ชื่อ : โทคุโร่ มิยาโมโตะ
อายุ: 27 ปี
สูง: 185
โค้ดเนม: revenant
พลังและความสามารถของพระเอก
พระเอกเรื่องนี้ผมจะให้เขามีพลังแบบในเกมส์metal gear rising revengeanceนะครับ เป็นฝีมือดาบและการต่อสู้เหมือนตัวละคร raidenกับsam ผสมรวมกันนะครับร่วมถึงอาวุธและชุดเกราะที่เพราะเอกใส่ก็ด้วยนะครับแล้วก็ความอัจฉริยะของพระเอกเองก็เท่ากับโทนี่สตาร์ค ง่ายพระเอกเก่งแล้วก็โหดสัสๆเลยน่ะครับ
ประวัติ
โทคุโร่ มิยาโมโตะเป็นลูกชายคนเดียวของตระกูลมิยาโมโตะซึ่งเป็นตระกูลเก่าแก่บรรพบุรุษของตระกูลเป็นเชื้อสายของซามูไรผู้สืบทอดจิตวิญญาณซามูไรผู้พิทักษ์(เหมือนจิตวิญญาณมังกรของเกนจิหรือฮันโซน่ะครับ)ด้วยเหตุผลตระกูลมิยาโมโตะจึงมีความสนิทสนมใกล้ชิดกับกลุ่มพันธมิตรคาเนซากะเป็นอย่างมากโดยโทคุโร่มีความสนิทสนมกับเด็กสาวคนนึงเป็นอย่างมาก คิริโกะ
การพบพานกันครั้งแรก
"ฮ่ะฮ่าาาาา......เจ้าเด็กตัวประหลาด.....เจ้าเด็กตัวประหลาด.....เจ้าเด็กตัวประหลาด.....ฮ่ะฮ่าาาา" เสียงของเด็กมากดังขึ้นพร้อมกับทำท่าทางล้อเลียนให้กับหญิงสาวตัวน้อยที่ตอนนี้เธอกำลังพยายามรักษาแรคคูนตัวนึงอยู่
แต่แล้วในขณะที่เธอกำลังรักษาจู่ๆก็ได้มีก้อนหินปาใส่ที่เธอคิริโกะที่เห็นแบบนั้นก็ทำได้แต่รับชะตากรรมเพื่อไม่ให้แรคคูนตัวนั้นได้รับบาดเจ็บมากไปกว่านี้แล้ว
"ปึ๊ก!!!!.......ออกไปให้ห่างจากเธอนะโว้ย!!!" ก้อนหินที่ถูกปาใส่คิริโกะถูกปัดออกก่อนจะมีเสียงเด็กหนุ่มดังขึ้นจนทำให้เด็กกลุ่มนั้นวิ่งหนีออกไป
"เธอ.......เป็นอะไรไหม" เด็กหนุ่มปริศนาเอ่ยพร้อมกับก้มลงไปดูเด็กสาวตรงหน้าที่นี้นอนกอดเจ้าแรคคูนตัวนั้นอยู่ คิริโกะที่ได้ยินอย่างนั้นก็ได้หันไปมองที่ต้นเสียงที่เรียกเธอ
"เธอไม่เป็นไรนะ.....ยัยตัวน้อย" เด็กหนุ่มคนนั้นเอ่ยก่อนจะเข้าไปดูเด็กสาวใกล้ๆ
"ห.....หนู.....หนูไม่เป็นไร" คิริโกะเอ่ย
"ฮึ.....ดีแล้วมาลุกขึ้นเถอะ.......เธอเก่งมากนะที่ปกป้องเจ้าตัวเล็กนั้นน่ะ" เด็กหนุ่มเอ่ยก่อนจะพยุงตัวของคิริโกะให้ลุกขึ้นก่อนเขาจะมองไปที่แรคคูนตัวนั้นที่ตอนนี้เหมือนจะหายดีแล้ว
แรคคูนตัวนั้นลุกขึ้นมองไปที่คิริโกะก่อนที่มันจะทำท่าทางขอบคุณให้กับคิริโกะก่อนที่มันจะวิ่งหนีหายไปในป่า
"พี่ชายๆ.....ขอบคุณนะคะที่พี่ชายปกป้องหนูไว้" คิริโกะเอ่ย
"ไม่เป็น.....มันเป็นหน้าที่ของฉันอยู่แล้ว......เดี๋ยวฉันไปส่งเธอที่บ้านนะ" เด็กหนุ่มเอ่ย
"หนูขอจับมือกับพี่ชายได้ไหม" คิริโกะเอ่ย
เด็กหนุ่มหันมายิ้มให้กับเธอก่อนจะยื่นมือไปให้เธอจับ เด็กสาวที่เห็นแบบนั้นได้ยิ้มออกมาอย่างดีใจก่อนคว้าไปที่มือของเด็กหนุ่ม
