ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ผมมีชู้ (Jongkey)

    ลำดับตอนที่ #26 : ชู้ 17 ( Jongkey)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 138
      1
      3 พ.ค. 56


    เย้เฮ่ ! มาต่อให้เเล้วนะคะฃ
    เขียนเองยังอึดอังเอง ตอนนี้มันอัลไลลลลลลลลลลล?
    เอนจอยรีดดิ้งเหมือนเดิมค่าา

    * เจย์จิโน่สองตอนก่อนหน้าเป็นภาคต่อของคู่จงจิโน่นะค้า :)






    ____________________________________________________________________________________
     
    PART 17

     

    หลังจากนั่งหมกตัวอยู่ในร้านประจำในลิสต์ ออกมาเมื่อไหร่ต้องแวะ ที่เคยเป็นของเขากับมินโฮ ได้ใช้เวลากับตัวเองพอสมควรจนพอใจแล้ว คิมคิบอมก็เดินไปจ่ายค่ามอคค่าร้อนที่ถูกทิ้งให้เย็นจนชืดแถมไม่พร่องเลยแก้วนั้น ตวัดผ้าพันคอที่ยังสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นของเจ้าของจางๆไว้รอบคอ ก่อนจะก้มหน้าก้มตาเดินกลับอพาร์ทเมนท์

     

    .....

     

    ดวงตาเรียวจ้องมองสามชีวิตที่กำลังสุมหัวเล่นเกมส์อยู่หน้าทีวี พี่จินกิ พี่จงฮยอน และแทมินที่นั่งอยู่บนตักจงฮยอน...อ้อมแขนที่สอดผ่านรอบเอวบางไปกดจอยส์เกมส์ทำให้โมโหจนเผลอหนักมือกับการปิดประตูไปนิดหน่อย เสียงดังปังเลยทำให้คนทั้งสามหันมามอง

     

    “อ้าวคิบอม? แล้วมิ”

     

    “ผมหนาวอะ ไปหาไรอุ่นๆกินก่อนนะ” รีบพูดแทรกคนเป็นพี่ก่อนจะรีบก้าวเร็วๆเข้าไปในห้องครัว คิบอมถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ก่อนจะเสียบปลั๊กกระติกน้ำร้อน เปิดฝาเติมน้ำลงไปอีกนิดหน่อยแล้วยืนรอ จนกระทั่งร่างขาวจั๊วะของน้องชายคนเล็กสุดเดินเข้ามาในห้องครัว หยิบซองโก้ๆสีน้ำตาลออกมาจากกล่อง ฉีกมันลงแก้วสีชมพูหวานแล้วก็จับจองเก้าอี้พร้อมกับเอาลิ้นแตะๆเจ้าผงโกโก้ที่ใช้ช้อนตักขึ้นมาอย่างเพลิดเพลิน

     

    “แทมิน พี่เลิกกับมินโฮแล้วนะ”

     

    “เหรอ บอกผมทำไม ผมไม่ใช่คนแรกที่อยากรู้หรอก”

     

    “พี่เลือกแล้ว ..แล้วเราจะเลือกสักคนได้มั้ย?” แทมินชะงักช้อนในมือค้าง ก่อนจะเงยใบหน้าเล็กๆมองคิบอมที่กำลังเลื่อนแก้วสีฟ้าที่ชงโกโกหอมๆเรียบร้อยแล้วมาให้ เด็กน้อยไม่ตอบ เพียงแต่รับแก้วมาคนโกโก้ที่ยังไม่ละลายต่อ แล้วก็เลื่อนแก้วของตัวเองกลับไปให้

     

    “ผมก็เลือกแล้ว ..ผมเลือกพี่จ”

     

    “แทมินนี่!

     

    แรงโถมจากด้านหลังพร้อมกับเสียงเรียกดังลั่นทำเอาอีแทมินกลอกตา เข้ามาได้จังหวะตลอดจริงๆนะพี่จงฮยอน ให้ตายสิ แต่พอจงฮยอนอ้อมแขนมาจากด้านหลังเพื่อขยำแก้มเจ้าตัว แทมินก็ยิ้มออกมานิดหน่อย ก่อนจะเหลือบตาไปมองคิมคิบอมที่กลายเป็นส่วนเกินของบทสนทนาไปทันที ยกมุมปากขึ้นให้พี่ชายอีกนิด

     

