กำเนิดชีวิตของชายชีวิตนิรันดร์ ภาคที่ 1 .
เรื่องราวในวัยเด็กของชายคนหนึ่งที่อยู่ในโลกฝึกตนในระดับเทวะ เรื่องราวมากมายต่างๆก็เกิดขึ้นกับเขา ทั้งเครื่องประหลาดและเรื่องน่าตกใจที่เขาต้องเจอ
ผู้เข้าชมรวม
302
ผู้เข้าชมเดือนนี้
2
ผู้เข้าชมรวม
เขาเป็นเพียงเด็กน้อยคนหนึ่งที่เกิดมาพร้อมกับคำสาปบางอย่างเป็นรูปลายลักษณ์บางอย่างและอักขระมากมายเต็มกลางหลัง ใบหน้าที่เป็นแผลเป็นคล้ายรอยของคมที่บาดตรงแก้มขนาดใหญ่และมีรอยบาดเล็กๆพร้อมกับรอยไหม้ตรงแก้มข้างซ้ายยาวมาถึงลำคอ ทำเอาจนดูน่าเกลียดน่ากลัว
ในช่วงชีวิตในวัยเด็กเขาได้ความรักจากพ่อแเม่และท่านปู่ถึงแม้เขาจะอัปลักษ์ก็ตาม... บ้านที่พวกเราอยู่นั่นอยู่นอกชานเมืองที่ชายแดนเป็นหมู่บ่นเล็กๆ ตัวบ้านเองก็ช่างเก่าทรุดโทรมพร้อมที่จะถล่มลงมาได้ทุกเมื่อ
เขามีไม่มีเพื่อนเล่น ไม่มีใครอยากเป็นสหายกับเขาเพียงเพราะมีอักขระประหลาดกลางหลัง
" เจ้าปีศาจ! "
"เจ้ามันตัวประหลาด! "
" ปีศาจ "
แม้แต่เพื่อนหลายคนก็ต้องหนีเขาบ้างก็ปาก้อนหินใส่เขาบ้าง ปาไข่ใส่ภาพบ้าง แถมพวกผู้ใหญ่เองก็หลายท่านก็ต่างนินทาข้าจนสนุกปาก แต่ยังโชคดีบ้างที่ข้านั้นยังมีท่านพ่อท่านแม่และท่านปู่ที่ยังรักเอ็นดูข้า
" เฉินเอ๋อ ต้องเป็นเด็กดีนะ "
" ลูกแม่มาทานขนมด้วยกันสิ ขนมอร่อยมากเลย "
" หลานปู่ เมื่อเจ้าโตขึ้นเจ้าต้องแข็งแกร่งขึ้น เข้าใจไหม "
ข้ารักพวกเขายิ่งนัก พวกเขาเป็นผู้เยียวยาจิตใจของข้า พวกเขาคือครอบครัวที่ข้ารัก พวกเขาคือคนที่ข้ารัก
" ข้ารักท่านพ่อ "
" ข้ารักท่านแม่ "
" และข้ารักท่านปู่ "
" ข้ารักพวกท่าน "
จนกระทั่งข้าอายุได้เจ็ดขวบ ก็มีเกิดเหตุสงครามที่ชายแดน คนมากมายถูกเกณฑ์ไปเป็นทหาร ท่านพ่อข้าเองก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารเหมือนกัน
สงครามครั้งนี้ช่างน่ากลัวยิ่งนัก พวกศัตรูบุกชายแดนเข่นฆ่าชาวบ้านมากมาย พวกผู้หญิงถูกขืนใจ แม้เเต่เด็กน้อยและผู้ใหญ่แม้แต่คนแก่เฒ่าต่างก็ถูกเช่นฆ่าไร้ความปราณี
ท่านแม่ข้าไม่ยอมให้พวกมันขืนใจและฆ่าข้าได้ ท่านแม่และท่านปู่ปกป้องข้า ท่านแม่และท่านปู่ยอมตายเพื่อให้ข้าหนีไป
" ท่านแม่!!! ท่านปู่!!! "
" หนีไป! "
" หลานข้าเจ้าจงหนีไปซะ! "
ตัวข้านั้นน้ำตาไหลริน ข้าวิ่งหนีไปและสิ่งสุดท้ายที่ข้าเห็นนั้นคือท่านแม่และท่านปู่ตายทั้งเป็นในกองเพลิง
" ท่านแม่ ท่านปู่!! "
ในตอนนี้ข้านั้นมีเวลาไม่มากนัก ข้าวิ่งหนีไปตามบ้านที่มีแต่กองเพลิง ทุกอย่างมีแต่เพลิง แต่ทันมีข้ากำลังวิ่งอยู่นั้น ข้าก็ได้ยินเสียงเด็กสองคนทารกร้องไห้ที่อยู่ท่ามกลางกองเพลิงที่มีศพคนเป็นแม่นั้นกอดเอาไว้
ข้าทนเห็นเด็กที่บริสุทธิ์จะตายมิได้ ช้ารีบวิ่งฝ่ากองเพลิงนั้นไป ข้าเข้าไปอุ้มเด็กทารกทั้งสองวิ่งออกไปจากกองเพลิงนั้น แต่เมื่อวิ่งได้ไปถึงสิ้นสุดของหมู่บ้านก็ได้ยินเสียงของหญิงชราผู้หนึ่งที่กำลังอุ้มเด็กทารกออกมาจากตัวบ้านจนออกมาข้างนอกได้
แต่หญิงชราผู้นั้นก็ล้มลงไปนอนกองกับพื้น ตามตัวมีแต่รอยไหม้และอ้อมกอดยังคงกอดเด็กทารกไว้
" ได้โปรดสวรรค์...ช่วยหลานข้าด้วยเถิด... "
หญิงชราที่คอยอ้อนวอนสวรรค์ให้ช่วยชีวิตของหลาน นางมิขอให้สวรรค์ช่วยตัวนางแต่ขอเพียงแค่ให้หลานของนางนั่นปลอดภัย
จนกระทั่งหญิงชราใกล้จะหมดแรงจนพูดต่อมิได้ ตัวข้ารีบเอาผ้าตัวยาวที่ตกตรงพื้นอยู่นั้นได้มามัดเด็กทารกคนหนึ่งไว้ด้านหลังคล้ายกับท่านแม่ที่คอยมักชอบมัดข้าไว้ด้านหลังเสมอ ข้ารีบวิ่งอุ้มเด็กทารกจากหญิงชรานั้นไว้ เข้าหันไปมองหญิงชราผู้นั้น
หญิงชรานั้นมองข้า นางยิ้มอ่อนโยนและกล่าวคำพูดสุดท้ายออกมา
" ขอบคุณนะ หวงเฉินหยาง "
สิ้นคำพูของหญิงชราก็สิ้นลมหายใจไป สิ่งที่นางเห็นนั้นนางได้คลายความกังวลแล้วว่าหลานของนางนั้นต้องเติบใหญ่แน่นอน
ข้านิ่งอึ้งแต่ก็ได้ยินเสียงศัตรูโห่ร้องอย่างมีชัยอยู่นั้น ข้าวิ่งอุ้มเด็กทารกทั้งสามเข้าไปในป่าทันที
จบแล้วสินะ
จบแล้วสินะ
ชีวิตที่มีความสุขของข้า จบแล้วสินะ
ท่านพ่อ
ท่านแม่
ท่านปู่
หากชีวิตนี้ข้าไม่มีพวกท่าน ข้าจะมีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างไรกัน...
เขาวิ่งอุ้มเด็กทารกทั้งสามเข้าไปในป่าลึก ในป่านั้นมีสัตว์อสูรมากมาย เขาต้องคอยหลบซ่อน แต่ด้วยเสียงเด็กที่ร้องดังลั่นก็มีสัตว์อสูรที่มีลักษณะเป็นหมูป่าตัวใหญ่ที่กำลังวิ่งมาทางพวกเขา
ข้าไม่รู้จะทำเช่นไรดีแล้ว ตัวข้านั่นขาสั่นและสั่นจนถึงกระดูกสันหลังเลยก็ว่าได้
หมูป่าตัวนั้นมีเขี้ยวที่โค้งทั้งข้าง ดวงตาสีแดงเหมือนดังโทสะ ตัวของมันมีไฟลุกไหม้ทั่วทั้งตัวจนถึงปลายหาง มันวิ่งมาทางเด็กทั้งสี่อย่างรวดเร็ว
เด็กชายเข่าทรุดนั่งลงกับพื้น เขารีบแกะผ้าและอุ้มทารกที่อยู่ด้านหลังนั้นเอามาอุ้มและกอดไว้ใช้หลังของตนเป็นที่กำบังเป็นกำแพงไว้ แต่ด้วยที่ตัวยังเด็ก เป็นเพียงแค่มนุษย์ มนุษย์ธรรมดาที่ไม่สามารถต่อกรกับสัตว์อสูรได้
เขาหลับตาลงรอเพียงแค่การที่จะรับความเจ็บปวดที่อาจถึงชีวิตได้ แต่ทว่าเหมือนมิได้รับความรู้สึกิถึงอันตรายอีกแต่เขาได้รับความรู้สึกถึงความอบอุ่น ความปลอดภัย
เด็กน้อยลืมตาขึ้นก็ได้พบกับชายคนหนึ่งสวมชุดขาวทั่วทั้งร่าง ใบหน้าสวยและใจดีดูอบอุ่นนั้นทำให้เด็กน้อยที่รู้สึกกดดันและความกลัวแต่แรกก็คลายความกดดันและความกลัวลง
ส่วนเจ้าหมู่ป่านั้นก็นอนตายโดนแผดเผาจนสลายหายไปเสียแล้ว
" เจ้าเด็กน้อย เช่นไรถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ? "
เด็กชายที่พอได้คำถามนั้นก็ทำให้นึกภาพที่เจ็บปวดใจภาพที่คนที่เขารักนั้นตายทั้งเป็นกองเพลิง เขาทำได้เพียงแต่เงียบและน้ำตาไหลลงมา
ชายผู้นั้นเมื่อมองเด็กน้อยที่น้ำตาไหลเมื่อได้คำถามที่ตนถามไปก็ถึงกับสงสัยในทันว่าเกิดอะไรขึ้น เขาเตรียมที่จะเอ่ยปากถามแต่ก็ได้ยินเสียงมาขัดเสียก่อน
" แง้!! "
เด็กทารกทั้งสามคนร้องไห้ออกมาพร้อมกัน ชายผู้นั้นเริ่มถึงกับไปไม่เป็นเสียแล้ว
เด็กชายมองเด็กทารกทั้งสามที่ร้องไห้งอแงนั้น ตนก็ถึงกับไปไม่เป็นเช่นกันเพราะตัวเขานั้นไม่เคยเลี้ยงเด็กมาก่อน ถ้าจะใช้วิธีท่านพ่อท่านแม่ตอนปลอบตนก็เกรงจะไม่ไหวเสียแล้วเพราะร่างกายของตนก็อ่อนล้าเต็มทนที่จะอุ้มกอดเด็กทารกทั้งสามไม่ไหว
ชายผู้นั้นเห็นว่าตัวของเด็กสั่นไปทั้งตัวแถมยังอุ้มทารกทั้งสามเสียอีก เขาจึงไปช่วยเด็กชายอุ้มเด็กทารกทั้งสามขึ้นมาในอ้อมอก
เด็กชายมองดูผู้นั้นที่อุ้มเด็กทารกทั้งสามไป แถมยังเห็นชายผู้นั้นอุ้มคอยปลอบโยนเด็กทารกทั้งสามแถมยังร้องให้ฟัง ถึงเพลงมันจะเปลกๆก็เถอะ แต่เด็กทารกทั้งสามก็ไปในอ้อมกอดเรียบร้อย
" เด็กน้อย เจ้าชื่ออะไรหรือ? แล้วอายุเท่าไหร่กัน? "
"ข้าชื่อ เฉินหยาง แซ่ หวง อายุ 7 ขวบ ขอรับ "
" ถ้าเช่นนั้นครอบครัวของจ้าล่ะ? "
หวงเฉินหยางมองชายผู้นั้น ตัวเขานั้นลังเลว่าจะตอบดีหรือไม่ สุดท้ายเขาก็ยังคงตอบอยู่ดี
" ท่านพ่อข้าถูกเกณฑ์ไปเป็นทหาร ท่านแม่กับท่านปู่จากเข้าไปในกองเพลิงแล้วขอรับ..."
ชายผู้นั้นมองเด็กน้อยที่ต้องสูญเสียครอบครัวไปเสียแล้ว ก็ทำเอาให้ตัวเขานั้นช่างสงสารเด็กน้อยผู้นี้เหลือเกิน
" เเล้วเด็กทั้งสองคนนี้เป็นน้องของเจ้าใช่รึไม่? "
" มิใช่ขอรับ "
สิ้นคำตอบก็ทำเอาชายผู้นั้นถึงกับขมวดคิ้วทันที
หวงเฉินหยางจึงเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ชายผู้นั้นฟังตั้งแต่ต้นเรื่องถึงตอนที่ตนจำความได้จนมาถึงตอนที่พบกับชายที่อยู่ตรงหน้าเขา
ชายผู้นั้นพยักหน้าอย่างเข้าใจ เขาคอยพูดปลอบเด็กน้อยผู้นี้
" ข้าชื่อ จื่อหลิง แซ่ เฟิ่ง ตัวข้าเป็นคนในหมู่สำนักธรรมมะ เจ้าจะไปอยู่สำนักกับข้ารึไม่? "
เฟิ่งจื่อหลิงที่เป็นนาของชายผู้นั้นได้เอ่ยถามหวงเฉินหยางว่าจะไปอยู่กับตนหรือไม่
" ข้าน้อยขอมิไปกับท่านขอรับ ข้าน้อยจะเดินทางด้วยตนเอง "
" จะดีหรือ...เจ้ายังเด็กมากนักนะ แล้วเจ้าสามารถอ่านออกเขียนได้รึไม่? "
" ข้าอ่านออกเขียนได้ขอรับ "
เฟิ่งจื่อหลิงอุ้มเด็กทารกทั้งสามในแขนเดียวส่วนแขนอีกข้างก็ล้วงไปหยิบหนังสือพร้อมกับป้ายหยกบางอย่างในอกเสื้อและยื่นให้เด็กน้อย
หวงเฉิงหยางรับหนังสือพร้อมกับป้ายหยกมา เขามองตำราหนังสือที่ตนถืออยู่ มันหนามากจนเป็นอาวุธทุบหัวแตกได้เลย เขาไปมองตรงอกเสื้อของชายผู้นั่นอย่างแปลกใจว่าเขาไปไว้ในนั้นได้เช่นไรกัน
" เก็บไว้ให้ดีๆล่ะ โดยเฉพาะป้ายหยก เจ้าต้องเก็บไว้ให้ดีที่สุด เพราะเมื่อยามใดมีปัญหาเจ้าก็มาที่สำนักของข้าได้ ชื่อสำนักก็คือ ของขวัญจากสวรรค์ หรือก็คือ สวรรค์ประทานพร "
สิ้นคำพูดนั้น เฟิ่งจื่อหลิงก็ได้อุ้มทารกทั้งสามหายตัวไปกับสายลมเสียแล้ว
หวงเฉินหยางยืนถือตำราเล่มหนาหากวางบนพื้นมันก็หนาจนสูงถึงหัวเข่าของเขาพอดี แต่มองเขามองไปตรงพื้นที่ชายผู้นั้นที่เคยยืนอยู่ก็มีแหวนวงหนึ่งเป็นเพียงแค่ดูเหมือนธรรมดา แต่ก็เก็บขึ้นมาลองสวมนิ้วตนดูมันก็พอดีกับของเขาเลย
เเต่เหมือนเขาจะรู้สึกไปเองหรือเปล่าเหมือนชายคนนั้นได้อะไรบางอย่างยัดเข้าปากเขาก่อนที่จะจากไป ส่วนเขานั้นก็เผลอกลืนลงไปเสียได้
เด็กน้อยเดินแบกตำราเดินไปเรื่อยๆ จนสามารถออกจากป่าไปได้ เพราะป่าแห่งนี้ก็ไม่ได้ใหญ่อะไรมากนัก เมื่อเขาเดินพ้นจากป่าไปอีกหลายลี้ก็พบกับแม่น้ำกว้างใหญ่
เขารีบวางหนังสือลงและวิ่งไปถอดเสื้อผ้าตรงโขดหินและวิ่งลงน้ำทันที อากาศที่ร้อนแสนอบอ้าวกับการอาบน้ำที่เย็นสบาย แต่หวงเฉินหยางกับเจ็บปวดตรงใบหน้าและแผ่นเป็นอย่างมาก
มันทั้งแสบและเจ็บจนถึงกระดูกเลยก็ว่าได้ แต่เด็กชายคนนี้เขาเลือกที่จะอดทนอดกลั้นเพราะลูกผู้ชายนั้นต้องมีความอดทนอดกลั้น
เขาทนความเจ็บไว้เเดำน้ำลงไปจับปลา เพราะตอนเด็กกว่าเขาเคยไปดำน้ำจับปลากับท่านพ่อเสมอก่อนที่ท่านจะถูกไปเกณฑ์ทหาร เขาเจ็บมาก... แต่เขาต้องอดทนต้องไม่ให้ใครรู้ว่าเขามักจะเจ็บปวดแผลเป็นและอักขระกลางหลัง ทุกคืนที่เขานอนก็ต้องทนทุกข์ทรมาณจากอักขระทุกครั้งและต้องเจ็บปวดปางตายเขาก็เลือกที่จากแอบออกจากบ้านช่วงยามราตรีเพื่หนีไปทนทุกข์ทรามาณและเสียงที่กรีดร้องในยามที่จวงจันทร์เต็มดวงและดวงจันทร์สีเลือดทุกครั้ง เมื่อใกล้ถึงยามตะวันจะขึ้นเขาก็รีบกลับบ้านไปนอนที่เดิมเป็นนี้ทุกครั้งตั้งแต่ตอนอายุ 1 ขวบ เป็นเวลามานานถึง 7 ปี
เมื่อหวงเฉินหลางจับปลาในแม่น้ำได้มาตัวหนึ่งเป็นตัวใหญ่เขาก็รีบขึ้นจากแน้ำขึ้นไปบนฝั่ง รีบไปสวมเสื้อผ้าตัวเก่าที่ดูขาดวิ่นและมีรอยเย็บปะมากมาย
เขาไปเก็บกิ่งไม้แห้งมากองรวมกันไว้ และไปหาหินมาเคาะกระทบกันจนเกิดประกายไปขึ้นมา จากนั้นก็จัดการชำแหละปลาตัดหัวทิ้งควักไส้ออกและเสียบไม้ย่าง
เขาเคยทำแบบนี้เพราะท่านแม่เคยสอนเขาไว้ ทั้งเรื่องการทำอาหาร การทำขนมบ้าง ถึงแม้บางครั้งใส่ผิดระหว่างน้ำตาลกับเกลือก็เถอะ
เขาคอยผลิกปลาไปมา แต่ก็เผลอทำไหม้อยู่ดีเพราะแขนเขาสั่นเพราะยังคงเจ็บแผ่นหลังอยู่ก็เผลอทำปลาตกในกองเพลิงแต่ก็รีบจับไม้ยกขึ้นมาทันทีก่อนที่มันจะไหม้ไปจนกินไม่ได้อีก
โชคยังดีปลาไหม้ด้านเดียว อีกด้านกินได้ เขากินปลาด้านนั้นเพียงนิดเดียวก็อิ่มเสียแล้ว
เพราะตัวเขานั้นเป็นคนที่ไม่ค่อยอยากอาหารเสียเท่าไหร่ แม้แต่ขนมเองก็แทบจะกินไม่ลง แต่พอท่านแม่คอยเอาขนมมาให้หรือทำขนมให้เขาก็จำใจกินมันเข้าไปและเมื่อกินหมดเขาก็ขอตัวไปปลดทุกข์ เขารีบออกจากบ้านไปใกล้ๆชายป่าและอาเจียนของที่กินไปนั้นออกมาจนหมดไส้หมดพุง แถมท่านแม่ท่านพ่อและท่านปู่นั่นมิรู้ว่าหลานของตนมิชอบการกินเยอะมากแม้แต่ขนมหวานยิ่งแทบจะกินไม่ได้แต่เขาก็ต้องจำเป็นต้องกินเข้าไปให้หมดเพื่อไม่ให้ท่านเเม่ท่านพ่อและท่านปู่รู้ เพราะบ้านของเขานั้นขายขนมบางวันและแม่ก็มักจะทำขนมขายเขาก็เลยต้องเป็นผู้ชิมรสของท่านแม่เสมอ เขาก็ไปแอบอาเจียนทุกครั้งตลอดเวลาที่ต้องกินขนมหวานมากๆ เพราะอาหารคาวนั้นแทบจะไม่มีหลังจากที่ท่านพ่อถูกไปเกณฑ์ทหารในกองทัพ และจากนั้นมาก็ไม่มีใครที่ต้องคอยออกไปหาล่าสัตว์จับปลาอีกเลยเพราะตัวเขาก็ยังเด็กมากเสียด้วย ท่านแม่ก็ต้องคอยอยู่บ้านส่วนท่านปู่ก็ชราภาพมากแล้ว
ท่านปู่เคยเล่าให้ฟังว่า ท่านปู่ของเขาเคยเป็นบัณฑิตและเลื่อนขั่นเป็นขุนนางขั้น สามมาก่อนแต่ก็ถูกไล่ออกมาจากเมืองหลวงเพราะไปทำให้ขุนนางบางท่านที่อิจฉาท่านปู่ที่ได้รับความโปรดปราณของฮ่องเต้ แต่อยู่ได้มินานท่านปู่ก็ถูกเนรเทศมาอยู่ชายแดนก็เพราะขุนนางที่ขี้อิจฉาใส่ร้ายท่านปู่ส่วนฮ่องเต้เองก็ชราภาพมากและสวรรคตขึ้นสวรรค์ไป และราชบัลลังก์มีผู้สำดร็จราชการแทน องค์รัชทายาทได้ขึ้นครองราชย์เป็นฮ่องเต้องค์ปัจจุบันนี้ ส่วนท่านปู่ถูกเนรเทศนั้นก็โดนหาว่ามีความผิดก่อกบฏช่วยองค์ชายสามที่ถูกประหารไปเพราะคิดจะชิงบัลลังก์ เพราะเคยเป็นคนโปรดปราณและมีความดีความชอบของฮ่องเต้องค์จึงได้เพียงถูกเนรเทศและถูกริบสมบัติเข้าคลังหลวงทั้งหมด
ท่านปู่สอนหนังสือให้เขามากมายทั้งอ่านท่องเขียนอักษรจนชำนาญเพราะเรื่องฝึกปูพื้นฐานตั้งแต่ 4 จวบ ด้วยที่ท่านปู่บอกว่าเขานั้นเป็นอัจฉริยะที่มีความจำดีเลิศและเข้าใจความรู้ทั้งหมด จนเรียนเพียงหนึ่งปีก็ชำนาญแตกฉานความรู้ และเขามักจะอยู่แต่ในบ้านคอยอ่านหนังสือเก่าๆทั้งของท่านปู่ของท่านแม่ของท่านพ่อหรือเก็บตามร้านหนังสือที่โยนตำราหนังสือทิ้งเขาก็เก็บมาอ่านทั้งหมด เพราะไม่มีเพื่อนไม่มีสหายเลยได้แต่อยู่บ้านอ่านตำราหนังสือต่างๆอย่างเดียว
หวงเฉินหยางเก็บปลาที่เหลืออยู่ห่อกะบใบไม้ส่วนตนก็นั่งอ่านตำราเล่มหนาแถมมันก็ดูใหญ่มากด้วย เขาใช้เพียงแสงไปจากกองไฟเท่านั้นที่เป็นแสงสว่าง ส่วนท้องในตอนก็มืดมากมีดวงดาวมากมายและโชคดีที่ไม่สัตว์อสูรเลย
เขานั่งคอยอ่านตำราที่ท่านเฟิ่งจื่อหลานเป็นผู้มอบให้ เมื่อเขาได้เปิดหน้าก็ถึงกับตกใจและทั้งดีใจ เพราะหน้าปกมันเขียนว่า
พื้นฐานกำลังภายในและลมปราณ
หวงเฉินหลางที่ดีใจที่เขาจะได้ฝึกลมปราณบ้างแล้ว รีบเปิดหน้าถัดไปและเริ่มมันทันทุกตัวอักษร...แต่ปัญหาก็ติดตรงที่ว่า ตัวอักษรทั้งเล็กและลายมือไก่เขี่ยเล็กน้อย... แต่เขาก็เคยอ่านลายมือยิ่งกว่าไก่เขี่ยมาแล้ว มิใช่ใครที่ไหน ท่านพ่อเขาเองนั้นแหละลายมือยิ่งกว่าไก่เขี่ยจนอ่านแทบจะมิออกเสียแล้วแหละ เพราะมีประสบการณ์อ่านลายมือไก่เขี่ยนั้นก็อ่านตำราเล่มนั้นได้อย่างสบายๆ
เขาอ่านตำราเล่มได้เพียงนิดเดียวก็พบกับความอ่อนล้าของร่างกายที่หักโหมตอนเข้าป่า เขาจึงปิดตำราเล่มนั้นอย่างเสียดายและเขาก็นอนลงกับพื้นเอาหินมาเป็นหมอนถึงแม้มันจะแข็งมากก็เถอะ
คืนนี้โชคดีเป็นคืนเดือนมืด เพราะมีเพียงคืนเดือนมืดเช่นนี้เท่านั้นเป็นวันที่เขาไม่ต้องทนทุกข์ทรมาณกับการยามเขานอน
เช้าวันต่อมาก่อนพระอาทิตย์ขึ้น
หวงเฉินหยางตื่นขึ้นมาเดินไปที่แม่น้ำล้างหน้าแต่น่าแปลกที่เขานั้นไม่รู้สึกเจ็บปวด เขาลูบใบหน้าและมองดูเงาในแม่น้ำของตนก็พบว่ารอยดำแผลเป็นลึกใหญ่นั้นหายไปเหลือแต่เพียงเเผลเป็นรอยจางๆที่เริ่มหายไปในทันที ปรากฏให้ใบหน้าทั้งสวยงดงามและมีความหล่อเหลาอีกจนทำให้ตื่นตะลึงกับใบหน้าของตนเอง ทั้งมีความงดงามดั่งเทพเซียนเทพธิดาสวรรค์ทั้งมีความรูปหล่อรูปงามดั่งเทพบุรุษ ทำเอาหวงเฉินหยางต้องขยี้ตาดูเงาตนใหม่อีกครั้ง
นี่เขา...ก็ดีใจเเผลเป็นหายไปไม่แค่เฉพาะใบหน้าตามร่างกายเองก็หายไป แต่อักขระกลางก็ยังคงอยู่เช่นเดิมเพราะเขายังได้รับความเจ็บปวดแผ่นหลังอยู่เช่นเดิม
จะว่าไปแล้วท่านแม่ของเขาก็งดงามมากจนมีชายหนุ่มเข้ามาจีบส่วนท่านพ่อเองก็ถูกหฯิงสาวรุมล้อม อันนี้ก็เป็นท่านปู่ที่เคยเล่าให้ฟังว่าตอนอยู่สมัยฮ่องเต้องค์ก่อนนะ พ่อแม่ของเขานั้นเป็นที่รุมล้อมของหนุ่มๆและสาวๆ แต่เมื่อตกอับถูกเนรเทศ พวกเขาก็กลายเป็นที่รังเกียจทีนที
หวงเฉินหลางเดินกลับไปที่เดิมและยกตำราขึ้นมาอ่านต่อ
ลับดับขั้นพลังลมปราณในยุทธภพ
ระดับก่อกำเนิดลมปราณ มี 12 ขั้น จากขั้นที่ 1 ไปถึงขั้นที่ 12 คือสิ้นสุดกำเนิดลมปราณ
ระดับลมปราณ มี 10 ขั้น จากระดับขั้นที่ 1 ไปถึงขั้นที่ 10 คือสิ้นสุดลมปราณ
ระดับทะเลลมปราณ มี 10 ขั้น จากระดับขั้นที่ 1 ไปจนถึงระดับขั้นที่ 10 คือสิ้นสุดทะเลลมปราณ
ระดับสมุทรลมปราณ มี 9 ขั้น จากระดับขั้นที่ 1 ไปจนถึงระดับขั้นที่ 9 คือสิ้นสุดสมุทรลมปราณ
ระดับก่อกำเนิดพิภพลมปราณ มี 26 ขั้น จากขั้นที่ 1 ไปถึงขั้นที่ 26 คือสิ้นสุดกำเนิดพิภพ
ระดับพิภพลมปราณ มี 18 ขั้น จากขั้นที่ 1 ไปถึงขั้นที่ 18 คือสิ้นสุดพิภพ
ระดับนิพพาน มี 9 ขั้น จากขั้นที่ 1 ไปถึงขั้นที่ 9 คือสิ้นสุดนิพพาน
ระดับก่อกำเนิดเซียน มี 36 ขั้น จากขั้นที่ 1 ไปถึงขั้นที่ 36 คือจุดมุ่งหมายแห่งเทพเซียน
ระดับก้าวเป็นเซียนหรือเทพเซียน มี 7 ขั้น ...
