Breakfast [Marsha+Lukkade]
เช้าวันเสาร์บนเตียงของลูกเกด และเช้าวันอาทิตย์บนเตียงของพี่ช่า วีคเอนที่มาพร้อมโซ่(ที่ไม่มีแส้และกุญแจมือ)
ผู้เข้าชมรวม
6,081
ผู้เข้าชมเดือนนี้
24
ผู้เข้าชมรวม
เกดช่า ช่าเกด มาช่า ลูกเกด ลูกเกด เมทินี มาช่า วัฒนพานิช thefacethailandseason3 thefacethailand yuri teammarsha teamlukkade
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
Breakfast
11.20 p.m.
ณ
จัตตุรัส Golden Gateway ย่านที่ได้ชื่อว่าเป็นศูนย์กลางของร้านอาหารและแหล่งบันเทิงยามค่ำคืนยังคงคลาคล่ำไปด้วยผู้คนมากมายที่มาผ่อนคลายและสังสรรค์กับกลุ่มเพื่อนในช่วงสุดสัปดาห์
ที่หัวมุมถนนบาร์เหล้าเล็กๆอย่าง The Beast ยังคงเปิดให้บริการเหมือนเช่นทุกคืน
แสงสลัวจากโคมไฟคริสตัลชั้นดีส่องกระทบพื้นหินอ่อนสีดำสนิทด้านล่างเป็นประกายระยิบระยับ
โซฟากำมะหยี่ตัวหรูถูกใช้รับรองแขกเหรื่อมากมายที่พากันแวะเวียนมาที่บาร์แห่งนี้อยู่ไม่ขาด
หากใครได้มาเยือนย่านนี้บ่อยๆจะรู้ดีว่าโดยส่วนใหญ่แล้วลูกค้าของที่นี่ส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่เป็นเซเลบริตี้ผู้มีหน้ามีตาเด่นดังในสังคม
อย่างเช่น บรรดาไฮโซ เหล่านักธุรกิจนักการเมืองชื่อดัง หรือดารา นางแบบทั้งนั้น
ที่โต๊ะติดผนังด้านในสุด
ด้วยหน้าตาที่โดดเด่นประกอบกับส่วนสูงที่มากกว่าหนึ่งร้อยเจ็ดสิบเซนติเมตรหากใครเดินผ่านก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะสะดุดตาหญิงสาวสามคนที่กำลังนั่งล้อมวงกันอยู่ในเวลานี้เป็นแน่
เพราะพวกหล่อนทุกคนล้วนเป็นนางแบบระดับตำนานที่ถูกขนานนามว่าเป็นตัวแม่แห่งยุคทองของวงการแฟชั่นทั้งสิ้น
ซึ่งแม้จะล่วงเลยมากว่ายี่สิบปี จนวันนี้เหล่าตัวท้อปสุดแซ่บต่างอยู่ในวัยเลขสี่กันแล้ว --จะเว้นก็แต่คนที่อายุน้อยที่สุดที่มีอายุเพียง 37
ปี สาวๆเหล่านี้ยังรักษารูปร่างของตนไว้ได้อย่างดีเยี่ยมในแบบของคนออกกำลังกายเป็นประจำ
พวกเธอสง่างามและโดดเด่นในยามที่ออกสู่สาธารณะชนเสมอ...
.
.
