ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [TaoKacha SF] :: All About Shortfic :: by Corn on the Cob

    ลำดับตอนที่ #8 : [Shortfic AF8] :: Shorts & Shirts :: [TaoKacha] --Special from After Kodlhor ค่ะ

    • อัปเดตล่าสุด 16 ก.พ. 57


    Fiction : Shorts & Shirts

    Pairing : TaoKacha

    Genre : Romantic

    Author : Corn on the Cob (ข้าวโพดปาดเนย)

    Warning : PG-15 เอนเอียงเกือบถึง NC

    Author’s note : เรื่องนี้เป็นตอนต่อจากช๊อตฟิค What did happen...after Kodlhor Concert? ค่ะ โปรดอ่านก่อน ไม่งั้นอาจจะงงกันได้นะคะ xD




     

    วันนี้ไม่มีเมสเสจแฮะ…

     

    ไม่โทรหาด้วย…


     

    “คชา เตรียมตัวนะครับ เดี๋ยวจะเริ่มอัดแล้ว”

     

    “ฮะ”

     

    ตาเรียวหันกลับมามองสกรีนหน้าจอไอโฟนก่อนจะตัดใจกดล๊อกหน้าจอและวางมือถือใส่กระเป๋าพลางถอนหายใจ…

     

    จริงๆแล้วตั้งแต่เมื่อคืนก็ไม่มีสายเรียกเข้ากวนใจเขาก่อนนอนอย่างทุกทีเช่นกัน…

     

    อะไรกัน…? แค่นี้ท้อแล้วรึไง? ง้อเขาไม่กี่วันก็ถอดใจแล้ว??

     

    ปากกระจับเม้มเข้าหากันก่อนจะลุกขึ้น จับแต่งทรงผมนิดหน่อยกับกระจกตรงหน้าก่อนจะเดินออกไปยังหน้าฉากเพื่อเตรียมอัดรายการของวันนี้…

     

    ก็เอาสิ! ไม่ง้อก็ไม่ต้องง้อ!!! ใครเขาสนกันล่ะ!?


     

    หลังจากคืนนั้น...คืนวันคอนเสิร์ตโคตรหล่อ คชาจมเตียงไปอีกวันเต็มๆ ดีว่าวันต่อมาไม่มีงานเถอะ…

     

    และสาเหตุเป็นเพราะใครนั้นไม่ต้องหาให้ยุ่งยาก…

     

    จะเป็นใครซะอีกล่ะ!?

     

    ก็ไอ้คนหล่อหน้าเผือกขวัญใจใครหลายๆคนรวมทั้งแฟนๆของตัวเขาเองด้วยน่ะสิ!?


     

    คืนนั้นทั้งคืนเต๋าจับเขาเล่นเป็นตัวละครในฟิคแต่ละเรื่องที่เจ้าตัวซื้อมา...แต่ขอโทษนะ แต่เล่นแต่ฉากบนเตียง!? ถ้าฟิคเรื่องไหนไม่ทำกันบนเตียงก็จับเขาอุ้มไปทำตามที่ต่างๆตามหนังสือเหล่านั้นจะแต่งแต้มพาไป...ไม่ว่าจะเป็นห้องน้ำ โต๊ะอาหาร โซฟา กำแพง และจบที่ระเบียงก่อนเขาจะผลอยหลับไปตอนที่เต๋าอุ้มกลับมานอนบนเตียง…

     

    คนก่อเรื่องวันต่อมามีงานแต่เช้า เลยทิ้งเขาจมเตียงทั้งวันพร้อมกับกองหนังสือที่ถูกรื้อออกมาเป็น Reference ใช้อ้างอิงฉากแต่ละฉากเมื่อคืนในการบรรเลงเพลงรัก...คชาเอื้อมมือไปสุ่มหยิบฟิคสองสามเล่มที่ใกล้มือที่สุดที่ตกอยู่ตรงข้างเตียงก่อนจะเปิดไล่อ่านฉากอื่นๆดู...และนั่นก็ทำให้เขารู้ว่า คนแต่งฟิคนั้นโคตรจะลำเอียง!

     

    แทบทุกเล่มคือบรรยายให้เต๋าหล่อตั้งแต่ปลายเส้นผมยันกระดูกเชิงกรานและขนหน้าแข้ง!!! ส่วนเขาน่ะหรอ...คือสาบานว่ายังเห็นเขาเป็นผู้ชายกันอยู่!? ทำไมถึงได้ใช้คำบรรยายที่ต่างกันราวฟ้ากับเหวแบบนี้กันล่ะ!?

     

    ตัวเล็ก ตัวโต โอเคอันนี้พอรับได้ ก็เขาตัวเล็กกว่าจริงๆ

    ร่างเล็ก ร่างสูง คือเต๋าสูงกว่าเขาแค่สามเซ็นนะ

    ร่างบาง ร่างหนา เต๋ามันหนากว่าเขาสักแค่ไหนกันเชียวเนี่ย!!??

     

    นอกจากสรีระรูปร่าง ขนาดคำที่ใช้บรรยายถึงส่วนประกอบต่างๆยังใช้ต่างกันจนน่าโมโห!