ขั้นที่ 1 รับสายฟ้าทัณฑ์สวรรค์ 2 สาย
ขั้นที่ 2 รับสายฟ้าทัณฑ์สวรรค์ 3 สาย
ขั้นที่ 3 รับสายฟ้าสวรรค์สวรรค์ 5 สาย
ขั้นที่ 4 รับสายฟ้าทัณฑ์สวรรค์ 6 สาย
ขั้นที่ 5 รับสายฟ้าทัณฑ์สวรรค์ 7 สาย
ขั้นที่ 6 รับสายฟ้าทัณฑ์สวรรค์ 8 สาย
ขั้นที่ 7 รับสายฟ้าทัณฑ์สวรรค์ 9 สาย คือสิ้นสุดการเป็นก่อกำเนิดเซียนมุ่งสู่การเป็นเทพเซียน
ผู้ที่จะเลื่อนระดับการจะเป็นกำเนิดและก้าวเป็นเซียนนั้นมีเยอะมากโดยตระกูลใหญ่ ราชวงศ์ สำนักทั้งใหญ่และเล็กต่างก็เน้นการใช้กำแพงป้องกันสายฟ้าทัณฑ์สวรรค์ และสายฟ้าทัณฑ์สวรรค์นั้นก็มิได้เเรงมากเท่าใดนักเพราะมันเป็นเพียงแค่การเลื่อนระดับ
แต่ทว่าผู้ที่จะเป็นเซียนกลับมีน้อยเพราะทัณฑ์สวรรค์ที่เป็นของจริงนั้นคือสิ่งที่สามารถทำลายลมปราณของผู้นั้นได้ในพริบตาหรือคนที่ได้รับทัณฑ์สวรรค์นั้นก็ตายสลายหายไปได้เเม้เเต่เพียงแค่ สายเดียวเท่านั้น คนธรรมดามิอาจจะเป็นได้ก็เพียงแค่รอ ปาฏิหาริย์ เท่านั้น
ระดับเทพเซียนหรือเซียน มี 6 ระดับ แต่ก่อนขึ้นระดับจะทัณฑ์สวรรค์ของจริง 1 สายก่อนจึงจะเป็นเซียนได้ และเมื่อกลายเป็นเซียนแล้วก็เพียงแค่บำเพ็ญตบะให้เก่งกล้าขึ้นอย่างเดียว
ระดับเซียนขั้นที่ 1
ระดับเซียนขั้นที่ 2
ระดับเซียนขั้นที่ 3
ระดับเซียนขั้นที่ 4
ระดับเซียนขั้นที่ 5
ระดับเซียนขั้นที่ 6
การก้าวข้ามเทพเซียนต่อไปหลังจากสิ้นสุดระดับเซียนขั้นที่6 ก้าวข้ามเซียนไปเป็นระดับของเทพ นั้นต้องผ่าน ทัณฑ์สวรรค์ถึง 36 สาย ซึ่งมีน้อยมากที่มนุษย์จะก้าวไปเป็นเทพได้
ระดับแห่งสวรรค์ ต้องผ่านทัณฑ์สวรรค์มาแล้ว 36 สาย
ระดับเทพนั้นให้ฝึกเช่นไรก็แล้วแต่บุคคลว่าจะผ่านกันไปให้เเค่ไหนกัน
ผู้ที่ได้เป็นเทพแล้วจะมีระดับ 3 ขั้นการก้าวข้ามขีดจำกัด และถ้าผู้ใดที่แข็งแกร่งกว่าก็คือผู้ที่มีใช้อำนาจมากกว่าผู้อ่อนแอ
ขั้นที่ 1 เทพชั้นต่ำ
ขั้นที่ 2 เทพชั้นกลาง
ขั้นที่ 3 เทพชั้นสูง
เหล่าผู้ปกครองเทพผู้เป็นเชื้อราชวงศ์แห่งสวรรค์ จักพรรดิสวรรค์ผู้ที่ปกครองดินแดนแห่งสวรรค์ ...ช่วงเวลายาวนานแม้แต่คนในราชวงศ์เองก็ต่างพากันไปเกิดใหม่กันมากมายเพราะอยู่บนสวรรค์ไปมันก็น่าเบื่อ
และใต้แห่งยมโลกเองก็มี จักพรรดิแห่งยมโลกผู้ปกครองแห่งแดนยมโลก เป็นพระเชษฐาของจักรพรรดิสวรรค์
หากจะก้าวข้ามมากกว่านี้ การที่จะก้าวข้ามเหนือเทพทั้งปวงนั้นเป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่เลย...นอกเสียจากจะเป็นบุตรหรือเลือดเนื้อเชื้อไขของบรรพกาลทั้งสาม
ก้าวข้ามเหนือเทพสวรรค์
ระดับกับ เทวะ
ระดับเทวะไม่มีขั้นระดับอีกแล้ว จะมีชีวิตอยู่ยาวนาน หรือจะไปตายเกิดใหม่หรือจะไปเที่ยวโลกอื่นก็ได้ ...แต่ ไม่มีใครเคยมีระดับเทวะ เลยยกเว้นเพียงแค่บุตรของบรรพกาลที่เป็นระดับเทวะอยู่เพียงแค่ 4 คน
ท่านบรรพกาลทั้งสาม ผู้ที่เป็นผู้สร้างจักวาลแห่งนี้ (จะไม่มีแซ่มีแค่ชื่อ) (และก็ในชื่อจะไม่ความหมายอะไรนะ เพราะตั้งมั่ว)
เหยาไป๋ (เพศชาย) เป็นผู้สร้างและดูแล ( เป็นภรรยาของเฟยฉาง )
เฟยฉาง (เพศชาย) เป็นผู้สร้างและทำลาย ( เป็นสามีของทั้งสอง)
ไป๋ฮวา (เพศหญิง) เป็นผู้สร้างและรักรักษา (เป็นภรรยาของเฟยฉาง)
บุตรของบรรพกาล มี 4 คน
คนแรกเป็นบุตรชาย (เกิดจากไป๋าฮวา ) นาม ไป๋เฟย
คนที่สองเป็นบุตรชาย (เกิดจาก ไป๋ฮวา ) นาม เหมยฮวา
คนที่สามเป็นบุตรสาว (เกิดจาก ไป๋ฮวา ) นามว่า หลินฮวา
คนที่สี่เป็นบุตรชาย (เกิดจากเหยาไป๋) นามว่า เฟยหยาง [ พอโตขึ้นเป็นวัยหนุ่มปลอมตัวผนึกพลังให้ดูเป็นเทพชั้นต่ำไปอยู่แดนสวรรค์ ได้ไม่นานก็มีเทพชั้นสูงองค์หนึ่งสวมหน้ากากสีดำและไปเกี้ยวเทพธิดา องค์หญิงในราชวงศ์เข้า และเทพองค์หลบหนีก็เหลือบมาเห็นตนจึงโดนเทพองค์นั้นจับไว้เปลี่ยนหน้ากากมาใส่หน้าตนและกล่าวหาว่าตนเป็นคนไปเกี้ยวเทพธิดา จักพรรดิสวรรค์โกรธจัดจึงสาปแช่งให้ตายไปเกิดเป็นมนุษย์และมีชีวิตทุกข์ทรมาณชั่วนิรันดร์และไม่มีวันตาย เฟยหยางตกตะลึงและตนก็ถูกทัณฑ์สวรรค์ถึง 360 สาย และถูกจับโยนตกสวรรค์ไป ได้ไปจุติเกิดใหม่สักที่หนึ่งบนโลกใบนั้น .... ส่วนเหยาไป๋ผู้มารดาชายก็รู้ข่าวถึงดศร้าเสียใจและตนนั้นก็ได้ไปสังหารเทพที่มันกล้าโยนความให้ลูกตนและส่งมันไปทนทุกข์ที่ปรโลกในทันที ส่วนตนนั้นก็กลับไปที่จักวาลและรอคอยที่จะได้พบลูกขอตนอีกครั้ง ]
( ข้อมูลนี้เป็นเพียงแค่ข่าวลือของสวรรค์เพียงเท่านั้น )
...............
หลังจากที่หวงเฉินกลางอ่านเรื่องระดับพลังและประวัติเล็กน้อยนั้นก็ทำเอาเขาถึงกับเลิกคิ้วขึ้นมา และก็เป็นใบหน้าตื่นตะลึง
" น่าสงสารเฟยหยาง ที่ต้องมาโดนความผิดที่ตนไม่ทำ แถมยังโดนทัณฑ์สวรรค์ถึง 360 สาย!!! นี่ไปทำยังไงถึงได้โดนเยอะเช่นนี้กัน!!? "
ตนก็ได้แต่เก็บความสงสัยไว้ในใจ และเปิดหน้าอ่านต่อไปเรื่อยๆ
บทเเรกเป็นขั้นพื้นฐานและระดับลมปราณ ส่วนบทที่สองเป็นเรื่องพลังของธาตุ และจิตวิญญาณ
พลังธาตุมีมาแต่กำเนิดและเป็นพลังธาตุที่สืบทอดในสายเลือดและจิตวิญญาณ
ธาตุที่มีอยู่บนโลกใบนี้ : ดิน น้ำ ลม ไฟ สายฟ้า แสง ความมืด เงา น้ำแข็ง พืช มาร ไร้รูปลักษณ์
จิตวิญญาณ : แล้วแต่บุคคล หนึ่งคนจะมีหนึ่งจิตวิญญาณ สองจิตวิญญาณหาได้ยากร้อยปีทีครั้ง สามจิตวิญญาณเป็นเพียงแค่ตำนานพันปีจะมีสักครั้ง
ต่อไปก็เป็นขั้นตอนการปลุกพลังลมปราณ
เมื่ออ่านจนเข้าใจหมดแล้ว หวงเฉินหยางเดินไปนั่งสมาธิบนแผ่นหิน กดลมหายใจเข้าออกช้าๆ สมาธินิ่ง เมื่อเข้าสู่สมาธิแล้วเขาจะมองเห็นรอบๆด้วยมืดมิด จู่ๆเขาก็ได้พบดวงไฟสีขาวดวงหนึ่งที่ลอยมาหาเขา มีดวงไฟสีดำ ดวงไฟสีน้ำเงิน และดวงไฟสีแดงตามมา
หวงเฉินหยางเบิกตากว้าง นี่เขา...ไม่ได้ตาฝาดไปใช่ไหม... เขามีสี่ อย่างงั้นหรอ นี่เขาเป็นใครนี่เขาเป็นตัวอะไร นี่เขาเป็นตัวประหลาดไปแล้วหรือเนี่ย
หากเป็นคนอื่นจะดีใจที่มีดวงจิตวิญญาณมากกว่าสาม แต่กลับกับหวงเฉินหยางที่ดันคิดว่าตนเป็นตัวประหลาดกลับชาติมาเกิดรึเปล่า
" ข้าต้องตาฝาดไปแล้วแน่ๆ ..."
" เจ้ามิได้ตาฝาดไปหรอก "
!!!?
จู่ๆเขาก็ได้ยินเสียงหนึ่งเข้ามาในหัวของเขา เป็นเสียงนุ่มทุ้มของผู้ชาย
" ข้าดวงไฟสีขาว มีความสามารถในการใช้ไร้ธาตุได้นะ ชื่อ ยี่เซี่ย "
" ข้าดวงไฟสีดำ มีความสามารถพลังความมืดและเงา(เป็นพลังมาร) ชื่อ ยี่เฉิน "
" ข้ากับดวงไฟสีดำเป็นฝาแฝดกันนะ "
"เดี๋ยว...ว่าไงนะ!? ฝาแฝด!!? "
หวงเฉินหลางไม่รู้แล้วตนนั้นกำลังรับรู้อะไรอยู่ ทั้งตกใจ ทั้งประหลาดใจ ทั้งจะบ้าตายอีก
" ข้าดวงไฟสีน้ำเงิน มีความสามารถในการใช้พลังธาตุน้ำและน้ำแข็ง ชื่อ ปิงซุย "
" ดวงไฟสีแดง มีความสามารถในการใช้ธาตุไฟและดิน ชื่อ เหยียนฮวา เจ้าค่ะ "
" พวกเราเป็นฝาแฝดกันขอรับ/เจ้าค่ะ! "
แล้วเขาก็ได้รับรู้ว่า ดวงไฟทั้งสี่ดวงนี้เป็นฝาแฝดกันนั้นเอง... และสิ่งที่เขาจะปวดหัวยิ่งกว่าก็คือ แต่ละคนนิสัยไม่เหมือนกันชอบทะเลาะกันแต่เกิดเรื่องอะไรกลับสามัคคีกันอย่างดี
หวงเฉินหยางกำลังนั่งบำเพ็ญเพียรเพื่อให้ได้เส้นลมปราณได้ถ่ายเทลมปราณให้คงที่ แต่สิ่งหนึ่งที่เขาแทบจะไม่มีสมาธิเลยนั่นก็คือ...เด็กๆดวงไฟที่รูปร่างคล้ายเด็กสี่ขวบพากันทะเลาะตบตีกันอีกแล้ว
แม้แต่เหยียนฮวาผู้เป็นสตรีน้อยกันดันไปตบตีด้วยอีก ก็มีเพียงแค่ดวงไฟสีดำ ยี่เฉิน ที่นิ่งเงียบและคอยจ้องมองเขาอยู่มองเขาอยู่จนเขานั้นแทบจะอยากจะเอาสี่เเฝดปรโลกนี้ไปทิ้งที่ไหนสักที่เสียอีก
" เฮ้อ... "
เวลาผ่านไปหลายอาทิตย์ ในที่สุดเด็กน้อยก็ประสบผลสำเร็จ เส้นลมปราณของเขาคงที่และเป็นแอ่งน้ำเล็กๆลมปราณไหลเวียนคงที่
" ในที่สุดข้าก็อยู่ในระดับ ก่อกำเนิดลมปรานขั้นที่หนึ่งแล้ว! "
เด็กน้อยร้องร่าเริงอย่างดีใจ ในที่สุดเขาก้ได้เข้าสู่โลกแห่งการฝึกตนแล้ว
และแล้วเจ้าเด็กน้อยหวงเฉินหยางก็เริ่มฝึกฝนฝึกตน นั่งบำเพ็ญเพียร
เวลาผ่านไป 1 เดือนเต็ม
" น...ในที่สุดก็ขั้นสองแล้ว... ทำไมหนึ่งขึ้นมันขึ้นยากนานเช่นนี้กัน แฮ่กๆ ...."
หวงเฉินหยางนอนพักเหนื่อยล้าและตอนนี้ท้องฟ้าก็มืดและมีดวงดาวเต็มท้องฟ้า
หวงเฉินหยางเปิดหนังสือใต้แสงคบเพลิงเพื่อหาวิธีที่จะฝึกฝนเร็วและเลื่อนระดับเร็วยิ่งขึ้น และแล้วคิ้วของเขาก็ขมวดแทบชนกัน
" ดูดซับพลังปราณฟ้าดิน...งั้นใช้วิธีนี้แล้วกัน...แต่ต้องไปหาสมุนไพรและผนึกด้วยสินะ "
เด็กชายน้อยเริ่มคิดวางแผนจะไปตามหาสมุนไพรและผนึกปราณในป่าที่เขาหนีเข้ามา เขาอ่านข้อมูลสมุนไพรและผนึกมากมายจนจำขึ้นใจ เขาก็ปิดตำราเล่มหนา(อาวุธชีวภาพได้เลยนะเนี่ย)และวางลงไว้ เข้านอนพักผ่อนเพราะเหนื่อยอ่อนเพลีย
ความรู้น้อย ก็ต้องคอยนาน...
