ตอนที่ 69 : อ้อยคว่ำครั้งที่ 57 : 70%
บทที่ 57
ฮูเร่ ฮูเร่ฮาฮา ฮูราฮูราเฮ้เฮ้
และแล้ว
ในที่สุด...
ก็ถึงวันที่ผมรอคอย!
มันก็คือวันประกวดดาวเดือนนั่นเอง!
เสือนับตื่นเต้นซะจน...
“ทำไมใต้ตาคล้ำแบบนี้ละยัยหนูของพี่!”
เสียงแหลมๆ ของพี่แนตตี้ดังสนั่นลั่นทุ่งไปทั่วห้องสโมสรคณะวิศวะ ผมยกมือขยี้ตาอย่างง่วงๆ แล้วก็ปิดปากหาวไปตลบหนึ่งก่อนจะปรือตามองพี่เขา
“ผมตื่นเต้นไปหน่อย” ไม่หน่อยอ่ะ โคตรๆ เลย
เมื่อวานหลังจากแอบได้ยินพี่เก้ากำลังวางแผนเซอร์ไพร์สอะไรแล้วก็ตื่นเต็มตาเลย ถ้าใครกำลังคิว่าผมจะไปห้ามพี่เก้าแบบที่ห้ามพี่ชายตัวเองแล้ว ขอบอกเลยว่าคิดผิด!
ผมนี่รอกุหลาบสีดำหนึ่งพันหนึ่งร้อยดอกเลยครับ
งุ้ยยยย เซอร์ไพร์สจากคุณนายแบบคนดังเลยนะ
แถมตอนนี้คนนอกก็ยังไม่รู้ว่าผมกับพี่เก้าเป็นอะไรกันด้วย
เสือนับก็ขอนิดขอหน่อยเถอะ อยากอวดปั๊วะ เข้าใจมั้ย!
แล้วไอ้สาตุที่นอนไม่หลับก็มาจากความตื่นเต้นที่จะประกวดดาวเดือนด้วยส่วนหนึ่งและจากพี่เก้าด้วย พอมันตื่นเต้นมากๆ ก็ตาค้างนอนไม่หลับ พอใกล้จะหลับก็ดันสว่างซะแล้ว
สุดท้ายผมก็ต้องทำนั่งทำหน้าง่วงอยู่ที่ห้องของคณะโดยมีรุ่นพี่สามสี่คนห้อมล้อม
“ไม่รู้จักหลับจักนอน มึงเป็นเด็กประถมรึไง” พี่ลมคนปากหมาแขวะเสร็จก็โบกหัวผมเบาๆ “กะอีแค่ประกวดดาวเดือนแค่นี้ทำมาเป็นตื่นเต้นจนนอนไม่หลับ”
“แหม อีลม อย่าให้กูแฉนะมึง” พี่เปรี้ยวจูงมือมือผมไปนนอนบนโซฟาตัวยาว “น้องนับสองรู้มั้ยคะ ไอ้ลมนะ ตอนวันประกวดปีที่แล้วนะ นั่งหน้าซีดอยู่ข้างเวทีแถมยังมาพูดอีก แพ้เก้าแน่ๆ ไม่อยากแข่งแล้ว”
“ไอ้เปรี้ยว ไอ้เพื่อนเหี้ย!” พี่ลมตะโกนลั่นห้องด้วยใบหน้าแดงก่ำที่ไม่รู้ว่าอับอายหรือโกรธ แต่ผมว่าน่าจะทั้งคู่นะ
ผมอดไม่ได้ที่จะตาโตหลังจากได้ยินเรื่องลับๆ นี้แล้วหันไปยิ้มล้อเลียนใส่พี่ลม แน่นอนว่าพี่มันก็ทำท่าจะมาตบผมอีกรอบอยู่เหมือนกันแต่พี่แนตตี้คนสวยห้ามไว้ก่อน
“คราวหน้ามึงตายแน่ไอ้นับ” กลัวจังเลย กลัวมากเลย
“พอๆ น้องนับอย่าไปตีกับหมาบ้าเลย มาๆ เอาแตงกวาโปะตาหน่อย” พี่เปรี้ยวดันผมให้นอนแล้วหยิบแตงกวาที่หั่นเป็นแว่นๆ ออกจากกล่องพลาสติก “ตาจะได้วิ้งๆๆ ใต้ตาจะได้ไม่คล้ำ”
ผมพยักหน้าแล้วทำตัวเป็นเด็กดี นอนอย่างว่าง่ายแล้วให้รุ่นพี่สาวสวยเอาแตงกวาเย็นๆ มาโปะตาทั้งสองข้างจากนั้นก็นอนพักนิ่งๆ แอบเงี่ยหูฟังพวกรุ่นพี่คุยกันเป็นพักๆ
แหม เสือนี่ไมได้ขี้เสือกนะ
พวกพี่เขาคุยกันดังเองต่างหาก ต่อให้ไม่เงี่ยหูฟังก็ยังได้ยิน
ดูเหมือนพวกเขาจะคุยกันเรื่องรับน้อง กิจกรรมเฉลยสายรหัส.... เดี๋ยวนะ สายรหัสเหรอ
“เฮ้ย ไอ้นับ มึงรู้ยังว่าจะเฉลยสายรหัสอาทิตย์หน้า”
“...” อึ้งแดกอยู่ครับ “เอ่อ คือ...”
