ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    난 니꺼야 (I'm yours) Baeksoo

    ลำดับตอนที่ #8 : 난 니꺼야 7

    • อัปเดตล่าสุด 21 ก.พ. 57





    ______________________________________________________________________________________________
     

    “พี่คริส!

     

    “โอ๊ย! ตีพี่ทำไมเนี่ย”

     

    คนที่โดนฝ่ามือคยองซูฟาดเข้าเต็มต้นแขนโวยวายหน้าเหลอหลา เพราะคยองซูฟาดลงมาไม่ออมแรงจนต้องสูดปากร้องลั่น เล่นเอาคนหันมามองกับเกือบทั้งร้านหนังสือเล็กๆในทงแดมุนแห่งนี้

     

    “นี่มันอะไร?”

     

    คำตอบจากอู๋อี้ฟานคือยิ้มกว้างเห็นเหงือกแข็งแรงและฟันครบสามสิบสองซี่

     

    “พี่คริส ตอบมาเลย ผมจำได้ว่าไม่ได้เป็นคนพิมพ์นะ!

     

    “อย่างอนไปเลยหน่า ..นะ”

     

    คนอายุมากกว่าแตะมือทั้งสองข้างลงบนแก้มใสของคยองซู ก่อนจะแตะจูบเบาๆลงบนริมฝีปากบนอย่างอ่อนโยน

     

    “แล้วเดี๋ยวเราจะขอบคุณที่พี่ทำแบบนี้”

     

    “ชวนบยอนมาทงแดมุนกับเราสองคนนี่นะ? พี่จะแหย่ให้บยอนโมโหเหรอ ไม่ต้องถามก็รู้อยู่แล้วว่าบยอนจะตอบว่าไม่”

     

    “เหรอ ทำไมเราคิดว่างั้นหล่ะ?”

     

    “ก็เขาก็ตอบว่าไม่เนี่ย”

     

    คยองซูชี้ข้อความที่แบคฮยอนตอบกลับมาให้คริสดูด้วยการจ่อหน้าจอมือถือไปที่ปลายจมูก

     

    “เคยได้ยินไหมว่าทฤษฎีกับปฏิบัติหน่ะมันไม่เหมือนกัน?”

     

    “คุณอู๋อี้ฝานนักศึกษาปริญญาจะช่วยพูดอะไรที่เด็กม.ปลายจะเข้าใจได้ง่ายกว่านี้ได้ไหมครับ ถ้าจะกรุณา”

     

    “ดูพูดจาเข้า งั้นเอาเป็นว่าเดี๋ยวพี่ไถ่โทษด้วยการพาไปทานไอศรีมหลังซื้อหนังสือเสร็จดีไหม”

     

    “แค่นั้นเองเหรอ? ง้อบยอนแบคฮยอนนี่ยากกว่าสอบเข้ามหาลัยดีดีอีกนะ”

     

    “อืม.. งั้นคืนนี้พี่พาไปดื่มเอาไหม?”

     

    “พูดจริงนะ?”

     

    “เฮ้ ต้องทำตาวาวขนาดนั้นด้วยเหรอ? อย่าบอกนะว่า...”

     

    “ก็คนที่ทิ้งผมไปสามปีที่แล้วเขาบอกว่าห้ามดื่มถ้าไม่มีเขาอยู่ด้วย ถ้ารู้จะโดนทำโทษ แล้วจะให้ผมทำยังไงหล่ะครับ”

     

    “เพราะพี่พูดอย่างนั้นก็เลยไม่ดื่มจนถึงตอนนี้เหรอ?”

     

    “ก็...ครับ”

     

    คริสรู้สึกว่าตัวเองชักจะยิ้มค้างนานเกินไปจนเหงือกเริ่มจะแห้ง เขาดึงคยองซูเข้ามากอด ไม่สนใจหรอกว่าคนในร้านหนังสือจะมองยังไง จะซุบซิบกันยังไง หน้าตาดีซะอย่าง ทำอะไรก็ไม่ผิด

     

    จนกว่าจะถึงวันที่เขาไว้ใจใครซักคนนึงให้ดูแลคยองซูได้ จนกว่าจะถึงเวลาที่เขาจะต้องปล่อยมือปล่อยใจจากเด็กคนนี้ ก็ดื่มกับพี่ไปก่อนแล้วกันนะเด็กดี เพราะพี่ไม่ไว้ใจใครคนไหนให้ดูแลเราทั้งนั้น.

     

    .......................................

     

    “คยองซูอา ถึงบ้านแล้วครับ”

     

    คนเป็นพี่กดปลายจมูกลงบนแก้มเนียนที่เปลี่ยนเป็นสีแดงจางๆเพราะโดนฤทธิ์แอลกอฮอล์เล่นงาน เปลือกตาสีมุกลืมขึ้นครู่หนึ่งแล้วปิดลงเหมือนเดิม

     

    “ลุกไม่ไหว”

     

    คริสหัวเราะในลำคอ ร่างสูงจัดการดับเครื่องยนต์ ก่อนจะลงจากรถเพื่อเดินอ้อมไปยังประตูอีกฝั่ง

     

    “ว่าไงเรา จะให้พี่อุ้มไหม หรือจะขี่หลัง หรือจะยังไงครับ?”