เช้าวันต่อมา หวงเฉินหยางเดินเข้าป่าไปหาสมุนไพรแต่เขาก็ต้องคอยใช้วิธพลางตัวที่พ่อที่คอยไว้นั้นมาใช้จนหมดทุกวิธี เขาต้องคอยหลบหนีสัตว์อสูรมากมาย จนมาถึงถ้ำแห่งหนึ่งที่ช่างเป็นถ้ำเล็กเป็นอุโมงแต่สำหรับหวงเฉินหยางมันก็ช่างใหญ่โตอยู่ดี
เขาเดินเข้าไปในอุโมงค์ เดินเข้าไปลึกเรื่อยๆ จนเป็นทางลงไป
" !!! ว้าก!!!!!!! "
ด้วยความที่ไม่ระวังตนเองดีๆก็เผลอเตะหินก้อนเล็กๆน่ารักที่ไม่รู้สึกรู้สาอะไร ก็ต้องล้มกลิ้งลงไปแทนเป็นเจ้าลูกบอลกลมเสียแล้ว
กลิ้งลงมาถึงชั้นล่างสุด หวงเฉินหยางก็รู้สึกมึนหัวจนต้องไปอาเจียนแทบหมดไส้หมดพุง
" อาหยางไหวรึไม่? " เสียงเล็กๆของเจ้าดวงไฟสีแดงถามขึ้นมา
" ข..ข้าอยางหวายยยย "
" ถ้าจะไม่ไหวแล้วแฮะ " ดวงไฟสีขาวก็พูดขึ้นบ้าง
" ก็เล่นกลิ้งซะขนาดนั้นนี่ " ดวงไฟสีน้ำเงินก็ตามมา
" ลูกบอล " ดวงไฟสีฟ้าพูดบ้าง
" ซุ่มซ่าม " ดวงไฟสีดำพูดจบท้าย
หวงเฉินหยางคล้ายกับจะเเข็งไปเป็นหินเสียแล้ว เมื่อสติกลับมาปัญญาเกิด
" ที่นี่มันที่ไหนกันนะ..."
หวงเฉินหยางเดินไปรอบๆถ้ำที่มืดมิดเเต่เมื่อเขาเห็นแสงสว่างที่อยู่ห่างไกล เขาลองเดินแปะผนังถ้ำไปตรงที่มีแสงสว่างอยู่
เมื่อเดินมาถึงจุดแสงสว่าง หวงเฉินหยางดวงตาเบิกกว้าง เพราะภาพตรงหน้าที่เขาเห็นก็คือ
ผนึกบริสุทธิ์มากมายเต็มไปหมดจนสร้างความตื่นตระหนกตกใจกับหวงเฉินหยางเป็นอย่างมาก
เขาเดินไปดูผนึกที่มีความเป็บบริสุทธิ์เป็นอย่างมากเพราะพวกมันมีสีใสมันวาวตรงตามตรา และพวกมันสามารถใช้เลื่อนระดับได้อย่างรวดเร็วมาก หวงเฉินหยางจึงกลับไปทางเดิมที่เขาลงมาเพื่อไปเตรียมหนังสือและกับน้ำมกับน้ำมา
ถึงแม้ทางขึ้นตอนที่เขาลงมาจะปีนขึ้นยากเสียเถอะ แต่เมื่อเขาไปเอาหยังสือ อาหารและน้ำมา เขาก็กลับลงมาที่เดิมตรงที่มีผนึกมากมาย มันส่องแสงสว่างคล้ายกับตอนกลางวัน
เขานั่งลงดื่มน้ำและทานอาหารไว้รองท้องเพราะมิรู้ว่าเขาจะใช้เวลานานเท่าไหร่ในการดูดซับผนึกพวกนี้ครั้งแรก
เมื่อทานอาหารจนหมดและดื่มน้ำให้เพียงพอเขาก็ไปนั่งตรงกลางถ้ำที่ท่ามกลางผนึกมากมายเต็มไปหมด
เขาเริ่มนั่งดูดซับลมปราณจากผนึกบริสุทธิ์ที่มันเกิดเองตามธรรมชาติพวกนี้ ผนึกธรรมชาติสีใสนั้นมีพลังลมปราณที่อัดแน่นมากกว่าผนึกที่มีสีสันเสียอีก แถมผนึกที่มีสีใสที่ตามตำราที่เขาอ่านนั้นมันหายากยิ่งกว่าทองคำเสียอีก
หวงเฉินหยางต้องคอยดูดซับลมปราณ ส่วนพวกจิตวิตวิญญาณฝาแฝดปรโลกนั้นก็พากันจำศีลเลื่อนระดับกัน
เวลาผ่านไปเพียงสามวันเขาก็เลื่อนระดับจากระดับลมปราณขั้นสองมาเป็นระดับลมปราณขั้นสี่ได้อย่างน่าตกใจ และร่างกายของหวงเฉินหยางเองก็หิวโหยขึ้นมาทันที เขารีบดื่มน้ำเข้าไปส่วนอาหารนั้นเขาเองก็มากแล้วเหมือนกัน
หวงเฉินหยางเปิดตำราหาวิธีที่ทำให้ตนนั้นสามารถอดอาหารและน้ำได้นานๆ เพราะไม่อย่างงั้นเขาได้ได้ตายเพราะอดอาหารเป็นแน่
เปิดหาได้มินานก็พบกับยาโอสถที่สามารถอดน้ำอาหารได้มากกว่าสามเดือน ซึ่งมันเป็นข้อดีที่ทำให้ตนจะได้ดูดซับลมปราณได้นาน
" หนึ่งเดือนไม่น่าจะพอ...มีเวลาอีกไหมนะ... "
หน้าถัดไปอีกหลายหน้าก็พบกับเวลาที่เพิ่มขึ้นเป็นสามปีซึ่งมันก็สิ้นเพียงเท่านั้น ไม่มีเวลาเพิ่มอีกแล้ว
วัตถุดิบและของต่างๆก็หายากมาด้วยทำเอาหวงเฉินหยางถึงกับท้อใจเลย เขาอ่านวัตถุดิบทั้งหมดจนจำขึ้นใจก็เริ่มออกไปหานอกถ้ำในทันที
ของหลายอย่างเช่นนี้แถมมันก็ดูแล้วน่าจะราคาแพงมากๆเพราะเขาเห็นมีอักษรเล็กๆเขียนราคากำกับไว้แล้ว
" ... คงต้องลองไปหาป่าใหญ่สินะ..."
กล่าวจบหวงเฉินหยางก็คอยหลบในเงาร่มและซอกหินออกมานอกป่า เขาเห็นว่าอีกด้านไม่ไกลมากนั้นมีป่าใหญ่อยู่ เขาจึงเดินไปที่ป่าใหญ่นั้น
ในป่ามีต้นไม้สูงใหญ่มากมาย เขาต้องคอยหลบเลี่ยงพวกสัตว์อสูรเพราะตัวเขายังไม่เริ่มฝึกวิชาอะไร ก็เลยต้องคอยหลบๆเลี่ยงๆและเก็บสมุนไพรไปบ้าง
ของทั้งหมดนั้นหายากมาก และยังไปเก็บก็ยากอีก เขาตั้งพยายามปีนหน้าผาขึ้นไปเก็บสมุนไพรทำเอาเกือบตายเลยก็ว่าได้
แถมเขาต้องพักแรมตรงตีนเขาอีก อากาศในตอนกลางคืนนั้นหนาวมาก ส่วนกองเพลิงนั้นเขาหาได้แค่เศษกิ่งไม้และใบไม้มาตั้งกองไฟเล็กๆเพื่อความอบอุ่นและตัวเขาก็ขดตัวนอนจนแทบจะกลมเป็นลูกบอล
เวลาผ่านไปสามเดือน ในที่สุดเขาก็สามารถหาของมาได้ครบเสียที ทั้งต้องเสี่ยงอันตรายมากมาย ทั้งต้องหนีตายกับพวกสัตว์อสูร
สิ่งแรกที่เขาออกจากป่าใหญ่นั้นได้ก็คือ อาบน้ำ เพราะตัวเหนียวมากแต่รู้สึกกลิ่นตัวไม่เหม็นแต่กลิ่นตัวกลับหอมของดอกไม้ จนเอาตนเองก็เริ่มขนลุกขึ้นมาทันที
ถอดเสื้อผ้าก็โดดลงน้ำไปทันที แต่แล้วตนก็ร้องลั่นเพราะความเจ็บแสบของบาดแผลแต่ตรงด้านหลังความเจ็บปวดกลับมากขึ้นยิ่งกว่าเดิมเสียอีก เขารีบขัดถูตัวและลูบล้างแผลให้สะอาดและรีบออกจากน้ำทันที ความเจ็บปวดเช่นนี้ทำให้หวงเฉินหยางแทบจะตายทั้งเป็นอยู่แล้ว
เขากลับไปที่ถ้ำเดิมและลงไปตรงที่มีผนึกมากมาย เขาเห็นหนังสือตัวเดิมเล่มหนาก็ยังหนาเหมือนเช่นเดิม เขาไปเปิดหนังสือตรงที่หน้าคั่นไว้ เขาอ่านวิธีการปรุงยา แต่ปัญหาคือเขาไม่มีเตาหลอมหรือหม้อยา ทำเอาหวงเฉินหยางถึงกับนั่งกอดเข่าคิดวิธีการหา
เขานั่งคิดไปเรื่อยๆจนไปนึกถึงความทรงจำที่ท่านพ่อนั้นชอบทำเครื่องปั้นดินเผาด้วยตนเองเสมอ สิ่งนั้นแหละที่ทำให้หวงเฉินหยางคิดออกแล้วว่าจะทำเช่นไร
เขาหอบสมุนไพรทั้งหมดขึ้นไปและออกไปที่ตรงริมแม่น้ำ เขาวางสมุนไพรลงและไปขุดดินเรื่อยจนเจอดินเหนียวผสมดินร่วนแล้วบ้างเขาก็ขุดมากองเป็นภูเขา และเขาก็ไปเก็บเปลือกหอยขนาดใหญ่เท่าฝามือไปตักน้ำมาเทใส่ดินจนดินชุ่มจากนั้นก็นวดดินและค่อยๆปั้นให้เป็นเป็นหม้อ ถึงแม้จะรูปร่างแปลกๆเสียหน่อยก็เถอะ จากนั้นนั้นก็ปั้นเป็นฝาปิด และนั้นตัวหม้อและฝาไปตากแห้งไว้ จากนั้นตนก็ไปเอาสมุนไพรมาล้างและนำมาบดด้วยเปลือกหอยและไม้ แต่ปัญหาคือ...เขาจะเอาอะไรมาตัดสมุนไพรที่แข็งดี...
หวงเฉนหยางหันไปมองแหวนที่ตนสวม เขามองแหวนตัวนี้ก็นึกถึงในหนังสือกล่าวไว้ว่ามันคือแหวนมิติสามารถเก็บของได้ตามต้องการแต่มันก็จะขึ้นอยู่กับขนาดของพื้นที่ จะสามารถใช้งานของแหวนได้ก็คือการถ่่ยเทลมปราณเข้าไปในตัวแหวนนั้นเอง
หวงเฉินหยางลองถ่ายเทลมปราณดู และเขาก็พบว่าของข้างในแหวนนั้นมีทั้งเหรียญเงินเหรียญทอง หินลมปราณขั้นสูงมากมาย ทำเอาหวงเฉินหยางตาโตเท่าไข่ห่าน
ถ้าเป็นคนธรรมดาคงจะอยู่ได้ทั้งชาติ
ในแหวนมีพวกมีด ดาบ กระบี่หยก
หวงเฉินหยางมองกระบี่ที่น่าจะตัดได้หลายอย่างเขาก็หยิบออกมาก็หยิบออกมาสับสมุนไพรจนละเอียดหมด จากนั้นนำกระบี่ไปล้างเช็ดเก็บเข้าฝักและเก็บเข้าเเหวนไว้ตามเดิม
เขาบดสมุนไพรรวมกันและปั้นให้มันกลมๆ...ด้วยที่เป็นเป็นคนชอบทานน้อยแถมมือก็เล็กเลยปั้นให้เป็นเม็ดกลมเล็กๆเท่าตัวมดได้มากกว่าสามร้อยเม็ดแต่ก็ปั้นต่อไป...(เพราะปั้นเล็กเลยได้จำนวนเยอะมาก )
กว่าจะปั้นเม็ดยาจนสมุนไพรจนหมดก็ได้เป็นพันเม็ดและเป็นยามกลางคืนพอดี ตัวหม้อดินก็ยังไม่แห้ง หวงเฉินวางเม็ดยาลงกองเป็นใหญ่ๆที่รวมหลายพันเม็ด จากนั้นเจ้าตัวก็ดื่มน้ำและก็นอนด้วยความหิว
เช้าวันต่อมาก็ไปหาอาหารมากินรอ ลงไปเอาหนังสือเล่มหนาขึ้นมาอ่านรอฆ่าเวลาอยุ่ในถ้ำผนึกที่ความสว่างตลอดเวลา
เพราะเป็นคนชอบอ่านหนังสือตำราก็เลยอ่านเลยเวลาข้ามวันข้ามคืนไม่รู้ตัว จนอ่านจบเท่านั้นแหละเขาถึงจะรู้ตัวว่าต้องทำยาโอสถอยู่ก็รีบขึ่นไปข้างบนไปที่ริมแม่น้ำ
โชคดีที่ให้หินมาวางเป็นชั้นประกบกันเรื่อยๆจนคล้ายถ้ำ ส่วนหม้อดินที่แห้งแล้ว เขาก็เริ่มก่อกองไฟ นำสมุนไพรที่ปั้นเล็กๆนั้นใส่หม้อดิน ปิดฝาและนำวางไว้ในกองไฟ
เขาถ่ายเทลมปราณไปที่หม้อดินที่มีตัวยา และเขาต้องรอคอยและถ่ายเทลมปราณไปเรื่อยๆค่อยๆปล่อยลมปราณไป
ใช้เวลาห้าวันก็ได้ยาเม็ดโอสถมากกว่าหมื่นเม็ดเล็กๆมา หวงเฉินหยางรีบกินเม็ดโอสถไปหนึ่งเม็ด หอบเม็ดยาใส่ผ้าสะอาดที่เห็นในแหวนนั้นเอง เขาก็มัดผ้าที่เต็มไปด้วยเม็ดยาโอถสและเก็บในแหวนมิติ
เขากลับไปที่ในถ้ำที่เต็มไปด้วยผนึก เขานั่งลงและดูดซับลมฟ้าดินและพวกผนึกมากมายในถ้ำนี้
วันแล้ววันเล่าผนึกทีละชิ้นก็จะสลายหายไป พลังปราณมหาศาลเข้ารวมอยู่ในร่างของหวงเฉินหยาง เขานั่งดูดซับลมปราณต่อไปเรื่อยๆ
เวลาผ่านไปสามปีผ่านไป เป็นเวลาที่ยาเม็ดโอถสจะสิ้นฤทธิ์อีกเพียงแค่สามวัน
หวงเฉินหยางลืมตาขึ้นและทำเอาเขานั้นประหลาดใจ ผนึกมากมายนั้นได้หายเกือบไปทั้งถ้ำซ้ำยังมีประตูบานใหญ่ที่อยู่ทางตรงหน้า
หวงเฉินหยางมิค่อยแปลกใจเรื่องผนึกแต่รู้สึกแปลกใจกับประตูบานใหญ่เสียมากกว่า
หวงเฉินหยางลุกขึ้นยืน ทำเอาเจ้าตัวถึงปวดหลังและขาแทบจะอ่อนจนทรุดเลยทีเดียว
" นี่เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่แล้วเนี่ย..."
หวงเฉินหยางต้องคอยยืดหลังตนเองเพราะทั้งแขนและยืดขาเพราะนั่งนานเกินไปจนปวดไปทั้งตัว
เขาลองมองไปตรงพื้นและเดินไปที่หนังสือตำราเล่มเดิมแต่ทำเอาเขานึกแปลกใจในทันที เมื่อก่อนตำราสูงเท่าเข่าแต่ซะไหนถึงสูงเพียงเท่าขาของเขาเสียได้
" นี้ตำราหนังสือย่อยสลายลงไปเลยหรอเนี่ย ..."
เจ้าตัวมิรู้ว่าตนสูงขึ้นต่างหากก็เลยมโนไปว่าหนังสือเตี้ยลงเอง...
หวงเฉินหยางนำตำราเล่มหนาเก็บเข้าไปในแหวนและจากนั้นเขามุ่งหน้าเดินไปที่ประตูบานใหญ่แต่ก็ต้องหยุดชะงักลง ชุดอาภรณ์ที่สวมอยู่นั้นรัดคับแน่นมากจนเจ้าตัวถึงกับต้องปลดส่วนด้านบนออกและเผยให้เห็นผิวขาวเนียนแต่มีรอยแผลเป็นมากมาย ด้านหลังที่เป็นอักขระก็แปรเปลี่ยนเป็นรูปมังกร รูปร่างงามสง่าและมีกล้ามบ้างเล็กน้อย ใบหน้าทั้งหล่อเหลาและงามล่มเมือง
เขากำลังจะผลักประตูบานใหญ่ออก แต่เขาเพียงแค่เเตะนิดเดียวประตูบานใหญ่ก็พังทลายลง
" สงสัย...มันคงจะเก่ามากไปแล้วสินะเนี่ย... "
และก็เดินเข้าไปข้างใน โดยรอบนั้นมืดมาก แต่เดินไปเพียงไม่นานก็พบกับเหตุการณ์ที่อันจดจำอีกครั้ง เขาเตะหินตัวน้อยตัวนิดและกลิ้งลงไปอีกแล้ว แต่คราวนี้ดันตกลงไปในหลุมลึกอีก
โชคยังดีที่ตกลงไปในน้ำลึกก็เลยรอด เขาตะเกียกตะกายขึ้นฝั่งในทันทีเพราะความเจ็บปวดด้านหลังรุนแรงมากกว่าเดิมถึงหลายเท่าตัว
หวงเฉินหยางต้องรอจนตัวแห้งจากนั้นจึงค่อยเดินไปสำรวจรอบๆก็พบกับความมืดเช่นเคย
" .... "
'' งั้นให้ข้าช่วยแล้วกันนะเจ้าค่ะ ''
'' ให้ข้าช่วยดีกว่า เพราะข้าสามารถมองเห็นความมืดได้ ''
เสียงใสของหญิงสาวจากดวงไฟสีแดงดังขึ้นมาและตามดวงไฟสีดำเสียงต่ำของชาย
'' ท่านพี่ยี่เฉินหุบปากไปเลย''
ด้วยความที่อยู่กับพี่ๆฝาแฝดชายทั้งหมดมายาวนานนั้น นิสัยก็มิค่อยสมเป็นกุลสตรีเสียเท่าไหร่นัก
'' เจ้านะเงียบไปเลย ถึงคราวข้าออกโรงเสียบ้าง! เหยียนฮวา เจ้านะกลับไปจำศีลซะ! ''
" ข้าจำศีลนานเแล้วอยากใช้พลังมากเหลือเกิน! "
" ข้าเองก็เหมือนกับเจ้านั้นแหละ ข้ามิได้ใช้พลังมายาววนานยิ่งกว่าเจ้าอีก "
" ท่านพี่นี่เฉินแค่ห่างจากข้าแค่หนึ่งวันเอง! "
" แต่สำหรับข้ารอมาพันปี! "
" ข้ารอมาพันปีกว่า! "
" ข้ามานานพันปีเหมือนกัน "
เสียงลูกไฟอีกสองเข้าร่วมวงทะเลาะด้วยอีกแต่ก็มีเพียงด้วยไฟสี่ดวงทะเลาะกันยิ่งกว่าเด็กสามขวบ โต้ตอบนู้นนี่นั่นกัน
หวงเฉินหยางรู้สึกรำคราญสี่แฝดนรกก็เลยไม่สนใจกับเสียงทะเลาะกัน ตนก่อคบเพลิงด้วยตนเองและเดินสำรวจด้วยตนเอง ส่วนลูกไฟสองตนนั้นก็ทะเลาะต่อไปเรื่อยเปื่อย
หวงเฉินหยางรู้สึกอยากมีจิตวิญญาณดวงเดียวขึ้นมาทันที เพราะเขาจะได้ไม่ต้องมาฟังคำโต้เถียงไร้สาระของบรรดาลูกไฟจิตวิญญาณ
หวงเฉินหยางเดินสำรวจไปรอบๆถ้ำลึก จนเขาไปสะดุดตากับกล่องใบใหญ่กล่องหนึ่ง เขาเดินไปหากล่องใบนั้น เขาลองสำรวจรอบๆกล่องก็ไม่พบอพไรมากเมื่อมองจนพอใจแล้วก็เปิดกล่องใบนั้นขึ้นมา
ข้างในกล่องมีไข่ใบหนึ่งที่มีรูปร่างกลมคล้ายลูกแก้วเท่าฝ่ามือ หวงเฉินหยางเคยอ่านเจอวิธีการฟักไข่อสูร เขาลองถ่ายเทลมปราณไปที่ไข่ใบนั้น
เปลือกไข่ค่อยๆแตกออกจากก็เกิดควันสีดำและควันสีขาวลอยฟุ้งจนมองอะไรไม่เห็น
" คาราวะนายท่าน! "
!!!?
