thunderbolt | รวมทีม
จุดเริ่มต้นการรวมทีมมหาวายร้ายที่จะมีชื่อก้องโลกในอนาคต
ผู้เข้าชมรวม
62
ผู้เข้าชมเดือนนี้
7
ผู้เข้าชมรวม
ณ สถานที่ไม่เปิดเผย
หน้าจอมอนิเตอร์หกจอและทั้งหกจอมีบุคคลทั้งหกที่อยู่กันคนละสถานที่ทั้งหญิงและชายบางคนอยู่ในบาร์ บางคนพลังลงมือสังหารบุคคลสำคัญอยู่ แถมบนโต๊ะยังมีแฟ้มข้อมูลของทุกคน หญิงสาวแต่งตัวคล้ายคลึงกับสายลับด้านหลังมีดาบคาตานะสั้นสะพายอยู่ เธอกำลังจ้องมองการกระทำของแต่ละบุคคล
“คนพวกนี้น่ะเหรอคะ..พ่อ”
ด้านข้างของเธอมีโทรศัพท์มือถือรุ่นพิเศษที่สร้างขึ้นสำหรับติดต่อเดียว ทันใดนั้นก็มีเสียงจากปลายสายพูดมาว่า
“ใช่ เธอต้องรวมทีมและทำตามปณิธานของตน”
“คนพวกนี้มีจุดประสงค์เดียวกับลูก”
“ถึงบางคนจะไม่ถูกกันก็เถอะ แต่ลูกจะควบคุมพวกเขาได้”
ทันทีที่กล่าวเสียงก็ตัดไปก่อนที่โทรศัพท์จะเกิดการช็อตขึ้น เธอลองหยิบเอกสารนั้นออกมาดู และเธอตกใจใช่น้อยสำหรับบุคคลเหล่านี้ที่เคยก่อเรื่องมา บางคนก็เป็นทหารฝีมือดีแต่ฆ่าเพื่อนร่วมทีมตัวเอง บางคนก็มียศใหญ่โต แต่ก็ต้องเสียเพื่อนรักจากภารกิจจึงเข้าสู่ด้านมืด จากที่เธออ่านมาเธอสะดุดตากับคนคนหนึ่งซึ่งเคยอยู่ในองค์กรเก่าของเธอ แต่ถูกไล่ออกเพราะทำภารกิจพลาดจนถูกจำคุก แต่แหกคุกที่ได้ชื่อว่า ‘นรกบนดิน’ ออกมาได้ เธอตัดสินใจได้ในทันทีว่าจะไปหาใครคนแรก
สี่วันต่อมา ณ ลอนดอน
ใจกลางกรุงลอนดอนพื้นที่ชุลมุนทั้งคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวต่างเดินชมแสงสียามราตรีที่ทอประกายไปทั่ว ในหมู่นั้นมีหญิงคนหนึ่งสวมผ้าคลุมขนนกสีแดงกลมลืนกับชุดราตรียืนอยู่กลางที่สะพานเวสต์มินสเตอร์เหมือนกำลังรอบางอย่างอยู่ เธอแลดูซ้ายขวาก่อนจะพบชายรูปร่างสูงสวมแว่นใส่ชุดทรงนักธุรกิจ เธอเดินเข้าหาอีกฝ่ายทันทีพร้อมตั้งใจเดินชนและแอบใช้ปักเข็มบางอย่างซึ่งมีพิษรวมถึงยาชาไว้
“ขอโทษค่ะ”
เธอกล่าวขึ้นก่อนจะเดินจากไปแบบเงียบ ๆ ก่อนที่ผู้ชายคนนั้นจะล้มลมเส้นเลือดของเขาเปลี่ยนเป็นสีเขียว ก่อนจะเริ่มคลุ้มคลั่งดวงตาของเขาเป็นสีแดงก่ำราวกับอสุรกาย แต่ตัวของเขาก็ระเบิดขึ้น
‘ยังไม่สำเร็จสินะ’