“กูเดาเลยนะ มึงยังไม่ได้หาพี่รหัสมึงแน่ๆ”
พี่ลมหัวเราะเยาะเย้ยหยันแล้วยิ่งดูชั่วร้ายขึ้น “ระวังโดนลงโทษนะมึง กูไม่ช่วยด้วย”
อ้าว ฉิบหายแล้วกู
บอกเลยว่า ผม ลืม สนิท!
ลืมไปแล้วว่าเคยได้คำใบ้พี่รหัสมา
เพราะมัวแต่มีเรื่องวุ่นๆ นั่นนี่เข้ามาในชีวิตเลยทำให้ผมลืมบางเรื่องไป และหนึ่งในนั้นคือพวกกิจกรรมของคณะของมหา’ลัยอย่างการตามหาพี่รหัสสายรหัส
“กูจะไปหาจากไหนวะ” โอ๊ยยยยย เหลือหนึ่งอาทิตย์เองเหรอ หาพี่รหัสเจอแล้วก็ยังมีภารกิจจากพี่รหัสอีก ถ้าไม่ทำก็ไม่รับเข้าสาย อะไรกันเนี่ย เสือนับขี้เกียจ! “ไม่ทำได้มั้ย”
เออ ไม่เอาสายแม่งเลย
พี่เปรี้ยวได้ยินที่ผมงึมงำเลยเตือนอย่างหวังดี “พี่ว่านับสองทำกิจกรรมนี้เถอะ น้องโดดหลายกิจกรรมจนพวกพี่ปีสูงเขาหมั่นไส้หลายรอบ คนที่อยากถอนน้องออกจากตำแหน่งเดือนก็ปีสูงคณะเราด้วย”
ผมอึ้งแทบลุกพรวดแต่ลืมไปว่ากำลังนอนบำรุงใต้ตาอยู่เลยจำต้องอยู่นิ่งๆ แล้วพูดทั้งที่ยังนอนหลับตาอยู่
“จริงเหรอครับ” รู้สึกแย่ขึ้นมานิดๆ
“อืม เพราะงั้นถือว่าพี่ขอแล้วกัน เข้ารวมสักกิจกรรม ส่วนอันอื่นไม่ต้องเข้าก็ได้ ช่างหัวมัน น่าเบื่อ” ความจริงแล้วพี่เปรี้ยวก็เป็นพี่ว้ากนะแต่เขากลับไม่ได้บังคับผมเข้ากิจกรรม
“พวกพี่ปีสูงอยากถอดผมออกจากเดือนแล้วทำไมถึงไม่ทำ” ถามอย่างสงสัยและคาดว่าคนที่จะมาเป็นเดือนแทนผมคงเป็นไอ้อชิแน่ๆ
“มึงน้องกู ใครจะถอดมึงออกก็ข้ามศพกูไปก่อนเถอะ” พี่ลมว่าขึ้นเสียงดังแล้วพูดอย่างหงุดหงิด “โตกว่าแล้วแม่งข่มฉิบหาย เตะปากไปหลายคนแล้ว”
อื้อหือ คนนี้มันโหดแท้แต่แอบซาบซึ้งนะเนี่ย ถึงพี่ลมจะปากหมาแต่ก็ช่วยผมตลอดอยู่เงียบๆ
สนใจมาเป็นกิ๊กผมมั้ยพี่ ยืนดีต้อนรับสู่ฮาเร็มเสือนับนะ หุหุ
“ได้ข่าวว่าอชิก็น้องรหัสมึงนะ” พี่แนตตี้ว่าขึ้นแล้วจีบปากจีบคอ “ถ้าไม่ใช่เพราะน้องอชิเอาเหล้ามาถวายมึงสองลัง มึงคงถอดน้องนับไปแล้วเถอะ”
“เชี่ย มึงพูดดังทำไมเนี่ย!” พี่ลมร้องลั่นแล้วก็ตามมาด้วยเสียงโครมคราม “ภาพพจน์กูเกือบดีแล้ว ไอ้ห่า!”
“มึงไม่มีตั้งแต่แล้ว ไอ้เหี้ย” พี่เปรี้ยวหันไปด่าแล้วมาลูบๆ แขนปลอบใจผม “ไม่ต้องสนใจนะ น้องนับสอง ถึงไม่มีไอ้ลมก็ยังมีพี่เปรี้ยวคนสวยอยู่นะ พี่จะปกป้องน้องเอง!”
“ขอบคุณครับ” ผมยิ้มบางๆ ขอบคุณ
แต่ใดใด...รู้สึกเหมือนหัวใจแตกสลาย
ไอ้พี่ลม มึงไม่รักกูจริงนี่หว่า
ฮือ เราเลิกกันเถอะ ไม่รับเข้าฮาเร็มแล้ว!
