ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Melodic Boy Live in Absolute Quality ♬ (2U)

    ลำดับตอนที่ #1 : ♬1

    • อัปเดตล่าสุด 5 ธ.ค. 56



    ขอสารภาพว่านิยายเรื่องนี้มันชั่ววูบมากอีกเเล้ว
    คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย เเล้วก็นึกภาพหนุ่มๆกรีดตา เเต่งตัวร๊อคๆ
    จับเครื่องดนตรีเท่ห์ๆ เเล้วก็ออกมาหนึ่งตอนอย่างที่เห็น ฮอล~
    จะต่อมั้ยยังไม่รู้ ถ้าชอบไม่ชอบยังไงก็บอกกันด้วยนะฮ้าบบ.

    ______________________________________________________________________________________________
     


    “ฮอล~ เซงชะมัด” ชายหนุ่มอายุยี่สิบต้นๆภายใต้เสื้อเชิ๊ตสีขาวเนื้อดีและกางเกงยีนส์พอดีตัวพึมพำฟึดฟัดในลำคอ ขณะหย่อนตัวลงนั่งบนเบาะกำมะหยี่หนานุ่มสีแดงเลือดนกในผับเล็กๆแห่งหนึ่งย่านคังนัม ดวงตาเรียวรีกวาดตาสำรวจไปทั่วร้านขณะรอบริกรนำเครื่องดื่มมาเสิร์ฟ

     

    “ไม่ใช่ผับบ้านนอกอย่างที่คิดไว้แฮะ” มือขาวสะอาดโคลงแก้วทรงสวยที่เหลือเพียงก้อนน้ำแข็งในมือไปมาจนเกิดเสียงก๊อกแก๊ก ก่อนจะเลื่อนสายตาขึ้นไปยังเวทีเล็กๆกลางร้านที่มีคีย์บอรด์หนึ่งตัว ขาไมค์ และกีตาร์ไฟฟ้าตั้งอยู่ใกล้กัน

     

    ตลกและ! อย่าบอกนะว่าเล่นดนตรีอะไรกันเสร็จไปแล้ว นี่เขาไม่ได้ขับรถอ้อมมาครึ่งประเทศเพื่อมาดื่ม White Russian แล้วก็นั่งดูเวทีเปล่านะเว้ย

     

    กำลังจะต่อโทรศัพท์หาเจ้านายที่เป็นคนยื่นคำขาดว่าให้มาที่ผับเล็กๆแห่งนี้ให้ทันเวลาเพราะเฮียแกเล็งนักร้องหนุ่มหล่อเสียงดีกับมือคีย์บอรด์เอาไว้ กะว่าจะเกี้ยวมาเข้าสังกัด แถมยังบอกว่าดูโอ้คู่นี้จะเล่นแค่คืนวันพุธ แล้วก็อยู่ไม่เกินสี่ทุ่ม ทำให้เขาต้องรีบเหยียบมิดออกมาจากบริษัทตอนสามทุ่มเศษ เล่นเอาโดนด่าพ่อล่อแม่ตามรายทางไม่ได้หยุด

     

    นาฬิกาบอกเวลา 9: 55 นาทีตอนที่อีกฝ่ายรับโทรศัพท์ด้วยเสียงร่าเริงจนอยากยื่นมือผ่านมือถือตัวเองเข้าไปตะกุยหน้าซักทีถ้าทำได้

     

    หยุดเลยไอตัวแสบ นาฬิกาเราเร็วไปนาทีนึงใช่ไหม? ใจเย็น เขาจะขึ้นมาตอน 9.55 นาทีพอดีนั้นแหล่ะ อ้อ แล้วก็

     

    ยังไม่ทันจบประโยคดีเขาก็เห็นว่ามีชายหนุ่มสองคนเดินขึ้นเวทีมา คนนึงเดินไปประจำที่คีย์บอร์ด เขาเป็นผู้ชายผิวขาว ใบหน้าล้อมกรอบไปด้วยเส้นผมสีน้ำตาลเข้มดัดมีสไตล์ ริมฝีปากอิ่มสีสดชวนมอง ส่วนผู้ชายที่สะพายกีตาร์ไฟฟ้าและยืนประจำอยู่หน้าไมค์นั้น เป็นผู้ชายผิวขาวจัด เส้นผมสีดำถูกเซ็ตขึ้นโชว์หน้าผากเกลี้ยง ดวงตาคมดุดันให้ความรู้สึกเข้ากันดีกับเครื่องประดับที่อยู่บนร่างกาย ทั้งต่างหูและสร้อยคอ

     

    “หน้าตาดี แต่งตัวดูมีสไตล์ทั้งคู่นะ แต่ฝีมือจะมีหรือเปล่านั่นอีกเรื่อง”

     

    เดี๋ยวก็รู้ ดูการแสดงของเขาแล้วจะมาขอพี่เป็นเมเนเจอร์ให้สองคนนั้นแทบไม่ทัน

     

    “ถ้าไม่เจ๋งสมที่โม้นะ ผมจะไปเตะฮยองที่ห้องคืนนี้เลย ข้อหาทำให้เปลืองหูเปลืองตา เปลืองค่าน้ำมันเสียเวล่ำเวลานอน เฮอะ” ว่าแล้วก็ตัดสายฉับ ก่อนจะเอนตัวพิงกับพนักสบาย พร้อมกับจิบเครื่องดื่มแก้วใหม่

     

    “สำหรับเพลงสุดท้ายของค่ำคืนนี้  เป็นเพลงที่ยูชอนนี่ของเรานำมาอะเรนจ์ใหม่นะครับ...”

