ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (os/sf) #614Hadesz | chanbaek

    ลำดับตอนที่ #10 : OS | Nightmare /special Halloween 100per

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 10.44K
      720
      9 พ.ย. 62

      






     NIGHTMARE | CHANBAEK 


       "พ่อครับ..ผมฝันถึงมันอีกแล้ว" 

       ดวงตาคู่หวานอิดโรย .. ใบหน้าของเด็กหนุ่มอายุสิบเก้าเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อผุดพราวจนไรผมสีน้ำตาลช็อกโกแลตเปียกชุ่ม สิ่งที่เขาพบเจอมันอาจเป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อเกินกว่าวิทยาศาสตร์จะพิสูจน์ ภาพของใครบางคนที่ไม่เคยพบเจอแทรกซึมเข้ามาในความทรงจำจนกลายเป็นภาพหลอน

       และในทุกๆตีสามเขาจะตื่นจากฝันร้ายที่คอยตามหลอกหลอนมานับหลายปี..  

       บยอน แบคฮยอน เหลือบมองบิดาของตนเองด้วยแววตาเรียบนิ่ง มันกลายเป็นความเคยชินไปเสียแล้วกับการต้องมานั่งเล่าฝันร้ายเดิมๆให้พ่อฟัง .. และในทุกๆครั้ง..พ่อของเขาก็จะบอกว่ามันเป็นแค่เรื่องเพ้อเจ้อ 

       "ก็แค่ฝัน"
       "ฝันเรื่องเดียวมาตลอดงั้นน่ะหรอครับ"  เด็กหนุ่มพูดขึ้นเสียงอีกนิดหน่อยเพื่อกลบเสียงเม็ดฝนซึ่งกำลังตกใส่หลังคาบ้านของเขาอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุดหย่อน .. ฤดูกาลประเทศนี้มันผิดแปลก ทั้งๆที่เข้าสู่หน้าหนาวอย่างเต็มตัวแล้วแท้ๆ แต่กลับมีไอ้เจ้าฝนบ้าที่แบคฮยอนเกลียดแสนเกลียดมากวนใจซะได้  .. ชายอ้วนท้วมลูกครึ่งฝั่งตะวันตกเลิกคิ้ว แล้วจะทำไงล่ะ ความฝัน..มันก็คือความฝัน

       "พ่อว่าลูกอาจจะแค่ดูหนัง แล้วก็เก็บมาคิดมากไปเอง"   ร่างเล็กถอนหายใจเสียงดัง .. นี่เขากำลังพูดกับกำแพงอยู่หรือเปล่า? ทั้งๆที่อาการตอนนี้แบคฮยอนเข้าข่ายคนป่วยมากขึ้นทุกวัน เขาไม่เคยนอนหลับ จะทำอะไรก็รู้สึกระแวงเหมือนมีคนจ้องมองอยู่ตลอดเวลา ยิ่งนึกถึงความฝัน..มันหนักขึ้น หนักขึ้นจนบางครั้งรู้สึกได้ว่า'ผู้ชายสูทม่วงคนนั้น'มากระซิบใกล้ๆอยู่ที่ข้างใบหู .. เรียวคิ้วสีอ่อนขมวดย่น พ่อเคยแคร์เขาบ้างหรือเปล่าว่าตอนนี้ตัวเองรู้สึกยังไง 

       "ต้องรอให้ผมเป็นบ้าก่อนใช่มั้ยพ่อถึงจะเชื่อว่ามันไม่ใช่เรื่องปกติ" 
       "..."   ความเงียบปกคลุมทั่วทั้งบ้าน เสียงฝนเบาทุเลาลงคล้ายกับต้องการรับฟังความในใจจากเด็กหนุ่ม .. ดวงตาสีน้ำตาลคลอเบ้าไปด้วยหยดน้ำ มันรู้สึกจุกที่คอจนหายใจลำบากมากเข้าไปทุกทีๆ 

       "ต้องรอให้ผมเป็นโรคประสาท! รอให้ผมตายก่อนใช่หรือเปล่า!!"
       "เงียบนะแบคฮยอน!!"
       "ไม่!!!"  เด็กหนุ่มผลุดลุกจากโซฟาสีเข้ม ยืนเช็ดน้ำตาที่พรั่งพรูไหลออกมาจนเลอะแก้มเนียนใสไปหมด 

       "พ่อรู้หรือเปล่าว่ามันทรมานขนาดไหน!!" 
       "..."
       "เค้าจะฆ่าผม!! พ่อรู้บ้างมั้ยว่าผู้ชายคนนั้นเค้าจะฆ่าผ-!!" 

       เพล้ง!!!

       เสียงหน้าต่างบานเก่าที่จู่ๆก็แตกทะลุอย่างไม่มีสาเหตุส่งผลให้ดวงเนตรทั้งคู่หันขวับ .. เงาสูงยืนทอดไกลห่างจากตัวบ้านออกไปราวห้าเมตรดูแน่นิ่งคล้ายกับยืนครุ่นคิดอะไรบางอย่าง ..หยดฝนเริ่มตก ส่งผลให้กายเขาเริ่มขยับ  โครงหน้าประหลาดที่ถูกทาเคลือบด้วยชอล์คขาวตัดกับเรือนผมสีเขียวดูเหมือนตัวตลกในโรงละครสัตว์ของเด็กๆ  ริมฝีปากนั้นทาบทามด้วยรอยยิ้มสีแดงฉานฉีกมาถึงข้างแก้มราวกับมีความสุขกับทุกๆเรื่องบนโลกใบนี้อยู่ตลอดเวลา .. 

       แม้มันจะเป็นเรื่องน่าเศร้าก็ตามที  .. 

       เสียงหัวเราะน่าขนลุกดังขึ้น .. แบคฮยอนจำคนที่ยืนอยู่ตรงนั้นได้แม่นเสียยิ่งกว่าใครในโลก 

       ผู้ชายในฝันร้ายของเขา .. 

       "Why so serious?"  เสียงทุ้มต่ำดังแทรกผ่านเข้ามาในโสตประสาท คนตัวโตขยับกายเข้าใกล้บริเวณบ้านมากขึ้นเรื่อยๆพาลให้เด็กหนุ่มจิกปลายเล็กลงกับฝ่ามือด้วยความหวาดกลัว .. 

       "ถอยไป..พ่อจะฆ่ามันเอง"  ชายวัยกลางคนเอ่ยยามเมื่อสบเข้ากับดวงตาคู่คมคู่นั้น คว้าเอาปืนลูกซองยาวขึ้นจับก่อนที่ร่างสูงจะลุกล้ำเข้ามาภายในบ้านของตนเอง .. รอยยิ้มและเสียงหัวเราะยังดังให้ได้ยินอยู่ไม่ขาด ผู้ชายคนนั้นไม่ได้มีท่าทีเกรงกลัวพ่อของเขาเลยสักนิดแม้ตอนนี้กระสุนทุกดอกจะใส่ครบพร้อมยิงร่างตรงหน้าให้แหลกเป็นจุนแล้วก็ตามที ...  กระจกหน้าต่างที่แตกออกกลายเป็นทางเข้าของชายแปลกหน้า  ในมือข้างขวาถือปืนพกสีทองดูเหมือนของเล่นเด็กทั้งๆที่แท้จริงแล้วอาจไม่ใช่ .. 

