จอมยุทธ์โลกซอมบี้ [จบภาค 1] - นิยาย จอมยุทธ์โลกซอมบี้ [จบภาค 1] : Dek-D.com - Writer
×
NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ
  • มีการบรรยายเนื้อหาที่เกี่ยวกับความรุนแรงสูง

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด

    จอมยุทธ์โลกซอมบี้ [จบภาค 1]

    เมื่อประมุขนิกายยุทธ์อันดับหนึ่ง ล้มเหลวในการเป็นเซียน ซ้ำวิญญาณหลงไปต่างโลก เกิดใหม่กลายเป็นเด็ก หวังอยู่สบายเหมือนคนทั่วไป แต่โลกดันมีไวรัสซอมบี้ เขาเลยต้องปกครองผู้คนเพื่อให้อยู่รอด

    ผู้เข้าชมรวม

    75,616

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    132

    ผู้เข้าชมรวม


    75.61K

    ความคิดเห็น


    186

    คนติดตาม


    1.6K
    จำนวนตอน :  208 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  11 เม.ย. 66 / 12:46 น.
    คำเตือนเนื้อหา NC

    มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ, มีการบรรยายเนื้อหาที่เกี่ยวกับความรุนแรงสูง

    อีบุ๊กจากนิยาย ดูรายการอีบุ๊กทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    ผู้เกี่ยวข้อง

    แต่งโดย : หลอดกาแฟสีขาว

    ควบคุมการผลิตโดย : Another World Chronicle

     

     

    คำเตือน

    นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายโลกสวย(สำหรับบางคน) ดังนั้นคนที่มีภูมิแพ้โลกสวย กรุณาทำใจก่อนจะเข้ามาอ่าน หากเกิดอาการคันในหัวใจจนอยากพิมพ์ด่า ก็สามารถกระทำได้ ขอแค่ไม่ด่าถึงบุพการีหรือใช้ถ่อยคำหยาบคาย จนผมนำมาฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายทาง พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ได้ ดังนั้นด่าได้แต่อย่างแรง เพราะใจผมบาง ขอบคุณครับ.

     

     

    เรื่องย่อ

    เมื่อประมุขนิกายฝ่ายธรรมะอันดับหนึ่งของอาณาจักรฟ้าสีคราม กำลังเลื่อนขั้นสู่พลังระดับเทพเซียนแดนสวรรค์ แต่แล้วถูกทัณฑ์สวรรค์สังหารจนร่างกายแตกสลาย หากแต่แก่นแท้จิตวิญญาณของเขายังสามารถเข้าสิ่งร่างผู้อื่นคืนชีพได้ แต่เหมือนสวรรค์จะไม่เข้าข้าง เคราะห์ซ้ำกรรมซัดเกิดมิติวังวนดูดกลื่นวิญญาณประมุขหนุ่มไปต่างโลก อีกทั้งโลกใบใหม่ไร้ซึ่งพลังบ่มเพาะยากที่จะกลับคืนพลังระดับเดิมหรือกลายเป็นเทพเซียนแดนสวรรค์ หากแต่โลกใบนี้สงบสุขเหมือนสวรรค์ที่เขาฝันถึง จนเขาไปเกิดใหม่กลายเป็นเด็กเล็กอยู่ในครอบครัวอบอุ่นมีพ่อแม่และน้องสาวที่เขารัก แต่เหมือนสวรรค์จะอิจฉาเด็กน้อยผู้นี้ 7 ขวบเขาและน้องสาวก็กลายเป็นเด็กกำพร้าไร้ซึ่งพ่อแม่ ถูกเลี้ยงโดยญาติที่ไม่สนใจพวกเขามากนัก จนอายุ 12 ปี โลกที่พวกเขาอยู่เกิดภัยพิบัติโลกาวินาศ เกิดเป็นศพเดินได้ซอมบี้กลายพันธุ์ เขาและน้องสาวจำต้องหาทางเอาตัวรอดในโลกที่เปลี่ยนไป

     