     

    คิ้วเรียว คิ้วคมเข้ม โอเค อันนี้เขาไม่มี ยอมรับได้

    จมูกรั้น จมูกโด่ง เห้ย อะไรอะ เขาก็มีดั้งกับเขาเหมือนกันนะ! เต๋ามันก็ไม่ได้โด่งมากสักหน่อย!

    ตาใส ตาคม ก็แค่ตาโตกว่า เอาตรงไหนมาวัดว่าของเขาใสของเต๋าคมกันเนี่ย!!??

     

    ยิ่งไปกว่านั้นพอเปิดดูชื่อคนแต่ง หลายๆคนเขาเหมือนจะเคยผ่านตาเห็นทวิตเตอร์มาบ้าง มีไม่น้อยที่เป็นเมนเขา แต่แต่งฟิคอวยเต๋าจนเริ่มงงว่าตกลงนี่เมนเขาแน่เรอะ?!

     

    คชาปิดหนังสือดังฉับอย่างไม่สบอารมณ์ก่อนจะมุดลงนอนจมกับเตียงอีกรอบและก็ผล็อยหลับไปตามระเบียบ..ตกบ่ายแก่ๆคชาก็สะดุ้งตื่นเพราะเสียงเมสเสจจากใครบางคน...คชาเปิดออกอ่านก่อนจะปล่อยมือถือทิ้งอย่างไม่ใยดี...ปากเล็กเบะออกเมื่อพยายามจะลุกขึ้นยืน...เพียงแค่ปลายเท้าแตะพื้นเพื่อจะพยุงตัวก็ร้าวไปทั้งสะโพสจนเจ้าตัวต้องกัดปากกลั้นเสียง...คชาจัดการอาบน้ำแต่งตัวและชิ่งหนีกลับบ้านโดยไม่สนใจเมสเสจจากเต๋าที่บอกว่าให้รอจะได้กินข้าวด้วยกัน…

     

    หลังจากนั้นเต๋าเองก็พยายามง้อ พยายามติดต่อมาตลอด…

     

    คชาก็แกล้งทำเป็นอ่านไม่ตอบบ้าง หรือตอบก็แค่ ตอบสั้นๆ อื้ม อือ อืม แม้จะแอบอมยิ้มอยู่คนเดียวก็ตาม...

     

    คนตัวเล็กกะว่าจะแกล้งสักพักให้เข็ดไปบ้าง..

     

    แต่จู่ๆยังไม่ทันไร...อีกฝ่ายกลับหายการติดต่อไปซะงั้น…

     

    ถึงปากจะบอกว่า ไม่เป็นไร ไม่ง้อก็ไม่ต้องง้อ...แต่ทุกช่วงเบรค หรือถ้ามีเวลาว่างจากการทำงาน ก็อดไม่ได้ที่จะหยิบมือถือออกมาดูแทบจะตลอด..จนพอตกเย็น ก็ไม่มีสักสายสักเมสเสจอยู่ดี...

     

    ผ่านไปอีกเกือบสองวัน ก็ยังคงไร้การติดต่อ...หลังจากเสร็จงานคชาก็ตรงดิ่งกลับบ้านทันที...อาบน้ำอาบท่าเสร็จก็ทิ้งตัวลงบนเตียงนุ่ม...มือเรียวคว้าเอาไอโฟนขึ้นมามองอีกครั้ง…

     

    ว่างเปล่า...ไม่มีแม้แต่ไลน์ด้วยซ้ำ…


     

    คิ้วเรียวสวยขมวดมุ่น...จริงๆคือลังเลตั้งแต่วันแรกที่เต๋าไม่ติดต่อมาแล้วว่าจะโทรหาเองดีไหม แต่ทิฐิที่มีอยู่ก็เอาชนะมาโดยตลอดทุกครั้งที่จะกดเบอร์อีกฝ่าย

     

    จริงสิ พรุ่งนี้จะมีงานคู่ที่จะต้องออกไปขอบคุณสื่อด้วยกันนี่น่า…


     

    มือเรียวสไลด์หน้าจอก่อนจะกดเบอร์อีกฝ่ายอย่างลังเลน้อยลง...พอกดครบเจ็ดเบอร์ที่จำได้ขึ้นใจก็จ้องมันสักพัก..สูดลมหายใจเข้าก่อนจะกดโทรออก…

     

    อย่างน้อย ถ้าโทรหาแล้วคุยเรื่องงานแทนก็จะดูไม่แปลกเท่าไรหรอกมั้ง...คชาคิดกับตัวเองขณะรอสาย...แต่รอแล้วรอเล่าอีกฝ่ายก็ไม่กดรับ….

     

    คชาทิ้งช่วงไปครู่นึงก่อนกดโทรใหม่ แต่ก็เหมือนเดิม...คชาหาอะไรทำฆ่าเวลาพลางเหลือบมองมือถือไปด้วยจนเวลาล่วงเลยเข้าวันใหม่ไปแล้วสักพักก็ยังไม่มีปฏิกิริยาจากอีกฝ่าย…

     

    คนตัวเล็กจ้องมองหน้าจอที่ว่างเปล่าก่อนจะค่อยๆผล็อยหลับไปด้วยความเหนื่อยอ่อนจากการทำงานทั้งวัน…

    .