“แต่เอาจริง ไอ้ลมมันก็ไปซัดพี่ปีสูงมาจริงๆ นะ” รุ่นพี่คนสวยโน้มลงมากระซิบกระซาบเสียงแผ่ว “ปีสามสามคน ปีสี่ห้าคน รู้แล้วเหยียบไว้นะน้องนับ”
“ครับ” ผมขานรับเบาๆ ด้วยความรู้สึกสับสนเพราะพี่ลมมันก็เอาแน่เอานอนไม่ได้ ไม่รู้ว่าไปชกเขาเพราะเรื่องผม หรือเพราะตัวพี่ลมหมั่นไส้คนนั้นเองกันแน่ (ลม : เหอะ กูอยากชกคนก็ชก ไม่ได้ชกเพื่อมึง อย่ามโน ไอ้นับ!)
แต่รวมๆ ผมคิดว่าพี่ลมก็ปกป้องผมมาตลอดแหละ เรื่องกิจกรรมหลายตัวที่ผมไม่เข้า พี่มันก็ไม่เคยว่าอาจจะมีแซะๆ แต่ก็เอาทรานสคริปกิจกรรมมาให้ตลอด
คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยแล้วก็เริ่มง่วงขึ้นมาจึงผล็อยหลับไป ตอนขึ้นมาอีกที่เกือบๆ สิบโมงด้วยการปลุกของพี่แนตตี้ เขาบอกว่าต้องไปหอประชุมแล้วเพื่อไปรวมตัวเตรียมตัวกับดาวเดือนคณะอื่นด้วย
ผมพยักหน้าอย่างงัวเงียแล้วขอตัวไปล้างหน้าล้างตาก่อน ส่วนพี่เปรี้ยวกับพี่แนตตี้ขอตัวล่วงหน้าไปก่อน ส่วนพี่ลมหายไปไหนแล้วไม่รู้
หลังจากล้างหน้าล้างตาเสร็จแล้วผมจึงตื่นขึ้นมาเต็มตาจากนั้นก็หยิบโทรศัพท์มาไลน์หาพี่เก้าว่ากำลังจะไปหอประชุมนะ เมื่อเช้าหลังจากพี่เก้ามาส่งผมที่ตึกคณะแล้ว เขาก็ไปจัดการงานอยู่ที่หอประชุมเลย ผมรอข้อความสักพักก็ไม่เห็นพี่เก้าตอบเลยคิดว่าน่าจะยุ่งๆ อยู่เลยไม่คิดมาก
“จิ๊ ต้องเดินไปหอประชุมเองเหรอ” กะว่าถ้าพี่เก้าว่างจะให้ขับรถมารับสักหน่อย
ผมเดินไปตามทางเดินริมฟุตบาทอย่างไม่รีบร้อนนัก โชคดีที่วันนี้แดดไม่แรงมากนัก ผมเลยเดินได้อย่างชิวๆ ในตอนที่กำลังฮัมเพลงอยู่ก็ได้ยินเสียงรถมอเตอร์ไซด์ขับเข้ามาใกล้ผม
“ไอ้นับ ไปไหน” เสียงคุ้นเคยของวินเอ่ยขึ้น
ผมหันไปมองก็เห็นไอ้วิน เดือนนิเทศศาสตร์คร่อมอยู่บนดูคาติสีดำสนิทแถมเจ้าของรถยังเซตผมมาซะหล่อด้วย ทำเอาใจผมเต้นตึกตักเลยนะ
“กำลังจะไปหอประชุม”
“เออๆ งั้นขึ้นมา ไปกับกูๆ” มันว่าอย่างเป็นกันเอง
แน่นอนว่าผมที่ขี้เกียจเดินก็ต้องตอบรับอย่างรวดเร็ว “มึงพักอยู่แถวนี้เหรอ” สภาพมันเหมือนเพิ่งเข้ามอมาเลยเพราะเมื่อได้ใกล้ชิดนั่งซ้อนท้ายก็ได้ยินครีมอาบน้ำและน้ำหอมฟุ้ง
“หออยู่ข้างมอนี่เอง ใกล้ๆ” มันว่าแล้วก็ออกรถ “จริงๆ กูนอนอยู่ยังไม่ตื่นด้วยซ้ำแต่รุ่นพี่แม่งเรียกรวมตัวเลยต้องรีบมาเนี่ย เชี่ย ประกวดตั้งเย็น รีบไรหนักหนาวะ”
ฟังไอ้วินบ่นตลอดทางจนในที่สุดก็มาถึงหน้าหอประชุม ผมบอกให้วินเข้าไปก่อนเพราะตัวเองจะเดินไปซื้อนมชมพูกินสักหน่อย ซึ่งร้านมันก็อยู่ใกล้ๆ ไม่ไกลมาก
วินพยักหน้าแล้วเดี๋ยวจะบอกพี่คณะผมให้ ยกมือทำสัญญาณโอเคแล้วหมุนตัวเดินไปยังร้านกาแฟ...
ชิ้ง!