    จากใจคนแต่ง

    ตัวพระเอกมีคาแรคเตอร์แตกต่างจากนิยายติดตลาดทั่วไปพอสมควร ถึงจะเป็นประมุขนิกายใหญ่แต่นิสัยของเขาก็อาจไม่เข้าตาใครหลายคน เป็นคนคิดเยอะมองอะไรซับซ้อนแต่บางครั้งก็บ๊อง ๆ หลงลืมเรื่องใกล้ตัว เก่งสมเป็นประมุขมองโลกในความเป็นจริงมากไปหน่อย คิดเผื่อไปเสียหมด จนบางครั้งดูเหมือนไม่เด็ดขาดกับบางตัวละคร แต่เขาก็มีเหตุผลของเขาชัดเจน บางคนอาจคิดว่าเขาโลกสวย แต่ในความจริงแล้วเขาผ่านอะไรมาเยอะจนปล่อยวางได้ บางครั้งอาจขัดใจนักอ่านสายฮาร์ดคอร์ นั่นเพราะเขาไม่ใช่คนหยาบคายกระด้าง เสี่ยวลู่ชัดเจนจริงจังไม่เล่นสนุกกับชีวิตผู้อื่นหากไม่จำเป็น บางทีถ้าเห็นน้องทำอะไรขัดตาขัดใจก็คิดไว้ได้เลยว่าน้องมีแผลการบางอย่างหรือมุมมองต่างรอเฉลยเป็นอรรถรสในตอนหลัง ๆ ค่อยซึมซับพระเอกของเราไปทีละนิด ๆ ดีกว่าครับ อ่านเอาสนุก ไม่สนุกก็ผ่านครับไม่ว่ากัน ขอโทษที่ทำให้เสียเวลาเช่นกัน เพราะรสนิยมคนเราต่างกัน แต่ทั้งหมดนี่ก็คือคาแรคเตอร์เสี่ยวลู่ ใครรับน้องได้ก็ขอขอบคุณมากครับที่ติดตามน้อง ขอบคุณที่ติดตามและเสียสละเวลามาอ่านเสี่ยวลู่นะครับ ขอบคุณครับ โดย หลอดกาแฟสีขาว

     

    รูปแบบตอน

    จอมยุทธโลกซอมบี้ จะมีตอนหลักดำเนินเรื่องโดยมีเสี่ยวลู่เป็นพระเอก จะดำเนินเรื่องไปเรื่อย ๆ ตามทามไลน์ ในบางครั้งจะมีตอนพิเศษแทรกเข้ามาขยายเพื่ออธิบายส่วนที่ขาดของตัวเอกหรือเนื้อเรื่อง มีการเล่าเรื่องย้อนความไปโลกเก่าซึ่งจะเริ่มมาเล่าจริงจังในช่วงจบภาคแรกไปแล้ว โดยใช้ชื่อตอนว่า ซานต้าโจ และจะมี Side Story ของตัวละครอื่น ๆ ในเรื่องมาแทรกบ้าง จะดำเนินเรื่องด้วยพระรองหนิงหลิวหยางและเพื่อนอีก 2 คน ถังอวี้คุนและฉางต้ากัง เพื่อขยายจักรวาลเรื่อง “จอมยุทธโลกซอมบี้” หวังว่าจะเข้าไปอ่านกันทุกตอนนะครับ

     

     

    ระดับพลังโลกมนุษย์ (9 ระดับหลัก 9 ขั้นย่อย)

    1. ก่อเกิดกายา : มีพละกำลังเหนือมนุษย์ จนสามารถยกของหนักได้กว่าน้ำหนักตัวหลายสิบหรือหลายร้อยเท่าได้

    2. ก่อเกิดกระดูก : สามารถใช้พลังชี่ก่อเกิดพลังปราณให้ออกสู่ภายนอกร่่างกายได้ สามารถควบคุมอนุภาคหรือธาตุต่าง ๆ ได้

    3. ก่อเกิดโลหิต : เลือดโลหิตจะเปลี่ยนแปลงไปตามศักยภาพพันธุกรรมหรือเคล็ดวิชากายาที่บ่มเพาะ พลังธาตุที่อยู่ในเลือดพวกนี้จะถูกเรียกว่าธาตุโลหิตหรือปราณโลหิต แบ่งได้ 5 ธาตุหลัก ไฟ ดิน ทอง น้ำ ไม้ และ 10 ชนิดพลังธาตุผสม  ลม สายฟ้า เหล็ก มืด ชีวิต รักษา แสง พิษ มิติ โกลาหล

    4. ก่อเกิดวิญญาณ : เมื่อกายา กระดูกและโลหิตเปลี่ยนแปลงไป จิตวิญญาณจะถูกหลอมรวมกลั่นใหม่เรียกว่าแก่นแท้จิตวิญญาณ ซึ่งเกิดจากการหลอมรวมวิญญาณต้นและอารมณ์ของมนุษย์ให้เป็นหนึ่ง เมื่อหลอมกลั่นใหม่แล้ว แก่นแท้จิตวิญญาณจะสามารถใช้พลังทางจิตวิญญาณเพื่อบ่มเพาะพลังชี่และพลังธรรมชาติได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงพลังสวรรค์ของเทพด้วย นอกจากนี้แก่นแท้จิตวิญญาณจะสร้างมิติห้วงเอกเทศขึ้นมาซึ่งสามารถเก็บของหรือสัตว์ในพันธะวิญญาณเข้าไปได้