    .


     

    เช้าวันรุ่งขึ้น คชาแต่งตัวอย่างเหม่อลอย...สิ่งแรกที่เขาทำหลังจากตื่นขึ้นมาคือหยิบมือถือมาดู..แต่ก็ยังเหมือนเดิม...ไร้การติดต่อจากอีกคน…

     

    ตอนนี้เขาชักจะเริ่มกังวลขึ้นมาแล้วจริงๆว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่...ความหวั่นใจในอดีตที่ห่างหายไปนานเริ่มย้อนกลับมาอีกครั้ง...ความรู้สึกหวาดระแวงหวนกลับมาทำเอาใจเริ่มไม่เป็นสุข…

     

    “คชา..คชา ลูก!”

     

    เสียงของผู้เป็นแม่กระทบเข้าโสตประสาทที่กำลังล่องลอยไปไกล...คชาที่กำลังจะออกเดินไปที่รถหยุดเดินและหันหลังกลับ.. “มีอะไรหรอ ม่าม้า…”

     

    “วันนี้ในตารางงานเขาให้มีสีแดงติดไปด้วยไม่ใช่หรอ?”

     

    คชาก้มดูเสื้อที่สวมใส่ก่อนจะนึกคิดและก็ทำหน้าตกใจเหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้ก่อนจะวิ่งกลับขึ้นห้องเพื่อไปเปลี่ยนเสื้อ…

     

    คชาเปิดตู้เสื้อผ้า กวาดตาดูเสื้ออย่างรวดเร็ว...แต่ก็ยังไม่เห็นตัวไหนที่ถูกใจ จนกระทั่งสายตาไปตกกระทบกับเสื้อลายสก๊อตสีแดงเข้มตัวหนึ่งที่แขวนอยู่ในสุดของตู้…

     

    มือเล็กคว้าเสื้อตัวนั้นออกมาก่อนจะนึกย้อนไปในอดีต...ย้อนนึกไปถึงเหตุการณ์ตอนที่ซื้อเสื้อตัวนี้...คู่กับใครอีกคน…


     

    ตอนนั้นเป็นตอนที่พวกเขายังไม่ได้เลิกกัน...หลังจากที่ไปอัดรายการอะไรสักอย่างเสร็จด้วยกันก็ไปกินข้าวและก็เดินดูของไปเรื่อยก่อนที่เขาทั้งคู่จะเดินเข้าไปในร้านเสื้อร้านหนึ่ง...ต่างคนก็ต่างหันหลังให้กัน เลือกดูเสื้อที่แขวนอยู่กันคนละฟาก...ก่อนจะคว้าตัวหนึ่งที่ถูกใจออกจากราวและหันไปถามอีกคนแทบจะพร้อมๆกัน

     

    “เต๋า/ชา ว่าตัวนี้เป็นไง”

     

    แต่พอทั้งคู่เห็นเสื้อที่ถืออยู่ในมือของอีกคนก็ได้แต่มองหน้าและก็ขำออกมาที่เขาทั้งคู่หยิบเสื้อที่แทบจะเหมือนกันเป๊ะๆออกมา ทั้งรูปแบบและสี...

     

    และตอนนั้นเองที่เจ้าของร้านออกมาพอดี และก็ชี้แจงให้รู้ว่าราวเสื้อผ้าที่วางอยู่สองข้าง ข้างหนึ่งเป็นทรงผู้ชาย อีกข้างเป็นทรงผู้หญิง...แต่รูปแบบของเสื้อตั้งใจให้ออกมาคล้ายๆกันอยู่แล้ว ถ้าสังเกตดู จะเห็นได้ว่า เสื้อส่วนใหญ่ที่แขวนอยู่เหมือนจะเป็นเสื้อคู่กัน แต่ไม่เหมือนกันทั้งหมด แตกต่างที่รายละเอียดบางส่วน… ซึ่งก็รวมถึงเสื้อที่เต๋าและคชาถืออยู่เช่นกัน…

     

    ของคชาจะเป็นลายสก๊อตที่ห่างกว่าหน่อย แต่จะสั้นและเข้ารูปมากกว่าเพราะเป็นทรงผู้หญิง..ของเต๋าชายเสื้อจะปล่อยยาว ด้านหน้ามีกระเป๋าตรงอกสองอัน และลายสก๊อตก็จะถี่และเข้มกว่าอยู่นิดหน่อยด้วย


     

    คชายังไม่เคยใส่ตัวนี้ไปไหนเลยสักครั้ง เพราะหลังจากที่ซื้อเสื้อกันมา..ไม่นานเขาสองคนก็ค่อยๆห่างกันไป…

     

    นัยน์ตาใสจ้องไปที่เสื้อก่อนจะค่อยๆหม่นแสงลงด้วยสิ่งที่รบกวนอยู่ในใจ…กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็เพราะเสียงแม่ที่เรียกเขาอีกรอบ...หัวเห็ดสะบัดความคิดที่หมกมุ่นนั้นออกไปก่อนจะคว้าเสื้อสก๊อตที่ถืออยู่ไปเปลี่ยนก่อนออกจากบ้านไป…

