230 ปีก่อน
ในงานเลี้ยงพระกายาหารมื้อค่ำ
"พระองค์ ได้เวลาแล้วพะยะค่ะ ขณะนี้ขุนนางใหญ่ทั้ง 4 ตระกูลพร้อมเข้าเฝ้าพระองค์แล้ว"
มหาดเล็กคนนึงเอ่ยกระซิบข้างหูของ จักรพรรดิลุดวิค ขณะที่ท่านกำลังทรงพระเกษมสำราญกับไวน์ชั้นเลิศที่อยู่ตรงหน้า
"งั้นหรอ มากันแล้วหรอ"
จักรพรรดิตรัสกลับ จากนั้น พระองค์ก็ทรงยืนขึ้น ประกาศแก่แขกทุกคนในงานเลี้ยงด้วยเสียงที่ก้องกังวาล
"ขณะนี้ ส่วนที่สำคัญที่สุดของงานจะเริ่มแล้ว นั่นก็คือ การชิมไส้กรอกแห่งราชสำนัก 4 ตระกูลขุนนางชั้นนำแห่งการปรุงไส้กรอก ขอให้ทุกท่านได้เพลิดเพลินไปกำการชิมไส้กรอก ครั้งที่ 37 แห่งราชสำนัก"
เสียงปรบมือเกรียวกราวดังลั่นไปทั่วท้องพระโรง เหล่าข้าราชบริพาน ต่างนำไส้กรอก 4 ชิ้น ตัวแทนแห่งขุนนางทั้ง 4 ใส่ลงบนจานของแขกแต่ละคนในท้องพระโรง
งานเลี้ยงดำเนินไปย่างรื่นเริงจุดกระทั่งถึงช่วงสุดท้าย
"จากนี้ จะขอเรียนเชิญองค์จักรพรรดิ ได้ให้คำตัดสินว่าไส้กรอกของตระกูลใด เป็นที่ 1 แห่งไส้กรอกทั้งมวล"
เสียงมหาดเล็กกล่าวเชิญองค์จักรพรรดิ ตัดสินในช่วงสุดท้าย
ช่วงทั้งทุกคนต่างเงียบและรอลุ้น ขุนนางคนใดกันนะที่จักรพรรดิพอพระทัย ขุนนางคนใดที่จะยิ่งใหญ่ที่สุดในทวีปรองจากองค์จักรพรรดิ
ตระกูล กริลวูสท์
ตระกูล บอยล์วูสท์
ตระกูล เบควูสท์
หรือว่าจะเป็น
ตระกูล ฟรายด์วูสท์
เสียงอึกทึกนั้นเงียบไปชั่วครู่เพื่อให้องค์จักรพรรดิ ได้ใช้เวลาตัดสิน ผ่านไปไม่นานนัก เพราะองค์ก็ตรัสออกมาว่า
"แม้ไส้กรอกนั้นจะแตกต่าง แต่ก็เป็นไส้กรอกเหมือนกัน จะเอาไป ต้ม ทอด ย่าง หรือ อบ ก็มิอาจจะแบ่งแยกได้ว่าใครเหนือกว่าใคร ไส้กรอกทั้ง 4 ต่างมีข้อดีข้อด้อยในตัวของมันเอง เช่นนั้นแล้วเราจึงตัดสินว่า ทุกตระกูล เสมอกัน"
เมื่อสิ้นเสียงคำประกาศ ทุกคนในท้องพระโรงต่างแน่นิ่ง กว่า 400 ปีของการทำไส้กรอกราชพิธี ไม่เคยมีการเสมอกันมาก่อน ทำให้ผู้ร่วมงานเลี้ยงไม่พอใจเป็นอย่างมาก
ทันใดนั้นเอง
"อ๊ะ...."
จักรพรรดิ ทรงส่งเสียงออกมาและค่อยๆตัวลมลงไปที่พื้น พร้อมมีมีดปักอยู่ที่กลางหลัง
"จักรพรรดิทรงถูกลอบปลงพระชนม์!!"
ผู้ร่วมงานคนหนึ่งตะโกนขึ้น ทุกๆคนนั้นแตกตื่นไปกับภาพที่เห็น จะมีก็เพียง 4 ขุนนางที่ทำไส้กรอกเท่านั้น
ขุนนางทั้ง 4 เดินขึ้นไปหลังโต๊ะอาหารขององค์จักรพรรดิ จากนั้นขุนนางตระกูล กริลวูสท์ ก็เอ่ยขึ้น
"ขอให้ทุกท่านอยู่ในความสงบ!!"