    5. สร้างทะเลปราณ : แก่นแท้จิตวิญญาณกับตันเถียนจะเชื่อมโยงกัน เพื่อขยายขอบเขตตันเถียนในมิติจิตวิญาณให้กว้างมากขึ้นจากพื้นที่เล็ก ๆ จะถูกขยับขยายให้กว้างขวางดังผืนทะเล เมื่อพื้นที่เพิ่มขึ้นพลังชี่พลังปราณจึงสามารถใช้ได้มากขึ้นและเข้มข้นขึ้น เมื่อถึงระดับนี้ เคล็ดวิชาที่ใช้ออกด้วยพลังปราณจะแข็งแกร่งขึ้นมากกว่าเดิมหลายสิบหรือหลายร้อยเท่าได้

    6. รวบรวมปฐพี : ในพื้นที่ของมิติจิตวิญญาณ เมื่อเริ่มมีมหาสมุทรปราณเกิดขึ้นแล้ว จำเป็นต้องสร้างแก่นพลังขึ้นมาใหม่ เพื่อควบแน่นพลังปราณจากของเหลวให้กลายเป็นของแข็ง ยิ่งสร้างแก่นพลังเป็นดังพื้นปฐพีได้แข็งแรงหรือผืนใหญ่โตมากเท่าไร โอกาสในการพัฒนาระดับต่อไปก็จะยิ่งตอบรับได้มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้อายุขัยจะเพิ่มขึ้นอีก 100 ปี

    7. หลอมรวมภูผา : แก่นพลังที่เพิ่มมากขึ้นจะถูกแปรเปลี่ยนเป็นยอดเขาสูง ยิ่งระดับก่อนหน้าสร้างปฐพีได้แข็งแรงกว้างขวางเพียงใด ยอดเขาในระดับนี้จะสูงและกว้างขวางมากขึ้นเท่านั้น ยิ่งยอดภูผาสูงเท่าใดจะมีพื้นที่รองรับกฎเกณฑ์ได้มากยิ่งขึ้น แน่นอนว่าระดับพลังจิตวิญญาณและพลังปราณจะเพิ่มกว่าเดิมเท่ากับขนาดและจำนวนของภูผาที่สร้างได้ เมื่อถึงระดับนี้ร่างกายที่แก่ชราจะฟื้นฟูกลับคืนสู่ช่วงที่แข็งแรงสมบูรณ์ที่สุด นอกจากนี้อายุขัยจะเพิ่มขึ้นอีก 300 ปี

    8. กำเนิดนภา : ในระดับนี้จะเป็นช่วงทำความเข้าใจถึงกฎเกณฑ์ของโลกและสวรรค์ หรือกฎของจักรวาล ซึ่งในระดับนี้กฎของโลกที่เข้าใจได้ง่ายสุดหรือกฎแรงโน้มถ่วงหรือแรงดึงดูด ทำให้ผู้ที่บ่มเพาะถึงระดับนี้จะสามารถเหาะเหินโบยบินได้อย่างอิสระ เมื่อเข้าใจกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ได้มากขึ้น พลังอำนาจที่ใช้ออกด้วยกฎเหล่านั้นจะทรงพลังและสมบูรณ์มากขึ้นตามไปด้วย การแบ่งฟ้าผ่าทะเลจึงไม่ใช่เรื่องเกินพลังอำนาจของผู้บ่มเพาะในระดับนี้ อายุขัยเพิ่มขึ้นอีก 700 ปี