จู่ๆ แผ่นหลังของผมก็เย็นวาบขึ้นมาแปลกๆ คล้ายว่ากำลังมีสายตาทิ่มแทงซะจนหนาวสั่นถึงกระดูก ผมหันมองซ้ายมองขวาอย่างตื่นตระหนกแต่ไม่เจออะไรก็ได้แต่เกาหัวแกรกๆ
สงสัยนอนไม่พอล่ะมั้ง... หลอนไปเอง
สะบัดหัวไล่ความคิดฟุ้งซ่านแล้วรีบเดินต่อ หลังจากสั่งนมชมพูเย็นแล้วก็ซื้อคุกกี้ธัญพืชอีกห่อหนึ่งด้วย เมื่อเช้ารีบออกมายังกินข้าวไม่อิ่มเท่าไร เพราะว่ามีลูกค้าเยอะเลยคิวยาวนิดหนึ่ง
ผมเริ่มไปหามุมสงบๆ นั่งรอ... ในระหว่างที่กำลังนั่งกินคุกกี้อยู่ก็
“มีคนนั่งตรงนี้มั้ย”
เสียงทุ้มแหบห้าวชนิดที่แบบว่าแมนเต็มร้อยดังขึ้นเบื้องหน้าของผม ผมเงยหน้าจากโทรศัพท์เพื่อมองคนพูดก็เห็นว่าเป็นเด็กหนุ่มตัวสูงโปร่งหน้าหล่อผมยาวประบ่าดูติสๆ ยังไงไม่รู้ เขาไม่ได้ใส่ชุดนักศึกษาแต่ใส่ชุดธรรมดา
สงสัยไม่ใช่เด็กมหา’ลัยเราแน่ๆ แต่ดูจากรูปร่างหน้าตาคล้ายจะเป็นเด็กมัธยมแฮะ มาทำอะไรแถวนี้หว่า แต่เหนือสิ่งอื่นใดสีหน้าน้องเขาดูไม่เป็นมิตรเลย
เอ่อ จะมาขอนั่งร่วมโต๊ะเหรอวะ
ผมพยักหน้าให้เพราะว่าเดี๋ยวผมก็จะไปแล้วเลยไม่ได้ติดใจอะไร น้องเขานั่งลงแล้วจ้องหน้าผมในชนิดที่แทบจะหาเรื่องซึ่งผมเริ่มอึดอัดและรู้สึกไม่ดีแล้วเหมือนกัน
จะหาเรื่องเสือนับเหรอ
“น้องมีปัญหา...” จะถามให้ชัดเจนแต่น้องเขากลับโพล่งตัดประโยคขึ้นก่อน
“นายเป็นอะไรกับผู้ชายเมื่อกี้”
ฮะ!
“ผู้ชายที่ชื่อวิน... นายเป็นอะไรกับเขา”
สีหน้าและแววตาน้องเขาเย็นเยียบเหมือนจะแดกหัวผมให้ได้
“ฉันถามว่าเป็นอะไรกัน แฟน คนคุย?”
ไอ้เด็กนี่มันเป็นใคร
เมียไอ้วินเปล่าวะ เชี่ย กูจะทำบ้านเขาแตกมั้ย ตายแล้วๆ
“ถามก็ตอบสิวะ! เป็นใบ้รึไง!”
ก่อนบ้านไอ้วินแตก
หัวผมนี่แหละจะแตก
“เป็นเพื่อนครับ น้องใจเย็นนะ”
“เพื่อนกับผีสิ!”
“เพื่อนจริงๆ!”
“แต่ฉันเห็นนายกอดเอวแล้วก็ลูบขาเขา!”
อ้าว ฉิบหายแล้ว เสือนับว่าเสือนับก็เนียนแล้วนะ
ยังมีคนเห็นอีกเหรอวะ
แต่ใดใด ไอ้วิน ไอ้เหี้ยทำไมไม่บอกว่ามีเมียแล้ว
มีแล้วจะได้ไม่เฉียดเข้าใกล้
เมียหรือหมาวะ ดุชิบเป๋งเลย
“น้องใจเย็นแล้วฟังนะ”
“ไม่ฟัง ไปเคลียร์กันข้างนอก”
“...”
