ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : เจ้าหญิงแห่งบารามอส : อาจารย์คนใหม่และการฝึกซ้อม
             
                            อาจารย์คนใหม่และการฝึกซ้อม
                  ห้องอาหารดราก้อนยังคงเนืองแน่นไปด้วยผู้คนเช่นเคย แม้ว่าเจ้าตัวยุ่งจะบ่นไม่ขาดปากว่าอาหารไม่ได้เรื่องแต่คนไม่รู้จักอิ่มก็ซัดเข้าไปไม่รู้กี่จานแล้ว เหล่าฝูงลิงทโมนรุ่นเดียวกันต่างพากันจ้องปริบ ๆ ไม่เว้นแม้แต่ไอ้คนที่ได้รับฉายา ‘เจ้าชายมาดมาก’ เหตุก็เนื่องด้วยแม่ตัวดีนั่นแหละ ถึงมันจะกินเรียบร้อยขึ้นเยอะ แต่ปริมาณก็เพิ่มขึ้นจนน่าใจหายเหมือนกัน ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อให้คาโนวาล บารามอส หรือแม้แต่เดมอสเองก็คงประสบปัญหา ‘อาหารขาดแคลน’ ไปตาม ๆ กัน
                  “เฟริน” เสียงจากเจ้าชายคาโนวาลเอ่ยขึ้นติดจะดุหวังว่าจะปรามแม่ตัวดีที่นั่งอยู่ตรงหน้าได้บ้างแต่เจ้าหล่อนกลับนั่งกินต่อไปเรื่อย ๆ ทำเป็นไม่รู้ร้อน
                  “แกไปอดอยากมาจากไหนวะ ถึงได้กินเยอะอย่างนี้ ทำยังกับว่าจะไปออกรบ” เจ้าเพื่อนซี้ที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ออกปากแซวเล่น ๆ อย่างไม่จริงจังอะไร แต่คนฟังถึงกับสะดุ้งเฮือกสำลักอาหารที่เจ้าตัวจับเข้าท้องไปแทบไม่ทัน ก่อนจะหยิบน้ำที่วางอยู่ข้าง ๆ มาดื่ม
                  นัยน์ตาสีน้ำตาลฉายประกายเคร่งเครียดอยู่ชั่วครู่ เมื่อคิดได้แล้วว่าไอ้คนพูดมันคงไม่รู้อะไรมาจึงฉายประกายระริกขี้เล่นอย่างเก่าก่อนเสริม
                  “มีให้กินก็กินสิวะ เดี๋ยวนี้อะไร ๆ ก็สงครามแกไม่รู้เรอะ ตุนไว้ก่อนไม่เสียหาย” เจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์กล่าวอย่างไม่เจียมตัวก่อนจะยัดของตรงหน้าเข้าปากต่ออย่างเอาเป็นเอาตาย ทิ้งให้คนอื่น ๆ พากันถอนหายใจเฮือก
              น่าสงสารบารามอส เดมอส คาโนวาล จริง ๆ
                  เสียงดาบที่ปะทะกันเคร้งคร้างในลานกว้างเรียกเสียงฮือฮาจากนักเรียนป้อมอัศวินให้ส่งเสียงเชียร์อย่างสนุกสนาน เมื่ออาจารย์พิเศษที่มาเข้าสอนแทนอาจารย์ลาเวน ชมัคเกอร์ องครักษ์จากบารามอสของเจ้าหญิงเฟลิโอน่าถูกเรียกตัวกลับไปช่วยรบที่ศึกชายแดนนั้น เรียกตัวเจ้าชายคนสำคัญจากคาโนวาลออกไปเป็นคู่ฝึกซ้อม
                  การฝึกที่ดูยังไงก็ไม่ใช่การฝึก เมื่ออาจารย์ตัวแทนที่มาจากบารามอสวาดวิถีดาบแห่งจิตพุ่งเข้าสู่ร่างของเจ้าชายแห่งคาโนวาล!!!