     

    พอถึงสถานที่..คชาออกเดินจากรถไปยังรถตู้ที่จอดรอสำหรับออกทัวร์ขอบคุณสื่อในวันนี้...แม้จะมีความไม่สบายใจอยู่ภายในแต่เมื่อพบปะแฟนคลับใบหน้าก็ยิ้มแย้มอัตโนมัติ...ไม่เชิงว่าหน้าที่ แต่เพราะแฟนคลับของเขาหลายๆคนต่างก็ให้กำลังใจและติดตามเขามาตลอด...ความรู้สำนึกในใจมันทำงานของมันเองทุกครั้งที่พบเจอแฟนๆ ไม่ว่าจะมีเรื่องขุ่นใจอะไร แต่เขาสามารถแยกแยะได้เสมอ…

     

    เขาเห็นเงาที่คุ้นเคยผ่านหน้าต่างรถตู้...หัวใจดวงน้อยกระตุกนิดนึงก่อนที่เจ้าตัวจะสูดลมหายใจและเดินเข้าไป..มือเล็กจับลงที่เปิดประตูและผลักออก…

     

    คนที่อยู่ด้านในเงยหน้าขึ้นจากไอโฟนสี่เหลี่ยมที่ตอนแรกกำลังจดจ่ออยู่มองผู้มาใหม่...สายตาคมหยุดลงที่เสื้อพร้อมๆกับที่คชาเองก็ทำแบบเดียวกัน…

     

    พี่ๆทีมงานโดยรอบที่สังเกตเห็นก็หลุดทักขึ้นมาแทบจะทันทีเมื่อเห็นสองคนที่ใส่เสื้อแทบจะเหมือนกับเป๊ะ...บ้างก็เอ่ยปากแซวว่านัดกันมาหรือเปล่า…

     

    ด้วยความที่ผ่านอะไรกันมาเยอะ ไม่ใช่เรื่องยากที่เต๋าและคชาจะไปทำครรลองได้ง่าย...ทั้งสองหัวเราะพลางตอบรับคำแซวอย่างคล่องแคล่ว...เต๋ายังยิ้มสดใสเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น...มือขาวคว้าเอากระเป๋าที่คชาสะพายอยู่ขึ้นมาให้พลางขยับตัวเข้าไปเพื่อให้คชาขึ้นมานั่ง…

     

    ตลอดช่วงที่ทัวร์ขอบคุณสื่อตามสถานที่ต่างๆ ทุกอย่างเป็นเหมือนปกติจนคชาเริ่มสับสนว่าสิ่งที่เขากังวลตลอดสองสามวันที่ผ่านมาไม่ใช่เรื่องจริงหรืออย่างไร…

     

    เป็นไปตามที่คาดว่าเรื่องเสื้อของเขาทั้งสองคนนั้นเป็นประเด็นหลักที่ถูกกล่าวถึงแทบตลอดทั้งทริป...แทบไม่มีใครไม่เอ่ยทักเรื่องเสื้อคู่ที่ทำให้ทุกคนที่พบเจอเรียกพวกเขาว่า “เด็กแฝด” กันไปหมด… เต๋าเองก็ยิ้มแย้มรับมุขและตอบกลับได้อย่างมืออาชีพจนคชาแทบจะลืมเรื่องที่กลุ้มใจอยู่ไปแล้วจริงๆ…

     

    แต่คชาก็มารู้ตัวทีหลังว่าตัวเองนั้นคิดผิด...หลังจากที่หมดทัวร์ขอบคุณสื่อร่ำลาแฟนคลับพอเป็นพิธีเรียบร้อยแล้ว ทั้งสองก็พากันขึ้นลิฟต์ไปยังลานจอดรถ...พอถึงชั้นที่จอดเต๋าก็เดินนำคชาออกไปก่อน ทั้งสองยกมือไหว้ลาพี่ๆสต๊าฟก่อนที่ประตูลิฟต์จะปิดลง..

     

    หลังจากนั้นก็เกิดความเงียบขึ้นทันตา...เต๋าหันมามองหน้าเขาก่อนจะพูดเพียงแค่ว่า “ไปก่อนนะ”

     

    คนตัวเล็กยืนนิ่งและได้แต่ปล่อยสายตาไปตามแผ่นหลังที่เริ่มห่างออกไป...คชาแทบจำอะไรไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขาตอนนั้น...เขารู้แค่ว่าจู่ๆรู้สึกตัวอีกที มือก็คว้าเอาชายเสื้ออีกคนไปแล้ว…

     

    เต๋าที่รู้สึกถึงแรงดึงจากด้านหลังหันกลับมา..ตาคมมองสบอีกคนนิ่งแต่ก็ไม่แม้จะพูดอะไรสักคำ…

     

    คชาที่รู้สึกเหมือนตัวเองลิ้นพันกัน พยายามจะพูดอะไรออกมาสักอย่าง แต่เหมือนหาเสียงตัวเองไม่เจอ...สุดท้ายมือเล็กก็ปล่อยชายเสื้ออีกคนออกก่อนจะพูดเพียงแค่ “กลับบ้านดีๆนะ”

     

    เต๋าไม่พูดอะไรเพียงแค่พยักหน้าก่อนจะออกเดินไป…


     

    คชายืนนิ่งไม่ไหวติง...ตอนนี้หัวใจเขาเต้นแรงจนสับสนไปหมด…

     

    เขาทำอะไรผิดหรอ?..นี่มันเกิดอะไรขึ้น?