ในขณะที่เธอกำลังเดินก็คิดในใจไปพลาง ก่อนที่จะมีสาวสวยหนึ่งสวมชุดรัดรูปสีน้ำเงินเดินเข้ามาหาเธอ นางผู้นี้มีเรือนผมธวัล ชุดที่เข้ากับรูปทรงแถม ร่างเล็กราวกับเด็กวัยมัธยม แววตาที่ดุดันราวกับราชสีห์
“ว่าไง เจสสิก้า วอร์เท็กซ์ หรือจะให้พูดว่า ‘แรดธันเดอร์’ ดีล่ะ”
สาวงามผู้นี้เหมือนกันจะรู้จักเธอดีกว่าที่คิด เธอดูมีสง่าราศีจะว่าสายลับก็ไม่อวยเกินไป แต่จุดประสงค์จริง ๆ ของเธอคืออะไรกันแน่
“เธอต้องการอะไรกันแน่”
ในตอนนี้เจสสิก้าเตรียมที่จะชักมีดออกมาเป็นเผื่อเหตุฉุกเฉิน แต่คำพูดของสาวงามตรงหน้าทำให้เธอต้องอึ้งในทันที
“มาสร้างทีมกัน”
ประโยคดังกล่าวทำให้สาวชุดแดงที่ไม่เคยไว้ใจใครต้องคิดหนัก อีกฝ่ายเองก็ดูจะเป็นคนพันเดียวกับตน
“พวกผู้มีอิทธิพลเริ่มใช้อำนาจในทางมิชอบ ฉันเองก็ต้องการทำลายพวกมันเช่นเดียวกับเธอ ไม่ต้องขึ้นตรงกับฝ่ายใด ไม่มีข้อผูกมัดใด ๆ เพียงแค่รวมตัวกันเพื่อล้มล้างอำนาจเก่า”
สาวน้อยตรงหน้ายื่นข้อเสนอที่ไม่อาจปฎิเสธได้ให้กับเธอที่หรือที่จะไม่ตอบตกลง
“ได้ แต่ถ้าเธอขัดขวางละก็จงบั่นหัวตัวเองซะ”
คำพูดนั้นทำให้เด็กสาวตรงหน้ายิ้มขึ้นอย่างพึงพอใจแถมสายตายังดูเป็นมิตรขึ้นเยอะกว่าก่อนหน้านี้
“ไว้เจอกันที่นี่”
เธอยื่นกระดาษที่มีข้อความเขียนไว้อยู่ เมื่อเธออ่านจบและเงยหน้าขึ้นมาคนตรงหน้าก็หายไปแล้ว
สิบสองชั่วโมงถัดมา ณ สถานที่ไม่เปิดเผยในกรุงลอนดอน
“ว่าไงอีวาน ชอว์”
เสียงจากเด็กสาวดังขึ้นพร้อมมองไปยังสาวสวยคนหนึ่งที่กำลังมัดเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้กับเก้าอี้ อีกฝ่ายเองก็สงสัยว่าที่นี่เป็นสถานที่ลับเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีคนรู้ได้ แล้วเด็กสาวคนนี้เป็นใคร การแต่งกายที่พร้อมรบ อาวุธคาตานะคู่ที่จะพายอยู่ด้านหลัง แถมยังมีปืนพกที่น่าจะเป็นกลไกพิเศษแฝงอยู่เหน็บไว้ที่เอว ชุดสีสูทสีดำเน็กไทสีแดงเสื้อด้านในสีขาว เธอเหลือบมองไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ถูกจับมัดอยู่
“เธอเป็นใคร รู้จักที่นี่ได้ไง”
อีวานถามออกไปด้วยความสงสัย นอกจากนี้การใช้อาวุธก็ราวกับหญิงคนนั้น ผู้ที่เคยทำปฎิบัติการ ‘ธันเดอร์โบลท์’ สำเร็จด้วยตัวคนเดียว แถมช่วยชีวิตตัวประกันได้ครบทุกคนแบบไร้รอยขีดข่วน
“อย่าบอกนะว่า…เธอ..”