    “.. พี่จงฮยอน” ยังคงสบตาที่เบิกกว้างของอีกคนต่อไปในขณะที่จัดการส่งแก้วกระเบื้องสีฟ้าบรรจุโกโก้ร้อนๆหอมฉุยให้คนที่กอดเขาจากด้านหลัง

     

    “น่ารักมาก ..ไปเหอะ เหลืออีกสองชีวิตเอง” ยีผมนุ่มๆจนผมสีอ่อนของแทมินฟูฟ่อง ก่อนจะจัดการดึงมือเล็กๆให้เดินตามออกไปเล่นเกมส์ ทิ้งให้คิบอมอยู่กับแก้วสีชมพูบรรจุไปด้วยผงโกโก้แก้วนั้น

     

    ตกลงว่าลีแทมินเลือกพี่จงฮยอนใช่ไหม?

     

    ......................

     

    คิบอมได้แต่ซุกมือตัวเองเข้าไปในแผ่นเจลแช่แข็งเย็นๆสีฟ้าที่ถูกห่อด้วยผ้าขนหนูเพื่อบรรเทาความแสบร้อนบ่นฝ่ามือ โชคดีแค่ไหนที่ยังพอมีสติจะรับรู้ว่ากำลังกดน้ำร้อนลงบนมือตัวเองนานสองนานหลังจากสองคนนั้นเดินกอดคอกันออกจากครัวไป แล้วก็โชคดีแค่ไหนที่เขาไม่ทิ้งแผ่นเจลสีฟ้านี่ไปตอนล้างตู้เย็นครั้งล่าสุด

     

    ตาเรียวก้มลงมองมือตัวเองที่แดงเป็นปื้นแล้วก็พองนิดหน่อย มันทั้งเจ็บทั้งแสบ แต่ก็คงเทียบไมได้กับจิตใจเขาตอนนี้หรอก โดนบอกเลิก แถมรู้ใจตัวเองก็สายไปแล้ว คนที่เชารักกลับทำเมินเหมือนเขาไม่มีตัวตน หัวใจเหมือนถูกมีดกรีทแทงซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนก้อนเนือสีชมพูนั่นเละไม่มีชิ้นดี

     

    คุ้ยตู้ปฐมพยาบาลแล้วก็ไม่พบอะไรที่ดูจะบรรเทาความปวดแสบปวดร้อนที่มือไปได้ซักนิด ก็เลยจัดการเอาแผ่นเจลสีฟ้านั่นห่อมือตัวเอง พันอีกรอบด้วยผ้าขนหนูเอาไว้ กะว่าจะไปหาเอาในกล่องยาของตัวเองในห้องนอน เผื่อจะมีอะไรช่วยได้บ้าง

     

    แล้วภาพที่ปรากฎอยู่ตรงหน้าคิมคิบอมที่ห้องนั่งเล่นคืออะไร ?

     

    ที่แทมินกำลังคุกเข่าคร่อมตักจินกิ แถมยังแตะจุมพิตลงไปหลายทีบนริมฝีปากของลีดเดอร์ที่ทางทางอารมณ์ดีมากคืออะไร มือที่โอบรอบคอจินกิคืออะไร แล้วจงฮยอนที่นั่งไขว่ห้างดื่มโกโก้บนโซฟาข้างๆทั้งคู่ด้วยท่าทางสบายๆคืออะไร ?

     

    คิมคิบอมยกมือข้างที่ปกติขึ้นคลึงหนักๆลงบนขมับทั้งสองข้างของตัวเอง เขารู้สึกมึนหัว แต่ภาพที่เจ้าน้องเล็กทิ้งศีรษะลงบนตักจินกิก่อนจะยกขาพาดไปบนตักจงฮยอนก็ชัดเจนอยู่ในโสตประสาทขนาดที่ว่าเห็นภาพกรอซ้ำไปซ้ำมาในหัว

     

    แสบคอ แล้วก็แสบจมูก

     

    คิบอมรู้ดี..ว่าน้ำตากำลังจะไหลออกมาในไม่กี่วินาทีข้างหน้าหากว่ายังยืนอยู่ตรงนี้  ก็เลยรีบเดินไปสวมรองเท้าลวกๆแล้วก็ปิดประตูปังออกมาจากห้อง

     