       "Well ..well ..well"  จังหวะการใช้น้ำเสียงราวกับนักแสดงในโรงละครสัตว์ ไม่ยักรู้ว่ารอยยิ้มที่สร้างขึ้นจากการเขียนจะดูน่ากลัวได้มากมายขนาดนี้  .. ร่างสูงโค้งตัวต่อพ่อของเขาพร้อมกับยื่นดอกกุหลาบสีดำให้โดยที่ไม่รู้ว่ามันมาอยู่ในมือของผู้ชายคนนั้นได้อย่างไร และเมื่อไหร่..
       เสียงเตรียมลั่นไกจากปืนลูกซองจากชายอ้วนบ่งบอกว่าอีกฝ่ายไม่เล่นด้วย ..แต่ถึงจะอย่างนั้น คนที่ดูคล้าย JOKER ก็ยังคงนิ่ง

       "ออกไป"
       "นึกว่าคุณจะจำผมได้ คุณเกรย์"  เรียวเท้าขยับเข้าใกล้ขึ้นเรื่อยๆจนปลายกระบอกปืนแทบจ่ออยู่ที่หน้าอก มีบางช่วงจังหวะที่ผมดันเผลอไปสบตาอีกฝ่ายจนความรู้สึกเหมือนดิ่งลงเหวแทรกซึมเล่นงานทำเอาทรงตัวแทบไม่อยู่  .. ร่างสูงควงกระบอกปืนสีทองเล่น มันน่าพิศมัยเสียจริง..ถ้าตะกั่วสักลูกจะถูกฝังเข้าไปในปากนั่น   
       มือแกร่งวางทาบลงกับส่วนปลายกระบอก หักมันขึ้นก่อนที่ชายท้วมจะลั่นไกส่งผลให้กระสุนยิ่งทะลุฝ้าเพดานจนเกิดเสียงดังคับบ้าน 

       ดวงตาคู่หวานเบิกโพลง .. คนธรรมดาทำแบบนั้นได้จริงๆน่ะหรอ .. 

       "อ๊ากกก!!"
       "พ่อ!!!"  มือแกร่งกระชากแขนพ่อของเด็กหนุ่มจนปืนลูกซองในมือร่วงลงกับพื้น .. ด้วยส่วนสูงที่มากกว่าทำให้ชายหนุ่มคว้าคอที่มีอยู่เพียงน้อยนิดนั่นเข้ามาใกล้อย่างไม่ต้องออกแรงมาก 
       เสียงหัวเราะทุ้มต่ำดังให้ได้ยินอีกครั้ง .. แบคฮยอนตัวสั่นมองบิดาในสภาพคล้ายกำลังจะโดนเชือดโดยที่ตัวเขาเองช่วยอะไรไม่ได้เลยแม้แต่อย่างเดียว เรียวเท้าเผลอขยับเข้าไปใกล้หวังจะกระชากพ่อของตัวเองกลับคืน หากแต่ปืนสีทองด้ามนั้นกลับจ่ออยู่ที่หน้าผากใสจนเด็กหนุ่มทำได้แค่เพียงยืนนิ่งเป็นหุ่นและร้องไห้ออกมาเงียบๆเท่านั้น 

       "ใจเย็นสิที่รัก .. ยังไม่ถึงตาของคุณ"  ไม่รู้ว่าเขาคิดไปเองหรือเปล่า ..แต่เหมือนเขากำลังเห็นว่าดวงตาคู่นั้นกำลังสนุกกับสิ่งที่จะทำจนฉุดไม่อยู่ 

       "ผมว่าคุณใช้ชีวิตสุขสบายมามากพอแล้ว..คุณเกรย์"
       "ก..แก แกจะ-" 
       "นรกเป็นที่ๆเหมาะกับคุณที่สุดเลยล่ะ"
       "อ..อย่า!!!"
       "พ่อ!!!!"   ปืนพกสีทองถูกจับยิงกรอกปากใส่ชายวัยกลางคนอย่างไร้ความปราณีใดๆทั้งสิ้น .. เสียงกรีดร้องของเด็กหนุ่มยามเมื่อเห็นว่าพ่อของเขาโดนฆ่าต่อหน้าต่อตามันทรมานจนคนฟังอดเวทนาไม่ได้ .. เลือดสีสดกระเซ็นเลอะยังข้างแก้มของชายหนุ่มแต่เขาเลือกที่จะเพิกเฉยมัน  .. เพราะอะไรน่ะหรอ? 

       เพราะสิ่งที่สนุกกว่ากำลังยืนจ้องเขาอยู่ตรงนี้ไง :) 

       แบคฮยอนเหมือนกลายเป็นคนบ้า .. เขากุมศรีษะก่อนจะขยี้มันจนผมแทบหลุดเพราะทนไม่ได้ที่ต้องมาเห็นคนที่รักตายแบบนี้ ดวงตาคู่หวานเหลือบมองปีศาจในคราบโจ๊กเกอร์ทั้งๆที่เรี่ยวแรงก็แทบจะไม่มี  ไม่เหลือแล้ว .. ชีวิตแบคฮยอนไม่เหลือใครอีกแล้ว 
       เรียวเท้าเริ่มขยับวิ่ง .. สัญชาตญาณขึ้นเรดาร์สีแดงว่าผู้ชายสูทม่วงคนนั้นคงไม่ปล่อยเขาไว้แน่ .. เด็กหนุ่มหันหลังกลับ สับขาเท่าที่จะวิ่งไหวตรงไปยังประตูบานไม้สีเข้ม เพียงไม่กี่ก้าวก็จะถึงหากแต่มือแกร่งที่ดึงเอาเอวของเขาไว้กลับกระชากตัวเล็กให้ล้มลงไปกองกับพื้น 

       "โอ๊ย!!"
       "จะหนีผมไปไหนล่ะหยาหยี"  
       "ฮึก!! อ..อย่าเข้ามานะ!!"  กายบางถูกอุ้มพาดไหล่กว้างอย่างคล่องแคล่ว กลิ่นกายเป็นเอกลักณ์โชยเข้าจมูกรั้นหากแต่ไม่น่าพิศมัยเลยแม้แต่นิด แบคฮยอนมึนหัว..ไม่รู้ว่าจะถูกผู้ชายคนนี้พาไปที่ไหน .. แล้วก็ไม่รู้ ..ว่าจะได้ตื่นขึ้นมาอีกหรือเปล่า .. 


      #614Hadesz


       "ฮึ!" 

       ความรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างกำลังจี้ลงมายังลำคอส่งผลให้เด็กหนุ่มเริ่มออกแรงดิ้น ดวงตาคู่หวานขยับเปิดเชื่องช้าหากแต่ร่างกายไม่สามารถขยับเคลื่อนไปไหนได้ราวกับโดนมัด 

       "เจ็บหน่อยนะคนสวย" 
       "ฮื่อออ!!"   แบคฮยอนทำได้แค่ดิ้นขลุกขลักอยู่ภายใต้เชือกหนาแน่นเส้นใหญ่ราบกับเตียงเดี่ยวขนาดเล็ก ความเจ็บปวดจากเครื่องสักกำลังเล่นงานเขาจนหายใจแรงยังทำแทบจะไม่ได้ ผิวบางเริ่มเกิดเป็นรอยไหม้ตามลวดลายที่ร่างสูงต้องการ .. กอปรกับน้ำตาหยดน้อยไหลหล่นจากขอบตาแบบเงียบๆ 
       ใบหน้าเคลือบชอล์คขาวนั่นดูพึงพอใจกับผลงานของตนเองอยู่มาก .. ชายหนุ่มจับปลายคางเรียวเล็กเอียงซ้ายทีขวาทีตามอำเภอใจราวกับว่าแบคฮยอนกลายเป็นตุ๊กตาตัวโปรดของเขาไปซะแล้ว ..  ให้ตายเถอะ.. ช่างเป็นคนที่ดูมีความสุข มีความสุขบนความทุกข์คนอื่นเสียจริงๆ.. 

       "เสร็จแล้วคนดี"  เสียงแสบแก้วหูของอุปกรณ์น่ากลัวเหล่านั้นเงียบลง ตามด้วยมือแกร่งที่แก้มัดเชือกเส้นแข็งๆให้กับเด็กหนุ่มราวกับกลัวว่าผิวบางๆภายใต้สาบเสื้อนั่นจะแดงช้ำจนเสียของ ร่างเล็กยันกายขึ้นนั่งอย่างยากลำบาก .. ความเจ็บจี๊ดแล่นประโคมทั่วทั้งตัวราวกับโดนทารุณกรรมมาอย่างหนักหน่วง .. เขาอยากให้เรื่องราวในตอนนี้เป็นเพียงแค่ฝันร้ายอย่างเช่นทุกๆครั้ง ขอเป็นเพียงแค่ความฝัน .. ได้โปรด 

       "สวยจริงๆ" 
       "อ๊ะ!"  นิ้วแกร่งที่บรรจงแตะลงยังรอยสักทำเอาเด็กหนุ่มขวัญผวาจนต้องหดคอเป็นเต่า ตัวอักษรภาษาอังกฤษ PCY เด่นหราปรากฏสู่สายตาคนมองอย่างเขาจนเผลอหลุดยิ้มด้วยความพอใจ .. 

       "เดี๋ยวก็ชินที่รัก"
       "พ..พ่อผม" 
       "..."
       "คุณฆ่าพ่อผมทำไม..ฮึก"  เสียงสะอื้นเริ่มออกมาพร้อมกับหยาดน้ำตา ยิ่งรับรู้ว่านี่มันคือโลกแห่งความจริงไม่ใช่ความฝันอย่างที่หลอกตัวเองไว้ทำเอาแบคฮยอนไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ต่อ.. ภาพบิดาถูกจับยิงกรอกปากคากระบอกปืน ดวงตาสีน้ำตาลเข้มคู่นั้นยังไม่แม้แต่จะปิดลงด้วยซ้ำ .. โหดร้าย โหดร้ายเกินกว่าใครทั้งสิ้น!!

       "ผู้ชายคนนั้นไม่สมควรอยู่บนโลกใบนี้ด้วยซ้ำ"
       "พ่อผมไปทำอะไรให้คุณนักหน-!!" ร่างบางขึ้นเสียงใส่ชายหนุ่มด้วยความโทสะ หากแต่ยังไม่ทันจะพูดจบประโยคมือแกร่งก็คว้าล็อคเข้าที่คางเรียวทันที.. ปลายนิ้วแข็งแรงกดลงหวังให้เด็กหนุ่มเจ็บปวดและเชื่อฟังเขา และแน่นอน..มันได้ผล

       "พ่อคุณทำอะไรน่ะหรอ เหอะ"  ดวงตาคู่คมประสานกับดวงตาคู่หวานราวกับกำลังกรีดเรือนร่างแบคฮยอนจนเละไม่เป็นซาก คนตัวโตเพิ่มแรงบีบเค้นเข้าที่ปลายนิ้วจนเด็กหนุ่มเริ่มดิ้นเพราะทนเจ็บไม่ไหว  

       "เอาไว้ผมพอใจที่จะเล่าเมื่อไหร่ คุณค่อยฟังมันแล้วกัน"
       "อ๊ะ!"  เขาสะบัดปลายคางเรียวเล็กอย่างแรงไร้ซึ่งความทะนุถนอมอย่างเช่นในตอนแรก .. ช่วยไม่ได้ อยากดื้อกับเขาเองนี่ กายสูงภายใต้ชุดสูทสีม่วงเดินตรงรี่ไปยังบานประตู ไม่มีแม้แต่จะหันกลับมามามองเด็กหนุ่มบนเตียงเดี่ยวเลยแม้แต่เสี้ยววินาทีเดียว .. 


      #614Hadesz 


       แบคฮยอนจมอยู่กับฝันร้ายแบบนี้มาเดือนนึงแล้ว .. 

       เขารู้ว่าสถานที่ตัวเองใช้หลับนอนมันคือโรงละครสัตว์ที่ถูกปิดการใช้งานไปเมื่อหลายสิบปีก่อน ..ถึงสภาพจะไม่ได้ย่ำแย่แต่มันก็ไม่ได้ดีเด่พอที่จะใช้ในการอยู่อาศัย ห้องของเด็กหนุ่มเดิมเคยเป็นห้องพักของเหล่าบรรดานักโรงละครสัตว์ ตอนที่เก็บกวาดยังค้นเห็นรองเท้าบัลเล่ต์สีชมพูเก่าๆ กับพวกลูกบอลแล้วก็น้ำยาลูกโป่งที่หมดอายุการใช้งานแล้วอยู่เหมือนกัน  .. 
       เสียงเปิดประตูออกจากห้องยามเมื่อเก็บกวาดที่นอนของตัวเองเรียบร้อยเสร็จ .. แน่นอน ผู้ชายคนนั้นคงไม่ให้เขานั่งเป็นตุ๊กตาโง่ๆอยู่บนเตียงนี่เฉยๆ.. และงานที่รับมอบหมายให้ทำมันช่างเป็นงานฝันร้ายสำหรับแบคฮยอนเสียจริงๆ



       ห้องของคุณโจ๊กเกอร์ .. ผมเรียกแบบนั้นแล้วกัน เพราะถึงจะอยู่ที่นี่มาเดือนนึงแล้วแต่ผมไม่สามารถรับรู้ข้อมูลอะไรเกี่ยวกับผู้ชายคนนี้เลยแม้แต่อย่างเดียว .. ห้องของเขาอยู่ชั้นบนสุดก่อนจะขึ้นเป็นชั้นดาดฟ้าและมีอยู่เพียงห้องเดียว .. นอกนั้นเป็นพื้นที่โล่งๆไว้ทำอะไรอันนี้ตัวผมเองก็ไม่ทราบ  .. เสียงเรียวเท้าขึ้นบันไดทีละขั้นๆ พร้อมกับถังน้ำ ไม้กวาด แล้วก็ไม้ถูพื้นในมือหอบหิ้วพะรุงพะรัง คงไม่ต้องสาธยายหน้าที่ให้ฟังแล้วแหล่ะมั้งว่าผมกำลังจะไปทำอะไร .. 