     

    คริสจัดการปลดเบล์ทให้คยองซูที่ยังนอนคอพับเอนหลังบนเบาะกำมะหยี่ของรถคันแพงขณะถาม คยองซูไม่ตอบ แต่ชูสองแขนใส่เขาแบบที่เมื่อก่อนชอบทำบ่อยๆ

     

    อุ้มสินะ

     

    พอเขาก้มตัวลงไปแล้วสอดแขนเข้าที่รอบเอว คยองซูกลับวาดแขนทั้งสองข้างโอบรอบคอเขาไว้แล้วก็ซบหน้าลงมาบนบ่าทั้งอย่างนั้น

     

    “พยุงผมก็พอแล้ว พี่คริสต้องถือของนะ รองเท้ากับหมวกผม หนังสือ”

     

    เล่นเอาคริสขำพรืด ก็นึกว่าคยองซูจะอ้อนอะไร ที่ไหนได้ ดันห่วงเขาไม่มีมือถือของเจ้าตัวซะงั้น

     

    “งั้นเดี๋ยวพี่ไปเอาของหลังรถก่อน แล้วเดี๋ยวพี่มารับนะครับ” 

     

    คริสจูบแก้มคยองซูทั้งสองข้างด้วยความเอ็นดู เขาผละตัวออกไปหยิบถุงหมวก รองเท้า เสื้อผ้า และหนังสือของคยองซูที่หลังรถ พอกลับมาก็พบว่าคยองซูออกมาจากรถเรียบร้อยแล้วและกำลังยืนเอนๆหลับตาพิงตัวรถอยู่

     

    “ไป เข้าบ้านกัน”

     

    เขายื่นมือออกไปให้คยองซูจับ เด็กตัวเล็กยื่นมือมาจับแต่โดยดีก่อนจะดึงเขาให้เข้าไปใกล้

     

    “พี่คริส ... ทำไมบ้านหมุนไปหมุนมาจังเลย แล้วจะเข้าบ้านยังไง?”

     

    คยองซูเกาะที่ชายเสื้อยืดสีดำของคริสเอาไว้แน่น ซุกหน้าลงกับอกอีกฝ่ายราวกับจะหนีภาพที่ชวนให้เวียนหัวอยากจะอาเจียนตรงหน้า

     

    “นี่ไง เดี๋ยวพี่พาเข้าบ้าน”

     

    คริสสอดมือเข้าที่รอบเอว กดจูบลงบนขมับของคยองซูก่อนจะดึงเอวเล็กให้ออกเดิน เขาดึงคยองซูให้เข้ามาชิดตัวเพราะเด็กขี้เมาเอาแต่เดินสกิปขาพันกันยุ่งเหยิงตลอดเวลา แถมยังเดินเซออกนอกทางเดินลงสนามหญ้าทุกๆสองก้าว

     

    “พี่คริส เอาของวางแล้วมาอุ้มขึ้นไปนอนหน่อย ขึ้นบันไดเอง เดี๋ยวหน้าทิ่ม”

     

    คยองซูบอกเขาอย่างนั้นหลังจากคริสไขประตูเข้าบ้านเสร็จและเดินไปหาคยองซูที่ยืนหลับตาพิงกำแพงอยู่ไม่ไกล คนตัวสูงเลยต้องเอาของเข้าไปวางบนโซฟาด้วยความไวแสงก่อนจะเดินออกมาหาคยองซูที่ชูสองแขนรอเรียบร้อยแล้ว พอเดินเข้าไปหา คยองซูก็เอื้อมมือมาดึงตรงอกเสื้อเพื่อให้เขาเข้าไปใกล้ให้ทันใจเจ้าตัว ก่อนจะยกมือสองข้างโอบเข้าที่รอบคอ แล้วทิ้งตัวพิงเขาทั้งตัว

     

    อย่างงี้ก็เข้าทางเลยมั้ย?

     

    คริสโอบแขนที่รอบเอวเล็ก ในขณะที่ใช้มืออีกข้างหนึ่งเชยคางคยองซูให้เงยขึ้นเพื่อจะมองหน้าให้ชัดๆ

     

    “พี่ไม่อุ้มเราได้ปะ?”