ไม่ทันที่จะพูดอะไรสาวน้อยคนนั้นก็เดินมาหาเธอพร้อมยื่นกระดาษบางอย่างให้ นั่นคือข้อมูลทั้งหมดที่เธอต้องการรู้ แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นมามองก็ไม่พบอะไรตรงหน้าเลย
หนึ่งวันถัดมา วอชิงตันดีซี ตึกแห่งหนึ่ง
“ไม่เจอกันนานเลยนะ ลุค อีวาน”
เสียงใสดังขึ้นจากด้านหลังสาวร่างใหญ่ราวกับนักมวยปล้ำ มีรอยสักที่แขนลวดลายของมันคล้ายมังกรของประเทศจีน คนใหญ่หันมาสนใจคนร่างเล็ก เธอปล่อยมือจากผู้ชายที่เธอซ้อมจนน่วม แถมด้านหน้าเธอยังมีคนที่โดนแบบเดียวกันกองกันอยู่สิบกว่าคน
“เรารู้จักกันเหรอ”
เธอไม่รู้ว่าไปทำความรู้จักกับเด็กคนนั้นตั้งแต่ตอนไหน แต่อีกฝ่ายรู้จักเธอแสดงว่าก็ต้องรู้จักเธอเป็นแน่ เธอคนนั้นชักปืนออกมาพร้อมกับยิงเล็งไปที่สาวร่างใหญ่ทันทีที่ลั่นไกอีวานก็หลบได้ทันราวกับว่ามองเห็นกระสุน
“ฝีมือไม่ตกจริง ๆ”
สาวน้อยเก็บปืนพร้อมหยิบเอกสารสำคัญออกมาแล้วยื่นให้อีกฝ่าย ทันที่ที่อีวานรับมาเธอก็อ่านมันพร้อมทำความเข้าใจในทันที และรู้ว่าอีกฝ่ายคือใครเพราะเคยก็เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน
“ไว้เจอกันในอีกสี่วัน”
เสียงเล็กกล่าวขึ้นพร้อมเดินจากไปและโบกมือลาในทันที เธอรู้ว่านี่คือสิ่งที่เธอไขว่คว้ามาโดยตลอดนั่นคือการแก้แค้น
.
.
.
สิบสามชั่วโมงต่อมา ณ สถานที่ไม่เปิดเผย
พื้นที่รกร้างแห่งนี้ไม่มีคนเข้ามานานกว่าหกปี เป็นเมืองแห่งหนึ่งที่ไร้ผู้คนอาศัย แต่มักมีข่าวลือว่าได้ยินเสียงผู้หญิงกรีดร้องมาจากในเมืองราวกับทุกข์ทรมาน และมีข่าวเกี่ยวกับลูก หรือภรรยาของผู้ทรงอิทธิพลรอบ ๆ เมืองนี้หายไปแบบลึกลับอีกด้วย
“ว่าไง ฟรานเชส เตอร์รอย”
เสียงใสดังขึ้นเมื่อพบชายหนุ่มคนหนึ่งร่างสูง สวมชุดทหารของเยอรมนี อาวุธครบมือ เขาเล็งปืนมายังต้นเสียงในตอนนี้นิ้วของเขาพร้อมที่จะลั่นไกได้ทุกเมื่อหากอีกฝ่ายแสดงท่าทีเป็นภัยอันตราย
“เธอคือ…”
เขาอึ้งในทันทีที่พบสาวงามคนนี้อีกครั้ง แต่ด้วยการแยกทางกันของทั้งสองไม่ดีนักแถมความสัมพันธ์ที่ไม่ชัดเจน เขาไม่คิดว่าเธอจะมาหาเขาถึงที่
“ใช่ฉันเอง”
“ไม่เจอกันนานเลยนะ”
เธอเหลือบมองไปที่พื้นที่รอบ ๆ ที่เงียบสงัดได้ยินเพียงเสียงลมพัดผ่านไปในยามราตรี เธอรู้ว่าอีกฝ่ายต้องการที่จะโอบกอดหรือจูบกับเธอ แต่เธอนั้นไม่มีความรู้สึกนั้นอีกต่อไป เธอค่อย ๆ เดินเข้าหาอีกฝ่าย ปืนไรเฟิลถูกลดลงมาให้ปลอดภัย เขาจ้องมองไปยังหญิงสาว เมื่อเข้ามาในระยะเขาใช้มือลูบไปที่หน้าของอีกฝ่ายด้วยความห่วงใย น้ำตาของเขาแทบไหลพลาดเมื่อรู้ว่าหญิงที่ตนรักยังมีชีวิตอยู่
