กำเนิดชีวิตของชายชีวิตนิรันดร์ ภาคที่ 1 .
เรื่องราวในวัยเด็กของชายคนหนึ่งที่อยู่ในโลกฝึกตนในระดับเทวะ เรื่องราวมากมายต่างๆก็เกิดขึ้นกับเขา ทั้งเครื่องประหลาดและเรื่องน่าตกใจที่เขาต้องเจอ
ผู้เข้าชมรวม
339
ผู้เข้าชมเดือนนี้
4
ผู้เข้าชมรวม
เขาเป็นเพียงเด็กน้อยคนหนึ่งที่เกิดมาพร้อมกับคำสาปบางอย่างเป็นรูปลายลักษณ์บางอย่างและอักขระมากมายเต็มกลางหลัง ใบหน้าที่เป็นแผลเป็นคล้ายรอยของคมที่บาดตรงแก้มขนาดใหญ่และมีรอยบาดเล็กๆพร้อมกับรอยไหม้ตรงแก้มข้างซ้ายยาวมาถึงลำคอ ทำเอาจนดูน่าเกลียดน่ากลัว
ในช่วงชีวิตในวัยเด็กเขาได้ความรักจากพ่อแเม่และท่านปู่ถึงแม้เขาจะอัปลักษ์ก็ตาม... บ้านที่พวกเราอยู่นั่นอยู่นอกชานเมืองที่ชายแดนเป็นหมู่บ่นเล็กๆ ตัวบ้านเองก็ช่างเก่าทรุดโทรมพร้อมที่จะถล่มลงมาได้ทุกเมื่อ
เขามีไม่มีเพื่อนเล่น ไม่มีใครอยากเป็นสหายกับเขาเพียงเพราะมีอักขระประหลาดกลางหลัง
" เจ้าปีศาจ! "
"เจ้ามันตัวประหลาด! "
" ปีศาจ "
แม้แต่เพื่อนหลายคนก็ต้องหนีเขาบ้างก็ปาก้อนหินใส่เขาบ้าง ปาไข่ใส่ภาพบ้าง แถมพวกผู้ใหญ่เองก็หลายท่านก็ต่างนินทาข้าจนสนุกปาก แต่ยังโชคดีบ้างที่ข้านั้นยังมีท่านพ่อท่านแม่และท่านปู่ที่ยังรักเอ็นดูข้า
" เฉินเอ๋อ ต้องเป็นเด็กดีนะ "
" ลูกแม่มาทานขนมด้วยกันสิ ขนมอร่อยมากเลย "
" หลานปู่ เมื่อเจ้าโตขึ้นเจ้าต้องแข็งแกร่งขึ้น เข้าใจไหม "
ข้ารักพวกเขายิ่งนัก พวกเขาเป็นผู้เยียวยาจิตใจของข้า พวกเขาคือครอบครัวที่ข้ารัก พวกเขาคือคนที่ข้ารัก
" ข้ารักท่านพ่อ "
" ข้ารักท่านแม่ "
" และข้ารักท่านปู่ "
" ข้ารักพวกท่าน "
จนกระทั่งข้าอายุได้เจ็ดขวบ ก็มีเกิดเหตุสงครามที่ชายแดน คนมากมายถูกเกณฑ์ไปเป็นทหาร ท่านพ่อข้าเองก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารเหมือนกัน
สงครามครั้งนี้ช่างน่ากลัวยิ่งนัก พวกศัตรูบุกชายแดนเข่นฆ่าชาวบ้านมากมาย พวกผู้หญิงถูกขืนใจ แม้เเต่เด็กน้อยและผู้ใหญ่แม้แต่คนแก่เฒ่าต่างก็ถูกเช่นฆ่าไร้ความปราณี
ท่านแม่ข้าไม่ยอมให้พวกมันขืนใจและฆ่าข้าได้ ท่านแม่และท่านปู่ปกป้องข้า ท่านแม่และท่านปู่ยอมตายเพื่อให้ข้าหนีไป
" ท่านแม่!!! ท่านปู่!!! "
" หนีไป! "
" หลานข้าเจ้าจงหนีไปซะ! "
ตัวข้านั้นน้ำตาไหลริน ข้าวิ่งหนีไปและสิ่งสุดท้ายที่ข้าเห็นนั้นคือท่านแม่และท่านปู่ตายทั้งเป็นในกองเพลิง
" ท่านแม่ ท่านปู่!! "
ในตอนนี้ข้านั้นมีเวลาไม่มากนัก ข้าวิ่งหนีไปตามบ้านที่มีแต่กองเพลิง ทุกอย่างมีแต่เพลิง แต่ทันมีข้ากำลังวิ่งอยู่นั้น ข้าก็ได้ยินเสียงเด็กสองคนทารกร้องไห้ที่อยู่ท่ามกลางกองเพลิงที่มีศพคนเป็นแม่นั้นกอดเอาไว้
ข้าทนเห็นเด็กที่บริสุทธิ์จะตายมิได้ ช้ารีบวิ่งฝ่ากองเพลิงนั้นไป ข้าเข้าไปอุ้มเด็กทารกทั้งสองวิ่งออกไปจากกองเพลิงนั้น แต่เมื่อวิ่งได้ไปถึงสิ้นสุดของหมู่บ้านก็ได้ยินเสียงของหญิงชราผู้หนึ่งที่กำลังอุ้มเด็กทารกออกมาจากตัวบ้านจนออกมาข้างนอกได้
แต่หญิงชราผู้นั้นก็ล้มลงไปนอนกองกับพื้น ตามตัวมีแต่รอยไหม้และอ้อมกอดยังคงกอดเด็กทารกไว้
" ได้โปรดสวรรค์...ช่วยหลานข้าด้วยเถิด... "
หญิงชราที่คอยอ้อนวอนสวรรค์ให้ช่วยชีวิตของหลาน นางมิขอให้สวรรค์ช่วยตัวนางแต่ขอเพียงแค่ให้หลานของนางนั่นปลอดภัย
จนกระทั่งหญิงชราใกล้จะหมดแรงจนพูดต่อมิได้ ตัวข้ารีบเอาผ้าตัวยาวที่ตกตรงพื้นอยู่นั้นได้มามัดเด็กทารกคนหนึ่งไว้ด้านหลังคล้ายกับท่านแม่ที่คอยมักชอบมัดข้าไว้ด้านหลังเสมอ ข้ารีบวิ่งอุ้มเด็กทารกจากหญิงชรานั้นไว้ เข้าหันไปมองหญิงชราผู้นั้น
หญิงชรานั้นมองข้า นางยิ้มอ่อนโยนและกล่าวคำพูดสุดท้ายออกมา
" ขอบคุณนะ หวงเฉินหยาง "
สิ้นคำพูของหญิงชราก็สิ้นลมหายใจไป สิ่งที่นางเห็นนั้นนางได้คลายความกังวลแล้วว่าหลานของนางนั้นต้องเติบใหญ่แน่นอน
ข้านิ่งอึ้งแต่ก็ได้ยินเสียงศัตรูโห่ร้องอย่างมีชัยอยู่นั้น ข้าวิ่งอุ้มเด็กทารกทั้งสามเข้าไปในป่าทันที
จบแล้วสินะ
จบแล้วสินะ
ชีวิตที่มีความสุขของข้า จบแล้วสินะ
ท่านพ่อ
ท่านแม่
ท่านปู่
หากชีวิตนี้ข้าไม่มีพวกท่าน ข้าจะมีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างไรกัน...
เขาวิ่งอุ้มเด็กทารกทั้งสามเข้าไปในป่าลึก ในป่านั้นมีสัตว์อสูรมากมาย เขาต้องคอยหลบซ่อน แต่ด้วยเสียงเด็กที่ร้องดังลั่นก็มีสัตว์อสูรที่มีลักษณะเป็นหมูป่าตัวใหญ่ที่กำลังวิ่งมาทางพวกเขา
ข้าไม่รู้จะทำเช่นไรดีแล้ว ตัวข้านั่นขาสั่นและสั่นจนถึงกระดูกสันหลังเลยก็ว่าได้
หมูป่าตัวนั้นมีเขี้ยวที่โค้งทั้งข้าง ดวงตาสีแดงเหมือนดังโทสะ ตัวของมันมีไฟลุกไหม้ทั่วทั้งตัวจนถึงปลายหาง มันวิ่งมาทางเด็กทั้งสี่อย่างรวดเร็ว
เด็กชายเข่าทรุดนั่งลงกับพื้น เขารีบแกะผ้าและอุ้มทารกที่อยู่ด้านหลังนั้นเอามาอุ้มและกอดไว้ใช้หลังของตนเป็นที่กำบังเป็นกำแพงไว้ แต่ด้วยที่ตัวยังเด็ก เป็นเพียงแค่มนุษย์ มนุษย์ธรรมดาที่ไม่สามารถต่อกรกับสัตว์อสูรได้
เขาหลับตาลงรอเพียงแค่การที่จะรับความเจ็บปวดที่อาจถึงชีวิตได้ แต่ทว่าเหมือนมิได้รับความรู้สึกิถึงอันตรายอีกแต่เขาได้รับความรู้สึกถึงความอบอุ่น ความปลอดภัย
เด็กน้อยลืมตาขึ้นก็ได้พบกับชายคนหนึ่งสวมชุดขาวทั่วทั้งร่าง ใบหน้าสวยและใจดีดูอบอุ่นนั้นทำให้เด็กน้อยที่รู้สึกกดดันและความกลัวแต่แรกก็คลายความกดดันและความกลัวลง
ส่วนเจ้าหมู่ป่านั้นก็นอนตายโดนแผดเผาจนสลายหายไปเสียแล้ว
" เจ้าเด็กน้อย เช่นไรถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ? "
เด็กชายที่พอได้คำถามนั้นก็ทำให้นึกภาพที่เจ็บปวดใจภาพที่คนที่เขารักนั้นตายทั้งเป็นกองเพลิง เขาทำได้เพียงแต่เงียบและน้ำตาไหลลงมา
ชายผู้นั้นเมื่อมองเด็กน้อยที่น้ำตาไหลเมื่อได้คำถามที่ตนถามไปก็ถึงกับสงสัยในทันว่าเกิดอะไรขึ้น เขาเตรียมที่จะเอ่ยปากถามแต่ก็ได้ยินเสียงมาขัดเสียก่อน
" แง้!! "
เด็กทารกทั้งสามคนร้องไห้ออกมาพร้อมกัน ชายผู้นั้นเริ่มถึงกับไปไม่เป็นเสียแล้ว
เด็กชายมองเด็กทารกทั้งสามที่ร้องไห้งอแงนั้น ตนก็ถึงกับไปไม่เป็นเช่นกันเพราะตัวเขานั้นไม่เคยเลี้ยงเด็กมาก่อน ถ้าจะใช้วิธีท่านพ่อท่านแม่ตอนปลอบตนก็เกรงจะไม่ไหวเสียแล้วเพราะร่างกายของตนก็อ่อนล้าเต็มทนที่จะอุ้มกอดเด็กทารกทั้งสามไม่ไหว
ชายผู้นั้นเห็นว่าตัวของเด็กสั่นไปทั้งตัวแถมยังอุ้มทารกทั้งสามเสียอีก เขาจึงไปช่วยเด็กชายอุ้มเด็กทารกทั้งสามขึ้นมาในอ้อมอก
เด็กชายมองดูผู้นั้นที่อุ้มเด็กทารกทั้งสามไป แถมยังเห็นชายผู้นั้นอุ้มคอยปลอบโยนเด็กทารกทั้งสามแถมยังร้องให้ฟัง ถึงเพลงมันจะเปลกๆก็เถอะ แต่เด็กทารกทั้งสามก็ไปในอ้อมกอดเรียบร้อย
" เด็กน้อย เจ้าชื่ออะไรหรือ? แล้วอายุเท่าไหร่กัน? "
"ข้าชื่อ เฉินหยาง แซ่ หวง อายุ 7 ขวบ ขอรับ "
" ถ้าเช่นนั้นครอบครัวของจ้าล่ะ? "
หวงเฉินหยางมองชายผู้นั้น ตัวเขานั้นลังเลว่าจะตอบดีหรือไม่ สุดท้ายเขาก็ยังคงตอบอยู่ดี
" ท่านพ่อข้าถูกเกณฑ์ไปเป็นทหาร ท่านแม่กับท่านปู่จากเข้าไปในกองเพลิงแล้วขอรับ..."
ชายผู้นั้นมองเด็กน้อยที่ต้องสูญเสียครอบครัวไปเสียแล้ว ก็ทำเอาให้ตัวเขานั้นช่างสงสารเด็กน้อยผู้นี้เหลือเกิน
" เเล้วเด็กทั้งสองคนนี้เป็นน้องของเจ้าใช่รึไม่? "
" มิใช่ขอรับ "
สิ้นคำตอบก็ทำเอาชายผู้นั้นถึงกับขมวดคิ้วทันที
หวงเฉินหยางจึงเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ชายผู้นั้นฟังตั้งแต่ต้นเรื่องถึงตอนที่ตนจำความได้จนมาถึงตอนที่พบกับชายที่อยู่ตรงหน้าเขา
ชายผู้นั้นพยักหน้าอย่างเข้าใจ เขาคอยพูดปลอบเด็กน้อยผู้นี้
" ข้าชื่อ จื่อหลิง แซ่ เฟิ่ง ตัวข้าเป็นคนในหมู่สำนักธรรมมะ เจ้าจะไปอยู่สำนักกับข้ารึไม่? "
เฟิ่งจื่อหลิงที่เป็นนาของชายผู้นั้นได้เอ่ยถามหวงเฉินหยางว่าจะไปอยู่กับตนหรือไม่
" ข้าน้อยขอมิไปกับท่านขอรับ ข้าน้อยจะเดินทางด้วยตนเอง "
" จะดีหรือ...เจ้ายังเด็กมากนักนะ แล้วเจ้าสามารถอ่านออกเขียนได้รึไม่? "
" ข้าอ่านออกเขียนได้ขอรับ "
เฟิ่งจื่อหลิงอุ้มเด็กทารกทั้งสามในแขนเดียวส่วนแขนอีกข้างก็ล้วงไปหยิบหนังสือพร้อมกับป้ายหยกบางอย่างในอกเสื้อและยื่นให้เด็กน้อย
หวงเฉิงหยางรับหนังสือพร้อมกับป้ายหยกมา เขามองตำราหนังสือที่ตนถืออยู่ มันหนามากจนเป็นอาวุธทุบหัวแตกได้เลย เขาไปมองตรงอกเสื้อของชายผู้นั่นอย่างแปลกใจว่าเขาไปไว้ในนั้นได้เช่นไรกัน
" เก็บไว้ให้ดีๆล่ะ โดยเฉพาะป้ายหยก เจ้าต้องเก็บไว้ให้ดีที่สุด เพราะเมื่อยามใดมีปัญหาเจ้าก็มาที่สำนักของข้าได้ ชื่อสำนักก็คือ ของขวัญจากสวรรค์ หรือก็คือ สวรรค์ประทานพร "
สิ้นคำพูดนั้น เฟิ่งจื่อหลิงก็ได้อุ้มทารกทั้งสามหายตัวไปกับสายลมเสียแล้ว
หวงเฉินหยางยืนถือตำราเล่มหนาหากวางบนพื้นมันก็หนาจนสูงถึงหัวเข่าของเขาพอดี แต่มองเขามองไปตรงพื้นที่ชายผู้นั้นที่เคยยืนอยู่ก็มีแหวนวงหนึ่งเป็นเพียงแค่ดูเหมือนธรรมดา แต่ก็เก็บขึ้นมาลองสวมนิ้วตนดูมันก็พอดีกับของเขาเลย
เเต่เหมือนเขาจะรู้สึกไปเองหรือเปล่าเหมือนชายคนนั้นได้อะไรบางอย่างยัดเข้าปากเขาก่อนที่จะจากไป ส่วนเขานั้นก็เผลอกลืนลงไปเสียได้
เด็กน้อยเดินแบกตำราเดินไปเรื่อยๆ จนสามารถออกจากป่าไปได้ เพราะป่าแห่งนี้ก็ไม่ได้ใหญ่อะไรมากนัก เมื่อเขาเดินพ้นจากป่าไปอีกหลายลี้ก็พบกับแม่น้ำกว้างใหญ่
เขารีบวางหนังสือลงและวิ่งไปถอดเสื้อผ้าตรงโขดหินและวิ่งลงน้ำทันที อากาศที่ร้อนแสนอบอ้าวกับการอาบน้ำที่เย็นสบาย แต่หวงเฉินหยางกับเจ็บปวดตรงใบหน้าและแผ่นเป็นอย่างมาก
มันทั้งแสบและเจ็บจนถึงกระดูกเลยก็ว่าได้ แต่เด็กชายคนนี้เขาเลือกที่จะอดทนอดกลั้นเพราะลูกผู้ชายนั้นต้องมีความอดทนอดกลั้น
เขาทนความเจ็บไว้เเดำน้ำลงไปจับปลา เพราะตอนเด็กกว่าเขาเคยไปดำน้ำจับปลากับท่านพ่อเสมอก่อนที่ท่านจะถูกไปเกณฑ์ทหาร เขาเจ็บมาก... แต่เขาต้องอดทนต้องไม่ให้ใครรู้ว่าเขามักจะเจ็บปวดแผลเป็นและอักขระกลางหลัง ทุกคืนที่เขานอนก็ต้องทนทุกข์ทรมาณจากอักขระทุกครั้งและต้องเจ็บปวดปางตายเขาก็เลือกที่จากแอบออกจากบ้านช่วงยามราตรีเพื่หนีไปทนทุกข์ทรามาณและเสียงที่กรีดร้องในยามที่จวงจันทร์เต็มดวงและดวงจันทร์สีเลือดทุกครั้ง เมื่อใกล้ถึงยามตะวันจะขึ้นเขาก็รีบกลับบ้านไปนอนที่เดิมเป็นนี้ทุกครั้งตั้งแต่ตอนอายุ 1 ขวบ เป็นเวลามานานถึง 7 ปี
เมื่อหวงเฉินหลางจับปลาในแม่น้ำได้มาตัวหนึ่งเป็นตัวใหญ่เขาก็รีบขึ้นจากแน้ำขึ้นไปบนฝั่ง รีบไปสวมเสื้อผ้าตัวเก่าที่ดูขาดวิ่นและมีรอยเย็บปะมากมาย
เขาไปเก็บกิ่งไม้แห้งมากองรวมกันไว้ และไปหาหินมาเคาะกระทบกันจนเกิดประกายไปขึ้นมา จากนั้นก็จัดการชำแหละปลาตัดหัวทิ้งควักไส้ออกและเสียบไม้ย่าง
เขาเคยทำแบบนี้เพราะท่านแม่เคยสอนเขาไว้ ทั้งเรื่องการทำอาหาร การทำขนมบ้าง ถึงแม้บางครั้งใส่ผิดระหว่างน้ำตาลกับเกลือก็เถอะ
เขาคอยผลิกปลาไปมา แต่ก็เผลอทำไหม้อยู่ดีเพราะแขนเขาสั่นเพราะยังคงเจ็บแผ่นหลังอยู่ก็เผลอทำปลาตกในกองเพลิงแต่ก็รีบจับไม้ยกขึ้นมาทันทีก่อนที่มันจะไหม้ไปจนกินไม่ได้อีก
โชคยังดีปลาไหม้ด้านเดียว อีกด้านกินได้ เขากินปลาด้านนั้นเพียงนิดเดียวก็อิ่มเสียแล้ว
