{Arknight} มาอยู่บน Terra พร้อมระจำลองชีวิตที่สนับสนุน #เป็นตัวเรา

“นี่ระบบเรารู้จักกันมานานแค่ไหนแล้ว” บนหน้าผาริมทะเล หญิงสาวหน้าคางดงามที่มีผมสีขาวนุ่นพร้อมกับกับเขามังกรคู่งามในชุดชาวบ้านเรียบง่ายคนหนึ่งได้หันหลังและพูดกับหน้าจอสี่นีออนที่ลอยอยู่ตรงข้ามเธอ

“0.5 ปีกับอีก 4 สัปดาห์โฮสต์” เสียงเอไอโมโนโทนเพศหญิงหญิงกล่าวตอบมาอย่างไร้อารมณ์แต่สำหรับหญิงชาวเดรคที่รู้จักระบบมานานนี่เป็นเสียงโทนที่ฝังดูอบอุ่นของระบบของเธอ เธอเปิดเปลือกตาที่ปิดอยู่ของเธอออกเผยให้เห็นดวงตาสีแดงที่สวยงามราวกับทับทิมจ้องไปยังอีกฝั่งของหน้าผาที่เป็นทะเลสีครามออกดำที่ดูลึกลับและพิศวง

“ครึ่งปีกับอีก28วันสินะที่เรารู้จักกัน ถ้านับตามเกณฑ์ของมนุษย์เราคงนับว่าเป็นเพื่อนกันแล้วสินะระบบ” 

“ถ้านับตามเกณฑ์ของคำว่าเพื่อนตามขอบเขตความเข้าใจของมนุษย์เรานับเป็นเพื่อนกันมา 0.3 ปีกับ 2 สัปดาห์รวมถึงระดับความสัมพันธ์ที่พวกเรามีต่อกันอยู่ถึงระดับเพื่อนสนิทแล้วโฮสต์” 

“นั่นสินะเราก็นับว่าเป็นกันแล้วสินะ ถ้าเป็นแบบนั้นถ้าเราเป็นเพื่อนสนิทกันเราก็ไม่สามารถโกหกกันได้สินะระบบ” 

“แน่นอนระบบถูกออกแบบมาให้เป็นระบบสนับสนุนโฮสต์ที่เชื่อถือได้ตามเกณฑ์มาตรฐานขององค์กรสนับสนุนผู้ไปต่างโลกที่มีความอัตรายมากกว่าระดับ 3 ขึ้นไป”

“นั้นสินะ…เป็นแบบนั้นเองสินะ…ถ้าเป็นแบบนั้นฉันขอถามคำถามสุดท้ายกับเธอได้สินะระบบ”

“ยินดี” ไร้ซึ่งการตอบอย่างอื่นนอกจากนั้นราวกับรอกับคำถามของโฮสต์ของเธอ

เสียงคลื่นทะเลกระทบฝั่ง บรรยากาศบริเวณริมหน้าผาและลมอ่อนๆที่พัดมาหาเธอนำพาให้บรรยากาศนี้เหมาะสมที่คู่รักหนุ่มสาวจะมาเผยความในใจและยกระดับความสัมพันธ์ หรือ คู่รักที่พลัดพลากจากกันมาพบกันอีกครั้งท่ามกลางบรรยากาศอันแสนโรแมนติกและต่างฝ่ายต่างโผเข้ากอดแลกไออุ่นกันให้หายคิดถึง

“ฟู่วววว” สาวชาวเดรคสูดหายใจเข้าลึกๆทำใจให้สงบก่อนที่จะถามคำถามกับระบบของเธอ

“ระบบ ฉันขอถามด้วยความจริงๆใจอีกครั้ง การจำลองไม่ส่งผลต่อชีวิตจริงๆในเทอร่าแน่ๆใช่ไหม” เธอคนนั้นได้หันกลับมาหาระบบ ดวงตาที่เต็มไปด้วยความจริงจังของเธอจ้องไปยังจอสีนีออนที่ที่ลอยอยู่กลางอากาศอย่างผิดธรรมชาติ

“โฮสต์ โฮสต์รู้จักชั้นดีว่าคำพูดของระบบมีความน่าเชื่อถือมากถึงระดับไหน” เสียงโมโนโทนของระบบตอบกลับคำถามของเธอด้วยคำถามที่เธอรู้คำตอบดี