       เดินฉับๆเพียงไม่กี่ก้าวก็ถึงบานประตูสีเข้ม .. เขาบิดลูกบิดในมืออย่างคุ้นชินพร้อมกับสอดสายตาหาเจ้าของห้องอย่างเช่นทุกวัน .. ถ้าไม่อยู่ก็ดีหน่อย เขาจะได้ไม่ต้อง.. 

       กายสูงเจ้าของเรือนผมสีเขียว ใบหน้าเคลือบชอล์คและรอยยิ้มอันแสนจะไร้ความพิศมัยนั่นกำลังนอนแผ่อยู่บนเตียงผืนกว้าง ..
       แบคฮยอนมองคนตัวโตพร้อมกับเดินเข้ามาภายในห้องโดยที่ไม่ลืมปิดประตูให้เรียบร้อย เรียวเท้าขยับเดินเข้าไปใกล้ๆจนย่นระยะทางชิดขอบเตียงมากขึ้นเรื่อยๆ .. เป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์ที่มักจะอยากรู้อยากเห็นสิ่งต่างๆ เด็กหนุ่มเองก็เช่นกัน  เมื่อถึงจุดหมาย..กายบางทิ้งตัวลงนั่งข้างคนตัวโตก่อนจะวางอุปกรณ์ทุกอย่างลงกับพื้น สิ่งที่เขาสงสัยมาตลอดคือใบหน้าที่แท้จริงของอีกฝ่าย ..แบคฮยอนไม่เคยเห็นมันเลยแม้แต่ครั้งเดียว 

       และเขาอยากเห็น .. 

       ตัวเล็กโน้มกายลงไปใกล้ๆ ค่อยๆเอื้อมมือเรียวหวังจะแตะลงยังใบหน้าของร่างสูงหากแต่จู่ๆก็โดนกระชากลงไปซบกับแผงอกแกร่งจนเผลอหลุดร้องด้วยความตกใจ 

       "อะ!"  ความรู้สึกเย็นวาบเหมือนถูกสวมบางอย่างเข้าที่ข้อแขน .. แบคฮยอนดันกายขึ้นนั่งก่อนจะพบเข้ากับกุญแจมือถูกสวมคล้องอยู่อย่างพอดิบพอดี .. 

       โดยที่อีกข้าง..อยู่กับคนตรงหน้า
       
       "อยากเห็นหน้าผมขนาดนั้นเลยหรอครับ"  เสียงทุ้มเอ่ยถามไร้ซึ่งความง่วงงุนอย่างที่แบคฮยอนคิด พยายามจะลุกออกจากผืนเตียงหากแต่ก็โดนกระชากกลับจนเกือบลงไปนอนกอดด้วยกันก็ตั้งหลายรอบ .. ซวย ไม่น่าไปอยากยุ่งเรื่องของผู้ชายคนนี้เลยจริงๆ 
       ร่างสูงยันกายขึ้นนั่ง .. ล็อคเรียวคางให้หันมาสบตากับเขาก่อนจะใช้มือลูบแก้มเนียนใสจนแบคฮยอนรู้สึกขนลุกวูบวาบไปทั้งตัว 

       "คุณเป็นใครกันแน่"
       "..."
       "ถ้าคุณเกลียดผมทำไมคุณถึงไม่ฆ่าผมไปซะตั้งแต่วันนั้น"  เรียวคิ้วสีอ่อนหักชนเข้าหากันอย่างสงสัย .. เด็กหนุ่มเดาใจคนตรงหน้าไม่ออกเลยแม้แต่นิด บางทีก็ดี บางทีก็ร้าย บางวันคิดอยากจะไม่คุยกับเขาทั้งวันขึ้นมาก็มี .. บ้าจริง เหมือนแบคฮยอนกลายเป็นแหล่งรองรับระบายอารมณ์ยังไงก็ไม่รู้  
       คนตัวโตเผยยิ้ม .. ขยับใบหน้าเข้าไปใกล้ๆก่อนจะกระชากตัวเล็กเข้ามาจนริมฝีปากเกือบแตะกัน .. บางทีชายหนุ่มก็ชอบในความขี้สงสัยของเด็กผู้ชายคนนี้ หรือแม้แต่เสียงเล็กๆเวลาตกใจนั้นก็ชอบ 

       "คุณมีประโยชน์มากกว่านั้นนะคนสวย"  มือแกร่งเริ่มลูบต้นขาผ่านกางเกงขายาวของเขาก่อนจะออกแรงบีบมันด้วยความมันเขี้ยว 

       "ฆ่าไป ..คงเสียดายแย่"  อีกฝ่ายโถมตัวคร่อมทับเด็กหนุ่มเอาไว้ก่อนจะประสานเรียวมือทั้งคู่แนบแน่น.. กลิ่นหอมอ่อนๆชวนให้ค้นหากระตุ้นจมูกโด่งสันโน้มลงไปสูดดมซอกคอเนียนนุ่มน่าทำให้ช้ำเป็นรอย แบคฮยอนกัดริมฝีปากล่างจนเลือดซิบ อยากประทุษร้ายอีกฝ่ายแทบบ้าแต่เพราะรู้ว่าขัดขืนเมื่อไหร่ กุญแจข้อมือนี่จะช็อตเขาจนเจ็บไปทั้งตัว 
       เสียงขัดใจดังฮึดฮัดเบาๆ แต่นั่นแหละ.. กายสูงมองว่ามันมีเสน่ห์และเร้าอารมณ์ดิบให้พุ่งสูงได้ดีเสียยิ่งกว่าใครหน้าไหน  .. แบคฮยอนเองก็คงอยากขัดขืนเขาแทบตายสุดท้ายก็เป็นได้แค่ตุ๊กตาน่ารักที่ต้องยอมให้เขาทำอะไรก็ได้ตามอำเภอใจ .. 