“...ไอ้คนเฮงซวย!!!!!! มันทำแบบนี้กับชั้นได้ยางง้ายยย ไอ้คนสารเล้วว”
อืม...แต่เวลานี้คงต้องเว้นไว้หนึ่งคนแล้วแหละ
พิม
ซอนย่า คนที่ได้ชื่อว่าเคยอยู่ในลิสต์ของหญิงสาวที่เซ็กซี่ที่สุดในโลกหันไปสบตากับ
ซินดี้ สิรินยา นางแบบสาวเจ้าของนัยน์ตาสีฟ้าสดแล้วถอนหายใจยาว
พวกหล่อนติดแหง่กอยู่ที่นี่มาหลายชั่วโมงแล้ว
ด้วยต้องนั่งเฝ้าหนึ่งในเพื่อนรักอีกคนที่ตอนนี้เริ่มซบหน้าลงกับโต๊ะแล้วร้องไห้ออกมาอย่างหนัก
ด้วยเหตุผลบางอย่าง
ลูกเกด เมทินี อดีตซุปเปอร์โมเดลสาวผิวแทนเจ้าของส่วนสูง 178 เซนติเมตรสมาชิกระดับเอลเดอร์ของกลุ่มกำลังอยู่ในภาวะเมาจนพูดภาษาคนไม่รู้เรื่องและเริ่มทำตัวเป็นภาระของเพื่อนๆอย่างชัดเจน
โชคดี...วันนี้ที่บาร์มีแขกไม่มาก แล้วอีกไม่ถึงครึ่งชั่วโมงร้านก็จะปิดแล้ว
โต๊ะอื่นๆจึงทยอยกลับกันไปจนหมด เหลือเพียงแต่โต๊ะพวกเธอเท่านั้น
ไม่อย่างงั้นแล้วซินดี้กับซอนย่าคงได้อายประชาชีเพราะวีรกรรมของเพื่อนรักพวกเธอเป็นแน่
“ชั้นจะได้กลับบ้านมั้ยวะเนี้ย
เฮ้ย พรุ่งนี้นี่ต้องไปส่งลูกเรียนว่ายน้ำแต่เช้านะเว้ย” ซอนย่าเริ่มบ่นถึงตารางงานที่เธอจะต้องทำในวันพรุ่งนี้ตอนแปดโมงเช้า
เมื่อเหลือบไปเห็นว่าเข็มสั้นบนนาฬิกาที่อยู่บนข้อมือของเธอกำลังเดินเข้าไปใกล้เลขสิบสองมากขึ้นทุกที
“แคท!!” ซินดี้ร้องเสียงหลง เธอรีบดึงแก้วที่อยู่ในมือของผู้หญิงตรงหน้าออกอย่างเร็วเมื่อเห็นว่าหล่อนกำลังจะกระดกเหล้าเข้าปากอีกเป็นรอบที่ร้อย
“นี่ยูดื่มมากไปแล้วป่ะ เดี๋ยวก็เมาตายหรอก”
“ตายก็ช่างแม่งมันเลย!!!” คนถูกห้ามสบถเสียงดังก่อนจะกระชากแก้วที่ถูกแย่งไปกลับคืนมาโดยไม่สนใจคำทัดทานเมื่อครู่แม้แต่น้อย
ใบหน้าที่งดงามราวกับรูปปั้นกรีกโบราณขมวดคิ้วจนเป็นปม เธอถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายด้วยหมดแรงจะห้าม
ปกติเพื่อนรักคนนี้ก็ดื้อดึงเป็นปกตินิสัยอยู่แล้ว แต่เวลานี้หล่อนอยู่ในภาวะเมามายจนหน้าแดงก่ำและหายใจออกมาเป็นกลิ่นแอลกอร์ฮอร์ขนาดนี้
เห็นทีคงมีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่จะห้ามเธอได้
“แคท...ยูมีสติหน่อยได้มั้ย”
“ไอ
แฮฟ สติ!!!”
“ค่ะ!” เพื่อนสาวอีกคนกระแทกเสียงประชดประชันในโทนเดียวกัน
พลางส่ายหน้าให้คนขี้โวยวายอย่างระอา ไม่มีคนมีสติที่ไหนจะโวยวายไร้เหตุผลอย่างนี้หรอก “...ซินดี้ ไอว่าพามันกลับบ้านเหอะ
ก่อนที่เจ้าของร้านจะมาไล่อ่ะ”
“ใครกล้าไล่...ไหน??” ไม่ถามเปล่าคนขี้เมายังลุกขึ้นยืนแล้วเดินอาดๆไปที่เคาท์เตอร์ที่มีบาร์เทนเดอร์ผู้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ประจำอยู่
ภายในสามวินาทีเมทินียืนจังก้าประจันหน้ากับชายหนุ่มด้วยตาที่ลืมได้เพียงครึ่ง ความไม่มีสติของฝ่ายหญิงทำให้ไม่ทันสังเกตว่าคนตรงหน้าเธอเป็นชายหนุ่มหน้าตาดีทีเดียว
ถ้าประเมินด้วยสายตาอายุน่าจะอยู่ในช่วงไม่เกินสามสิบปี ด้วยส่วนสูงและองค์ประกอบทางกายภาพทุกอย่างถือว่าจัดอยู่ในระดับแรร์ไอเท็ม
ซึ่งหากอยู่ในภาวะปกติเด็กน้อยคนนี้คงถูกเธอแทะโลมจนเหลือแต่กระดูกไปแล้ว
“ยูหรอ??? กล้าไล่อ่ออ” เมทินีถามน้ำเสียงโยเย สาบานได้ว่าต่อให้หูดีขนาดไหนแทบจะฟังไม่ได้ศัพท์
บาร์เทนเดอร์หนุ่มชี้นิ้วกลับมาที่ตัวเอง เพราะไม่แน่ใจว่าเธอกำลังพูดกับเขา “รู้มั้ยนี่ใคร ลูกเกดนะ ลูกเกด เมทินี ซุปเปอร์โมเดลอันดับหนึ่งอ่ะ...รู้จักอ๊ะเปล่า
ห้ะ!!”
