คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #32 : ชู้ 22 (Jongkey)
ก็ยุ่งอยู่กับคนไข้ ไม่ได้มีเวลาเล่นเน็ตอะไรหรอก เน็ตก็ไม่ค่อยดี
เเต่พอเปิดมาปุ๊ป เงิบค่ะ อยากเอาเข็มน้ำกลือคนไข้เเทงคอตัวเองจริงๆ
เอ็นซีกูซอฟท์ยังกับเเผ่นอนามัยโคตรสลิม มึง-ยัง-จะ-เเบน-กู-อีก
ถ้าเกิดเหตุการณ์นี้อีก เราจะเซย์กู๊ดบายเด็กดีค่ะ.
ขอบคุณผู้อ่านที่ยังติดตามกันมาจนถึงตอนนี้นะคะ เยิ๊บค่ะ♥
______________________________________________________________________________________________
คิบอมรู้สึกตัวอีกทีก็เป็นเวลาเกือบเก้าโมงเช้า คนข้างตัวที่โอบกอดเขาไว้ทั้งคืนหายไปแล้ว ทิ้งไว้แต่ความอุ่นร้อนจากร่างกายจางๆบนฟูกนอนเท่านั้น แต่อย่างน้อย เมื่อคืนคิมจงฮยอนก็โอบกอดเขาใช่ไหม สัมผัสเขาด้วยริมฝีปากอย่างอ่อนโยนใช่ไหม? ลมหายใจอุ่นๆที่เป่ารดตรงซอกคอเป็นของจริงใช่หรือเปล่า? บอกทีว่ามันไม่ใช่ความฝัน
มือขาวจัดที่เย็นเยียบเพราะเครื่องปรับอากาศดึงผ้าห่มผืนนุ่มที่กองอยู่แถวต้นขาให้ขึ้นมาคลุมมิดถึงลำคอ ซุกใบหน้าง่วงงุนลงกับหมอนมากกว่าเก่า
“ถ้าเป็นความฝัน ก็อย่าพึ่งตื่นมาพบกับความจริงเลย”
..................................................
คิมจงฮยอนกำลังยืนพิงขอบอ่างล้างจานในห้องครัวด้วยท่าทีสบายๆ ในมือข้างหนึ่งมีแก้วกระเบื้องสีชมพูบรรจุเฮเซลนัทกาแฟร้อนๆกลิ่นกรุ่นชวนจิบ ตาคมเลื่อนเช็คอัพเดททวิตเตอร์ที่หน้าจอโทรศัพท์ในมืออีกข้างหนึ่ง คิมจงฮยอนไม่ได้ทันตั้งตัวเลยตอนที่วงแขนเย็นๆโอบเข้ามาที่รอบคอ พร้อมกับริมฝีปากนุ่มนิ่มที่แนบลงมา บดเคล้าอย่างเอาใจ ดูดดึงริมฝีปากอยู่เนิ่นนานจนใบหน้าร้อนเห่อ
เกือบจะหลุดกรี๊ดออกไปเพราะโดนจู่โจมแบบไม่ทันตั้งตัวแล้วไหมหล่ะ
มือที่โอบอยู่รอบคอเลื่อนมาวางอยู่บนแผ่นอกตอนที่ผละออกไป ใบหน้าขาวแดงจัด หายใจหอบเข้าออกแทบไม่เป็นจังหวะ ทั้งๆที่เป็นฝ่ายกระทำแท้ๆ ในขณะที่คิมจงฮยอนแค่มองเมินไปทางอื่น ยกแก้วสีชมพูในมือขึ้นจิบกาแฟที่เย็นชืด
เฮเซลนัทหวานหอมก็เท่านั้นหล่ะ เจอริมฝีปากของคิบอมเข้าไป คาราเมลมอคค่าที่เขาว่าหวานจัดยังต้องชิดซ้าย
“พี่รู้ไหมว่ามันน่าอายแค่ไหนที่ทำอะไรแบบนี้?” ดวงตาชื้นน้ำจ้องที่ใบหน้าด้านข้างของจงฮยอน เอ่ยถามด้วยเสียงแผ่วเบาแทบไม่ได้ยิน
“แล้วทำทำไม? กับมินโฮก็เคยทำแบบนี้ด้วยใช่ไหม”
“ไง? เคยหล่ะสิ” จงฮยอนพ่นลมออกทางจมูก เขาวางแก้วกระเบื้องใบนั้นลงไปในอ่าง ก่อนจะเดินออกจากห้องครัวไปด้วยใบหน้าเฉยเมย เรียกให้หยดน้ำอุ่นๆไหลมารวมกันก่อนจะหยดลงบนแก้ม
“ไม่น่าตื่นขึ้นมาเลย”
....................................................................