มีสองเสียงที่ดังออกมาพร้อมกันและเขาก็พบกับเด็กน้อยทั้งสองคนที่กำลังคุกเข่าคาราวะเขาอยู่
" ข้านาม ฟางฟาง "
เด็กน้อยคนหนึ่งมีผมสีนิลยาวสวมชุดอาภรณ์สีดำเส้นขอบเทา บนหน้าผากลายสัญลักษณ์รูปเปลวเพลิงสีแดง สูงเพียงจมูกของหวงเฉินหยาง
" ส่วนข้านาม ฟ่งฟ่ง "
ส่วนอีกคนนั้นมีผมสีนิลเช่นเดียวกัน เส้นผมที่ยาวยาวถึงกลางหลัง ส่วนมือนั่นห้อยลูกประคำ มืออีกข้างถือไม้เท้ายาวเหนือศรีษะ บนยอดไม้เท้าประดับด้วยกระดิ่งไว้ทั้งหมดเก้าอัน สวมชุดอาภรณ์สีเหลืองน้ำตาลคล้ายกับเป็นหลวงจีน
" มิใช่ว่าหลวงจีนหัวโล้นไร้เส้นผมหรือนี่... "
หวงเฉินหยางเอ่ยถามอย่างแปลกใจเพราะเด็กที่นามว่าฟางฟางนั้นเหมือนหลวงจีนมาก
" แค่กๆ... ข้ามิใช่หลวงจีน "
เสียงของเด็กน้อยนามว่าฟ่งฟางที่คล้ายหลวงจีนนั้นก็รีบเสกชุดของตนเปลี่ยนทันที ควันสีขาวลอยคลุ้งรอยกายฟ่งฟ่งนั้นได้เผยให้เห็นเด็กน้อยส่วนชุดอาภรณ์สีน้ำเงินเข้มปักลายเต่าตัวใหญ่เป็นสัญลักษณ์ด้านหลาง ทรงผมรวบขึ้นมัดเป็นจุกเดียวพร้อมกับปักปิ่นสีน้ำเงินเข้ม
" ขออภัยด้วยขอรับ พอดีข้าคงจะถูกเจ้าฟางฟางแกล้งยามตอนข้าจำศีลอยู่นะขอรับ "
ฟ่งฟ่งพูดอย่างเหนื่อยใจส่วนฟางฟางนั้นกลับหัวเราะขบขำอย่างขอบใจ
" ว่าแต่พวกท่านทำไมถึงไปอยู่ในนั้นได้กันหรือ? "
หวงเฉินหลางเอ่ยถามเด็กปริศนาทั้งคนตรงหน้า
" พวกข้าถูกสร้างมาและถูกสร้างมาก็ถูกผนึกไว้ในนี้แล้วล่ะ "
" เป็นเช่นนั้นรึนี่ "
หวงเฉินหยางมองเด็กทั้งคน เขาอยากจะออกไปจากตรงนี้เหลือเกินแต่จะออกไปอย่างไรได้แถมมาเจอเด็กทั้งสองนี้อีก นี่เขาอายุแค่เพียงไม่กี่สิบขวบเองนะจะเอาเด็กทั้งคนนี่ไปด้วยก็ยากแล้ว
แต่ดูเหมือนเด็กทั้งสองคนจะรู้ว่าตนคิดอันใดอยู่พวกเขาพาหวงเฉินหลางออกจากถ้ำแต่ไม่รู้ว่าเส้นทางมันยาวจนผ่านไปนานเท่าไหร่แล้ว เรื่องอาหารและน้ำดื่มนั้นมิต้องเป็นห่วงเพราะเขานั้กินยาโอสถอดน้ำอาหารไปแล้ว ทั้งเดินต่อไปกันเรื่อยๆจนมาพบกับทางออกจากถ้ำ แต่ทว่าก่อนที่จะออกจากถ้ำนั้น
" ข้าขอติดตามท่านไปด้วย "
" ข้าด้วย "
หวงเฉินหลางหันมามองเด็กทั้งสองคนก่อนที่จะเอ่ยขึ้นตอบกลับไป
" ได้สิ "
เด็กสองทั้งเมื่อได้ยินคำตอบแล้วก็จึงเดินเข้าไปใกล้หวงเฉินหลาง
" ท่านหยดเลือดพันธะสัญญาให้ข้าทั้งสอง จากนี้พวกข้าจะสามารถติดตามท่านเดินทางต่อไปได้ "
หวงเฉินหยางนึกแปลกใจแต่ก็ยอมทำตามที่เด็กน้อยกว่าตน เขาใช้หินที่ยาวแหลมอยู่ใกล้ๆนั้นมากรีดตรงมือและใช้เลือดของตนทำพันธะสัญญากับเด็กน้อยทั้งสอง
เด็กน้อยทั้งสองนั้นทำพันธะสัญญาเสร็จแล้วและได้กายเป็นกำไลหยกสีนิลและสีขาวมาสวมคล้องข้อมือของหวงเฉินหยางละข้าง ซ้ายสีนิลและขวาสีขาว
เขาได้กระจ่างแล้วว่าที่แท้เด็กทั้งสองก็เป็นของวิเศษนี่เอง
หวงเฉินหยางเดินมุดออกจากถ้ำไป และสิ่งที่เขาเห็นก็พบว่าตนอยู่ชายป่าแต่กลับมิใช่ป่าที่ตนเคยอยู่ตรงทางข้าหน้านั้นดูเหมือนมันจะเป็นเมืองอะไรสักอย่าง แต่ตอนนี้ตัวเขาเลอะเปอะเปื้อนดินมาก จึงเข้าป่าไปเสียก่อนเขาไปพบกับลำธารที่อยู่ใกล้ๆ เขาถอดชุดอาภรณ์ตัวเก่าที่มันเล็กมากแล้ววางไว้และค่อยๆลงน้ำ เขาพร้อมที่จะรับความเจ็บปวดแต่เมื่อน้ำโดนกลางหลังก็ไร้ความความเจ็บปวดแล้ว ดวงตาเบิกกว้างเขาไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดตรงแผ่นหลังแล้ว
หวงเฉินหยางหันไปมองตรงเงาน้ำที่สะท้อนเป็นร่างตรงแผ่นหลัง เขาพบว่าลายอักขระตรงแผ่นหลังได้หายไปเสียแล้วเห็นแต่เพียงแผ่นหลังขาวๆน่าชวนมอง เขาหันมามองเงาตรงหน้าก็พบว่าแผลเป็นทั้งหมดเองก็หายไปหมดแล้วพบกับใบหน้าขาวที่ดูว่าเป็นผู้ชายแต่ก็ดูหวานออกคล้ายผู้หญิงไปเสียด้วยหลายส่วน รูปร่างผอมเรียวราวกับเด็กอายุสิบสี่หรือสิบห้าปีเสียงั้น นี่เขาพึ่งสิบขวบแต่ซะไหนถึงสูงและรูปร่าวกับเด็กสิบสี่สิบห้าปีไปเสียนี่
ผิวกายก็ขาวดั่งดุจหิมะก็มิปาน ดวงตาสีขาวเหมือนไข่มุกแต่หลายคนอาจจะคิดว่าเขาอาจจะเป้นคนตาบอดไปแล้วเสียก็ได้
หวงเฉินหยางชำระกายเสร็จก็ขึ้นจากน้ำแต่ชุดของเขานั้นเล็กเกินไปแล้วจึงลองหาเสื้อผ้าในแหวนมิติดูก็พบเสื้อผ้าที่น่าจะพอดีกับตนและชุดนั้นทุกชุดสีขาวหมดเลย เป็นเวลาพอที่เขาสวมแล้วนั้นก็เป็นผู้ไหว้ทุกข์เลยพอดี แต่ติดตรที่ว่าแขนเสื้อมันยาวไปเสียหน่อย สวมหมวกฟางที่มีผ้าคลุมสีขาวบางๆครอบทั้งหมวกฟางที่สานจากไม้ไผ่
เขาจำได้ว่าเด็กทั้งเคยบอกตนไว้ว่ากำไลสีนลนั้นสามารถรักษาพิษได้ทุกชนิดแต่ถ้าเป็นพิษไร้ยาถอนอาจจะใช้เวลานานเสียหน่อยในการรักษา ส่วนกำไลสีขาวนั้นสามารถรักษาบาดแผลไม่ว่าจะเเผลเป็นก็รักษาหายได้
และเขาก็รู้แล้วล่ะว่าทั้งพิษและบาดแผลในตัวเขาหายได้เช่นไร
หวงเฉินหยางเดินกลับไปที่จุดเดิมตรงที่ตนออกมาจากโพรงหน้าถ้ำ เขาเดินออกจากป่าและเดินไปตรงทั้งคนทั้งเกวียนต่อแถวเข้าเมืองกัน หวงเฉินหยางก็ยืนต่อแถวเข้าเมือง
เวลาผ่านไปสักพักถึงหน้าประตูใหญ่ก็มีทหารมากกว่ายี่สิบนายยืนเป็นหน้าด่านเพื่อตรวจสอบคนเข้าเมือง เขายืนคุยทหารที่เป็นหัวหน้าอยู่สักพักก็ต้องยักยอกหินลมปราณระดับต่ำไปมากเสียหน่อยและสามารถเข้าเมืองได้เสียสักที
สิ่งแรกที่เขาก็คือการไปพักโรงเตี้ยมเล็กๆที่ไม่มีใครเข้าไปพักจองกันเสียเลยเพราะเถ้าแก่โรงเตี้ยมนี้หน้าตาหน้ากลัว ตัวใหญ่บึกบึน แผลเป็นเคยผ่านกลิ่นอายสนามรบมามากมายและมีบุตรชายและบุตรสาวหนึ่งคน ผู้เป็นบุตรชายได้ไปเป็นทหารประจำเมืองส่วนบุตรสาวนางอายุยี่สิบเอ็ดแล้วแต่มีใบหน้าที่มีแผลเป็นขนาดใหญ่จนดูน่าอัปลักษณ์ แต่ทว่าบิดากับบุตรสาวคู่นี้กลับใจดีกว่าเปลือกภายนอกเสียอีก
หวงเฉินหยางเป็นลูกค้ารายแรกเลยที่เข้ามาพักโรงเตี้ยมแห่งนี้และราคาเองก็ถูกมากด้วย แถมบรรยากาศก็เป็นธรรมชาติมีไม้ไผ่ประดับตกแต่งด้านหลังยังมีน้ำพุร้อนกลางป่าไผ่ เขาชอบที่นี้มากจึงจ่ายหินลมปราณระดับสูงไปสิบอันจนเถ้าแก่ถึงกับตกตะลึงในทันทีเพราะมันมากเกินไปก็ต้องรับไว้เพราะหวงเฉินหยางบอกว่าเขาจะที่นี่อีกยาวนานขอจ่ายล่วงหน้าไว้ เถ้าแก่ก็ไม่พูดอะไรอีกเลย
แต่เมื่อพอหวงเฉินหยางถอดหมวกฟางที่มีผ้าลุมออกเท่านั้นแหละทั้งเถ้าแก่และบุตรสาวถึงกับตกตะลึงใบหน้าของหวงเฉินหยาง
เถ้ามองใบหน้าของหวงเฉินหยางนั้นนึกว่าเป็น ธิดาเทพเซียน
ส่วนบุตรสาวเถ้าแก่นั้นรู็สึกเขินอายคล้ายจะเป็นลมเพราะเห็นว่าเป็น เทพบุตรแห่งสรวงสวรรรค์
ส่วนหวงเฉินหยางนั้นก็เปลี่ยนเอาผ้ามาคลุมทั้งหน้าแทนเพราะเดี๋ยวจะมีคนเป็นลมไปเสียก่อน
เวลาผ่านไปมิกี่วัน บุตรสาวของเถ้าแก่ก็มีชายหนุ่มมากมายพยายามมาตามเกี้ยวตามจีบคนงาม
ที่บุตรสาวของเถ้าแก่ที่งดงามเป็นหญิงสาวงามร่มเมืองนั้นก็เป็นเพราะหวงเฉินหยางได้ใช้พลังจากกำไลสีขาวรักษาแผลเป็นบนใบหน้าของนาง อย่างว่านางตกใจที่มีใบหน้างามล่มเมืองเลย แม้แต่หวงเฉินหยางก็ยังตกใจอ้าปากค้าง
เถ้าแก่จากที่จะเป็นเถ้าแก่แล้วยังมาเป็นพ่อหน้าใจโหดหวงบุตรสาวของตนที่มีแต่แมลงตามติด
ส่วนหวงเฉินหลางนั้นนั่งดูดซับลมปราณฟ้าดินอย่างสบายกายสบายใจ อยู่อย่างนั้น
เวลาผ่านไปไม่กี่เดือนก็ได้ยินข่าวเรื่องการเปิดสำนักรับศิษย์ใหม่ มีสำนักมากมายให้เลือก
สำนักดินสวรรค์
สำนักฮวาเหลียนสวรรค์
สำนักจันทราทมิฬ
สำนักมารอสูร
สำนักอสูรสวรรค์
สำนักพสุธา
สำนักวารี
สำนักอสรพิษ
สำนักตะวันจันทรา
สำนักสวรรค์ประธานพร
สำนักมารอเวจี
สำนักเวหา
( มีทั้งสำนักธรรมมะและสำนักมาร )
มีสำนักใหญ่ๆอีกมากมาย
หวงเฉินหยางถึงกับขมวดคื้วเป็นปม มีสำนักเยอะมากเสียจริงตัวเขานั้นมิค่อยชอบคนเยอะเสียเท่าไหร่เขาพยายามหาสำนักที่มีไม่ค่อยมีคนสนใจเสียเท่าไหร่
จนในที่ก็พบเสียที สำนักเส้าหลิน...ซะเมื่อไหร่กันเล่าสำนักหลวงจีนนั้นมีคนเยอะมากยิ่งกว่าอะไรอีก
หวงเฉินหยางเลือกสำนักเล็กๆที่ไม่ค่อยมีคนสนใจ
สำนักไป๋ฉิง
" ดียิ่งข้าเลือกสำนักนี้ "
ว่าจบหวงเฉินหยางก็ไปเก็บข้าวเก็บของเสร็จก็ไปลาเถ้าแก่กับบุตรสาวของเถ้าแก่จากนั้นตนก็ออกจากเมืองวิ่งถือเเผนที่จากเถ้าแก่ไปด้วย ในแผนที่นี้ได้บอกตำแหน่งของสำนักต่างๆมากมาย เขาต้องรีบไปให้ถึงภายในห้าวันให้ได้
การเดินทางครั้งนี้เขาอดหลับอดนอนไปตลอดทั้งวันไม่ว่ากลางวันและกลางคืน เขายังคงวิ่งไปเรื่อยๆ
จนผ่านไปวันที่สี่ก่อนถึงวันรับสมัครของสำนักไป๋ฉิงหนึ่งวัน หวงเฉินหลางในตอนนี้หมดสภาพริมแม่น้ำใต้ตีนเขา หวงเฉินหยางในตอนนี้ใบหน้าแทบจะเป็นหมีแพนด้าขอบตาดำและหมดเรี่ยวหมดแรงก็นอนสลบใต้ต้นไม้ที่ใกล้ๆแม่น้ำ ตนจะต้องฟื้นฟูพลังปราณเพราะต้องใช้วิชาตัวเบาที่ตนยังไม่ทันได้เริ่มเพียงแค่ตัวหนังสือก็เริ่มตั้งแต่ตอนเดินทางวันที่สามจนมาหมดสภาพในวันที่สี่แทน
วันต่อมายังมิถึงรุ่งสางหวงเฉินตื่นขึ้นมาและไปอาบน้ำชำระกายที่ริมแม่น้ำ ระหว่างที่กำลังชำระกายแช่น้ำ อยู่ๆก็มีคนผู้หนึ่งที่กำลังขี่ม้าอาชาสีดำผ่านมาชมแม่น้ำใต้ตีนเขาที่ซึ่งเป็นแม่น้ำที่สีใสมองเห็นใต้น้ำได้ชัดเจน
ชายผู้ขี่ม้าอาชาสีดำทมิฬใบหน้าหล่อเหล่าราวเทพบุตรทว่าช่างเย็นชา ร่างกายสูงสวมชุดอาภรณ์สีดำทมิฬร่างสูงขี่ม้าอาชาผ่านมาดงตาสีนิลที่หันไปมองร่างบางที่มีผิวกายขาวดั่งดุจหิมะร่างผมดูบอบบาง แต่เขาแค่รู้สึกสนใจเพียงเท่านั้น
" ... "
ร่างสูงที่ตื่นตะลึงจ้องมองร่างบางที่กำลังชำระกายโดยหัวที่ยังไม่ทันได้จะคืนสติ ร่างบางที่เเช่น้ำอยู่รู้สึกเหมือนถูกมองก็หันไปมองร่างที่ใบหน้าเย็นชาที่จับจ้องมองตนอยู่
ทว่าร่างสูงบนอาชาดวงตาเบิกตากว้างใบหูนั้นเริ่มแดงดวงตาจดจ้องยิ่งกว่าเดิม ถึงอีกฝ่ายจะเป็นบุรุษแต่ทว่ากลับมันช่างทำให้ตนถึงกับใจตันหาในทันที เขาเคยมองหญืงสาวและชายบุรุษงดงามมากมายแม้แต่เห็นร่างเปือยเปล่าเขากลับมิรู้สึกอารมณ์อันใด แต่ทว่าบุรุษตรงหน้านั้นกลับทำให้หัวใจเขาเต้นรัว ใจที่สงบนิ่งมาตลอดสิบหกปีกับเต้นรัวราวแทบกลับระเบิด เขาอยากจะคว้าร่าบางเข้ามากอดและถนุถนอมยิ่งนัก!
" เจ้าคนวิปลาส "
สิ้นคำกล่าวของหวงเฉินหยางนั้นทำเอาร่างสูงถึงกับชะงัก ส่วนร่างบางในสายตาร่างสูงนั้นก็ไปสวมชุดอาภรณ์และหมวกสานไม้ไผ่ผ้าคลุมทั้งใบหน้าในพริบตาโดยที่ร่างสูงมิทันได้กระพริบตา
หวงเฉินหยางเดินออกไปทิ้งให้ชายขี่ม้ากระพริบตาปริบๆ ชายผู้นั้นก็รีบควบม้าตามมาทันที
หวงเฉินหยางก็รีบวิ่งกระโดดขึ้นบันไดที่ไปทางเข้าสำนักทันทีแต่ทว่าบันไดตรงหน้ากลับยาวอ้อมทั้งภูเขาขึ้นบนเกือบทั้งยอดมีตำหนักมากมายและภูเขาลูกนี้ช่างใหญ่ยิ่งกว่าไรบันไดนั้นคงมีสักหมื่นขึ้นก็ว่าได้แต่จะเป็นขั้นเล็กก้าวพอดีเท้าพอดี
หวงเฉินหยางรีบก้าววิ่งก้าวกระโดดไปทีละหลายๆขั้นส่วนชายร่างหนาผู้ที่ขี้ม้าอาชานั้นได้แต่อยู่ด้านล่านมองร่างคนงามที่ขึ้นไปข้างบนเสียแล้ว
เขาได้แต่ถอนหายใจและคิดว่าไว้ค่อยมาวันใหม่เสียดีกว่าเพราะเขาต้อไปทำภารกิจต่อ ร่างสูงขี่อาชาทมิฬออกจากบริเวณนั้นไป
ส่วนหวงเฉินหยางที่วิ่งโดดขึ้นตามบันไดอยู่นานจนสามารถขึ้นบนยอดเขาได้เขาก็รีบไปรวมตัวกับเหล่าศิษย์ใหม่ทันที
แต่...
ทว่าทำไม ผู้คนถึงเยอะมากเช่นนี้กัน???
นี่มันใช่สำนักไป๋ชิงรึไม่เนี่ย...
" ยินดีต้อนรับสู่ สำนักราชันเทวะ "
สิ้นเสียงนั้นหวงเฉินหยางก็แทบจะเป็นลมหมดทั้งยืน นี่เขามาผิดที่หรือเนี่ย...
นี่มันสำนักที่ใหญ่ที่สุดและเป็นอันดับหนึ่งเลยมิใช่นึ!!?
" และใครที่คิดจะไปสำนักไป๋ฉิงนั้นก็มาถูกที่แล้วเพราะนั้นคือชื่อรองของสำนักเรานั่นเอง 55555+ "
ข้ากระจ่างใจล่ะ ที่แท้ข้ามิได้หลงแต่ข้าโดนหลอก!!!
จบภาคหนึ่ง
........................................................................................................................................................................