“โหย นังแคทตี้ กล้าพูด...” ซอนย่าอดไม่ได้ที่จะหมั่นไส้ คนผิวแทนคว่ำปากจนโค้งเมื่อได้ยินลูกเกดหรือที่คนสนิทของหล่อนมักจะเรียกกันติดปากว่าแคทตี้พูดอุปโลกยกหางตัวเอง
ซึ่งถ้าเอาเข้าจริงเธอก็ไม่เถียงหรอก ฝีมือการเดินแบบของเพื่อนเธอคนนี้โดดเด่นและมีเอกลักษณ์จนซอนย่าเองยังอดชื่นชมไม่ได้ ถ้าหากช่วงก่อนหน้านี้หล่อนไม่ห่างหายไปจากวงการเสียก่อน ซอนย่าก็เชื่อว่าไม่มีใครสามารถโค่นตำแหน่งนี้ลงจากเธอได้อย่างแน่นอน
“...เป็นซุปเปอร์โมเดลแต่ผัวทิ้งอ่ะ
รู้จักมั้ยยย ฮือออออ”
จบประโยคคนร่างสูงก็ปล่อยโฮออกมาแบบลืมอาย
ซอนย่าต้องเข้ามามาดึงตัวหล่อนกลับไปที่โต๊ะ พร้อมๆกับที่ซินดี้เรียกบริกรมาคิดเงินแบบด่วนๆ
เพราะถ้าขืนอยู่นานกว่านี้ พรุ่งนี้เช้าคงไม่วายได้เห็นพาดหัวข่าวเรื่องที่เธอเพิ่งโพล่งออกไปบนหนังสือหัวบันเทิงทุกฉบับแน่ๆ
“อย่าไปถือมันเลยนะคะ
เพื่อนพิมมันบ้า” นางแบบสาวหันไปยิ้มแหยๆให้บาร์เทนเดอร์หน้าหล่อ โชคดีที่เขาไม่ได้คิดว่าเป็นเรื่องใหญ่อะไร
ชายหนุ่มเม้มปากแล้วยิ้มแถมยังเสนอตัวเข้าไปช่วยพิมพยุงลูกเกดไปส่งที่รถด้วยคิดว่าลำพังผู้หญิงผอมบางสองคนคงจะเอาไม่อยู่อีกด้วย
เมื่อจัดการเคลียร์ทุกอย่างเรียบร้อย
คนทั้งสามก็ลากคนเมาออกมาหน้าร้านจนได้
ซินดี้กดโทรศัพท์เรียกคนขับรถของพวกเธอทั้งสามให้มารับ รถแวนสามคันแล่นมาจอดเรียงกันภายในเวลาอันรวดเร็ว
คนขับรถของลูกเกดเมื่อเห็นสถาพโดนหิ้วปีกของเจ้านายตัวเองเข้าก็ตกใจรีบลงมาเปิดประตูรถให้
“ไปส่งนางที่บ้านใหญ่นะคะ”
ซินดี้บอกคนขับรถ เขาพยักหน้ารับคำอย่างเข้าใจก่อนจะพยายามช่วยพยุงเจ้านายที่มีสภาพดั่งลำยองของตนเข้าไปนั่งในรถ
แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อนางแบบสาวคนเดิมเกิดพะอืดพะอมขึ้นมาอย่างเฉียบพลันแล้วหันหลังกลับไปอ้วกใส่บาร์เทนเดอร์ผู้หล่อเหลาผู้ที่ช่วยประคองเธอมาตั้งแต่อยู่ในร้าน
เสื้อตัวนอกของเขาเลอะอาเจียนจนเหม็นคลุ้ง ซินดี้และซอนย่าหันไปมองสิ่งที่เกิดขึ้น
เธอทั้งคู่เหวอจนพูดไม่ออก
“ไม่เป็นไรครับ
ผมโดนประจำ” เขาตอบติดตลก บาร์เทนเดอร์หนุ่มไม่อยากเสียลูกค้า จึงพูดโกหกให้ทุกคนสบายใจ
พูดจบก็ได้แต่ยืนหัวเราะฝืดๆและยิ้มตอบกลับไป ในขณะที่คนทำเรื่องนั้นสลบไสลไปแล้วและไม่มีที่ท่าว่าจะรู้ตัวซักนิด...
