นิยายหญิงรักหญิง "14 days of love mission " (ภารกิจรักเธอ 14 วัน) - นิยายหญิงรักหญิง "14 days of love mission " (ภารกิจรักเธอ 14 วัน) นิยาย นิยายหญิงรักหญิง "14 days of love mission " (ภารกิจรักเธอ 14 วัน) : Dek-D.com - Writer

    นิยายหญิงรักหญิง "14 days of love mission " (ภารกิจรักเธอ 14 วัน)

    ผู้เข้าชมรวม

    97

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    97

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักอื่น ๆ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  11 มิ.ย. 64 / 13:36 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

    พิรุฬห์ธารหญิงสาวหน้าตาดี รูปร่างสูงโปร่ง ผิวขาว ผมสั้นเพียงแค่ไหล่ บุคลิกคล่องแคล่วห้าวนิดนิด การแต่งกายง่ายๆ มักเห็นเธอสวมใส่กางเกงยีนส์และเสื้อยืดตัวโตๆหรือเสื้อเชิ้ตธรรมดา จนชินตา แต่อย่างไรนั่นก็ยังทำให้หญิงสาวดูมีเสน่ห์น่ามอง ทั้งเป็นเพศเดียวกันและเพศตรงข้าม สกลบิดาของเธอมองดูบุตรสาวที่ท่าทางเร่งรีบด้วยใบหน้าที่เรียบ บุตรสาวเพียงคนเดียวที่เขายังคงเป็นห่วงว่าเธอนั่นจะลงตัวกับชีวิตเมื่อไร ทุกวันนี้เขาเห็นพิรุฬห์ธาร มุ่งมั่นกับการหางานอยู่ทุกวันตั้งแต่เรียนจบ โดยปฏิเสธที่จะทำงานในบริษัทของครอบครัว เธออ้างว่าขอใช้ชีวิตเป็นของตัวเองหาประสบการณ์ก่อนและค่อยกลับมาช่วยงานเขา สกลมีบุตรสาวเพียงคนเดียว แต่ก็มีบุตรชายอีกคนคือแทนคุณ พี่ชายของพิรุฬห์ธาร ภรรยาของเขานั่นเสียไปตั้งแต่พิรุฬห์ธารและแทนคุณยังเล็ก สกลจึงใช้ชีวิตคนเดียวมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา กระทั่งบุตรชายและบุตรสาวของเขานั่นโตขึ้นและใช้ชีวิตเองได้ โดยแทนคุณดูแลบริษัทช่วยสกลส่วนพิรุฬห์ธารพึ่งเรียนจบมาไม่นาน  ตั้งแต่ภรรยาของสกลเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ สกลเองก็ไม่ได้มีใครอีกเลย แต่เมื่อสองปีที่ผ่านมา สกลได้เจอกับไอยราผู้หญิงที่เป็นรักครั้งใหม่ของเขา ไอยราเป็นทั้งตำแหน่งเลขาและคอยดูแลทุกอย่างให้กับสกลตลอดสองปี สกลคิดว่าเมื่อไรที่พิรุฬห์โตขึ้นและสามารถทำงานเรียนรู้ชีวิต มีประสบการณ์เข้มแข็งพอ เขาจึงจะบอกเรื่องนี้กับพิรุฬห์ธาร ส่วนลูกชายคนโตคือแทนคุณ เขารู้เรื่องระหว่างสกลกับไอยรามาสักพักแล้ว