คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : 난 니꺼야 5
___________________________________________________________________________________________
เพราะว่าวันนี้แบคฮยอนเข้าห้องเรียนเสียกลางคาบ ทำให้คยองซูไม่มีโอกาสชวนแบคฮยอนคุยได้เลย พอเสียงออดร้องบอกเวลาพักเที่ยง คยองซูก็เปิดฉากทันที
“บยอน ทำไมเมื่อวานไม่ยอมรับโทรศัพท์”
“รู้สึกยังไงหล่ะเวลาที่อยากคุยกับใครแล้วเขาไม่รับโทรศัพท์”
“บยอน ฉ
“แบคฮยอนอา ไปกินข้าวกันเถอะ วันนี้เค้าทำข้าวกล่องมาเผื่อแบคด้วยนะ ไปกินที่ดาดฟ้ากันดีกว่า”
มินอาชูกล่องข้าวในมือก่อนจะดึงมือของแบคฮยอนให้ลุกขึ้นเดินตาม
“ใครกันแน่ที่มีแฟนแล้วลืมเพื่อน!”
................................................
คยองซูไม่เห็นหน้าแบคฮยอนอีกเลยตลอดทั้งบ่าย ดวงตากลมโตได้แต่จ้องมองที่ว่างข้างตัวและส่งสายตาตัดพ้อไปยังกระเป๋าเป้ของแบคฮยอนด้วยความน้อยอกน้อยใจ
“ใจร้าย ตัวเองมีแฟนแล้วทิ้งฉันก่อนแท้ๆ”
สาบานเลยว่าคยองซูพยายามแล้วที่จะตั้งใจเรียน แต่พอเผลอทีไรสายตาของเขาก็จะสอดส่ายหาแบคฮยอน ชะเง้อชะแง้คอมองออกนอกหน้าต่าง เผื่อว่าจะเห็นแบคฮยอนเดินเตร่อยู่อย่างที่เจ้าตัวชอบทำ แต่ก็ไม่มี
“โดคยองซู ทำไมไม่ตั้งใจเรียน ออกไปยืนนอกห้องเดี๋ยวนี้!”
คยองซูเดินคอตกออกไปนอกห้องแต่โดยดี แต่ตลอดหนึ่งชั่วโมงที่เหลือ ก็ยังไม่มีวี่แววของแบคฮยอน พอออดดังคยองซูก็โดนอาจารย์สั่งให้ช่วยเพื่อนทำความสะอาดกระดานต่ออีก คยองซูที่ลบกระดานเสร็จแล้วได้แต่ทิ้งตัวลงนั่งเหยียดขายาวกับพื้นเพราะขาโดนความเมื่อยล้าเข้าเล่นงาน ตอนนั้นเองที่แบคฮยอนเดินกลับเข้ามาในห้องเพื่อมาเอากระเป๋า
“บยอน หายไปไหนมา”
อีกคนไม่ตอบ เพียงแต่คว้ากระเป๋าเป้ของตัวเองขึ้นพาดบ่าแล้วเดินกลับออกไป
“นี่ฉันทำอะไรผิดมากมายนักหรือไง”
คยองซูเบะปาก เดินไปหยิบกระเป๋าเป้ของตัวเองขึ้นพาดบ่าบ้าง ก่อนจะเดินทอดน่องลงบันไดตึกไปช้าๆ
“ทำไมลงมาช้าจัง หนีเวรไม่ทันหรือไงเรา?”
“พี่คริส”
“โย่”
คนตัวสูงยกมือขึ้นทัก ก่อนจะคว้ากระเป๋าเป้ของคยองซูขึ้นพาบ่าข้างหนึ่ง มือใหญ่อีกข้างกุมมือของคยองซูไว้ก่อนจะออกแรงดึงให้เดินตามไป
“ไปเร็ว เพื่อนเราเดินไปจะถึงหน้าประตูโรงเรียนแล้ว”
“ห้ะ?”
แล้วคยองซูก็เข้าใจตอนที่เขาและคริสเดินออกมาเกือบจะถึงหน้าประตูโรงเรียน บยอนแบคฮยอนกำลังยืนล้วงกระเป๋าพิงรถมอเตอร์ไซค์ของตัวเองที่จอดไว้ใกล้ๆกับประตูใหญ่ คงกำลังรอมินอา
“ไปค่ะ ไปขึ้นรถ เดี๋ยวพาไปทานเค้ก” มือที่กุมอยู่เลื่อนมาเป็นโอบรอบบ่าเล็ก ปลายนิ้วอุ่นๆแตะไล้บนแก้มใสขณะที่พาคยองซูเดินผ่านแบคฮยอนที่จับจ้องเขาด้วยสายตาไม่ชอบใจอย่างไม่ปิดบัง
หวงกันอย่างนี้ก็สนุกหน่ะสิ
“มองทำไมไอเปี๊ยก ไม่พอใจเหรอ?”