เพราะตัวเขานั้นเป็นคนที่ไม่ค่อยอยากอาหารเสียเท่าไหร่ แม้แต่ขนมเองก็แทบจะกินไม่ลง แต่พอท่านแม่คอยเอาขนมมาให้หรือทำขนมให้เขาก็จำใจกินมันเข้าไปและเมื่อกินหมดเขาก็ขอตัวไปปลดทุกข์ เขารีบออกจากบ้านไปใกล้ๆชายป่าและอาเจียนของที่กินไปนั้นออกมาจนหมดไส้หมดพุง แถมท่านแม่ท่านพ่อและท่านปู่นั่นมิรู้ว่าหลานของตนมิชอบการกินเยอะมากแม้แต่ขนมหวานยิ่งแทบจะกินไม่ได้แต่เขาก็ต้องจำเป็นต้องกินเข้าไปให้หมดเพื่อไม่ให้ท่านเเม่ท่านพ่อและท่านปู่รู้ เพราะบ้านของเขานั้นขายขนมบางวันและแม่ก็มักจะทำขนมขายเขาก็เลยต้องเป็นผู้ชิมรสของท่านแม่เสมอ เขาก็ไปแอบอาเจียนทุกครั้งตลอดเวลาที่ต้องกินขนมหวานมากๆ เพราะอาหารคาวนั้นแทบจะไม่มีหลังจากที่ท่านพ่อถูกไปเกณฑ์ทหารในกองทัพ และจากนั้นมาก็ไม่มีใครที่ต้องคอยออกไปหาล่าสัตว์จับปลาอีกเลยเพราะตัวเขาก็ยังเด็กมากเสียด้วย ท่านแม่ก็ต้องคอยอยู่บ้านส่วนท่านปู่ก็ชราภาพมากแล้ว
ท่านปู่เคยเล่าให้ฟังว่า ท่านปู่ของเขาเคยเป็นบัณฑิตและเลื่อนขั่นเป็นขุนนางขั้น สามมาก่อนแต่ก็ถูกไล่ออกมาจากเมืองหลวงเพราะไปทำให้ขุนนางบางท่านที่อิจฉาท่านปู่ที่ได้รับความโปรดปราณของฮ่องเต้ แต่อยู่ได้มินานท่านปู่ก็ถูกเนรเทศมาอยู่ชายแดนก็เพราะขุนนางที่ขี้อิจฉาใส่ร้ายท่านปู่ส่วนฮ่องเต้เองก็ชราภาพมากและสวรรคตขึ้นสวรรค์ไป และราชบัลลังก์มีผู้สำดร็จราชการแทน องค์รัชทายาทได้ขึ้นครองราชย์เป็นฮ่องเต้องค์ปัจจุบันนี้ ส่วนท่านปู่ถูกเนรเทศนั้นก็โดนหาว่ามีความผิดก่อกบฏช่วยองค์ชายสามที่ถูกประหารไปเพราะคิดจะชิงบัลลังก์ เพราะเคยเป็นคนโปรดปราณและมีความดีความชอบของฮ่องเต้องค์จึงได้เพียงถูกเนรเทศและถูกริบสมบัติเข้าคลังหลวงทั้งหมด
ท่านปู่สอนหนังสือให้เขามากมายทั้งอ่านท่องเขียนอักษรจนชำนาญเพราะเรื่องฝึกปูพื้นฐานตั้งแต่ 4 จวบ ด้วยที่ท่านปู่บอกว่าเขานั้นเป็นอัจฉริยะที่มีความจำดีเลิศและเข้าใจความรู้ทั้งหมด จนเรียนเพียงหนึ่งปีก็ชำนาญแตกฉานความรู้ และเขามักจะอยู่แต่ในบ้านคอยอ่านหนังสือเก่าๆทั้งของท่านปู่ของท่านแม่ของท่านพ่อหรือเก็บตามร้านหนังสือที่โยนตำราหนังสือทิ้งเขาก็เก็บมาอ่านทั้งหมด เพราะไม่มีเพื่อนไม่มีสหายเลยได้แต่อยู่บ้านอ่านตำราหนังสือต่างๆอย่างเดียว
หวงเฉินหยางเก็บปลาที่เหลืออยู่ห่อกะบใบไม้ส่วนตนก็นั่งอ่านตำราเล่มหนาแถมมันก็ดูใหญ่มากด้วย เขาใช้เพียงแสงไปจากกองไฟเท่านั้นที่เป็นแสงสว่าง ส่วนท้องในตอนก็มืดมากมีดวงดาวมากมายและโชคดีที่ไม่สัตว์อสูรเลย
เขานั่งคอยอ่านตำราที่ท่านเฟิ่งจื่อหลานเป็นผู้มอบให้ เมื่อเขาได้เปิดหน้าก็ถึงกับตกใจและทั้งดีใจ เพราะหน้าปกมันเขียนว่า
พื้นฐานกำลังภายในและลมปราณ
หวงเฉินหลางที่ดีใจที่เขาจะได้ฝึกลมปราณบ้างแล้ว รีบเปิดหน้าถัดไปและเริ่มมันทันทุกตัวอักษร...แต่ปัญหาก็ติดตรงที่ว่า ตัวอักษรทั้งเล็กและลายมือไก่เขี่ยเล็กน้อย... แต่เขาก็เคยอ่านลายมือยิ่งกว่าไก่เขี่ยมาแล้ว มิใช่ใครที่ไหน ท่านพ่อเขาเองนั้นแหละลายมือยิ่งกว่าไก่เขี่ยจนอ่านแทบจะมิออกเสียแล้วแหละ เพราะมีประสบการณ์อ่านลายมือไก่เขี่ยนั้นก็อ่านตำราเล่มนั้นได้อย่างสบายๆ
เขาอ่านตำราเล่มได้เพียงนิดเดียวก็พบกับความอ่อนล้าของร่างกายที่หักโหมตอนเข้าป่า เขาจึงปิดตำราเล่มนั้นอย่างเสียดายและเขาก็นอนลงกับพื้นเอาหินมาเป็นหมอนถึงแม้มันจะแข็งมากก็เถอะ
คืนนี้โชคดีเป็นคืนเดือนมืด เพราะมีเพียงคืนเดือนมืดเช่นนี้เท่านั้นเป็นวันที่เขาไม่ต้องทนทุกข์ทรมาณกับการยามเขานอน
เช้าวันต่อมาก่อนพระอาทิตย์ขึ้น
หวงเฉินหยางตื่นขึ้นมาเดินไปที่แม่น้ำล้างหน้าแต่น่าแปลกที่เขานั้นไม่รู้สึกเจ็บปวด เขาลูบใบหน้าและมองดูเงาในแม่น้ำของตนก็พบว่ารอยดำแผลเป็นลึกใหญ่นั้นหายไปเหลือแต่เพียงเเผลเป็นรอยจางๆที่เริ่มหายไปในทันที ปรากฏให้ใบหน้าทั้งสวยงดงามและมีความหล่อเหลาอีกจนทำให้ตื่นตะลึงกับใบหน้าของตนเอง ทั้งมีความงดงามดั่งเทพเซียนเทพธิดาสวรรค์ทั้งมีความรูปหล่อรูปงามดั่งเทพบุรุษ ทำเอาหวงเฉินหยางต้องขยี้ตาดูเงาตนใหม่อีกครั้ง
นี่เขา...ก็ดีใจเเผลเป็นหายไปไม่แค่เฉพาะใบหน้าตามร่างกายเองก็หายไป แต่อักขระกลางก็ยังคงอยู่เช่นเดิมเพราะเขายังได้รับความเจ็บปวดแผ่นหลังอยู่เช่นเดิม
จะว่าไปแล้วท่านแม่ของเขาก็งดงามมากจนมีชายหนุ่มเข้ามาจีบส่วนท่านพ่อเองก็ถูกหฯิงสาวรุมล้อม อันนี้ก็เป็นท่านปู่ที่เคยเล่าให้ฟังว่าตอนอยู่สมัยฮ่องเต้องค์ก่อนนะ พ่อแม่ของเขานั้นเป็นที่รุมล้อมของหนุ่มๆและสาวๆ แต่เมื่อตกอับถูกเนรเทศ พวกเขาก็กลายเป็นที่รังเกียจทีนที
หวงเฉินหลางเดินกลับไปที่เดิมและยกตำราขึ้นมาอ่านต่อ
ลับดับขั้นพลังลมปราณในยุทธภพ
ระดับก่อกำเนิดลมปราณ มี 12 ขั้น จากขั้นที่ 1 ไปถึงขั้นที่ 12 คือสิ้นสุดกำเนิดลมปราณ
ระดับลมปราณ มี 10 ขั้น จากระดับขั้นที่ 1 ไปถึงขั้นที่ 10 คือสิ้นสุดลมปราณ
ระดับทะเลลมปราณ มี 10 ขั้น จากระดับขั้นที่ 1 ไปจนถึงระดับขั้นที่ 10 คือสิ้นสุดทะเลลมปราณ
ระดับสมุทรลมปราณ มี 9 ขั้น จากระดับขั้นที่ 1 ไปจนถึงระดับขั้นที่ 9 คือสิ้นสุดสมุทรลมปราณ
ระดับก่อกำเนิดพิภพลมปราณ มี 26 ขั้น จากขั้นที่ 1 ไปถึงขั้นที่ 26 คือสิ้นสุดกำเนิดพิภพ
ระดับพิภพลมปราณ มี 18 ขั้น จากขั้นที่ 1 ไปถึงขั้นที่ 18 คือสิ้นสุดพิภพ
ระดับนิพพาน มี 9 ขั้น จากขั้นที่ 1 ไปถึงขั้นที่ 9 คือสิ้นสุดนิพพาน
ระดับก่อกำเนิดเซียน มี 36 ขั้น จากขั้นที่ 1 ไปถึงขั้นที่ 36 คือจุดมุ่งหมายแห่งเทพเซียน
ระดับก้าวเป็นเซียนหรือเทพเซียน มี 7 ขั้น ...
ขั้นที่ 1 รับสายฟ้าทัณฑ์สวรรค์ 2 สาย
ขั้นที่ 2 รับสายฟ้าทัณฑ์สวรรค์ 3 สาย
ขั้นที่ 3 รับสายฟ้าสวรรค์สวรรค์ 5 สาย
ขั้นที่ 4 รับสายฟ้าทัณฑ์สวรรค์ 6 สาย
ขั้นที่ 5 รับสายฟ้าทัณฑ์สวรรค์ 7 สาย
ขั้นที่ 6 รับสายฟ้าทัณฑ์สวรรค์ 8 สาย
ขั้นที่ 7 รับสายฟ้าทัณฑ์สวรรค์ 9 สาย คือสิ้นสุดการเป็นก่อกำเนิดเซียนมุ่งสู่การเป็นเทพเซียน
ผู้ที่จะเลื่อนระดับการจะเป็นกำเนิดและก้าวเป็นเซียนนั้นมีเยอะมากโดยตระกูลใหญ่ ราชวงศ์ สำนักทั้งใหญ่และเล็กต่างก็เน้นการใช้กำแพงป้องกันสายฟ้าทัณฑ์สวรรค์ และสายฟ้าทัณฑ์สวรรค์นั้นก็มิได้เเรงมากเท่าใดนักเพราะมันเป็นเพียงแค่การเลื่อนระดับ
แต่ทว่าผู้ที่จะเป็นเซียนกลับมีน้อยเพราะทัณฑ์สวรรค์ที่เป็นของจริงนั้นคือสิ่งที่สามารถทำลายลมปราณของผู้นั้นได้ในพริบตาหรือคนที่ได้รับทัณฑ์สวรรค์นั้นก็ตายสลายหายไปได้เเม้เเต่เพียงแค่ สายเดียวเท่านั้น คนธรรมดามิอาจจะเป็นได้ก็เพียงแค่รอ ปาฏิหาริย์ เท่านั้น
ระดับเทพเซียนหรือเซียน มี 6 ระดับ แต่ก่อนขึ้นระดับจะทัณฑ์สวรรค์ของจริง 1 สายก่อนจึงจะเป็นเซียนได้ และเมื่อกลายเป็นเซียนแล้วก็เพียงแค่บำเพ็ญตบะให้เก่งกล้าขึ้นอย่างเดียว
ระดับเซียนขั้นที่ 1
ระดับเซียนขั้นที่ 2
ระดับเซียนขั้นที่ 3
ระดับเซียนขั้นที่ 4
ระดับเซียนขั้นที่ 5
ระดับเซียนขั้นที่ 6
การก้าวข้ามเทพเซียนต่อไปหลังจากสิ้นสุดระดับเซียนขั้นที่6 ก้าวข้ามเซียนไปเป็นระดับของเทพ นั้นต้องผ่าน ทัณฑ์สวรรค์ถึง 36 สาย ซึ่งมีน้อยมากที่มนุษย์จะก้าวไปเป็นเทพได้
ระดับแห่งสวรรค์ ต้องผ่านทัณฑ์สวรรค์มาแล้ว 36 สาย
ระดับเทพนั้นให้ฝึกเช่นไรก็แล้วแต่บุคคลว่าจะผ่านกันไปให้เเค่ไหนกัน
ผู้ที่ได้เป็นเทพแล้วจะมีระดับ 3 ขั้นการก้าวข้ามขีดจำกัด และถ้าผู้ใดที่แข็งแกร่งกว่าก็คือผู้ที่มีใช้อำนาจมากกว่าผู้อ่อนแอ
ขั้นที่ 1 เทพชั้นต่ำ
ขั้นที่ 2 เทพชั้นกลาง
ขั้นที่ 3 เทพชั้นสูง
เหล่าผู้ปกครองเทพผู้เป็นเชื้อราชวงศ์แห่งสวรรค์ จักพรรดิสวรรค์ผู้ที่ปกครองดินแดนแห่งสวรรค์ ...ช่วงเวลายาวนานแม้แต่คนในราชวงศ์เองก็ต่างพากันไปเกิดใหม่กันมากมายเพราะอยู่บนสวรรค์ไปมันก็น่าเบื่อ
และใต้แห่งยมโลกเองก็มี จักพรรดิแห่งยมโลกผู้ปกครองแห่งแดนยมโลก เป็นพระเชษฐาของจักรพรรดิสวรรค์
หากจะก้าวข้ามมากกว่านี้ การที่จะก้าวข้ามเหนือเทพทั้งปวงนั้นเป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่เลย...นอกเสียจากจะเป็นบุตรหรือเลือดเนื้อเชื้อไขของบรรพกาลทั้งสาม
ก้าวข้ามเหนือเทพสวรรค์
ระดับกับ เทวะ
ระดับเทวะไม่มีขั้นระดับอีกแล้ว จะมีชีวิตอยู่ยาวนาน หรือจะไปตายเกิดใหม่หรือจะไปเที่ยวโลกอื่นก็ได้ ...แต่ ไม่มีใครเคยมีระดับเทวะ เลยยกเว้นเพียงแค่บุตรของบรรพกาลที่เป็นระดับเทวะอยู่เพียงแค่ 4 คน
ท่านบรรพกาลทั้งสาม ผู้ที่เป็นผู้สร้างจักวาลแห่งนี้ (จะไม่มีแซ่มีแค่ชื่อ) (และก็ในชื่อจะไม่ความหมายอะไรนะ เพราะตั้งมั่ว)
เหยาไป๋ (เพศชาย) เป็นผู้สร้างและดูแล ( เป็นภรรยาของเฟยฉาง )
เฟยฉาง (เพศชาย) เป็นผู้สร้างและทำลาย ( เป็นสามีของทั้งสอง)
ไป๋ฮวา (เพศหญิง) เป็นผู้สร้างและรักรักษา (เป็นภรรยาของเฟยฉาง)
บุตรของบรรพกาล มี 4 คน
คนแรกเป็นบุตรชาย (เกิดจากไป๋าฮวา ) นาม ไป๋เฟย
คนที่สองเป็นบุตรชาย (เกิดจาก ไป๋ฮวา ) นาม เหมยฮวา
คนที่สามเป็นบุตรสาว (เกิดจาก ไป๋ฮวา ) นามว่า หลินฮวา
คนที่สี่เป็นบุตรชาย (เกิดจากเหยาไป๋) นามว่า เฟยหยาง [ พอโตขึ้นเป็นวัยหนุ่มปลอมตัวผนึกพลังให้ดูเป็นเทพชั้นต่ำไปอยู่แดนสวรรค์ ได้ไม่นานก็มีเทพชั้นสูงองค์หนึ่งสวมหน้ากากสีดำและไปเกี้ยวเทพธิดา องค์หญิงในราชวงศ์เข้า และเทพองค์หลบหนีก็เหลือบมาเห็นตนจึงโดนเทพองค์นั้นจับไว้เปลี่ยนหน้ากากมาใส่หน้าตนและกล่าวหาว่าตนเป็นคนไปเกี้ยวเทพธิดา จักพรรดิสวรรค์โกรธจัดจึงสาปแช่งให้ตายไปเกิดเป็นมนุษย์และมีชีวิตทุกข์ทรมาณชั่วนิรันดร์และไม่มีวันตาย เฟยหยางตกตะลึงและตนก็ถูกทัณฑ์สวรรค์ถึง 360 สาย และถูกจับโยนตกสวรรค์ไป ได้ไปจุติเกิดใหม่สักที่หนึ่งบนโลกใบนั้น .... ส่วนเหยาไป๋ผู้มารดาชายก็รู้ข่าวถึงดศร้าเสียใจและตนนั้นก็ได้ไปสังหารเทพที่มันกล้าโยนความให้ลูกตนและส่งมันไปทนทุกข์ที่ปรโลกในทันที ส่วนตนนั้นก็กลับไปที่จักวาลและรอคอยที่จะได้พบลูกขอตนอีกครั้ง ]
( ข้อมูลนี้เป็นเพียงแค่ข่าวลือของสวรรค์เพียงเท่านั้น )
...............
หลังจากที่หวงเฉินกลางอ่านเรื่องระดับพลังและประวัติเล็กน้อยนั้นก็ทำเอาเขาถึงกับเลิกคิ้วขึ้นมา และก็เป็นใบหน้าตื่นตะลึง
" น่าสงสารเฟยหยาง ที่ต้องมาโดนความผิดที่ตนไม่ทำ แถมยังโดนทัณฑ์สวรรค์ถึง 360 สาย!!! นี่ไปทำยังไงถึงได้โดนเยอะเช่นนี้กัน!!? "
ตนก็ได้แต่เก็บความสงสัยไว้ในใจ และเปิดหน้าอ่านต่อไปเรื่อยๆ
บทเเรกเป็นขั้นพื้นฐานและระดับลมปราณ ส่วนบทที่สองเป็นเรื่องพลังของธาตุ และจิตวิญญาณ
พลังธาตุมีมาแต่กำเนิดและเป็นพลังธาตุที่สืบทอดในสายเลือดและจิตวิญญาณ
ธาตุที่มีอยู่บนโลกใบนี้ : ดิน น้ำ ลม ไฟ สายฟ้า แสง ความมืด เงา น้ำแข็ง พืช มาร ไร้รูปลักษณ์
จิตวิญญาณ : แล้วแต่บุคคล หนึ่งคนจะมีหนึ่งจิตวิญญาณ สองจิตวิญญาณหาได้ยากร้อยปีทีครั้ง สามจิตวิญญาณเป็นเพียงแค่ตำนานพันปีจะมีสักครั้ง
ต่อไปก็เป็นขั้นตอนการปลุกพลังลมปราณ
เมื่ออ่านจนเข้าใจหมดแล้ว หวงเฉินหยางเดินไปนั่งสมาธิบนแผ่นหิน กดลมหายใจเข้าออกช้าๆ สมาธินิ่ง เมื่อเข้าสู่สมาธิแล้วเขาจะมองเห็นรอบๆด้วยมืดมิด จู่ๆเขาก็ได้พบดวงไฟสีขาวดวงหนึ่งที่ลอยมาหาเขา มีดวงไฟสีดำ ดวงไฟสีน้ำเงิน และดวงไฟสีแดงตามมา
หวงเฉินหยางเบิกตากว้าง นี่เขา...ไม่ได้ตาฝาดไปใช่ไหม... เขามีสี่ อย่างงั้นหรอ นี่เขาเป็นใครนี่เขาเป็นตัวอะไร นี่เขาเป็นตัวประหลาดไปแล้วหรือเนี่ย
หากเป็นคนอื่นจะดีใจที่มีดวงจิตวิญญาณมากกว่าสาม แต่กลับกับหวงเฉินหยางที่ดันคิดว่าตนเป็นตัวประหลาดกลับชาติมาเกิดรึเปล่า
" ข้าต้องตาฝาดไปแล้วแน่ๆ ..."
" เจ้ามิได้ตาฝาดไปหรอก "
!!!?