“ขอโทษนะ แต่เรื่องของเรามันจบไปแล้ว”
“เอาเป็นว่านี่”
เธอปัดมือของอีกฝ่ายออกพร้อมกับยืนแฟ้มเอกสารให้อีกฝ่าย เขาตัดสินใจรับมันมาพร้อมกับใช้มืออีกข้างจับไปที่คนตัวสูงด้วยสีหน้าที่เอ็นดู เธอรู้ว่าอีกฝ่ายคิดเช่นไรอยู่ แต่มันไม่อาจกลับไปได้อีกต่อไป
“ฉันหวังกับนายอยู่นะ”
เธอโอบกอดร่างหนาไว้พร้อมหยดน้ำอันเลอค่าหลั่งรินออกจากตาคู่น้อย เธอคลายกอดพร้อมเดินจากไปแม้ว่าเธอจะรู้สึกเศร้าแต่มันก็คืองานที่เธอต้องทำ
สามวันต่อมา ตึกแห่งหนึ่ง
“หือตึกนี้น่ะเหรอ”
อีวานเดินเข้าไปในตึกที่ไร้ซึ่งคน เธอไม่พบใครเลยตั้งแต่ก้าวแรกจนกระทั่งไปที่ห้องประชุม เธอพบคนกลุ่มหนึ่งที่นั่งอยู่แล้วทันใดนั้นก็มีเสียงที่แสนคุ้นเคยดังขึ้น
“อ้า วันนี้มันวันดีห่าเหวอะไรวะเนี่ย”
“ใครก็ได้ตอบฉันทีทำไมฉันต้องมาอยู่ร่วมห้องกับยัยจอมโจรขี้ขลาดตัวนี้”
ลุค เซียน่าลุกขึ้นเธอกำหมัดขึ้นและมีท่าทีที่จะจู่โจมตลอดเวลา
“สมองเล็กแต่คุยโตนะ ยัยจอมห่าม”
ในตอนที่เธอกำลังพูดนั้นเองอีกฝ่ายก็พุ่งเข้ามาจู่โจมเธอแล้ว
*นี่เป็นเพียงเนื้อหาเปิดตัวเท่านั้น*
*โปรดติดตามเนื้อหาหลักเร็ว ๆ นี้!!*
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ณ สถานที่ไม่เปิดเผย
หน้าจอมอนิเตอร์หกจอและทั้งหกจอมีบุคคลทั้งหกที่อยู่กันคนละสถานที่ทั้งหญิงและชายบางคนอยู่ในบาร์ บางคนกำลังลงมือสังหารบุคคลสำคัญอยู่ แถมบนโต๊ะยังมีแฟ้มข้อมูลของทุกคน หญิงสาวแต่งตัวคล้ายคลึงกับสายลับด้านหลังมีดาบคาตานะสั้นสะพายอยู่ เธอกำลังจ้องมองการกระทำของแต่ละบุคคล
“คนพวกนี้น่ะเหรอคะ..พ่อ”
ด้านข้างของเธอมีโทรศัพท์มือถือรุ่นพิเศษที่สร้างขึ้นสำหรับติดต่อเดียว ทันใดนั้นก็มีเสียงจากปลายสายพูดมาว่า
“ใช่ เธอต้องรวมทีมและทำตามปณิธานของตน”
“คนพวกนี้มีจุดประสงค์เดียวกับลูก”
“ถึงบางคนจะไม่ถูกกันก็เถอะ แต่ลูกจะควบคุมพวกเขาได้”