หลังจากขับรถออกมา
ทั้งซินดี้และซอนย่าตกลงกันว่าจะไปส่งลูกเกดที่บ้านของเธอก่อนแล้วค่อยแยกย้ายกลับบ้านใครบ้านมัน
ซึ่งใช้เวลาเพียงสิบห้านาทีก็มาถึงสถานที่ที่ถูกเรียกว่า “บ้านใหญ่”
บ้านใหญ่คือชื่อเรียกบ้านหลังที่เป็นบ้านของเมทินีเอง
เธอสร้างมันไว้ด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเองก่อนที่จะแต่งงาน บนที่ดินหนึ่งผืนนั้นถูกแยกออกเป็นสองส่วนคือบ้านสำหรับแม่และเหล่าน้องชายของลูกเกดหลังหนึ่ง
ส่วนอีกหลังหนึ่งถูกสร้างไว้เพื่อรับรองแขกหรือญาติๆที่มักจะแวะมาเยี่ยมเยียนกันอยู่ไม่ได้ขาด
ซึ่งหากรวมตัวลูกเกดเองโดยไม่นับแม่บ้านล่ะก็บ้านหลังนี้จะประกอบด้วยสมาชิกถึง 6 คนเลยทีเดียว
หลังจากลูกเกดแต่งงานและแยกครอบครัวออกไปอยู่บ้านที่สร้างไว้เป็นเรือนหอของเธอกับสามี
เธอก็เรียกบ้านหลังนี้ว่าบ้านใหญ่มาโดยตลอดเพราะขนาดพื้นที่ที่ใหญ่และมีสมาชิกครอบครัวอาศัยอยู่กันอย่างครึกครื้นนั่นเอง
ช่วงหลังลูกเกดไม่ได้กลับมานอนบ้านหลังนี้บ่อยนักด้วยจะใช้ชีวิตอยู่กับสามีที่บ้านอีกหลังเป็นหลัก
นอกจากว่าจะเป็นช่วงเทศกาลหรือมีเหตุจำเป็นจริงๆ การกลับมาที่บ้านใหญ่ของเธอโดยไม่ได้บอกคนที่บ้านล่วงหน้าในคืนนี้จึงสร้างความประหลาดใจให้กับสมาชิกทุกคนเป็นอย่างมาก
“ตายแล้ว!! ยัยเกด!” คนเป็นแม่ที่เพิ่งโผล่พ้นประตูรั้วมาร้องเสียงหลงเมื่อเห็นลูกสาวคนโตของบ้านอยู่ในสภาพไร้ความสามารถในการดูแลตัวเองโดยสิ้นเชิง
เธอรีบบอกให้มาร์คและไมค์ลูกชายฝาแฝดเข้าไปรับช่วงประคองพี่สาวต่อจากซินดี้และพิมด้วยความร้อนรน
อันที่จริงนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอเห็นเมทินีเมามาย ลูกสาวคนนี้ไม่ใช่คนเรียบร้อยและเป็นสายปาร์ตี้ตัวยง
ยิ่งตอนเป็นสาวๆ หล่อนก็เที่ยวชนิดหัวราน้ำแบบที่ว่าไม่เมาไม่กลับบ้านอยู่แทบทุกคืน แต่ในความเป็นเมทินีเธอก็มีความรับผิดชอบ
ผู้หญิงคนนี้ไม่เคยเมาจนดูแลตัวเองไม่ได้เลยซักครั้ง
“ทำไมเกดเป็นแบบนี้ล่ะ”
.
.
“เอิ่กก”
"อื๋อออ@#$%&*?!..."