     

    “อุ้มหน่อยนะ ผมเดิมไม่ไหวแล้ว นะ... ฟานเก่อเก่อ” อ้อนด้วยชื่อที่เขาชอบไม่พอ คยองซูยังยื่นหน้าขึ้นมาจูบที่ปลายคางเขาอีกหนึ่งที พอเห็นเขายังยืนนิ่งไม่ยอมขยับ คราวนี้จูบที่ข้างแก้ม

     

    “เด็กอายุสิบแปดนี่หนักนะ แค่จูบแก้มเองเหรอ”

     

    พอพูดอย่างนั้นคยองซูก็ดึงคอเสื้อเขาเพื่อให้โน้มหน้าลงมา ตอนที่ริมฝีปากรูปหัวใจนั้นแตะลงมา อู๋อี้ฟานก็ตัดสินใจว่าจะไม่หักห้ามใจจะไม่สัมผัสคยองซูอีกต่อไปแล้ว มันอาจจะแปลกที่มาทำแบบนี้กับคยองซูที่เป็นแฟนเก่า แถมยังเป็นเขาเองที่บอกเลิกคยองซูเพราะต้องไปเรียนต่อเมืองนอกหลายปี แต่คยองซูก็คือคยองซู น่ารักแล้วก็ขี้อ้อนไม่มีเปลี่ยน

     

    ฟ ฟานเก่อ พอแล้ว อื้อ ..หายใจ ...ไม่ทัน”

     

    คยองซูกำอกเสื้อเขาแน่นตอนที่เขาผละริมฝีปากออกมา เด็กตัวเล็กหอบหายใจ เกาะบ่าและเสื้อเข้าไว้เป็นหลักยึดเพราะรสจูบร้อนร้อนของฟานเก่อเก่อทำให้แทบไม่มีแรงยืน อี้ฟานจูบลงบนริมฝีปากรูปหัวใจที่เป็นสีจัดนั้นอีกทีอย่างแสนเสียดาย ก่อนจะสอดแขนเข้ารองแผ่นหลังและใต้ขอพับเข่าเพื่ออุ้มคยองซูขึ้น  คนอายุน้อยกว่าโอบคอเขาและเอนศีรษะมาพิงที่อกอัตโนมัติ คล้ายคุ้นชินกับการกระทำแบบนี้ของฟานเก่ออยู่แล้ว

     

    “ ฟานเกอเก่อ เข้าบ้านกัน เดี๋ยวมีคนมาเห็น”

     

    “พึ่งจะมาเขินรึไงเรา คนแถวนี้เขาก็รู้กันหมดแหล่ะว่าพี่เป็นลูกเขยบ้านนี้  หรือว่าไม่รู้?”  ประโยคสุดท้ายเขาหันไปถามคนแถวบ้านอีกคนหนึ่งที่ยืนหลบอยู่ตรงมุมมืดของรั้วบ้านถัดไป

     

    ขอโทษเถอะ ...อู๋อี้ฟานเป็นคนที่ตาดีแล้วก็หูไวมากนะครับ.

     

    ก็จริงที่เด็กนั้นอาจจะยังไม่รู้ เพราะว่าหลังจากเขาย้ายไปต่างประเทศไม่นาน ครอบครัวของแบคฮยอนถึงจะย้ายเข้ามา ไม่แปลกอะไรถ้าเด็กนั่นจะไม่รู้จักเขา หรือไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับเขาเลย

     

    “ช่างเถอะ อี้ฟาน เข้าบ้านซักที ผมง่วงแล้ว” คยองซูพูดกับอกเขาด้วยเสียงงึมงำแทบจับใจความไม่ได้ ชายหนุ่มกระชับเสื้อโค้ตของตัวเองที่สวมอยู่บนตัวคยองซูให้กระชับเข้ากับอกและคอของคยองซูมากขึ้น เด็กในอ้อมแขนขยับตัวเล็กน้อย เปลือกตาปิดพริ้ม

     

    “น่ารักอย่างนี้คืนนี้อย่างหวังจะได้นอน”

     

    เขาจงใจพูดเสียงดัง มองเด็กในอ้อมแขนแล้วยกยิ้มมุมปาก ก่อนจะยกเข่าขึ้นเพื่อดันประตูที่ปลดล็อคไว้แล้วให้อ้าออกกว้างพอจะเดินเข้าไปได้

     

    ก็เอาสิ .. ถ้าวันนี้เด็กข้างบ้านมันได้ดูซีรีย์สดชุดเข้าชิงรางวัลออสการ์ที่นำแสดงด้วยอู๋อี้ฝานแล้วยังหลับลง อู๋อี้ฟานจะยอมให้ถีบหน้าอีกทีเลยเอ้า!
     



    ถวายคยองซูให้คริสเก่อเก่อ
    เปลี่ยนเป็นฟิคคริสซูดีมั้ยยย *วิ่งหลบรองเท้า*
    ถ้ายอดวิวกับยอดเเฟนคลับเพิ่มไม่หยุด เเต่คอมเมนท์ไม่ไปด้วยกันเเบบนี้
    เจอกันตอนนี้ตอนสุดท้ายค่ะ
    บัยสสสสส์!



     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×