เคยเจ็บปวดตรงหน้าอกเมื่อนึกถึงใครคนนึงไหม ? - นิยาย เคยเจ็บปวดตรงหน้าอกเมื่อนึกถึงใครคนนึงไหม ? : Dek-D.com - Writer
×

    เคยเจ็บปวดตรงหน้าอกเมื่อนึกถึงใครคนนึงไหม ?

    ใคร ๆ ก็ต่างเจอเรื่องที่ไม่ดีทั้งนั้นทั้งคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิต และจากไปไม่แม้แต่จะลา

    ผู้เข้าชมรวม

    44

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    44

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  อื่นๆ
    จำนวนตอน :  0 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  13 ก.พ. 64 / 22:49 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    บทที่ 1 เคยรู้สึกเจ็บปวดตรงหน้าอกเมื่อนึกถึงใครบอกคนไหม ?

                   ถ้าให้เดาทุกคนที่เกิดมาก็ต้องเคยมีเรื่องที่ทำให้ปวดใจทั้งนั้น ทั้งความผิดหวัง ความเสียใจ ความเศร้า หรือแม้แต่การจากลา ใคร ๆ ในที่นี้ก็คงเคยประสบพบเจอกันมาแล้วบ้าง แต่ถ้าหากคนที่เรานึกถึงทุกครั้งมื่อเจ็บปวดใจไม่มีทางกลับมาละ ? พวกคุณจะทำยังไง

                   เราเป็นคนนึงที่เคยเจอเรื่องร้าย ๆ มาและทุกแล้วครั้งเล่าที่เรานึกถึงเรื่องพวกนั้น เราจะรู้สึกเจ็บ อึดอัดที่หน้าอกตลอดเวลา ตอนแรกที่เราเสียอาม่าไปเราเสียใจมากจนเก็บหชน้ำตาไว้ไม่อยู่ เราเจ็บปวดใจมากตอนนั้น เรายังจำความรู้สึกนั้นได้ดี เพราะทุกกครั้งที่เรานึกถึงอาม่า เรามักนึกถึงเรื่องดี ๆ ที่เคยทำมาด้วยกันมันทำให้เราไม่อยากเสียอาม่าไปเลยชีวิตนี้

                   แต่การเติบโตเป็นผู้ใหญ่บนโลกนี้น่ะแสนเจ็บปวด ทุกครั้งและทุกก้าวที่เราเติบโต ที่เราเรียนรู้และที่เราประสบพบเจอมันหล่อหลวมให้เรากลายเป็นคนที่ไม่มีความรู้สึก แต่มันจะจริงแน่หรอที่เราจะไม่รู้สึกอะไรอีกเลยในชีวิตนี้ เราเริ่มคิดแบบนี้เมื่อเราพึ่งอายุได้คแค่ 15 ปีเท่านั้น จนเหตุการณ์ที่เป็นจุดเปลี่ยนชีวิตเราได้มาถึง นั้นคือวันที่เราเสียพ่อผู้เป็นที่รักและที่พึ่งสุดท้าย

    เราจำได้ดีทั้งกลิ่นในโรงพยาบาล อากาศที่เย็น มือของพ่อที่เย็นแต่มันกลับทำให้เรารู้สึกอุ่นแปลก ๆ อาจเป็นเพราะตอนที่พ่อปกติดี เราไม่เคยจับมือพ่อเลย ตอนนั้นราจำได้ว่าเราอธิษฐานให้พ่อนั้นปลอดภัยแล้วกลับมาหาเราและพี่สาวอีกครั้ง ทุกคนเชื่อเราไหมว่าตอนที่หมอเดินมาบอกว่าพ่อเราไม่ไหวแล้ว ตอนนั้นเรารู้เลยว่าพ่อเราจากไปวันนี้แน่ ๆ เราทำใจไม่ได้เลยเดินออกมาจากห้องคนไข้ นั่งร้องไห้คนเดียวตรงนั้นเงียบ ๆ เราอยากระบายความรู้สึกที่มีในอกตอนนั้นมาก ๆ ยังดีที่ตอนนั้นเพื่อนโทรมาถามว่าเราโอเคดีหรือเปล่า เราเลยได้มีโอกาสพูดในสิ่งที่อยู่ในใจเรามานาน สิ่งที่อยู่ในใจเราที่ไม่เคยพูดออกมา...