จู่ๆเขาก็ได้ยินเสียงหนึ่งเข้ามาในหัวของเขา เป็นเสียงนุ่มทุ้มของผู้ชาย
" ข้าดวงไฟสีขาว มีความสามารถในการใช้ไร้ธาตุได้นะ ชื่อ ยี่เซี่ย "
" ข้าดวงไฟสีดำ มีความสามารถพลังความมืดและเงา(เป็นพลังมาร) ชื่อ ยี่เฉิน "
" ข้ากับดวงไฟสีดำเป็นฝาแฝดกันนะ "
"เดี๋ยว...ว่าไงนะ!? ฝาแฝด!!? "
หวงเฉินหลางไม่รู้แล้วตนนั้นกำลังรับรู้อะไรอยู่ ทั้งตกใจ ทั้งประหลาดใจ ทั้งจะบ้าตายอีก
" ข้าดวงไฟสีน้ำเงิน มีความสามารถในการใช้พลังธาตุน้ำและน้ำแข็ง ชื่อ ปิงซุย "
" ดวงไฟสีแดง มีความสามารถในการใช้ธาตุไฟและดิน ชื่อ เหยียนฮวา เจ้าค่ะ "
" พวกเราเป็นฝาแฝดกันขอรับ/เจ้าค่ะ! "
แล้วเขาก็ได้รับรู้ว่า ดวงไฟทั้งสี่ดวงนี้เป็นฝาแฝดกันนั้นเอง... และสิ่งที่เขาจะปวดหัวยิ่งกว่าก็คือ แต่ละคนนิสัยไม่เหมือนกันชอบทะเลาะกันแต่เกิดเรื่องอะไรกลับสามัคคีกันอย่างดี
หวงเฉินหยางกำลังนั่งบำเพ็ญเพียรเพื่อให้ได้เส้นลมปราณได้ถ่ายเทลมปราณให้คงที่ แต่สิ่งหนึ่งที่เขาแทบจะไม่มีสมาธิเลยนั่นก็คือ...เด็กๆดวงไฟที่รูปร่างคล้ายเด็กสี่ขวบพากันทะเลาะตบตีกันอีกแล้ว
แม้แต่เหยียนฮวาผู้เป็นสตรีน้อยกันดันไปตบตีด้วยอีก ก็มีเพียงแค่ดวงไฟสีดำ ยี่เฉิน ที่นิ่งเงียบและคอยจ้องมองเขาอยู่มองเขาอยู่จนเขานั้นแทบจะอยากจะเอาสี่เเฝดปรโลกนี้ไปทิ้งที่ไหนสักที่เสียอีก
" เฮ้อ... "
เวลาผ่านไปหลายอาทิตย์ ในที่สุดเด็กน้อยก็ประสบผลสำเร็จ เส้นลมปราณของเขาคงที่และเป็นแอ่งน้ำเล็กๆลมปราณไหลเวียนคงที่
" ในที่สุดข้าก็อยู่ในระดับ ก่อกำเนิดลมปรานขั้นที่หนึ่งแล้ว! "
เด็กน้อยร้องร่าเริงอย่างดีใจ ในที่สุดเขาก้ได้เข้าสู่โลกแห่งการฝึกตนแล้ว
และแล้วเจ้าเด็กน้อยหวงเฉินหยางก็เริ่มฝึกฝนฝึกตน นั่งบำเพ็ญเพียร
เวลาผ่านไป 1 เดือนเต็ม
" น...ในที่สุดก็ขั้นสองแล้ว... ทำไมหนึ่งขึ้นมันขึ้นยากนานเช่นนี้กัน แฮ่กๆ ...."
หวงเฉินหยางนอนพักเหนื่อยล้าและตอนนี้ท้องฟ้าก็มืดและมีดวงดาวเต็มท้องฟ้า
หวงเฉินหยางเปิดหนังสือใต้แสงคบเพลิงเพื่อหาวิธีที่จะฝึกฝนเร็วและเลื่อนระดับเร็วยิ่งขึ้น และแล้วคิ้วของเขาก็ขมวดแทบชนกัน
" ดูดซับพลังปราณฟ้าดิน...งั้นใช้วิธีนี้แล้วกัน...แต่ต้องไปหาสมุนไพรและผนึกด้วยสินะ "
เด็กชายน้อยเริ่มคิดวางแผนจะไปตามหาสมุนไพรและผนึกปราณในป่าที่เขาหนีเข้ามา เขาอ่านข้อมูลสมุนไพรและผนึกมากมายจนจำขึ้นใจ เขาก็ปิดตำราเล่มหนา(อาวุธชีวภาพได้เลยนะเนี่ย)และวางลงไว้ เข้านอนพักผ่อนเพราะเหนื่อยอ่อนเพลีย
ความรู้น้อย ก็ต้องคอยนาน...
เช้าวันต่อมา หวงเฉินหยางเดินเข้าป่าไปหาสมุนไพรแต่เขาก็ต้องคอยใช้วิธพลางตัวที่พ่อที่คอยไว้นั้นมาใช้จนหมดทุกวิธี เขาต้องคอยหลบหนีสัตว์อสูรมากมาย จนมาถึงถ้ำแห่งหนึ่งที่ช่างเป็นถ้ำเล็กเป็นอุโมงแต่สำหรับหวงเฉินหยางมันก็ช่างใหญ่โตอยู่ดี
เขาเดินเข้าไปในอุโมงค์ เดินเข้าไปลึกเรื่อยๆ จนเป็นทางลงไป
" !!! ว้าก!!!!!!! "
ด้วยความที่ไม่ระวังตนเองดีๆก็เผลอเตะหินก้อนเล็กๆน่ารักที่ไม่รู้สึกรู้สาอะไร ก็ต้องล้มกลิ้งลงไปแทนเป็นเจ้าลูกบอลกลมเสียแล้ว
กลิ้งลงมาถึงชั้นล่างสุด หวงเฉินหยางก็รู้สึกมึนหัวจนต้องไปอาเจียนแทบหมดไส้หมดพุง
" อาหยางไหวรึไม่? " เสียงเล็กๆของเจ้าดวงไฟสีแดงถามขึ้นมา
" ข..ข้าอยางหวายยยย "
" ถ้าจะไม่ไหวแล้วแฮะ " ดวงไฟสีขาวก็พูดขึ้นบ้าง
" ก็เล่นกลิ้งซะขนาดนั้นนี่ " ดวงไฟสีน้ำเงินก็ตามมา
" ลูกบอล " ดวงไฟสีฟ้าพูดบ้าง
" ซุ่มซ่าม " ดวงไฟสีดำพูดจบท้าย
หวงเฉินหยางคล้ายกับจะเเข็งไปเป็นหินเสียแล้ว เมื่อสติกลับมาปัญญาเกิด
" ที่นี่มันที่ไหนกันนะ..."
หวงเฉินหยางเดินไปรอบๆถ้ำที่มืดมิดเเต่เมื่อเขาเห็นแสงสว่างที่อยู่ห่างไกล เขาลองเดินแปะผนังถ้ำไปตรงที่มีแสงสว่างอยู่
เมื่อเดินมาถึงจุดแสงสว่าง หวงเฉินหยางดวงตาเบิกกว้าง เพราะภาพตรงหน้าที่เขาเห็นก็คือ
ผนึกบริสุทธิ์มากมายเต็มไปหมดจนสร้างความตื่นตระหนกตกใจกับหวงเฉินหยางเป็นอย่างมาก
เขาเดินไปดูผนึกที่มีความเป็บบริสุทธิ์เป็นอย่างมากเพราะพวกมันมีสีใสมันวาวตรงตามตรา และพวกมันสามารถใช้เลื่อนระดับได้อย่างรวดเร็วมาก หวงเฉินหยางจึงกลับไปทางเดิมที่เขาลงมาเพื่อไปเตรียมหนังสือและกับน้ำมกับน้ำมา
ถึงแม้ทางขึ้นตอนที่เขาลงมาจะปีนขึ้นยากเสียเถอะ แต่เมื่อเขาไปเอาหยังสือ อาหารและน้ำมา เขาก็กลับลงมาที่เดิมตรงที่มีผนึกมากมาย มันส่องแสงสว่างคล้ายกับตอนกลางวัน
เขานั่งลงดื่มน้ำและทานอาหารไว้รองท้องเพราะมิรู้ว่าเขาจะใช้เวลานานเท่าไหร่ในการดูดซับผนึกพวกนี้ครั้งแรก
เมื่อทานอาหารจนหมดและดื่มน้ำให้เพียงพอเขาก็ไปนั่งตรงกลางถ้ำที่ท่ามกลางผนึกมากมายเต็มไปหมด
เขาเริ่มนั่งดูดซับลมปราณจากผนึกบริสุทธิ์ที่มันเกิดเองตามธรรมชาติพวกนี้ ผนึกธรรมชาติสีใสนั้นมีพลังลมปราณที่อัดแน่นมากกว่าผนึกที่มีสีสันเสียอีก แถมผนึกที่มีสีใสที่ตามตำราที่เขาอ่านนั้นมันหายากยิ่งกว่าทองคำเสียอีก
หวงเฉินหยางต้องคอยดูดซับลมปราณ ส่วนพวกจิตวิตวิญญาณฝาแฝดปรโลกนั้นก็พากันจำศีลเลื่อนระดับกัน
เวลาผ่านไปเพียงสามวันเขาก็เลื่อนระดับจากระดับลมปราณขั้นสองมาเป็นระดับลมปราณขั้นสี่ได้อย่างน่าตกใจ และร่างกายของหวงเฉินหยางเองก็หิวโหยขึ้นมาทันที เขารีบดื่มน้ำเข้าไปส่วนอาหารนั้นเขาเองก็มากแล้วเหมือนกัน
หวงเฉินหยางเปิดตำราหาวิธีที่ทำให้ตนนั้นสามารถอดอาหารและน้ำได้นานๆ เพราะไม่อย่างงั้นเขาได้ได้ตายเพราะอดอาหารเป็นแน่
เปิดหาได้มินานก็พบกับยาโอสถที่สามารถอดน้ำอาหารได้มากกว่าสามเดือน ซึ่งมันเป็นข้อดีที่ทำให้ตนจะได้ดูดซับลมปราณได้นาน
" หนึ่งเดือนไม่น่าจะพอ...มีเวลาอีกไหมนะ... "
หน้าถัดไปอีกหลายหน้าก็พบกับเวลาที่เพิ่มขึ้นเป็นสามปีซึ่งมันก็สิ้นเพียงเท่านั้น ไม่มีเวลาเพิ่มอีกแล้ว
วัตถุดิบและของต่างๆก็หายากมาด้วยทำเอาหวงเฉินหยางถึงกับท้อใจเลย เขาอ่านวัตถุดิบทั้งหมดจนจำขึ้นใจก็เริ่มออกไปหานอกถ้ำในทันที
ของหลายอย่างเช่นนี้แถมมันก็ดูแล้วน่าจะราคาแพงมากๆเพราะเขาเห็นมีอักษรเล็กๆเขียนราคากำกับไว้แล้ว
" ... คงต้องลองไปหาป่าใหญ่สินะ..."
กล่าวจบหวงเฉินหยางก็คอยหลบในเงาร่มและซอกหินออกมานอกป่า เขาเห็นว่าอีกด้านไม่ไกลมากนั้นมีป่าใหญ่อยู่ เขาจึงเดินไปที่ป่าใหญ่นั้น
ในป่ามีต้นไม้สูงใหญ่มากมาย เขาต้องคอยหลบเลี่ยงพวกสัตว์อสูรเพราะตัวเขายังไม่เริ่มฝึกวิชาอะไร ก็เลยต้องคอยหลบๆเลี่ยงๆและเก็บสมุนไพรไปบ้าง
ของทั้งหมดนั้นหายากมาก และยังไปเก็บก็ยากอีก เขาตั้งพยายามปีนหน้าผาขึ้นไปเก็บสมุนไพรทำเอาเกือบตายเลยก็ว่าได้
แถมเขาต้องพักแรมตรงตีนเขาอีก อากาศในตอนกลางคืนนั้นหนาวมาก ส่วนกองเพลิงนั้นเขาหาได้แค่เศษกิ่งไม้และใบไม้มาตั้งกองไฟเล็กๆเพื่อความอบอุ่นและตัวเขาก็ขดตัวนอนจนแทบจะกลมเป็นลูกบอล
เวลาผ่านไปสามเดือน ในที่สุดเขาก็สามารถหาของมาได้ครบเสียที ทั้งต้องเสี่ยงอันตรายมากมาย ทั้งต้องหนีตายกับพวกสัตว์อสูร
สิ่งแรกที่เขาออกจากป่าใหญ่นั้นได้ก็คือ อาบน้ำ เพราะตัวเหนียวมากแต่รู้สึกกลิ่นตัวไม่เหม็นแต่กลิ่นตัวกลับหอมของดอกไม้ จนเอาตนเองก็เริ่มขนลุกขึ้นมาทันที
ถอดเสื้อผ้าก็โดดลงน้ำไปทันที แต่แล้วตนก็ร้องลั่นเพราะความเจ็บแสบของบาดแผลแต่ตรงด้านหลังความเจ็บปวดกลับมากขึ้นยิ่งกว่าเดิมเสียอีก เขารีบขัดถูตัวและลูบล้างแผลให้สะอาดและรีบออกจากน้ำทันที ความเจ็บปวดเช่นนี้ทำให้หวงเฉินหยางแทบจะตายทั้งเป็นอยู่แล้ว
เขากลับไปที่ถ้ำเดิมและลงไปตรงที่มีผนึกมากมาย เขาเห็นหนังสือตัวเดิมเล่มหนาก็ยังหนาเหมือนเช่นเดิม เขาไปเปิดหนังสือตรงที่หน้าคั่นไว้ เขาอ่านวิธีการปรุงยา แต่ปัญหาคือเขาไม่มีเตาหลอมหรือหม้อยา ทำเอาหวงเฉินหยางถึงกับนั่งกอดเข่าคิดวิธีการหา
เขานั่งคิดไปเรื่อยๆจนไปนึกถึงความทรงจำที่ท่านพ่อนั้นชอบทำเครื่องปั้นดินเผาด้วยตนเองเสมอ สิ่งนั้นแหละที่ทำให้หวงเฉินหยางคิดออกแล้วว่าจะทำเช่นไร
เขาหอบสมุนไพรทั้งหมดขึ้นไปและออกไปที่ตรงริมแม่น้ำ เขาวางสมุนไพรลงและไปขุดดินเรื่อยจนเจอดินเหนียวผสมดินร่วนแล้วบ้างเขาก็ขุดมากองเป็นภูเขา และเขาก็ไปเก็บเปลือกหอยขนาดใหญ่เท่าฝามือไปตักน้ำมาเทใส่ดินจนดินชุ่มจากนั้นก็นวดดินและค่อยๆปั้นให้เป็นเป็นหม้อ ถึงแม้จะรูปร่างแปลกๆเสียหน่อยก็เถอะ จากนั้นนั้นก็ปั้นเป็นฝาปิด และนั้นตัวหม้อและฝาไปตากแห้งไว้ จากนั้นตนก็ไปเอาสมุนไพรมาล้างและนำมาบดด้วยเปลือกหอยและไม้ แต่ปัญหาคือ...เขาจะเอาอะไรมาตัดสมุนไพรที่แข็งดี...
หวงเฉนหยางหันไปมองแหวนที่ตนสวม เขามองแหวนตัวนี้ก็นึกถึงในหนังสือกล่าวไว้ว่ามันคือแหวนมิติสามารถเก็บของได้ตามต้องการแต่มันก็จะขึ้นอยู่กับขนาดของพื้นที่ จะสามารถใช้งานของแหวนได้ก็คือการถ่่ยเทลมปราณเข้าไปในตัวแหวนนั้นเอง
หวงเฉินหยางลองถ่ายเทลมปราณดู และเขาก็พบว่าของข้างในแหวนนั้นมีทั้งเหรียญเงินเหรียญทอง หินลมปราณขั้นสูงมากมาย ทำเอาหวงเฉินหยางตาโตเท่าไข่ห่าน
ถ้าเป็นคนธรรมดาคงจะอยู่ได้ทั้งชาติ
ในแหวนมีพวกมีด ดาบ กระบี่หยก
หวงเฉินหยางมองกระบี่ที่น่าจะตัดได้หลายอย่างเขาก็หยิบออกมาก็หยิบออกมาสับสมุนไพรจนละเอียดหมด จากนั้นนำกระบี่ไปล้างเช็ดเก็บเข้าฝักและเก็บเข้าเเหวนไว้ตามเดิม
เขาบดสมุนไพรรวมกันและปั้นให้มันกลมๆ...ด้วยที่เป็นเป็นคนชอบทานน้อยแถมมือก็เล็กเลยปั้นให้เป็นเม็ดกลมเล็กๆเท่าตัวมดได้มากกว่าสามร้อยเม็ดแต่ก็ปั้นต่อไป...(เพราะปั้นเล็กเลยได้จำนวนเยอะมาก )
กว่าจะปั้นเม็ดยาจนสมุนไพรจนหมดก็ได้เป็นพันเม็ดและเป็นยามกลางคืนพอดี ตัวหม้อดินก็ยังไม่แห้ง หวงเฉินวางเม็ดยาลงกองเป็นใหญ่ๆที่รวมหลายพันเม็ด จากนั้นเจ้าตัวก็ดื่มน้ำและก็นอนด้วยความหิว
เช้าวันต่อมาก็ไปหาอาหารมากินรอ ลงไปเอาหนังสือเล่มหนาขึ้นมาอ่านรอฆ่าเวลาอยุ่ในถ้ำผนึกที่ความสว่างตลอดเวลา
เพราะเป็นคนชอบอ่านหนังสือตำราก็เลยอ่านเลยเวลาข้ามวันข้ามคืนไม่รู้ตัว จนอ่านจบเท่านั้นแหละเขาถึงจะรู้ตัวว่าต้องทำยาโอสถอยู่ก็รีบขึ่นไปข้างบนไปที่ริมแม่น้ำ
โชคดีที่ให้หินมาวางเป็นชั้นประกบกันเรื่อยๆจนคล้ายถ้ำ ส่วนหม้อดินที่แห้งแล้ว เขาก็เริ่มก่อกองไฟ นำสมุนไพรที่ปั้นเล็กๆนั้นใส่หม้อดิน ปิดฝาและนำวางไว้ในกองไฟ
เขาถ่ายเทลมปราณไปที่หม้อดินที่มีตัวยา และเขาต้องรอคอยและถ่ายเทลมปราณไปเรื่อยๆค่อยๆปล่อยลมปราณไป
ใช้เวลาห้าวันก็ได้ยาเม็ดโอสถมากกว่าหมื่นเม็ดเล็กๆมา หวงเฉินหยางรีบกินเม็ดโอสถไปหนึ่งเม็ด หอบเม็ดยาใส่ผ้าสะอาดที่เห็นในแหวนนั้นเอง เขาก็มัดผ้าที่เต็มไปด้วยเม็ดยาโอถสและเก็บในแหวนมิติ
เขากลับไปที่ในถ้ำที่เต็มไปด้วยผนึก เขานั่งลงและดูดซับลมฟ้าดินและพวกผนึกมากมายในถ้ำนี้
วันแล้ววันเล่าผนึกทีละชิ้นก็จะสลายหายไป พลังปราณมหาศาลเข้ารวมอยู่ในร่างของหวงเฉินหยาง เขานั่งดูดซับลมปราณต่อไปเรื่อยๆ
เวลาผ่านไปสามปีผ่านไป เป็นเวลาที่ยาเม็ดโอถสจะสิ้นฤทธิ์อีกเพียงแค่สามวัน
หวงเฉินหยางลืมตาขึ้นและทำเอาเขานั้นประหลาดใจ ผนึกมากมายนั้นได้หายเกือบไปทั้งถ้ำซ้ำยังมีประตูบานใหญ่ที่อยู่ทางตรงหน้า
หวงเฉินหยางมิค่อยแปลกใจเรื่องผนึกแต่รู้สึกแปลกใจกับประตูบานใหญ่เสียมากกว่า
หวงเฉินหยางลุกขึ้นยืน ทำเอาเจ้าตัวถึงปวดหลังและขาแทบจะอ่อนจนทรุดเลยทีเดียว
" นี่เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่แล้วเนี่ย..."
หวงเฉินหยางต้องคอยยืดหลังตนเองเพราะทั้งแขนและยืดขาเพราะนั่งนานเกินไปจนปวดไปทั้งตัว
เขาลองมองไปตรงพื้นและเดินไปที่หนังสือตำราเล่มเดิมแต่ทำเอาเขานึกแปลกใจในทันที เมื่อก่อนตำราสูงเท่าเข่าแต่ซะไหนถึงสูงเพียงเท่าขาของเขาเสียได้
" นี้ตำราหนังสือย่อยสลายลงไปเลยหรอเนี่ย ..."