                  กำแพงน้ำแข็งถูกสร้างขึ้นทันเพียงชั่วอึดใจก่อนที่ร่างของนักเวทย์จะได้รับบาดเจ็บ เจ้าชายน้ำแข็งยังคงยืนสงบนิ่งเป็นรูปสลักอย่างไม่เกรงกลัวนักดาบตรงหน้าที่ถึงแม้ตอนนี้เกราะป้องกันของเขาจะแตกเป็นเสี่ยง ๆ ทันทีที่วิถีดาบพุ่งเข้าปะทะ
                  เฟรินกัดฟันกรอดเมื่อมองการต่อสู้เบื้องหน้า ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าไอ้อาจารย์นั่นมันไม่ได้คิดแค่จะฝึกซ้อม!!!
                  ศึกชายแดนที่เริ่มจะสาหัสขึ้นเรื่อย ๆ แม้กระทั่งคิงบาโรเองยังมาร่วมรบ ศึกที่ไม่น่าจะเป็นแค่ศึกชายแดน หากแต่เป็นศึกชิงเมืองมากกว่า!
                  เลือดปีศาจในกายวิ่งพล่านอยากจะกระโจนเข้าไปต่อสู้แทนบุรุษตรงหน้า...  ไม่ใช่เพราะความสนุก แต่เพราะความโกรธและความเป็นห่วงเจ้าคนใจอ่อนที่ไม่เคยกล้าลงดาบทำร้ายใครซักที
                  คิลที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เฟรินเริ่มรับรู้ถึงสถานการณ์ตึงเครียดเบื้องหน้าหันมามองเจ้าเพื่อนซี้สาวที่มันเงียบไป ก่อนที่จะคว้าแขนเธอไว้เตือนสติ เมื่อเห็นสีหน้าเคร่งเครียดของคนที่มักยิ้มแย้มอยู่เสมอแปรเปลี่ยนเป็นความโกรธ อีกทั้งมือของมันที่ถือดาบปฐพีอยู่นั้นบัดนี้เริ่มสั่นน้อย ๆ
                  คนถูกคว้าข้อมือหันขวับมาชักสีหน้าหงุดหงิดแล้วตะโกนด่าใส่หน้าเพื่อนผู้แสนหวังดีเข้าให้เต็มเหนี่ยว
                  “นายไม่เห็นหรือไง ไอ้อาจารย์กำมะลอนั่นมันเอาจริงนะเว้ย”
                  “ก็แล้วนายไม่เห็นหน้าไอ้คาโลมันรึไง”เสียงตอบเย็น ๆ เรียบ ๆ ของคิลเรียกให้คนฟังชะงักกึกก่อนจะหันไปดูหน้าเพื่อนอีกคนที่บัดนี้นัยน์ตาสีฟ้าวาวโรจน์พร้อมสู้กับอาจารย์บ้าเลือด
                  เฟรินถอนหายใจเล็กน้อยปลงกับเจ้าคนรักศักดิ์ศรีตรงหน้า ถึงแม้ว่าเธอจะเข้าไปช่วยแต่บางครั้ง คาโลเองก็อาจจะไม่พอใจได้เหมือนกัน...
                  ดาบปฐพีถูกเรียกเก็บจากมือเล็กทำให้เพื่อนรักค่อย ๆ เบาใจ แล้วปล่อยแขนมันให้เป็นอิสระ ก่อนจะหันกลับไปดูการต่อสู้เบื้องหน้าอีกครั้ง
                  เพลงดาบที่เร็วและแรงตอบโต้กลับจากนักรบแห่งคาโนวาล การปะทะกันที่รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ อย่างไม่อ่อนข้อเรียกให้คนดูถึงกับตาเบิกกว้าง...
              นี่มันเก่งขึ้นขนาดนี้เลยหรือนี่
                  “ดาบ ปราบ มาร!!!” เจ้าชายแห่งคาโนวาลประกาศก้อง ก่อนที่จะพุ่งตัววาดเพลงดาบใส่นักรบแห่งบารามอสเบื้องหน้า
                   
                  เคร้ง!