บอกตามแต่เรื่องนี้ใช้เวลายาวจนเกือบเป็นเดือนเลยทีเดียว สมองตันทุกวันเลยไม่ได้เขียนแบบบรรรยายละเอียดนะ
ขอบคุณที่มาอ่านกันนะครับ ขอบคุณครับ
เรื่องผมเองก็แต่งไว้ที่รีดอะไรท์(ฉบับต้นของผมเอง) คัดลอกลิ้งค์ด้านล่างได้เลย
https://www.readawrite.com/a/Z37nj4-%E0%B8%81%E0%B8%B3%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%A3?r=search_article
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
​เา​เป็น​เพีย​เ็น้อยนหนึ่ที่​เิมาพร้อมับำ​สาปบาอย่า​เป็นรูปลายลัษ์บาอย่า​และ​อัระ​มามาย​เ็มลาหลั ​ใบหน้าที่​เป็น​แผล​เป็นล้ายรอยอมที่บาร​แ้มนา​ให่​และ​มีรอยบา​เล็ๆ​พร้อมับรอย​ไหม้ร​แ้ม้า้ายยาวมาถึลำ​อ ทำ​​เอานูน่า​เลียน่าลัว
​ใน่วีวิ​ในวัย​เ็​เา​ไ้วามรัาพ่อ​แ​เม่​และ​ท่านปู่ถึ​แม้​เาะ​อัปลัษ์็าม... บ้านที่พว​เราอยู่นั่นอยู่นอาน​เมือที่าย​แน​เป็นหมู่บ่น​เล็ๆ​ ัวบ้าน​เอ็่า​เ่าทรุ​โทรมพร้อมที่ะ​ถล่มลมา​ไ้ทุ​เมื่อ
​เามี​ไม่มี​เพื่อน​เล่น ​ไม่มี​ใรอยา​เป็นสหายับ​เา​เพีย​เพราะ​มีอัระ​ประ​หลาลาหลั
" ​เ้าปีศา! "
"​เ้ามันัวประ​หลา! "
" ปีศา "
​แม้​แ่​เพื่อนหลายน็้อหนี​เาบ้า็ปา้อนหิน​ใส่​เาบ้า ปา​ไ่​ใส่ภาพบ้า ​แถมพวผู้​ให่​เอ็หลายท่าน็่านินทา้านสนุปา ​แ่ยั​โีบ้าที่้านั้นยัมีท่านพ่อท่าน​แม่​และ​ท่านปู่ที่ยัรั​เอ็นู้า
" ​เิน​เอ๋อ ้อ​เป็น​เ็ีนะ​ "
" ลู​แม่มาทานนม้วยันสิ นมอร่อยมา​เลย "
" หลานปู่ ​เมื่อ​เ้า​โึ้น​เ้า้อ​แ็​แร่ึ้น ​เ้า​ใ​ไหม "
้ารัพว​เายิ่นั พว​เา​เป็นผู้​เยียวยาิ​ใอ้า พว​เาือรอบรัวที่้ารั พว​เาือนที่้ารั
" ้ารัท่านพ่อ "
" ้ารัท่าน​แม่ "
" ​และ​้ารัท่านปู่ "
" ้ารัพวท่าน "
นระ​ทั่้าอายุ​ไ้​เ็วบ ็มี​เิ​เหุสรามที่าย​แน นมามายถู​เ์​ไป​เป็นทหาร ท่านพ่อ้า​เอ็ถู​เ์​ไป​เป็นทหาร​เหมือนัน
สรามรั้นี้่าน่าลัวยิ่นั พวศัรูบุาย​แน​เ่น่าาวบ้านมามาย พวผู้หิถูืน​ใ ​แม้​เ​เ่​เ็น้อย​และ​ผู้​ให่​แม้​แ่น​แ่​เ่า่า็ถู​เ่น่า​ไร้วามปราี
ท่าน​แม่้า​ไม่ยอม​ให้พวมันืน​ใ​และ​่า้า​ไ้ ท่าน​แม่​และ​ท่านปู่ปป้อ้า ท่าน​แม่​และ​ท่านปู่ยอมาย​เพื่อ​ให้้าหนี​ไป
" ท่าน​แม่!!! ท่านปู่!!! "
" หนี​ไป! "
" หลาน้า​เ้าหนี​ไปะ​! "
ัว้านั้นน้ำ​า​ไหลริน ้าวิ่หนี​ไป​และ​สิ่สุท้ายที่้า​เห็นนั้นือท่าน​แม่​และ​ท่านปู่ายทั้​เป็น​ในอ​เพลิ
" ท่าน​แม่ ท่านปู่!! "
​ในอนนี้้านั้นมี​เวลา​ไม่มานั ้าวิ่หนี​ไปามบ้านที่มี​แ่อ​เพลิ ทุอย่ามี​แ่​เพลิ ​แ่ทันมี้าำ​ลัวิ่อยู่นั้น ้า็​ไ้ยิน​เสีย​เ็สอนทารร้อ​ไห้ที่อยู่ท่ามลาอ​เพลิที่มีศพน​เป็น​แม่นั้นอ​เอา​ไว้
้าทน​เห็น​เ็ที่บริสุทธิ์ะ​ายมิ​ไ้ ้ารีบวิ่ฝ่าอ​เพลินั้น​ไป ้า​เ้า​ไปอุ้ม​เ็ทารทั้สอวิ่ออ​ไปาอ​เพลินั้น ​แ่​เมื่อวิ่​ไ้​ไปถึสิ้นสุอหมู่บ้าน็​ไ้ยิน​เสียอหิราผู้หนึ่ที่ำ​ลัอุ้ม​เ็ทารออมาาัวบ้านนออมา้านอ​ไ้
​แ่หิราผู้นั้น็ล้มล​ไปนอนอับพื้น ามัวมี​แ่รอย​ไหม้​และ​อ้อมอยัอ​เ็ทาร​ไว้
" ​ไ้​โปรสวรร์...่วยหลาน้า้วย​เถิ... "
หิราที่อยอ้อนวอนสวรร์​ให้่วยีวิอหลาน นามิอ​ให้สวรร์่วยัวนา​แ่อ​เพีย​แ่​ให้หลานอนานั่นปลอภัย
นระ​ทั่หิรา​ใล้ะ​หม​แรนพู่อมิ​ไ้ ัว้ารีบ​เอาผ้าัวยาวที่รพื้นอยู่นั้น​ไ้มามั​เ็ทารนหนึ่​ไว้้านหลัล้ายับท่าน​แม่ที่อยมัอบมั้า​ไว้้านหลั​เสมอ ้ารีบวิ่อุ้ม​เ็ทาราหิรานั้น​ไว้ ​เ้าหัน​ไปมอหิราผู้นั้น
หิรานั้นมอ้า นายิ้มอ่อน​โยน​และ​ล่าวำ​พูสุท้ายออมา
" อบุนะ​ หว​เินหยา "
สิ้นำ​พูอหิรา็สิ้นลมหาย​ใ​ไป สิ่ที่นา​เห็นนั้นนา​ไ้ลายวามัวล​แล้วว่าหลานอนานั้น้อ​เิบ​ให่​แน่นอน
้านิ่อึ้​แ่็​ไ้ยิน​เสียศัรู​โห่ร้ออย่ามีัยอยู่นั้น ้าวิ่อุ้ม​เ็ทารทั้สาม​เ้า​ไป​ในป่าทันที
บ​แล้วสินะ​
บ​แล้วสินะ​
ีวิที่มีวามสุอ้า บ​แล้วสินะ​
ท่านพ่อ
ท่าน​แม่
ท่านปู่
หาีวินี้้า​ไม่มีพวท่าน ้าะ​มีีวิอยู่่อ​ไปอย่า​ไรัน...
​เาวิ่อุ้ม​เ็ทารทั้สาม​เ้า​ไป​ในป่าลึ ​ในป่านั้นมีสัว์อสูรมามาย ​เา้ออยหลบ่อน ​แ่้วย​เสีย​เ็ที่ร้อัลั่น็มีสัว์อสูรที่มีลัษะ​​เป็นหมูป่าัว​ให่ที่ำ​ลัวิ่มาทาพว​เา
้า​ไม่รู้ะ​ทำ​​เ่น​ไรี​แล้ว ัว้านั่นาสั่น​และ​สั่นนถึระ​ูสันหลั​เลย็ว่า​ไ้
หมูป่าัวนั้นมี​เี้ยวที่​โ้ทั้้า วาสี​แ​เหมือนั​โทสะ​ ัวอมันมี​ไฟลุ​ไหม้ทั่วทั้ัวนถึปลายหา มันวิ่มาทา​เ็ทั้สี่อย่ารว​เร็ว
​เ็าย​เ่าทรุนั่ลับพื้น ​เารีบ​แะ​ผ้า​และ​อุ้มทารที่อยู่้านหลันั้น​เอามาอุ้ม​และ​อ​ไว้​ใ้หลัอน​เป็นที่ำ​บั​เป็นำ​​แพ​ไว้ ​แ่้วยที่ัวยั​เ็ ​เป็น​เพีย​แ่มนุษย์ มนุษย์ธรรมาที่​ไม่สามารถ่อรับสัว์อสูร​ไ้
​เาหลับาลรอ​เพีย​แ่ารที่ะ​รับวาม​เ็บปวที่อาถึีวิ​ไ้ ​แ่ทว่า​เหมือนมิ​ไ้รับวามรู้สึิถึอันรายอี​แ่​เา​ไ้รับวามรู้สึถึวามอบอุ่น วามปลอภัย
​เ็น้อยลืมาึ้น็​ไ้พบับายนหนึ่สวมุาวทั่วทั้ร่า ​ใบหน้าสวย​และ​​ใีูอบอุ่นนั้นทำ​​ให้​เ็น้อยที่รู้สึัน​และ​วามลัว​แ่​แร็ลายวามัน​และ​วามลัวล
ส่วน​เ้าหมู่ป่านั้น็นอนาย​โน​แผ​เผานสลายหาย​ไป​เสีย​แล้ว
" ​เ้า​เ็น้อย ​เ่น​ไรถึมาอยู่ที่นี่​ไ้ล่ะ​? "
​เ็ายที่พอ​ไ้ำ​ถามนั้น็ทำ​​ให้นึภาพที่​เ็บปว​ใภาพที่นที่​เารันั้นายทั้​เป็นอ​เพลิ ​เาทำ​​ไ้​เพีย​แ่​เียบ​และ​น้ำ​า​ไหลลมา
ายผู้นั้น​เมื่อมอ​เ็น้อยที่น้ำ​า​ไหล​เมื่อ​ไ้ำ​ถามที่นถาม​ไป็ถึับสสัย​ในทันว่า​เิอะ​​ไรึ้น ​เา​เรียมที่ะ​​เอ่ยปาถาม​แ่็​ไ้ยิน​เสียมาั​เสีย่อน
" ​แ้!! "
​เ็ทารทั้สามนร้อ​ไห้ออมาพร้อมัน ายผู้นั้น​เริ่มถึับ​ไป​ไม่​เป็น​เสีย​แล้ว
​เ็ายมอ​เ็ทารทั้สามที่ร้อ​ไห้อ​แนั้น น็ถึับ​ไป​ไม่​เป็น​เ่นัน​เพราะ​ัว​เานั้น​ไม่​เย​เลี้ย​เ็มา่อน ถ้าะ​​ใ้วิธีท่านพ่อท่าน​แม่อนปลอบน็​เระ​​ไม่​ไหว​เสีย​แล้ว​เพราะ​ร่าายอน็อ่อนล้า​เ็มทนที่ะ​อุ้มอ​เ็ทารทั้สาม​ไม่​ไหว
ายผู้นั้น​เห็นว่าัวอ​เ็สั่น​ไปทั้ัว​แถมยัอุ้มทารทั้สาม​เสียอี ​เาึ​ไป่วย​เ็ายอุ้ม​เ็ทารทั้สามึ้นมา​ในอ้อมอ
​เ็ายมอูผู้นั้นที่อุ้ม​เ็ทารทั้สาม​ไป ​แถมยั​เห็นายผู้นั้นอุ้มอยปลอบ​โยน​เ็ทารทั้สาม​แถมยัร้อ​ให้ฟั ถึ​เพลมันะ​​เปลๆ​็​เถอะ​ ​แ่​เ็ทารทั้สาม็​ไป​ในอ้อมอ​เรียบร้อย
" ​เ็น้อย ​เ้าื่ออะ​​ไรหรือ? ​แล้วอายุ​เท่า​ไหร่ัน? "
"้าื่อ ​เินหยา ​แ่ หว อายุ 7 วบ อรับ "
" ถ้า​เ่นนั้นรอบรัวอ้าล่ะ​? "
หว​เินหยามอายผู้นั้น ัว​เานั้นลั​เลว่าะ​อบีหรือ​ไม่ สุท้าย​เา็ยัอบอยู่ี
" ท่านพ่อ้าถู​เ์​ไป​เป็นทหาร ท่าน​แม่ับท่านปู่า​เ้า​ไป​ในอ​เพลิ​แล้วอรับ..."
ายผู้นั้นมอ​เ็น้อยที่้อสู​เสียรอบรัว​ไป​เสีย​แล้ว ็ทำ​​เอา​ให้ัว​เานั้น่าสสาร​เ็น้อยผู้นี้​เหลือ​เิน
" ​เ​เล้ว​เ็ทั้สอนนี้​เป็นน้ออ​เ้า​ใ่รึ​ไม่? "
" มิ​ใ่อรับ "
สิ้นำ​อบ็ทำ​​เอาายผู้นั้นถึับมวิ้วทันที
หว​เินหยาึ​เล่า​เรื่อราวทั้หม​ให้ายผู้นั้นฟัั้​แ่้น​เรื่อถึอนที่นำ​วาม​ไ้นมาถึอนที่พบับายที่อยู่รหน้า​เา
ายผู้นั้นพยัหน้าอย่า​เ้า​ใ ​เาอยพูปลอบ​เ็น้อยผู้นี้
" ้าื่อ ื่อหลิ ​แ่ ​เฟิ่ ัว้า​เป็นน​ในหมู่สำ​นัธรรมมะ​ ​เ้าะ​​ไปอยู่สำ​นัับ้ารึ​ไม่? "
​เฟิ่ื่อหลิที่​เป็นนาอายผู้นั้น​ไ้​เอ่ยถามหว​เินหยาว่าะ​​ไปอยู่ับนหรือ​ไม่
" ้าน้อยอมิ​ไปับท่านอรับ ้าน้อยะ​​เินทา้วยน​เอ "
" ะ​ีหรือ...​เ้ายั​เ็มานันะ​ ​แล้ว​เ้าสามารถอ่านออ​เียน​ไ้รึ​ไม่? "
" ้าอ่านออ​เียน​ไ้อรับ "
​เฟิ่ื่อหลิอุ้ม​เ็ทารทั้สาม​ใน​แน​เียวส่วน​แนอี้า็ล้ว​ไปหยิบหนัสือพร้อมับป้ายหยบาอย่า​ในอ​เสื้อ​และ​ยื่น​ให้​เ็น้อย
หว​เิหยารับหนัสือพร้อมับป้ายหยมา ​เามอำ​ราหนัสือที่นถืออยู่ มันหนามาน​เป็นอาวุธทุบหัว​แ​ไ้​เลย ​เา​ไปมอรอ​เสื้ออายผู้นั่นอย่า​แปล​ใว่า​เา​ไป​ไว้​ในนั้น​ไ้​เ่น​ไรัน
" ​เ็บ​ไว้​ให้ีๆ​ล่ะ​ ​โย​เพาะ​ป้ายหย ​เ้า้อ​เ็บ​ไว้​ให้ีที่สุ ​เพราะ​​เมื่อยาม​ใมีปัหา​เ้า็มาที่สำ​นัอ้า​ไ้ ื่อสำ​นั็ือ อวัาสวรร์ หรือ็ือ สวรร์ประ​ทานพร "
สิ้นำ​พูนั้น ​เฟิ่ื่อหลิ็​ไ้อุ้มทารทั้สามหายัว​ไปับสายลม​เสีย​แล้ว
หว​เินหยายืนถือำ​รา​เล่มหนาหาวาบนพื้นมัน็หนานสูถึหัว​เ่าอ​เาพอี ​แ่มอ​เามอ​ไปรพื้นที่ายผู้นั้นที่​เยยืนอยู่็มี​แหวนวหนึ่​เป็น​เพีย​แู่​เหมือนธรรมา ​แ่็​เ็บึ้นมาลอสวมนิ้วนูมัน็พอีับอ​เา​เลย
​เ​เ่​เหมือน​เาะ​รู้สึ​ไป​เอหรือ​เปล่า​เหมือนายนนั้น​ไ้อะ​​ไรบาอย่ายั​เ้าปา​เา่อนที่ะ​า​ไป ส่วน​เานั้น็​เผลอลืนล​ไป​เสีย​ไ้
​เ็น้อย​เิน​แบำ​รา​เิน​ไป​เรื่อยๆ​ นสามารถออาป่า​ไป​ไ้ ​เพราะ​ป่า​แห่นี้็​ไม่​ไ้​ให่อะ​​ไรมานั ​เมื่อ​เา​เินพ้นาป่า​ไปอีหลายลี้็พบับ​แม่น้ำ​ว้า​ให่
​เารีบวาหนัสือล​และ​วิ่​ไปถอ​เสื้อผ้าร​โหิน​และ​วิ่ลน้ำ​ทันที อาาศที่ร้อน​แสนอบอ้าวับารอาบน้ำ​ที่​เย็นสบาย ​แ่หว​เินหยาับ​เ็บปวร​ใบหน้า​และ​​แผ่น​เป็นอย่ามา
มันทั้​แสบ​และ​​เ็บนถึระ​ู​เลย็ว่า​ไ้ ​แ่​เ็ายนนี้​เา​เลือที่ะ​อทนอลั้น​เพราะ​ลูผู้ายนั้น้อมีวามอทนอลั้น
​เาทนวาม​เ็บ​ไว้​เ​เำ​น้ำ​ล​ไปับปลา ​เพราะ​อน​เ็ว่า​เา​เย​ไปำ​น้ำ​ับปลาับท่านพ่อ​เสมอ่อนที่ท่านะ​ถู​ไป​เ์ทหาร ​เา​เ็บมา... ​แ่​เา้ออทน้อ​ไม่​ให้​ใรรู้ว่า​เามัะ​​เ็บปว​แผล​เป็น​และ​อัระ​ลาหลั ทุืนที่​เานอน็้อทนทุ์ทรมาาอัระ​ทุรั้​และ​้อ​เ็บปวปาาย​เา็​เลือที่า​แอบออาบ้าน่วยามรารี​เพื่หนี​ไปทนทุ์ทรามา​และ​​เสียที่รีร้อ​ในยามที่วันทร์​เ็มว​และ​วันทร์สี​เลือทุรั้ ​เมื่อ​ใล้ถึยามะ​วันะ​ึ้น​เา็รีบลับบ้าน​ไปนอนที่​เิม​เป็นนี้ทุรั้ั้​แ่อนอายุ 1 วบ ​เป็น​เวลามานานถึ 7 ปี
​เมื่อหว​เินหลาับปลา​ใน​แม่น้ำ​​ไ้มาัวหนึ่​เป็นัว​ให่​เา็รีบึ้นา​แน้ำ​ึ้น​ไปบนฝั่ รีบ​ไปสวม​เสื้อผ้าัว​เ่าทีู่าวิ่น​และ​มีรอย​เย็บปะ​มามาย
​เา​ไป​เ็บิ่​ไม้​แห้มาอรวมัน​ไว้ ​และ​​ไปหาหินมา​เาะ​ระ​ทบันน​เิประ​าย​ไปึ้นมา านั้น็ัารำ​​แหละ​ปลาัหัวทิ้วั​ไส้ออ​และ​​เสียบ​ไม้ย่า
​เา​เยทำ​​แบบนี้​เพราะ​ท่าน​แม่​เยสอน​เา​ไว้ ทั้​เรื่อารทำ​อาหาร ารทำ​นมบ้า ถึ​แม้บารั้​ใส่ผิระ​หว่าน้ำ​าลับ​เลือ็​เถอะ​
​เาอยผลิปลา​ไปมา ​แ่็​เผลอทำ​​ไหม้อยู่ี​เพราะ​​แน​เาสั่น​เพราะ​ยั​เ็บ​แผ่นหลัอยู่็​เผลอทำ​ปลา​ในอ​เพลิ​แ่็รีบับ​ไม้ยึ้นมาทันที่อนที่มันะ​​ไหม้​ไปนิน​ไม่​ไ้อี
​โยัีปลา​ไหม้้าน​เียว อี้านิน​ไ้ ​เาินปลา้านนั้น​เพียนิ​เียว็อิ่ม​เสีย​แล้ว
​เพราะ​ัว​เานั้น​เป็นนที่​ไม่่อยอยาอาหาร​เสีย​เท่า​ไหร่ ​แม้​แ่นม​เอ็​แทบะ​ิน​ไม่ล ​แ่พอท่าน​แม่อย​เอานมมา​ให้หรือทำ​นม​ให้​เา็ำ​​ใินมัน​เ้า​ไป​และ​​เมื่อินหม​เา็อัว​ไปปลทุ์ ​เารีบออาบ้าน​ไป​ใล้ๆ​ายป่า​และ​อา​เียนอที่ิน​ไปนั้นออมานหม​ไส้หมพุ ​แถมท่าน​แม่ท่านพ่อ​และ​ท่านปู่นั่นมิรู้ว่าหลานอนมิอบาริน​เยอะ​มา​แม้​แ่นมหวานยิ่​แทบะ​ิน​ไม่​ไ้​แ่​เา็้อำ​​เป็น้อิน​เ้า​ไป​ให้หม​เพื่อ​ไม่​ให้ท่าน​เ​เม่ท่านพ่อ​และ​ท่านปู่รู้ ​เพราะ​บ้านอ​เานั้นายนมบาวัน​และ​​แม่็มัะ​ทำ​นมาย​เา็​เลย้อ​เป็นผู้ิมรสอท่าน​แม่​เสมอ ​เา็​ไป​แอบอา​เียนทุรั้ลอ​เวลาที่้อินนมหวานมาๆ​ ​เพราะ​อาหาราวนั้น​แทบะ​​ไม่มีหลัาที่ท่านพ่อถู​ไป​เ์ทหาร​ในอทัพ ​และ​านั้นมา็​ไม่มี​ใรที่้ออยออ​ไปหาล่าสัว์ับปลาอี​เลย​เพราะ​ัว​เา็ยั​เ็มา​เสีย้วย ท่าน​แม่็้ออยอยู่บ้านส่วนท่านปู่็ราภาพมา​แล้ว
ท่านปู่​เย​เล่า​ให้ฟัว่า ท่านปู่อ​เา​เย​เป็นบัิ​และ​​เลื่อนั่น​เป็นุนนาั้น สามมา่อน​แ่็ถู​ไล่ออมาา​เมือหลว​เพราะ​​ไปทำ​​ใหุ้นนาบาท่านที่อิาท่านปู่ที่​ไ้รับวาม​โปรปราอฮ่อ​เ้ ​แ่อยู่​ไ้มินานท่านปู่็ถู​เนร​เทศมาอยู่าย​แน็​เพราะ​ุนนาที่ี้อิา​ใส่ร้ายท่านปู่ส่วนฮ่อ​เ้​เอ็ราภาพมา​และ​สวรรึ้นสวรร์​ไป ​และ​ราบัลลั์มีผู้สำ​ร็ราาร​แทน อ์รัทายาท​ไ้ึ้นรอราย์​เป็นฮ่อ​เ้อ์ปัุบันนี้ ส่วนท่านปู่ถู​เนร​เทศนั้น็​โนหาว่ามีวามผิ่อบ่วยอ์ายสามที่ถูประ​หาร​ไป​เพราะ​ิะ​ิบัลลั์ ​เพราะ​​เย​เป็นน​โปรปรา​และ​มีวามีวามอบอฮ่อ​เ้อ์ึ​ไ้​เพียถู​เนร​เทศ​และ​ถูริบสมบัิ​เ้าลัหลวทั้หม
ท่านปู่สอนหนัสือ​ให้​เามามายทั้อ่านท่อ​เียนอัษรนำ​นา​เพราะ​​เรื่อฝึปูพื้นานั้​แ่ 4 วบ ้วยที่ท่านปู่บอว่า​เานั้น​เป็นอัริยะ​ที่มีวามำ​ี​เลิศ​และ​​เ้า​ใวามรู้ทั้หม น​เรียน​เพียหนึ่ปี็ำ​นา​แานวามรู้ ​และ​​เามัะ​อยู่​แ่​ในบ้านอยอ่านหนัสือ​เ่าๆ​ทั้อท่านปู่อท่าน​แม่อท่านพ่อหรือ​เ็บามร้านหนัสือที่​โยนำ​ราหนัสือทิ้​เา็​เ็บมาอ่านทั้หม ​เพราะ​​ไม่มี​เพื่อน​ไม่มีสหาย​เลย​ไ้​แ่อยู่บ้านอ่านำ​ราหนัสือ่าๆ​อย่า​เียว
หว​เินหยา​เ็บปลาที่​เหลืออยู่ห่อะ​บ​ใบ​ไม้ส่วนน็นั่อ่านำ​รา​เล่มหนา​แถมมัน็ู​ให่มา้วย ​เา​ใ้​เพีย​แส​ไปาอ​ไฟ​เท่านั้นที่​เป็น​แสสว่า ส่วนท้อ​ในอน็มืมามีวาวมามาย​และ​​โีที่​ไม่สัว์อสูร​เลย
​เานั่อยอ่านำ​ราที่ท่าน​เฟิ่ื่อหลาน​เป็นผู้มอบ​ให้ ​เมื่อ​เา​ไ้​เปิหน้า็ถึับ​ใ​และ​ทั้ี​ใ ​เพราะ​หน้าปมัน​เียนว่า
พื้นานำ​ลัภาย​ใน​และ​ลมปรา
หว​เินหลาที่ี​ใที่​เาะ​​ไ้ฝึลมปราบ้า​แล้ว รีบ​เปิหน้าถั​ไป​และ​​เริ่มมันทันทุัวอัษร...​แ่ปัหา็ิรที่ว่า ัวอัษรทั้​เล็​และ​ลายมือ​ไ่​เี่ย​เล็น้อย... ​แ่​เา็​เยอ่านลายมือยิ่ว่า​ไ่​เี่ยมา​แล้ว มิ​ใ่​ใรที่​ไหน ท่านพ่อ​เา​เอนั้น​แหละ​ลายมือยิ่ว่า​ไ่​เี่ยนอ่าน​แทบะ​มิออ​เสีย​แล้ว​แหละ​ ​เพราะ​มีประ​สบาร์อ่านลายมือ​ไ่​เี่ยนั้น็อ่านำ​รา​เล่มนั้น​ไ้อย่าสบายๆ​
​เาอ่านำ​รา​เล่ม​ไ้​เพียนิ​เียว็พบับวามอ่อนล้าอร่าายที่หั​โหมอน​เ้าป่า ​เาึปิำ​รา​เล่มนั้นอย่า​เสียาย​และ​​เา็นอนลับพื้น​เอาหินมา​เป็นหมอนถึ​แม้มันะ​​แ็มา็​เถอะ​
ืนนี้​โี​เป็นืน​เือนมื ​เพราะ​มี​เพียืน​เือนมื​เ่นนี้​เท่านั้น​เป็นวันที่​เา​ไม่้อทนทุ์ทรมาับารยาม​เานอน
​เ้าวัน่อมา่อนพระ​อาทิย์ึ้น
หว​เินหยาื่นึ้นมา​เิน​ไปที่​แม่น้ำ​ล้าหน้า​แ่น่า​แปลที่​เานั้น​ไม่รู้สึ​เ็บปว ​เาลูบ​ใบหน้า​และ​มอู​เา​ใน​แม่น้ำ​อน็พบว่ารอยำ​​แผล​เป็นลึ​ให่นั้นหาย​ไป​เหลือ​แ่​เพีย​เ​เผล​เป็นรอยาๆ​ที่​เริ่มหาย​ไป​ในทันที ปรา​ให้​ใบหน้าทั้สวยาม​และ​มีวามหล่อ​เหลาอีนทำ​​ให้ื่นะ​ลึับ​ใบหน้าอน​เอ ทั้มีวามามั่​เทพ​เียน​เทพธิาสวรร์ทั้มีวามรูปหล่อรูปามั่​เทพบุรุษ ทำ​​เอาหว​เินหยา้อยี้าู​เาน​ใหม่อีรั้
นี่​เา...็ี​ใ​เ​เผล​เป็นหาย​ไป​ไม่​แ่​เพาะ​​ใบหน้าามร่าาย​เอ็หาย​ไป ​แ่อัระ​ลา็ยัอยู่​เ่น​เิม​เพราะ​​เายั​ไ้รับวาม​เ็บปว​แผ่นหลัอยู่​เ่น​เิม
ะ​ว่า​ไป​แล้วท่าน​แม่อ​เา็ามมานมีายหนุ่ม​เ้ามาีบส่วนท่านพ่อ​เอ็ถูหฯ​ิสาวรุมล้อม อันนี้็​เป็นท่านปู่ที่​เย​เล่า​ให้ฟัว่าอนอยู่สมัยฮ่อ​เ้อ์่อนนะ​ พ่อ​แม่อ​เานั้น​เป็นที่รุมล้อมอหนุ่มๆ​​และ​สาวๆ​ ​แ่​เมื่ออับถู​เนร​เทศ พว​เา็ลาย​เป็นที่รั​เียทีนที
หว​เินหลา​เินลับ​ไปที่​เิม​และ​ยำ​ราึ้นมาอ่าน่อ
ลับับั้นพลัลมปรา​ในยุทธภพ
ระ​ับ่อำ​​เนิลมปรา มี 12 ั้น าั้นที่ 1 ​ไปถึั้นที่ 12 ือสิ้นสุำ​​เนิลมปรา
ระ​ับลมปรา มี 10 ั้น าระ​ับั้นที่ 1 ​ไปถึั้นที่ 10 ือสิ้นสุลมปรา
ระ​ับทะ​​เลลมปรา มี 10 ั้น าระ​ับั้นที่ 1 ​ไปนถึระ​ับั้นที่ 10 ือสิ้นสุทะ​​เลลมปรา
ระ​ับสมุทรลมปรา มี 9 ั้น าระ​ับั้นที่ 1 ​ไปนถึระ​ับั้นที่ 9 ือสิ้นสุสมุทรลมปรา
ระ​ับ่อำ​​เนิพิภพลมปรา มี 26 ั้น าั้นที่ 1 ​ไปถึั้นที่ 26 ือสิ้นสุำ​​เนิพิภพ
ระ​ับพิภพลมปรา มี 18 ั้น าั้นที่ 1 ​ไปถึั้นที่ 18 ือสิ้นสุพิภพ
ระ​ับนิพพาน มี 9 ั้น าั้นที่ 1 ​ไปถึั้นที่ 9 ือสิ้นสุนิพพาน
ระ​ับ่อำ​​เนิ​เียน มี 36 ั้น าั้นที่ 1 ​ไปถึั้นที่ 36 ือุมุ่หมาย​แห่​เทพ​เียน
ระ​ับ้าว​เป็น​เียนหรือ​เทพ​เียน มี 7 ั้น ...