ไอยราเองก็ยอมรับในความคิดของสกลเธอไม่ได้เร่งรีบและเรียกร้องอะไรจากสกล เธอเห็นใจสกลด้วยซ้ำถ้าหากว่าพิรุฬห์ธารรู้เรื่องเธอกับสกล เธอไม่แน่ใจว่าพิรุฬห์ธารจะรับเรื่องนี้ได้ไหม ไอยราผ่านการแต่งงานมาแล้วเช่นกันแต่สามีของเธอก็ประสบอุบัติเหตุเช่นกัน ทำให้เธอต้องอยู่เลี้ยงดูบุตรสาวถึงสองคนอย่างยากลำบาก ดีที่เธอนั่นมาเจอกับสกล ทำให้เธอได้มีงานทำเพื่อส่งบุตรสาวของเธอให้เรียนหนังสือเหมือนอย่างคนอื่น ไอยรามุ่งมั่นทำงานอย่างตั้งใจและดูแลสกลทุกอย่าง เธอรักสกลอย่างจริงใจ ไม่ใช่เพียงแค่เงินทองของเขา ไอยรามีบุตรสาวสองคน คนพี่ชื่อชลากรอายุรุ่นราวคราวเดียวกันกับแทนคุณ และตอนนี้ชลากรก็ได้เข้าทำงานที่บริษัทของสกลเหมือนกับไอยรา ส่วนบุตรสาวอีกคนคือปิ่นลดากำลังจะเรียนจบอีกไม่นาน ทั้งชลากรและปิ่นลดาก็มีรูปร่างหน้าตาไม่ต่างจากไอยราสักเท่าไรนัก บุตรสาวทั้งสองของไอยราทั้งสวยและเก่งเป็นที่ถูกตาต้องใจทั้งหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ คอยรอโอกาสสานสัมพันธ์อยู่ไม่ห่าง แต่เหมือนว่าบุตรสาวคนโตของไอยรานั่นมีคนที่เธอชอบพออยู่แล้ว นั่นก็คือแทนคุณบุตรชายคนโตของสกลนั่นเอง เรื่องนี้สกลและไอยราก็รับรู้ ความใกล้ชิดของแทนคุณและชลากรทั้งให้คู่สนิทสนมมากกว่าคนที่จะเป็นพี่น้องในอนาคตได้ และสกลเองก็ไม่ได้ขัดอะไร เพราะชลากรนั่นทั้งสวยและฉลาด เขาจึงคิดว่าหากแทนคุณจะชอบพอกับชลากรก็ไม่ได้ผิดอะไร เขาจึงไม่ได้ห้ามปรามแต่อย่างใด แต่สกลเองก็ยังกังวลเรื่องของพิรุฬห์ธาร เพราะอีกไม่นานเขาคิดว่าพิรุฬห์ธารก็คงรู้เรื่องเขากับไอยราเป็นแน่ บุตรสาวของเขานั่นรักมารดาของเธอมากและพูดอยู่เสมอว่าอยากให้เขาอยู่กับเธอไปนานๆ และรักมารดาของเธอเพียงคนเดียว เขาจึงไม่กล้าที่จะเปิดเผยเรื่องนี้กับพิรุฬห์ธารถึงแม้ว่าอยากจะคบหากับไอยราอย่างเปิดเผยก็ตาม  ส่วนไอยรานั่นเข้าใจข้อนี้ดี เพราะถ้าหากพิรุฬห์ธารรู้เรื่องทั้งหมดแล้วไม่ชอบเธอ ถึงตอนนั่นพิรุฬห์ธารอาจจะคิดว่าเธอและบุตรสาวทั้งสองต้องการเพียงแค่เงินมาจุนครอบครัวมากกว่าความรักให้กับบิดาของเธอก็เป็นได้ สกลนั่งคิดทบทวนเรื่องราวต่างๆ อยู่สักพัก ทำให้พิรุฬห์ธารที่กำลังรีบเร่งกับการเก็บเอกสารและแบบงานทั้งหมดที่จะไปเสนองานให้กับงานใหม่ที่เธอสมัครไว้ต้องหยุดชะงักเมื่อเห็นบิดามีท่าทีเหม่อลอยกว่าปกติ