ทันทีที่กล่าวเสียงก็ตัดไปก่อนที่โทรศัพท์จะเกิดการช็อตขึ้น เธอลองหยิบเอกสารนั้นออกมาดู และเธอตกใจใช่น้อยสำหรับบุคคลเหล่านี้ที่เคยก่อเรื่องมา บางคนก็เป็นทหารฝีมือดีแต่ฆ่าเพื่อนร่วมทีมตัวเอง บางคนก็มียศใหญ่โต แต่ก็ต้องเสียเพื่อนรักจากภารกิจจึงเข้าสู่ด้านมืด จากที่เธออ่านมาเธอสะดุดตากับคนคนหนึ่งซึ่งเคยอยู่ในองค์กรเก่าของเธอ แต่ถูกไล่ออกเพราะทำภารกิจพลาดจนถูกจำคุก แต่แหกคุกที่ได้ชื่อว่า ‘นรกบนดิน’ ออกมาได้ เธอตัดสินใจได้ในทันทีว่าจะไปหาใครคนแรก
สี่วันต่อมา ณ ลอนดอน
ใจกลางกรุงลอนดอนพื้นที่ชุลมุนทั้งคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวต่างเดินชมแสงสียามราตรีที่ทอประกายไปทั่ว ในหมู่นั้นมีหญิงคนหนึ่งสวมผ้าคลุมขนนกสีแดงกลมกลืนกับชุดราตรียืนอยู่กลางที่สะพานเวสต์มินสเตอร์เหมือนกำลังรอบางอย่างอยู่ เธอแลดูซ้ายขวาก่อนจะพบชายรูปร่างสูงสวมแว่นใส่ชุดทรงนักธุรกิจ เธอเดินเข้าหาอีกฝ่ายทันทีพร้อมตั้งใจเดินชนและแอบใช้ปักเข็มบางอย่างซึ่งมีพิษรวมถึงยาชาไว้
“ขอโทษค่ะ”
เธอกล่าวขึ้นก่อนจะเดินจากไปแบบเงียบ ๆ ก่อนที่ผู้ชายคนนั้นจะล้มลมเส้นเลือดของเขาเปลี่ยนเป็นสีเขียว ก่อนจะเริ่มคลุ้มคลั่งดวงตาของเขาเป็นสีแดงก่ำราวกับอสุรกาย แต่ตัวของเขาก็ระเบิดขึ้น
‘ยังไม่สำเร็จสินะ’
ในขณะที่เธอกำลังเดินก็คิดในใจไปพลาง ก่อนที่จะมีสาวสวยหนึ่งสวมชุดรัดรูปสีน้ำเงินเดินเข้ามาหาเธอ นางผู้นี้มีเรือนผมธวัล ชุดที่เข้ากับรูปทรงแถม ร่างเล็กราวกับเด็กวัยมัธยม แววตาที่ดุดันราวกับราชสีห์
“ว่าไง เจสสิก้า วอร์เท็กซ์ หรือจะให้พูดว่า ‘แรดธันเดอร์’ ดีล่ะ”
สาวงามผู้นี้เหมือนกันจะรู้จักเธอดีกว่าที่คิด เธอดูมีสง่าราศีจะว่าสายลับก็ไม่อวยเกินไป แต่จุดประสงค์จริง ๆ ของเธอคืออะไรกันแน่
“เธอต้องการอะไรกันแน่”
ในตอนนี้เจสสิก้าเตรียมที่จะชักมีดออกมาเป็นเผื่อเหตุฉุกเฉิน แต่คำพูดของสาวงามตรงหน้าทำให้เธอต้องอึ้งในทันที
“มาสร้างทีมกัน”
ประโยคดังกล่าวทำให้สาวชุดแดงที่ไม่เคยไว้ใจใครต้องคิดหนัก อีกฝ่ายเองก็ดูจะเป็นคนพันเดียวกับตน
“พวกผู้มีอิทธิพลเริ่มใช้อำนาจในทางมิชอบ ฉันเองก็ต้องการทำลายพวกมันเช่นเดียวกับเธอ ไม่ต้องขึ้นตรงกับฝ่ายใด ไม่มีข้อผูกมัดใด ๆ เพียงแค่รวมตัวกันเพื่อล้มล้างอำนาจเก่า”
สาวน้อยตรงหน้ายื่นข้อเสนอที่ไม่อาจปฎิเสธได้ให้กับเธอที่หรือที่จะไม่ตอบตกลง
“ได้ แต่ถ้าเธอขัดขวางละก็จงบั่นหัวตัวเองซะ”
คำพูดนั้นทำให้เด็กสาวตรงหน้ายิ้มขึ้นอย่างพึงพอใจแถมสายตายังดูเป็นมิตรขึ้นเยอะกว่าก่อนหน้านี้
“ไว้เจอกันที่นี่”