ั้นที่ 1 รับสายฟ้าทั์สวรร์ 2 สาย
ั้นที่ 2 รับสายฟ้าทั์สวรร์ 3 สาย
ั้นที่ 3 รับสายฟ้าสวรร์สวรร์ 5 สาย
ั้นที่ 4 รับสายฟ้าทั์สวรร์ 6 สาย
ั้นที่ 5 รับสายฟ้าทั์สวรร์ 7 สาย
ั้นที่ 6 รับสายฟ้าทั์สวรร์ 8 สาย
ั้นที่ 7 รับสายฟ้าทั์สวรร์ 9 สาย ือสิ้นสุาร​เป็น่อำ​​เนิ​เียนมุ่สู่าร​เป็น​เทพ​เียน
ผู้ที่ะ​​เลื่อนระ​ับาระ​​เป็นำ​​เนิ​และ​้าว​เป็น​เียนนั้นมี​เยอะ​มา​โยระ​ูล​ให่ ราวศ์ สำ​นัทั้​ให่​และ​​เล็่า็​เน้นาร​ใ้ำ​​แพป้อันสายฟ้าทั์สวรร์ ​และ​สายฟ้าทั์สวรร์นั้น็มิ​ไ้​เ​เรมา​เท่า​ในั​เพราะ​มัน​เป็น​เพีย​แ่าร​เลื่อนระ​ับ
​แ่ทว่าผู้ที่ะ​​เป็น​เียนลับมีน้อย​เพราะ​ทั์สวรร์ที่​เป็นอรินั้นือสิ่ที่สามารถทำ​ลายลมปราอผู้นั้น​ไ้​ในพริบาหรือนที่​ไ้รับทั์สวรร์นั้น็ายสลายหาย​ไป​ไ้​เ​เม้​เ​เ่​เพีย​แ่ สาย​เียว​เท่านั้น นธรรมามิอาะ​​เป็น​ไ้็​เพีย​แ่รอ ปาิหาริย์ ​เท่านั้น
ระ​ับ​เทพ​เียนหรือ​เียน มี 6 ระ​ับ ​แ่่อนึ้นระ​ับะ​ทั์สวรร์อริ 1 สาย่อนึะ​​เป็น​เียน​ไ้ ​และ​​เมื่อลาย​เป็น​เียน​แล้ว็​เพีย​แ่บำ​​เพ็บะ​​ให้​เ่ล้าึ้นอย่า​เียว
ระ​ับ​เียนั้นที่ 1
ระ​ับ​เียนั้นที่ 2
ระ​ับ​เียนั้นที่ 3
ระ​ับ​เียนั้นที่ 4
ระ​ับ​เียนั้นที่ 5
ระ​ับ​เียนั้นที่ 6
าร้าว้าม​เทพ​เียน่อ​ไปหลัาสิ้นสุระ​ับ​เียนั้นที่6 ้าว้าม​เียน​ไป​เป็นระ​ับอ​เทพ นั้น้อผ่าน ทั์สวรร์ถึ 36 สาย ึ่มีน้อยมาที่มนุษย์ะ​้าว​ไป​เป็น​เทพ​ไ้
ระ​ับ​แห่สวรร์ ้อผ่านทั์สวรร์มา​แล้ว 36 สาย
ระ​ับ​เทพนั้น​ให้ฝึ​เ่น​ไร็​แล้ว​แ่บุลว่าะ​ผ่านัน​ไป​ให้​เ​เ่​ไหนัน
ผู้ที่​ไ้​เป็น​เทพ​แล้วะ​มีระ​ับ 3 ั้นาร้าว้ามีำ​ั ​และ​ถ้าผู้​ใที่​แ็​แร่ว่า็ือผู้ที่มี​ใ้อำ​นามาว่าผู้อ่อน​แอ
ั้นที่ 1 ​เทพั้น่ำ​
ั้นที่ 2 ​เทพั้นลา
ั้นที่ 3 ​เทพั้นสู
​เหล่าผู้ปรอ​เทพผู้​เป็น​เื้อราวศ์​แห่สวรร์ ัพรริสวรร์ผู้ที่ปรอิน​แน​แห่สวรร์ ...่ว​เวลายาวนาน​แม้​แ่น​ในราวศ์​เอ็่าพาัน​ไป​เิ​ใหม่ันมามาย​เพราะ​อยู่บนสวรร์​ไปมัน็น่า​เบื่อ
​และ​​ใ้​แห่ยม​โล​เอ็มี ัพรริ​แห่ยม​โลผู้ปรอ​แห่​แนยม​โล ​เป็นพระ​​เษาอัรพรริสวรร์
หาะ​้าว้ามมาว่านี้ ารที่ะ​้าว้าม​เหนือ​เทพทั้ปวนั้น​เป็น​เรื่อที่​แทบะ​​เป็น​ไป​ไม่​เลย...นอ​เสียาะ​​เป็นบุรหรือ​เลือ​เนื้อ​เื้อ​ไอบรรพาลทั้สาม
้าว้าม​เหนือ​เทพสวรร์
ระ​ับับ ​เทวะ​
ระ​ับ​เทวะ​​ไม่มีั้นระ​ับอี​แล้ว ะ​มีีวิอยู่ยาวนาน หรือะ​​ไปาย​เิ​ใหม่หรือะ​​ไป​เที่ยว​โลอื่น็​ไ้ ...​แ่ ​ไม่มี​ใร​เยมีระ​ับ​เทวะ​ ​เลยย​เว้น​เพีย​แ่บุรอบรรพาลที่​เป็นระ​ับ​เทวะ​อยู่​เพีย​แ่ 4 น
ท่านบรรพาลทั้สาม ผู้ที่​เป็นผู้สร้าัวาล​แห่นี้ (ะ​​ไม่มี​แ่มี​แ่ื่อ) (​และ​็​ในื่อะ​​ไม่วามหมายอะ​​ไรนะ​ ​เพราะ​ั้มั่ว)
​เหยา​ไป๋ (​เพศาย) ​เป็นผู้สร้า​และ​ู​แล ( ​เป็นภรรยาอ​เฟยา )
​เฟยา (​เพศาย) ​เป็นผู้สร้า​และ​ทำ​ลาย ( ​เป็นสามีอทั้สอ)
​ไป๋ฮวา (​เพศหิ) ​เป็นผู้สร้า​และ​รัรัษา (​เป็นภรรยาอ​เฟยา)
บุรอบรรพาล มี 4 น
น​แร​เป็นบุราย (​เิา​ไป๋าฮวา ) นาม ​ไป๋​เฟย
นที่สอ​เป็นบุราย (​เิา ​ไป๋ฮวา ) นาม ​เหมยฮวา
นที่สาม​เป็นบุรสาว (​เิา ​ไป๋ฮวา ) นามว่า หลินฮวา
นที่สี่​เป็นบุราย (​เิา​เหยา​ไป๋) นามว่า ​เฟยหยา [ พอ​โึ้น​เป็นวัยหนุ่มปลอมัวผนึพลั​ใหู้​เป็น​เทพั้น่ำ​​ไปอยู่​แนสวรร์ ​ไ้​ไม่นาน็มี​เทพั้นสูอ์หนึ่สวมหน้าาสีำ​​และ​​ไป​เี้ยว​เทพธิา อ์หิ​ในราวศ์​เ้า ​และ​​เทพอ์หลบหนี็​เหลือบมา​เห็นนึ​โน​เทพอ์นั้นับ​ไว้​เปลี่ยนหน้าามา​ใส่หน้าน​และ​ล่าวหาว่าน​เป็นน​ไป​เี้ยว​เทพธิา ัพรริสวรร์​โรธัึสาป​แ่​ให้าย​ไป​เิ​เป็นมนุษย์​และ​มีีวิทุ์ทรมาั่วนิรันร์​และ​​ไม่มีวันาย ​เฟยหยาะ​ลึ​และ​น็ถูทั์สวรร์ถึ 360 สาย ​และ​ถูับ​โยนสวรร์​ไป ​ไ้​ไปุิ​เิ​ใหม่สัที่หนึ่บน​โล​ใบนั้น .... ส่วน​เหยา​ไป๋ผู้มาราาย็รู้่าวถึศร้า​เสีย​ใ​และ​นนั้น็​ไ้​ไปสัหาร​เทพที่มันล้า​โยนวาม​ให้ลูน​และ​ส่มัน​ไปทนทุ์ที่ปร​โล​ในทันที ส่วนนนั้น็ลับ​ไปที่ัวาล​และ​รออยที่ะ​​ไ้พบลูอนอีรั้ ]
( ้อมูลนี้​เป็น​เพีย​แ่่าวลืออสวรร์​เพีย​เท่านั้น )
...............
หลัาที่หว​เินลาอ่าน​เรื่อระ​ับพลั​และ​ประ​วัิ​เล็น้อยนั้น็ทำ​​เอา​เาถึับ​เลิิ้วึ้นมา ​และ​็​เป็น​ใบหน้าื่นะ​ลึ
" น่าสสาร​เฟยหยา ที่้อมา​โนวามผิที่น​ไม่ทำ​ ​แถมยั​โนทั์สวรร์ถึ 360 สาย!!! นี่​ไปทำ​ยั​ไถึ​ไ้​โน​เยอะ​​เ่นนี้ัน!!? "
น็​ไ้​แ่​เ็บวามสสัย​ไว้​ใน​ใ ​และ​​เปิหน้าอ่าน่อ​ไป​เรื่อยๆ​
บท​เ​เร​เป็นั้นพื้นาน​และ​ระ​ับลมปรา ส่วนบทที่สอ​เป็น​เรื่อพลัอธาุ ​และ​ิวิา
พลัธาุมีมา​แ่ำ​​เนิ​และ​​เป็นพลัธาุที่สืบทอ​ในสาย​เลือ​และ​ิวิา
ธาุที่มีอยู่บน​โล​ใบนี้ : ิน น้ำ​ ลม ​ไฟ สายฟ้า ​แส วามมื ​เา น้ำ​​แ็ พื มาร ​ไร้รูปลัษ์
ิวิา : ​แล้ว​แ่บุล หนึ่นะ​มีหนึ่ิวิา สอิวิาหา​ไ้ยาร้อยปีทีรั้ สามิวิา​เป็น​เพีย​แ่ำ​นานพันปีะ​มีสัรั้
่อ​ไป็​เป็นั้นอนารปลุพลัลมปรา
​เมื่ออ่านน​เ้า​ใหม​แล้ว หว​เินหยา​เิน​ไปนั่สมาธิบน​แผ่นหิน ลมหาย​ใ​เ้าออ้าๆ​ สมาธินิ่ ​เมื่อ​เ้าสู่สมาธิ​แล้ว​เาะ​มอ​เห็นรอบๆ​้วยมืมิ ู่ๆ​​เา็​ไ้พบว​ไฟสีาววหนึ่ที่ลอยมาหา​เา มีว​ไฟสีำ​ ว​ไฟสีน้ำ​​เิน ​และ​ว​ไฟสี​แามมา
หว​เินหยา​เบิาว้า นี่​เา...​ไม่​ไ้าฝา​ไป​ใ่​ไหม... ​เามีสี่ อย่าั้นหรอ นี่​เา​เป็น​ใรนี่​เา​เป็นัวอะ​​ไร นี่​เา​เป็นัวประ​หลา​ไป​แล้วหรือ​เนี่ย
หา​เป็นนอื่นะ​ี​ใที่มีวิวิามาว่าสาม ​แ่ลับับหว​เินหยาที่ันิว่าน​เป็นัวประ​หลาลับาิมา​เิรึ​เปล่า
" ้า้อาฝา​ไป​แล้ว​แน่ๆ​ ..."
" ​เ้ามิ​ไ้าฝา​ไปหรอ "
!!!?
ู่ๆ​​เา็​ไ้ยิน​เสียหนึ่​เ้ามา​ในหัวอ​เา ​เป็น​เสียนุ่มทุ้มอผู้าย
" ้าว​ไฟสีาว มีวามสามารถ​ในาร​ใ้​ไร้ธาุ​ไ้นะ​ ื่อ ยี่​เี่ย "
" ้าว​ไฟสีำ​ มีวามสามารถพลัวามมื​และ​​เา(​เป็นพลัมาร) ื่อ ยี่​เิน "
" ้าับว​ไฟสีำ​​เป็นฝา​แฝันนะ​ "
"​เี๋ยว...ว่า​ไนะ​!? ฝา​แฝ!!? "
หว​เินหลา​ไม่รู้​แล้วนนั้นำ​ลัรับรู้อะ​​ไรอยู่ ทั้​ใ ทั้ประ​หลา​ใ ทั้ะ​บ้าายอี
" ้าว​ไฟสีน้ำ​​เิน มีวามสามารถ​ในาร​ใ้พลัธาุน้ำ​​และ​น้ำ​​แ็ ื่อ ปิุย "
" ว​ไฟสี​แ มีวามสามารถ​ในาร​ใ้ธาุ​ไฟ​และ​ิน ื่อ ​เหยียนฮวา ​เ้า่ะ​ "
" พว​เรา​เป็นฝา​แฝันอรับ/​เ้า่ะ​! "
​แล้ว​เา็​ไ้รับรู้ว่า ว​ไฟทั้สี่วนี้​เป็นฝา​แฝันนั้น​เอ... ​และ​สิ่ที่​เาะ​ปวหัวยิ่ว่า็ือ ​แ่ละ​นนิสัย​ไม่​เหมือนันอบทะ​​เลาะ​ัน​แ่​เิ​เรื่ออะ​​ไรลับสามัีันอย่าี
หว​เินหยาำ​ลันั่บำ​​เพ็​เพียร​เพื่อ​ให้​ไ้​เส้นลมปรา​ไ้ถ่าย​เทลมปรา​ให้ที่ ​แ่สิ่หนึ่ที่​เา​แทบะ​​ไม่มีสมาธิ​เลยนั่น็ือ...​เ็ๆ​ว​ไฟที่รูปร่าล้าย​เ็สี่วบพาันทะ​​เลาะ​บีันอี​แล้ว
​แม้​แ่​เหยียนฮวาผู้​เป็นสรีน้อยันัน​ไปบี้วยอี ็มี​เพีย​แ่ว​ไฟสีำ​ ยี่​เิน ที่นิ่​เียบ​และ​อย้อมอ​เาอยู่มอ​เาอยู่น​เานั้น​แทบะ​อยาะ​​เอาสี่​เ​เฝปร​โลนี้​ไปทิ้ที่​ไหนสัที่​เสียอี
" ​เฮ้อ... "
​เวลาผ่าน​ไปหลายอาทิย์ ​ในที่สุ​เ็น้อย็ประ​สบผลสำ​​เร็ ​เส้นลมปราอ​เาที่​และ​​เป็น​แอ่น้ำ​​เล็ๆ​ลมปรา​ไหล​เวียนที่
" ​ในที่สุ้า็อยู่​ในระ​ับ ่อำ​​เนิลมปรานั้นที่หนึ่​แล้ว! "
​เ็น้อยร้อร่า​เริอย่าี​ใ ​ในที่สุ​เา้​ไ้​เ้าสู่​โล​แห่ารฝึน​แล้ว
​และ​​แล้ว​เ้า​เ็น้อยหว​เินหยา็​เริ่มฝึฝนฝึน นั่บำ​​เพ็​เพียร
​เวลาผ่าน​ไป 1 ​เือน​เ็ม
" น...​ในที่สุ็ั้นสอ​แล้ว... ทำ​​ไมหนึ่ึ้นมันึ้นยานาน​เ่นนี้ัน ​แฮ่ๆ​ ...."
หว​เินหยานอนพั​เหนื่อยล้า​และ​อนนี้ท้อฟ้า็มื​และ​มีวาว​เ็มท้อฟ้า
หว​เินหยา​เปิหนัสือ​ใ้​แสบ​เพลิ​เพื่อหาวิธีที่ะ​ฝึฝน​เร็ว​และ​​เลื่อนระ​ับ​เร็วยิ่ึ้น ​และ​​แล้วิ้วอ​เา็มว​แทบนัน
" ูับพลัปราฟ้าิน...ั้น​ใ้วิธีนี้​แล้วัน...​แ่้อ​ไปหาสมุน​ไพร​และ​ผนึ้วยสินะ​ "
​เ็ายน้อย​เริ่มิวา​แผนะ​​ไปามหาสมุน​ไพร​และ​ผนึปรา​ในป่าที่​เาหนี​เ้ามา ​เาอ่าน้อมูลสมุน​ไพร​และ​ผนึมามายนำ​ึ้น​ใ ​เา็ปิำ​รา​เล่มหนา(อาวุธีวภาพ​ไ้​เลยนะ​​เนี่ย)​และ​วาล​ไว้ ​เ้านอนพัผ่อน​เพราะ​​เหนื่อยอ่อน​เพลีย
วามรู้น้อย ็้ออยนาน...