    9. เซียนสวรรค์(เซียนเทียน) : หลังจากหลอมโอสถทองคำ เรียกสายฟ้าทัณฑ์สวรรค์ 7 สาย มาชำระร่างกายและจิตวิญญาณเพื่อละซึ่งความเป็นมนุษย์ ผู้บ่มเพาะจะเข้าใจซึ่งกฎของจักรวาลและสวรรค์มากขึ้น ระดับพลังที่ถูกตีกรอบจากสังขารของมนุษย์จะถูกแปรเปลี่ยนไปตามระดับพลังตบะหรือพลังบ่มเพาะสวรรค์ ตบะหนึ่งปีเทียบเท่าพลังผู้บ่มเพาะกำเนิดนภาขั้นสูงสุด 1 คน ซึ่งนับว่าเป็น 1 หน่วยตบะ อายุขัยเพิ่มขึ้น 1 หมื่นปี เมื่อละทิ้งซึ่งสังขารมนุษย์แล้ว เซียนสวรรค์จะสามารถขึ้นสู่ภพที่สูงกว่าได้ เพื่อบ่มเพาะพลังสวรรค์ที่สูงส่งหนาแน่นยิ่งกว่ามาสะสมสร้างพลังตบะ //(ถ้ามีพลังตบะ 3,000 ปี หมายถึงเซียนผู้นั้นมีพลังเทียบเท่าผู้บ่มเพาะก่อเกิดนภาขั้นสูงสุดสามพันคน) (อีกนัยหนึ่งตบะ 1 ปี หมายถึง ช่วงการหายใจเข้าออกเป็นระยะเวลา 1 ปี โดยไม่ทำอะไรเลยในพลังสวรรค์ที่เข้มข้นของแดนเอกาสวรรค์เป็นมาตรฐาน)

     

     

    ระดับพลังบนสวรรค์  (มี 2 ระดับใหญ่ หรือแบ่งได้ 6 วรรณะสวรรค์ แบ่งตามพลังตบะ)

    [ระดับเซียนทองคำ]  (เลื่อนจากระดับกำเนิดนภาขึ้นมาโดยผ่านสายฟ้าทัณฑ์สวรรค์ 7 สาย)

    เซียนสวรรค์หรือเซียนเทียน : ตบะ 1 ถึง 5,000 ปี อายุขัยเฉลี่ย 1 หมื่นปีโดยประมาณ

    เทพเซียนหรือราชาเซียน : ตบะ 5,001 ถึง 20,000 ปี อายุขัยเฉลี่ย 1 แสนปีเป็นอย่างต่ำ มีพลังมากพอที่จะเข้าใจกฎมิติเวลาและอวกาศ

    [ระดับเทพแท้จริง] (เลื่อนจากระดับเทพเซียนโดยผ่านสายฟ้าทัณฑ์สวรรค์ครั้งที่สอง 49 สาย)

    เทพสวรรค์ : ตบะ 20,001 ถึง 100,000 ปี อายุขัยเฉลี่ย 10 ล้านปีเป็นอย่างต่ำ มีความเข้าใจกฎสูงสุดของจักรวาล สร้างโลกและสรรพชีวิตขึ้นใหม่ได้จากทรัพยากรและพลังตบะของตนเองได้ จนถึงสร้างระบบสุริยะขึ้นมาใหม่

    เทพโบราณ : ตบะ 100,001 ถึง 1,000,000 ปี อายุขัยเฉลี่ย 100 ล้านปีเป็นอย่างต่ำ สามารถสร้างร่างจำแลงแท้จริง หรืออวตารจากเศษเสี่ยวจิตวิญญาณขึ้นมาใหม่ได้ โดยที่พลังตบะเทียบเท่าร่างต้นกำเนิด มีพลังมากพอที่จะสร้างระบบดาราจักรขึ้นมาใหม่ได้ เมื่อถึงในระดับนี้ในพื้นที่มิติจิตวิญญาณจะสามารถสร้างโลกมิติปิดกั้นของตัวเองขึ้นมาได้ และบัญญัติซึ่งกฎเกณฑ์ตามที่ต้องการเป็นเอกเทศจากกฎเกณฑ์จักรวาลด้านนอก

    เทพบรรพกาล : ตบะ 1,000,001 ถึง 100 ล้านปี อายุขัยเฉลี่ย หมื่นล้านปีเป็นอย่างต่ำ มีพลังมากพอที่จะสร้างสวรรค์และจักรวาลย่อยขึ้นมาใหม่ได้ สามารถสร้างมิติปิดกั้นจากการใช้พลังตบะไปสร้าง โดยไม่สนใจทรัพยากรในการก่อสร้าง

    เทพมหาบรรพกาลหรือมหาเทพ : ตบะ 100 ล้านปีขึ้นไป อายุขัยไม่จำกัด ตัวตนและพลังอำนาจมากล้นเป็นตัวตนที่อยู่เหนือลิขิตชะตาและกฎเกณฑ์ทุกชนิด เนรมิตสร้างสรรค์ได้ทุกสิ่งอย่าง ตัวตนเช่นนี้เกิดขึ้นได้เองแบบโอปปาติกะ หรือสืบทอดพลังมหาเทพจากลัญจกร หรือเทพบรรพกาลที่มีตบะเพียงพอค้นพบสัจธรรม หรือเทพบรรพกาลที่มีตบะเพียงพอบำเพ็ญทุกข์โดยการจุติใหม่ร้อยชาติภพ(การจุติใหม่ยังไม่มีการค้นพบในสวรรค์ทั้งเก้าของจักรวาลนี้)