       "ดี คนสวย.." ริมฝีปากหยักจูบตอบคนใต้ร่างอย่างช่ำชอง..ถึงจะรู้ว่ามันเป็นการบังคับ แต่ก็ดีนี่..เขาชอบแบบนี้อยู่แล้ว 
       กระแสไฟฟ้าไหลผ่านเข้าสู่เส้นประสาทแบคฮยอนทุกครั้งยามเมื่ออีกฝ่ายไม่ยอมทำตามที่คนตัวโตสั่ง มันทั้งเจ็บ ทั้งรู้สึกแย่ .. เขากลายเป็นของเล่นให้กับผู้ชายคนนี้อย่างเต็มรูปแบบ  ริมฝีปากเล็กขยับจูบให้หนักขึ้นเพื่อหลีกจากการโดนทำโทษ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังโดน .. 

       ปาร์ค ชานยอล น่ะ..ชอบเวลาเห็นแบคฮยอนตัวกระตุกที่สุดเลย 

       "เป็นเด็กดีแบบนี้ค่อยน่ารักหน่อย"
       "..." 
       "อยากได้รางวัลหรือเปล่าครับ?"  เสียงทุ้มเอ่ยพร้อมกับกดจมูกลงกับแก้มนุ่มนิ่มหลายๆที 

       "คุณเคยถามผมว่าทำไมถึงฆ่าพ่อของคุณใช่หรือเปล่า"
       "..."



       "ถ้าอยากรู้ ... คืนนี้ขึ้นมาหาผมนะคนดี" 





      - 60% 



       เสียงปรบมือดังสนั่นกึกก้องส่งผลให้ร่างบางที่กำลังนั่งหลับอยู่บนเก้าอี้สีแดงผืนกำมะหยี่สะดุ้งตื่น .. เขากวาดสายตามองโดยรอบก่อนจะพบกับผู้คนมากมายไม่ว่าจะเป็นเด็ก คนแก่ หรือแม้กระทั่งวัยรุ่นหนุ่มสาว .. ทุกสายตาจับจ้องไปยังเวทีด้านหน้าซึ่งม่านผืนหนักกำลังเคลื่อนตัวออกจากกันช้าๆ .. นี่เขาอยู่ที่ไหน? โรงละครอย่างนั้นหรอ? 

       "Lady's and gentleman welcome to JONERLAND. !!"   ชายร่างเล็กในชุดสูทสีขลับเอ่ยเสียงดังพร้อมกับขยับมือไม้เชื้อเชิญทุกๆคนให้สนุกสนานไปกับการแสดงที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น.. แสงไฟสาดส่องไปยังเหล่าบรรดาสัตว์น้อยใหญ่ เสียงหัวเราะขบขันยามเมื่อพวกมันโชว์ทักษะเกินธรรมชาติให้ใครต่อใครได้เชยชมดังลั่นอยู่ไ่ม่ขาด  ..



       แต่ทำไม..แบคฮยอนกลับไม่รู้สึกสนุกเลย .. 



       เด็กหนุ่มจ้องลึกเข้าไปยังดวงตาของลูกช้างตัวนั้น ใบหน้าของหญิงวัยกลางคนที่สวมบทบาทเป็นหญิงชาวบ้านออกมาร่วมแสดงกับเหล่าสัตว์น้อยใหญ่ .. แม้ริมฝีปากได้รูปจะฉีกยิ้มสดใสเพียงไร หากแต่ดวงตาคู่นั้นกลับมีแต่ความหม่นหมองไร้ซึ่งความสุข เขาไม่ได้คิดไปเองใช่หรือเปล่า? 
       ร่างบางค่อยๆขยับกายลุกออกจากที่นั่ง ..ไม่มีใครสนใจเขาเลยแม้แต่คนเดียว น่าแปลก..ทุกๆอย่างที่แบคฮยอนเห็นมันดูคล้ายหุ่นมากเสียยิ่งกว่าคนปกติ  ..  เด็กหนุ่มโค้งตัวลงอย่างมีมารยาท เดินออกจากโรงละครไปแบบเงียบๆโดยไม่รู้ว่าจุดหมายของตนเองจะกลับไปที่ใด 


       อากาศหนาวเหน็บและหยดฝนที่โปรยปรายลงมาพอให้เปียกเล่นกระตุ้นร่างเล็กกระชับปลายเสื้อกันหนาวเข้าอย่างรัดกุม .. เหมือนความรู้สึกคุ้นเคยบอกว่ามันคือทางกลับบ้าน ทำให้เขาต้องจำใจเดินสับเท้าไปเรื่อยๆแม้หนทางข้างหน้าเริ่มที่จะมืดมิดแล้วก็ตามที ..  ไอเย็นสีขาวพ่นออกจากริมฝีปากบางเฉียบ ใบหน้าจิ้มลิ้มซีดเซียวเพราะอุณหภูมิติดลบตอนนี้กำลังเล่นงานเขาจนปวดหัวไปหมด  .. อดทนหน่อย คงใกล้ถึงบ้านแล้ว .. 

       เสียงรองเท้าที่เหยียบย่ำลงกับพื้นดินเปียกแฉะหยุดชะงัก .. เด็กหนุ่มแน่นิ่งยามเมื่อสิ่งที่ยืนขวางกั้นตัวเองห่างออกไปเพียงแค่สามเมตรกำลังส่งยิ้มร้ายมาให้พร้อมกับควงอาวุธคู่ใจเพื่อขู่เขา .. อันตราย ก้อนเนื้อในอกเต้นเร็วไม่ต่างจากเจอสัตว์ป่า ..  แบคฮยอนกลืนน้ำลายฝาดเฝื่อนลงคอพร้อมกับหมุนเรียวเท้าหันหลังกลับ .. 


       แต่คาดว่าคงไม่ทัน .. 


       ขาเล็กเริ่มออกวิ่ง .. เสียงไล่ล่าจากด้านหลังบ่งบอกว่าร่างสูงไม่ได้ยืนมองสิ่งมีชีวิตที่แสนจะอ่อนแอกำลังเผ่นหนีตัวเองห่างไกลออกไปเรื่อยๆ .. และแน่นอน ผู้ที่ชนะในการวิ่งไล่จับคงหนีไม่พ้นเขา..

       "โอ๊ย!!!"  ไหล่เล็กโดนกระชากจนล้มลงไปกองกับพื้น ..แบคฮยอนพยายามยันตัวลุกขึ้นยืนอีกครั้งหากแต่คนตัวโตในสภาพคล้ายตัวตลกแสนโรคจิตกลับขยับปืนในมือแล้วจ่อเข้าที่ขมับใสอย่างคล่องแคล่ว .. 




       "Why so serious.." 








       "เฮือก!!!" 

