[TVXQ SF]..................Wait................[YunJae] - [TVXQ SF]..................Wait................[YunJae] นิยาย [TVXQ SF]..................Wait................[YunJae] : Dek-D.com - Writer

    [TVXQ SF]..................Wait................[YunJae]

    โดย Little Toast

    ไม่รู้ว่าฉันควรทำเช่นไร กับรักที่ไม่เห็นหนทาง ไม่รู้ว่าต้องทำยังไงบ้าง จึงจะก้าวหน้ามากกว่านี้ มากกว่าแค่ แอบรักเขาเท่านั้นจนหมดหัวใจ แต่ไม่เคยให้เขารู้สักที ความจริงข้างในที่หัวใจฉันมี...

    ผู้เข้าชมรวม

    5,531

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    12

    ผู้เข้าชมรวม


    5.53K

    ความคิดเห็น


    25

    คนติดตาม


    19
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  1 ม.ค. 57 / 20:48 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    Loma_ p


    Short fiction ทงบังเรื่องแรกค่ะ ^^




    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      Fiction : Wait (One Shot)
      Pairing : Yunho X Jaejoong
      Rate : เกือบ NC -*-
      Author: Deumbeui
      Author’s note: เปิดเพลง ‘คอย’ ของบอยป๊อดไปด้วยนะคะ จะได้บรรยากาศดี เฮิก



      "เอ้า อาหารเย็นเสร็จแล้ว"

      สิ้นเสียงหวานไม่ถึงวินาที เสียงฝีเท้าตามทางเดินก็ดังไปด้วยเสียงฝีเท้าของคนหลายคนที่ต่างก็รีบวิ่งมาทางห้องครัว

      "วันนี้พี่แจจุงทำอะไรให้กินหรอ?! "น้องเล็กสุดที่อาศัยว่าเป็นคนที่มีขายาวที่สุดในวงวิ่งมาถึงคนแรกถามเสียงใสพลางทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ ตาวาวลุกโชนขณะมองอาหารบนโต๊ะ มือถือตะเกียบเรียบร้อยพร้อมลงมือ

      "ก็ซุปเต้าเจี้ยว แกงกะหรี่ ผัดผัก หมูทอด ถ้าไม่พอเดี๋ยวพี่ค่อยทำเพิ่มก็ได้นะ"เด็กหนุ่มในเสื้อยืดสีอ่อนมีผ้ากันเปื้อนใส่ทับอยู่บอกพลางค่อยๆเทซุปเต้าเจี้ยวลงชาม

      "หมูทอด หมูทอด ฝีมือแจจุงอร่อยที่สุดในโลกกกก"เสียงดังของอีกคนที่เพิ่งโผล่เข้ามา เจ้าของเสียงใสโลมายิ้มตาปิด ก่อนจะพาร่างกลมๆของตัวเองนั่งลงอีกฟากของชางมินและคว้าตะเกียบอย่างไม่รอช้า

      "จุนซู อย่าวิ่งเร็วสิครับ"ร่างสูงที่ตามจุนซูออกมาติดๆเอ่ยอย่างตำหนิพลางมองคนตัวเล็กที่กำลังคีบหมูทอดชิ้นที่สามเข้าปาก

      "ก็อยากกินหมูทอดฝีมือแจจุงนิน่า ยูชอนอย่าดุสิ นี่ รีบๆมากินดีกว่านะ"เจ้าลูกชิ้นยิ้มหวานให้พลางยื่นตะเกียบที่คาบหมูชิ้นหนึ่งในร่างสูง..ยูชอนลืมเรื่องก่อนหน้าเป็นปลิดทิ้งก่อนจะนั่งลงข้างๆคนตัวเล็กและยื่นปากไปงับหมูมาเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย

      "แล้วนี่ยุนโฮมันไม่กลับมาอีกหรอ? "ยูชอนเงยหน้าถามแจจุงที่กำลังถอดเสื้อกันเปื้อนออก

      "ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ออกไปตั้งแต่เช้าแล้ว"

      "เดี๋ยวนี้ไอยุนมันเป็นอะไรของมันวะ ชอบหายหัวไปแต่เช้ากลับมาอีกทีก็ดึกๆดื่นๆ ตกเป็นข่าวจะหัวเราะให้"ยูชอนว่าพลางก่อนจะอ้าปากรับหมูทอดอีกชิ้นจากคนรักและว่าต่อ