    พิรุฬ>>คุณพ่อไม่สบายหรือเปล่าคะ

    พิรุฬธารเอ๋ยถามบิดา

    สกล>>เปล่าหรอกลูก ว่าแต่พิรุฬนัดเขาไว้กี่โมง

    พิรุฬ>>11 โมงคะคุณพ่อ ตอนนี้เสร็จแล้วงั้นหนูไปก่อนนะคะ

    พิรุฬธารยิ้มให้บิดาที่นั่งมองเธอด้วยสายตาที่ห่วงใยบุตรสาวคนเล็ก

    สกล>>ถ้าไม่ได้งานคราวนี้ลูกต้องช่วยทำงานกับพ่อที่บริษัทตามสัญญานะ

    สกลบอกกับพิรุฬห์ที่ตอนนี้หอบหิ้วเอกสารและแบบงานที่เขียนไว้ในมือ พิรุฬธารเรียนจบวิศวะมาได้ไม่นาน ผลการเรียนและผลงานของเธอนับว่ายอดเยี่ยมไม่แพ้แทนคุณพี่ชาย แต่เธอก็ไม่เข้าใจว่าทำไมบริษัทต่างๆนั่นไม่รับเธอเข้าทำงาน เธอจึงต้องคอยตะลอนหางานอยู่หลายเดือนหลังจากเรียนจบ

    พิรุฬ>>คะ คุณพ่อหนูไม่ลืมคะ

    พิรุฬธารพูดจบก็เดินไปขึ้นรถและขับออกไปจากบ้าน เธอสมัครงานไว้กับบริษัทแห่งหนึ่งและวันนี้ทางบริษัทก็ขอดูผลงานและเรียกเธอไปสัมภาษณ์ ทำให้เธอต้องถือของพะรุงพะรัง เมื่อถึงหน้าบริษัทพิรุฬธารรีบจอดรถแล้วคว้าของทุกอย่างไว้ในมือก่อนจะมุ่งตรงไปที่ตึกสูงข้างหน้า ด้วยเวลานัดที่ใกล้เข้ามากับกองงานที่เธอถือทำให้เธอมองด้านหน้าแทบไม่เห็น จึงเป็นเหตุให้เธอชนกับใครบางคนด้านหน้าทางเข้าลิฟของอาคาร

    พิรุฬ>>โอ้ย

    เสียงพิรุฬธารดังขึ้นของในมือตกลงกระจายที่พื้น ใครบางคนที่ชนกับเธอนั่นรีบกล่าวคำขอโทษและก้มลงช่วยเก็บของที่หล่นลงบนพื้น

    ปิ่นลดา>>โอ๊ะ ขอโทษด้วยนะคะ

    ปิ่นลดาพูดตะกุกตะกัก ใบหน้าเจื่อนเล็กน้อยด้วยความตกใจ ต่างจากอีกฝ่าย พิรุฬห์ธาร ไม่แม้จะมองหน้าหญิงสาวในตอนนี้เขารีบมาก แต่เขาก็กล่าวขอโทษอีกฝ่ายเช่นกันเพราะว่าเขาก็มองทางไม่เห็นไม่ในตอนนี้

    ปิ่นลดา>>นี้คะ ของคุณมีอะไรเสียหายไหมคะ

    ปิ่นลดามองใบหน้าของคนที่กำลังยุ่งอยู่กับเอกสารในมือ ตอนนี้พิรุฬธารเงยหน้าขึ้นมองหญิงสาวตรงหน้าก่อนจะรับของที่เธอเก็บส่งให้

    พิรุฬ>>ขอบคุณคะ

    พิรุฬธารพูดจบก็นิ่งไปครู่หนึ่ง ใบหน้าของหญิงสาวตรงหน้าช่างดูหมดจด สะอาดหน้ามอง เขาไม่เคยเห็นใครที่น่าสนใจแบบนี้มาก่อน ใบหน้าเรียวขาว จมูกได้รูป ปากเล็กๆ สีชมพู คิ้วหน้าดกดำต่างจากผู้หญิงสมัยใหม่ในตอนนี้ ใบหน้าที่ปราศจากเครื่องสำอางไม่ได้ทำให้เธอหมดเสน่ห์ไปได้เลย ยิ่งทำให้สะกดคนที่อยู่ตรงหน้าได้อย่างไม่น่าเชื่อ

    ปิ่นลดา>>คุณคะ เป็นอะไรหรือเปล่าคะ

    ปิ่นลดาเรียกคนที่ยืนนิ่ง เธอหัวเราะให้เล็กน้อยเมื่ออีกฝ่ายนั่นสะดุ้งจากเสียงของเธอ