    แต่เมื่อเรากลับมาที่ห้องคนไข้ พวกพี่สาวมองหน้าเราด้วยความโกรธและใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตา จนมีพี่สาวคนนึงพูดขึ้นมาว่า ตอนพ่อเสียไปอยู่ไหนมา ไม่รักพ่อหรือไงเอาแต่สบายหรอชีวิตนี้ ได้ยินแบบนั้นแล้วเรายิ่งปวดใจ จู่ ๆ รอบขอบตาเราก็ร้อนขึ้นมา ตอนนั้นเราอยากร้องไห้มาก ๆ เราจำได้ทั้งหมด ทั้งน้ำเสียงที่โดนพี่สาวด่า ที่โดนกล่าวหาว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้พ่อจากไปเร็วแบบนี้ ตั้งแต่นั้นมาเราโทษตัวเองตลอด และทุกครั้งที่ไปไหว้พ่อ เราเจ็บตรงหน้าอกแปลก ๆ มันเจ็บมากจนเราไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้เลย สิ่งที่เราทำได้ก็เพียงแค่ยืนปล่อยให้น้ำตาไหลออกไปตามความรู้สึก

                                                                                         บท 2 ความทรงจำที่อยากลืม

    หลังจากที่เราเริ่มทำใจเรื่องพ่อได้ แต่ความสัมพันธ์กับคนในครัวครอบเรานั้นแย่ลง อาจเป็นเพราะพวกพี่สาวในบ้านต่างพากันโทษว่าการจากไปของพ่อนั้นเป็นความผิดของเรา แน่นอนว่าเราไม่ได้พูดอะไรกลับไป หลังจากทำเรื่องที่โรงพยาบาลเสร็จ พวกเราต่างกลับบ้านแล้วไม่มีใครเริ่มบทสนทนาระหว่างทาง เมื่อเราถึงบ้านทุกคนต่างรีบขึ้นห้อง ในใจของทุกคนตอนนั้นคงรู้อยู่แก่ใจว่า คนที่เสียไปแล้วต่อให้ร้องไห้ยังไงก็ไม่มีทางกลับมา

    ช่วงนั้นเป็นช่วงที่เราต้องทำเรื่องสอบเข้าศึกษาเรียนต่อระดับมอปลาย ซึ่งเป็นช่วงที่ยุ่งมาก ทั้งงานของพ่อ ทั้งการอ่านหนังสือเพื่อเตรียมสอบ เราจำได้ว่าเราอ่านหนังสือสอบ คิดเรื่องพ่อ เรื่องคนในครอบครัวจนเราลืมหาโรงเรียนที่เราจะเข้าไปเรียนต่อในมอปลาย แต่ก็ยังถือว่าเป็นโชคดีของเราที่มีเพื่อนเก่าติดต่อมาถามว่าเรียนต่อไหน ถามกันไปถามกันมาเพื่อนคนนั้นเลยแนะนำให้เราไปสอบที่เดียวกัน อาจโชคดีสอบติดและได้เรียนห้องเดียวกัน นี่อาจจะเป็นการเริ่มต้มใหม่ที่ดีก็ได้นะ คิดบวกเข้าไว้

    ในวันที่ประกาศผลสอบ เรากับเพื่อนต่างพอกันตื่นเต้น กังวล เมื่อผลสอบออกมาแล้วปรากฏว่าเราอยู่คนละห้องกัน แต่นั้นก็ไม่ได้ทำให้เราทั้งสองมีสูญเสียความเป็นเพื่อนกันไปในช่วงแรก พวกเรารอเข้าโรงเรียนพร้อมกัน รอเลิกเรียนแล้วกลับบ้านพร้อมกัน ถึงสายการเรียนที่เราเรียนจะมีเวลาเลิกเรียนที่แตกต่างกัน แต่เราสองคนมักรอกันเสมอ และมีบางครั้งที่พากันไปเที่ยวหลังจากเรียนมาเหนื่อย ๆ

    จนกระทั่งวันนึงเราตระหนักได้ว่า การที่เราเอาแต่ยึดติดกับเพื่อนคนนี้ทำให้เราไม่มีเพื่อนในห้องเลย ปัญหาอาจมาจากที่เราหยุดเรียนบ่อยในช่วงเทอมแรก นั้นก็เพราะเรามีปัญหากับทางบ้าน เราจึงตัดสินใจคุยกับเพื่อนเรื่องนี้ ซึ่งเป็นที่น่ายินดีที่เพื่อนคนนี้รับฟังและเข้าใจ ช่วงเราหาทางออกที่ดีที่สุด เพื่อนให้คำแนะนำว่าต้องเข้าสังคม ยิ้มเข้าไว้ ตั้งใจเรียน เรียนเก่ง ๆ จะได้มีเพื่อนเยอะ เราตั้งใจฟังและทำตามแต่โดยดี จนกระทั่งครูประจำชั้นเรียกเราไปคุยเรื่องที่เรานั้นหยุดเรียนไปเยอะจนหมดสิทธิ์สอบไปหลายวิชา ทั้งที่เราก็เป็นเด็กฉลาด ครูจึงเสียดายความสามารถเรา