เจ้าตัวมิรู้ว่าตนสูงขึ้นต่างหากก็เลยมโนไปว่าหนังสือเตี้ยลงเอง...
หวงเฉินหยางนำตำราเล่มหนาเก็บเข้าไปในแหวนและจากนั้นเขามุ่งหน้าเดินไปที่ประตูบานใหญ่แต่ก็ต้องหยุดชะงักลง ชุดอาภรณ์ที่สวมอยู่นั้นรัดคับแน่นมากจนเจ้าตัวถึงกับต้องปลดส่วนด้านบนออกและเผยให้เห็นผิวขาวเนียนแต่มีรอยแผลเป็นมากมาย ด้านหลังที่เป็นอักขระก็แปรเปลี่ยนเป็นรูปมังกร รูปร่างงามสง่าและมีกล้ามบ้างเล็กน้อย ใบหน้าทั้งหล่อเหลาและงามล่มเมือง
เขากำลังจะผลักประตูบานใหญ่ออก แต่เขาเพียงแค่เเตะนิดเดียวประตูบานใหญ่ก็พังทลายลง
" สงสัย...มันคงจะเก่ามากไปแล้วสินะเนี่ย... "
และก็เดินเข้าไปข้างใน โดยรอบนั้นมืดมาก แต่เดินไปเพียงไม่นานก็พบกับเหตุการณ์ที่อันจดจำอีกครั้ง เขาเตะหินตัวน้อยตัวนิดและกลิ้งลงไปอีกแล้ว แต่คราวนี้ดันตกลงไปในหลุมลึกอีก
โชคยังดีที่ตกลงไปในน้ำลึกก็เลยรอด เขาตะเกียกตะกายขึ้นฝั่งในทันทีเพราะความเจ็บปวดด้านหลังรุนแรงมากกว่าเดิมถึงหลายเท่าตัว
หวงเฉินหยางต้องรอจนตัวแห้งจากนั้นจึงค่อยเดินไปสำรวจรอบๆก็พบกับความมืดเช่นเคย
" .... "
'' งั้นให้ข้าช่วยแล้วกันนะเจ้าค่ะ ''
'' ให้ข้าช่วยดีกว่า เพราะข้าสามารถมองเห็นความมืดได้ ''
เสียงใสของหญิงสาวจากดวงไฟสีแดงดังขึ้นมาและตามดวงไฟสีดำเสียงต่ำของชาย
'' ท่านพี่ยี่เฉินหุบปากไปเลย''
ด้วยความที่อยู่กับพี่ๆฝาแฝดชายทั้งหมดมายาวนานนั้น นิสัยก็มิค่อยสมเป็นกุลสตรีเสียเท่าไหร่นัก
'' เจ้านะเงียบไปเลย ถึงคราวข้าออกโรงเสียบ้าง! เหยียนฮวา เจ้านะกลับไปจำศีลซะ! ''
" ข้าจำศีลนานเแล้วอยากใช้พลังมากเหลือเกิน! "
" ข้าเองก็เหมือนกับเจ้านั้นแหละ ข้ามิได้ใช้พลังมายาววนานยิ่งกว่าเจ้าอีก "
" ท่านพี่นี่เฉินแค่ห่างจากข้าแค่หนึ่งวันเอง! "
" แต่สำหรับข้ารอมาพันปี! "
" ข้ารอมาพันปีกว่า! "
" ข้ามานานพันปีเหมือนกัน "
เสียงลูกไฟอีกสองเข้าร่วมวงทะเลาะด้วยอีกแต่ก็มีเพียงด้วยไฟสี่ดวงทะเลาะกันยิ่งกว่าเด็กสามขวบ โต้ตอบนู้นนี่นั่นกัน
หวงเฉินหยางรู้สึกรำคราญสี่แฝดนรกก็เลยไม่สนใจกับเสียงทะเลาะกัน ตนก่อคบเพลิงด้วยตนเองและเดินสำรวจด้วยตนเอง ส่วนลูกไฟสองตนนั้นก็ทะเลาะต่อไปเรื่อยเปื่อย
หวงเฉินหยางรู้สึกอยากมีจิตวิญญาณดวงเดียวขึ้นมาทันที เพราะเขาจะได้ไม่ต้องมาฟังคำโต้เถียงไร้สาระของบรรดาลูกไฟจิตวิญญาณ
หวงเฉินหยางเดินสำรวจไปรอบๆถ้ำลึก จนเขาไปสะดุดตากับกล่องใบใหญ่กล่องหนึ่ง เขาเดินไปหากล่องใบนั้น เขาลองสำรวจรอบๆกล่องก็ไม่พบอพไรมากเมื่อมองจนพอใจแล้วก็เปิดกล่องใบนั้นขึ้นมา
ข้างในกล่องมีไข่ใบหนึ่งที่มีรูปร่างกลมคล้ายลูกแก้วเท่าฝ่ามือ หวงเฉินหยางเคยอ่านเจอวิธีการฟักไข่อสูร เขาลองถ่ายเทลมปราณไปที่ไข่ใบนั้น
เปลือกไข่ค่อยๆแตกออกจากก็เกิดควันสีดำและควันสีขาวลอยฟุ้งจนมองอะไรไม่เห็น
" คาราวะนายท่าน! "
!!!?
มีสองเสียงที่ดังออกมาพร้อมกันและเขาก็พบกับเด็กน้อยทั้งสองคนที่กำลังคุกเข่าคาราวะเขาอยู่
" ข้านาม ฟางฟาง "
เด็กน้อยคนหนึ่งมีผมสีนิลยาวสวมชุดอาภรณ์สีดำเส้นขอบเทา บนหน้าผากลายสัญลักษณ์รูปเปลวเพลิงสีแดง สูงเพียงจมูกของหวงเฉินหยาง
" ส่วนข้านาม ฟ่งฟ่ง "
ส่วนอีกคนนั้นมีผมสีนิลเช่นเดียวกัน เส้นผมที่ยาวยาวถึงกลางหลัง ส่วนมือนั่นห้อยลูกประคำ มืออีกข้างถือไม้เท้ายาวเหนือศรีษะ บนยอดไม้เท้าประดับด้วยกระดิ่งไว้ทั้งหมดเก้าอัน สวมชุดอาภรณ์สีเหลืองน้ำตาลคล้ายกับเป็นหลวงจีน
" มิใช่ว่าหลวงจีนหัวโล้นไร้เส้นผมหรือนี่... "
หวงเฉินหยางเอ่ยถามอย่างแปลกใจเพราะเด็กที่นามว่าฟางฟางนั้นเหมือนหลวงจีนมาก
" แค่กๆ... ข้ามิใช่หลวงจีน "
เสียงของเด็กน้อยนามว่าฟ่งฟางที่คล้ายหลวงจีนนั้นก็รีบเสกชุดของตนเปลี่ยนทันที ควันสีขาวลอยคลุ้งรอยกายฟ่งฟ่งนั้นได้เผยให้เห็นเด็กน้อยส่วนชุดอาภรณ์สีน้ำเงินเข้มปักลายเต่าตัวใหญ่เป็นสัญลักษณ์ด้านหลาง ทรงผมรวบขึ้นมัดเป็นจุกเดียวพร้อมกับปักปิ่นสีน้ำเงินเข้ม
" ขออภัยด้วยขอรับ พอดีข้าคงจะถูกเจ้าฟางฟางแกล้งยามตอนข้าจำศีลอยู่นะขอรับ "
ฟ่งฟ่งพูดอย่างเหนื่อยใจส่วนฟางฟางนั้นกลับหัวเราะขบขำอย่างขอบใจ
" ว่าแต่พวกท่านทำไมถึงไปอยู่ในนั้นได้กันหรือ? "
หวงเฉินหลางเอ่ยถามเด็กปริศนาทั้งคนตรงหน้า
" พวกข้าถูกสร้างมาและถูกสร้างมาก็ถูกผนึกไว้ในนี้แล้วล่ะ "
" เป็นเช่นนั้นรึนี่ "
หวงเฉินหยางมองเด็กทั้งคน เขาอยากจะออกไปจากตรงนี้เหลือเกินแต่จะออกไปอย่างไรได้แถมมาเจอเด็กทั้งสองนี้อีก นี่เขาอายุแค่เพียงไม่กี่สิบขวบเองนะจะเอาเด็กทั้งคนนี่ไปด้วยก็ยากแล้ว
แต่ดูเหมือนเด็กทั้งสองคนจะรู้ว่าตนคิดอันใดอยู่พวกเขาพาหวงเฉินหลางออกจากถ้ำแต่ไม่รู้ว่าเส้นทางมันยาวจนผ่านไปนานเท่าไหร่แล้ว เรื่องอาหารและน้ำดื่มนั้นมิต้องเป็นห่วงเพราะเขานั้กินยาโอสถอดน้ำอาหารไปแล้ว ทั้งเดินต่อไปกันเรื่อยๆจนมาพบกับทางออกจากถ้ำ แต่ทว่าก่อนที่จะออกจากถ้ำนั้น
" ข้าขอติดตามท่านไปด้วย "
" ข้าด้วย "
หวงเฉินหลางหันมามองเด็กทั้งสองคนก่อนที่จะเอ่ยขึ้นตอบกลับไป
" ได้สิ "
เด็กสองทั้งเมื่อได้ยินคำตอบแล้วก็จึงเดินเข้าไปใกล้หวงเฉินหลาง
" ท่านหยดเลือดพันธะสัญญาให้ข้าทั้งสอง จากนี้พวกข้าจะสามารถติดตามท่านเดินทางต่อไปได้ "
หวงเฉินหยางนึกแปลกใจแต่ก็ยอมทำตามที่เด็กน้อยกว่าตน เขาใช้หินที่ยาวแหลมอยู่ใกล้ๆนั้นมากรีดตรงมือและใช้เลือดของตนทำพันธะสัญญากับเด็กน้อยทั้งสอง
เด็กน้อยทั้งสองนั้นทำพันธะสัญญาเสร็จแล้วและได้กายเป็นกำไลหยกสีนิลและสีขาวมาสวมคล้องข้อมือของหวงเฉินหยางละข้าง ซ้ายสีนิลและขวาสีขาว
เขาได้กระจ่างแล้วว่าที่แท้เด็กทั้งสองก็เป็นของวิเศษนี่เอง
หวงเฉินหยางเดินมุดออกจากถ้ำไป และสิ่งที่เขาเห็นก็พบว่าตนอยู่ชายป่าแต่กลับมิใช่ป่าที่ตนเคยอยู่ตรงทางข้าหน้านั้นดูเหมือนมันจะเป็นเมืองอะไรสักอย่าง แต่ตอนนี้ตัวเขาเลอะเปอะเปื้อนดินมาก จึงเข้าป่าไปเสียก่อนเขาไปพบกับลำธารที่อยู่ใกล้ๆ เขาถอดชุดอาภรณ์ตัวเก่าที่มันเล็กมากแล้ววางไว้และค่อยๆลงน้ำ เขาพร้อมที่จะรับความเจ็บปวดแต่เมื่อน้ำโดนกลางหลังก็ไร้ความความเจ็บปวดแล้ว ดวงตาเบิกกว้างเขาไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดตรงแผ่นหลังแล้ว
หวงเฉินหยางหันไปมองตรงเงาน้ำที่สะท้อนเป็นร่างตรงแผ่นหลัง เขาพบว่าลายอักขระตรงแผ่นหลังได้หายไปเสียแล้วเห็นแต่เพียงแผ่นหลังขาวๆน่าชวนมอง เขาหันมามองเงาตรงหน้าก็พบว่าแผลเป็นทั้งหมดเองก็หายไปหมดแล้วพบกับใบหน้าขาวที่ดูว่าเป็นผู้ชายแต่ก็ดูหวานออกคล้ายผู้หญิงไปเสียด้วยหลายส่วน รูปร่างผอมเรียวราวกับเด็กอายุสิบสี่หรือสิบห้าปีเสียงั้น นี่เขาพึ่งสิบขวบแต่ซะไหนถึงสูงและรูปร่าวกับเด็กสิบสี่สิบห้าปีไปเสียนี่
ผิวกายก็ขาวดั่งดุจหิมะก็มิปาน ดวงตาสีขาวเหมือนไข่มุกแต่หลายคนอาจจะคิดว่าเขาอาจจะเป้นคนตาบอดไปแล้วเสียก็ได้
หวงเฉินหยางชำระกายเสร็จก็ขึ้นจากน้ำแต่ชุดของเขานั้นเล็กเกินไปแล้วจึงลองหาเสื้อผ้าในแหวนมิติดูก็พบเสื้อผ้าที่น่าจะพอดีกับตนและชุดนั้นทุกชุดสีขาวหมดเลย เป็นเวลาพอที่เขาสวมแล้วนั้นก็เป็นผู้ไหว้ทุกข์เลยพอดี แต่ติดตรที่ว่าแขนเสื้อมันยาวไปเสียหน่อย สวมหมวกฟางที่มีผ้าคลุมสีขาวบางๆครอบทั้งหมวกฟางที่สานจากไม้ไผ่
เขาจำได้ว่าเด็กทั้งเคยบอกตนไว้ว่ากำไลสีนลนั้นสามารถรักษาพิษได้ทุกชนิดแต่ถ้าเป็นพิษไร้ยาถอนอาจจะใช้เวลานานเสียหน่อยในการรักษา ส่วนกำไลสีขาวนั้นสามารถรักษาบาดแผลไม่ว่าจะเเผลเป็นก็รักษาหายได้
และเขาก็รู้แล้วล่ะว่าทั้งพิษและบาดแผลในตัวเขาหายได้เช่นไร
หวงเฉินหยางเดินกลับไปที่จุดเดิมตรงที่ตนออกมาจากโพรงหน้าถ้ำ เขาเดินออกจากป่าและเดินไปตรงทั้งคนทั้งเกวียนต่อแถวเข้าเมืองกัน หวงเฉินหยางก็ยืนต่อแถวเข้าเมือง
เวลาผ่านไปสักพักถึงหน้าประตูใหญ่ก็มีทหารมากกว่ายี่สิบนายยืนเป็นหน้าด่านเพื่อตรวจสอบคนเข้าเมือง เขายืนคุยทหารที่เป็นหัวหน้าอยู่สักพักก็ต้องยักยอกหินลมปราณระดับต่ำไปมากเสียหน่อยและสามารถเข้าเมืองได้เสียสักที
สิ่งแรกที่เขาก็คือการไปพักโรงเตี้ยมเล็กๆที่ไม่มีใครเข้าไปพักจองกันเสียเลยเพราะเถ้าแก่โรงเตี้ยมนี้หน้าตาหน้ากลัว ตัวใหญ่บึกบึน แผลเป็นเคยผ่านกลิ่นอายสนามรบมามากมายและมีบุตรชายและบุตรสาวหนึ่งคน ผู้เป็นบุตรชายได้ไปเป็นทหารประจำเมืองส่วนบุตรสาวนางอายุยี่สิบเอ็ดแล้วแต่มีใบหน้าที่มีแผลเป็นขนาดใหญ่จนดูน่าอัปลักษณ์ แต่ทว่าบิดากับบุตรสาวคู่นี้กลับใจดีกว่าเปลือกภายนอกเสียอีก
หวงเฉินหยางเป็นลูกค้ารายแรกเลยที่เข้ามาพักโรงเตี้ยมแห่งนี้และราคาเองก็ถูกมากด้วย แถมบรรยากาศก็เป็นธรรมชาติมีไม้ไผ่ประดับตกแต่งด้านหลังยังมีน้ำพุร้อนกลางป่าไผ่ เขาชอบที่นี้มากจึงจ่ายหินลมปราณระดับสูงไปสิบอันจนเถ้าแก่ถึงกับตกตะลึงในทันทีเพราะมันมากเกินไปก็ต้องรับไว้เพราะหวงเฉินหยางบอกว่าเขาจะที่นี่อีกยาวนานขอจ่ายล่วงหน้าไว้ เถ้าแก่ก็ไม่พูดอะไรอีกเลย
แต่เมื่อพอหวงเฉินหยางถอดหมวกฟางที่มีผ้าลุมออกเท่านั้นแหละทั้งเถ้าแก่และบุตรสาวถึงกับตกตะลึงใบหน้าของหวงเฉินหยาง
เถ้ามองใบหน้าของหวงเฉินหยางนั้นนึกว่าเป็น ธิดาเทพเซียน
ส่วนบุตรสาวเถ้าแก่นั้นรู็สึกเขินอายคล้ายจะเป็นลมเพราะเห็นว่าเป็น เทพบุตรแห่งสรวงสวรรรค์
ส่วนหวงเฉินหยางนั้นก็เปลี่ยนเอาผ้ามาคลุมทั้งหน้าแทนเพราะเดี๋ยวจะมีคนเป็นลมไปเสียก่อน
เวลาผ่านไปมิกี่วัน บุตรสาวของเถ้าแก่ก็มีชายหนุ่มมากมายพยายามมาตามเกี้ยวตามจีบคนงาม
ที่บุตรสาวของเถ้าแก่ที่งดงามเป็นหญิงสาวงามร่มเมืองนั้นก็เป็นเพราะหวงเฉินหยางได้ใช้พลังจากกำไลสีขาวรักษาแผลเป็นบนใบหน้าของนาง อย่างว่านางตกใจที่มีใบหน้างามล่มเมืองเลย แม้แต่หวงเฉินหยางก็ยังตกใจอ้าปากค้าง
เถ้าแก่จากที่จะเป็นเถ้าแก่แล้วยังมาเป็นพ่อหน้าใจโหดหวงบุตรสาวของตนที่มีแต่แมลงตามติด
ส่วนหวงเฉินหลางนั้นนั่งดูดซับลมปราณฟ้าดินอย่างสบายกายสบายใจ อยู่อย่างนั้น
เวลาผ่านไปไม่กี่เดือนก็ได้ยินข่าวเรื่องการเปิดสำนักรับศิษย์ใหม่ มีสำนักมากมายให้เลือก
สำนักดินสวรรค์
สำนักฮวาเหลียนสวรรค์
สำนักจันทราทมิฬ
สำนักมารอสูร
สำนักอสูรสวรรค์
สำนักพสุธา
สำนักวารี
สำนักอสรพิษ
สำนักตะวันจันทรา
สำนักสวรรค์ประธานพร
สำนักมารอเวจี
สำนักเวหา
( มีทั้งสำนักธรรมมะและสำนักมาร )
มีสำนักใหญ่ๆอีกมากมาย
หวงเฉินหยางถึงกับขมวดคื้วเป็นปม มีสำนักเยอะมากเสียจริงตัวเขานั้นมิค่อยชอบคนเยอะเสียเท่าไหร่เขาพยายามหาสำนักที่มีไม่ค่อยมีคนสนใจเสียเท่าไหร่
จนในที่ก็พบเสียที สำนักเส้าหลิน...ซะเมื่อไหร่กันเล่าสำนักหลวงจีนนั้นมีคนเยอะมากยิ่งกว่าอะไรอีก
หวงเฉินหยางเลือกสำนักเล็กๆที่ไม่ค่อยมีคนสนใจ
สำนักไป๋ฉิง
" ดียิ่งข้าเลือกสำนักนี้ "
ว่าจบหวงเฉินหยางก็ไปเก็บข้าวเก็บของเสร็จก็ไปลาเถ้าแก่กับบุตรสาวของเถ้าแก่จากนั้นตนก็ออกจากเมืองวิ่งถือเเผนที่จากเถ้าแก่ไปด้วย ในแผนที่นี้ได้บอกตำแหน่งของสำนักต่างๆมากมาย เขาต้องรีบไปให้ถึงภายในห้าวันให้ได้
การเดินทางครั้งนี้เขาอดหลับอดนอนไปตลอดทั้งวันไม่ว่ากลางวันและกลางคืน เขายังคงวิ่งไปเรื่อยๆ
จนผ่านไปวันที่สี่ก่อนถึงวันรับสมัครของสำนักไป๋ฉิงหนึ่งวัน หวงเฉินหลางในตอนนี้หมดสภาพริมแม่น้ำใต้ตีนเขา หวงเฉินหยางในตอนนี้ใบหน้าแทบจะเป็นหมีแพนด้าขอบตาดำและหมดเรี่ยวหมดแรงก็นอนสลบใต้ต้นไม้ที่ใกล้ๆแม่น้ำ ตนจะต้องฟื้นฟูพลังปราณเพราะต้องใช้วิชาตัวเบาที่ตนยังไม่ทันได้เริ่มเพียงแค่ตัวหนังสือก็เริ่มตั้งแต่ตอนเดินทางวันที่สามจนมาหมดสภาพในวันที่สี่แทน
วันต่อมายังมิถึงรุ่งสางหวงเฉินตื่นขึ้นมาและไปอาบน้ำชำระกายที่ริมแม่น้ำ ระหว่างที่กำลังชำระกายแช่น้ำ อยู่ๆก็มีคนผู้หนึ่งที่กำลังขี่ม้าอาชาสีดำผ่านมาชมแม่น้ำใต้ตีนเขาที่ซึ่งเป็นแม่น้ำที่สีใสมองเห็นใต้น้ำได้ชัดเจน
ชายผู้ขี่ม้าอาชาสีดำทมิฬใบหน้าหล่อเหล่าราวเทพบุตรทว่าช่างเย็นชา ร่างกายสูงสวมชุดอาภรณ์สีดำทมิฬร่างสูงขี่ม้าอาชาผ่านมาดงตาสีนิลที่หันไปมองร่างบางที่มีผิวกายขาวดั่งดุจหิมะร่างผมดูบอบบาง แต่เขาแค่รู้สึกสนใจเพียงเท่านั้น
" ... "
ร่างสูงที่ตื่นตะลึงจ้องมองร่างบางที่กำลังชำระกายโดยหัวที่ยังไม่ทันได้จะคืนสติ ร่างบางที่เเช่น้ำอยู่รู้สึกเหมือนถูกมองก็หันไปมองร่างที่ใบหน้าเย็นชาที่จับจ้องมองตนอยู่
ทว่าร่างสูงบนอาชาดวงตาเบิกตากว้างใบหูนั้นเริ่มแดงดวงตาจดจ้องยิ่งกว่าเดิม ถึงอีกฝ่ายจะเป็นบุรุษแต่ทว่ากลับมันช่างทำให้ตนถึงกับใจตันหาในทันที เขาเคยมองหญืงสาวและชายบุรุษงดงามมากมายแม้แต่เห็นร่างเปือยเปล่าเขากลับมิรู้สึกอารมณ์อันใด แต่ทว่าบุรุษตรงหน้านั้นกลับทำให้หัวใจเขาเต้นรัว ใจที่สงบนิ่งมาตลอดสิบหกปีกับเต้นรัวราวแทบกลับระเบิด เขาอยากจะคว้าร่าบางเข้ามากอดและถนุถนอมยิ่งนัก!
