกับใคร หัวใจเธอยังเป็นของไอ้หมอนั่นอยู่คนเดียว ผมก็ยังคบอยู่กับเปิ้ล พอผมเรียนจบผมก็จะหมั้นกับเปิ้ล พอผมได้งานทำผมก็จะขอเปิ้ลแต่งงาน แต่ผมก็ไม่เคยลืมแก้วได้เลย
“โอ้ย...แก้ว”
“เป็นอะไรใหญ่”
“ใหญ่ปวดหลังมากเลยแก้ว มันปวดข้างในอ่ะ”
“เปิ้ลดูใหญ่ก่อนนะ เดี๋ยวแก้วจะไปตามรถพยาบาล”
พอผมมาถึงโรงพยาบาล ผมถึงได้รู้ว่าผมเป็นโรคไต มันเป็นกรรมพันธุ์จากพ่อบวกกับความชอบกินเค็มของผม ที่ผมต้องย้ายไปอยู่กรุงเทพก็เพราะผมต้องเข้ารับการผ่าตัด แล้วตอนนี้ผมก็เหลือไตอยู่ข้างเดียว
ผมนอนอยู่ในโรงพยาบาล 5 วัน เปิ้ลดูแลผมตลอดเวลา แต่ผมเห็นแก้วแค่ครั้งเดียวคือตอนที่พาผมไปส่งโรงพยาบาล แล้วแก้วก็หายหน้าไปเลย ผมคิดว่าผมคงไม่รอดเพราะไตหายากมากในตอนนั้น แล้วปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้นกับผม มีคนมาบริจาคไตให้กับผม กรุ๊ปเลือดก็ตรงกับผม แถมเนื้อเยื่อก็ยังเข้ากันได้ น่าประหลาดที่ตรงกันทุกอย่าง แม้แต่ญาติจะหาตรงกันแบบนี้ยังยากมาก
หลังจากผมเรียนจบ ผมก็หมั้นกับเปิ้ล หลังจากงานเลี้ยงเลิกราแล้ว แก้วก็ร้องไห้วิ่งมาหาผม เธอกอดผมทันทีเหมือนทุกครั้ง
“ใหญ่เค้าไม่เคยเห็นความสำคัญของแก้วเลย เค้าไม่เคยรู้เลยว่าแก้วรักเค้าแคไหน”
“ไอ้หมอนั่นมันเป็นใครแก้ว บอกใหญ่มาสิเดี๋ยวใหญ่ไปจัดการให้”
“ใหญ่จ๊ะเก็บของเสร็จรึยังไปส่งเปิ้ลที่บ้านหน่อย”
แก้วจึงปล่อยมือจากผมแล้วรีบปาดน้ำตา
“อ้าว...แก้วก็อยู่ด้วยเหรอ”
“จ๊ะแก้วมาอวยพรน่ะ ขอโทษนะที่ไม่ได้มางานเลี้ยง ขอให้ทั้งคู่มีความสุขนะแก้วกลับล่ะ”
“แก้วไปส่งเปิ้ลกับใหญ่หน่อยสิ” เปิ้ลพูดขึ้นมา
“อืม...ก็ได้”
หลังจากไปส่งเปิ้ลแล้วเราก็นั่งรถกลับบ้านด้วยกันสองคน แก้วเธอเข้มแข็งพอที่จะไม่ให้ผมเห็นน้ำตาอีก
“แก้ว เค้าเป็นใครเหรอบอกใหญ่มาสิ เดี๋ยวใหญ่จะจัดการให้”
เธอมองหน้าผมแล้วยิ้ม
“ไม่เป็นไรจ๊ะใหญ่ เดี๋ยวแก้วคงลืมเอง”
เดี๋ยวแก้วคงลืม แก้วพูดเหมือนง่าย แก้วรอเค้ามาตั้ง 11แก้วจะลืมได้เหรอ ขนาดผมยังลืมแก้วไม่ได้เลย
2 ปี ให้หลัง ผมมีงานทำมีฐานะที่มั่นคง แต่ผมยังไม่พร้อมที่จะแต่งงาน เพราะผมยังไม่ได้เห็นแก้วมีความสุขเลย ตอนนี้แก้วเรียนจบแล้ว แล้วก็ได้ทุนไปเรียนต่อที่อังกฤษ แล้วแก้วก็โทรมาหาผมในวันที่ 14 กุมภา
“ใหญ่แก้วจะไปเรียนอังกฤษแล้วนะ แก้วอยากลาใหญ่ ไปรอแก้วที่เดินที่เราเคยไปนะ แล้วแก้วจะไปหา”