     

    หรือเขาเล่นตัวมากเกินไป?...ทำไมเต๋าถึงไม่พูดอะไรกับเขาเลยแม้แต่น้อย…

     

    ทั้งๆที่เมื่อเช้าก็เหมือนเดิมแท้ๆ...หรือเพราะว่านั่นก็แค่ตบตาคนอื่นๆรวมถึงแฟนคลับด้วย..


     

    มือเล็กกำแน่นโดยไม่รู้ตัว เรียวหน้าสวยก้มมองกับพื้น..ในหัวมันว้าวุ่นไปหมดจนคิ้วขมวดแทบจะพันกัน...กำลังคิดจะออกเดินบ้างแต่จู่ๆก็โดนมือขาวคุ้นเคยของใครอีกคนคว้าเข้าที่แขน...คชาเงยหน้าขึ้นแทบจะในทันที..ในขณะที่สมองยังมึนงงเรียบเรียงอะไรไม่ถูก..เต๋าทำหน้านิ่งไม่สนใจอะไร ออกแรงฉุดให้อีกคนออกเดิน...

     

    “ไม่มีงานต่อแล้วใช่ไหม?”

     

    “อ๊ะ...อะ...อื้อ...ไม่...ไม่มีแล้ว”

     

    “เจอกันที่คอนโด เดี๋ยวเต๋าจะออกไปก่อน แล้วชาค่อยขับตามมา ตกลงนะ”พอคชาพยักหน้าให้เท่านั้น เต๋าก็ปล่อยมือออกก่อนที่จะเปิดประตูไปยังลานจอดรถที่มีแฟนคลับมารอประปราย…

     

    คชารอจังหวะที่เต๋าออกไปก่อนก่อนจะร่ำลาแฟนๆที่มาส่งเขาที่ลานจอดรถบ้างและก็ออกรถจากไป…

     

    หลังจากนั้นประมานอีกหนึ่งชม.คชาก็จอดรถเข้าที่จอดคอนโดของเต๋า...คนตัวเล็กก้มหน้าก้มตาเดินเข้าลิฟต์ไปยังชั้นที่เต๋าอยู่ก่อนจะมาหยุดลงที่หน้าประตูห้องที่คุ้นเคย…

     

    คชาเคาะเบาๆสองสามที ก่อนที่ประตูจะเปิดออก...ตัวเล็กเดินเข้าห้องอย่างประหม่าทั้งๆที่ก็เคยมาแล้วหลายครั้ง…

     

    “จะกินอะไรไหม?”เต๋าถามพลางวางแอ๊ปเปิ้ลที่เพิ่งปอกเสร็จลงโต๊ะที่ห้องรับแขก...คชาส่ายหัวจนกลุ่มผมกระจายก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงที่โซฟาข้างๆ โดยเว้นระยะห่างจากคนตัวโต…

     

    เต๋าเปิดทีวีพลางกินแอ๊ปเปิ้ลไปเรื่อย...โดยไม่พูดอะไรกับคชาสักคำ...คนตัวเล็กได้แต่นั่งเงียบและสับสนกับสิ่งที่เกิดขึ้น…

     

    ตกลงเรียกเขามาทำไมกันแน่?

     

    เรียกมาแล้วก็ไม่สนใจ ไม่พูดอะไร…

     

    ต้องการอะไรเนี่ย?!


     

    คชานิ่งเงียบบ้างจนอีกคนกินแอ๊ปเปิ้ลหมดจานก็ยังไม่พูดอะไรสักที...มือเล็กกำแน่นตรงหน้าตัก อารมณ์ขุ่นมัวที่ก่อตัวมายาวนานเริ่มมาคุจนคชาไม่ทนอีกต่อไป...คนตัวเล็กจู่ๆก็ลุกพรวดแล้วก็หันไปมองคนที่ยังดูทีวีไม่รู้ร้อนรู้หนาว

     

    “เต๋าเรียกชามาทำไม?”

     

    นัยน์ตาคมละจากหน้าจอทีวีมามองก่อนจะหันกลับไปใหม่ “ก็ไม่มีงานแล้วไม่ใช่หรอ?”

     

    คชาสุดจะทนถอนหายใจเฮือกใหญ่ “ถ้าไม่มีอะไร งั้นชากลับล่ะ”

     

    “มีสิ ก็ว่าอีกสักพักจะพาไปช้อปปิ้ง ไปตอนนี้รถมันติด”

     

    คนที่กำลังจะก้าวขาออกหยุดชะงัก ก่อนจะหันไปมองเต๋าที่ยังคงไม่ละสายตาจากทีวี…

     

    “ช้อปปิ้ง?”