“โย่ วอทซับมายจงฮยอนฮยองนิม~”
“จงฮยอนนี่~”
คนเป็นน้องเกาหัวแกรกกับท่าทางของพี่ชาย ธรรมดาแค่เขาเดินมา ยังไม่ทันเห็นหน้าด้วยซ้ำพ่อคุณก็เรียกชื่อชวนคุยแล้ว แต่วันนี้มาแปลก แหกปากใส่ยังไม่หัน แถมนั่งอมยิ้มคลึงแก้วสีชมพูในมือที่มีกาแฟเย็นชืด(หลังจากแอบแหย่นิ้วลงไปจิ้ม) อยู่ได้
“ทำไมเฮเซลนัทถึงจืดนักรู้ไหม?”
คิมจงฮยอนยื่นแก้วให้แทมินที่ขมวดคิ้วมองเขาอย่างงงๆ ก่อนจะรับแก้วไปจิบโดยที่สายตายังไม่ละจากรอยยิ้มแปลกๆของพี่ชายไปไหน
“มันก็หวานกลมกล่อมดีแล้วนะ ว่าแต่ทำไมพี่ถึงว่ามันจืดหล่ะ?” เขาถามมาก็เล่นกับเขาไปซักหน่อย ถึงแม้แทมินจะคิดว่ากาแฟในแก้วหอมหวานกำลังดีแล้ว เพียงแต่จะดีกว่านี้ถ้าพึ่งชงใหม่ๆ
“ก็เพราะว่าได้ชิมบางอย่างที่หวานกว่าหน่ะสิ”
แล้วกาแฟแก้วนั้นก็ถูกดึงกลับไปอยู่ในมือของเจ้าของ มุมปากของจงฮยอนยกขึ้นเป็นรอยยิ้มประหลาดๆแต่ท่าจะค่อนไปทางเรื่องดีๆ มืออุ่นยีผมนุ่มลื่นของแทมินด้วยความเอ็นดู ก่อนจะเดินตัวปลิวหายไปทางห้องครัว
“กินยาเม็ดแล้วเผลอเขย่าขวดรึเปล่าวะพี่เรา?”
........................................................
‘ยังกับเดจาวู’
คิมคิบอมที่กำลังหั่นซูกินีให้เป็นเส้นหันมองคิมจงฮยอนที่เดินเข้ามาในครัวพร้อมกับกอดคอน้องเล็กที่แหกปากร้องเพลง Bubibu ของเอพิงค์ด้วยท่าทางน่ารักดังลั่นห้อง
ผิดแต่ว่าวันนี้เข้าไม่ได้ผัดข้าวผัด คิมจงฮยอนไม่ได้มาช่วยเขาหั่นเบคออนหรือเนื้อหมู แล้วก็ไม่ได้ขอให้เขาใส่ข้าวโพดเยอะๆเพราะแทมินชอบเหมือนตอนที่แทมินอยากกินข้าวผัดเบคอนคราวนั้น แล้วเขาก็ไม่ได้โยนทัปเปอร์แวร์ลงอ่างดังโครมด้วย
“ฉับเช ฉับเช ฉับเช~”
เด็กน้อยผู้หิวโหยร้องขึ้นมาเมื่อได้กลิ่นวุ้นเส้นหอมๆผัดคลุกเคล้ากับน้ำมันงาและเห็ดหลากชนิดของโปรด เจ้ามักเน่ของพี่ๆเคาะตะเกียบกับขอบโต๊ะเสียงดังจนโดนจงฮยอนเคาะกางกระหม่อมไปหลายที แต่ก็ยังไม่เข็ด แถมยังอ้าปากร้องอยากกินผัดวุ้นเส้นเป็นทำนองเพลงแรกที่ใช้โปรโมทกันอีก