ด้วยเสียงที่ดังและมีพลังราวกับมนต์สะกดที่ทำให้ทุดคนในงานต้องทำตาม
"พวกเรา 4 ขุนนางใหญ่ของทวีปเทนเนเซีย เป็นผู้สังหารจักรพรรดิลงเอง"
ด้วยเสียงประกาศเช่นนั้นทำให้ทุกคนเงียบ ไม่มีใครพูดอะไรทั้งนั้น
"ท่านเองก็รู้ไม่ใช่หรอ ว่าท่านชอบไส้กรอกของตระกูลใดที่สุด คำตัดสินที่ขัดกับธรรมเนียม 400 ปี เป็นสิ่งที่เรายอมรับไม่ได้"
ขณะที่ขุนนางในงาน กำลัง งง กับสิ่งที่เกิดขึ้น
"ใช่!! เรารู้ดี และเรายอมรับไม่ได้"
"ใช่"
"ใช่"
เสียงขุนนางในงานเริ่มตอบกันดังขึ้น
"เอาล่ะๆ ตอนนี้ไม่มีจักรพรรดิคอมกดหัวพวกเราเอาไว้แล้ว ขุนนางท่านไหน ที่ชอบไส้กรอกของตระกูลใด ก็จงตามรับใช้ตระกูลนั้นเถิด"
เสียงเฮลั่นท้องพระโรง และหลังจากนั้น ทั้งทวีปก็แบ่งออกเป็น 4 อาณาจักร นำโดย 4 ตระกูลที่พึ่งได้สังหาร จักรพรรดิลง
หลังจากนั้นไม่นานก็เกิดกระแสการแข่งกันทางอุดมการณ์ขึ้น ไส้กรอกในแบบของอาณาจักรใด ที่มีการปรุงได้เลิศที่สุด จนนำมาซึ่งความขัดแย้ง ผู้คนเริ่มย้านถิ่นฐานไปตามอาณาจักรที่ตนชอบ จนในที่สุด จากความขัดแย้งเล็กๆ เริ่มลุกลามกลายเป็นมหาสงคราม ที่ลุกไหม้ไปทั้งทวีป จากความเห็นที่ไม่ตรงกัน
ณ อาณาจักร กริลวูสท์
"ข้าขอตั้งปณิธาน ต่อมหาไส้กรอกย่าง แม้จะลำบากแค่ไหนไฟจะร้อนแรงเพียงใด ข้าจะอดทนและผ่านมันไปให้ได้ ราวกับไส้กรอกหลังย่างไฟ ที่แข็งแกร่งแต่อ่อนโยนอยู่ภายใน"
ณ อาณาจักร เบควูสท์
"ข้าขอตั้งปณิธาน ต่อมหาไส้กรอก-อบ ความอดทน ในสถานการณ์ที่ร้อนรุ่ม ทำให้ตัวข้านั้น แข็งแกร่ง และอยู่รอด ราวกับไส้กรอกอบหนังกรอบ ที่แม้จะเจ็บปวดแต่ก็ทนได้กับทุกสิ่ง"
ณ อาณาจักร ฟรายด์วูสท์
"ข้าขอตั้งปณิธาน ต่อมหาไส้กรอกทอด แม้ภายนอกจะมีแผลมากเพียงใด ข้าก็มิเคยหวั่น ขอเพียงได้ปกป้องสิ่งที่อยู่ภาพใน ราวกับใส้กรอกทอดที่แม้หนังจะพุพอง แต่ก็สามารถรักษาเนื้อใดไว้ได้"
ณ อาณาจักร บอยด์วูสท์
"ข้าขอตั้งปณิธาน ต่อมหาไส้กรอกต้ม ทุกสิ่งนั้นใช้เวลาและความอดทดในการสรรสร้าง เช่นนั้นเราจึกรักษาวัฒนธรรมและรูปแบบของเราเอาไว้ไม่ให้จางหายไปตามกาลเวลา ราวกับไส้กรอกต้ม ที่ไม่ว่าจะต้มนานแค่ไหน รูปร่างของมันก็ยังคงไม่เปลี่ยนไป"
มหาสงคราม การแย่งชิงอำนาจ การขึ้นเป็นจักรพรรดิและประกาศว่าไส้กรอกของตนนั้นดีที่สุด ได้เริ่มขึ้น จากตอนนั้น
ความคิดเห็น