     

    “ใช่...ก็เห็นว่าที่บ้านน่าจะไม่มีกางเกงขายาว เลยจะพาไปซื้อ”

     

    คนฉายาหน้าเดียวในตอนนี้เปลี่ยนสีหน้าไปแล้วไม่ต่ำกว่าสามสี่หน้าเมื่อได้ยินประโยคตรงหน้าพร้อมทิ้งตัวลงนั่งกับโซฟา...คิ้วเรียวขมวดมุ่น ใบหน้าหันรีหันขวางอย่างงุนงง

     

    จู่ๆเต๋าก็กดรีโมทปิดทีวีก่อนจะกระแทกมันลงกับโต๊ะจนคชาสะดุ้ง…

     

    “ก็เห็นเขาให้ไปเตะฟุตบอล แต่ใส่กางเกงว่ายน้ำไปเตะ ไม่ใช่ว่าที่บ้านไม่มีกางเกงเตะบอลหรอกหรอ?”

     

    คชาสบนัยน์ตาคมนิ่งที่ทอดมองลงมา...คิ้วเรียวที่จากตอนแรกขมวดมุ่นจนพันกัน ตอนนี้มันแทบจะรวมไปเป็นหนึ่งเดียวกันเรียบร้อยแล้ว…

     

    เตะบอล...กางเกงว่ายน้ำ….

     

    อะไรของเต๋าวะเนี่ย!!????


     

    จู่ๆเต๋าก็โยนไอโฟนของตัวเองลงที่หน้าตักคชา...มือเล็กหยิบขึ้นมาก่อนจะดูที่หน้าจอก็เหลือบหันไปมองอีกฝ่ายอย่างงงงวยและพอเจอสายตาที่ตึงเรียบไม่ไหวติงก็เบนกลับมาดูที่หน้าจอใหม่…

     

    รูป..นี่มันในอัลบั้มรูปนิ…

     

    รูปเขานี่น่า...


     

    นิ้วเรียวสวยสไลด์เลื่อนขึ้นลงอย่างสุ่มๆ...พอไล่ดูไปเรื่อยๆคิ้วเรียวที่เคยพันกันก็ค่อยๆคลายออกช้าๆ…

     

    “ถ้าบ้านขาดแคลนกางเกงเตะบอลจะได้พาไปซื้อไง”

     

    “เต๋า เดี๋ยวก่อนมันไม่ใช่กางเกงว่ายน้ำสักหน่อย”คนตัวเล็กเงยหน้าขึ้นมาหลังจากที่พอเข้าใจอะไรบ้างแล้ว...รูปที่ดูอยู่นั้นมีแต่รูปเขาในงาน สิบปี OIC ที่เขาไปเตะบอลมา…

     

    “สั้นขนาดนั้นจะเรียกว่าอะไรล่ะ? บ๊อกเซอร์ยังยาวกว่าเลยมั้ง..”

     

    “โธ่...เต๋า...นี่อย่าบอกนะว่าที่ไม่โทรหาชา ไม่รับโทรศัพท์ชา เพราะเรื่องแค่นี้น่ะ!? “

     

    คนตัวโตหน้าตึงหนักขึ้นกว่าเดิมเมื่อได้ยินประโยคท้ายของคนตัวเล็กตรงหน้า…

     

    คชากลืนน้ำลายพลางหลบตา…โอ้ย พลาดแล้วสินะ….

     

    “มันก็เลยเข่ามานิดเดียวเองนี่น่า..ไม่เห็นจะต้องโกรธขนาดนี้เลย...”

     

    เต๋านิ่งเงียบสักพักก่อนจะลุกขึ้นยืนและกำลังจะเดินผ่านหน้าคชาไปโดยไม่แม้แต่จะพูดอะไร…

     

    คชารู้ดีว่าถ้ามาโหมดเงียบแบนี้ เลยเลเวลระดับความโกรธของเต๋าไปมากโขอยู่...มือเรียวรีบคว้ามือขาวแกร่งของอีกคน…

     

    “เต๋า อย่าเพิ่งสิ…”

     

    “แต่ละรูปแทบจะเห็นไปถึงไหนต่อไหน...สัญญาเรื่องนี้แล้วไม่ใช่รึไง?”เต๋าสวนกลับ..ครั้งก่อนๆที่มีกิจกรรมเตะบอลในงานหรืออีเว้นท์ต่างๆ กางเกงของคชานี่เรียกได้ว่ากระโปรงเด็กนักเรียนญี่ปุ่นก็ว่าได้…

     

    หลายครั้งที่เต๋าต้องมากระฟัดกระเฟียดเมื่อเห็นรูปที่แฟนคลับถ่ายตามอินเตอร์เน็ต…

     

    เคยรู้ตัวบ้างไหมว่าแค่ยกขึ้นมาทีมันเห็นไปถึงไหนต่อไหนแล้ว!...

     

    ประเด็นนี้ทำเอาเต๋าหงุดหงิดมาหลายครั้ง...แต่คนก่อเรื่องดูไม่เคยทุกข์ร้อนอะไร เอะอะก็เอาแต่อ้างว่ามันร้อนบ้างล่ะ มันไม่ถนัดบ้างล่ะ...และเขาก็ยอมและใจอ่อนมาตลอด เพียงแค่คชาอ้อนและยิ้มให้เท่านั้นแล่ะ เต๋าก็ยอมแทบทุกอย่าง…

     

    แต่ครั้งนี้พอกันที!! ตอนที่เขาเห็นรูปที่นั่งตรงอัฒจันทร์ที่ตัวเล็กของเขานั่งชันเข่า คือบอกเลยว่าเส้นความอดทนนั้นขาดผึ่ง!