      "แจจุงคืนนี้ไม่ต้องรอมันแล้วนะ เดี๋ยวก็ได้เสียนิสัยกันพอดี"

      "ได้ไงล่ะ แล้วใครจะเปิดประตูให้ยุนโฮกัน"

      "ช่างแม่งมันสิ ออกไปได้ก็หาทางเข้ามาเองละกัน"

      "ไม่ได้หรอก บางทีกลับมายังไม่ได้กินอะไรด้วยซ้ำ"

      "นายนี่นะ.. "



      แกร๊ก


      "อ้าว พูดถึงก็มา ตายยากจริงๆ ไปไหนมาวะ? "

      ผู้มาใหม่ไม่ตอบในทันที ตาคมเหลือบมองไปทางแจจุงที่นั่งอยู่ฝั่งเดียวกับชางมินก่อนจะเบือนหน้าไปทางยูชอน..

      "แถวนี้แล่ะ ฉันกินมาแล้ว ไปอาบน้ำก่อนนะ"ว่าแล้วร่างสูงก็ผละเดินออกไปทางห้องนอนอย่างรวดเร็ว

      "มันเป็นอะไรของมันกันนะช่วงนี้"ยูชอนว่าพลางส่ายหัวอย่างไม่เข้าใจหัวหน้าวงที่ช่วงนี้เก็บปากเก็บคำผิดปกติ กลัวพูดมากแล้วเขี้ยวมันจะโผล่กลับมารึไงกันนะ


      แจจุงวางตะเกียบลงพลางหันหน้าหนีไปอีกทาง


      อีกแล้ว

      นี่เขาถูกเมินอีกแล้วใช่ไหม?


      เขาไปทำอะไรให้หรือ?


      ทั้งๆที่ปกติก็ไม่ค่อยได้คุยกันอยู่แล้ว

      ไม่ว่าจะออกอัลบั้มมาสามสี่ชุดแล้วก็เถอะ

      หรือแม้แต่จะนอนห้องเดียวกัน

      เขาก็แทบจะไม่ได้คุยกับยุนโฮมากไปกว่าสิบประโยคเลยด้วยซ้ำ

      ที่เห็นในทีวีหรือในละครน่ะ

      มันก็สคริปท์ทั้งนั้น...


      แค่ทักทายแบบเพื่อนก็จะไม่ให้มีเลยใช่มั้ย?


      "แล้วนี่แจจุงหายไข้ดีแล้วใช่มั้ยอะ? "จุนซูที่นั่งกินหมูทอดจนอิ่มแปล้แล้วเอ่ยถามขึ้น

      "อะ..อืมก็ดีขึ้นแล้วล่ะ ทำไม? กลัวไม่มีอะไรกินกันล่ะสิ"ร่างบางหันมาตอบแสร้งทำยิ้มหวานเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น..

      "ใช่น่ะสิ สองสามวันนั้นฉันกับชางมินต้องทำอะไรกินเอง โคดจะทรมานเลย"เจ้าของเสียงโลมายังว่าต่อไป ตะเกียบที่ตอนแรกถูกวางไปแล้วถูกยกขึ้นมาจิ้มผัดผักกินไปอีกหนึ่งคำ

      "ช่วงนี้นายดูเนือยๆยังไงก็ไม่รู้นะ มีอะไรไม่สบายใจรึเปล่า? "

      "เปล่าหรอก แค่เพลียๆน่ะ"

      "ก็แหงล่ะ ช่วงนี้งานพวกเราเยอะอย่างกับอะไรดี ผมนี่หิวทุกๆสามนาทีเลยเหอะ"น้องเล็กสุดที่นั่งเงียบอยู่นานเพราะกำลังใช้เวลาอย่างคุ้มค่ากับอาหารบนโต๊ะเอ่ยขึ้นหลังจากที่ฟาดข้าวหมดไปสี่จาน

      "เอาข้าวอีกไหม ชางมิน? "