                  วิถีดาบในตำนานแห่งคาโนวาลถูกดาบใหญ่ของอาจารย์รับไว้ได้ทันท่วงทีก่อนที่จะปะทะเข้าสู่ตัว หากแต่ดาบที่ใช้ปกป้องเจ้าของกลับถูกตวัดหลุดจากมือกระเด็นไปไกล ก่อนที่จะรู้ตัวอีกที ดาบของเจ้าชายก็พาดมาที่คอเสียแล้ว
                  “ฝีมือเจ้านับว่าใช้ได้ทีเดียว”
                  คำกล่าวจากอาจารย์เรียกให้ลูกศิษย์ตื่นขึ้นจากภาพการฝึกซ้อมเบื้องหน้า นักเรียนชั้นปีเจ็ดของป้อมอัศวินหลายคนปรบมือโห่ร้องให้กับเจ้าชายน้ำแข็งผู้เป็นเพื่อนอย่างสนุกสนาน หากแต่เจ้าตัวยุ่งถึงกลับบ่นหงุงหงิงไม่ขาดปาก
                  “ฝีมือใช้ได้กะผีน่ะสิ ชนะขาดลอยเห็น ๆ” คำบ่นที่เรียกเสียงหัวเราะจากนักฆ่าเพื่อนซี้ให้หัวเราะก๊าก และยิ่งเมื่อเห็นสีหน้ามุ่ย ๆ ของคนหัดเป็นหญิงก็ทำให้อดเอ่ยปากแซวไม่ได้
                    “นายจะชมว่ามันเก่งก็ว่ามาเหอะ” คนถูกสวนหน้าร้อนฉ่าแยกเขี้ยวงุด เตรียมจะย้อนคำเข้าให้ หากแต่ขณะที่กำลังอ้าปากจะโต้กลับอยู่นั้น เจ้าชายพระเอกของงานก็เดินเข้ามาทำให้เสียงที่มีอยู่หายเข้าไปในลำคอ ดวงหน้าหวานที่แดงระเรื่อแปรเปลี่ยนเป็นแดงก่ำสุก ก่อนที่เจ้าตัวจะเอามือปิดหน้าแล้วรีบเดินหนีหายไปซะอย่างนั้น
                    “เฟรินมันเป็นอะไร” คนพูดน้อยถามขึ้นเมื่อเห็นเจ้าตัวดีหน้าตาแดง ๆ ติดจะไข้เดินหนีหายเข้าไปในปราสาท นักฆ่าเห็นสีหน้าเจ้าชายที่ดูเหมือนจะไม่ทันได้ฟังประโยคเด็ดหัวเราะอีกรอบก่อนกล่าว
                      “มันคงหิว” ว่าแล้วคิลก็เดินนำไปที่ห้องอาหารโดยไม่สนใจคนข้างหลังที่งงเล็กน้อย คนฟังประมวลผลในใจแล้วตัดสินใจเดินตามไป
                  เสียงนกร้องขับขานดึงดูดความสนใจให้นัยน์ตาสีน้ำตาลหันไปมองที่ริมหน้าต่าง แสงแดดยามบ่ายสาดส่องเข้ามาภายในห้องกว้างเรียกให้คนมองหยีตาเล็กน้อย ก่อนจะสูดหายใจลึก ๆ สายลมแผ่วเบาพัดเอาความอบอุ่นและกลิ่นดอกไม้หอมอบอวลสู่ชั้นเรียน
                      บรรยากาศแสนดีที่ควรจะออกไปวิ่งเล่น หากแต่เธอต้องมานั่งติดแหง็กอยู่ในห้องเรียน นึกแล้วก็หงุดหงิดใจไม่หาย โดยเฉพาะเมื่อหันไปยังที่นั่งว่างเปล่าด้านข้างที่ตนมักจะเห็นไอ้รูปสลักน้ำแข็งนั่งขีด ๆ เขียน ๆ อยู่นั้น มันทำให้เธอสนใจเนื้อหาการเรียนน้อยลงไปอีก!