     

    คชาได้แต่งับปากตัวเองเมื่อได้ฟัง..ประเด็นนี้ถึงแม้จะเคยถกเถียงกันมาบ้าง แต่ครั้งนี้คชาก็บอกได้ว่าอารมณ์เต๋าขุ่นมัวมากกว่าครั้งไหนๆมากนัก….อาจเป็นเพราะปกติแล้วถึงแม้คชาจะใส่ขาสั้นเตะบอล ส่วนใหญ่ก็จะมีเต๋าอยู่ด้วยตลอด แต่ครั้งนี้คือเขาฉายเดี่ยว...แถมเป็นงานยาวสองวันเลยด้วย…

     

    เต๋าที่เห็นอีกฝ่ายเงียบก็ทำท่าจะเดินออกอีกรอบ...แต่มือเล็กก็รั้งเอาไว้พลางลุกขึ้นจะเดินตาม...สายตาว่างเปล่าที่คนตัวโตส่งมาทำเอาตัวเล็กใจหายไม่น้อย...ความรู้สึกในอดีตที่ครั้งหนึ่งถูกหันหลังให้ถาโถมเข้ามาใหม่อีกครั้งจนไม่รู้จะเริ่มต้นพูดยังไงดี...ภาพในวันเก่าๆที่เขาสองคนต้องทำเหมือนเป็นเพื่อนกัน สนิทกันต่อหน้าแต่พอลับหลังคือตรงกันข้าม...ไม่มีการติดต่อ ไม่โทรหา ไม่แม้จะพูดจากัน…

     

    ขณะที่ความคิดกำลังล่องกลับไปในอดีต...จู่ๆเต๋าก็ดึงคชาเข้าไปกอดแน่น…

     

    “ไม่โกรธแล้วก็ได้...อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ”เต๋ากระชับอ้อมกอดแนบแน่น..มือเล็กยกขึ้นกอดตอบพลางซุกหน้าลงกับอกแกร่ง…

     

    เต๋าถอนตัวออกมาพลางกุมมือทั้งสองข้างและจูบเบาๆ...ตอนนั้นเองที่คชาเพิ่งสังเกตว่ามือตัวเองสั่น..

     

    “คชา…”

     

    มือเล็กที่สั่นน้อยลงแล้วคว้ากระเป๋าเสื้อที่อกเต๋าก่อนจะดึงเข้ามาใกล้ๆอย่างกล้าๆกลัวๆ...

     

    “อยะ..อย่า..หายไปแบบนี้อีกนะ..ชาใจไม่ดีเลย...”ความอบอุ่นที่ได้รับผ่านอ้อมกอด และจูบแผ่วเบา...คชาเหมือนเพิ่งจะหาเสียงตัวเองเจอ...แต่พอเมื่อพูดออกมาก็เหมือนมีก้อนสะอึกก้อนโตที่ตัวเองกลั้นไว้ตามมาด้วยทำเอาเต๋ายิ่งรู้สึกผิดเข้าไปใหญ่…มือขาวช้อนใบหน้าเรียวเล็กขึ้นมองก่อนจะก้มจูบแรงๆที่หน้าผาก..

     

    “เต๋าขอโทษ...”ตัวโตว่าพลางดึงตัวเล็กเข้าไปกอดอีกครั้ง...คชาหลับตาซุกอยู่กับแผ่นอกกว้างอย่างรู้สึกปลอดภัย…

     

    “ไม่เป็นไรแล้วนะครับ คนดี…”

     

    คชาส่ายหัวก่อนจะถอนตัวออกมาจ้องตอบดวงตาคมที่ทอดมองลงมาอย่างรู้สึกผิด…

     

    “เห้อ..อย่าคิดมากสิ ชาก็รู้ว่าเต๋ารักมากแค่ไหน...เพราะรักถึงหงุดหงิดจะบ้าตายอยู่แล้วเนี่ย รู้รึเปล่า หืม?”มือขาวเกี่ยวปอยผมของอีกคนทัดหู...มืออีกข้างก็กระชับที่เอว..

     

    “เต๋าก็อยากคิดมากสิ...ชาไปเตะบอลนะ ไม่มีใครเขาคิดอะไรใต้เข็มขัดตลอดเวลาแบบเต๋าสักหน่อย..”พอได้ใจอาการดื้อก็มา..ปากเล็กๆยื่นออกจนเต๋าอดหมั่นเขี้ยวก้มลงไปงับไม่ได้..