    นั่นแหล่ะ ... แล้วคิมคิบอมก็ยืนพิงกำแพงเงียบๆอยู่หน้าประตูห้องพักของตัวเองเป็นครึ่งค่อนชั่วโมง ยืนฟังเสียงหัวเราะร่วนผสมกับเสียงยิงกันในเกมส์ปิ้วๆด้วยเพราะไม่รู้จะไปไหน อยากจะไปให้พ้นจากตรงนี้รึขาก็ไม่มีแรง ไม่ต้องพูดถึงเดินไปร้านยาใกล้ๆเลย เขาไม่ได้เอาอะไรติดตัวออกมาสักอย่ง ทั้งกระเป๋าตังค์หรือมือถือ จะมีก็แต่แผ่นเจลที่เหลือความเย็นน้อยนิดเต็มทีกับผ้าขนหนูชื้นๆอีกผืนหนึ่ง

     

    อยากจะเดินออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์รับลมเย็นๆด้านนอกเสื้อผ้าก็ไม่อำนวย เขายังอยู่ในฮู้ดดี้กับสกินนี่และรองเท้าผ้าใบคู่เมื่อเช้า อุณหภูมิที่ลดต่ำลงเรื่อยๆหลังพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าจะทำให้ลมเย็นๆพัดทะลุเสื้อผ้าเข้ามาบาดผิวจนหนาวเหน็บแล้วก็ไม่สบายเสียเปล่าๆ

     

    จะกลับเข้าไปในห้องก็กลัวจะได้ไปเห็นภาพอะไรแล้วทำให้หัวใจเจ็บร้าวยิ่งไปกว่าเก่า ...

     

    เพราะเสียงหัวเราะและเสียงกดเกมส์ปิ้วๆยังคงดังอย่างต่อเนื่องไม่มีหยุด คิมคิบอมที่ยืนมานานจนขาเริ่มปวดแล้วก็ไม่มีแรงจึงค่อยๆหย่อนตัวนั่งลงบนพื้นพรมหน้าห้อง มือข้างที่ว่างส่งไปทุบๆนวดตามเรียวขายาวใต้กางเกงยีนส์ที่แสนจะเมื่อยล้าพร้อมกับปล่อยให้หยดน้ำตาไหลลงมาแบบนั้น.....

     

    ทั้งคืน

     

    ...............................................................................

     

    “นี่มันอะไรเนี่ย!

     

    เมื่อคืนเขาตัดสินใจไม่กลับมานอนที่อพาร์ทเมนท์เพราะไม่อยากให้เกิดความอึดอัดแล้วก็อยากใช้เวลากับตัวเองสักหน่อย ก็เลยตัดสินใจกลับไปนอนที่บ้าน แต่เขาไม่ได้รีบกลับมาที่นี่แต่เช้าตรู่เพื่อจะเจอคิบอมนอนขดตัวกอดตัวเองไว้บนโซฟาหน้าห้องโดยไม่มีแม้แต่หมอนรองศรีษะหรือผ้าห่มอุ่นๆสักผืนนะ

     

    “ฉันไม่ได้เลิกกับนายเพื่อให้นายมานอนร้องไห้ตากลมแบบนี้นะ” มินโฮแตะคราบน้ำตาบนผิวแก้มซีด มืออุ่นๆลูบไปบนต้นแขนที่ให้สัมผัสเย็นเยียบ เนื่องจากเจ้าตัวเปิดประตูกระจกให้อ้ากว้างจนผ้าม่านผืนบางปลิวสะบัดพึ่บพับรับลมหนาวแทนที่จะเปิดเครื่องปรับอากาศ

     

    รองเท้าก็ไม่ถอด นอนขดเป็นลูกแมว แถมมืออีกข้างนึกที่ซุกอยู่แถวๆลำตัวก็มีผ้าขนหนูพันเอาไว้ ดวงตามีเสน่ห์จ้องมองที่โต๊ะเล็กก็เห็นว่ามีแผ่นเจลสีฟ้าเหลวๆวางอยู่แผ่นหนึ่ง

     

    “คิบอม” มินโฮวางมือตัวเองลงบนต้นแขนพร้อมกับลูบเบาๆ เจ้าของร่างขยับยุกยิก ก่อนจะค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้นมองเชา

     

    “ฉันพาไปนอนในห้องเอาไหม?”