                      เสียงแมลงหวี่จากอาจารย์สอนวิชาประวัติศาสตร์คนใหม่ยังคงดังต่อไปเรื่อย ๆ เรียกให้นักเรียนหลายคนเข้าไปนั่งเรียนต่อในโลกแห่งความฝัน นัยน์ตาสีน้ำตาลที่หรี่เล็กตั้งแต่ตอนแรกเริ่มปรือลงช้า ๆ
                      “เมื่อไร่นายจะเลิกนอนหลับในคาบเรียนซักที” เสียงจากห้องสมุดเดินได้ดังขึ้นจากด้านหลังเรียกให้คนตื่นยากสะดุ้งขึ้นมาทันที ก่อนจะปรายตามองรอบ ๆ ห้องที่บัดนี้มีนักเรียนทยอยออกไปจนเกือบหมด หลังจากที่เจ้าตัวจัดการบิดขี้เกียจเสร็จแล้วก็จัดแจงปลุกนักฆ่าขี้เซาข้างตัว
                      “โร นายรู้ไหมว่าไอ้คาโลมันไปไหน” เสียงจากแม่ยอดยุ่งถามขึ้นหลังจากที่เดินออกมาจากห้องเรียนเรียกให้เจ้าของชื่อหันมาช้า ๆ ก่อนตอบ
                        “ประชุม”
*****************************************************************************************
มาอัพแล้วเจ้าค่า~ แหะ ๆ ตอนที่แล้วสั้นไปนิดนะเจ้าคะ เพราะว่ามันเป็นบทนำ (เกี่ยวกันมั้ยเนี่ย) เอาไว้เรียกน้ำย่อยกันเฉย ๆ ค่ะ
กะว่าช่วงนี้จะอัพจนกว่าจะถึง ... ส่วนที่ตั้งใจไว้นะคะ ^^\" จะพยายามให้ถึงค่ะ ส่วนอาทิตย์หน้าพอดีมีสอบกลางภาค อาจจะไม่ได้มาอัพนะ
ช่วงนี้ก็นั่งอ่าน ๆ แต่ง ๆ แต่ฟิกไม่ได้อ่านหนังสือเยยยย T_T
ตอนนี้น่าเบื่อซักนิดนะคะ แต่ว่าตอนต่อไป หึ ๆ ๆ (หัวเราะอย่างเจ้าเล่ห์)
ส่วนที่เมนต์กันมา ขอบคุณมากเลยนะคะ ที่เป็นกำลังใจให้
ส่วนคำถามที่ว่า
- คาโลใช้ดาบปราบมารเป็นด้วยหรือนี่???
คือว่า ในส่วนที่แต่ง คาโลตอนนี้อยู่ปีเจ็ดแล้ว หลังจากที่ย้อนเวลากลับไปคราวนั้น (ในเล่ม 4) ก็ได้ฝึกปรือฝีมือมากขึ้นค่ะ
- เฟรินดูท่าทางจะฟิวส์ขาดง่ายกว่าปกติ
อันนี้เป็นเพราะว่า อาจารย์ที่มาจากบารามอสนั้นคิดมากกว่าการฝึกน่ะค่ะ เรียกว่าตีกันนอกวงก็ได้ ^^\"
- ส่วนศึกที่สงสัยกันนั้น เดี๋ยวจะเฉลยค่ะ อิ ๆ ๆ รอตอนหน้านะคะ รับรองเฉลยแน่ ๆ ค่ะ
ส่วนตัวเรื่องนี้ถ้าถามว่า จะเศร้าหรือไม่เศร้า... อันนี้ ก็ต้องอ่านกันต่อไปนะคะ
(ปล. เพื่อนข้าน้อยบอกว่า ให้กันเฟรินทิ้งไปซะ แล้วเอาตัวเองไปเป็นนางเอกแทน... >_< ฮิๆๆๆๆ หุๆๆๆๆ )
เมนต์ ๆ โหวต ๆ กันมาบ้างนะ ^^
                            อาจารย์คนใหม่และการฝึกซ้อม