       เด็กหนุ่มดีดกายขึ้นนั่งพร้อมกับหอบหายใจเสียงดังคับห้อง .. เหงื่อเม็ดใสทำหน้าที่ของมันได้อย่างดีจนแผ่นหลังเปียกชุ่มไม่ต่างอะไรกับการวิ่งมาราธอนแล้วมานอนแผ่ลงบนเตียงแบบนี้  .. บ้าชะมัด .. จะมีวันไหนบ้างที่เขาได้นอนดีๆแบบไม่ต้องตื่นขึ้นมาเพราะว่าฝันถึงผู้ชายคนนั้น!
       ดวงตาคู่หวานกวาดมองรอบห้อง .. ความมืดมิดบ่งบอกถึงยามวิกาลที่มาเยือนอย่างเช่นทุกๆวัน   โล่งอกไปที ..ที่อย่างน้อยก็ตื่นขึ้นมาในห้องของตัวเอง 


      #614Hadesz


       ริมฝีปากหยักได้รูปสัมผัสกับไวน์ชั้นดีจากปากแก้ว..  รูปร่างสูงใหญ่ไร้สูทสีม่วงเผยให้เห็นรอยสักภาษาโรมันตรงแผงอกแกร่งเด่นชัดจนผู้พบเห็นเกิดความหวั่นเกรงไปตามๆกัน  เขาเหลือบมองดวงจันทร์กลมโตผ่านหน้าต่างบานยักษ์สะท้อนให้เห็นไร่ข้าวโพดอันแสนรกร้างอยู่ด้านล่าง ถนนเล็กๆไร้รถสัญจร แสงไฟจากเสาเพียงไม่กี่ต้น .. 

       เมื่อก่อน .. มันเคยมีชีวิตชีวามากกว่านี้ 

       ทุกๆคืนจะมีผู้คนมากมายหลั่งไหลกันมาที่นี่ .. ไม่ว่าจะเด็ก ผู้ใหญ่ หรือแม้กระทั่งคนชรา โรงละครสัตว์อันแสนโด่งดังไม่มีใครไม่รู้จักมันหรอก ..  เรียวคิ้วเข้มขมวดย่นยามเมื่อนึกถึงเรื่องราวในอดีต เรื่องราวอันแสนจะไร้ความพิศมัยมันช่างทำให้รสชาติไวน์แดงในมือเขากร่อยลงไปมากโขเลยล่ะ ..

       แกร๊ก.. 

       เสียงเปิดประตูแผ่วเบาบางบอกถึงสิ่งมีชีวิตอันแสนน่ารักเดินทางมาถึง .. เขากระตุกยิ้มก่อนจะผายมือต้อนรับร่างบางให้เข้ามาด้านใน 

       "นึกว่าคุณลืมผมซะแล้วคนดี"  ใบหน้าเคลือบชอร์คเหลือบมองตัวเล็กที่ย้ายมานั่งบนโซฟาสีอ่อนด้วยท่าทางเกร็งๆอย่างเช่นทุกครั้ง  เรียวเท้าขยับกายเข้าใกล้เด็กหนุ่มพร้อมกับทิ้งตัวลงนั่งข้างกันโดยไม่ลืมชูแก้วไวน์ในมือจ่อริมฝีปากจิ้มลิ้มอย่างเชื้อเชิญ ..

       "หวานเหมือนจูบคุณเลย"   คนฟังหน้าแดงระเรื่อขึ้นอย่างไม่ตั้งใจ ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ครั้งแรกที่คุณโจ๊กเกอร์ชอบพูดแบบนี้ .. หากแต่แบคฮยอนเองก็ยังไม่ชิน เขาส่ายศรีษะไปมาปฏิเสธความหวังดีจนชายหนุ่มต้องยกไวน์ในมือนั้นกระดกรวดเดียวหมด .. เสียงริมฝีปากที่เกิดมาจากความพึงพอใจในเครื่องดื่มชั้นเลิศทำเอาคนนั่งข้างๆแอบหวั่นไหวจนต้องขยับตัวออกห่างอีกนิด ไม่รู้ทำไม..คุณโจ๊กเกอร์คนนี้ทำให้เด็กหนุ่มแทบเป็นบ้าทุกครั้งเวลาอยู่ใกล้  .. 

       "อืม..แต่ผมว่าจูบคุณหวานกว่า" 
       "น..ไหนคุณบอกว่าจะเล่าเรื่องนั้น" 
       "อาา..จริงสิ แต่เดี๋ยวไว้ค่อยเล่าแล้วกันนะ" เขาขยับใบหน้าเข้ามาใกล้ๆก่อนจะหอมแก้มนุ่มนิ่มจนเกิดเสียงดังฟอดใหญ่ 

       "ตอนนี้..ผมอยากอยู่กับคุณ"  เกิดความเงียบไร้ซึ่งเสียงใดๆรบกวน .. เสียงหายใจแผ่วเบาประสานกันพร้อมกับกายสูงที่โน้มตัวลงมานอนบนตักเล็ก .. เด็กหนุ่มสะดุ้งหากแต่ก็ยอมปล่อยให้ร่างสูงเอนศรีษะลงมาทับกับตักของเขาอย่างจำยอม .. มือแกร่งเอื้อมจับเข้าที่อวัยวะแบบเดียวกันของแบคฮยอนก่อนจะกดจูบเข้ายังหลังมือจนเกิดเสียงเล็กๆน่าอายขึ้น .. ให้ตาย ทำไมชอบทำอะไรแบบนี้อยู่เรื่อย 
       ดวงตาเรียวรีเหลือบมองโครงหน้าเคลือบชอล์คขาวอย่างพิจารณา .. ถึงแม้เขาจะมองไม่ออกว่าร่างสูงเป็นใคร หากแต่สัดส่วนได้รูปของจมูก ริมฝีปาก รวมไปถึงดวงตา คงพอเดาได้ว่าล้างหน้าออกมาแล้วคงต้องหล่อมากแน่ๆ 

       "คุณโจ๊กเกอร์.."
       "..."
       "คุณบอกผมได้หรือเปล่าว่าคุณเป็นใคร" 
       "คุณจะยอมมี SEX กับผมหรือเปล่าล่ะ?"
       "..."  ร่างสูงดีดตัวขึ้นนั่งอีกครั้งก่อนจะใช้เรียวนิ้วเชยปลายคางเล็กๆขึ้นมอง 

       "ถ้าคุณตกลง ผมก็ตกลง" 
       "..."  ใบหน้าจิ้มลิ้มดูถอดสีจากเดิมอย่างเห็นได้ชัด แค่ทุกวันนี้ที่เขาทำเหมือนกับแบคฮยอนเป็นของเล่นไว้กอดไว้หอมเวลาเกิดอารมณ์ขึ้นมามันยังไม่พออีกหรือไงนะ .. 

       รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่เกิดจากริมฝีปากจริงๆส่งผลให้เด็กหนุ่มขนลุก .. ดวงตาคู่หวานเหลือบมองมือแกร่งสอดเข้าไปยังด้านแผ่นหลังก่อนจะหยิบเอากุญแจมือเหล็กอันแสนคุ้นเคยออกมาควงอย่างชำนาญ  ระบบหายใจร่างบางเริ่มติดขัด ขยับกายออกห่างคนตัวโตเรื่อยๆจนอีกฝ่ายปล่อยเสียงหัวเราะทุ้มๆออกมาอย่างชอบใจ 

       "กลัวผมหรอ?"
       "..."
       "มาเร็วคนดี ผมคิดถึงเสียงครางคุณจะแย่" 
       "ม..ไม่เอาแบบนี้"  แบคฮยอนลุกออกจากโซฟาพร้อมกับเหลือบมองโจ๊กเกอร์หนุ่มที่กำลังจัดการถอดเข็มขัดบนกางเกงขายาวตัวโปรดของเขา ..
       เสียงฟาดดังเพี๊ยะ! ลงกับเบาะบ่งบอกว่ารสนิยมคนตรงหน้ามันดิบเถื่อนระดับไหน .. และแน่นอน เด็กหนุ่มกลัวจนตัวสั่นไม่ต่างอะไรกับลูกนกพลัดตกรัง

       "อย่าดื้อกับผมสิคนสวย" 
       "ฮื้ออ!!"  เมื่อร่างสูงจู่โจมคนตัวเล็กจึงหลบกายหนีอย่างรู้ทันว่าอีกฝ่ายคิดจะทำอะไร เรียวเท้าเล็กสับวิ่งไปยังบานประตูทางออกก่อนจะกระชากเปิดมันแล้วหนีจากตัวตลกโรคจิตที่กำลังวิ่งตามหลังเขามายังไม่มีท่าทีลดละ .. 
       เสียงตึกตักจากบันไดไม้ดังลั่นเป็นจังหวะไล่ล่า แบคฮยอนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทางออกของโรงละครร้างๆแห่งนี้มันอยู่ที่ไหน ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอนาคตต้องเจอกับอะไร รู้แค่ว่าสิ่งที่ต้องทำเพียงอย่างเดียวคืออย่าให้ผู้ชายคนนั้นจับตัวเองได้อย่างเช่นในความฝันเป็นพอ .. 

       กลิ่นไหม้ของตะกั่วลอยเตะจมูก .. เด็กหนุ่มหักเลี้ยวเข้าไปยังห้องๆหนึ่งซึ่งมีเพียงแค่ม่านบางๆกั้นไว้ไร้ซึ่งความปลอดภัยใดๆทั้งสิ้น .. เขากระโจนใส่ตู้เสื้อผ้าใบเก่าก่อนจะแทรกตัวเข้าไปนั่งข้างในพร้อมกับปิดมันแล้วทำตัวกลมกลืนกับความมืดมิดนี้ให้ได้มากที่สุด .. ขอเถอะ ขอให้เขาผ่านความโชคร้ายนี้ไป ได้โปรด  ..

       ฟึบบ..  

       เสียงเปิดม่านบ่งบอกว่ามีคนกำลังเข้ามาในนี้ .. ดวงตาเรียวเล็กแอบสอดส่องมองจากรูแตกหักที่เป็นช่องโหว่เผยให้เห็นบรรยากาศด้านนอก หากแต่คนที่เข้ามาไม่ใช่ผู้ชายคนนั้น .. 

       แต่กลับกลายเป็นผู้หญิง.. 

       ที่นี่มีใครอื่นนอกจากเขากับโจ๊กเกอร์คนนั้นอีกน่ะหรอ? .. ยังไม่ทันจะได้งงอะไรกับเหตุการณ์ตรงหน้ามาก เสียงพูดคุยกันระหว่างคนสองคนก็ทำให้เด็กหนุ่มต้องพลอยกลั้นให้ใจแล้วเงียบฟังไปด้วย  .. หญิงวัยกลางคนในชุดแบบสาวชาวบ้านที่แบคฮยอนรู้สึกคุ้นเคยเหมือนเคยพบเจอกันมาก่อนทำเอาเรียวคิ้วขมวดย่น เธอมีสีหน้าเหนื่อยอ่อนราวกับว่ากำลังคิดเรื่องเครียดในหัวนับพันเรื่อง และตอนนี้ดวงตากลมโตสีเข้มคู่นั้นดูตกใจกับบางสิ่ง ..

       "คุณเกรย์.."
       "ใช่ ผมเอง"  นั่นเสียงพ่อเขาหนิ..

       "คุณ..มาทำอะไรที่นี่คะ" 
       "มาหาคุณไง คุณชาล็อต การแสดงของคุณน่าประทับใจมากนะ"  ร่างอ้วนท้วมของชายลูกครึ่งขยับกายเดินเข้าไปหาเธออย่างเชื่องช้า ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าพ่อของเขาคิดจะทำอะไร  ต..แต่ว่า ทำไมพ่อถึงมาอยู่ที่นี่ล่ะ เขาตายไปแล้วนี่..
       แบคฮยอนปวดหัวจนเส้นประสาทแทบจะระเบิด .. หรือนี่มันจะเป็นเรื่องราวในอดีตของพ่อเขา บ้าน่า..แล้วทำไมเด็กหนุ่มถึงเห็นมันล่ะ 

       "ผมชอบการแสดงคุณ รวมถึงตัวคุณด้วย"
       "ว..ว่ายังไงนะค-โอ๊ย!!"  

       พระเจ้า!  

       ร่างบางมองภาพตรงหน้าที่บิดาของเขากำลังจู่โจมเข้าหาคุณชาล็อตด้วยท่าทางน่ากลัว มืออวบอ้วนผลักเธอเขายังกำแพงก่อนจะลงมือทำกิริยาต่ำๆต่อผู้หญิงอย่างไม่รู้จักคำว่าศีลธรรม แบคฮยอนรับไม่ได้ เขารับไม่ได้ที่เห็นว่าพ่อตัวเองจะชั่วช้าราวกับสัตว์สี่เท้าขนาดนั้น! 
       เสียงกรีดร้องขอความความช่วยเหลือ .. ทั้งพยายามดีดดิ้นออกจากชายตรงหน้ามันช่างดูทรมาน ทำไม ทำไมถึงต้องมาเห็นอะไรแบบนี้ .. 

       "อยู่นิ่งๆ!!" 
       "อะ..อ"   มือแกร่งบีบเข้ายังลำคอระหงของเธอเพื่อทำให้ตุ๊กตาสาวชาวบ้านตรงหน้าหายดื้อ .. คนตัวเล็กไม่รู้จะทำยังไง ปล่อยให้หยาดน้ำตาหยดน้อยไหลเปรอะข้างแก้มเพราะภาพที่เห็นมันช่างโหดร้ายเกินมนุษย์ไปมากหลายเท่า  
       ร่างกายบอบบางแน่นิ่งขึ้นเรื่อยๆ เสียงอึกอักในลำคอบ่งบอกว่าเธอกำลังจะหมดอากาศหายใจ จนในที่สุด..


       พ่อเขาเป็นฆาตกร ..