     

     

    ระดับ วิชา อาวุธ และสมบัติ (แบ่งเป็นระดับโลกมนุษย์และสวรรค์)

    [ระดับโลกมนุษย์] (แบ่งได้ 4 ระดับใหญ่ ระดับละ 3 ขั้นย่อย)

    ปฐพี : ต่ำ กลาง สูง 

    นภา : ต่ำ กลาง สูง

    โลกา : ต่ำ กลาง สูง

    สวรรค์ : ต่ำ กลาง สูง

    [ระดับสวรรค์] (แบ่งได้ 5 ระดับใหญ่)

    เซียนทองคำ

    เทพแท้จริง

    เทพโบราณ

    เทพบรรพกาล

    เทพมหาบรรพกาล

     

     

    ระดับโอสถ (แบ่งได้ 5 ระดับใหญ่)

    ระดับต่ำ : โอสถ 1 ถึง 3 ดาว แสดงผลโอสถจากวัตถุดิบที่ใช้ 6% ถึง 35%

    ระดับกลาง :  โอสถ 4 ถึง 6 ดาว แสดงผลโอสถจากวัตถุดิบที่ใช้ 36% ถึง 65%

    ระดับสูง : โอสถ 7 ถึง 9 ดาว แสดงผลโอสถจากวัตถุดิบที่ใช้ 66% ถึง 95%

    ระดับสมบูรณ์ : โอสถ 10 ดาว แสดงผลโอสถจากวัตถุดิบที่ใช้ 96% ถึง 105%

    ระดับพิเศษ : โอสถตั้งแต่ 11 ดาวขึ้นไป แสดงผลโอสถเกินขอบเขตจากวัตถุดิบตั้งต้น 106% ขึ้นไป และทุก 1 ดาวที่เพิ่มขึ้นเท่ากับโอสถแสดงผลเกินขอบเขตทุก ๆ 10% (เช่น 15 ดาว หมายถึงโอสถสามารถแสดงผลได้เพิ่มประมาณ 50% จากระดับสมบูรณ์ หรือเท่ากับ 150% จากวัตถุดิบที่ใช้)

     

     

    วิธีการบ่มเพาะพลัง

    [ดูดซับโดยการหายใจ] โดยหายใจเอาพลังชี่และพลังธรรมชาติในอากาศให้ไหลผ่านเส้นชีพจร ผ่านจุดต่าง ๆ ในร่างกาย

    [โดยการกินยาโอสถ] ส่วนมากเกิดจากการนำสมุนไพร กึ่งวิญญาณและสมุนไพรวิญญาณมาหลอมสร้าง บ้างก็ใช้ผลึกแก่นวิญญาณมาสกัด หรือให้ผลึกหินปราณมาสกัดเป็นโอสถ

    [โดยการกินสมบัติวิญญาณ] ในที่นี้มีหลายชนิดด้วยกัน ทั้งผลไม้ พืชผัก ตลอดจนเนื้อหลินชี่จากสัตว์วิญญาณ

    [ดูดซับผ่านตัวกลาง] บ่มเพาะโดยการดูดซับจากผลึกแก่นวิญญาณของสัตว์อสูร(สัตว์วิญญาณ) หรือดูดซับจากผลึกหินปราณชนิดต่าง ๆ

    [ได้รับการถ่ายทอดโดยตรง] ในบางเคล็ดวิชาสามารถดูดซับพลังชี่หรือพลังปราณจากคนอื่นได้ หรืออาจารย์ถ่ายทอดพลังให้ลูกศิษย์ แน่นอนว่าพลังของคนที่สูญเสียไปย่อมลดลงถาวร มันแตกต่างกับการใช้ออกในเคล็ดวิชาที่พอสูญเสียไปแล้วกินยาหรือพักผ่อนก็ฟื้นฟูกลับมา แต่พลังจากการถ่ายทอดโดยตรงที่เสียไปคือแก่นแท้ของพลังต้นกำเนิดของแต่ละคน จำเป็นต้องบ่มเพาะใหม่ให้คืนกลับเท่านั้น

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น