มึงฟังก่อน
กูมีผัวแล้วเว้ย มึงใจเย็นนะ
ฮือ พี่เก้า ช่วยนับด้วย แงงงงงงงงง
------------------
สถานการณ์ของเสือนับตอนนี้เหรอ
เอ่อ... ก็ค่อนข้างสุ่มเสี่ยงชีวิตเลยครับ
“น้อง พี่ว่าเราคุยกันดีๆ ก่อนนะ” ณ เวลานี้ผมกับน้องที่คาดว่าน่าจะเป็นเด็กไอ้วินกำลังยืนคุยกันอยู่นอกร้านกาแฟใต้ต้นไม้ใหญ่หน้าร้านนี่แหละ “ใจเย็นๆ”
“แล้วนี่ฉันใจร้อนตรงไหน” เด็กมันหรี่ตามองผมด้วยแววตาขุ่นเคือง
โอ้โห น้องครับ แบบนี้บ้านพี่เรียกโคตรพ่อโคตรแม่หัวร้อนเลยครับ
“ก็พูดมาสิ ฟังอยู่”
ผมถอนหายใจเล็กน้อยแล้วพูดช้าๆ “พี่กับวินเป็นแค่เพื่อนกัน ไม่ได้มีอะไรมากกว่านั้น”
“เพื่อนแล้วทำไมต้องกอดเอวขนาดนั้น” บร๊ะ มึงก็จะตาดีไปมั้ย คนอุตส่าห์แอบเนียนแล้วนะ
“กลัวตกรถไงก็จับเอวเป็นธรรมดา” ใช่ๆ เสือนับขี้กลัวเลยต้องจับเอวไว้เดี๋ยวตกรถหน้าแหกไม่ได้ประกวดเดือน
แววตาเฉยชาของคนเตี้ยกว่าไม่กี่เซนยังคงไม่คลายอารมณ์เกรี้ยวราด มุมปากแสยะยิ้มเย็นชวนให้ผมร้อนๆ หนาวๆ “อ้อ แล้วงั้นทำไมต้องลูบขา?”
“พี่ไม่ได้ทำ” ผมปฏิเสธหน้าตาย “อันนี้พี่ว่าน้องตาฝาดแล้ว”
“แต่ฉันเห็น”
“พี่ไม่ได้ลูบ มันแค่เป็นการตีขาเพื่อนเล่นเฉยๆ” ผมยังคงไม่ยอมรับง่ายๆ เพราะตอนที่ผมลูบขาไอ้วินมันเป็นจังหวะช่วงที่แบบไอ้วินจอดรถแล้วผมก็ตีๆ ขามันเล่นสองสามทีแอบสไลด์ลูบไล้สองวิสั้นๆ ที่แม่ง...ไม่คิดเลยว่าจะมีคนตาไวมองทัน “แล้วอีกอย่าง...พี่ก็มีแฟนแล้ว”
เด็กหน้าหล่อขมวดคิ้วแล้วใช้สายตาพิจารณามองผมตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วเบ้ปาก
“หน้าตาอย่างงี้หาแฟนได้ด้วยเหรอ”
“!!”
“หน้าตาเหมือนคนที่ไม่น่าจะหาแฟนได้จริงๆ”
อ้าวเฮ้ย มึงวอนแล้วนะไอ้น้อง
หน้าตาอย่างเสือนับนี่แหละมีแต่คนรักคนหลง!
สักยกมั้ย ขอสักเปรี้ยงเถอะ
ไม่ได้ดิ เฮ้ย วันนี้ผมต้องประกวด ห้ามก่อเรื่อง ห้ามวู่วาม ห้ามใจร้อน
“งั้นน้องรอแป๊บ พี่ตามแฟนพี่มาก่อน” ผมกัดฟันอย่างอดทนแล้วพูดออกไป
“งั้นก็ตามมาสิ” พยักหน้าเอื่อยๆ แล้วจ้องทุกการกระทำของผมแบบไม่ละสายตา “แล้วอย่าคิดโทรไปหาวินนะ ยืนคุยตรงนี้ไม่ต้องไปไหนไกล”
เหี้ย รู้ทันอีก
ผมกำลังจะโทรไปหาไอ้วินให้มาตามเก็บเมียเด็กมันเลยนะ ชิ แผนพังหมด
หมดทางเลือกแล้วเลยต้องจำยอมโทรตามพี่เก้าให้มาช่วย ผมจะมัวชักช้ายึกยักอยู่ตรงนี้ไม่ได้แต่ไอ้น้องนี่มันก็ไม่ยอมปล่อยผมง่ายๆ ไง
รอเลยนะ มึง
เดี๋ยวกูขอเรียกกำลังเสริมก่อน ฮึ!
(ฮัลโหล นับสองอยู่ไหนครับ คนอื่นมากันครบแล้วเนี่ย พี่ว่าจะโทรหาอยู่เลย) ทันทีที่อีกฝ่ายรับสายก็รัวระดมยิงคำถามมาเป็นชุดจนผมไม่รู้ว่าจะเริ่มตอบอะไรก่อนก็เงียบไป (นับสอง? นับสอง)
“เอ่อ... คือตอนนี้ผมมีปัญหานิดหน่อย” ผมเรียบเรียงคำพูดในหัวก่อน
(ปัญหา? ปัญหาอะไรแล้วนับอยู่ไหน พี่จะไปหาเดี๋ยวนี้)
อุ๊ยตายแล้ว เนี่ย เสือนับยังไม่ได้ทันทำอะไรเลยนะ
ก็มีคนเป็นห่วงเป็นใยซะแล้ว
อิจฉาล่ะสิ อิจฉาอ่ะดิ
เหลือบมองตัวปัญหาที่ยืนกอดอกทำหน้านิ่งตรงหน้าแล้วถอนหายใจ “ตอนนี้ผมอยู่หน้าร้านกาแฟหน้าหอประชุม พี่ออกมาหาหน่อย”
(อา ได้ครับ รอเป๊บหนึ่งนะ) พี่เก้าเหมือนจะงงๆ แต่ก็ตอบรับ (ซีน! กูฝากงานตรงนี้หน่อย เดี๋ยวมา!)