“ครับได้ครับ”
ผมรอแก้วอยู่ที่นี่ตั้งแต่ 5 โมงเย็น จนตอนนี้ 5 ทุ่มแล้วแก้วก็ยังไม่มา ผมตั้งใจจะรอแก้วจนหมดวันนี้
เสียงระฆังตีเที่ยงคืน ผมกำลังจะขับรถกลับบ้าน แล้วพ่อของแก้วก็ขับรถมาหาผม ท่านลงมาด้วยน้ำตาที่อาบแก้ม และไดอารีเล่มนั้นกับกุหลาบช่อใหญ่
“ใหญ่แก้วฝากมาให้ แก้วบอกพ่อว่าถ้าแก้วมาไม่ได้ให้พ่อเอานี่มาให้ใหญ่ก่อนเที่ยงคืน พ่อยังมาทันใช่มั้ย”
“แล้วแก้วไปไหนล่ะครับ”
พ่อแก้วไม่ยอมตอบแต่หันหลังขึ้นรถออกไป
ไดอารีเล่นนี้อยู่ในมือผม ไดอารีของไอ้บ้านั่นที่ผมเคยอยากอ่านมานาน ตอนนี้แก้วเอามาให้ผม
หน้าแรกที่ผมเปิดอ่าน แก้วก็ได้ทำให้ลูกผู้ชายอกสามศอกอย่างผมน้ำตาไหลอาบแก้วอีกครั้ง
“เมื่อไหร่นะใหญ่จะกลับมา คิดถึงใหญ่จังเลย อาการจะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้ แก้วรออยู่นะใหญ่”
ผมเพิ่งรู้ว่าไอ้บ้านั่นก็คือตัวผมเอง และไอ้บ้านั่นก็บ้าจริงๆที่ไม่รู้ว่าคนที่มันรักเค้าก็รักมันมานานแล้ว แต่ที่มันทำให้ผมน้ำตาไหลไม่หยุดก็คือ หน้าสุดท้าย แก้วเขียนถึงผมว่า
“ตอนนี้ใหญ่ก็หมั้นไปแล้ว เดี๋ยวใหญ่ก็ต้องแต่งงาน
แก้วไม่มีสิทธิ์อะไรในตัวใหญ่ เพราะแก้วเกิดมา
เพื่อที่จะเป็นผู้ให้ เราเกิดมาคู่กันนะใหญ่
เพราะฉะนั้นแก้วจะอยู่กับใหญ่ตลอดเวลา ไตข้างนั้น
แก้วไม่เคยนึกเสียใจเลยที่มอบให้กับใหญ่
เพราะแก้วอยากให้คนที่แก้วรักมีความสุข
ใหญ่สัญญากับแก้วนะว่าใหญ่จะมีชีวิจอยู่ต่อ
ไปเพื่อแก้ว มีความสุขในชีวิตเพื่อแก้ว แก้วคง
ไม่ได้ไปร่วมงานแต่งงานของใหญ่นะ ยังไงแก้ว
ก็ขออวยพรให้ใหญ่กับเปิ้ลมีความสุข แล้วใหญ่
ก็อย่ากินเค็มมากนะรู้รึป่าว รักษาสุขภาพด้วย
อ่านไดอารีจบแล้วช่วยเผาทิ้งด้วยนะ เผามาให้แก้วไง
แก้วจะได้เขียนเรื่องราวความสุขของใหญ่ต่อไป
แก้วรักใหญ่นะ”
ตอนนี้ผมนั่งร้องไห้สะอึกสะอื้นใต้ต้นไม้ ถ้าแก้วมาเห็นผมตอนนี้คงจะเข้ามาถามว่าใครแกล้งใหญ่เดี๋ยวแก้วจัดการให้
หลังจากงานศพของแก้ว ผมก็ถอนหมั้นกับเปิ้ล
“เปิ้ลใหญ่ขอโทษนะ ลมหายใจของใหญ่มันเป็นของแก้ว แก้วให้ชีวิตใหญ่ ใหญ่รักแก้ว ใหญ่เป็นของแก้วทั้งใจและกาย ใหญ่ขอโทษนะ”
ใช่ครับผมเป็นของแก้ว ถ้าผมไม่มีแก้วผมคงไม่มีชีวิตอยู่จนถึงทุกวันนี้
ผลงานอื่นๆ ของ GooPook ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ GooPook
ความคิดเห็น