      "โหย ถ้าผมกินอีกแล้วพี่แจจุงจะเอาอะไรกินละครับ? มานี่เดี๋ยววันนี้ผมล้างจานเอง พี่แจจุงน่ะกินเยอะๆนะ เดี๋ยวเป็นอะไรขึ้นมาอีก ผมได้ป่วยตามอีกคนแน่"เด็กหนุ่มว่าพลางลุกขึ้นยืนเก็บจานข้าวของตนเองและทั้งของยูชอนและจุนซูก่อนจะเดินหายลับเข้าไปทางห้องครัว

      "แล้วก็รีบๆไปนอนล่ะ"ยูชอนเอ่ยตบท้ายก่อนจะลุกออกไปพร้อมกับจุนซูที่ไม่ลืมส่งยิ้มน่ารักน่าเอ็นดูมาให้ก่อนออกไป


      เมื่อสบโอกาสอยู่คนเดียว แจจุงทิ้งตัวลงกับพนักเก้าอี้อย่างอ่อนแรงและถอนหายใจเฮือกใหญ่ มือขาวเรียวถือตะเกียบคีบข้าวเล่นไปมา สายตาเหม่อมองไปที่ชามกับข้าวอย่างคนไร้สติ...


      นี่เขาจะต้องเป็นแบบนี้ไปถึงเมื่อไรกันนะ?

      .
      .


      เป็นเวลาเกือบเที่ยงคืนแล้วที่ร่างบางเพิ่งจะย่างก้าวเข้าห้องนอน..มือเรียวค่อยๆปิดประตูให้เบาที่สุดก่อนจะหันหลังเตรียมย่องขึ้นเตียงที่อยู่อีกฟากของห้อง...แต่แล้วไฟในห้องก็สว่างขึ้นเผยให้เห็นร่างสูงที่ร่างบางคิดว่าน่าจะหลับไปแล้วกำลังนอนเอนกายพิงหัวเตียงอยู่ สายตาคมจ้องมองมาที่แจจุงเพียงปราดเดียวก่อนจะเบือนไปอีกทาง..

      ยุนโฮลุกขึ้นจากเตียงก่อนจะเดินผ่านร่างของเขาไปและออกไปจากห้องปิดประตูใส่หน้า ทิ้งให้เขาอยู่เพียงลำพัง..



      แจจุงทิ้งตัวลงบนโซฟาเล็กๆหน้าเตียง มือเรียวควายหารีโมทเปิดทีวีเปลี่ยนช่องไปเรื่อย หวังว่าเสียงจากทีวีจะสามารถกลบเสียงถอนหายใจและเบี่ยงเบนเขาจากความกลัดกลุ้มนี้ได้


      แต่มันก็เท่านั้น..

      อีกนานเท่าไร?

      มันจะเป็นแบบนี้ไปถึงเมื่อไรกัน?



      ก็แค่แอบรัก


      ก็แค่หวัง


      ก็แค่รอ..


      แค่นั้น..


      ฉันก็ไม่มีสิทธิ์อย่างนั้นหรอ?



      เมื่อปิดประตู กลับมาอยู่ตามลำพัง อีกครั้ง
      เปิดรายการทีวี นั่งเก้าอี้ตัวเดิมๆ เหมือนทุกวัน

      รอเพียงเวลาให้พ้นและผ่านไป ทำได้เพียงเท่านั้น
      ซึมๆ ลอยๆ ด้วยการรอคอย ให้จบไปอีกวัน

      ไม่รู้ว่าฉันควรทำเช่นไร กับรักที่ไม่เห็นหนทาง
      ไม่รู้ว่าต้องทำยังไงบ้าง จึงจะก้าวหน้ามากกว่านี้
      มากกว่าแค่ แอบรักเขาเท่านั้นจนหมดหัวใจ
      แต่ไม่เคยให้เขารู้สักที ความจริงข้างในที่หัวใจฉันมี...


      .
      .