(ไอ้เก้า มึงหนีงานเหรอ ไอ้ชั่ว ไอ้เก๊าาาา)
(บอกว่าเดี๋ยวมา โว้ย!)
ดูเหมือนทางนั้นก็กำลังยุ่งๆ วุ่นๆ เลยด้วยแอบรู้สึกผิดเลยแฮะ แต่มันก็ไม่ใช่ความผิดผมสักหน่อย เพราะไอ้เด็กตรงหน้านี่ต่างหากที่มาหาเรื่องผม
ผมวางสายไปแล้วบอกกับเด็กมัน “รอแป๊บ แฟนพี่อยู่หอประชุมเนี่ย”
“ไม่ใช่ว่าเอาเพื่อนมาอ้างนะ” เด็กตัวสูงกลอกตาไปมาอย่างเบื่อหน่ายแล้วสะดุ้งเล็กๆ ก่อนจะล้วงมือเข้ากระเป๋ากางเกงหยิบโทรศัพท์ตัวเองขึ้นมารับสายใครสักคน “ฮัลโหลว่าไงดิน อืม มาแล้ว ก็อยู่แถวๆ นี้แหละ ลมเหรอ ไม่เห็น ไอ้ไฟไม่มา มันบอกขี้เกียจ”
ผมตาโตหูผึ่งทันทีเมื่อได้ยินชื่อของคนสองคนที่ผมรู้จักอยู่ในนั้น ลม? จะใช่พี่ลมที่ผมรู้จักรึเปล่าแล้วกิน หมอดินคนโหดใช่มั้ย? พี่ลมกับดินก็เป็นพี่น้องกันแล้วไอ้เด็กนี่...อย่าบอกนะว่าน้องไอ้สองคนนั้น
ป๊าดดดด โลกมันจะกลมไปแล้วนะ!
แต่ถ้าบอกว่าเป็นน้องพี่ลม
ผมเชื่อนะ ปากร้ายเหมือนกันไม่มีผิด
กำลังคิดมโนเชื่อมโนงความสัมพันธ์ไปไกลอยู่ในหัวคนเดียวเงียบๆ แต่ไอ้เด็กเวรหลังจากวางโทรศัพท์แล้วดันหันมาจิกตาใส่ผมอย่างไม่พอใจซะงั้น
“แอบฟังเหรอ ไม่มีมารยาท”
“อ้าว” ผมเหวอสิ แล้วทีเมื่อกี้มึงยืนฟังกูคุยกับผัวตาไม่กะพริบล่ะ มีมารยาทมากมั้ง
ในตอนที่ผมใกล้จะฟิวส์ขาดนั้นหางตาดันเหลือบเห็นพี่เก้ากำลังเดินมาทางนี้พอดี ดังนั้นเสือนับต้องสงบเสงี่ยมเรียบร้อยเพื่อภาพลักษณ์ที่ดีงาม
เสือนับถูกรังแก เสือนับยังไม่ได้ทำอะไรเขาเลยยยย
“นับสอง” พี่เก้าเดินตรงดิ่งมาหาด้วยสีหน้าเครงเครียด “มีปัญหาอะไรรึเปล่า”
ผมตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จ เอ๊ย ความจริง “ผมนั่งรถมากับไอ้วินแล้วก็แยกกัน ผมมาซื้อน้ำ” ชูแก้วนมชมพูสุดเลิฟให้ดู “แล้วจู่ๆ น้องเขาก็มาหาเรื่องผม ไม่ยอมให้ผมไปไหน”
“ไม่ได้ทำอะไรเหรอ” เด็กเวรหน้าตายหัวเราะเยาะแล้วเปรยมองพี่เก้านิ่งๆ “นายเป็นแฟนกับหมอนี่เหรอ”
พี่เก้าจ้องเด็กตัวสูงอย่างระวังก่อนจะหันมามองผมเล็กน้อยแล้วพี่แกก็เงียบ ซึ่งมันทำให้หัวใจของผมกระตุกวูบเลย
“ถ้าพี่บอกแล้วก็อย่าเอาไปพูดที่ไหนล่ะ”
...นี่พี่เก้าจะพูดจริงๆ เหรอ
“ฮึ พูดอย่างกับคนดัง” เด็กมันเบะปาก
เออ ก็ดังไง ผัวกูดังมากด้ย!