เสียงเรอดังสนั่นพร้อมกลิ่นเหล้าผสมอาเจียนทำเอาคนรอบตัวลูกเกดบิดหน้าหนีไปคนละทิศละทาง
ในขณะที่เจ้าตัวก็ไม่ได้รับรู้ถึงวีรกรรมรอบสองของตัวเองนี้แม้แต่น้อยเหมือนเดิม มิหนำซ้ำยังทำเสียงแจ๊บๆ
เหมือนเด็กที่ชอบนอนน้ำลายยืดใส่แม่เป็นของแถมอีกต่างหาก
“...แคท
ยูdisgustingอ่ะ”
“ไปๆ
ช่างเหอะไมค์ พาพี่เข้าบ้าน เกดมันจะได้พักผ่อน” คนเป็นแม่ออกคำสั่งอีกครั้งและสองแฝดก็ทำตามที่แม่สั่งแต่โดยดี
เมื่อคนอื่นๆกลับเข้าบ้านไปหมด คงเหลือแต่เธอ ซินดี้ และซอนย่า
คนเป็นแม่จึงได้โอกาสซักถามความจริงว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับลูกเธอกันแน่
แล้วสองสาวก็เล่าให้ฟังถึงสิ่งที่ทำให้ซุปเปอร์โมเดลเสียใจอย่างหนักจนกลายร่างเป็นซุปเปอร์ลำยองในค่ำคืนนี้...
.
.
“เกดเค้าเพิ่งจับได้ว่าสามีตัวเองมีเมียน้อยค่ะแม่...เมื่อเช้านี้เอง...”
TALK
สวัสดีค่ะรี้ดเดอร์ผู้น่ารัก ไสย คิ้วท์ ทุกคน ก่อนอื่นขอขอบอก ขอบใจ ขอบคุณ เรียงตามอายุเลย สำหรับคนที่รออ่านตั้งแต่ฟิคนี้มีแค่ชื่อเรื่อง 555 และกดเฟบโดยที่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเนื้อหาจะออกมาแนวไหน ถถถถ บอกก่อนเลยว่า อย่าคาดหวังอะไรจากฟิคของเราเรื่องนี้ ดราม่าเอย อะไรเอย ลืมไปค่ะ เพราะ #ficbreakfast ไม่อุดมดราม่าเหมือนเดอะเฟสแน่นวล
เรือเกดช่าลำนี้ลอยเบาๆฮะ ไม่ฝ่าฟันคลื่นลมอะไรมาก อย่างมากก็แค่กรุบกริบๆ น้ำเน่านิดๆ เนื้อหากลางเรื่องจะเป็นยังไงนี่สารภาพเลยว่ายังไม่ได้คิดด้วย กี๊สสส แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องรีบเข็นออกมาก่อนที่โมเม้นท์ผีๆจะหมดไป โถ่วว ไม่ถูกใจประการใดต่อว่า ติชมได้นะคะ แต่ห้ามหยาบคาย เดี๋ยวไรท์ร้องไห้นะเออ
สุดท้ายนี้อย่าเอาความจริงอะไรจากฟิคเรื่องนี้ ทั้งคาแรคเตอร์ตัวละคร ฉากเมืองที่เกริ่นๆมานานา ล้วนแล้วแต่เกิดจากจินตนาการของตัวรี้ดเองทั้งสิ้น ไม่เกี่ยวกับชีวิตจริงของพี่เกดและพี่ช่าแต่อย่างใดนะคะ
อ่านเอาบันเทิงนะคะ อ่านอย่างมีสติ อินได้แต่อย่าอินเกิน 555
ถูกใจไม่ถูกใจก็ติชมเม้นบอกกันบ้าง 1คอมเม้นท์ เท่ากับ 1กำลังใจ น้า จุ๊บ
ปล.สำหรับรี้ดฟิค สคนง. พี่นัสยังไม่ได้ล้มหายตายจากนะคะ ขอโทษด้วยที่อัพช้า ไรท์ไม่เทแน่นอนค่ะแต่ตอนที่ค้างอยู่มันเขียนยากม้ากกก ขอเวลากันหน่อยนะคนดี อย่าเพิ่งถอนเฟบกันล่ะ แล้วจะลงให้ในไม่ช้าแน่นอนค่า
ด้วยรักและไม่เท
The Libran
ผลงานอื่นๆ ของ The Libran ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ The Libran
ความคิดเห็น