      "แจจุง!! ทำไมหน้าซีดแบบนั้นล่ะ!? แล้ววันนี้จะทำงานไหวมั้ยเนี่ย?"จุนซูที่เห็นสภาพเพื่อนร่วมวงของตนเยี่ยงซากศพเดินได้ส่งเสียงดังโวยวายลั่นห้องแต่งตัว

      "ฉันเอ่อ..ฉันนอนไม่ค่อยหลับน่ะ"แจจุงอึกอักตอบก่อนจะก้มหน้าลงเมื่อรู้สึกถึงสายตาที่จ้องมองมาที่เขาจากมุมห้อง

      "ให้ตายเถอะ หน้านายตอนนี้น่ะ ไม่ต้องโบ๊ะแป้งก็เหมือนโบ๊ะมาแล้วสิบตลับเลยนะ ขาวยังกะหน้าเอสี่แล้ว ทำไมถึงไม่ดูแลตัวเองเลยล่ะ เพิ่งบอกไปเมื่อวานแท้ๆ"จุนซูยังโวยไม่เลิกเดือดร้อนยูชอนที่ต้องเดินมาคว้าเจ้าตัวเล็กเข้าไปดุเบาๆ

      "เอาหน่า ฉันไม่เป็นอะไรหรอก ไม่ต้องห่วงว่านายจะต้องทำอาหารกินเองหรอกน่ะ"แจจุงยิ้มทะเล้นให้ก่อนจะโดนเสียงโลมาแว๊กเข้าให้อีกรอบ

      "นี่ฉันไม่ได้เห็นแก่กินขนาดนั้นซะหน่อย! ฉันเป็นห่วงนายนะ ครั้งที่แล้วก็แทบลุกไม่ขึ้นตั้งสามสี่วัน"

      "ฉันรู้แล้วหน่า…"


      "ยุนโฮกับแจจุงเริ่มถ่ายเซ็ตแรกก่อนเลยนะครับ"เสียงของตากล้องจากประตูห้อง ยุนโฮที่แต่งตัวเสร็จก่อนแล้วจึงเดินนำออกไปโดยไม่หันมามองแจจุงเลยแม้แต่นิดเดียว


      .
      .


      "ช่วยเขยิบชิดอีกหน่อยนะครับ"


      ร่างบางก้มหน้าลงเล็กน้อยก่อนจะขยับตามที่ตากล้องบอก..แต่เนื่องจากความอ่อนเพลียบวกกับความเครียดที่สั่งสมมาหลายวัน

      เพียงแค่แจจุงขยับขาได้ไม่ถึงก้าว..

      ร่างทั้งร่างก็ล้มฟุบลงทันที..


      .
      .
      .


      แสงแดดยามสายส่องลอดผ้าม่านสีขาวสว่างทอดตัวลงกระทบใบหน้าขาวใสของใครคนหนึ่งที่กำลังนอนหลับสบายบนเตียงนุ่ม...ร่างบนเตียงขยับตัวเล็กน้อยก่อนจะค่อยๆลืมตาขึ้นกวาดตามองไปรอบห้องและมาหยุดลงที่เตียงว่างเปล่าข้างตัว..


      เสียงเคาะประตูดังขึ้นสองสามครั้งก่อนที่ประตูจะถูกเปิดออกและน้องเล็กของวงก็เดินยิ้มร่าเข้ามาพร้อมกับถาดข้าวต้มในมือ

      "ตื่นแล้วหรอพี่? นี่พี่ยูชอนทำให้แน่ะ ฝีมือไม่เลวเลยนะ เพิ่งจะรู้ว่านอกจากพี่แจจุงแล้ว พี่ยูชอนก็พอจะพึ่งพาเรื่องทำอาหารได้เหมือนกันนะเนี่ย"ชางมินว่าพลางยิ้มให้และวางถาดลงกับโต๊ะข้างเตียง

      "ขอบใจนะ แล้วเอ่อ...ยุนโฮล่ะ? "

      "รายนั้นยังไม่กลับบ้านเลยตั้งแต่เมื่อวาน ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าไปไหน แต่พี่ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก พอดีงานเมื่อวานเลื่อนไม่มีกำหนดน่ะ พี่ยุนโฮคงอยากออกไปพักผ่อนล่ะมั้ง..ว่าแต่พี่เถอะ..ต้องกินเยอะๆนะ ถ้ากินไม่หมด ผมไม่ยอมจริงๆด้วย"

      "อืม..หวังว่าพี่คงไม่ท้องเสียหลังจากหายป่วยครั้งนี้หรอกนะ"

      "อะไร นินทาอาหารฝีมือฉันรึไง? "