เธอยื่นกระดาษที่มีข้อความเขียนไว้อยู่ เมื่อเธออ่านจบและเงยหน้าขึ้นมาคนตรงหน้าก็หายไปแล้ว
สิบสองชั่วโมงถัดมา ณ สถานที่ไม่เปิดเผยในกรุงลอนดอน
“ว่าไงอีวาน ชอว์”
เสียงจากเด็กสาวดังขึ้นพร้อมมองไปยังสาวสวยคนหนึ่งที่กำลังมัดเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้กับเก้าอี้ อีกฝ่ายเองก็สงสัยว่าที่นี่เป็นสถานที่ลับเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีคนรู้ได้ แล้วเด็กสาวคนนี้เป็นใคร การแต่งกายที่พร้อมรบ อาวุธคาตานะคู่ที่จะพายอยู่ด้านหลัง แถมยังมีปืนพกที่น่าจะเป็นกลไกพิเศษแฝงอยู่เหน็บไว้ที่เอว ชุดสีสูทสีดำเน็กไทสีแดงเสื้อด้านในสีขาว เธอเหลือบมองไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ถูกจับมัดอยู่
“เธอเป็นใคร รู้จักที่นี่ได้ไง”
อีวานถามออกไปด้วยความสงสัย นอกจากนี้การใช้อาวุธก็ราวกับหญิงคนนั้น ผู้ที่เคยทำปฎิบัติการ ‘ธันเดอร์โบลท์’ สำเร็จด้วยตัวคนเดียว แถมช่วยชีวิตตัวประกันได้ครบทุกคนแบบไร้รอยขีดข่วน
“อย่าบอกนะว่า…เธอ..”
ไม่ทันที่จะพูดอะไรสาวน้อยคนนั้นก็เดินมาหาเธอพร้อมยื่นกระดาษบางอย่างให้ นั่นคือข้อมูลทั้งหมดที่เธอต้องการรู้ แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นมามองก็ไม่พบอะไรตรงหน้าเลย
หนึ่งวันถัดมา วอชิงตันดีซี ตึกแห่งหนึ่ง
“ไม่เจอกันนานเลยนะ ลุค เซียน่า”
เสียงใสดังขึ้นจากด้านหลังสาวร่างใหญ่ราวกับนักมวยปล้ำ มีรอยสักที่แขนลวดลายของมันคล้ายมังกรของประเทศจีน คนใหญ่หันมาสนใจคนร่างเล็ก เธอปล่อยมือจากผู้ชายที่เธอซ้อมจนน่วม แถมด้านหน้าเธอยังมีคนที่โดนแบบเดียวกันกองกันอยู่สิบกว่าคน
“เรารู้จักกันเหรอ”
เธอไม่รู้ว่าไปทำความรู้จักกับเด็กคนนั้นตั้งแต่ตอนไหน แต่อีกฝ่ายรู้จักเธอแสดงว่าก็ต้องรู้จักเธอเป็นแน่ เธอคนนั้นชักปืนออกมาพร้อมกับยิงเล็งไปที่สาวร่างใหญ่ทันทีที่ลั่นไกอีวานก็หลบได้ทันราวกับว่ามองเห็นกระสุน
“ฝีมือไม่ตกจริง ๆ”
สาวน้อยเก็บปืนพร้อมหยิบเอกสารสำคัญออกมาแล้วยื่นให้อีกฝ่าย ทันที่ที่อีวานรับมาเธอก็อ่านมันพร้อมทำความเข้าใจในทันที และรู้ว่าอีกฝ่ายคือใครเพราะเคยก็เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน
“ไว้เจอกันในอีกสี่วัน”
เสียงเล็กกล่าวขึ้นพร้อมเดินจากไปและโบกมือลาในทันที เธอรู้ว่านี่คือสิ่งที่เธอไขว่คว้ามาโดยตลอดนั่นคือการแก้แค้น
.
.
.