                   ครูประจำชั้นนั้นต่างถามหาเหตุผลที่เราหยุดเรียนไป เราคิดว่าครูไว้ใจได้จึงเล่าทุกอย่างไป หลังจากเหตุการณ์นั้นถัดมาสัปดาห์นึง ครูได้ไปเยี่ยมบ้านเรา และไปพูดเรื่องนี้กับพวกพี่เรา และแน่นอนว่าพี่สาวปฏิเสธทุกอย่างและโกหกว่า สิ่งที่เราพูดคือสิ่งที่เราแต่งขึ้นมาเอง ตอนนั้นครูประจำชั้นเราหันมามองเราด้วยสายตาที่เราก็บอกไม่ถูกและได้เริ่มด่าเราต่อหน้าพี่สาว ไม่มีใครห้ามครูเลย พี่สาวเราก็ยิ้มยินดีให้ครูด่า เราจำคำพูดได้ดี นี่เธอกล้าโกหกหน้าด้านต่อหน้ารูปพ่อของเธอหรอ   เสียแรงนะที่ครูอุตส่าห์ห่อมาถึงบ้านเธอเพื่อเคลียร์ปัญหาให้ “ “ ไม่แปลกที่คนอย่างเธอไม่มีใครคบ เพราะขี้โกหกไง  ตอนนั้นเราทำสีหน้าไม่ถูก เราจึงยิ้มตอบ แต่เรากลับโดนครูด่ากลับมาด้วยคำที่แรงกว่าเดิม เราทำได้แค่ก้มหน้าแล้วตอบแค่คำว่า ค่ะ” “ ขอโทษค่ะ ...

                   หลังจากที่ครูกลับไป เรารีบขึ้นมาบนห้องเราและเริ่มร้องไห้ ตอนนั้นหูอื้อ ทำไรไม่ถูก อยากหายไป จนเพื่อนในห้องคนนึงทักมา ถามว่าครุเยี่ยมบ้านเป็นไงบ้าน เราไว้ใจเพื่อนคนนี้จึงโทรไปหาและเริ่มเล่าเรื่องที่เกิดขึ้น เพื่อนปลอบเราผ่านทางโทรศัพท์ ทำให้เรารู้สึกดีขึ้นมา และเราทั้งสองก็วางสายไป

                   ถัดมาอีกวันเมื่อเรามาโรงเรียน เพื่อน ๆ ในห้องก็มองเราด้วยหน้าแปลก ๆจนเพื่อนที่นั่งข้างหลังบอกให้เราอ่านไลน์ห้อง พอเราเปิดอ่านเราเห็นข้อความที่ครูเรียกพบเราและเพื่อนคนที่เราโทรคุยด้วยเมื่อวาน เรารู้อยู่แก่ใจอยู่แล้วว่าต้องไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่นอน  เมื่อเราไปถึงห้องครูพร้อมเพื่อนคนนั้น ครูก็เริ่มถามเราว่า เราเล่าอะไรให้เพื่อนฟัง ครูด่าอะไรเรา ? เราก็ไม่กล้าตอบจนครูหงุดหงิดและด่าเราด้วยคำหยาบอีกครั้ง ก่อนจะหันไปถามเพื่อนคนนั้นว่าเราเล่าอะไรให้ฟัง เพื่อนเราบอกว่า เขาบอกว่าครูด่าเขาค่ะ ตอนโทรมาก็ร้องไห้ ด่าครูให้หนูฟังด้วย ตอนนั้นเราทั้งงงและไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น พูดแบบนั้นทำไม พอเพื่อนคนนั้นพูดจบครูประจำชั้นเราก็เริ่มหันมาต่อว่าเรา และเรียกหัวหน้าห้องมาและเริ่มเล่าความลับของเราให้หัวหน้าห้องและเพื่อนคนนั้นฟัง...

                   เมื่อเรากลับมาที่ห้องเพื่อเตรียมเรียนคาบต่อไป เรานั่งเล่นโทรศัพท์รอครูมา จู่ ๆ ก็มีเพื่อนผู้ชายในห้องคนนึงทักข้อความาหาเรา บอกว่า จริง ๆ ในห้องไม่มีใครเกลียดเราหรอกแต่เพื่อนคนนั้นและหัวหน้าห้องไม่ชอบเราที่จู่ ๆ ก็มาเรียนดีเป็นลูกรักครูหลายท่าน ตอนนั้นเราไม่เข้าใจทุกอย่าง ไม่เข้าใจโลกนี้ ไม่เข้าใจทุกคนบนโลก เราคิดย้อนกลับไปตอนดีใจที่สอบเข้าที่นี่ได้ เราคิดย้อนกลับไปตอนเสียพ่อ

                   ถ้าตอนนั้นเราอยู่ตอนพ่อเสียละ ? ถ้าตอนนั้นเราไม่ได้มาสอบที่นี่ละ ? ทุกอย่างจะเป็นยังไงนะ เราเหนื่อยกับชีวิตเราตอนนั้นมาก จนอยากลืมทุกอย่าง ลืมคำพูด ลืมสายตาที่มองมา 

     

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น