      ยูชอนโผล่หน้าเข้ามาทางช่องประตูที่เปิดแง้มไว้นิดนึงก่อนจะโผล่ออกมาเต็มตัวพร้อมกับเจ้าลูกชิ้นที่ห้อยสอยอยู่ข้างๆ

      "แจจุง เดี๋ยวฉันจะออกไปหาซื้ออะไรไว้สำหรับทำกินเย็นนี้ นายจะเอาอะไรไหม? "จุนซุถามเสียงใส

      "พี่! ทำสปาเกตตี้ตับห่านกันเถอะ ผมอยากลองนานแล้ว"น้องชายเล็กสุดตะโกนบอกพลางลุกขึ้นยืนตาวาว

      "นายจะไปเอาตับห่านจากไหน หา?"ยูชอนปรายตามองชางมินอย่างเอือมระอา

      ไอ้เมนูประหลาดๆนี่ขอทีเถอะ

      น้องเล็กนี่ช่างสรรหาจริงๆล่ะ


      "ไม่เป็นไรหรอก พวกนายทำมาเถอะ ฉันกินได้หมดแล่ะ"แจจุงรีบตอบออกมาก่อนที่จะมีเมนูพิสดารอะไรออกจากปากชางมินอีก

      "งั้นพวกเรารีบไปรีบกลับนะ"เด็กหนุ่มหน้ากลมยิ้มตาหยีก่อนจะคว้าแขนยูชอนเดินออกจากห้องไปด้วยกัน

      "เดี๋ยวซี่ ผมไปด้วย! พี่แจจุงอยู่คนเดียวไปก่อนนะครับ ผมอยากไปเลือกอาหารด้วยอะ"ชางมินตะโกนบอกยูชอนและจุนซูที่เดินออกจากห้องไปแล้วก่อนจะหันมาพูดกับแจจุงเป็นเชิงขออนุญาติ

      ร่างบางหลุดหัวเราะเล็กน้อยเมื่อเห็นท่าทีรีบร้อนนั่น

      "ไปเถอะๆ พี่อยู่ได้"



      เมื่อทั้งหมดออกไปจากห้องแล้ว ก็เหลือเพียงร่างบางที่อยู่ในห้องตามลำพัง..แจจุงเอื้อมมือไปกดรีโมทเปิดทีวี ก่อนจะกดเปลี่ยนช่องไปเรื่อยๆอย่างไร้จุดหมายอีกครั้ง...



      ไม่รู้ว่านานเท่าไรที่อยู่เพียงลำพัง…

      ไม่รู้ว่าเมื่อไรที่สายตาไม่ได้จับจ้องที่ทีวีอีกแล้ว…


      เตียงว่างเปล่าตรงหน้า…

      มันมีอะไรที่ทำให้น้ำตาเขาไหลได้นะ..


      ความเจ็บปวดทางกาย

      เทียบไม่ได้เลยกับจิตใจในตอนนี้


      เจ็บจนหายใจไม่ออก..

      เจ็บเกินกว่าที่จะพูดอะไรได้..


      ทำไมนะ

      ทั้งๆที่เจ็บขนาดนี้...

      แต่ทำไมถึงไม่ได้รักน้อยลงเลยสักนิด..


      ทำไมกัน?


      ไม่มีใครสักคน ที่พอให้ระบายความเหงา
      ในห้องที่มีเพียงตัวเรา ที่ยังคงต้องอยู่ไปทุกวัน

      รอเพียงเวลาให้พ้นและผ่านไป ทำได้เพียงเท่านั้น
      ซึมๆ ลอยๆ ด้วยการรอคอย ให้จบไปอีกวัน

      ไม่รู้ว่าฉันควรทำเช่นไร กับรักที่ไม่เห็นหนทาง
      ไม่รู้ว่าต้องทำยังไงบ้าง จึงจะก้าวหน้ามากกว่านี้
      มากกว่าแค่ แอบรักเขาเท่านั้นจนหมดหัวใจ
      แต่ไม่เคยให้เขารู้สักที ความจริงข้างในที่หัวใจฉันมี...





      ฉันรักนาย



      แค่ขอให้ได้รอต่อไป

      แค่นี้

      ได้ใช่รึเปล่า?