“ฉับเชมอกโกชิบพอออ~ มิชยอ~” (ฉันอยากกินฉับเชจังเลย~ จะเป็นบ้าแล้ว~)
“รู้แล้วน่า กินข้าวกลางวันมาจากโรงเรียนแล้วไม่ใช่หรือไง หิวโหยอะไรนักหนาหล่ะเรา” คิบอมว่าขันๆตอนที่แทมินทำท่าดีอกดีใจจนโอเวอ่ร์เมื่อเขาตักผัดวุ้นเส้นใส่ในจานตรงหน้า
“เฮ้ยยยย จงอินนี่โทรมา เดี๋ยวผมมานะ” ว่าเท่านั้นก็ทิ้งฉับเชที่อยากกินนักหนาให้เป็นหม้าย กดรับโทรศัพท์ด้วยชื่ออีกคนเสียงแหลมแล้วก็วิ่งจู๊ดหายไป
“ผมรู้ว่าพี่ชอบให้ใส่น้ำมันงากับเนื้อหมูเยอะๆ”
จงฮยอนเงยหน้ามองคนที่กำลังตั้งอกตั้งใจตักผัดวุ้นเส้นร้อนๆหอมฉุยที่อัดแน่นไปด้วยเนื้อและเห็ดต่างๆใส่จานของเขาแล้วก็พ่นลมหายใจออกทางจมูก
“คนที่ชอบเห็ดเยอะๆมาโน่นละ” จงฮยอนกระแทกตะเกียบลงข้างจานเสียงดังลั่นจนอีกคนสะดุ้ง เผลอปล่อยกระทะในมือร่วงลงบนโต๊ะจนวุ้นเส้นร้อนๆกระจายเกลื่อนไปทั้งโต๊ะอาหาร
“กินให้อร่อยนะ”
จงฮยอนพูดเบาแทบจะไม่ได้ยินกับน้องชายในชุดนักเรียนที่ยืนเก๊กท่าหล่อ มือสองข้างล้วงกระเป๋า มาคู่กับหน้าตากวนประสาทและรอยยิ้มเท่ห์ที่จงฮยอนคิดว่าหน้าหมั่นไส้จนอยากจะยันให้ซักโครมหนึ่ง
“มินโฮ”
“อย่าร้องไห้ไปเลย ทนหน่อย เดี๋ยวเขาก็ใจอ่อน” มืออบอุ่นแตะลูบลงบนผมของคิบอมอย่างอ่อนโยนอยู่พักใหญ่ ก่อนจะช่วยคิบอมทำความสะอาดโต๊ะ แล้วก็มานั่งกินฉับเชที่เหลืออยู่สองจานด้วยกัน
“เย็นนี้ฉันจะออกไปกับพวก 91-line ไปด้วยกันไหม?”
“แค่อยู่ด้วยกันแค่นี้พี่จงฮยอนยังจะโดดงับหัวฉันเลย ถ้านายควงฉันไปข้างนอกอีกคืนนี้คงเป็นศพแหง” มินโฮพูดกลั้วหัวเราะ ใช้ตะเกียบม้วนๆวุ้นเส้นในจานตัวเองแล้วก็ร้อง อ้า~ เพื่อให้อีกคนรับวุ้นเส้นเหนียวนุ่มเข้าไปในปาก
“กินกันอร่อยเลยนะ”
“ก็พี่บอกให้ผมกินให้อร่อยไง”
มินโฮยักคิ้วให้พี่ชายทีหนึ่ง ก่อนจะหัวเราะลั่นใส่จงฮยอนที่กระแทกประตูตู้เย็นดังปังก่อนจะเดินหน้าหงิกออกจากห้องครัวไป เขายิ้มน้อยๆพร้อมกับส่ายหน้า
เรื่องขี้หวงหล่ะไม่มีใครเกินคิมจงฮยอน
ความคิดเห็น