     

    “ใครบอก! เต๋าตอนแรกอะไม่ได้คิดอะไรเลยต่างหาก แต่แฟนคลับของชาทั้งนั้นแล่ะ! คำบรรยายใต้ภาพแต่ละรูปนี่นะ...เต๋าถึงได้มาคิดว่า นี่ขนาดแค่แฟนคลับยังคิดไปไกลขนาดนี้ แล้วคนที่อยู่รอบๆชาล่ะจะคิดเตลิดไปถึงไหน!...ไม่เคยรู้ตัวเลยสินะ ว่าตัวเองมีเสน่ห์ทางด้านร่างกายมากขนาดไหนน่ะ หืม?”คนตัวโตพล่ามยาว..พอถึงท้ายประโยคเรียวมือก็คว้านเข้าไปทางชายเสื้อ...ลูบไล้หลังแผ่นบางหนักหน่วงสลับแผ่วเบาทำเอาคชาสะดุ้งตัวโยน…

     

    “ไหนจะขา…”ว่าแล้วมืออีกข้างก็ลูบไล้ไปที่ต้นขาเล็กพร้อมๆกับที่เรียวปากกระซิบแผ่วเบาที่กกหูจนคชาต้องย่นคอ…

     

    “เอว...ไหล่...คอ…”เสียงทุ้มเข้มดังชิดใบหูโดยที่มีทั้งสองมือลากไปตามส่วนต่างๆของร่างกาย.. “ไม่รู้เลยใช่ไหม?...”

     

    “อื้อออ...ตะ...เต๋า…”

     

    ลมหายใจร้อนลากผ่านแถวหลังคอทำเอาจุดอารมณ์ของคนตัวเล็กจนร่างกายเริ่มจะร้อนไปทั่ว…เต๋ายิ้มกริ่มที่มุมปาก…

     

    “เอางี้...ถ้ามีเหตุการณ์แบบนี้อีก...เต๋าจะไม่โกรธ”

     

    คนตัวเล็กที่นัยน์ตาใสเริ่มเยิ้มหวานไปไกลด้วยแรงอารมณ์เงยหน้าขึ้นมองอย่างไม่เข้าใจ…

     

    “แต่จะลงโทษเลยละกัน!”ว่าเสร็จก็จับอีกคนพาดบ่าไปยังห้องนอนอย่างรวดเร็วโดยมีเสียงคนบนไหล่โวยวายไปตลอดทาง…

     

    “อ๊ะ!”

     

    เต๋าจับคชาวางลงกับเตียงไม่เบานักก่อนขึ้นคร่อมอีกคนและถอดเสื้อตัวเองออกทันที…คชาเห็นดังนั้นก็อดหน้าแดงไม่ได้ ไม่ว่าจะเห็นอกกว้างตรงหน้ามากี่ครั้งแล้วก็ตาม...ใบหน้าเล็กพยายามเบือนหนีไปอีกทาง…

     

    “ตะ..เต๋า...อื้อ..”

     

    ริมฝีปากร้อนอีกคนแนบเข้าที่ซอกคอทำเอาคชาสะดุ้ง..กี่ครั้งก็ไม่ชินสักทีกับสัมผัสเร่าร้อนแบบนี้…

     

    “แต่วันนี้จะยอมลดหย่อนให้…”

     

    คชาที่หน้าแดงร้อนด้วยแรงอารมณ์หันมาพลางส่งสายตาเชิงถาม…

     

    มือเรียวขาวอีกคนไล้ไปตามกระดุมเสื้อของคชาตรงกลางและค่อยๆปลดออก “วันนี้ใส่เสื้อตัวนี้...คชาน่ารักมากนะครับ”

     

    ตัวเล็กเข้าใจทันทีพร้อมๆกับที่ใบหน้าเห่อร้อนยิ่งขึ้นไปอีกกับการกระทำอ่อนโยนและรอยยิ้มหล่อเหลือร้ายของคนด้านบน…

     

    “น่ารัก...แต่ไม่ใส่น่ารักที่สุด ^^”












     

    Never Ending*




     

    Talk

     

    คือใช้เวลาพิมพ์นานมากไม่รู้ทำไม

    พอจะพิมพ์ เดี๋ยวง่วง หิว ไม่มีอารมณ์ คืออุปสรรคมากเหลือเกิน T_T

    นี่ยังไม่ได้ปั่นฝั่งเกาหลีเลยนะ โฮรว

    ดองเป็นสามสี่เดือนแร้วววว

    หนีมาปั่นสวนด เฮิกกกก

    ทุกวันนี้ก็นั่งอ่านฟิคพี่หยกเป็นกำลังใจให้ตัวเองด้วย ฮ่าๆ

     

    เป็นทอล์คที่ไม่เกี่ยวกับฟิคเลยสินะ

    เอาเป็นว่าก็หวังว่าทุกคนจะชอบนะคะ

    คนแต่งแอบรู้สึกว่าเนือยๆไปหน่อย แต่ก็แต่งมาแล้วให้ลบก็คงไม่แต่งใหม่อะ ฮาาา

    ถ้าข้อมูลบิดเบือนจากความจริงบ้าง อย่าว่ากันนะคะ

    ตามข่าวแบบผ่านๆ เน้นดูรูป ๕๕๕๕๕

     

    ปล. ทำเล่นๆเอามาฝาก วันก่อนเปิดวีดีโอเก่าๆไปเรื่อยแล้วเจอ เห็นว่าเหมือนกันเลย เลยเอามาทำเล่น ๕๕๕





     

     

    :)  Shalunla
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×