                  ห้องอาหารดราก้อนยังคงเนืองแน่นไปด้วยผู้คนเช่นเคย แม้ว่าเจ้าตัวยุ่งจะบ่นไม่ขาดปากว่าอาหารไม่ได้เรื่องแต่คนไม่รู้จักอิ่มก็ซัดเข้าไปไม่รู้กี่จานแล้ว เหล่าฝูงลิงทโมนรุ่นเดียวกันต่างพากันจ้องปริบ ๆ ไม่เว้นแม้แต่ไอ้คนที่ได้รับฉายา ‘เจ้าชายมาดมาก’ เหตุก็เนื่องด้วยแม่ตัวดีนั่นแหละ ถึงมันจะกินเรียบร้อยขึ้นเยอะ แต่ปริมาณก็เพิ่มขึ้นจนน่าใจหายเหมือนกัน ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อให้คาโนวาล บารามอส หรือแม้แต่เดมอสเองก็คงประสบปัญหา ‘อาหารขาดแคลน’ ไปตาม ๆ กัน
                  “เฟริน” เสียงจากเจ้าชายคาโนวาลเอ่ยขึ้นติดจะดุหวังว่าจะปรามแม่ตัวดีที่นั่งอยู่ตรงหน้าได้บ้างแต่เจ้าหล่อนกลับนั่งกินต่อไปเรื่อย ๆ ทำเป็นไม่รู้ร้อน
                  “แกไปอดอยากมาจากไหนวะ ถึงได้กินเยอะอย่างนี้ ทำยังกับว่าจะไปออกรบ” เจ้าเพื่อนซี้ที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ออกปากแซวเล่น ๆ อย่างไม่จริงจังอะไร แต่คนฟังถึงกับสะดุ้งเฮือกสำลักอาหารที่เจ้าตัวจับเข้าท้องไปแทบไม่ทัน ก่อนจะหยิบน้ำที่วางอยู่ข้าง ๆ มาดื่ม
                  นัยน์ตาสีน้ำตาลฉายประกายเคร่งเครียดอยู่ชั่วครู่ เมื่อคิดได้แล้วว่าไอ้คนพูดมันคงไม่รู้อะไรมาจึงฉายประกายระริกขี้เล่นอย่างเก่าก่อนเสริม
                  “มีให้กินก็กินสิวะ เดี๋ยวนี้อะไร ๆ ก็สงครามแกไม่รู้เรอะ ตุนไว้ก่อนไม่เสียหาย” เจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์กล่าวอย่างไม่เจียมตัวก่อนจะยัดของตรงหน้าเข้าปากต่ออย่างเอาเป็นเอาตาย ทิ้งให้คนอื่น ๆ พากันถอนหายใจเฮือก
              น่าสงสารบารามอส เดมอส คาโนวาล จริง ๆ
                  เสียงดาบที่ปะทะกันเคร้งคร้างในลานกว้างเรียกเสียงฮือฮาจากนักเรียนป้อมอัศวินให้ส่งเสียงเชียร์อย่างสนุกสนาน เมื่ออาจารย์พิเศษที่มาเข้าสอนแทนอาจารย์ลาเวน ชมัคเกอร์ องครักษ์จากบารามอสของเจ้าหญิงเฟลิโอน่าถูกเรียกตัวกลับไปช่วยรบที่ศึกชายแดนนั้น เรียกตัวเจ้าชายคนสำคัญจากคาโนวาลออกไปเป็นคู่ฝึกซ้อม
                  การฝึกที่ดูยังไงก็ไม่ใช่การฝึก เมื่ออาจารย์ตัวแทนที่มาจากบารามอสวาดวิถีดาบแห่งจิตพุ่งเข้าสู่ร่างของเจ้าชายแห่งคาโนวาล!!!