"เธอชื่ออะไรเหรอ......ฉันชื่อ...โทคุโร่...มิยาโมโตะ" โทคุโร่เอ่ย
"หนูชื่อ...คิริโกะ...คาโมริคะ" คิริโกะเอ่ยพร้อมกับสีหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างสดใส
ช่วงเวลาแห่งความสุข
เป็นเวลาสี่ปีที่ทั้งสองได้รู้จักกันและเหมือนชะตาฟ้าจะเป็นใจ ตระกูลของคิริโกะกับโทคุโร่นั้นมีควาสัมพันธ์อันดีต่อกันด้วยเหตุนี้ทั้งสองจึงได้ใกล้ชิดกันมากขึ้นคิริโกะตามติดโทคุโร่ไปทุกที แม้กระทั่งต้องฝึกดาบผู้สืบทอดของสามตระกูลได้ฝึกดาบสำนักเดียวกัน ตัวของโทคุโร่นั้นเป็นที่โดดเด่นในการฝึกดาบเป็นอย่างมากจนถึงกับทำให้แม่ของคิริโกะที่เป็นคนสอนฝึกดาบนั้นแปลกใจไม่ใช่น้อย แม่ของคิริโกะจึงไว้วางใจให้กับโทคุโร่ให้ดูแลการฝึกฝนของลูกสาวของเธอในเวลาที่เธอไม่อยู่หรือในเวลาที่เธอยุ่งอยู่กับสองพี่น้องตระกูลชิมาดะ
"นี่ๆ.....พี่โทคุโร่ข้าเหนื่อยแล้ว.....ข้าหิวขนมพาข้าไปกินขนมหน่อยได้ไหม" คิริโกะเอ่ยร้องคร่ำครวญออกมา
"อะไรกันคิริโกะเราเพิ่งฝึกได้แค่ชั่วโมงเดียวเองนะ.....อย่าเพิ่งขี้เกียจซิ" โทคุโร่เอ่ยดุเล็กน้อย
"แต่ข้าเหนื่อยแล้วนิ.......พาข้าไปกินขนมฝีมือคุณยายหน่อยเถอะน่ะพี่โทคุโร่.....น้าาาาาาา" คิริโกะเอ่ยพร้อมกับเดินเข้าไปกอดโทคุโร่พร้อมกับส่งสายตาที่ออดอ้อนไปหาเขา
โทคุโร่พยายามหลบสายตาของเธอแต่คิริโกะนั้นได้กอดเขาแน่นขึ้นพร้อมกับพยายามส่งเสียงร้องออดอ้อนให้เขาได้ยินและแล้วโทคุโร่ก็ยอมใจอ่อน
"ก็ได้.....ฉันล่ะยอมเธอจริงๆเลยนะคิริโกะเล่นลูกไม้นี้กับฉัน....ฉันล่ะไม่เคยใจแข็งกับเธอได้จริงๆเลยนะ" โทคุโร่เอ่ยก่อนจะยิ้มออกมาอย่างช่วยไม่ได้
"เย้ๆ.....ข้ารักท่านพี่โทคุโร่ที่สุดเลย.....ไปกันเลยย" คิริโกะเอ่ยพร้อมกับกระโดดขึ้นไปขี่หลังของโทคุโร่อย่างเคยชิน
"ฮึๆ.....โอเคครับท่านหญิง" โทคุโร่เอ่ยออกมาพร้อมกับยิ้มและใช้มือเอื้อมลูบหัวของคิริโกะอย่างเอ็นดู
หลังจากนั้นทั้งสองคนก็ได้แอบย่องออกไปจากสำนักอย่างเงียบเชียบแล้วมุ่งตรงไปที่บ้านของคุณคิริโกะทันที
ไม่นานนักทั้งสองก็ได้มาถึงโดยมีคุณยายที่เหมือนรู้ว่าทั้งสองจะมาหา คุณยายได้เตรียมขนมและน้ำชาให้กับทั้งสองแล้ว
ทั้งโทคุโร่กับคิริโกะได้กินขนมสุดแสนอร่อยของคุณยายจนอิ่มแล้วนั้นคิริโกะได้ลงไปนอนหนุนตักของโทคุโร่ก่อนจะหลับไปเพราะด้วยความอิ่มแล้วก็เหนื่อยจากการฝึก
"ดูเหมือนหลานสาวฉันจะติดท่านมากเลยนะท่านโทคุโร่" คุณยายเอ่ยขึ้นพร้อมกับเดินมานั่งข้างๆของตัวเด็กหนุ่ม