      แอ๊ด----


      "กลับมาแล้วหรอยูชอน? "แจจุงหันไปยิ้มแย้มถามเมื่อได้ยินเสียงประตูห้องเปิด..แต่แล้วรอยยิ้มนั่นก็หายไปอย่างรวดเร็วเมื่อพบว่าคนที่เข้ามาใหม่นั้นไม่ใช่ยูชอนอย่างที่คิดไว้

      "........"


      ผู้มาใหม่ไม่ตอบอะไร ทำเพียงกวาดตาไปที่โต๊ะข้างเตียงและก็เห็นว่ามีชามข้าวต้มที่พร่องไปแล้วนิดหน่อยวางอยู่ ร่างสูงทำเพียงหันมาสบตาแจจุงก่อนจะเดินเอาถุงที่หิ้วมาทิ้งลงถังขยะตรงมุมห้องและเดินออกจากห้องไป


      แจจุงนั่งเฉยอยู่บนเตียงอย่างงุนงงทำอะไรไม่ถูกไปชั่วขณะก่อนจะตัดสินใจลุกขึ้นและตรงไปที่ถังขยะที่ยุนโฮเพิ่งทิ้งถุงอะไรบางอย่างไป



      โจ๊ก?

      ให้เขาอย่างนั้นหรอ?


      ร่างบางหันหน้าไปจ้องประตูที่เพิ่งถูกปิดไปโดยคนๆเดียวกับที่ซื้อถุงโจ๊กมาให้อย่างงุนงงราวกับว่ายุนโฮยืนอยู่ตรงนั้น..


      และไม่รอให้เสียเวลามากไปกว่านั้น แจจุงรีบสาวเท้าไปที่ประตูก่อนจะเปิดออกและมองหายุนโฮทันที




      แต่..

      ในห้องกลับว่างเปล่า

      รองเท้าคู่โปรดของยุนโฮที่ใส่บ่อยๆหายไปจากชั้นวางหิ้งบ่งบอกให้รู้ว่าไม่มีใครอยู่ในห้องอีกแล้วนอกจากเขา


      .
      .
      .


      เวลาล่วงเลยจนเกือบจะตีสอง แต่ยุนโฮก็ไม่มีที่ท่าว่าจะกลับมา...แจจุงที่แอบเพื่อนๆที่เหลือออกมาจากห้องมารอยุนโฮในห้องรับแขกเหลือบมองนาฬิกาอย่างกระวนกระวายใจ


      ปกติไม่เคยจะกลับดึกขนาดนี้นี่

      จะเกิดอะไรขึ้นรึเปล่านะ?


      ร่างบางในเสื้อสีขาวแขนยาวเดินวนไปมาในห้อง มือเรียวเล็กถูกยกขึ้นประกบกันอย่างเป็นกังวล ตาโตสวยคอยลอบมองไปที่ประตูเป็นระยะๆ


      วันนี้จะต้องพูดกันให้รู้เรื่อง

      ต่อให้ต้องตายกันไปข้างก็เถอะ


      มันคงไม่มีอะไรเลวร้ายไปกว่านี้อีกแล้วล่ะ


      เวลาผ่านไปอีกเกือบครึ่งชั่วโมง เสียงเคาะประตูดังขึ้น ร่างบางพุ่งไปที่ประตูอย่างไม่รีรอ เมื่อเปิดประตูแจจุงก็แทบจะล้มทั้งยืนเมื่อโดนยุนโฮโถมใส่..กลิ่นเหล้าที่มาจากคนตรงหน้าแรงจนส่งกลิ่นคละคลุ้งไปทั่วห้อง

      "ยุนโฮ! ทำไมเป็นแบบนี้ล่ะ?! "ร่างบางว่าพลางผลักยุนโฮให้ออกห่างเพื่อจะได้มองหน้าได้สะดวกขึ้น

      "ปล่อยฉัน…."คนตัวโตว่าพลางสะบัดตัวออกก่อนจะมุ่งหน้าเข้าห้องนอนด้วยท่าทางทุลักทุเล จนสุดท้ายแจจุงต้องเข้าช่วยพยุงเดินไปด้วยกัน


      เมื่อถึงห้อง แจจุงค่อยๆว่างยุนโฮลงเตียงก่อนจะไปเอาผ้าชุบน้ำกับกะละมังในห้องน้ำ..ร่างบางค่อยๆปลดกระดุมบนออกสองสามเม็ดเพื่อจะเช็ดตัวได้สะดวกขึ้นด้วยมืออันสั่นเทา...ตาโตเผลอมองไปทั่วใบหน้าหล่อคมนั่น..ไล่ตั้งแต่คิ้วโก่งดูดี ตาเรียวที่มีเสน่ห์ดึงดูดสาวๆนับร้อย จมูกโด่งได้รูป ปากที่แย้มยิ้มให้กับทุกคน..