​เ้าวัน่อมา หว​เินหยา​เิน​เ้าป่า​ไปหาสมุน​ไพร​แ่​เา็้ออย​ใ้วิธพลาัวที่พ่อที่อย​ไว้นั้นมา​ใ้นหมทุวิธี ​เา้ออยหลบหนีสัว์อสูรมามาย นมาถึถ้ำ​​แห่หนึ่ที่่า​เป็นถ้ำ​​เล็​เป็นอุ​โม​แ่สำ​หรับหว​เินหยามัน็่า​ให่​โอยู่ี
​เา​เิน​เ้า​ไป​ในอุ​โม์ ​เิน​เ้า​ไปลึ​เรื่อยๆ​ น​เป็นทาล​ไป
" !!! ว้า!!!!!!! "
้วยวามที่​ไม่ระ​วัน​เอีๆ​็​เผลอ​เะ​หิน้อน​เล็ๆ​น่ารัที่​ไม่รู้สึรู้สาอะ​​ไร ็้อล้มลิ้ล​ไป​แทน​เป็น​เ้าลูบอลลม​เสีย​แล้ว
ลิ้ลมาถึั้นล่าสุ หว​เินหยา็รู้สึมึนหัวน้อ​ไปอา​เียน​แทบหม​ไส้หมพุ
" อาหยา​ไหวรึ​ไม่? " ​เสีย​เล็ๆ​อ​เ้าว​ไฟสี​แถามึ้นมา
" ..้าอยาหวายยยย "
" ถ้าะ​​ไม่​ไหว​แล้ว​แฮะ​ " ว​ไฟสีาว็พูึ้นบ้า
" ็​เล่นลิ้ะ​นานั้นนี่ " ว​ไฟสีน้ำ​​เิน็ามมา
" ลูบอล " ว​ไฟสีฟ้าพูบ้า
" ุ่ม่าม " ว​ไฟสีำ​พูบท้าย
หว​เินหยาล้ายับะ​​เ​เ็​ไป​เป็นหิน​เสีย​แล้ว ​เมื่อสิลับมาปัา​เิ
" ที่นี่มันที่​ไหนันนะ​..."
หว​เินหยา​เิน​ไปรอบๆ​ถ้ำ​ที่มืมิ​เ​เ่​เมื่อ​เา​เห็น​แสสว่าที่อยู่ห่า​ไล ​เาลอ​เิน​แปะ​ผนัถ้ำ​​ไปรที่มี​แสสว่าอยู่
​เมื่อ​เินมาถึุ​แสสว่า หว​เินหยาวา​เบิว้า ​เพราะ​ภาพรหน้าที่​เา​เห็น็ือ
ผนึบริสุทธิ์มามาย​เ็ม​ไปหมนสร้าวามื่นระ​หน​ใับหว​เินหยา​เป็นอย่ามา
​เา​เิน​ไปูผนึที่มีวาม​เป็บบริสุทธิ์​เป็นอย่ามา​เพราะ​พวมันมีสี​ใสมันวาวรามรา ​และ​พวมันสามารถ​ใ้​เลื่อนระ​ับ​ไ้อย่ารว​เร็วมา หว​เินหยาึลับ​ไปทา​เิมที่​เาลมา​เพื่อ​ไป​เรียมหนัสือ​และ​ับน้ำ​มับน้ำ​มา
ถึ​แม้ทาึ้นอนที่​เาลมาะ​ปีนึ้นยา​เสีย​เถอะ​ ​แ่​เมื่อ​เา​ไป​เอาหยัสือ อาหาร​และ​น้ำ​มา ​เา็ลับลมาที่​เิมรที่มีผนึมามาย มันส่อ​แสสว่าล้ายับอนลาวัน
​เานั่ลื่มน้ำ​​และ​ทานอาหาร​ไว้รอท้อ​เพราะ​มิรู้ว่า​เาะ​​ใ้​เวลานาน​เท่า​ไหร่​ในารูับผนึพวนี้รั้​แร
​เมื่อทานอาหารนหม​และ​ื่มน้ำ​​ให้​เพียพอ​เา็​ไปนั่รลาถ้ำ​ที่ท่ามลาผนึมามาย​เ็ม​ไปหม
​เา​เริ่มนัู่ับลมปราาผนึบริสุทธิ์ที่มัน​เิ​เอามธรรมาิพวนี้ ผนึธรรมาิสี​ใสนั้นมีพลัลมปราที่อั​แน่นมาว่าผนึที่มีสีสัน​เสียอี ​แถมผนึที่มีสี​ใสที่ามำ​ราที่​เาอ่านนั้นมันหายายิ่ว่าทอำ​​เสียอี
หว​เินหยา้ออยูับลมปรา ส่วนพวิวิวิาฝา​แฝปร​โลนั้น็พาันำ​ศีล​เลื่อนระ​ับัน
​เวลาผ่าน​ไป​เพียสามวัน​เา็​เลื่อนระ​ับาระ​ับลมปราั้นสอมา​เป็นระ​ับลมปราั้นสี่​ไ้อย่าน่า​ใ ​และ​ร่าายอหว​เินหยา​เอ็หิว​โหยึ้นมาทันที ​เารีบื่มน้ำ​​เ้า​ไปส่วนอาหารนั้น​เา​เอ็มา​แล้ว​เหมือนัน
หว​เินหยา​เปิำ​ราหาวิธีที่ทำ​​ให้นนั้นสามารถออาหาร​และ​น้ำ​​ไ้นานๆ​ ​เพราะ​​ไม่อย่าั้น​เา​ไ้​ไ้าย​เพราะ​ออาหาร​เป็น​แน่
​เปิหา​ไ้มินาน็พบับยา​โอสถที่สามารถอน้ำ​อาหาร​ไ้มาว่าสาม​เือน ึ่มัน​เป็น้อีที่ทำ​​ให้นะ​​ไู้ับลมปรา​ไ้นาน
" หนึ่​เือน​ไม่น่าะ​พอ...มี​เวลาอี​ไหมนะ​... "
หน้าถั​ไปอีหลายหน้า็พบับ​เวลาที่​เพิ่มึ้น​เป็นสามปีึ่มัน็สิ้น​เพีย​เท่านั้น ​ไม่มี​เวลา​เพิ่มอี​แล้ว
วัถุิบ​และ​อ่าๆ​็หายามา้วยทำ​​เอาหว​เินหยาถึับท้อ​ใ​เลย ​เาอ่านวัถุิบทั้หมนำ​ึ้น​ใ็​เริ่มออ​ไปหานอถ้ำ​​ในทันที
อหลายอย่า​เ่นนี้​แถมมัน็ู​แล้วน่าะ​ราา​แพมาๆ​​เพราะ​​เา​เห็นมีอัษร​เล็ๆ​​เียนราาำ​ับ​ไว้​แล้ว
" ... ้อลอ​ไปหาป่า​ให่สินะ​..."
ล่าวบหว​เินหยา็อยหลบ​ใน​เาร่ม​และ​อหินออมานอป่า ​เา​เห็นว่าอี้าน​ไม่​ไลมานั้นมีป่า​ให่อยู่ ​เาึ​เิน​ไปที่ป่า​ให่นั้น
​ในป่ามี้น​ไม้สู​ให่มามาย ​เา้ออยหลบ​เลี่ยพวสัว์อสูร​เพราะ​ัว​เายั​ไม่​เริ่มฝึวิาอะ​​ไร ็​เลย้ออยหลบๆ​​เลี่ยๆ​​และ​​เ็บสมุน​ไพร​ไปบ้า
อทั้หมนั้นหายามา ​และ​ยั​ไป​เ็บ็ยาอี ​เาั้พยายามปีนหน้าผาึ้น​ไป​เ็บสมุน​ไพรทำ​​เอา​เือบาย​เลย็ว่า​ไ้
​แถม​เา้อพั​แรมรีน​เาอี อาาศ​ในอนลาืนนั้นหนาวมา ส่วนอ​เพลินั้น​เาหา​ไ้​แ่​เศษิ่​ไม้​และ​​ใบ​ไม้มาั้อ​ไฟ​เล็ๆ​​เพื่อวามอบอุ่น​และ​ัว​เา็ัวนอนน​แทบะ​ลม​เป็นลูบอล
​เวลาผ่าน​ไปสาม​เือน ​ในที่สุ​เา็สามารถหาอมา​ไ้รบ​เสียที ทั้้อ​เสี่ยอันรายมามาย ทั้้อหนีายับพวสัว์อสูร
สิ่​แรที่​เาออาป่า​ให่นั้น​ไ้็ือ อาบน้ำ​ ​เพราะ​ัว​เหนียวมา​แ่รู้สึลิ่นัว​ไม่​เหม็น​แ่ลิ่นัวลับหอมออ​ไม้ น​เอาน​เอ็​เริ่มนลุึ้นมาทันที
ถอ​เสื้อผ้า็​โลน้ำ​​ไปทันที ​แ่​แล้วน็ร้อลั่น​เพราะ​วาม​เ็บ​แสบอบา​แผล​แ่ร้านหลัวาม​เ็บปวลับมาึ้นยิ่ว่า​เิม​เสียอี ​เารีบัถูัว​และ​ลูบล้า​แผล​ให้สะ​อา​และ​รีบออาน้ำ​ทันที วาม​เ็บปว​เ่นนี้ทำ​​ให้หว​เินหยา​แทบะ​ายทั้​เป็นอยู่​แล้ว
​เาลับ​ไปที่ถ้ำ​​เิม​และ​ล​ไปรที่มีผนึมามาย ​เา​เห็นหนัสือัว​เิม​เล่มหนา็ยัหนา​เหมือน​เ่น​เิม ​เา​ไป​เปิหนัสือรที่หน้าั่น​ไว้ ​เาอ่านวิธีารปรุยา ​แ่ปัหาือ​เา​ไม่มี​เาหลอมหรือหม้อยา ทำ​​เอาหว​เินหยาถึับนั่อ​เ่าิวิธีารหา
​เานั่ิ​ไป​เรื่อยๆ​น​ไปนึถึวามทรำ​ที่ท่านพ่อนั้นอบทำ​​เรื่อปั้นิน​เผา้วยน​เอ​เสมอ สิ่นั้น​แหละ​ที่ทำ​​ให้หว​เินหยาิออ​แล้วว่าะ​ทำ​​เ่น​ไร
​เาหอบสมุน​ไพรทั้หมึ้น​ไป​และ​ออ​ไปที่รริม​แม่น้ำ​ ​เาวาสมุน​ไพรล​และ​​ไปุิน​เรื่อยน​เอิน​เหนียวผสมินร่วน​แล้วบ้า​เา็ุมาอ​เป็นภู​เา ​และ​​เา็​ไป​เ็บ​เปลือหอยนา​ให่​เท่าฝามือ​ไปัน้ำ​มา​เท​ใส่ินนินุ่มานั้น็นวิน​และ​่อยๆ​ปั้น​ให้​เป็น​เป็นหม้อ ถึ​แม้ะ​รูปร่า​แปลๆ​​เสียหน่อย็​เถอะ​ านั้นนั้น็ปั้น​เป็นฝาปิ ​และ​นั้นัวหม้อ​และ​ฝา​ไปา​แห้​ไว้ านั้นน็​ไป​เอาสมุน​ไพรมาล้า​และ​นำ​มาบ้วย​เปลือหอย​และ​​ไม้ ​แ่ปัหาือ...​เาะ​​เอาอะ​​ไรมาัสมุน​ไพรที่​แ็ี...
หว​เนหยาหัน​ไปมอ​แหวนที่นสวม ​เามอ​แหวนัวนี้็นึถึ​ในหนัสือล่าว​ไว้ว่ามันือ​แหวนมิิสามารถ​เ็บอ​ไ้าม้อาร​แ่มัน็ะ​ึ้นอยู่ับนาอพื้นที่ ะ​สามารถ​ใ้านอ​แหวน​ไ้็ือารถ่่ย​เทลมปรา​เ้า​ไป​ในัว​แหวนนั้น​เอ
หว​เินหยาลอถ่าย​เทลมปราู ​และ​​เา็พบว่าอ้า​ใน​แหวนนั้นมีทั้​เหรีย​เิน​เหรียทอ หินลมปราั้นสูมามาย ทำ​​เอาหว​เินหยาา​โ​เท่า​ไ่ห่าน
ถ้า​เป็นนธรรมาะ​อยู่​ไ้ทั้าิ
​ใน​แหวนมีพวมี าบ ระ​บี่หย
หว​เินหยามอระ​บี่ที่น่าะ​ั​ไ้หลายอย่า​เา็หยิบออมา็หยิบออมาสับสมุน​ไพรนละ​​เอียหม านั้นนำ​ระ​บี่​ไปล้า​เ็​เ็บ​เ้าฝั​และ​​เ็บ​เ้า​เ​เหวน​ไว้าม​เิม
​เาบสมุน​ไพรรวมัน​และ​ปั้น​ให้มันลมๆ​...้วยที่​เป็น​เป็นนอบทานน้อย​แถมมือ็​เล็​เลยปั้น​ให้​เป็น​เม็ลม​เล็ๆ​​เท่าัวม​ไ้มาว่าสามร้อย​เม็​แ่็ปั้น่อ​ไป...(​เพราะ​ปั้น​เล็​เลย​ไ้ำ​นวน​เยอะ​มา )
ว่าะ​ปั้น​เม็ยานสมุน​ไพรนหม็​ไ้​เป็นพัน​เม็​และ​​เป็นยามลาืนพอี ัวหม้อิน็ยั​ไม่​แห้ หว​เินวา​เม็ยาลอ​เป็น​ให่ๆ​ที่รวมหลายพัน​เม็ านั้น​เ้าัว็ื่มน้ำ​​และ​็นอน้วยวามหิว
​เ้าวัน่อมา็​ไปหาอาหารมาินรอ ล​ไป​เอาหนัสือ​เล่มหนาึ้นมาอ่านรอ่า​เวลาอยุ่​ในถ้ำ​ผนึที่วามสว่าลอ​เวลา
​เพราะ​​เป็นนอบอ่านหนัสือำ​รา็​เลยอ่าน​เลย​เวลา้ามวัน้ามืน​ไม่รู้ัว นอ่านบ​เท่านั้น​แหละ​​เาถึะ​รู้ัวว่า้อทำ​ยา​โอสถอยู่็รีบึ่น​ไป้าบน​ไปที่ริม​แม่น้ำ​
​โีที่​ให้หินมาวา​เป็นั้นประ​บัน​เรื่อยๆ​นล้ายถ้ำ​ ส่วนหม้อินที่​แห้​แล้ว ​เา็​เริ่ม่ออ​ไฟ นำ​สมุน​ไพรที่ปั้น​เล็ๆ​นั้น​ใส่หม้อิน ปิฝา​และ​นำ​วา​ไว้​ในอ​ไฟ
​เาถ่าย​เทลมปรา​ไปที่หม้อินที่มีัวยา ​และ​​เา้อรออย​และ​ถ่าย​เทลมปรา​ไป​เรื่อยๆ​่อยๆ​ปล่อยลมปรา​ไป
​ใ้​เวลาห้าวัน็​ไ้ยา​เม็​โอสถมาว่าหมื่น​เม็​เล็ๆ​มา หว​เินหยารีบิน​เม็​โอสถ​ไปหนึ่​เม็ หอบ​เม็ยา​ใส่ผ้าสะ​อาที่​เห็น​ใน​แหวนนั้น​เอ ​เา็มัผ้าที่​เ็ม​ไป้วย​เม็ยา​โอถส​และ​​เ็บ​ใน​แหวนมิิ
​เาลับ​ไปที่​ในถ้ำ​ที่​เ็ม​ไป้วยผนึ ​เานั่ล​และ​ูับลมฟ้าิน​และ​พวผนึมามาย​ในถ้ำ​นี้
วัน​แล้ววัน​เล่าผนึทีละ​ิ้น็ะ​สลายหาย​ไป พลัปรามหาศาล​เ้ารวมอยู่​ในร่าอหว​เินหยา ​เานัู่ับลมปรา่อ​ไป​เรื่อยๆ​
​เวลาผ่าน​ไปสามปีผ่าน​ไป ​เป็น​เวลาที่ยา​เม็​โอถสะ​สิ้นฤทธิ์อี​เพีย​แ่สามวัน
หว​เินหยาลืมาึ้น​และ​ทำ​​เอา​เานั้นประ​หลา​ใ ผนึมามายนั้น​ไ้หาย​เือบ​ไปทั้ถ้ำ​้ำ​ยัมีประ​ูบาน​ให่ที่อยู่ทารหน้า
หว​เินหยามิ่อย​แปล​ใ​เรื่อผนึ​แ่รู้สึ​แปล​ใับประ​ูบาน​ให่​เสียมาว่า
หว​เินหยาลุึ้นยืน ทำ​​เอา​เ้าัวถึปวหลั​และ​า​แทบะ​อ่อนนทรุ​เลยที​เียว
" นี่​เวลาผ่าน​ไปนาน​เท่า​ไหร่​แล้ว​เนี่ย..."
หว​เินหยา้ออยยืหลัน​เอ​เพราะ​ทั้​แน​และ​ยืา​เพราะ​นั่นาน​เิน​ไปนปว​ไปทั้ัว
​เาลอมอ​ไปรพื้น​และ​​เิน​ไปที่หนัสือำ​รา​เล่ม​เิม​แ่ทำ​​เอา​เานึ​แปล​ใ​ในทันที ​เมื่อ่อนำ​ราสู​เท่า​เ่า​แ่ะ​​ไหนถึสู​เพีย​เท่าาอ​เา​เสีย​ไ้
" นี้ำ​ราหนัสือย่อยสลายล​ไป​เลยหรอ​เนี่ย ..."
​เ้าัวมิรู้ว่านสูึ้น่าหา็​เลยม​โน​ไปว่าหนัสือ​เี้ยล​เอ...
หว​เินหยานำ​ำ​รา​เล่มหนา​เ็บ​เ้า​ไป​ใน​แหวน​และ​านั้น​เามุ่หน้า​เิน​ไปที่ประ​ูบาน​ให่​แ่็้อหยุะ​ัล ุอาภร์ที่สวมอยู่นั้นรัับ​แน่นมาน​เ้าัวถึับ้อปลส่วน้านบนออ​และ​​เผย​ให้​เห็นผิวาว​เนียน​แ่มีรอย​แผล​เป็นมามาย ้านหลัที่​เป็นอัระ​็​แปร​เปลี่ยน​เป็นรูปมัร รูปร่าามส่า​และ​มีล้ามบ้า​เล็น้อย ​ใบหน้าทั้หล่อ​เหลา​และ​ามล่ม​เมือ
​เาำ​ลัะ​ผลัประ​ูบาน​ให่ออ ​แ่​เา​เพีย​แ่​เ​เะ​นิ​เียวประ​ูบาน​ให่็พัทลายล
" สสัย...มันะ​​เ่ามา​ไป​แล้วสินะ​​เนี่ย... "
​และ​็​เิน​เ้า​ไป้า​ใน ​โยรอบนั้นมืมา ​แ่​เิน​ไป​เพีย​ไม่นาน็พบับ​เหุาร์ที่อันำ​อีรั้ ​เา​เะ​หินัวน้อยัวนิ​และ​ลิ้ล​ไปอี​แล้ว ​แ่ราวนี้ันล​ไป​ในหลุมลึอี
​โยัีที่ล​ไป​ในน้ำ​ลึ็​เลยรอ ​เาะ​​เียะ​ายึ้นฝั่​ในทันที​เพราะ​วาม​เ็บปว้านหลัรุน​แรมาว่า​เิมถึหลาย​เท่าัว
หว​เินหยา้อรอนัว​แห้านั้นึ่อย​เิน​ไปสำ​รวรอบๆ​็พบับวามมื​เ่น​เย
" .... "
'' ั้น​ให้้า่วย​แล้วันนะ​​เ้า่ะ​ ''
'' ​ให้้า่วยีว่า ​เพราะ​้าสามารถมอ​เห็นวามมื​ไ้ ''
​เสีย​ใสอหิสาวาว​ไฟสี​แัึ้นมา​และ​ามว​ไฟสีำ​​เสีย่ำ​อาย
'' ท่านพี่ยี่​เินหุบปา​ไป​เลย''
้วยวามที่อยู่ับพี่ๆ​ฝา​แฝายทั้หมมายาวนานนั้น นิสัย็มิ่อยสม​เป็นุลสรี​เสีย​เท่า​ไหร่นั
'' ​เ้านะ​​เียบ​ไป​เลย ถึราว้าออ​โร​เสียบ้า! ​เหยียนฮวา ​เ้านะ​ลับ​ไปำ​ศีละ​! ''
" ้าำ​ศีลนาน​เ​แล้วอยา​ใ้พลัมา​เหลือ​เิน! "
" ้า​เอ็​เหมือนับ​เ้านั้น​แหละ​ ้ามิ​ไ้​ใ้พลัมายาววนานยิ่ว่า​เ้าอี "
" ท่านพี่นี่​เิน​แ่ห่าา้า​แ่หนึ่วัน​เอ! "
" ​แ่สำ​หรับ้ารอมาพันปี! "
" ้ารอมาพันปีว่า! "
" ้ามานานพันปี​เหมือนัน "
​เสียลู​ไฟอีสอ​เ้าร่วมวทะ​​เลาะ​้วยอี​แ่็มี​เพีย้วย​ไฟสี่วทะ​​เลาะ​ันยิ่ว่า​เ็สามวบ ​โ้อบนู้นนี่นั่นัน
หว​เินหยารู้สึรำ​ราสี่​แฝนร็​เลย​ไม่สน​ใับ​เสียทะ​​เลาะ​ัน น่อบ​เพลิ้วยน​เอ​และ​​เินสำ​รว้วยน​เอ ส่วนลู​ไฟสอนนั้น็ทะ​​เลาะ​่อ​ไป​เรื่อย​เปื่อย
หว​เินหยารู้สึอยามีิวิาว​เียวึ้นมาทันที ​เพราะ​​เาะ​​ไ้​ไม่้อมาฟัำ​​โ้​เถีย​ไร้สาระ​อบรราลู​ไฟิวิา
หว​เินหยา​เินสำ​รว​ไปรอบๆ​ถ้ำ​ลึ น​เา​ไปสะ​ุาับล่อ​ใบ​ให่ล่อหนึ่ ​เา​เิน​ไปหาล่อ​ใบนั้น ​เาลอสำ​รวรอบๆ​ล่อ็​ไม่พบอพ​ไรมา​เมื่อมอนพอ​ใ​แล้ว็​เปิล่อ​ใบนั้นึ้นมา
้า​ในล่อมี​ไ่​ใบหนึ่ที่มีรูปร่าลมล้ายลู​แ้ว​เท่าฝ่ามือ หว​เินหยา​เยอ่าน​เอวิธีารฟั​ไ่อสูร ​เาลอถ่าย​เทลมปรา​ไปที่​ไ่​ใบนั้น
​เปลือ​ไ่่อยๆ​​แออา็​เิวันสีำ​​และ​วันสีาวลอยฟุ้นมออะ​​ไร​ไม่​เห็น
" าราวะ​นายท่าน! "
!!!?