"คุณยาย......ไม่ต้องเรียกผมว่าท่านก็ได้ครับผมไม่ถือเรื่องตระกูล" โทคุโร่เอ่ย
"โฮ๊ะๆ....ช่างเป็นเด็กหนุ่มที่อ่อนน้อมถ่อมตนจริงๆเลยนะ.....ต้องขอโทษแทนหลานสาวของยายด้วยนะที่เธอชอบอู้เรื่องฝึกซ้อม" คุณยายเอ่ย
"ไม่หรอกครับ.....คิริโกะเธอยังเด็กอยู่....ไม่แปลกที่แกยังอยากจะเล่นสนุกเหมือนกับเด็ก.....แล้วจริงๆมันก็ผิดที่ผมด้วยนะครับที่ตามใจแก.....เพราะตัวผมอยากเห็นรอยยิ้มที่สดใสร่าเริงของเธอ....ผมถึงได้ยอมตามใจเธอแบบนี้.....แต่ไม่ต้องห่วงไปนะครับท่านยายผมโทคุโร่...มิยาโมโตะผู้นี้ขอสาบานต่อหน้าดาบประจำตระกูลผมจะปกป้องดูแลคิริโตะด้วยชีวิตของผมนะครับ......เพราะงั้นไม่ต้องเป็นห่วงเธอไปนะครับ" โทคุโร่เอ่ยพร้อกับลูบไปที่หัวของคิริโกะอย่างอ่อนโยน
คุณยายที่ได้ยินอย่างนั้นก็ถึงกับพูดไม่ออกแต่ก็ยิ้มให้กับคำพูดของโทคุโร่
"โฮ๊ะๆ.....งั้นฉันขอฝากคิริโกะให้อยู่ในการดูแลของเธอด้วยนะ.....โทคุโร่คุง.......ว่าแต่จะแต่งกันตอนอายุเท่าไหร่ดีล่ะ" คุณยายเอ่ย
"คุณยายครับ!!!" โทคุโร่เอ่ยพร้อกับสีหน้าที่แดงก่ำไปทั่วทั้งหน้า
การจากลา
หนึ่งปีต่อมา
เช้าวันรุ่งขึ้นคิริโกะตื่นเช้าขึ้นด้วยความสดใสร่าเริงเธอรีบอาบน้ำแต่งตัวเพื่อที่จะไปรอโทคุโร่ที่จะเดินมารับเธอไปที่โรงฝึกเป็นประจำ
แต่แล้วในขณะที่เธอนั่งรออยู่นั้นแม่ของเธอก็ได้เดินเข้ามาหาเธอด้วยสีหน้าท่าทางตื่นตระหนก
"คิริโกะ......ทำใจดีๆนะ......โทคุโร่เขา.......ตระกูลของโทคุโร่เขาถูกโจมตี......ตอนนี้ของของตระกูลมิยาโตะตายหมดทั้งตระกูลแล้วลูก" แม่ของคิริโกะเอ่ยพร้อมกับร้องไห้ออกมา
คำพูดของแม่คิริโกะนั้นเหมือนกับสายฟ้าผ่าลงกลางใจของเธอ คิริโกะพูดอะไรไม่ออกเธอทำได้แต่ยืนอึ้งกับสิ่งที่ได้ยินแล้วคิดเข้าข้างตัวเองว่านั้นไม่เป็นความจริงนี่มันเป็นแค่ฝันเท่านั้น
คิริโกะไม่รอช้ารีบวิ่งออกไปจากบ้านและมุ่งตรงไปที่บ้านของตระกูลมิยาโมโตะทันทีโดยไม่ฟังเสียงร้องห้ามปรามของผู้เป็นแม่เลย
เธอวิ่งและวิ่งวิ่งอย่างไม่คิดชีวิตของเธอเพื่อมุ่งตรงไปที่บ้านของตระกูลมิยาโมโตะเพื่อที่จะได้เห็นด้วยตาของตนเอง
ทันทีที่ถึงจุดหมายหัวใจของคิริโตะกระตุกวูบทันทีที่เห็นสภาพที่ที่เคยถูกเรียกว่าบ้านแต่ตอนนี้เหลือแต่ซากเถ้าธุลีของความศูนย์เสีย
"พี่โทคุโร่!!!!!!!!!" คิริโตะตะโกนร้องออกมาจนสุดเสียงพร้อมกับปล่อยโฮออกมา
ตอนนี้หัวใจของเธอตอนนี้มันแหลกสลายไม่เหลือชิ้นดีชายผู้เป็นที่รักของเธอคนที่คอยปกป้องเธอคนที่ค่อย ปลอบประโลมคนที่ค่อยสนับสนุนเธอในเส้นทางที่เธอเลือกตอนนี้ไม่มีอีกต่อแล้ว
ความคิดเห็น