“พี่คริส”
“ผมไม่มีสิทธิไม่พอใจหรอก ผมก็แค่เพื่อน”
ถึงดวงตาเรียวรีของแบคฮยอนจะจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าของคยองซู แต่มันก็เต็มไปด้วยความไม่พอใจและความเฉยชาที่คยองซูก็ไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นเพราะอะไร แล้วเขาทำอะไรผิด ถ้าเขาจะมีแฟน แบคฮยอนจำเป็นต้องโกรธขนาดนี้เชียวหรือ?
“รู้ตัวว่าเป็นแค่เพื่อนแล้วก็ทำให้ได้อย่างที่พูดหล่ะ เลิกทำหน้าไม่พอใจซะด้วย”
คริสพูดแค่นั้นแล้วก็โอบคยองซูไปขึ้นรถยนต์สีควันบุหรี่ที่จอดอยู่ไม่ไกลออกไป หนุ่มร่างสูงหัวเราะอย่างอารมณ์ดีขณะมองกระจกหลังเพื่อถอยรถ ส่วนคยองซูหน้าบึ้ง
“เขาไม่พอใจอะไร ทำไมไม่พูด”
“พี่ว่า มันก็คงเหมือนกับที่เราไม่ชอบให้เขาอยู่กับแฟนคนสวยของเขาแหล่ะมั้ง แค่เขาไม่ได้มาร้องไห้ซบอกให้พี่ปลอบเหมือนเรา”
“พี่คริส”
“ไม่ลองบอกเขาดูหน่อยเหรอเด็กน้อย ไม่มีอะไรดีกว่าการที่ได้รู้ว่าคนที่เราชอบเค้าก็ชอบเราอยู่เหมือนกันหรอกนะ”
“มันเป็นไปไม่ได้หรอกครับ เป็นเพื่อนกันแบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว แต่บยอนต้องไม่เป็นแบบนี้สิ บยอนต้องน่ารักกับผมแล้วก็ไม่โมโหใส่ผมแบบนี้”
“มักน้อยจริงๆเด็กอะไร อย่างนี้ก็ยุยากหน่ะสิ”
เขาเคาะพวงมาลัยรถ ขับรถไปก็คิดแผนอะไรไปเพลินๆ
“ปกติเด็กนั่นกลับบ้านกี่โมง”
“บยอนชอบมาถึงบ้านประมาณสองทุ่มนะ ไม่ขาดไม่เกินนี้”
คริสพาคยองซูไปทานเค้กตามที่บอก หลังจากนั้นก็พาไปเดินเล่นแถวสวนที่มีน้ำพุไม่ไกลออกไปจากบ้านนัก ปล่อยเวลาให้ไหลผ่านเลยไปจนเกือบสองทุ่ม เขาถึงพาคยองซูกลับมาส่งบ้าน และหลังจากจัดการส่งเด็กตัวเล็กเข้าบ้านไปเรียบร้อย คริสก็รอเวลา
ชายหนุ่มก้มลงมองนาฬิกาเรือนงามบนข้อมือ ยังมีเวลาอีกเกือบสิบนาทีกว่าเด็กตัวเปี๊ยกนั่นจะกลับมาให้เขาแหย่ ชายหนุ่มนั่งผิวปากฮัมเพลงไปเรื่อย แล้วตอนที่เข็มยาวยังไม่ทันถึงเลขสิบสองดี มอเตอร์ไซค์คันโตที่ไม่เข้ากับเด็กม.ปลายเอาซะเลยก็แล่นเข้ามาจอดที่หน้ารั้วบ้านถัดไป เด็กหนุ่มบนรถถอดหมวกกันน๊อคออกก่อนจะสะบัดผมเล็กน้อย
คริสยิ้มกริ่ม เปิดประตูก้าวลงจากรถแล้วกดล็อครถ เสียงล็อกเข้าที่ทำให้แบคฮยอนหันมามอง เขาเลยยักคิ้วให้ทีหนึ่งก่อนจะเดินควงกุญแจผิวปากเข้าบ้านไปด้วยท่าทางกวนประสาท
ถ้าเด็กนั่นไม่คลั่งตายมาถีบหน้าอู๋อี้ฝานได้เลย
ความคิดเห็น