เรื่องนี้มาจากไอเดียผมล้วนๆเลยครับ และเรื่องนี้จะกล่าวถึงประเทศไทยเพิ่มเติมนี่มีศักยภาพทางการทหารในสงครามโลกครั้งที่ 2 ต้องถูกดึงไปต่างโลก......
ประวัติศาสตร์ไทย (ฉบับนิยายผม) งดดราม่านะครับ อันนี้เขียนขึ้นตามฉบับผมเอง
-สยามเลิกทาสในปี ค.ศ. 1880
-ค.ศ. 1894 หลังเหตุการณ์ ร.ศ.112 สยามเริ่มทำการปฏิรูปประเทศเป็นแบบตะวันตก โดยส่งบุคลากรไปเรียนที่ต่างประเทศอย่างจริงจัง และเริ่มเปลี่ยนประเทศจากเกษตรกรรมเป็นอุตสาหกรรม
-ค.ศ. 1899 สยามก่อตั้งบริษัทผลิตอาวุธให้กับกองทัพอย่าง บางกอก ไฟร์อาม อินดัสทรีส์ และ สัตหีบ ดอกยาดส์ อินดัสทรีส์ สำหรับทัพเรือ
-ค.ศ. 1903 สยามสามารถผลิตอาวุธเองได้อย่างเต็มรูปแบบ สามารถผลิตปืนไรเฟิลลูกเลื่อนออกมาได้อย่าง Type 46 Siamese Mauser
-ค.ศ. 1906 หลังจากรัสเซียแพ้สงครามรัสเซีย-ญี่ปุ่น สยามได้ส่งบุคลากรไปศึกษาด้านทัพเรือที่ญี่ปุ่น จนได้แบบแปลนเรือประจัญบานMikasa มา จนปี ค.ศ.1911 สยามมีเรือประจัญบานลำแรกโดยมีชื่อว่า เรือรบหลวงนารายณ์ ในตอนนั้นเองสยามมีเรือรบทั้งประเทศประมาณ 6 ลำ มีเรือรบหลวงนารายณ์เป็นเรือใหญ่สุด
-ค.ศ. 1913 สยามทำการสถาปนากองทัพอากาศ
-ค.ศ. 1914 สงครามครั้งใหญ่อุบัติขึ้นในยุโรป ประเทศไทยคงสถานะเป็นกลางเอาไว้
-ค.ศ. 1916 สยามเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่ 1
-ค.ศ. 1917 สยามถึงฝรั่งเศส ได้รับการฝึกการรบแบบใหม่นั้นก็คือการรบทางอากาศ
-ค.ศ. 1918 เยอรมันแพ้สงครามโลกครั้งที่ 1 สยามได้เดินขบวนที่ประตูชัยฝรั่งเศส
-ค.ศ 1919 สยามได้ร่วมก่อตั้งสันนิบาตชาติ อีกทั้งยังได้แก้ไขสนธิสัญญาที่ไม่เป็นทำอย่างสนธิสัญญาบาวริ่ง
-ค.ศ. 1923 ประเทศไทยเปลี่ยนระบอบการปกครองเป็นระบอบเผด็จการชาตินิยม โดยจอมพลป. และมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขสูงสุด
-ศ.ศ. 1926 เริ่มมีการโฆษณาชวนเชื่อเกี่ยวกับเรื่องชาติ และกฎหมายการเกณฑ์ทหารโดยชายไทยอายุ 22 ปีขึ้นไปต้องเข้ารับเกณฑ์ทหารเป็นเวลา 2 ปี
-ค.ศ. 1928 สยามมีประชากรทั้งหมดประมาณ 48 ล้านคน
-ค.ศ. 1929 สยามมีทหารประจำการทั้งหมดประมาณ 1 ล้านนาย และสามารถต่อเรือได้อีก 4 ลำ โดยมีเรือพิฆาต 2 ลำ เรือลาดตระเวนเบา 1 ลำ และเรือลาดตระเวนหนัก 1 ลำ ได้รับต้นแบบมาจากเรือลาดตระเวนAoba-class ของญี่ปุ่น
-ค.ศ. 1930 สยามเปลี่ยนชื่อประเทศเป็นไทย อีกทั้งยังสามารถผลิตยานเกราะขึ้นมาได้เป็นครั้งแรก รถถังไทยได้รับแบบมาจาก FT-17 ของฝรั่งเศส
-ค.ศ. 1933 เศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ แต่ประเทศไทยไม่ได้รับผลกระทบมากนักเนื่องจากใช้ระบบเศรษฐกิจพึ่งพาตัวเองเป็นหลัก
-ค.ศ. 1936 ไทยปล่อยเรือลาดตระเวนประจัญบาน 1 ลำ ที่ได้รับต้นแบบจากKongo-class ของญี่ปุ่น โดยมีชื่อว่า เรือลาดตระเวนประจัญบานพิชัยดาบหัก
ค.ศ. 1938 ไทยปล่อยเรือประจัญบานอีก 2 ลำ ลำหนึ่งได้รับต้นแบบมาจาก Arizona-Class ของอเมริกา กับอีกลำได้รับต้นแบบมาจากFuso-class ของญี่ปุ่น อีกทั้งยังสามารถผลิตเรือดำน้ำได้ประมาณ 30 ลำ โดยมีชื่อรหัสว่า TS ย่อมาจาก Thai Submarine และตามด้วยตัวเลขของแต่ละลำ
-ค.ศ. 1939 ไทยมีเครื่องบินขับไล่ออกแบบเอง ติดปืน .30 4 กระบอกที่ปีกเครื่องบิน สามารถทำความเร็วได้ 520 กม/ชม. ใช้ชื่อว่า Wihok-39 (วิหค39) และสงครามโลกครั้งที่ 2 อุบัติขึ้น
ค.ศ. 1940 ไทยปล่อยเรือบรรทุกเครื่องบินที่ออกแบบเอง โดยมีชื่อว่าเรือบรรทุกเครื่องบินชั้นมโนราห์ Wihok-40 เครื่องบินขับไล่สำหรับเรือบรรทุกเครื่องบิน ทำความเร็วได้ 525 กม/ชม. และได้เครื่อง B5N จากญี่ปุ่นมาผลิตเองอีกด้วย อีกทั้งยังเริ่มทำสงครามชิงดินแดนคืนจากฝรัั่งเศส ไทยจมเรือรบฝรั่งเศสได้ที่ยุทธนาวีเกาะช้าง เป็นศึกแรกที่ได้รับชัยชนะของเรือบรรทุกเครื่องบินมโนราห์
-ค.ศ. 1941 ไทยมีทหารประจำการทั้งหมด 2.5 ล้านนาย เรือรบทั้งหมด 100 ลำ เครื่องบินรบ 2,880 ลำ และไทยได้เข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่ 2 ร่วมกับญี่ปุ่น ไทยผลิตปืนกลมือออกมาอีกด้ย โดยใช้ชื่อว่า Siamese Model 1940 (ทรงแบบ Baretta M1938) ไทยทำการบุกพม่าจนตีทหารอังกฤษไปถึงเมืองธากาได้ และยังบุกยูนนานทำให้กองทัพจีนถอยไปได้
ขอสรุปแค่นี้นะครับ เพราะธีมเรื่องจะอยู่ในช่วง ปีค.ศ. 1942
ความคิดเห็น