                  กำแพงน้ำแข็งถูกสร้างขึ้นทันเพียงชั่วอึดใจก่อนที่ร่างของนักเวทย์จะได้รับบาดเจ็บ เจ้าชายน้ำแข็งยังคงยืนสงบนิ่งเป็นรูปสลักอย่างไม่เกรงกลัวนักดาบตรงหน้าที่ถึงแม้ตอนนี้เกราะป้องกันของเขาจะแตกเป็นเสี่ยง ๆ ทันทีที่วิถีดาบพุ่งเข้าปะทะ
                  เฟรินกัดฟันกรอดเมื่อมองการต่อสู้เบื้องหน้า ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าไอ้อาจารย์นั่นมันไม่ได้คิดแค่จะฝึกซ้อม!!!
                  ศึกชายแดนที่เริ่มจะสาหัสขึ้นเรื่อย ๆ แม้กระทั่งคิงบาโรเองยังมาร่วมรบ ศึกที่ไม่น่าจะเป็นแค่ศึกชายแดน หากแต่เป็นศึกชิงเมืองมากกว่า!
                  เลือดปีศาจในกายวิ่งพล่านอยากจะกระโจนเข้าไปต่อสู้แทนบุรุษตรงหน้า...  ไม่ใช่เพราะความสนุก แต่เพราะความโกรธและความเป็นห่วงเจ้าคนใจอ่อนที่ไม่เคยกล้าลงดาบทำร้ายใครซักที
                  คิลที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เฟรินเริ่มรับรู้ถึงสถานการณ์ตึงเครียดเบื้องหน้าหันมามองเจ้าเพื่อนซี้สาวที่มันเงียบไป ก่อนที่จะคว้าแขนเธอไว้เตือนสติ เมื่อเห็นสีหน้าเคร่งเครียดของคนที่มักยิ้มแย้มอยู่เสมอแปรเปลี่ยนเป็นความโกรธ อีกทั้งมือของมันที่ถือดาบปฐพีอยู่นั้นบัดนี้เริ่มสั่นน้อย ๆ
                  คนถูกคว้าข้อมือหันขวับมาชักสีหน้าหงุดหงิดแล้วตะโกนด่าใส่หน้าเพื่อนผู้แสนหวังดีเข้าให้เต็มเหนี่ยว
                  “นายไม่เห็นหรือไง ไอ้อาจารย์กำมะลอนั่นมันเอาจริงนะเว้ย”
                  “ก็แล้วนายไม่เห็นหน้าไอ้คาโลมันรึไง”เสียงตอบเย็น ๆ เรียบ ๆ ของคิลเรียกให้คนฟังชะงักกึกก่อนจะหันไปดูหน้าเพื่อนอีกคนที่บัดนี้นัยน์ตาสีฟ้าวาวโรจน์พร้อมสู้กับอาจารย์บ้าเลือด
                  เฟรินถอนหายใจเล็กน้อยปลงกับเจ้าคนรักศักดิ์ศรีตรงหน้า ถึงแม้ว่าเธอจะเข้าไปช่วยแต่บางครั้ง คาโลเองก็อาจจะไม่พอใจได้เหมือนกัน...
                  ดาบปฐพีถูกเรียกเก็บจากมือเล็กทำให้เพื่อนรักค่อย ๆ เบาใจ แล้วปล่อยแขนมันให้เป็นอิสระ ก่อนจะหันกลับไปดูการต่อสู้เบื้องหน้าอีกครั้ง
                  เพลงดาบที่เร็วและแรงตอบโต้กลับจากนักรบแห่งคาโนวาล การปะทะกันที่รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ อย่างไม่อ่อนข้อเรียกให้คนดูถึงกับตาเบิกกว้าง...
              นี่มันเก่งขึ้นขนาดนี้เลยหรือนี่
                  “ดาบ ปราบ มาร!!!” เจ้าชายแห่งคาโนวาลประกาศก้อง ก่อนที่จะพุ่งตัววาดเพลงดาบใส่นักรบแห่งบารามอสเบื้องหน้า
                   
                  เคร้ง!