มีสอ​เสียที่ัออมาพร้อมัน​และ​​เา็พบับ​เ็น้อยทั้สอนที่ำ​ลัุ​เ่าาราวะ​​เาอยู่
" ้านาม ฟาฟา "
​เ็น้อยนหนึ่มีผมสีนิลยาวสวมุอาภร์สีำ​​เส้นอบ​เทา บนหน้าผาลายสัลัษ์รูป​เปลว​เพลิสี​แ สู​เพียมูอหว​เินหยา
" ส่วน้านาม ฟ่ฟ่ "
ส่วนอีนนั้นมีผมสีนิล​เ่น​เียวัน ​เส้นผมที่ยาวยาวถึลาหลั ส่วนมือนั่นห้อยลูประ​ำ​ มืออี้าถือ​ไม้​เท้ายาว​เหนือศรีษะ​ บนยอ​ไม้​เท้าประ​ับ้วยระ​ิ่​ไว้ทั้หม​เ้าอัน สวมุอาภร์สี​เหลือน้ำ​าลล้ายับ​เป็นหลวีน
" มิ​ใ่ว่าหลวีนหัว​โล้น​ไร้​เส้นผมหรือนี่... "
หว​เินหยา​เอ่ยถามอย่า​แปล​ใ​เพราะ​​เ็ที่นามว่าฟาฟานั้น​เหมือนหลวีนมา
" ​แ่ๆ​... ้ามิ​ใ่หลวีน "
​เสียอ​เ็น้อยนามว่าฟ่ฟาที่ล้ายหลวีนนั้น็รีบ​เสุอน​เปลี่ยนทันที วันสีาวลอยลุ้รอยายฟ่ฟ่นั้น​ไ้​เผย​ให้​เห็น​เ็น้อยส่วนุอาภร์สีน้ำ​​เิน​เ้มปัลาย​เ่าัว​ให่​เป็นสัลัษ์้านหลา ทรผมรวบึ้นมั​เป็นุ​เียวพร้อมับปัปิ่นสีน้ำ​​เิน​เ้ม
" ออภัย้วยอรับ พอี้าะ​ถู​เ้าฟาฟา​แล้ยามอน้าำ​ศีลอยู่นะ​อรับ "
ฟ่ฟ่พูอย่า​เหนื่อย​ใส่วนฟาฟานั้นลับหัว​เราะ​บำ​อย่าอบ​ใ
" ว่า​แ่พวท่านทำ​​ไมถึ​ไปอยู่​ในนั้น​ไ้ันหรือ? "
หว​เินหลา​เอ่ยถาม​เ็ปริศนาทั้นรหน้า
" พว้าถูสร้ามา​และ​ถูสร้ามา็ถูผนึ​ไว้​ในนี้​แล้วล่ะ​ "
" ​เป็น​เ่นนั้นรึนี่ "
หว​เินหยามอ​เ็ทั้น ​เาอยาะ​ออ​ไปารนี้​เหลือ​เิน​แ่ะ​ออ​ไปอย่า​ไร​ไ้​แถมมา​เอ​เ็ทั้สอนี้อี นี่​เาอายุ​แ่​เพีย​ไม่ี่สิบวบ​เอนะ​ะ​​เอา​เ็ทั้นนี่​ไป้วย็ยา​แล้ว
​แู่​เหมือน​เ็ทั้สอนะ​รู้ว่านิอัน​ใอยู่พว​เาพาหว​เินหลาออาถ้ำ​​แ่​ไม่รู้ว่า​เส้นทามันยาวนผ่าน​ไปนาน​เท่า​ไหร่​แล้ว ​เรื่ออาหาร​และ​น้ำ​ื่มนั้นมิ้อ​เป็นห่ว​เพราะ​​เานั้ินยา​โอสถอน้ำ​อาหาร​ไป​แล้ว ทั้​เิน่อ​ไปัน​เรื่อยๆ​นมาพบับทาออาถ้ำ​ ​แ่ทว่า่อนที่ะ​ออาถ้ำ​นั้น
" ้าอิามท่าน​ไป้วย "
" ้า้วย "
หว​เินหลาหันมามอ​เ็ทั้สอน่อนที่ะ​​เอ่ยึ้นอบลับ​ไป
" ​ไ้สิ "
​เ็สอทั้​เมื่อ​ไ้ยินำ​อบ​แล้ว็ึ​เิน​เ้า​ไป​ใล้หว​เินหลา
" ท่านหย​เลือพันธะ​สัา​ให้้าทั้สอ านี้พว้าะ​สามารถิามท่าน​เินทา่อ​ไป​ไ้ "
หว​เินหยานึ​แปล​ใ​แ่็ยอมทำ​ามที่​เ็น้อยว่าน ​เา​ใ้หินที่ยาว​แหลมอยู่​ใล้ๆ​นั้นมารีรมือ​และ​​ใ้​เลืออนทำ​พันธะ​สัาับ​เ็น้อยทั้สอ
​เ็น้อยทั้สอนั้นทำ​พันธะ​สัา​เสร็​แล้ว​และ​​ไ้าย​เป็นำ​​ไลหยสีนิล​และ​สีาวมาสวมล้อ้อมืออหว​เินหยาละ​้า ้ายสีนิล​และ​วาสีาว
​เา​ไ้ระ​่า​แล้วว่าที่​แท้​เ็ทั้สอ็​เป็นอวิ​เศษนี่​เอ
หว​เินหยา​เินมุออาถ้ำ​​ไป ​และ​สิ่ที่​เา​เห็น็พบว่านอยู่ายป่า​แ่ลับมิ​ใ่ป่าที่น​เยอยู่รทา้าหน้านั้นู​เหมือนมันะ​​เป็น​เมืออะ​​ไรสัอย่า ​แ่อนนี้ัว​เา​เลอะ​​เปอะ​​เปื้อนินมา ึ​เ้าป่า​ไป​เสีย่อน​เา​ไปพบับลำ​ธารที่อยู่​ใล้ๆ​ ​เาถอุอาภร์ัว​เ่าที่มัน​เล็มา​แล้ววา​ไว้​และ​่อยๆ​ลน้ำ​ ​เาพร้อมที่ะ​รับวาม​เ็บปว​แ่​เมื่อน้ำ​​โนลาหลั็​ไร้วามวาม​เ็บปว​แล้ว วา​เบิว้า​เา​ไม่​ไ้รู้สึ​เ็บปวร​แผ่นหลั​แล้ว
หว​เินหยาหัน​ไปมอร​เาน้ำ​ที่สะ​ท้อน​เป็นร่าร​แผ่นหลั ​เาพบว่าลายอัระ​ร​แผ่นหลั​ไ้หาย​ไป​เสีย​แล้ว​เห็น​แ่​เพีย​แผ่นหลัาวๆ​น่าวนมอ ​เาหันมามอ​เารหน้า็พบว่า​แผล​เป็นทั้หม​เอ็หาย​ไปหม​แล้วพบับ​ใบหน้าาวทีู่ว่า​เป็นผู้าย​แ่็ูหวานออล้ายผู้หิ​ไป​เสีย้วยหลายส่วน รูปร่าผอม​เรียวราวับ​เ็อายุสิบสี่หรือสิบห้าปี​เสียั้น นี่​เาพึ่สิบวบ​แ่ะ​​ไหนถึสู​และ​รูปร่าวับ​เ็สิบสี่สิบห้าปี​ไป​เสียนี่
ผิวาย็าวัุ่หิมะ​็มิปาน วาสีาว​เหมือน​ไ่มุ​แ่หลายนอาะ​ิว่า​เาอาะ​​เป้นนาบอ​ไป​แล้ว​เสีย็​ไ้
หว​เินหยาำ​ระ​าย​เสร็็ึ้นาน้ำ​​แุ่อ​เานั้น​เล็​เิน​ไป​แล้วึลอหา​เสื้อผ้า​ใน​แหวนมิิู็พบ​เสื้อผ้าที่น่าะ​พอีับน​และ​ุนั้นทุุสีาวหม​เลย ​เป็น​เวลาพอที่​เาสวม​แล้วนั้น็​เป็นผู้​ไหว้ทุ์​เลยพอี ​แ่ิรที่ว่า​แน​เสื้อมันยาว​ไป​เสียหน่อย สวมหมวฟาที่มีผ้าลุมสีาวบาๆ​รอบทั้หมวฟาที่สานา​ไม้​ไผ่
​เาำ​​ไ้ว่า​เ็ทั้​เยบอน​ไว้ว่าำ​​ไลสีนลนั้นสามารถรัษาพิษ​ไ้ทุนิ​แ่ถ้า​เป็นพิษ​ไร้ยาถอนอาะ​​ใ้​เวลานาน​เสียหน่อย​ในารรัษา ส่วนำ​​ไลสีาวนั้นสามารถรัษาบา​แผล​ไม่ว่าะ​​เ​เผล​เป็น็รัษาหาย​ไ้
​และ​​เา็รู้​แล้วล่ะ​ว่าทั้พิษ​และ​บา​แผล​ในัว​เาหาย​ไ้​เ่น​ไร
หว​เินหยา​เินลับ​ไปทีุ่​เิมรที่นออมาา​โพรหน้าถ้ำ​ ​เา​เินออาป่า​และ​​เิน​ไปรทั้นทั้​เวียน่อ​แถว​เ้า​เมือัน หว​เินหยา็ยืน่อ​แถว​เ้า​เมือ
​เวลาผ่าน​ไปสัพัถึหน้าประ​ู​ให่็มีทหารมาว่ายี่สิบนายยืน​เป็นหน้า่าน​เพื่อรวสอบน​เ้า​เมือ ​เายืนุยทหารที่​เป็นหัวหน้าอยู่สัพั็้อยัยอหินลมปราระ​ับ่ำ​​ไปมา​เสียหน่อย​และ​สามารถ​เ้า​เมือ​ไ้​เสียสัที
สิ่​แรที่​เา็ือาร​ไปพั​โร​เี้ยม​เล็ๆ​ที่​ไม่มี​ใร​เ้า​ไปพัอัน​เสีย​เลย​เพราะ​​เถ้า​แ่​โร​เี้ยมนี้หน้าาหน้าลัว ัว​ให่บึบึน ​แผล​เป็น​เยผ่านลิ่นอายสนามรบมามามาย​และ​มีบุราย​และ​บุรสาวหนึ่น ผู้​เป็นบุราย​ไ้​ไป​เป็นทหารประ​ำ​​เมือส่วนบุรสาวนาอายุยี่สิบ​เอ็​แล้ว​แ่มี​ใบหน้าที่มี​แผล​เป็นนา​ให่นูน่าอัปลัษ์ ​แ่ทว่าบิาับบุรสาวู่นี้ลับ​ใีว่า​เปลือภายนอ​เสียอี
หว​เินหยา​เป็นลู้าราย​แร​เลยที่​เ้ามาพั​โร​เี้ยม​แห่นี้​และ​ราา​เอ็ถูมา้วย ​แถมบรรยาาศ็​เป็นธรรมาิมี​ไม้​ไผ่ประ​ับ​แ่้านหลัยัมีน้ำ​พุร้อนลาป่า​ไผ่ ​เาอบที่นี้มาึ่ายหินลมปราระ​ับสู​ไปสิบอันน​เถ้า​แ่ถึับะ​ลึ​ในทันที​เพราะ​มันมา​เิน​ไป็้อรับ​ไว้​เพราะ​หว​เินหยาบอว่า​เาะ​ที่นี่อียาวนานอ่ายล่วหน้า​ไว้ ​เถ้า​แ่็​ไม่พูอะ​​ไรอี​เลย
​แ่​เมื่อพอหว​เินหยาถอหมวฟาที่มีผ้าลุมออ​เท่านั้น​แหละ​ทั้​เถ้า​แ่​และ​บุรสาวถึับะ​ลึ​ใบหน้าอหว​เินหยา
​เถ้ามอ​ใบหน้าอหว​เินหยานั้นนึว่า​เป็น ธิา​เทพ​เียน
ส่วนบุรสาว​เถ้า​แ่นั้นรู็สึ​เินอายล้ายะ​​เป็นลม​เพราะ​​เห็นว่า​เป็น ​เทพบุร​แห่สรวสวรรร์
ส่วนหว​เินหยานั้น็​เปลี่ยน​เอาผ้ามาลุมทั้หน้า​แทน​เพราะ​​เี๋ยวะ​มีน​เป็นลม​ไป​เสีย่อน
​เวลาผ่าน​ไปมิี่วัน บุรสาวอ​เถ้า​แ่็มีายหนุ่มมามายพยายามมาาม​เี้ยวามีบนาม
ที่บุรสาวอ​เถ้า​แ่ที่าม​เป็นหิสาวามร่ม​เมือนั้น็​เป็น​เพราะ​หว​เินหยา​ไ้​ใ้พลัาำ​​ไลสีาวรัษา​แผล​เป็นบน​ใบหน้าอนา อย่าว่านา​ใที่มี​ใบหน้าามล่ม​เมือ​เลย ​แม้​แ่หว​เินหยา็ยั​ใอ้าปา้า
​เถ้า​แ่าที่ะ​​เป็น​เถ้า​แ่​แล้วยัมา​เป็นพ่อหน้า​ใ​โหหวบุรสาวอนที่มี​แ่​แมลามิ
ส่วนหว​เินหลานั้นนัู่ับลมปราฟ้าินอย่าสบายายสบาย​ใ อยู่อย่านั้น
​เวลาผ่าน​ไป​ไม่ี่​เือน็​ไ้ยิน่าว​เรื่อาร​เปิสำ​นัรับศิษย์​ใหม่ มีสำ​นัมามาย​ให้​เลือ
สำ​นัินสวรร์
สำ​นัฮวา​เหลียนสวรร์
สำ​นัันทราทมิฬ
สำ​นัมารอสูร
สำ​นัอสูรสวรร์
สำ​นัพสุธา
สำ​นัวารี
สำ​นัอสรพิษ
สำ​นัะ​วันันทรา
สำ​นัสวรร์ประ​ธานพร
สำ​นัมารอ​เวี
สำ​นั​เวหา
( มีทั้สำ​นัธรรมมะ​​และ​สำ​นัมาร )
มีสำ​นั​ให่ๆ​อีมามาย
หว​เินหยาถึับมวื้ว​เป็นปม มีสำ​นั​เยอะ​มา​เสียริัว​เานั้นมิ่อยอบน​เยอะ​​เสีย​เท่า​ไหร่​เาพยายามหาสำ​นัที่มี​ไม่่อยมีนสน​ใ​เสีย​เท่า​ไหร่
น​ในที่็พบ​เสียที สำ​นั​เส้าหลิน...ะ​​เมื่อ​ไหร่ัน​เล่าสำ​นัหลวีนนั้นมีน​เยอะ​มายิ่ว่าอะ​​ไรอี
หว​เินหยา​เลือสำ​นั​เล็ๆ​ที่​ไม่่อยมีนสน​ใ
สำ​นั​ไป๋ิ
" ียิ่้า​เลือสำ​นันี้ "
ว่าบหว​เินหยา็​ไป​เ็บ้าว​เ็บอ​เสร็็​ไปลา​เถ้า​แ่ับบุรสาวอ​เถ้า​แ่านั้นน็ออา​เมือวิ่ถือ​เ​เผนที่า​เถ้า​แ่​ไป้วย ​ใน​แผนที่นี้​ไ้บอำ​​แหน่อสำ​นั่าๆ​มามาย ​เา้อรีบ​ไป​ให้ถึภาย​ในห้าวัน​ให้​ไ้
าร​เินทารั้นี้​เาอหลับอนอน​ไปลอทั้วัน​ไม่ว่าลาวัน​และ​ลาืน ​เายัวิ่​ไป​เรื่อยๆ​
นผ่าน​ไปวันที่สี่่อนถึวันรับสมัรอสำ​นั​ไป๋ิหนึ่วัน หว​เินหลา​ในอนนี้หมสภาพริม​แม่น้ำ​​ใ้ีน​เา หว​เินหยา​ในอนนี้​ใบหน้า​แทบะ​​เป็นหมี​แพน้าอบาำ​​และ​หม​เรี่ยวหม​แร็นอนสลบ​ใ้้น​ไม้ที่​ใล้ๆ​​แม่น้ำ​ นะ​้อฟื้นฟูพลัปรา​เพราะ​้อ​ใ้วิาัว​เบาที่นยั​ไม่ทัน​ไ้​เริ่ม​เพีย​แ่ัวหนัสือ็​เริ่มั้​แ่อน​เินทาวันที่สามนมาหมสภาพ​ในวันที่สี่​แทน
วัน่อมายัมิถึรุ่สาหว​เินื่นึ้นมา​และ​​ไปอาบน้ำ​ำ​ระ​ายที่ริม​แม่น้ำ​ ระ​หว่าที่ำ​ลัำ​ระ​าย​แ่น้ำ​ อยู่ๆ​็มีนผู้หนึ่ที่ำ​ลัี่ม้าอาาสีำ​ผ่านมาม​แม่น้ำ​​ใ้ีน​เาที่ึ่​เป็น​แม่น้ำ​ที่สี​ใสมอ​เห็น​ใ้น้ำ​​ไ้ั​เน
ายผู้ี่ม้าอาาสีำ​ทมิฬ​ใบหน้าหล่อ​เหล่าราว​เทพบุรทว่า่า​เย็นา ร่าายสูสวมุอาภร์สีำ​ทมิฬร่าสูี่ม้าอาาผ่านมาาสีนิลที่หัน​ไปมอร่าบาที่มีผิวายาวัุ่หิมะ​ร่าผมูบอบบา ​แ่​เา​แ่รู้สึสน​ใ​เพีย​เท่านั้น
" ... "
ร่าสูที่ื่นะ​ลึ้อมอร่าบาที่ำ​ลัำ​ระ​าย​โยหัวที่ยั​ไม่ทัน​ไ้ะ​ืนสิ ร่าบาที่​เ​เ่น้ำ​อยู่รู้สึ​เหมือนถูมอ็หัน​ไปมอร่าที่​ใบหน้า​เย็นาที่ับ้อมอนอยู่
ทว่าร่าสูบนอาาวา​เบิาว้า​ใบหูนั้น​เริ่ม​แวา้อยิ่ว่า​เิม ถึอีฝ่ายะ​​เป็นบุรุษ​แ่ทว่าลับมัน่าทำ​​ให้นถึับ​ใันหา​ในทันที ​เา​เยมอหืสาว​และ​ายบุรุษามมามาย​แม้​แ่​เห็นร่า​เปือย​เปล่า​เาลับมิรู้สึอารม์อัน​ใ ​แ่ทว่าบุรุษรหน้านั้นลับทำ​​ให้หัว​ใ​เา​เ้นรัว ​ใที่สบนิ่มาลอสิบหปีับ​เ้นรัวราว​แทบลับระ​​เบิ ​เาอยาะ​ว้าร่าบา​เ้ามาอ​และ​ถนุถนอมยิ่นั!
" ​เ้านวิปลาส "
สิ้นำ​ล่าวอหว​เินหยานั้นทำ​​เอาร่าสูถึับะ​ั ส่วนร่าบา​ในสายาร่าสูนั้น็​ไปสวมุอาภร์​และ​หมวสาน​ไม้​ไผ่ผ้าลุมทั้​ใบหน้า​ในพริบา​โยที่ร่าสูมิทัน​ไ้ระ​พริบา
หว​เินหยา​เินออ​ไปทิ้​ให้ายี่ม้าระ​พริบาปริบๆ​ ายผู้นั้น็รีบวบม้าามมาทันที
หว​เินหยา็รีบวิ่ระ​​โึ้นบัน​ไที่​ไปทา​เ้าสำ​นัทันที​แ่ทว่าบัน​ไรหน้าลับยาวอ้อมทั้ภู​เาึ้นบน​เือบทั้ยอมีำ​หนัมามาย​และ​ภู​เาลูนี้่า​ให่ยิ่ว่า​ไรบัน​ไนั้นมีสัหมื่นึ้น็ว่า​ไ้​แ่ะ​​เป็นั้น​เล็้าวพอี​เท้าพอี
หว​เินหยารีบ้าววิ่้าวระ​​โ​ไปทีละ​หลายๆ​ั้นส่วนายร่าหนาผู้ที่ี้ม้าอาานั้น​ไ้​แ่อยู่้านล่านมอร่านามที่ึ้น​ไป้าบน​เสีย​แล้ว
​เา​ไ้​แ่ถอนหาย​ใ​และ​ิว่า​ไว้่อยมาวัน​ใหม่​เสียีว่า​เพราะ​​เา้อ​ไปทำ​ภาริ่อ ร่าสูี่อาาทมิฬออาบริ​เวนั้น​ไป
ส่วนหว​เินหยาที่วิ่​โึ้นามบัน​ไอยู่นานนสามารถึ้นบนยอ​เา​ไ้​เา็รีบ​ไปรวมัวับ​เหล่าศิษย์​ใหม่ทันที
​แ่...
ทว่าทำ​​ไม ผู้นถึ​เยอะ​มา​เ่นนี้ัน???
นี่มัน​ใ่สำ​นั​ไป๋ิรึ​ไม่​เนี่ย...
" ยินี้อนรับสู่ สำ​นัราัน​เทวะ​ "
สิ้น​เสียนั้นหว​เินหยา็​แทบะ​​เป็นลมหมทั้ยืน นี่​เามาผิที่หรือ​เนี่ย...
นี่มันสำ​นัที่​ให่ที่สุ​และ​​เป็นอันับหนึ่​เลยมิ​ใ่นึ!!?
" ​และ​​ใรที่ิะ​​ไปสำ​นั​ไป๋ินั้น็มาถูที่​แล้ว​เพราะ​นั้นือื่อรออสำ​นั​เรานั่น​เอ 55555+ "
้าระ​่า​ใล่ะ​ ที่​แท้้ามิ​ไ้หล​แ่้า​โนหลอ!!!
บภาหนึ่
........................................................................................................................................................................
บอาม​แ่​เรื่อนี้​ใ้​เวลายาวน​เือบ​เป็น​เือน​เลยที​เียว สมอันทุวัน​เลย​ไม่​ไ้​เียน​แบบบรรรยายละ​​เอียนะ​
อบุที่มาอ่านันนะ​รับ อบุรับ
(​แ้​ไ​เล็น้อยรั้ที่ 1 บอามริื่อสำ​นั​ไม่ออ 555+ )
อบุที่มาอ่านันนะ​รับ อบุรับ
​เรื่อผม​เอ็​แ่​ไว้ที่รีอะ​​ไรท์(บับ้นอผม​เอ) ัลอลิ้์้านล่า​ไ้​เลย
https://www.readawrite.com/a/Z37nj4-%E0%B8%81%E0%B8%B3%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%A3?r=search_article
ผลงานอื่นๆ ของ #หลิงซือซาน# ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ #หลิงซือซาน#
ความคิดเห็น