" เจ้าคนวิปลาส "
สิ้นคำกล่าวของหวงเฉินหยางนั้นทำเอาร่างสูงถึงกับชะงัก ส่วนร่างบางในสายตาร่างสูงนั้นก็ไปสวมชุดอาภรณ์และหมวกสานไม้ไผ่ผ้าคลุมทั้งใบหน้าในพริบตาโดยที่ร่างสูงมิทันได้กระพริบตา
หวงเฉินหยางเดินออกไปทิ้งให้ชายขี่ม้ากระพริบตาปริบๆ ชายผู้นั้นก็รีบควบม้าตามมาทันที
หวงเฉินหยางก็รีบวิ่งกระโดดขึ้นบันไดที่ไปทางเข้าสำนักทันทีแต่ทว่าบันไดตรงหน้ากลับยาวอ้อมทั้งภูเขาขึ้นบนเกือบทั้งยอดมีตำหนักมากมายและภูเขาลูกนี้ช่างใหญ่ยิ่งกว่าไรบันไดนั้นคงมีสักหมื่นขึ้นก็ว่าได้แต่จะเป็นขั้นเล็กก้าวพอดีเท้าพอดี
หวงเฉินหยางรีบก้าววิ่งก้าวกระโดดไปทีละหลายๆขั้นส่วนชายร่างหนาผู้ที่ขี้ม้าอาชานั้นได้แต่อยู่ด้านล่านมองร่างคนงามที่ขึ้นไปข้างบนเสียแล้ว
เขาได้แต่ถอนหายใจและคิดว่าไว้ค่อยมาวันใหม่เสียดีกว่าเพราะเขาต้อไปทำภารกิจต่อ ร่างสูงขี่อาชาทมิฬออกจากบริเวณนั้นไป
ส่วนหวงเฉินหยางที่วิ่งโดดขึ้นตามบันไดอยู่นานจนสามารถขึ้นบนยอดเขาได้เขาก็รีบไปรวมตัวกับเหล่าศิษย์ใหม่ทันที
แต่...
ทว่าทำไม ผู้คนถึงเยอะมากเช่นนี้กัน???
นี่มันใช่สำนักไป๋ชิงรึไม่เนี่ย...
" ยินดีต้อนรับสู่ สำนักราชันเทวะ "
สิ้นเสียงนั้นหวงเฉินหยางก็แทบจะเป็นลมหมดทั้งยืน นี่เขามาผิดที่หรือเนี่ย...
นี่มันสำนักที่ใหญ่ที่สุดและเป็นอันดับหนึ่งเลยมิใช่นึ!!?
" และใครที่คิดจะไปสำนักไป๋ฉิงนั้นก็มาถูกที่แล้วเพราะนั้นคือชื่อรองของสำนักเรานั่นเอง 55555+ "
ข้ากระจ่างใจล่ะ ที่แท้ข้ามิได้หลงแต่ข้าโดนหลอก!!!
จบภาคหนึ่ง
........................................................................................................................................................................
บอกตามแต่เรื่องนี้ใช้เวลายาวจนเกือบเป็นเดือนเลยทีเดียว สมองตันทุกวันเลยไม่ได้เขียนแบบบรรรยายละเอียดนะ
ขอบคุณที่มาอ่านกันนะครับ ขอบคุณครับ
เรื่องผมเองก็แต่งไว้ที่รีดอะไรท์(ฉบับต้นของผมเอง) คัดลอกลิ้งค์ด้านล่างได้เลย
https://www.readawrite.com/a/Z37nj4-%E0%B8%81%E0%B8%B3%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%A3?r=search_article
เนื้อเรื่อง
ค่าเริ่มต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
เาเป็นเพียเ็น้อยนหนึ่ที่เิมาพร้อมับำสาปบาอย่าเป็นรูปลายลัษ์บาอย่าและอัระมามายเ็มลาหลั ใบหน้าที่เป็นแผลเป็นล้ายรอยอมที่บารแ้มนาให่และมีรอยบาเล็ๆพร้อมับรอยไหม้รแ้ม้า้ายยาวมาถึลำอ ทำเอานูน่าเลียน่าลัว
ใน่วีวิในวัยเ็เาไ้วามรัาพ่อแเม่และท่านปู่ถึแม้เาะอัปลัษ์็าม... บ้านที่พวเราอยู่นั่นอยู่นอานเมือที่ายแนเป็นหมู่บ่นเล็ๆ ัวบ้านเอ็่าเ่าทรุโทรมพร้อมที่ะถล่มลมาไ้ทุเมื่อ
เามีไม่มีเพื่อนเล่น ไม่มีใรอยาเป็นสหายับเาเพียเพราะมีอัระประหลาลาหลั
" เ้าปีศา! "
"เ้ามันัวประหลา! "
" ปีศา "
แม้แ่เพื่อนหลายน็้อหนีเาบ้า็ปา้อนหินใส่เาบ้า ปาไ่ใส่ภาพบ้า แถมพวผู้ให่เอ็หลายท่าน็่านินทา้านสนุปา แ่ยัโีบ้าที่้านั้นยัมีท่านพ่อท่านแม่และท่านปู่ที่ยัรัเอ็นู้า
" เินเอ๋อ ้อเป็นเ็ีนะ "
" ลูแม่มาทานนม้วยันสิ นมอร่อยมาเลย "
" หลานปู่ เมื่อเ้าโึ้นเ้า้อแ็แร่ึ้น เ้าใไหม "
้ารัพวเายิ่นั พวเาเป็นผู้เยียวยาิใอ้า พวเาือรอบรัวที่้ารั พวเาือนที่้ารั
" ้ารัท่านพ่อ "
" ้ารัท่านแม่ "
" และ้ารัท่านปู่ "
" ้ารัพวท่าน "
นระทั่้าอายุไ้เ็วบ ็มีเิเหุสรามที่ายแน นมามายถูเ์ไปเป็นทหาร ท่านพ่อ้าเอ็ถูเ์ไปเป็นทหารเหมือนัน
สรามรั้นี้่าน่าลัวยิ่นั พวศัรูบุายแนเ่น่าาวบ้านมามาย พวผู้หิถูืนใ แม้เเ่เ็น้อยและผู้ให่แม้แ่นแ่เ่า่า็ถูเ่น่าไร้วามปราี
ท่านแม่้าไม่ยอมให้พวมันืนใและ่า้าไ้ ท่านแม่และท่านปู่ปป้อ้า ท่านแม่และท่านปู่ยอมายเพื่อให้้าหนีไป
" ท่านแม่!!! ท่านปู่!!! "
" หนีไป! "
" หลาน้าเ้าหนีไปะ! "
ัว้านั้นน้ำาไหลริน ้าวิ่หนีไปและสิ่สุท้ายที่้าเห็นนั้นือท่านแม่และท่านปู่ายทั้เป็นในอเพลิ
" ท่านแม่ ท่านปู่!! "
ในอนนี้้านั้นมีเวลาไม่มานั ้าวิ่หนีไปามบ้านที่มีแ่อเพลิ ทุอย่ามีแ่เพลิ แ่ทันมี้าำลัวิ่อยู่นั้น ้า็ไ้ยินเสียเ็สอนทารร้อไห้ที่อยู่ท่ามลาอเพลิที่มีศพนเป็นแม่นั้นอเอาไว้
้าทนเห็นเ็ที่บริสุทธิ์ะายมิไ้ ้ารีบวิ่ฝ่าอเพลินั้นไป ้าเ้าไปอุ้มเ็ทารทั้สอวิ่ออไปาอเพลินั้น แ่เมื่อวิ่ไ้ไปถึสิ้นสุอหมู่บ้าน็ไ้ยินเสียอหิราผู้หนึ่ที่ำลัอุ้มเ็ทารออมาาัวบ้านนออมา้านอไ้
แ่หิราผู้นั้น็ล้มลไปนอนอับพื้น ามัวมีแ่รอยไหม้และอ้อมอยัอเ็ทารไว้
" ไ้โปรสวรร์...่วยหลาน้า้วยเถิ... "
หิราที่อยอ้อนวอนสวรร์ให้่วยีวิอหลาน นามิอให้สวรร์่วยัวนาแ่อเพียแ่ให้หลานอนานั่นปลอภัย
นระทั่หิราใล้ะหมแรนพู่อมิไ้ ัว้ารีบเอาผ้าัวยาวที่รพื้นอยู่นั้นไ้มามัเ็ทารนหนึ่ไว้้านหลัล้ายับท่านแม่ที่อยมัอบมั้าไว้้านหลัเสมอ ้ารีบวิ่อุ้มเ็ทาราหิรานั้นไว้ เ้าหันไปมอหิราผู้นั้น
หิรานั้นมอ้า นายิ้มอ่อนโยนและล่าวำพูสุท้ายออมา
" อบุนะ หวเินหยา "
สิ้นำพูอหิรา็สิ้นลมหายใไป สิ่ที่นาเห็นนั้นนาไ้ลายวามัวลแล้วว่าหลานอนานั้น้อเิบให่แน่นอน
้านิ่อึ้แ่็ไ้ยินเสียศัรูโห่ร้ออย่ามีัยอยู่นั้น ้าวิ่อุ้มเ็ทารทั้สามเ้าไปในป่าทันที
บแล้วสินะ
บแล้วสินะ
ีวิที่มีวามสุอ้า บแล้วสินะ
ท่านพ่อ
ท่านแม่
ท่านปู่
หาีวินี้้าไม่มีพวท่าน ้าะมีีวิอยู่่อไปอย่าไรัน...
เาวิ่อุ้มเ็ทารทั้สามเ้าไปในป่าลึ ในป่านั้นมีสัว์อสูรมามาย เา้ออยหลบ่อน แ่้วยเสียเ็ที่ร้อัลั่น็มีสัว์อสูรที่มีลัษะเป็นหมูป่าัวให่ที่ำลัวิ่มาทาพวเา
้าไม่รู้ะทำเ่นไรีแล้ว ัว้านั่นาสั่นและสั่นนถึระูสันหลัเลย็ว่าไ้
หมูป่าัวนั้นมีเี้ยวที่โ้ทั้้า วาสีแเหมือนัโทสะ ัวอมันมีไฟลุไหม้ทั่วทั้ัวนถึปลายหา มันวิ่มาทาเ็ทั้สี่อย่ารวเร็ว
เ็ายเ่าทรุนั่ลับพื้น เารีบแะผ้าและอุ้มทารที่อยู่้านหลันั้นเอามาอุ้มและอไว้ใ้หลัอนเป็นที่ำบัเป็นำแพไว้ แ่้วยที่ัวยัเ็ เป็นเพียแ่มนุษย์ มนุษย์ธรรมาที่ไม่สามารถ่อรับสัว์อสูรไ้
เาหลับาลรอเพียแ่ารที่ะรับวามเ็บปวที่อาถึีวิไ้ แ่ทว่าเหมือนมิไ้รับวามรู้สึิถึอันรายอีแ่เาไ้รับวามรู้สึถึวามอบอุ่น วามปลอภัย
เ็น้อยลืมาึ้น็ไ้พบับายนหนึ่สวมุาวทั่วทั้ร่า ใบหน้าสวยและใีูอบอุ่นนั้นทำให้เ็น้อยที่รู้สึันและวามลัวแ่แร็ลายวามันและวามลัวล
ส่วนเ้าหมู่ป่านั้น็นอนายโนแผเผานสลายหายไปเสียแล้ว
" เ้าเ็น้อย เ่นไรถึมาอยู่ที่นี่ไ้ล่ะ? "
เ็ายที่พอไ้ำถามนั้น็ทำให้นึภาพที่เ็บปวใภาพที่นที่เารันั้นายทั้เป็นอเพลิ เาทำไ้เพียแ่เียบและน้ำาไหลลมา
ายผู้นั้นเมื่อมอเ็น้อยที่น้ำาไหลเมื่อไ้ำถามที่นถามไป็ถึับสสัยในทันว่าเิอะไรึ้น เาเรียมที่ะเอ่ยปาถามแ่็ไ้ยินเสียมาัเสีย่อน
" แ้!! "
เ็ทารทั้สามนร้อไห้ออมาพร้อมัน ายผู้นั้นเริ่มถึับไปไม่เป็นเสียแล้ว
เ็ายมอเ็ทารทั้สามที่ร้อไห้อแนั้น น็ถึับไปไม่เป็นเ่นันเพราะัวเานั้นไม่เยเลี้ยเ็มา่อน ถ้าะใ้วิธีท่านพ่อท่านแม่อนปลอบน็เระไม่ไหวเสียแล้วเพราะร่าายอน็อ่อนล้าเ็มทนที่ะอุ้มอเ็ทารทั้สามไม่ไหว
ายผู้นั้นเห็นว่าัวอเ็สั่นไปทั้ัวแถมยัอุ้มทารทั้สามเสียอี เาึไป่วยเ็ายอุ้มเ็ทารทั้สามึ้นมาในอ้อมอ
เ็ายมอูผู้นั้นที่อุ้มเ็ทารทั้สามไป แถมยัเห็นายผู้นั้นอุ้มอยปลอบโยนเ็ทารทั้สามแถมยัร้อให้ฟั ถึเพลมันะเปลๆ็เถอะ แ่เ็ทารทั้สาม็ไปในอ้อมอเรียบร้อย
" เ็น้อย เ้าื่ออะไรหรือ? แล้วอายุเท่าไหร่ัน? "
"้าื่อ เินหยา แ่ หว อายุ 7 วบ อรับ "
" ถ้าเ่นนั้นรอบรัวอ้าล่ะ? "
หวเินหยามอายผู้นั้น ัวเานั้นลัเลว่าะอบีหรือไม่ สุท้ายเา็ยัอบอยู่ี
" ท่านพ่อ้าถูเ์ไปเป็นทหาร ท่านแม่ับท่านปู่าเ้าไปในอเพลิแล้วอรับ..."