    พิรุฬ>>อ่อ ไม่เป็นไร เออ คุณ

    พิรุฬธารพูดติดๆขัดๆ เขาไม่รู้จะเริ่มอย่างไรก่อนดี ตอนนี้เขาอยากทำความรู้จักกับปิ่นลดาสักหน่อยแต่อาจจะไม่ทันเวลา ปิ่นลดาได้ฟังพิรุฬธารพูดติดๆ ขัดๆ เธอก็ยิ้มออกมา ผู้หญิงตรงหน้ากำลังทำท่าทางแปลกๆ เธอจึงไม่แน่ใจว่าเขาต้องการให้เธอช่วยอะไร

    ปิ่นลดา>>คือมีอะไรให้ปิ่นช่วยไหมคะ

    พิรุฬ>>ปิ่น

    พิรุฬธารเผลอเอ่ยชื่อหญิงสาวซ้ำอีกครั้ง

    ปิ่นลดา>>ใช่คะ มีอะไรให้ปิ่นช่วยไหมคะ

    พิรุฬ>>ถ้าอย่างนั่นรบกวนกดลิฟให้หน่อยได้ไหมคะ

    เขาบอกเธอ เมื่อมือเขานั่นยังคงถือของอยู่พะรุงพะรัง ปิ่นลดาทำตามที่พิรุฬธารขออย่างว่าง่าย ก่อนจะเอื้อมมือหยิบเอกสารในมือของพิรุฬธารมาสองสามชิ้น มาถือไว้

    ปิ่นลดา>>ฉันช่วยคุณดีกว่าคะ จะไปชั้นไหนคะ

    พิรุฬ>>ชั้น 12 คะ

    ปิ่น>>คุณทำงานที่นี้เหรอคะ

    ปิ่นลดาเอ่ยถาม เมื่อลิฟกำลังเลื่อน

    พิรุฬธาร>>เปล่า พอดีฉันนัดสัมภาษณ์งานนะ เธอละ

    ปิ่น>>ปิ่นพักอยู่ ชั้น 19นะคะ ที่นี้เขามีทั้งบริษัทที่มาเช่าทำงานและมีที่พักด้านบน

    เธอบอกกับพิรุฬธารโดยไม่รอให้อีกฝ่ายนั่นถาม

    พิรุฬ>>ฉันชื่อพิรุฬธาร

    เขาบอกชื่อกับหญิงสาวตัวเล็กก่อนที่ไม่มีเวลาแนะนำตัว 

    ปิ่นลดา>>ฉันชื่อปิ่นลดาคะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ

    ปิ่นลดายิ้มให้คนแปลกหน้า และส่งเอกสารที่ถือไว้ให้เขาเมื่อถึงชั้น 12 พอดี ประตูลิฟต์เปิดออก พิรุฬธารก้าวออกจากลิฟก่อนจะโค้งศรีษะให้เล็กน้อย เขานึกเสียดายที่ไม่ได้รู้จักกับปิ่นลดามากกว่านี้ แต่ก็ต้องสลัดความรู้สึกนั่นออกไปเพราะถึงเวลานัดสัมภาษณ์พอดี พิรุฬห์ธารเข้าไปสัมภาษณ์และใช้เวลานานพอสมควร เมื่อเสร็จเขาเดินออกมาด้วยรอยยิ้ม ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี ทางบริษัทรับเขาทำงานในตำแหน่งวิศวะกรออกแบบ เขาถอนใจออกมาอย่างโล่งออกเพราะว่าหากเขาไม่ได้งานในครั้งนี้ เขาต้องกลับไปทำงานที่บริษัทตามที่ตกลงกับบิดาไว้ พิรุฬธารกลับบ้านไปด้วยความดีใจ ซึ่งบิดาของเขานั่นก็นั่งรอเขาอยู่แล้ว

    สกล>>มาแล้วหรือลูกเป็นอย่างไรบ้าง

    สกลถามบุตรสาวด้วยสีหน้าที่เรียบ

    พิรุฬ>>ธารได้งานแล้วคะพ่อ เขาตกลงรับเข้าทำงานในตำแหน่งวิศวะกรออกแบบคะ

    เธอบอกกับบิดา บิดายิ้มให้เมื่อได้ยินบุตรสาวบอกเช่นนั่น ถึงแม้สกลอยากให้พิรุฬธารทำงานกับเขาแต่เขาเองก็ไม่ได้บังคับอะไร เขาต้องการให้พิรุฬธารมาทำงานกับเขาด้วยความสมัครใจ และก็ไม่แปลกใจที่บริษัทรับบุตรสาวของตนเข้าทำงาน เพราะบุตรสาวของตนนั่นมีฝีมือในการออกแบบไม่แพ้ใครเลยทีเดียว