                  วิถีดาบในตำนานแห่งคาโนวาลถูกดาบใหญ่ของอาจารย์รับไว้ได้ทันท่วงทีก่อนที่จะปะทะเข้าสู่ตัว หากแต่ดาบที่ใช้ปกป้องเจ้าของกลับถูกตวัดหลุดจากมือกระเด็นไปไกล ก่อนที่จะรู้ตัวอีกที ดาบของเจ้าชายก็พาดมาที่คอเสียแล้ว
                  “ฝีมือเจ้านับว่าใช้ได้ทีเดียว”
                  คำกล่าวจากอาจารย์เรียกให้ลูกศิษย์ตื่นขึ้นจากภาพการฝึกซ้อมเบื้องหน้า นักเรียนชั้นปีเจ็ดของป้อมอัศวินหลายคนปรบมือโห่ร้องให้กับเจ้าชายน้ำแข็งผู้เป็นเพื่อนอย่างสนุกสนาน หากแต่เจ้าตัวยุ่งถึงกลับบ่นหงุงหงิงไม่ขาดปาก
                  “ฝีมือใช้ได้กะผีน่ะสิ ชนะขาดลอยเห็น ๆ” คำบ่นที่เรียกเสียงหัวเราะจากนักฆ่าเพื่อนซี้ให้หัวเราะก๊าก และยิ่งเมื่อเห็นสีหน้ามุ่ย ๆ ของคนหัดเป็นหญิงก็ทำให้อดเอ่ยปากแซวไม่ได้
                    “นายจะชมว่ามันเก่งก็ว่ามาเหอะ” คนถูกสวนหน้าร้อนฉ่าแยกเขี้ยวงุด เตรียมจะย้อนคำเข้าให้ หากแต่ขณะที่กำลังอ้าปากจะโต้กลับอยู่นั้น เจ้าชายพระเอกของงานก็เดินเข้ามาทำให้เสียงที่มีอยู่หายเข้าไปในลำคอ ดวงหน้าหวานที่แดงระเรื่อแปรเปลี่ยนเป็นแดงก่ำสุก ก่อนที่เจ้าตัวจะเอามือปิดหน้าแล้วรีบเดินหนีหายไปซะอย่างนั้น
                    “เฟรินมันเป็นอะไร” คนพูดน้อยถามขึ้นเมื่อเห็นเจ้าตัวดีหน้าตาแดง ๆ ติดจะไข้เดินหนีหายเข้าไปในปราสาท นักฆ่าเห็นสีหน้าเจ้าชายที่ดูเหมือนจะไม่ทันได้ฟังประโยคเด็ดหัวเราะอีกรอบก่อนกล่าว
                      “มันคงหิว” ว่าแล้วคิลก็เดินนำไปที่ห้องอาหารโดยไม่สนใจคนข้างหลังที่งงเล็กน้อย คนฟังประมวลผลในใจแล้วตัดสินใจเดินตามไป
                  เสียงนกร้องขับขานดึงดูดความสนใจให้นัยน์ตาสีน้ำตาลหันไปมองที่ริมหน้าต่าง แสงแดดยามบ่ายสาดส่องเข้ามาภายในห้องกว้างเรียกให้คนมองหยีตาเล็กน้อย ก่อนจะสูดหายใจลึก ๆ สายลมแผ่วเบาพัดเอาความอบอุ่นและกลิ่นดอกไม้หอมอบอวลสู่ชั้นเรียน
                      บรรยากาศแสนดีที่ควรจะออกไปวิ่งเล่น หากแต่เธอต้องมานั่งติดแหง็กอยู่ในห้องเรียน นึกแล้วก็หงุดหงิดใจไม่หาย โดยเฉพาะเมื่อหันไปยังที่นั่งว่างเปล่าด้านข้างที่ตนมักจะเห็นไอ้รูปสลักน้ำแข็งนั่งขีด ๆ เขียน ๆ อยู่นั้น มันทำให้เธอสนใจเนื้อหาการเรียนน้อยลงไปอีก!