สิบสามชั่วโมงต่อมา ณ สถานที่ไม่เปิดเผย
พื้นที่รกร้างแห่งนี้ไม่มีคนเข้ามานานกว่าหกปี เป็นเมืองแห่งหนึ่งที่ไร้ผู้คนอาศัย แต่มักมีข่าวลือว่าได้ยินเสียงผู้หญิงกรีดร้องมาจากในเมืองราวกับทุกข์ทรมาน และมีข่าวเกี่ยวกับลูก หรือภรรยาของผู้ทรงอิทธิพลรอบ ๆ เมืองนี้หายไปแบบลึกลับอีกด้วย
“ว่าไง ฟรานเชส เตอร์รอย”
เสียงใสดังขึ้นเมื่อพบชายหนุ่มคนหนึ่งร่างสูง สวมชุดทหารของเยอรมนี อาวุธครบมือ เขาเล็งปืนมายังต้นเสียงในตอนนี้นิ้วของเขาพร้อมที่จะลั่นไกได้ทุกเมื่อหากอีกฝ่ายแสดงท่าทีเป็นภัยอันตราย
“เธอคือ…”
เขาอึ้งในทันทีที่พบสาวงามคนนี้อีกครั้ง แต่ด้วยการแยกทางกันของทั้งสองไม่ดีนักแถมความสัมพันธ์ที่ไม่ชัดเจน เขาไม่คิดว่าเธอจะมาหาเขาถึงที่
“ใช่ฉันเอง”
“ไม่เจอกันนานเลยนะ”
เธอเหลือบมองไปที่พื้นที่รอบ ๆ ที่เงียบสงัดได้ยินเพียงเสียงลมพัดผ่านไปในยามราตรี เธอรู้ว่าอีกฝ่ายต้องการที่จะโอบกอดหรือจูบกับเธอ แต่เธอนั้นไม่มีความรู้สึกนั้นอีกต่อไป เธอค่อย ๆ เดินเข้าหาอีกฝ่าย ปืนไรเฟิลถูกลดลงมาให้ปลอดภัย เขาจ้องมองไปยังหญิงสาว เมื่อเข้ามาในระยะเขาใช้มือลูบไปที่หน้าของอีกฝ่ายด้วยความห่วงใย น้ำตาของเขาแทบไหลพลาดเมื่อรู้ว่าหญิงที่ตนรักยังมีชีวิตอยู่
“ขอโทษนะ แต่เรื่องของเรามันจบไปแล้ว”
“เอาเป็นว่านี่”
เธอปัดมือของอีกฝ่ายออกพร้อมกับยืนแฟ้มเอกสารให้อีกฝ่าย เขาตัดสินใจรับมันมาพร้อมกับใช้มืออีกข้างจับไปที่คนตัวสูงด้วยสีหน้าที่เอ็นดู เธอรู้ว่าอีกฝ่ายคิดเช่นไรอยู่ แต่มันไม่อาจกลับไปได้อีกต่อไป
“ฉันหวังกับนายอยู่นะ”
เธอโอบกอดร่างหนาไว้พร้อมหยดน้ำอันเลอค่าหลั่งรินออกจากตาคู่น้อย เธอคลายกอดพร้อมเดินจากไปแม้ว่าเธอจะรู้สึกเศร้าแต่มันก็คืองานที่เธอต้องทำ
สามวันต่อมา ตึกแห่งหนึ่ง
“หือตึกนี้น่ะเหรอ”
อีวานเดินเข้าไปในตึกที่ไร้ซึ่งคน เธอไม่พบใครเลยตั้งแต่ก้าวแรกจนกระทั่งไปที่ห้องประชุม เธอพบคนกลุ่มหนึ่งที่นั่งอยู่แล้วทันใดนั้นก็มีเสียงที่แสนคุ้นเคยดังขึ้น
“อ้า วันนี้มันวันดีห่าเหวอะไรวะเนี่ย”
“ใครก็ได้ตอบฉันทีทำไมฉันต้องมาอยู่ร่วมห้องกับยัยจอมโจรขี้ขลาดตัวนี้”
ลุค เซียน่าลุกขึ้นเธอกำหมัดขึ้นและมีท่าทีที่จะจู่โจมตลอดเวลา
“สมองเล็กแต่คุยโตนะ ยัยจอมห่าม”
ในตอนที่เธอกำลังพูดนั้นเองอีกฝ่ายก็พุ่งเข้ามาจู่โจมเธอแล้ว
*นี่เป็นเพียงเนื้อหาเปิดตัวเท่านั้น*
*โปรดติดตามเนื้อหาหลักเร็ว ๆ นี้!!*
ผลงานอื่นๆ ของ เกศาทอง ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ เกศาทอง
ความคิดเห็น