     

    ชายหนุ่มผิวขาวเจ้าของไมค์เว้นวรรคเล็กน้อยเพื่อให้สาวๆที่เกาะอยู่ด้านหน้าเวทีได้กรี๊ด ยูชอนนี่จนหนำใจ ดวงตาคมดุเจือแววหยอกเย้าขี้เล่นมากขึ้นเมื่อเขาส่งรอยยิ้มให้คนด้านหลังคีย์บอร์ดที่ค้อนตาคว่ำมาให้เพราะเรียกชื่อตัวเองเสียน่ารัก

     

    เขาเบ้ปากหน่อยๆ แสดงว่ามือคีย์บอร์ดนั่นชื่อ ยูชอนนี่เหรอ ? แล้วเอียงคออีกด้วยความสงสัย เมื่อเห็นว่านักร้องคนนั้นหันไปโยกคอน้อยๆเพื่อให้จังหวะเพลง จะเล่นกันอีท่าไหนถ้ามีแค่คีย์บอร์ดกับกีต้าร์ไฟฟ้าวะนั่น?

     

    “เพลง Lucifer ของชายนี่นะครับ เราไปฟังกันเลยดีกว่า วัน ทู ทรี Go!

     

    “เออ เจ๋งเว้ย ทำเมโลดี้กันเองด้วย”  ก็พึ่งจะสังเกตุว่าที่หน้าแสตนด์มันมีไอแพดต่อเข้ากับลำโพง แล้วมือคีย์บอรด์ก็เอื้อมมือไปเคาะมันจึ้กๆเป็นพักๆ ถึงจะเป็นดนตรีสังเคราะห์จากแอพก็ตาม แต่ก็ทำให้เกิดดนตรีสนุกๆดังก้องไปทั่วร้านเล็กๆ แถมเป็นเพลงดังที่ใครๆก็รู้จักแถมยังร้องตามได้ ในร้านเลยยิ่งคึกครื้น แม้แต่เขาเองที่ตอนแรกหงุดหงิดฟึดฟัดเพราะต้องเหยียบมิดมาทำงานด่วนทั้งๆที่ง่วงแสนง่วงยังต้องโยกตาม แล้วยังปล่อยให้ Long Island Ice Tea กลายเป็นสีจางๆผสมน้ำแข็งอีกต่างหาก

     

    ยิ่งฟังก็ยิ่งสนุก จังหวะกลองแน่นๆกับเสียงตุ๊บๆหนักๆของเบสมันชวนให้ขยับร่างกายขนาดไหน อยากให้เจ้าของเพลงเขาได้มาฟังเวอร์ชั่นนี่เสียจริง แล้วนี่ถ้าเต้นเป็นนะ ป่านนี่พ่อออกไปเซิ้งแทนเด็กแสงละ เสียดายเต้นแอโรบิคแบบเบสิคกูยังผิดตั้งกะท่าสอง

     

    การแสดงจบลงด้วยโซโล่กีต้าร์ไฟฟ้าชุดใหญ่ที่ทำเอาเขาอ้าปากค้าง ผู้ชายคนนั้นดูดีขึ้นอีกเป็นล้านเท่าตอนที่กรีดนิ้วลงบนสายกีตาร์พร้อมกับโยกตัวแรงๆ และกระชากวิญญาณคนฟังจนหลุดไปเรียบร้อยด้วยเสียงทุ้มห้าวแต่นุ่มนวลอยู่ในทีในไลน์สุดท้าย

     

    บอกได้คำเดียวว่า

     

     

    “สุดติ่งกระดิ่งแมว!

     

     

    เขาเห็นการแสดงของศิลปินมาเยอะเพราะว่าทำงานอยู่เบื้องหลังนะ แต่ตอนนี้ในหัวมันมีแต่ Loverholic, Robotronic, Loverholic, Robotronic คอ-บู-ฮัล ซู ออบ-นึน นอ-เย มา-รยอค-อึน LUCIFER. พร้อมกับเสียงเบสตึ้บๆอยู่ในหัวเนี่ย กว่าจะเรียกสติตัวเองกลับมาจากการแสดงนั่นได้นักร้องสุดหล่อคนนั้นก็พาดกระเป๋ากีตาร์ขึ้นบ่า เดินกอดคอยูชอนนี่ที่เดินหนีบไอ แพดคู่ใจไปเกือบถึงหน้าร้านแล้ว

     

     

    “ไม่ได้นะ ล่อพ่อซะเบสติดหูตึ๊บๆขนาดนี้ไม่จีบเข้าสังกัดก็ต้องไปกินหญ้าแทนข้าวละ” มุมปากยกขึ้นยิ้มถูกใจ วางแบงค์หนักสองใบไว้บนโต๊ะก่อนจะปัดๆเสื้อผ้า แล้วใส่เกียร์หมาไปยืนกางแขนขวางหน้าคนทั้งสอง

     

    “สวัสดีครับ ผมชื่อคิมจุนซู มาจากบริษัท Injae Entertainment ครับ พอจะมีเวลาคุยกับผมสักครู่ไหม?”






    :)  Shalunla

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×