ายผู้นั้นมอเ็น้อยที่้อสูเสียรอบรัวไปเสียแล้ว ็ทำเอาให้ัวเานั้น่าสสารเ็น้อยผู้นี้เหลือเิน
" เเล้วเ็ทั้สอนนี้เป็นน้ออเ้าใ่รึไม่? "
" มิใ่อรับ "
สิ้นำอบ็ทำเอาายผู้นั้นถึับมวิ้วทันที
หวเินหยาึเล่าเรื่อราวทั้หมให้ายผู้นั้นฟัั้แ่้นเรื่อถึอนที่นำวามไ้นมาถึอนที่พบับายที่อยู่รหน้าเา
ายผู้นั้นพยัหน้าอย่าเ้าใ เาอยพูปลอบเ็น้อยผู้นี้
" ้าื่อ ื่อหลิ แ่ เฟิ่ ัว้าเป็นนในหมู่สำนัธรรมมะ เ้าะไปอยู่สำนัับ้ารึไม่? "
เฟิ่ื่อหลิที่เป็นนาอายผู้นั้นไ้เอ่ยถามหวเินหยาว่าะไปอยู่ับนหรือไม่
" ้าน้อยอมิไปับท่านอรับ ้าน้อยะเินทา้วยนเอ "
" ะีหรือ...เ้ายัเ็มานันะ แล้วเ้าสามารถอ่านออเียนไ้รึไม่? "
" ้าอ่านออเียนไ้อรับ "
เฟิ่ื่อหลิอุ้มเ็ทารทั้สามในแนเียวส่วนแนอี้า็ล้วไปหยิบหนัสือพร้อมับป้ายหยบาอย่าในอเสื้อและยื่นให้เ็น้อย
หวเิหยารับหนัสือพร้อมับป้ายหยมา เามอำราหนัสือที่นถืออยู่ มันหนามานเป็นอาวุธทุบหัวแไ้เลย เาไปมอรอเสื้ออายผู้นั่นอย่าแปลใว่าเาไปไว้ในนั้นไ้เ่นไรัน
" เ็บไว้ให้ีๆล่ะ โยเพาะป้ายหย เ้า้อเ็บไว้ให้ีที่สุ เพราะเมื่อยามใมีปัหาเ้า็มาที่สำนัอ้าไ้ ื่อสำนั็ือ อวัาสวรร์ หรือ็ือ สวรร์ประทานพร "
สิ้นำพูนั้น เฟิ่ื่อหลิ็ไ้อุ้มทารทั้สามหายัวไปับสายลมเสียแล้ว
หวเินหยายืนถือำราเล่มหนาหาวาบนพื้นมัน็หนานสูถึหัวเ่าอเาพอี แ่มอเามอไปรพื้นที่ายผู้นั้นที่เยยืนอยู่็มีแหวนวหนึ่เป็นเพียแู่เหมือนธรรมา แ่็เ็บึ้นมาลอสวมนิ้วนูมัน็พอีับอเาเลย
เเ่เหมือนเาะรู้สึไปเอหรือเปล่าเหมือนายนนั้นไ้อะไรบาอย่ายัเ้าปาเา่อนที่ะาไป ส่วนเานั้น็เผลอลืนลไปเสียไ้
เ็น้อยเินแบำราเินไปเรื่อยๆ นสามารถออาป่าไปไ้ เพราะป่าแห่นี้็ไม่ไ้ให่อะไรมานั เมื่อเาเินพ้นาป่าไปอีหลายลี้็พบับแม่น้ำว้าให่
เารีบวาหนัสือลและวิ่ไปถอเสื้อผ้ารโหินและวิ่ลน้ำทันที อาาศที่ร้อนแสนอบอ้าวับารอาบน้ำที่เย็นสบาย แ่หวเินหยาับเ็บปวรใบหน้าและแผ่นเป็นอย่ามา
มันทั้แสบและเ็บนถึระูเลย็ว่าไ้ แ่เ็ายนนี้เาเลือที่ะอทนอลั้นเพราะลูผู้ายนั้น้อมีวามอทนอลั้น
เาทนวามเ็บไว้เเำน้ำลไปับปลา เพราะอนเ็ว่าเาเยไปำน้ำับปลาับท่านพ่อเสมอ่อนที่ท่านะถูไปเ์ทหาร เาเ็บมา... แ่เา้ออทน้อไม่ให้ใรรู้ว่าเามัะเ็บปวแผลเป็นและอัระลาหลั ทุืนที่เานอน็้อทนทุ์ทรมาาอัระทุรั้และ้อเ็บปวปาายเา็เลือที่าแอบออาบ้าน่วยามรารีเพื่หนีไปทนทุ์ทรามาและเสียที่รีร้อในยามที่วันทร์เ็มวและวันทร์สีเลือทุรั้ เมื่อใล้ถึยามะวันะึ้นเา็รีบลับบ้านไปนอนที่เิมเป็นนี้ทุรั้ั้แ่อนอายุ 1 วบ เป็นเวลามานานถึ 7 ปี
เมื่อหวเินหลาับปลาในแม่น้ำไ้มาัวหนึ่เป็นัวให่เา็รีบึ้นาแน้ำึ้นไปบนฝั่ รีบไปสวมเสื้อผ้าัวเ่าทีู่าวิ่นและมีรอยเย็บปะมามาย
เาไปเ็บิ่ไม้แห้มาอรวมันไว้ และไปหาหินมาเาะระทบันนเิประายไปึ้นมา านั้น็ัารำแหละปลาัหัวทิ้วัไส้ออและเสียบไม้ย่า
เาเยทำแบบนี้เพราะท่านแม่เยสอนเาไว้ ทั้เรื่อารทำอาหาร ารทำนมบ้า ถึแม้บารั้ใส่ผิระหว่าน้ำาลับเลือ็เถอะ
เาอยผลิปลาไปมา แ่็เผลอทำไหม้อยู่ีเพราะแนเาสั่นเพราะยัเ็บแผ่นหลัอยู่็เผลอทำปลาในอเพลิแ่็รีบับไม้ยึ้นมาทันที่อนที่มันะไหม้ไปนินไม่ไ้อี
โยัีปลาไหม้้านเียว อี้านินไ้ เาินปลา้านนั้นเพียนิเียว็อิ่มเสียแล้ว
เพราะัวเานั้นเป็นนที่ไม่่อยอยาอาหารเสียเท่าไหร่ แม้แ่นมเอ็แทบะินไม่ล แ่พอท่านแม่อยเอานมมาให้หรือทำนมให้เา็ำใินมันเ้าไปและเมื่อินหมเา็อัวไปปลทุ์ เารีบออาบ้านไปใล้ๆายป่าและอาเียนอที่ินไปนั้นออมานหมไส้หมพุ แถมท่านแม่ท่านพ่อและท่านปู่นั่นมิรู้ว่าหลานอนมิอบารินเยอะมาแม้แ่นมหวานยิ่แทบะินไม่ไ้แ่เา็้อำเป็น้อินเ้าไปให้หมเพื่อไม่ให้ท่านเเม่ท่านพ่อและท่านปู่รู้ เพราะบ้านอเานั้นายนมบาวันและแม่็มัะทำนมายเา็เลย้อเป็นผู้ิมรสอท่านแม่เสมอ เา็ไปแอบอาเียนทุรั้ลอเวลาที่้อินนมหวานมาๆ เพราะอาหาราวนั้นแทบะไม่มีหลัาที่ท่านพ่อถูไปเ์ทหารในอทัพ และานั้นมา็ไม่มีใรที่้ออยออไปหาล่าสัว์ับปลาอีเลยเพราะัวเา็ยัเ็มาเสีย้วย ท่านแม่็้ออยอยู่บ้านส่วนท่านปู่็ราภาพมาแล้ว
ท่านปู่เยเล่าให้ฟัว่า ท่านปู่อเาเยเป็นบัิและเลื่อนั่นเป็นุนนาั้น สามมา่อนแ่็ถูไล่ออมาาเมือหลวเพราะไปทำใหุ้นนาบาท่านที่อิาท่านปู่ที่ไ้รับวามโปรปราอฮ่อเ้ แ่อยู่ไ้มินานท่านปู่็ถูเนรเทศมาอยู่ายแน็เพราะุนนาที่ี้อิาใส่ร้ายท่านปู่ส่วนฮ่อเ้เอ็ราภาพมาและสวรรึ้นสวรร์ไป และราบัลลั์มีผู้สำร็ราารแทน อ์รัทายาทไ้ึ้นรอราย์เป็นฮ่อเ้อ์ปัุบันนี้ ส่วนท่านปู่ถูเนรเทศนั้น็โนหาว่ามีวามผิ่อบ่วยอ์ายสามที่ถูประหารไปเพราะิะิบัลลั์ เพราะเยเป็นนโปรปราและมีวามีวามอบอฮ่อเ้อ์ึไ้เพียถูเนรเทศและถูริบสมบัิเ้าลัหลวทั้หม
ท่านปู่สอนหนัสือให้เามามายทั้อ่านท่อเียนอัษรนำนาเพราะเรื่อฝึปูพื้นานั้แ่ 4 วบ ้วยที่ท่านปู่บอว่าเานั้นเป็นอัริยะที่มีวามำีเลิศและเ้าใวามรู้ทั้หม นเรียนเพียหนึ่ปี็ำนาแานวามรู้ และเามัะอยู่แ่ในบ้านอยอ่านหนัสือเ่าๆทั้อท่านปู่อท่านแม่อท่านพ่อหรือเ็บามร้านหนัสือที่โยนำราหนัสือทิ้เา็เ็บมาอ่านทั้หม เพราะไม่มีเพื่อนไม่มีสหายเลยไ้แ่อยู่บ้านอ่านำราหนัสือ่าๆอย่าเียว
หวเินหยาเ็บปลาที่เหลืออยู่ห่อะบใบไม้ส่วนน็นั่อ่านำราเล่มหนาแถมมัน็ูให่มา้วย เาใ้เพียแสไปาอไฟเท่านั้นที่เป็นแสสว่า ส่วนท้อในอน็มืมามีวาวมามายและโีที่ไม่สัว์อสูรเลย
เานั่อยอ่านำราที่ท่านเฟิ่ื่อหลานเป็นผู้มอบให้ เมื่อเาไ้เปิหน้า็ถึับใและทั้ีใ เพราะหน้าปมันเียนว่า
พื้นานำลัภายในและลมปรา
หวเินหลาที่ีใที่เาะไ้ฝึลมปราบ้าแล้ว รีบเปิหน้าถัไปและเริ่มมันทันทุัวอัษร...แ่ปัหา็ิรที่ว่า ัวอัษรทั้เล็และลายมือไ่เี่ยเล็น้อย... แ่เา็เยอ่านลายมือยิ่ว่าไ่เี่ยมาแล้ว มิใ่ใรที่ไหน ท่านพ่อเาเอนั้นแหละลายมือยิ่ว่าไ่เี่ยนอ่านแทบะมิออเสียแล้วแหละ เพราะมีประสบาร์อ่านลายมือไ่เี่ยนั้น็อ่านำราเล่มนั้นไ้อย่าสบายๆ
เาอ่านำราเล่มไ้เพียนิเียว็พบับวามอ่อนล้าอร่าายที่หัโหมอนเ้าป่า เาึปิำราเล่มนั้นอย่าเสียายและเา็นอนลับพื้นเอาหินมาเป็นหมอนถึแม้มันะแ็มา็เถอะ
ืนนี้โีเป็นืนเือนมื เพราะมีเพียืนเือนมืเ่นนี้เท่านั้นเป็นวันที่เาไม่้อทนทุ์ทรมาับารยามเานอน
เ้าวัน่อมา่อนพระอาทิย์ึ้น
หวเินหยาื่นึ้นมาเินไปที่แม่น้ำล้าหน้าแ่น่าแปลที่เานั้นไม่รู้สึเ็บปว เาลูบใบหน้าและมอูเาในแม่น้ำอน็พบว่ารอยำแผลเป็นลึให่นั้นหายไปเหลือแ่เพียเเผลเป็นรอยาๆที่เริ่มหายไปในทันที ปราให้ใบหน้าทั้สวยามและมีวามหล่อเหลาอีนทำให้ื่นะลึับใบหน้าอนเอ ทั้มีวามามั่เทพเียนเทพธิาสวรร์ทั้มีวามรูปหล่อรูปามั่เทพบุรุษ ทำเอาหวเินหยา้อยี้าูเานใหม่อีรั้
นี่เา...็ีใเเผลเป็นหายไปไม่แ่เพาะใบหน้าามร่าายเอ็หายไป แ่อัระลา็ยัอยู่เ่นเิมเพราะเายัไ้รับวามเ็บปวแผ่นหลัอยู่เ่นเิม
ะว่าไปแล้วท่านแม่อเา็ามมานมีายหนุ่มเ้ามาีบส่วนท่านพ่อเอ็ถูหฯิสาวรุมล้อม อันนี้็เป็นท่านปู่ที่เยเล่าให้ฟัว่าอนอยู่สมัยฮ่อเ้อ์่อนนะ พ่อแม่อเานั้นเป็นที่รุมล้อมอหนุ่มๆและสาวๆ แ่เมื่ออับถูเนรเทศ พวเา็ลายเป็นที่รัเียทีนที
หวเินหลาเินลับไปที่เิมและยำราึ้นมาอ่าน่อ
ลับับั้นพลัลมปราในยุทธภพ
ระับ่อำเนิลมปรา มี 12 ั้น าั้นที่ 1 ไปถึั้นที่ 12 ือสิ้นสุำเนิลมปรา
ระับลมปรา มี 10 ั้น าระับั้นที่ 1 ไปถึั้นที่ 10 ือสิ้นสุลมปรา
ระับทะเลลมปรา มี 10 ั้น าระับั้นที่ 1 ไปนถึระับั้นที่ 10 ือสิ้นสุทะเลลมปรา
ระับสมุทรลมปรา มี 9 ั้น าระับั้นที่ 1 ไปนถึระับั้นที่ 9 ือสิ้นสุสมุทรลมปรา
ระับ่อำเนิพิภพลมปรา มี 26 ั้น าั้นที่ 1 ไปถึั้นที่ 26 ือสิ้นสุำเนิพิภพ
ระับพิภพลมปรา มี 18 ั้น าั้นที่ 1 ไปถึั้นที่ 18 ือสิ้นสุพิภพ
ระับนิพพาน มี 9 ั้น าั้นที่ 1 ไปถึั้นที่ 9 ือสิ้นสุนิพพาน
ระับ่อำเนิเียน มี 36 ั้น าั้นที่ 1 ไปถึั้นที่ 36 ือุมุ่หมายแห่เทพเียน
ระับ้าวเป็นเียนหรือเทพเียน มี 7 ั้น ...
ั้นที่ 1 รับสายฟ้าทั์สวรร์ 2 สาย
ั้นที่ 2 รับสายฟ้าทั์สวรร์ 3 สาย
ั้นที่ 3 รับสายฟ้าสวรร์สวรร์ 5 สาย
ั้นที่ 4 รับสายฟ้าทั์สวรร์ 6 สาย
ั้นที่ 5 รับสายฟ้าทั์สวรร์ 7 สาย
ั้นที่ 6 รับสายฟ้าทั์สวรร์ 8 สาย
ั้นที่ 7 รับสายฟ้าทั์สวรร์ 9 สาย ือสิ้นสุารเป็น่อำเนิเียนมุ่สู่ารเป็นเทพเียน
ผู้ที่ะเลื่อนระับาระเป็นำเนิและ้าวเป็นเียนนั้นมีเยอะมาโยระูลให่ ราวศ์ สำนัทั้ให่และเล็่า็เน้นารใ้ำแพป้อันสายฟ้าทั์สวรร์ และสายฟ้าทั์สวรร์นั้น็มิไ้เเรมาเท่าในัเพราะมันเป็นเพียแ่ารเลื่อนระับ
แ่ทว่าผู้ที่ะเป็นเียนลับมีน้อยเพราะทั์สวรร์ที่เป็นอรินั้นือสิ่ที่สามารถทำลายลมปราอผู้นั้นไ้ในพริบาหรือนที่ไ้รับทั์สวรร์นั้น็ายสลายหายไปไ้เเม้เเ่เพียแ่ สายเียวเท่านั้น นธรรมามิอาะเป็นไ้็เพียแ่รอ ปาิหาริย์ เท่านั้น
ระับเทพเียนหรือเียน มี 6 ระับ แ่่อนึ้นระับะทั์สวรร์อริ 1 สาย่อนึะเป็นเียนไ้ และเมื่อลายเป็นเียนแล้ว็เพียแ่บำเพ็บะให้เ่ล้าึ้นอย่าเียว
ระับเียนั้นที่ 1
ระับเียนั้นที่ 2
ระับเียนั้นที่ 3
ระับเียนั้นที่ 4
ระับเียนั้นที่ 5
ระับเียนั้นที่ 6
าร้าว้ามเทพเียน่อไปหลัาสิ้นสุระับเียนั้นที่6 ้าว้ามเียนไปเป็นระับอเทพ นั้น้อผ่าน ทั์สวรร์ถึ 36 สาย ึ่มีน้อยมาที่มนุษย์ะ้าวไปเป็นเทพไ้
ระับแห่สวรร์ ้อผ่านทั์สวรร์มาแล้ว 36 สาย
ระับเทพนั้นให้ฝึเ่นไร็แล้วแ่บุลว่าะผ่านันไปให้เเ่ไหนัน
ผู้ที่ไ้เป็นเทพแล้วะมีระับ 3 ั้นาร้าว้ามีำั และถ้าผู้ใที่แ็แร่ว่า็ือผู้ที่มีใ้อำนามาว่าผู้อ่อนแอ
ั้นที่ 1 เทพั้น่ำ
ั้นที่ 2 เทพั้นลา
ั้นที่ 3 เทพั้นสู
เหล่าผู้ปรอเทพผู้เป็นเื้อราวศ์แห่สวรร์ ัพรริสวรร์ผู้ที่ปรอินแนแห่สวรร์ ...่วเวลายาวนานแม้แ่นในราวศ์เอ็่าพาันไปเิใหม่ันมามายเพราะอยู่บนสวรร์ไปมัน็น่าเบื่อ
และใ้แห่ยมโลเอ็มี ัพรริแห่ยมโลผู้ปรอแห่แนยมโล เป็นพระเษาอัรพรริสวรร์
หาะ้าว้ามมาว่านี้ ารที่ะ้าว้ามเหนือเทพทั้ปวนั้นเป็นเรื่อที่แทบะเป็นไปไม่เลย...นอเสียาะเป็นบุรหรือเลือเนื้อเื้อไอบรรพาลทั้สาม
้าว้ามเหนือเทพสวรร์
ระับับ เทวะ
ระับเทวะไม่มีั้นระับอีแล้ว ะมีีวิอยู่ยาวนาน หรือะไปายเิใหม่หรือะไปเที่ยวโลอื่น็ไ้ ...แ่ ไม่มีใรเยมีระับเทวะ เลยยเว้นเพียแ่บุรอบรรพาลที่เป็นระับเทวะอยู่เพียแ่ 4 น
ท่านบรรพาลทั้สาม ผู้ที่เป็นผู้สร้าัวาลแห่นี้ (ะไม่มีแ่มีแ่ื่อ) (และ็ในื่อะไม่วามหมายอะไรนะ เพราะั้มั่ว)
เหยาไป๋ (เพศาย) เป็นผู้สร้าและูแล ( เป็นภรรยาอเฟยา )
เฟยา (เพศาย) เป็นผู้สร้าและทำลาย ( เป็นสามีอทั้สอ)
ไป๋ฮวา (เพศหิ) เป็นผู้สร้าและรัรัษา (เป็นภรรยาอเฟยา)
บุรอบรรพาล มี 4 น
นแรเป็นบุราย (เิาไป๋าฮวา ) นาม ไป๋เฟย
นที่สอเป็นบุราย (เิา ไป๋ฮวา ) นาม เหมยฮวา
นที่สามเป็นบุรสาว (เิา ไป๋ฮวา ) นามว่า หลินฮวา
นที่สี่เป็นบุราย (เิาเหยาไป๋) นามว่า เฟยหยา [ พอโึ้นเป็นวัยหนุ่มปลอมัวผนึพลัใหู้เป็นเทพั้น่ำไปอยู่แนสวรร์ ไ้ไม่นาน็มีเทพั้นสูอ์หนึ่สวมหน้าาสีำและไปเี้ยวเทพธิา อ์หิในราวศ์เ้า และเทพอ์หลบหนี็เหลือบมาเห็นนึโนเทพอ์นั้นับไว้เปลี่ยนหน้าามาใส่หน้านและล่าวหาว่านเป็นนไปเี้ยวเทพธิา ัพรริสวรร์โรธัึสาปแ่ให้ายไปเิเป็นมนุษย์และมีีวิทุ์ทรมาั่วนิรันร์และไม่มีวันาย เฟยหยาะลึและน็ถูทั์สวรร์ถึ 360 สาย และถูับโยนสวรร์ไป ไ้ไปุิเิใหม่สัที่หนึ่บนโลใบนั้น .... ส่วนเหยาไป๋ผู้มาราาย็รู้่าวถึศร้าเสียใและนนั้น็ไ้ไปสัหารเทพที่มันล้าโยนวามให้ลูนและส่มันไปทนทุ์ที่ปรโลในทันที ส่วนนนั้น็ลับไปที่ัวาลและรออยที่ะไ้พบลูอนอีรั้ ]
( ้อมูลนี้เป็นเพียแ่่าวลืออสวรร์เพียเท่านั้น )
...............
หลัาที่หวเินลาอ่านเรื่อระับพลัและประวัิเล็น้อยนั้น็ทำเอาเาถึับเลิิ้วึ้นมา และ็เป็นใบหน้าื่นะลึ
" น่าสสารเฟยหยา ที่้อมาโนวามผิที่นไม่ทำ แถมยัโนทั์สวรร์ถึ 360 สาย!!! นี่ไปทำยัไถึไ้โนเยอะเ่นนี้ัน!!? "
น็ไ้แ่เ็บวามสสัยไว้ในใ และเปิหน้าอ่าน่อไปเรื่อยๆ
บทเเรเป็นั้นพื้นานและระับลมปรา ส่วนบทที่สอเป็นเรื่อพลัอธาุ และิวิา
พลัธาุมีมาแ่ำเนิและเป็นพลัธาุที่สืบทอในสายเลือและิวิา
ธาุที่มีอยู่บนโลใบนี้ : ิน น้ำ ลม ไฟ สายฟ้า แส วามมื เา น้ำแ็ พื มาร ไร้รูปลัษ์
ิวิา : แล้วแ่บุล หนึ่นะมีหนึ่ิวิา สอิวิาหาไ้ยาร้อยปีทีรั้ สามิวิาเป็นเพียแ่ำนานพันปีะมีสัรั้
่อไป็เป็นั้นอนารปลุพลัลมปรา
เมื่ออ่านนเ้าใหมแล้ว หวเินหยาเินไปนั่สมาธิบนแผ่นหิน ลมหายใเ้าออ้าๆ สมาธินิ่ เมื่อเ้าสู่สมาธิแล้วเาะมอเห็นรอบๆ้วยมืมิ ู่ๆเา็ไ้พบวไฟสีาววหนึ่ที่ลอยมาหาเา มีวไฟสีำ วไฟสีน้ำเิน และวไฟสีแามมา
หวเินหยาเบิาว้า นี่เา...ไม่ไ้าฝาไปใ่ไหม... เามีสี่ อย่าั้นหรอ นี่เาเป็นใรนี่เาเป็นัวอะไร นี่เาเป็นัวประหลาไปแล้วหรือเนี่ย
หาเป็นนอื่นะีใที่มีวิวิามาว่าสาม แ่ลับับหวเินหยาที่ันิว่านเป็นัวประหลาลับาิมาเิรึเปล่า
" ้า้อาฝาไปแล้วแน่ๆ ..."
" เ้ามิไ้าฝาไปหรอ "
!!!?