       "แม่!"  เสียงแตกหนุ่มของเด็กผู้ชายดังขึ้นมาจากทิศทางไหนเขาไม่อาจรู้ .. ดวงตาคู่หวานเหลือบเห็นเพียงบิดาที่มีสีหน้าแตกตื่นเพราะกลัวว่าจะมีคนผ่านมาเห็นการกระทำอันแสนชั่วช้าของตัวเอง  แบคฮยอนพยายามแง้มตู้เสื้อผ้าออกอีกนิดเพื่อมองหาว่าคนที่เข้ามาใหม่นั้นน่าตาเป็นยังไง แล้วที่เรียกแม่เมื่อครู่นี้ .. คงเป็นลูกของเธอใช่มั้ย ..  
       เด็กหนุ่มร่างสูงซึ่งรู้สึกคุ้นเคยในความทรงจำแบบแปลกๆปรากฎให้เห็น ดวงตาคู่คมจดจ้องมายังมารดาที่นอนแน่นิ่งอยู่กับพื้นด้วยความรู้สึกจุกจนแทบจะเป็นบ้า .. 

       ไม่..ไม่จริง .. 

       "จะหนีไปไหนไอ้เด็กเวร!!!"
       "ปล่อยผม!!!"

       เขาถูกกระชากคอเสื้อจากด้านหลังเมื่อพยายามจะหนี มีดที่ใช้ประกอบการแสดงถูกง้างขึ้นจากชายอ้วนท้วมหวังจะปลิดชีพร่างสูงพอกันกับตัวเองให้ตายตามแม่มันไป  .. เด็กหนุ่มร้องไห้ ใช้พละกำลังบ่ายเบี่ยงหลบหนีคมมีดที่กำลังกรีดลงมากับแผงอกจนเสื้อขาดผ่านผิวหนัง .. แผลสดเกิดพร้อมกับรอยเลือด เสียงกรีดร้องเจ็บปวดน่าเวทนาเกินกว่าแบคฮยอนจะทนมองได้ 

       "ปล่อย!! ฮึก!! พอ!! พอแล้ว อ-!!"  เหมือนโรคจิตที่กำลังเชือดคนไม่มีผิด พ่อเขาเหมือนคนบ้า เหมือนพวกผิดปกติ!! 

       "ขอร้อง..ฮึก พอได้แล้ว"  แบคฮยอนพูดกับตัวเองเสียงแผ่ว เขาสงสารทั้งแม่ของเด็กผู้ชายคนนั้น แล้วก็สงสารทั้งเด็กคนนั้นด้วย .. ไม่รู้เลยว่าบทสรุปของเรื่อง เด็กผู้ชายคนนี้จะรอดจากเงื้อมมื้อพ่อของเขาหรือเปล่า ..

       แกร๊ก!!!

       บานตู้เสื้อผ้าถูกเปิดออกทำเอาร่างบางสะดุ้ง .. เงยหน้าขึ้นมองผู้คนพบก่อนจะกัดริมฝีปากบางเฉียบจนห้อเลือดด้วยความกลัว  .. เขาแพ้แล้ว .. แพ้แล้วจริงๆ

       "ผมคงไม่ต้องเล่าให้คุณฟังแล้วใช่มั้ยว่าทำไมผมถึงฆ่าพ่อคุณ"  กายสูงกระชากคนตัวเล็กออกมาจากตู้จนแบคฮยอนหลุดร้องเพราะความเจ็บ มือแกร่งบีบรัดอยู่ที่ต้นแขนจนเกิดรอยแดงช้ำ ไหนจะดวงตาคมกริบเรียกได้ว่าแทบอยากเฉือนเขาเป็นชิ้นให้ตายต่อหน้า .. กลัว น่ากลัวจนไม่กล้ามองอะไรเลย

       "ฮ..ฮึก ผม.."
       "..."
       "ผมขอโทษ"  เสียงสะอื้นราวกับใจจะขาดดังขึ้น ..ยกมือขึ้นประสานกันหวังจะให้ผู้กุมชีวิตทั้งชีวิตตรงหน้าเห็นใจบ้าง แบคฮยอนรู้ว่ามันเกินกว่าจะให้อภัยหากแต่ตัวเขาเองก็ไม่ได้มีส่วนรู้เห็นในเรื่องนี้ .. ชายหนุ่มขมวดเรียวคิ้วแน่น ดึงเอวบางเข้ามาแนบชิดกับร่างกายของเขาจนจมูกโด่งชนสัมผัสกับแก้มใส .. กลิ่นหอมอ่อนๆและความทรมานของคนน่ารักมันช่างน่าหลงไหลเสียจริง

       "ขอโทษ? จะพอหรอครับ?"
       "ผม..ฮึก..ผ..ผมไม่รู้ ไม่รู้จริงๆว่าพ่อทำแบบนั้น"
       "ผมก็รู้ว่าคุณไม่เกี่ยว..คนดี"  มือแกร่งลูบใบหน้าจิ้มลิ้มก่อนจะกดจมูกหอมแก้มจนเกิดเสียง 

       "แต่คุณเผอิญตรงสเป็คผมพอดีเลยน่ะสิ" 
       "โอ๊ย!!"  แบคฮยอนถูกผลักเข้าชนกับตู้เสื้อผ้า.. เขาสะอื้นด้วยความเจ็บผสมปนเปไปกับความกลัวเมื่อร่างสูงล็อคข้อแขนบอบบางด้วยกุญแจมือเหล็กอันเดิม .. แรงช๊อตเบาๆทำตัวเล็กกระตุกจนเผลอหลุดร้อง คนตัวโตโถมเข้าปลดเปลื้องเสื้อของเขาออกอย่างมีจังหวะเล้าโลมตามต้องการ 

       "ข..ขอร้อง ปล่อย..อ้ะ..ผ..ผมไปเถอะนะ"  รอยยิ้มไร้ซึ่งความพิศมัยปรากฏ แผ่นอกขาวผ่องไร้รอยรักช่างดึงดูดจนต้องโน้มกายลงไปจูบลงเบาๆเพื่อสร้างแรงอารมณ์ให้เด็กหนุ่ม แบคฮยอนทรมาน .. ผู้ชายคนนี้กำลังลุกล้ำร่างกายเขามากขึ้นเรื่อยๆแล้ว 

       "อย่าขอร้องแบบนั้นเลยที่รัก.." 
       "..."
       "ถ้าคุณรู้สึกผิดที่คุณเกรย์ทำแบบนั้นกับแม่ผมล่ะก็.."  เสียงทุ้มลึกกระซิบยังข้างใบหู ใช้ลิ้นร้อนตวัดเนื้ออ่อนๆจนอีกฝ่ายจนลุกซู่เพราะความเสียวที่ก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว 



       "ใช้ร่างกายของคุณ ..ชดใช้มันสิ แบคฮยอน" 





    END  


    *ไม่มี nc คับ 555 จินตนาการกันเอาว่าชดใช้กันท่าไหน เอ้ย! แบบไหน 
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×