ผมที่เหมือนสติสตังเพิ่งมาครบก็นึกได้ว่าไม่ควรพูดว่าพี่เก้าเป็นแฟนกับคนนอกเลย ถ้าเกิดเด็กนี่มันเอาไปบอกคนอื่นบอกนักข่าวเรื่องความสัมพันธ์ของเรา
พี่เก้าต้องแย่แน่... โอ๊ย ทำไมผมทำอะไรไม่คิดเลยวะ รู้งี้โทรหาน้องไวท์ เมียสุดที่เลิฟดีกว่า
“พี่เก้า เดี๋ยว” ผมจับต้นแขนพี่เก้าเป็นเชิงจะห้ามแต่พี่เก้าส่ายหน้าแล้วเอามือข้างหนึ่งยกขึ้นวางซ้อนบนมือผม
พี่เก้าคลี่ยิ้มบางคล้ายบอกให้ผมวางใจก่อนจะหันไปยิ้มเหี้ยมใส่เด็กมัธยม
“ใช่ แฟน” ย้ำเสียงหนักแต่ไม่ได้ดังมากเพราะบริเวณนี้มีคนเยอะ “แล้วตกลงน้องมีปัญหาอะไรกับแฟนพี่”
เหม่อมองพี่เก้าด้วยหัวใจที่โบยบิน รู้สึกใจเต้นแรงจนแทบระเบิดกับคำว่าแฟนเพราะปกติแล้วมีแต่ผมที่คิดมโนเองและไม่คาดคิดว่าจะได้ยินจากปากพี่เก้าเร็วขนาดนี้
ผมรู้ว่าสถานะของเรามันยังไม่เหมาะที่จะพูดออกไปแต่เขากำลังยอมพูดออกไปกับคนนอก
“นายแบบดังที่มีข่าวกับผู้หญิงเยอะแยะ” นัยน์ตาเฉยชาหันกลับมามองผม “ไม่น่าจะมาชอบคนแบบนี้นะ”
ทำไม? ชอบคนแบบกูแล้วมันทำไม
สีหน้าของผมเริ่มตึงขึ้นเรื่อยๆ มือที่กำลังจับแก้วน้ำก็เริ่มสั่นขึ้นมาแต่ยังคงอดทนและยืนนิ่งมองดูพี่เก้าว่าจะทำยังไงต่อไป
พี่มึงรีบจัดการด่วนๆ ก่อนเสือนับจะกระโดดกัดคอมัน!
พี่เก้ายังคงมีรอยยิ้มติดใบหน้าแต่แววตาแข็งกร้าวขึ้น “พี่จะชอบคนแบบไหนมันคงไม่ใช่เรื่องที่น้องต้องมายืนวิจารณ์หรอกมั้ง น้องน้ำอุ่น”
ผมหันขวับไปมองพี่เก้าอย่างมึนงง... รู้จักกันด้วยเหรอ
“อย่ามาเรียกชื่อเล่น!” น้ำอุ่นถลึงตาใส่อย่างโมโห “ไม่ได้สนิท!”
“อ้อครับ ไม่ได้สนิทครับ ใช่ แล้วเวลาคุยกับคนที่ไม่สนิทก็ควรให้เกียรติและสุภาพกว่านี้นะครับ” พี่เก้าฉีกยิ้มกว้างขึ้นสวนทางกับสีหน้าที่เย็นยะเยือกจนชวนหนาวสั่น “สมกับเป็นน้องไอ้ลมเลยจริงๆ ไม่มีมารยาทกันทั้งพี่ทั้งน้อง”
“มึง!”
“ครับ?” นายแบบหนุ่มเลิกคิ้วขึ้น “มีอะไรอีกมั้ย ถ้าไม่มีแล้วพี่จะได้พาแฟนพี่ไป”
เหี้ย พี่เก้าเวอร์ชั่นดุนี่มัน...
แบดมากพ่อ
กร๊าวใจมากแม่
เสือนับจะเอา!
เด็กที่ชื่อน้ำอุ่นกำหมัดแน่นพยายามสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วกลับคืนสู่ความเฉยชาแต่แววตายังคงเจือร่องรอยความคุกรุ่น เด็กมันตวัดตามามองผมเล่นเอาสะดุ้งโหยงเลย
“งั้นดูช่วยดูแลแฟนนายให้ดีๆ ด้วยแล้วกัน” น้ำอุ่นว่าเสียงเรียบ “ยุ่งย่ามกับของคนอื่น... ระวังตายเร็ว”
ทิ้งท้ายอย่างโหดไม่ต่างจากพี่ลมจากนั้นก็หมุนตัวเดินหายวับไปอย่างรวดเร็ว ผมมองตามหลังน้องเขาไปแล้วส่ายหัวไปมาอย่างอ่อนใจ
คิดจะโผล่มาก็มา คิดจะไปก็ไป
พี่เก้าเองก็มองตามไปแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่ “ไปๆ เข้าหอประชุมได้แล้ว ไอ้ตัวก่อเรื่อง” ดึงแขนเสื้อผมให้เดินตาม
“พี่รู้จักเด็กคนนั้นด้วยเหรอ” อดไม่ได้ที่จะถาม “เป็นน้องพี่ลมจริงๆ เหรอ”
หน้าไม่ค่อยเหมือนสักเท่าไร
แต่ปากกับนิสัยนี่เป๊ะ พี่น้องท้องเดียวกันชัดๆ
“อืม น้องไอ้ลม” ตอบพลางเร่งเดินเข้าหอประชุม พี่เก้าทำหน้าครุ่นคิด “พี่รู้จักนิดหน่อย เคยเจอปีที่แล้ว น้องเขามาดูไอ้ลมประกวดดาวเดือนก็เลยรู้จัก ปีนี้ก็มาดูดินแข่งล่ะมั้ง”
“ไม่ใช่มาดูไอ้วินเหรอ” สีหน้าของผมค่อนข้างสับสน “น้องเขามาหาเรื่องผมเพราะหึงผมกับไอ้วินเลยนะ”
“อ้อ แล้วทำไมน้องน้ำอุ่นเขาต้องหึง” แววตาพี่เก้าเริ่มแปลกๆ
ผมตอบไปอย่างลืมตัว “ก็ผมซ้อนมอไซด์มากับไอ้วินไง ก็กอดเอวมันนิดหน่อย มือโดนขามันหน่อย ไอ้น้องนั่นมันก็หาว่าผมไปลวนลามคนของมัน” ว่ายาวเหยียดแล้วหันไปถามพี่เก้า “พี่เชื่อผมใช่มั้ย ผมไม่ได้ทำแบบนั้น”
“เชื่อ”
ใช่มั้ย เสือนับน่ะไม่...