ู่ๆเา็ไ้ยินเสียหนึ่เ้ามาในหัวอเา เป็นเสียนุ่มทุ้มอผู้าย
" ้าวไฟสีาว มีวามสามารถในารใ้ไร้ธาุไ้นะ ื่อ ยี่เี่ย "
" ้าวไฟสีำ มีวามสามารถพลัวามมืและเา(เป็นพลัมาร) ื่อ ยี่เิน "
" ้าับวไฟสีำเป็นฝาแฝันนะ "
"เี๋ยว...ว่าไนะ!? ฝาแฝ!!? "
หวเินหลาไม่รู้แล้วนนั้นำลัรับรู้อะไรอยู่ ทั้ใ ทั้ประหลาใ ทั้ะบ้าายอี
" ้าวไฟสีน้ำเิน มีวามสามารถในารใ้พลัธาุน้ำและน้ำแ็ ื่อ ปิุย "
" วไฟสีแ มีวามสามารถในารใ้ธาุไฟและิน ื่อ เหยียนฮวา เ้า่ะ "
" พวเราเป็นฝาแฝันอรับ/เ้า่ะ! "
แล้วเา็ไ้รับรู้ว่า วไฟทั้สี่วนี้เป็นฝาแฝันนั้นเอ... และสิ่ที่เาะปวหัวยิ่ว่า็ือ แ่ละนนิสัยไม่เหมือนันอบทะเลาะันแ่เิเรื่ออะไรลับสามัีันอย่าี
หวเินหยาำลันั่บำเพ็เพียรเพื่อให้ไ้เส้นลมปราไ้ถ่ายเทลมปราให้ที่ แ่สิ่หนึ่ที่เาแทบะไม่มีสมาธิเลยนั่น็ือ...เ็ๆวไฟที่รูปร่าล้ายเ็สี่วบพาันทะเลาะบีันอีแล้ว
แม้แ่เหยียนฮวาผู้เป็นสรีน้อยันันไปบี้วยอี ็มีเพียแ่วไฟสีำ ยี่เิน ที่นิ่เียบและอย้อมอเาอยู่มอเาอยู่นเานั้นแทบะอยาะเอาสี่เเฝปรโลนี้ไปทิ้ที่ไหนสัที่เสียอี
" เฮ้อ... "
เวลาผ่านไปหลายอาทิย์ ในที่สุเ็น้อย็ประสบผลสำเร็ เส้นลมปราอเาที่และเป็นแอ่น้ำเล็ๆลมปราไหลเวียนที่
" ในที่สุ้า็อยู่ในระับ ่อำเนิลมปรานั้นที่หนึ่แล้ว! "
เ็น้อยร้อร่าเริอย่าีใ ในที่สุเา้ไ้เ้าสู่โลแห่ารฝึนแล้ว
และแล้วเ้าเ็น้อยหวเินหยา็เริ่มฝึฝนฝึน นั่บำเพ็เพียร
เวลาผ่านไป 1 เือนเ็ม
" น...ในที่สุ็ั้นสอแล้ว... ทำไมหนึ่ึ้นมันึ้นยานานเ่นนี้ัน แฮ่ๆ ...."
หวเินหยานอนพัเหนื่อยล้าและอนนี้ท้อฟ้า็มืและมีวาวเ็มท้อฟ้า
หวเินหยาเปิหนัสือใ้แสบเพลิเพื่อหาวิธีที่ะฝึฝนเร็วและเลื่อนระับเร็วยิ่ึ้น และแล้วิ้วอเา็มวแทบนัน
" ูับพลัปราฟ้าิน...ั้นใ้วิธีนี้แล้วัน...แ่้อไปหาสมุนไพรและผนึ้วยสินะ "
เ็ายน้อยเริ่มิวาแผนะไปามหาสมุนไพรและผนึปราในป่าที่เาหนีเ้ามา เาอ่าน้อมูลสมุนไพรและผนึมามายนำึ้นใ เา็ปิำราเล่มหนา(อาวุธีวภาพไ้เลยนะเนี่ย)และวาลไว้ เ้านอนพัผ่อนเพราะเหนื่อยอ่อนเพลีย
วามรู้น้อย ็้ออยนาน...
เ้าวัน่อมา หวเินหยาเินเ้าป่าไปหาสมุนไพรแ่เา็้ออยใ้วิธพลาัวที่พ่อที่อยไว้นั้นมาใ้นหมทุวิธี เา้ออยหลบหนีสัว์อสูรมามาย นมาถึถ้ำแห่หนึ่ที่่าเป็นถ้ำเล็เป็นอุโมแ่สำหรับหวเินหยามัน็่าให่โอยู่ี
เาเินเ้าไปในอุโม์ เินเ้าไปลึเรื่อยๆ นเป็นทาลไป
" !!! ว้า!!!!!!! "
้วยวามที่ไม่ระวันเอีๆ็เผลอเะหิน้อนเล็ๆน่ารัที่ไม่รู้สึรู้สาอะไร ็้อล้มลิ้ลไปแทนเป็นเ้าลูบอลลมเสียแล้ว
ลิ้ลมาถึั้นล่าสุ หวเินหยา็รู้สึมึนหัวน้อไปอาเียนแทบหมไส้หมพุ
" อาหยาไหวรึไม่? " เสียเล็ๆอเ้าวไฟสีแถามึ้นมา
" ..้าอยาหวายยยย "
" ถ้าะไม่ไหวแล้วแฮะ " วไฟสีาว็พูึ้นบ้า
" ็เล่นลิ้ะนานั้นนี่ " วไฟสีน้ำเิน็ามมา
" ลูบอล " วไฟสีฟ้าพูบ้า
" ุ่ม่าม " วไฟสีำพูบท้าย
หวเินหยาล้ายับะเเ็ไปเป็นหินเสียแล้ว เมื่อสิลับมาปัาเิ
" ที่นี่มันที่ไหนันนะ..."
หวเินหยาเินไปรอบๆถ้ำที่มืมิเเ่เมื่อเาเห็นแสสว่าที่อยู่ห่าไล เาลอเินแปะผนัถ้ำไปรที่มีแสสว่าอยู่
เมื่อเินมาถึุแสสว่า หวเินหยาวาเบิว้า เพราะภาพรหน้าที่เาเห็น็ือ
ผนึบริสุทธิ์มามายเ็มไปหมนสร้าวามื่นระหนใับหวเินหยาเป็นอย่ามา
เาเินไปูผนึที่มีวามเป็บบริสุทธิ์เป็นอย่ามาเพราะพวมันมีสีใสมันวาวรามรา และพวมันสามารถใ้เลื่อนระับไ้อย่ารวเร็วมา หวเินหยาึลับไปทาเิมที่เาลมาเพื่อไปเรียมหนัสือและับน้ำมับน้ำมา
ถึแม้ทาึ้นอนที่เาลมาะปีนึ้นยาเสียเถอะ แ่เมื่อเาไปเอาหยัสือ อาหารและน้ำมา เา็ลับลมาที่เิมรที่มีผนึมามาย มันส่อแสสว่าล้ายับอนลาวัน
เานั่ลื่มน้ำและทานอาหารไว้รอท้อเพราะมิรู้ว่าเาะใ้เวลานานเท่าไหร่ในารูับผนึพวนี้รั้แร
เมื่อทานอาหารนหมและื่มน้ำให้เพียพอเา็ไปนั่รลาถ้ำที่ท่ามลาผนึมามายเ็มไปหม
เาเริ่มนัู่ับลมปราาผนึบริสุทธิ์ที่มันเิเอามธรรมาิพวนี้ ผนึธรรมาิสีใสนั้นมีพลัลมปราที่อัแน่นมาว่าผนึที่มีสีสันเสียอี แถมผนึที่มีสีใสที่ามำราที่เาอ่านนั้นมันหายายิ่ว่าทอำเสียอี
หวเินหยา้ออยูับลมปรา ส่วนพวิวิวิาฝาแฝปรโลนั้น็พาันำศีลเลื่อนระับัน
เวลาผ่านไปเพียสามวันเา็เลื่อนระับาระับลมปราั้นสอมาเป็นระับลมปราั้นสี่ไ้อย่าน่าใ และร่าายอหวเินหยาเอ็หิวโหยึ้นมาทันที เารีบื่มน้ำเ้าไปส่วนอาหารนั้นเาเอ็มาแล้วเหมือนัน
หวเินหยาเปิำราหาวิธีที่ทำให้นนั้นสามารถออาหารและน้ำไ้นานๆ เพราะไม่อย่าั้นเาไ้ไ้ายเพราะออาหารเป็นแน่
เปิหาไ้มินาน็พบับยาโอสถที่สามารถอน้ำอาหารไ้มาว่าสามเือน ึ่มันเป็น้อีที่ทำให้นะไู้ับลมปราไ้นาน
" หนึ่เือนไม่น่าะพอ...มีเวลาอีไหมนะ... "
หน้าถัไปอีหลายหน้า็พบับเวลาที่เพิ่มึ้นเป็นสามปีึ่มัน็สิ้นเพียเท่านั้น ไม่มีเวลาเพิ่มอีแล้ว
วัถุิบและอ่าๆ็หายามา้วยทำเอาหวเินหยาถึับท้อใเลย เาอ่านวัถุิบทั้หมนำึ้นใ็เริ่มออไปหานอถ้ำในทันที
อหลายอย่าเ่นนี้แถมมัน็ูแล้วน่าะราาแพมาๆเพราะเาเห็นมีอัษรเล็ๆเียนราาำับไว้แล้ว
" ... ้อลอไปหาป่าให่สินะ..."
ล่าวบหวเินหยา็อยหลบในเาร่มและอหินออมานอป่า เาเห็นว่าอี้านไม่ไลมานั้นมีป่าให่อยู่ เาึเินไปที่ป่าให่นั้น
ในป่ามี้นไม้สูให่มามาย เา้ออยหลบเลี่ยพวสัว์อสูรเพราะัวเายัไม่เริ่มฝึวิาอะไร ็เลย้ออยหลบๆเลี่ยๆและเ็บสมุนไพรไปบ้า
อทั้หมนั้นหายามา และยัไปเ็บ็ยาอี เาั้พยายามปีนหน้าผาึ้นไปเ็บสมุนไพรทำเอาเือบายเลย็ว่าไ้
แถมเา้อพัแรมรีนเาอี อาาศในอนลาืนนั้นหนาวมา ส่วนอเพลินั้นเาหาไ้แ่เศษิ่ไม้และใบไม้มาั้อไฟเล็ๆเพื่อวามอบอุ่นและัวเา็ัวนอนนแทบะลมเป็นลูบอล
เวลาผ่านไปสามเือน ในที่สุเา็สามารถหาอมาไ้รบเสียที ทั้้อเสี่ยอันรายมามาย ทั้้อหนีายับพวสัว์อสูร
สิ่แรที่เาออาป่าให่นั้นไ้็ือ อาบน้ำ เพราะัวเหนียวมาแ่รู้สึลิ่นัวไม่เหม็นแ่ลิ่นัวลับหอมออไม้ นเอานเอ็เริ่มนลุึ้นมาทันที
ถอเสื้อผ้า็โลน้ำไปทันที แ่แล้วน็ร้อลั่นเพราะวามเ็บแสบอบาแผลแ่ร้านหลัวามเ็บปวลับมาึ้นยิ่ว่าเิมเสียอี เารีบัถูัวและลูบล้าแผลให้สะอาและรีบออาน้ำทันที วามเ็บปวเ่นนี้ทำให้หวเินหยาแทบะายทั้เป็นอยู่แล้ว
เาลับไปที่ถ้ำเิมและลไปรที่มีผนึมามาย เาเห็นหนัสือัวเิมเล่มหนา็ยัหนาเหมือนเ่นเิม เาไปเปิหนัสือรที่หน้าั่นไว้ เาอ่านวิธีารปรุยา แ่ปัหาือเาไม่มีเาหลอมหรือหม้อยา ทำเอาหวเินหยาถึับนั่อเ่าิวิธีารหา
เานั่ิไปเรื่อยๆนไปนึถึวามทรำที่ท่านพ่อนั้นอบทำเรื่อปั้นินเผา้วยนเอเสมอ สิ่นั้นแหละที่ทำให้หวเินหยาิออแล้วว่าะทำเ่นไร
เาหอบสมุนไพรทั้หมึ้นไปและออไปที่รริมแม่น้ำ เาวาสมุนไพรลและไปุินเรื่อยนเอินเหนียวผสมินร่วนแล้วบ้าเา็ุมาอเป็นภูเา และเา็ไปเ็บเปลือหอยนาให่เท่าฝามือไปัน้ำมาเทใส่ินนินุ่มานั้น็นวินและ่อยๆปั้นให้เป็นเป็นหม้อ ถึแม้ะรูปร่าแปลๆเสียหน่อย็เถอะ านั้นนั้น็ปั้นเป็นฝาปิ และนั้นัวหม้อและฝาไปาแห้ไว้ านั้นน็ไปเอาสมุนไพรมาล้าและนำมาบ้วยเปลือหอยและไม้ แ่ปัหาือ...เาะเอาอะไรมาัสมุนไพรที่แ็ี...
หวเนหยาหันไปมอแหวนที่นสวม เามอแหวนัวนี้็นึถึในหนัสือล่าวไว้ว่ามันือแหวนมิิสามารถเ็บอไ้าม้อารแ่มัน็ะึ้นอยู่ับนาอพื้นที่ ะสามารถใ้านอแหวนไ้็ือารถ่่ยเทลมปราเ้าไปในัวแหวนนั้นเอ
หวเินหยาลอถ่ายเทลมปราู และเา็พบว่าอ้าในแหวนนั้นมีทั้เหรียเินเหรียทอ หินลมปราั้นสูมามาย ทำเอาหวเินหยาาโเท่าไ่ห่าน
ถ้าเป็นนธรรมาะอยู่ไ้ทั้าิ
ในแหวนมีพวมี าบ ระบี่หย
หวเินหยามอระบี่ที่น่าะัไ้หลายอย่าเา็หยิบออมา็หยิบออมาสับสมุนไพรนละเอียหม านั้นนำระบี่ไปล้าเ็เ็บเ้าฝัและเ็บเ้าเเหวนไว้ามเิม
เาบสมุนไพรรวมันและปั้นให้มันลมๆ...้วยที่เป็นเป็นนอบทานน้อยแถมมือ็เล็เลยปั้นให้เป็นเม็ลมเล็ๆเท่าัวมไ้มาว่าสามร้อยเม็แ่็ปั้น่อไป...(เพราะปั้นเล็เลยไ้ำนวนเยอะมา )
ว่าะปั้นเม็ยานสมุนไพรนหม็ไ้เป็นพันเม็และเป็นยามลาืนพอี ัวหม้อิน็ยัไม่แห้ หวเินวาเม็ยาลอเป็นให่ๆที่รวมหลายพันเม็ านั้นเ้าัว็ื่มน้ำและ็นอน้วยวามหิว
เ้าวัน่อมา็ไปหาอาหารมาินรอ ลไปเอาหนัสือเล่มหนาึ้นมาอ่านรอ่าเวลาอยุ่ในถ้ำผนึที่วามสว่าลอเวลา
เพราะเป็นนอบอ่านหนัสือำรา็เลยอ่านเลยเวลา้ามวัน้ามืนไม่รู้ัว นอ่านบเท่านั้นแหละเาถึะรู้ัวว่า้อทำยาโอสถอยู่็รีบึ่นไป้าบนไปที่ริมแม่น้ำ
โีที่ให้หินมาวาเป็นั้นประบันเรื่อยๆนล้ายถ้ำ ส่วนหม้อินที่แห้แล้ว เา็เริ่ม่ออไฟ นำสมุนไพรที่ปั้นเล็ๆนั้นใส่หม้อิน ปิฝาและนำวาไว้ในอไฟ
เาถ่ายเทลมปราไปที่หม้อินที่มีัวยา และเา้อรออยและถ่ายเทลมปราไปเรื่อยๆ่อยๆปล่อยลมปราไป
ใ้เวลาห้าวัน็ไ้ยาเม็โอสถมาว่าหมื่นเม็เล็ๆมา หวเินหยารีบินเม็โอสถไปหนึ่เม็ หอบเม็ยาใส่ผ้าสะอาที่เห็นในแหวนนั้นเอ เา็มัผ้าที่เ็มไป้วยเม็ยาโอถสและเ็บในแหวนมิิ
เาลับไปที่ในถ้ำที่เ็มไป้วยผนึ เานั่ลและูับลมฟ้าินและพวผนึมามายในถ้ำนี้
วันแล้ววันเล่าผนึทีละิ้น็ะสลายหายไป พลัปรามหาศาลเ้ารวมอยู่ในร่าอหวเินหยา เานัู่ับลมปรา่อไปเรื่อยๆ
เวลาผ่านไปสามปีผ่านไป เป็นเวลาที่ยาเม็โอถสะสิ้นฤทธิ์อีเพียแ่สามวัน
หวเินหยาลืมาึ้นและทำเอาเานั้นประหลาใ ผนึมามายนั้นไ้หายเือบไปทั้ถ้ำ้ำยัมีประูบานให่ที่อยู่ทารหน้า
หวเินหยามิ่อยแปลใเรื่อผนึแ่รู้สึแปลใับประูบานให่เสียมาว่า
หวเินหยาลุึ้นยืน ทำเอาเ้าัวถึปวหลัและาแทบะอ่อนนทรุเลยทีเียว
" นี่เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่แล้วเนี่ย..."
หวเินหยา้ออยยืหลันเอเพราะทั้แนและยืาเพราะนั่นานเินไปนปวไปทั้ัว
เาลอมอไปรพื้นและเินไปที่หนัสือำราเล่มเิมแ่ทำเอาเานึแปลใในทันที เมื่อ่อนำราสูเท่าเ่าแ่ะไหนถึสูเพียเท่าาอเาเสียไ้
" นี้ำราหนัสือย่อยสลายลไปเลยหรอเนี่ย ..."
เ้าัวมิรู้ว่านสูึ้น่าหา็เลยมโนไปว่าหนัสือเี้ยลเอ...
หวเินหยานำำราเล่มหนาเ็บเ้าไปในแหวนและานั้นเามุ่หน้าเินไปที่ประูบานให่แ่็้อหยุะัล ุอาภร์ที่สวมอยู่นั้นรัับแน่นมานเ้าัวถึับ้อปลส่วน้านบนออและเผยให้เห็นผิวาวเนียนแ่มีรอยแผลเป็นมามาย ้านหลัที่เป็นอัระ็แปรเปลี่ยนเป็นรูปมัร รูปร่าามส่าและมีล้ามบ้าเล็น้อย ใบหน้าทั้หล่อเหลาและามล่มเมือ
เาำลัะผลัประูบานให่ออ แ่เาเพียแ่เเะนิเียวประูบานให่็พัทลายล
" สสัย...มันะเ่ามาไปแล้วสินะเนี่ย... "
และ็เินเ้าไป้าใน โยรอบนั้นมืมา แ่เินไปเพียไม่นาน็พบับเหุาร์ที่อันำอีรั้ เาเะหินัวน้อยัวนิและลิ้ลไปอีแล้ว แ่ราวนี้ันลไปในหลุมลึอี
โยัีที่ลไปในน้ำลึ็เลยรอ เาะเียะายึ้นฝั่ในทันทีเพราะวามเ็บปว้านหลัรุนแรมาว่าเิมถึหลายเท่าัว
หวเินหยา้อรอนัวแห้านั้นึ่อยเินไปสำรวรอบๆ็พบับวามมืเ่นเย
" .... "
'' ั้นให้้า่วยแล้วันนะเ้า่ะ ''
'' ให้้า่วยีว่า เพราะ้าสามารถมอเห็นวามมืไ้ ''
เสียใสอหิสาวาวไฟสีแัึ้นมาและามวไฟสีำเสีย่ำอาย
'' ท่านพี่ยี่เินหุบปาไปเลย''
้วยวามที่อยู่ับพี่ๆฝาแฝายทั้หมมายาวนานนั้น นิสัย็มิ่อยสมเป็นุลสรีเสียเท่าไหร่นั
'' เ้านะเียบไปเลย ถึราว้าออโรเสียบ้า! เหยียนฮวา เ้านะลับไปำศีละ! ''
" ้าำศีลนานเแล้วอยาใ้พลัมาเหลือเิน! "
" ้าเอ็เหมือนับเ้านั้นแหละ ้ามิไ้ใ้พลัมายาววนานยิ่ว่าเ้าอี "
" ท่านพี่นี่เินแ่ห่าา้าแ่หนึ่วันเอ! "
" แ่สำหรับ้ารอมาพันปี! "
" ้ารอมาพันปีว่า! "
" ้ามานานพันปีเหมือนัน "
เสียลูไฟอีสอเ้าร่วมวทะเลาะ้วยอีแ่็มีเพีย้วยไฟสี่วทะเลาะันยิ่ว่าเ็สามวบ โ้อบนู้นนี่นั่นัน
หวเินหยารู้สึรำราสี่แฝนร็เลยไม่สนใับเสียทะเลาะัน น่อบเพลิ้วยนเอและเินสำรว้วยนเอ ส่วนลูไฟสอนนั้น็ทะเลาะ่อไปเรื่อยเปื่อย
หวเินหยารู้สึอยามีิวิาวเียวึ้นมาทันที เพราะเาะไ้ไม่้อมาฟัำโ้เถียไร้สาระอบรราลูไฟิวิา
หวเินหยาเินสำรวไปรอบๆถ้ำลึ นเาไปสะุาับล่อใบให่ล่อหนึ่ เาเินไปหาล่อใบนั้น เาลอสำรวรอบๆล่อ็ไม่พบอพไรมาเมื่อมอนพอใแล้ว็เปิล่อใบนั้นึ้นมา
้าในล่อมีไ่ใบหนึ่ที่มีรูปร่าลมล้ายลูแ้วเท่าฝ่ามือ หวเินหยาเยอ่านเอวิธีารฟัไ่อสูร เาลอถ่ายเทลมปราไปที่ไ่ใบนั้น
เปลือไ่่อยๆแออา็เิวันสีำและวันสีาวลอยฟุ้นมออะไรไม่เห็น
" าราวะนายท่าน! "
!!!?