                      เสียงแมลงหวี่จากอาจารย์สอนวิชาประวัติศาสตร์คนใหม่ยังคงดังต่อไปเรื่อย ๆ เรียกให้นักเรียนหลายคนเข้าไปนั่งเรียนต่อในโลกแห่งความฝัน นัยน์ตาสีน้ำตาลที่หรี่เล็กตั้งแต่ตอนแรกเริ่มปรือลงช้า ๆ
                      “เมื่อไร่นายจะเลิกนอนหลับในคาบเรียนซักที” เสียงจากห้องสมุดเดินได้ดังขึ้นจากด้านหลังเรียกให้คนตื่นยากสะดุ้งขึ้นมาทันที ก่อนจะปรายตามองรอบ ๆ ห้องที่บัดนี้มีนักเรียนทยอยออกไปจนเกือบหมด หลังจากที่เจ้าตัวจัดการบิดขี้เกียจเสร็จแล้วก็จัดแจงปลุกนักฆ่าขี้เซาข้างตัว
                      “โร นายรู้ไหมว่าไอ้คาโลมันไปไหน” เสียงจากแม่ยอดยุ่งถามขึ้นหลังจากที่เดินออกมาจากห้องเรียนเรียกให้เจ้าของชื่อหันมาช้า ๆ ก่อนตอบ
                        “ประชุม”
*****************************************************************************************
มาอัพแล้วเจ้าค่า~ แหะ ๆ ตอนที่แล้วสั้นไปนิดนะเจ้าคะ เพราะว่ามันเป็นบทนำ (เกี่ยวกันมั้ยเนี่ย) เอาไว้เรียกน้ำย่อยกันเฉย ๆ ค่ะ
กะว่าช่วงนี้จะอัพจนกว่าจะถึง ... ส่วนที่ตั้งใจไว้นะคะ ^^\" จะพยายามให้ถึงค่ะ ส่วนอาทิตย์หน้าพอดีมีสอบกลางภาค อาจจะไม่ได้มาอัพนะ
ช่วงนี้ก็นั่งอ่าน ๆ แต่ง ๆ แต่ฟิกไม่ได้อ่านหนังสือเยยยย T_T
ตอนนี้น่าเบื่อซักนิดนะคะ แต่ว่าตอนต่อไป หึ ๆ ๆ (หัวเราะอย่างเจ้าเล่ห์)
ส่วนที่เมนต์กันมา ขอบคุณมากเลยนะคะ ที่เป็นกำลังใจให้
ส่วนคำถามที่ว่า
- คาโลใช้ดาบปราบมารเป็นด้วยหรือนี่???
คือว่า ในส่วนที่แต่ง คาโลตอนนี้อยู่ปีเจ็ดแล้ว หลังจากที่ย้อนเวลากลับไปคราวนั้น (ในเล่ม 4) ก็ได้ฝึกปรือฝีมือมากขึ้นค่ะ
- เฟรินดูท่าทางจะฟิวส์ขาดง่ายกว่าปกติ
อันนี้เป็นเพราะว่า อาจารย์ที่มาจากบารามอสนั้นคิดมากกว่าการฝึกน่ะค่ะ เรียกว่าตีกันนอกวงก็ได้ ^^\"
- ส่วนศึกที่สงสัยกันนั้น เดี๋ยวจะเฉลยค่ะ อิ ๆ ๆ รอตอนหน้านะคะ รับรองเฉลยแน่ ๆ ค่ะ
ส่วนตัวเรื่องนี้ถ้าถามว่า จะเศร้าหรือไม่เศร้า... อันนี้ ก็ต้องอ่านกันต่อไปนะคะ
(ปล. เพื่อนข้าน้อยบอกว่า ให้กันเฟรินทิ้งไปซะ แล้วเอาตัวเองไปเป็นนางเอกแทน... >_< ฮิๆๆๆๆ หุๆๆๆๆ )
เมนต์ ๆ โหวต ๆ กันมาบ้างนะ ^^
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น