    สกล>>พ่อดีใจด้วยที่ลูกมีงานทำสักที ว่าแต่จะเริ่มงานวันไหนละ

    พิรุฬ>>เริ่มพรุ่งนี้คะพ่อ

    สกลพยักหน้าให้บุตรสาว และพูดคุยกับบุตรสาวอยู่สักพักถึงแยกตัวไปพักผ่อน ทิ้งให้พิรุฬธารนั่งอยู่คนเดียวในห้องรับแขก พิรุฬธารขยับตัวไปมา พร้อมถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่า ตอนนี้ความคิดของเธอนั่นมีแต่ใบหน้าของปิ่นลดาคอยวนเวียนอยู่ไปมา ทำให้เธอเริ่มสับสน แทนคุณกลับมาจากทำงานพอดี เขายืนมองพฤติกรรมของน้องสาวได้สักพัก จึงเดินเข้ามาหา

    แทนคุณ>>เป็นอะไรละเราพี่เห็นดูเครียดๆ วันนี้ได้งานหรือเปล่า

    แทนคุณเอ่ยถามน้องสาวเมื่อเห็นใบหน้าที่ยุ่งของคนเป็นน้อง

    พิรุฬ>>เอ่าพี่แทน มาตั้งแต่เมื่อไร

    แทนคุณ>>สักพักละ ตกลงเป็นไรที่พี่ถาม

    พิรุฬ>>คือธารแค่คิดอะไรนิดหน่อยนะคะ

    แทนคุณ>>แต่พี่ว่าเยอะ เครียดเรื่องงานหรือเปล่า

    พิรุฬ>>ธารได้แล้วคะ

    แทนคุณ>>แล้วยังทำหน้าเครียดอะไร

    แทนคุณถามน้องสาวด้วยความสงสัย พิรุฬธารจึงตัดสินใจเล่าเหตุการณ์ที่เจอให้พี่ชายฟัง เพราะเธอกับแทนคุณนั่นสนิทสนมกันมาก ตั้งแต่มารดาเสียแทนคุณก็ทำหน้าที่ของพี่ได้ไม่ขาดตกบกพร่อง เมื่อพิรุฬธารเล่าจบแทนคุณก็หัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้

    พิรุฬ>>เอ่าพี่แทน เป็นอะไรเนี้ย ธารให้ช่วยไม่ได้ให้ขำ

    พิรุฬธารทำหน้ายุ่งเล็กน้อย เมื่อเห็นพี่ชายยังยิ้มในใบหน้า

    แทนคุณ>>พี่ก็ขำเรานั่นละ แบบนี้พี่นะถ้าผู้ชายเขาเรียกว่าตกลงหลุมรัก รักแรกพบประมาณนี้

    พิรุฬ>>แล้วผู้หญิงละคะพี่แทน

    แทนคุณ>>อย่างเราพี่ว่าก็คล้ายกัน ก็เราไม่ได้ชอบผู้ชายไม่ใช่เหรอ หรือว่าสาวห้าวอย่างเราเปลี่ยนมาชอบผู้หญิงแล้ว

    คำพูดของแทนคุณทำให้พิรุฬธารทำหน้าแทบไม่ถูก แทนคุณรู้ใจเธอทุกอย่าง ไม่ว่าเรื่องอะไร

    พิรุฬ>>แต่ตอนนี้คงไม่เจอกันแล้วละคะ

    แทน>>ทำไมละ ไม่ได้ขอเบอร์ติดต่อไว้หรือไง

    พิรุฬ>>ตอนนั่นรีบมากเลยไม่ได้ขอไว้

    แทน>>แต่เขาก็อยู่ตึกนั่นไม่ใช่เหรอ เราก็ไปดักรอเขาแทนนั่นก็ได้นิ

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×