     

    “อือ โอ้ยยย” พยักหน้าหงึกหงักก่อนจะยันตัวลุกขึ้นจากโซฟา แต่ด้วยความที่ลืมไปเลยใช้มือข้างที่เจ็บยันไว้ มือที่ไม่ได้รับการใส่ยาหรือดูแลใดๆและกำลังมีแผลน้ำพองๆแล้วก็อักเสบถึงได้ออกอาการซะจนต้องร้องโอ้ยออกมา

     

    “โดนอะไรมา ? มีแผลเหรอ?” เขามองร่างบางที่กำลังกุมมือตัวเองเอาไว้ มือใหญ่เอื้อมไปประคองที่ข้อมือขาวก่อนจะเปิดผ้าขนหนูออก ผิวขาวปรากฎรอยแดงเป็นปื้น พร้อมกับผิวที่พองขึ้นมาจนเห็นเป็นน้ำใสๆ

     

    “น้ำร้อนลวกมือหน่ะ”

     

    “ลุกไหวไหม เข้าไปนอนในห้องก่อนนะ เดี๋ยวฉันจะไปซื้อยาให้”

     

    มินโฮสอดแขนเข้าใต้ราวเอวบาง จะประคองให้ร่างบางลุกขึ้น แต่มือเล็กๆนั่นก็จิกแขนเขาแน่น

     

    “ไม่ไหว ปวดเท้าไปหมดแล้ว”

     

    ใจจริงมินโฮอยากจะตะโกนถามว่าใครใช้ให้ใส่รองเท้าผ้าใบนอน ใครใช้ให้มานอนตรงนี่กันเล่า? รวมทั้ง พี่จงฮยอนหายหัวไปไหน แล้วมันเกิดบ้าอะไรขึ้นในช่วงข้ามคืนที่เขาไม่อยู่ แต่ก็กลัวอีกคนจะขวัญเสียกว่านี้ ก็เลยปิดปากเงียบ ขยับตัวไปถอดรองเท้าก็ถุงเท้าออกจากข้อเท้าขาว  ก่อนจะเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ กลับมาพร้อมกับอ่างใบเล็กที่บรรจุไปด้วยน้ำอุ่นจัด

     

    “มินโฮ ..อย่าทำแบบนี้”

     

    คิบอมขยับตัวอย่างอึดอัด เมื่ออีกคนนั่งลงด้านหน้าอ่างใบเล็ก ก่อนจะค่อยๆจับขากางเกงของเขาพับขึ้น มือใหญ่ประคองเท้าคู่ขาวๆลงไปในน้ำอุ่นจัด ที่ทำเอาคิบอมถึงกับกัดฟันพร้อมกับดึงเท้าออก

     

    “นั่งเฉยๆ เดี๋ยวฉันนวดให้” ปลายนิ้วอุ่นๆค่อยๆแตะไล้นวดคลึงไปทั่วฝ่าเท้า น้ำหนักมือที่หนักพอดีกับน้ำที่นานเข้าก็เริ่มอุ่นพอดีทำให้คิบอมค่อยๆขยับเอนหลังพิงกับเบาะ ปล่อยให้อีกฝ่ายวักน้ำลูบแถวๆข้อเท้าแล้วก็นวดให้อีกสักพักใหญ่

     

    มินโฮประคองเท้าขาวทั้งสองข้างขึ้นจากน้ำ ดันอ่างน้ำไปให้พ้นทางก่อนจะเขยิบเข้าใกล้จนเข่าติดโซฟาเพื่อจะวางเท้าคู่นั่นลงบนตัก มือใหญ่บรรจงซับละอองน้ำที่ยังเกาะอยู่บนผิวขาวอย่างแผวเบาด้วยผ้าขนหนูสีขาว พอแห้งดีแล้วมินโฮก็ยกเท้าขึ้นไปวางไว้บนโซฟาเหมือนเดิม ปล่อยให้คิบอมที่สีหน้าพอมีเลือดฝาดขึ้นบ้างแล้วทิ้งตัวลงนอนขดบนโซฟาอีกครั้ง พร้อมกับผ้าขนหนูผืนใหม่ห่อน้ำแข็งที่วางอยู่บนมือ

     

    “รอก่อนนะ ..เดี๋ยวฉันไปซื้อยาให้ตกลงไหม?”

     

    คิบอมขยับตัวไปมาบนโซฟาเพราะยังรู้สึกไม่สบายตัว จนกระทั่งสังเกตุเห็นร่างหนึ่งยืนพิงกรอบประตูห้องนอนพร้อมกับส่งรอยยิ้มเหยียดๆมาให้จนใจกระตุกวูบนั่นหล่ะ

     

    “นี่ใช่มั้ย ที่เลิกกันแล้ว?”

     

    แล้วดวงตาคู่สวยที่บอบช้ำก็ได้เริ่มทำงานหนักอีกครั้ง ....


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×