“เชื่อก็โง่แล้ว”
อ้าวเฮ้ย ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่หน่า
นี่เมียไง ต้องเชื่อเมียสิ
พี่เก้าหยุดเดินเลยทำให้ผมต้องหยุดตาม ผมรู้สึกกระสับกระส่าย “ทำไมพี่มองผมแบบนั้น ผมกลัวนะ”
ยิ่งเอาแต่มองนิ่งๆ ไม่พูดอะไรยิ่งทำให้ผมใจแป๋ว พี่เก้าเองคล้ายกำลังระงับอารมณ์อยู่ก็เลยเงียบใส่จนผมเริ่มใจเสีย ผ่านไปอีกห้าวินาทีเขาค่อยๆ คลี่ยิ้มซึ่ง...มันน่ากลัวยิ่งกว่าเงียบใส่เมื่อกี้อีก
วิ่งได้มั้ย?
“เอ่อ ผมว่าพี่แนตตี้คงตามหาผมแย่แล้ว ไปก่อนนะ”
งานนี้ต้องขอไปตั้งหลักก่อนนะ
ผมกลืนน้ำลายอึกใหญ่แล้วรีบเดินอ้อมตัวพี่เก้าตรงไปยังประตูหอประชุมด้านหลัง อ้อ เราเดินมาเข้าทางด้านหลังนะครับ ผมยื่นมือจะดึงเปิดประตูแต่กลับถูกมือใหญ่ของพี่เก้าปิดกระแทกกลับไป
โดยมือของพี่เก้านั้นข้ามไหล่ของผมมา นัยน์ตาตื่นตระหนกของผมเหลือบแขนและมือที่เฉียดใบหน้าไปแล้วยิ่งเหงื่อตกมากขึ้น
เมื่อสามสี่เดือนก่อน... เรายังตัวเท่าๆ กันอยู่เลยไม่ใช่เหรอแล้วทำไมตอนนี้พี่เก้ามันดูจะสูงกว่าผมแล้ววะ ยิ่งตอนนี้พี่มันยื่นซ้อนหลังในระยะประชิดด้วยยิ่งทำให้ผมรู้สึกโดนคุกคามมากกว่าเดิม
“ดูท่าคืนนี้พี่ต้อง‘ดูแล’แฟนดีๆ ซะแล้ว”
เสียงหัวเราะชั่วร้ายกับริมฝีปากร้อนๆ ที่งับใบหูของผมนั้นเล่นเอาผมแทบทรุด เล่นจู่โจมในจุดที่ไวต่อสัมผัสแบบนี้เป็นใครก็ต้องอ่อนระทวยกันทั้งนั้น
“จะดูแลและ ‘เอา’ ใจใส่ ‘หนักๆ’ เลย”
“...!”
“ดีมั้ยครับ แรดน้อยของพี่เก้า”
----------
-----------------------------------
วงวารเสือนับ55555555555
ปล.ตรงนี้รับบริจาคพี่ชายนะ!!!
ส่งมาเลยลูกกกก -.,-!
#นับเก้ารัก
ปล.2 ช่วงนี้เดือนพรายงานเยอะมากๆ เรียนหนักมากๆ เดือนหน้าสอบไฟนอลแล้ว ????
อาจจะมาๆ หายๆ หน่อยนะคะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ไม่ชอบนเำอุ่นเลย เอาแต่ใจ นิสัยเสีย เหมือนหมาบ้า ไร้มารยาท ถามจริงยังเหลืออะไรดีอีก ให้วินไปเจอคนที่ดีกส่านี้เถอะค่ะ กราบบบบบ
โอ๊ยยยยยยยสงสารเลยยยยย 55555 วงวารรรรยัยนับ ปวดหัวแทนเลยลูกกกก
โถ่น้องงงงง
ส่วนไรท์ไม่ต้องห่วงรีดทั้งหลายนะคะพวกเราได้เสมอตั้งใจสอบแล้วกันนะคะ