หลังสาวชาวดราโก้ทันทีที่ได้รับคำตอบจากระบบเธอก็หลับตาพริ้มพร้อมกับยิ้มให้ระบบตรงหน้าก่อนที่บรรยากาศโดยรอบเริ่มเปลี่ยนแปลง

ซ่า ซ่า ซ่า ! เสียงคลื่นกระทบฝั่งที่เคยเป็นจังหวะกลับเร่งจังหวะการกระทบขึ้น ผืนน้ำด้านล่างที่ห่างไปประมาณ 500 เมตรเริ่มปรากฎเงาของบางสิ่งขึ้นจางๆ แต่ถึงแม้จะเห็นแค่จางๆก็ตามแต่ขนาดของเงานั้นใหญ่เกินไป ใหญ่เกินกว่าสิ่งมีชีวิตใดในโลกหรือเทอร์ร่าจะใหญ่เท่าได้ แม้กระทั่งเหล่าเทพแห่งเหล่าผู้ที่กำเนิดจากใต้บาดาลก็ไมใหญ่เท่าสิ่งมีชีวิตนั้นที่กำลังปรากฎตัวขึ้นมา แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือทิศทางที่เงานั้นมุ่งมาคือหน้าผาที่สาวชาวเดรโกและระบบอาศัยอยู่

ฟูมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม! เสียงมวลน้ำจำนวนมหาศาลกระจายตัวจากบางสิ่งที่มีมวลมหาศาลพุ่งขึ้นจากผืนน้ำด้วยความเร็วสูง สิ่งมีชีวิตรูปทรงคล้ายอสรพิษที่มีเกล็ดชั้นนอกโปร่งใสทำให้เห็นอวัยวะชั้นในที่มีสีดำที่มีข้อปล้องมาต่อกันและมีอวัยวะเรืองแสงสีขาวเป็นจุดๆเรียงไปตาวแนวยาวคาดการว่าน่าจะยาวสุดลำตัวที่ส่วนมากนั้นยังคงอยู่ภายใต้ผืนน้ำ หัวของมันมีลักษณะคล้ายมังกรที่มีหนวดสี่เส้นที่มีสีดำและอวัยวะเรืองแสงสีแดงอยู่บริเวณปากส่วนหน้าทั้งด้านซ้ายและขวา และมีหนวดที่ใหญ่กว่าหลายเท่าที่มีอวัยเรืองแสงสีขาวอีกสี่เส้นต่อมาจากศีรษะส่วยหลังและกรามส่วนล่างทั้งทางด้านซ้ายและด้านขวา ดวงตาทั้งสามคู่จ้องมองมายังเธอก่อนที่มันจะอ้าปากกว้างโชฟันแหลมขนาดยักษ์และคำรามลั่น

คลึ่ม! โฮวววววววววววววววววววววววววววววววววววววว! เสียงคำรามของมันนั้นดังเป็นอย่างมากดังเกินไปเสียด้วยซ้ำทั้งๆที่อยู่ห่างออกไปจากแหล่งกำเนิดเป็นอย่างมากแต่เสียงมันก็ดังเกิดไปราวกับว่ามีฟ้าผ่าในระยะประชิด เสียงที่ดังเกินสิ่งมีชีวิตของมันนั้นส่งผลต่ออวัยวะภายในของสาวชาวเดรโกที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเผ่าที่แกร่งเป็นอันดับต้นๆของโลกเทอร์ร่า ปอดของเธอได้รับความเสียหายจากเสียงที่ดังสนั่นจนส่งผลให้เลือดเริ่มไหลมาจากปาก หูที่คล้ายเอลฟ์ของเธอก็เช่นกันมันนั้นมีเลือดไหลออกมาจากการบาดเจ็บ

หญิงสาวชาวดราโกเปิดตาที่หมดอะไรตายอยากพร้อมกับยิ้มเย็นไปทางระบบโดยมีองค์หญิงตัวน้อยแต่ไม่น้อยที่เธอดูแลในตอนจำลองพุ่งมาหาเธอเป็นฉากหลัง 

“ไอ้ระบบ*คำหยาบในภาษาไอบีเรีย*เอ้ย!”