มีสอเสียที่ัออมาพร้อมันและเา็พบับเ็น้อยทั้สอนที่ำลัุเ่าาราวะเาอยู่
" ้านาม ฟาฟา "
เ็น้อยนหนึ่มีผมสีนิลยาวสวมุอาภร์สีำเส้นอบเทา บนหน้าผาลายสัลัษ์รูปเปลวเพลิสีแ สูเพียมูอหวเินหยา
" ส่วน้านาม ฟ่ฟ่ "
ส่วนอีนนั้นมีผมสีนิลเ่นเียวัน เส้นผมที่ยาวยาวถึลาหลั ส่วนมือนั่นห้อยลูประำ มืออี้าถือไม้เท้ายาวเหนือศรีษะ บนยอไม้เท้าประับ้วยระิ่ไว้ทั้หมเ้าอัน สวมุอาภร์สีเหลือน้ำาลล้ายับเป็นหลวีน
" มิใ่ว่าหลวีนหัวโล้นไร้เส้นผมหรือนี่... "
หวเินหยาเอ่ยถามอย่าแปลใเพราะเ็ที่นามว่าฟาฟานั้นเหมือนหลวีนมา
" แ่ๆ... ้ามิใ่หลวีน "
เสียอเ็น้อยนามว่าฟ่ฟาที่ล้ายหลวีนนั้น็รีบเสุอนเปลี่ยนทันที วันสีาวลอยลุ้รอยายฟ่ฟ่นั้นไ้เผยให้เห็นเ็น้อยส่วนุอาภร์สีน้ำเินเ้มปัลายเ่าัวให่เป็นสัลัษ์้านหลา ทรผมรวบึ้นมัเป็นุเียวพร้อมับปัปิ่นสีน้ำเินเ้ม
" ออภัย้วยอรับ พอี้าะถูเ้าฟาฟาแล้ยามอน้าำศีลอยู่นะอรับ "
ฟ่ฟ่พูอย่าเหนื่อยใส่วนฟาฟานั้นลับหัวเราะบำอย่าอบใ
" ว่าแ่พวท่านทำไมถึไปอยู่ในนั้นไ้ันหรือ? "
หวเินหลาเอ่ยถามเ็ปริศนาทั้นรหน้า
" พว้าถูสร้ามาและถูสร้ามา็ถูผนึไว้ในนี้แล้วล่ะ "
" เป็นเ่นนั้นรึนี่ "
หวเินหยามอเ็ทั้น เาอยาะออไปารนี้เหลือเินแ่ะออไปอย่าไรไ้แถมมาเอเ็ทั้สอนี้อี นี่เาอายุแ่เพียไม่ี่สิบวบเอนะะเอาเ็ทั้นนี่ไป้วย็ยาแล้ว
แู่เหมือนเ็ทั้สอนะรู้ว่านิอันใอยู่พวเาพาหวเินหลาออาถ้ำแ่ไม่รู้ว่าเส้นทามันยาวนผ่านไปนานเท่าไหร่แล้ว เรื่ออาหารและน้ำื่มนั้นมิ้อเป็นห่วเพราะเานั้ินยาโอสถอน้ำอาหารไปแล้ว ทั้เิน่อไปันเรื่อยๆนมาพบับทาออาถ้ำ แ่ทว่า่อนที่ะออาถ้ำนั้น
" ้าอิามท่านไป้วย "
" ้า้วย "
หวเินหลาหันมามอเ็ทั้สอน่อนที่ะเอ่ยึ้นอบลับไป
" ไ้สิ "
เ็สอทั้เมื่อไ้ยินำอบแล้ว็ึเินเ้าไปใล้หวเินหลา
" ท่านหยเลือพันธะสัาให้้าทั้สอ านี้พว้าะสามารถิามท่านเินทา่อไปไ้ "
หวเินหยานึแปลใแ่็ยอมทำามที่เ็น้อยว่าน เาใ้หินที่ยาวแหลมอยู่ใล้ๆนั้นมารีรมือและใ้เลืออนทำพันธะสัาับเ็น้อยทั้สอ
เ็น้อยทั้สอนั้นทำพันธะสัาเสร็แล้วและไ้ายเป็นำไลหยสีนิลและสีาวมาสวมล้อ้อมืออหวเินหยาละ้า ้ายสีนิลและวาสีาว
เาไ้ระ่าแล้วว่าที่แท้เ็ทั้สอ็เป็นอวิเศษนี่เอ
หวเินหยาเินมุออาถ้ำไป และสิ่ที่เาเห็น็พบว่านอยู่ายป่าแ่ลับมิใ่ป่าที่นเยอยู่รทา้าหน้านั้นูเหมือนมันะเป็นเมืออะไรสัอย่า แ่อนนี้ัวเาเลอะเปอะเปื้อนินมา ึเ้าป่าไปเสีย่อนเาไปพบับลำธารที่อยู่ใล้ๆ เาถอุอาภร์ัวเ่าที่มันเล็มาแล้ววาไว้และ่อยๆลน้ำ เาพร้อมที่ะรับวามเ็บปวแ่เมื่อน้ำโนลาหลั็ไร้วามวามเ็บปวแล้ว วาเบิว้าเาไม่ไ้รู้สึเ็บปวรแผ่นหลัแล้ว
หวเินหยาหันไปมอรเาน้ำที่สะท้อนเป็นร่ารแผ่นหลั เาพบว่าลายอัระรแผ่นหลัไ้หายไปเสียแล้วเห็นแ่เพียแผ่นหลัาวๆน่าวนมอ เาหันมามอเารหน้า็พบว่าแผลเป็นทั้หมเอ็หายไปหมแล้วพบับใบหน้าาวทีู่ว่าเป็นผู้ายแ่็ูหวานออล้ายผู้หิไปเสีย้วยหลายส่วน รูปร่าผอมเรียวราวับเ็อายุสิบสี่หรือสิบห้าปีเสียั้น นี่เาพึ่สิบวบแ่ะไหนถึสูและรูปร่าวับเ็สิบสี่สิบห้าปีไปเสียนี่
ผิวาย็าวัุ่หิมะ็มิปาน วาสีาวเหมือนไ่มุแ่หลายนอาะิว่าเาอาะเป้นนาบอไปแล้วเสีย็ไ้
หวเินหยาำระายเสร็็ึ้นาน้ำแุ่อเานั้นเล็เินไปแล้วึลอหาเสื้อผ้าในแหวนมิิู็พบเสื้อผ้าที่น่าะพอีับนและุนั้นทุุสีาวหมเลย เป็นเวลาพอที่เาสวมแล้วนั้น็เป็นผู้ไหว้ทุ์เลยพอี แ่ิรที่ว่าแนเสื้อมันยาวไปเสียหน่อย สวมหมวฟาที่มีผ้าลุมสีาวบาๆรอบทั้หมวฟาที่สานาไม้ไผ่
เาำไ้ว่าเ็ทั้เยบอนไว้ว่าำไลสีนลนั้นสามารถรัษาพิษไ้ทุนิแ่ถ้าเป็นพิษไร้ยาถอนอาะใ้เวลานานเสียหน่อยในารรัษา ส่วนำไลสีาวนั้นสามารถรัษาบาแผลไม่ว่าะเเผลเป็น็รัษาหายไ้
และเา็รู้แล้วล่ะว่าทั้พิษและบาแผลในัวเาหายไ้เ่นไร
หวเินหยาเินลับไปทีุ่เิมรที่นออมาาโพรหน้าถ้ำ เาเินออาป่าและเินไปรทั้นทั้เวียน่อแถวเ้าเมือัน หวเินหยา็ยืน่อแถวเ้าเมือ
เวลาผ่านไปสัพัถึหน้าประูให่็มีทหารมาว่ายี่สิบนายยืนเป็นหน้า่านเพื่อรวสอบนเ้าเมือ เายืนุยทหารที่เป็นหัวหน้าอยู่สัพั็้อยัยอหินลมปราระับ่ำไปมาเสียหน่อยและสามารถเ้าเมือไ้เสียสัที
สิ่แรที่เา็ือารไปพัโรเี้ยมเล็ๆที่ไม่มีใรเ้าไปพัอันเสียเลยเพราะเถ้าแ่โรเี้ยมนี้หน้าาหน้าลัว ัวให่บึบึน แผลเป็นเยผ่านลิ่นอายสนามรบมามามายและมีบุรายและบุรสาวหนึ่น ผู้เป็นบุรายไ้ไปเป็นทหารประำเมือส่วนบุรสาวนาอายุยี่สิบเอ็แล้วแ่มีใบหน้าที่มีแผลเป็นนาให่นูน่าอัปลัษ์ แ่ทว่าบิาับบุรสาวู่นี้ลับใีว่าเปลือภายนอเสียอี
หวเินหยาเป็นลู้ารายแรเลยที่เ้ามาพัโรเี้ยมแห่นี้และราาเอ็ถูมา้วย แถมบรรยาาศ็เป็นธรรมาิมีไม้ไผ่ประับแ่้านหลัยัมีน้ำพุร้อนลาป่าไผ่ เาอบที่นี้มาึ่ายหินลมปราระับสูไปสิบอันนเถ้าแ่ถึับะลึในทันทีเพราะมันมาเินไป็้อรับไว้เพราะหวเินหยาบอว่าเาะที่นี่อียาวนานอ่ายล่วหน้าไว้ เถ้าแ่็ไม่พูอะไรอีเลย
แ่เมื่อพอหวเินหยาถอหมวฟาที่มีผ้าลุมออเท่านั้นแหละทั้เถ้าแ่และบุรสาวถึับะลึใบหน้าอหวเินหยา
เถ้ามอใบหน้าอหวเินหยานั้นนึว่าเป็น ธิาเทพเียน
ส่วนบุรสาวเถ้าแ่นั้นรู็สึเินอายล้ายะเป็นลมเพราะเห็นว่าเป็น เทพบุรแห่สรวสวรรร์
ส่วนหวเินหยานั้น็เปลี่ยนเอาผ้ามาลุมทั้หน้าแทนเพราะเี๋ยวะมีนเป็นลมไปเสีย่อน
เวลาผ่านไปมิี่วัน บุรสาวอเถ้าแ่็มีายหนุ่มมามายพยายามมาามเี้ยวามีบนาม
ที่บุรสาวอเถ้าแ่ที่ามเป็นหิสาวามร่มเมือนั้น็เป็นเพราะหวเินหยาไ้ใ้พลัาำไลสีาวรัษาแผลเป็นบนใบหน้าอนา อย่าว่านาใที่มีใบหน้าามล่มเมือเลย แม้แ่หวเินหยา็ยัใอ้าปา้า
เถ้าแ่าที่ะเป็นเถ้าแ่แล้วยัมาเป็นพ่อหน้าใโหหวบุรสาวอนที่มีแ่แมลามิ
ส่วนหวเินหลานั้นนัู่ับลมปราฟ้าินอย่าสบายายสบายใ อยู่อย่านั้น
เวลาผ่านไปไม่ี่เือน็ไ้ยิน่าวเรื่อารเปิสำนัรับศิษย์ใหม่ มีสำนัมามายให้เลือ
สำนัินสวรร์
สำนัฮวาเหลียนสวรร์
สำนัันทราทมิฬ
สำนัมารอสูร
สำนัอสูรสวรร์
สำนัพสุธา
สำนัวารี
สำนัอสรพิษ
สำนัะวันันทรา
สำนัสวรร์ประธานพร
สำนัมารอเวี
สำนัเวหา
( มีทั้สำนัธรรมมะและสำนัมาร )
มีสำนัให่ๆอีมามาย
หวเินหยาถึับมวื้วเป็นปม มีสำนัเยอะมาเสียริัวเานั้นมิ่อยอบนเยอะเสียเท่าไหร่เาพยายามหาสำนัที่มีไม่่อยมีนสนใเสียเท่าไหร่
นในที่็พบเสียที สำนัเส้าหลิน...ะเมื่อไหร่ันเล่าสำนัหลวีนนั้นมีนเยอะมายิ่ว่าอะไรอี
หวเินหยาเลือสำนัเล็ๆที่ไม่่อยมีนสนใ
สำนัไป๋ิ
" ียิ่้าเลือสำนันี้ "
ว่าบหวเินหยา็ไปเ็บ้าวเ็บอเสร็็ไปลาเถ้าแ่ับบุรสาวอเถ้าแ่านั้นน็ออาเมือวิ่ถือเเผนที่าเถ้าแ่ไป้วย ในแผนที่นี้ไ้บอำแหน่อสำนั่าๆมามาย เา้อรีบไปให้ถึภายในห้าวันให้ไ้
ารเินทารั้นี้เาอหลับอนอนไปลอทั้วันไม่ว่าลาวันและลาืน เายัวิ่ไปเรื่อยๆ
นผ่านไปวันที่สี่่อนถึวันรับสมัรอสำนัไป๋ิหนึ่วัน หวเินหลาในอนนี้หมสภาพริมแม่น้ำใ้ีนเา หวเินหยาในอนนี้ใบหน้าแทบะเป็นหมีแพน้าอบาำและหมเรี่ยวหมแร็นอนสลบใ้้นไม้ที่ใล้ๆแม่น้ำ นะ้อฟื้นฟูพลัปราเพราะ้อใ้วิาัวเบาที่นยัไม่ทันไ้เริ่มเพียแ่ัวหนัสือ็เริ่มั้แ่อนเินทาวันที่สามนมาหมสภาพในวันที่สี่แทน
วัน่อมายัมิถึรุ่สาหวเินื่นึ้นมาและไปอาบน้ำำระายที่ริมแม่น้ำ ระหว่าที่ำลัำระายแ่น้ำ อยู่ๆ็มีนผู้หนึ่ที่ำลัี่ม้าอาาสีำผ่านมามแม่น้ำใ้ีนเาที่ึ่เป็นแม่น้ำที่สีใสมอเห็นใ้น้ำไ้ัเน
ายผู้ี่ม้าอาาสีำทมิฬใบหน้าหล่อเหล่าราวเทพบุรทว่า่าเย็นา ร่าายสูสวมุอาภร์สีำทมิฬร่าสูี่ม้าอาาผ่านมาาสีนิลที่หันไปมอร่าบาที่มีผิวายาวัุ่หิมะร่าผมูบอบบา แ่เาแ่รู้สึสนใเพียเท่านั้น
" ... "
ร่าสูที่ื่นะลึ้อมอร่าบาที่ำลัำระายโยหัวที่ยัไม่ทันไ้ะืนสิ ร่าบาที่เเ่น้ำอยู่รู้สึเหมือนถูมอ็หันไปมอร่าที่ใบหน้าเย็นาที่ับ้อมอนอยู่
ทว่าร่าสูบนอาาวาเบิาว้าใบหูนั้นเริ่มแวา้อยิ่ว่าเิม ถึอีฝ่ายะเป็นบุรุษแ่ทว่าลับมัน่าทำให้นถึับใันหาในทันที เาเยมอหืสาวและายบุรุษามมามายแม้แ่เห็นร่าเปือยเปล่าเาลับมิรู้สึอารม์อันใ แ่ทว่าบุรุษรหน้านั้นลับทำให้หัวใเาเ้นรัว ใที่สบนิ่มาลอสิบหปีับเ้นรัวราวแทบลับระเบิ เาอยาะว้าร่าบาเ้ามาอและถนุถนอมยิ่นั!
" เ้านวิปลาส "
สิ้นำล่าวอหวเินหยานั้นทำเอาร่าสูถึับะั ส่วนร่าบาในสายาร่าสูนั้น็ไปสวมุอาภร์และหมวสานไม้ไผ่ผ้าลุมทั้ใบหน้าในพริบาโยที่ร่าสูมิทันไ้ระพริบา
หวเินหยาเินออไปทิ้ให้ายี่ม้าระพริบาปริบๆ ายผู้นั้น็รีบวบม้าามมาทันที
หวเินหยา็รีบวิ่ระโึ้นบันไที่ไปทาเ้าสำนัทันทีแ่ทว่าบันไรหน้าลับยาวอ้อมทั้ภูเาึ้นบนเือบทั้ยอมีำหนัมามายและภูเาลูนี้่าให่ยิ่ว่าไรบันไนั้นมีสัหมื่นึ้น็ว่าไ้แ่ะเป็นั้นเล็้าวพอีเท้าพอี
หวเินหยารีบ้าววิ่้าวระโไปทีละหลายๆั้นส่วนายร่าหนาผู้ที่ี้ม้าอาานั้นไ้แ่อยู่้านล่านมอร่านามที่ึ้นไป้าบนเสียแล้ว
เาไ้แ่ถอนหายใและิว่าไว้่อยมาวันใหม่เสียีว่าเพราะเา้อไปทำภาริ่อ ร่าสูี่อาาทมิฬออาบริเวนั้นไป
ส่วนหวเินหยาที่วิ่โึ้นามบันไอยู่นานนสามารถึ้นบนยอเาไ้เา็รีบไปรวมัวับเหล่าศิษย์ใหม่ทันที
แ่...
ทว่าทำไม ผู้นถึเยอะมาเ่นนี้ัน???
นี่มันใ่สำนัไป๋ิรึไม่เนี่ย...
" ยินี้อนรับสู่ สำนัราันเทวะ "
สิ้นเสียนั้นหวเินหยา็แทบะเป็นลมหมทั้ยืน นี่เามาผิที่หรือเนี่ย...
นี่มันสำนัที่ให่ที่สุและเป็นอันับหนึ่เลยมิใ่นึ!!?
" และใรที่ิะไปสำนัไป๋ินั้น็มาถูที่แล้วเพราะนั้นือื่อรออสำนัเรานั่นเอ 55555+ "
้าระ่าใล่ะ ที่แท้้ามิไ้หลแ่้าโนหลอ!!!
บภาหนึ่
........................................................................................................................................................................
บอามแ่เรื่อนี้ใ้เวลายาวนเือบเป็นเือนเลยทีเียว สมอันทุวันเลยไม่ไ้เียนแบบบรรรยายละเอียนะ
อบุที่มาอ่านันนะรับ อบุรับ
(แ้ไเล็น้อยรั้ที่ 1 บอามริื่อสำนัไม่ออ 555+ )
อบุที่มาอ่านันนะรับ อบุรับ
เรื่อผมเอ็แ่ไว้ที่รีอะไรท์(บับ้นอผมเอ) ัลอลิ้์้านล่าไ้เลย
https://www.readawrite.com/a/Z37nj4-%E0%B8%81%E0%B8%B3%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%A3?r=search_article
รีวิวจากนักอ่าน
นิยายเรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว
มาเป็นคนแรกที่เขียนรีวิวนิยายให้กับนิยายเรื่องนี้กันรีวิวถึงตอนที่ 0
รีวิวถึงตอนที่ 0
ผลงานอื่นๆ ของ #หลิงซือซาน# ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ #หลิงซือซาน#
ความคิดเห็น