      แน่นอน

      ยกเว้นเขา


      ร่างบางสะบัดหัวเล็กน้อยพยายามเรียกสติของตนเองให้กลับมาอยู่กับความเป็นจริงอย่างยากลำบาก มือเล็กลงมือเช็ดตัวให้จนเสร็จและกำลังจะเตรียมลุกออกไป...แต่แล้วกลับโดนอีกคนคว้าเข้าที่แขนก่อนจะถูกดึงลงบนเตียงทันที

      "ยุนโฮ! "

      แจจุงร้องเสียงหลงเมื่อยุนโฮไม่ปล่อยให้เปิดโอกาสทำอะไรทั้งสิ้น ร่างสูงขึ้นคร่อมเขาก่อนจะซุกหน้าลงเข้ากับซอกคอหอมทันที มือใหญ่กดมือเล็กลงกับเตียงด้วยแรงทั้งหมดจนร่างบางรู้สึกเจ็บ ร่างทั้งร่างสั่นไปเทิ้มเพราะความกลัว แจจุงพยายามขัดขืนสุดกำลังแต่ก็ไม่สามารถต้านทานแรงที่เหนือกว่าของคนด้านบนได้เลยแม้แต่นิดเดียว

      "ยุนโฮ อย่า! "

      มือใหญ่ถูกสอดเข้าไปภายในเสื้อแขนขาวตัวบาง ลูบไล้บีบเฟ้นด้วยแรงอารมณ์ ริมฝีปากหนาแต้มจูบทั่วซอกคอไล่มาจนถึงอกบาง

      "ไม่นะ..ขอร้องล่ะ"

      "รังเกียจฉันหรอ? ต้องเป็นยูชอนใช่มั้ย? นายถึงจะยินยอม"เสียงต่ำถูกเค้นออกจากลำคอของร่างสูงอย่างคนละเมอไม่ได้สติ


      ฮึก..

      เพียงแค่ประโยคเดียวก็ทำเอาหมดเรี่ยวแรง


      จุนซูสินะ ที่นายรัก

      ไม่ใช่

      ไม่ใช่ฉัน


      "ฉันรักนายนะ"


      พอแล้ว

      พอสักที

      แค่ไม่รัก

      แค่นั้นก็เจ็บพอแล้ว


      อย่าพูดว่ารักคนอื่นได้ไหม


      "ต้องทำยังไง นายถึงจะหันมามองฉันบ้าง"เมื่อร่างสูงเอ่ยประโยคนี้ฝ่ามือใหญ่ก็คลายแรงลง เหลือแต่เพียงความอ่อนโยนที่เข้ามาแทนที่ เรียวปากได้รูปบรรจงจูบจากหน้าผากไล่ลงมาที่จมูกและปากแดงเล็กและพร่ำเพ้อไม่ยอมหยุด


      "ฉันรักนาย รัก รักนาย"


      ...ร่างเล็กหลับตาลง โอนอ่อนและปล่อยไปตามอย่างที่ใจต้องการ..


      แค่ครั้งนี้

      ขอแค่ครั้งนี้เท่านั้น

      และถ้าผ่านคืนนี้ไปแล้ว


      ต่อให้ไม่ได้รักใครอีก

      เขาก็จะไม่เสียใจ



      .
      .
      .




      ปัง!!!


      "แจจุงไปไหน?! "

      สมาชิกในวงสามคนที่นั่งอยู่บนโต๊ะอาหารต่างก็ตกใจไปกับเสียงดังลั่นของหัวหน้าวง ยูชอนและชางมินถือตะเกียบคาไว้ที่ปาก จุนซูหยุดเคี้ยวลูกชิ้นทันที


      "ฉันถามว่าแจจุงไปไหน? หูหนวกกันรึไง? "

      "ออกไปข้างนอกมั้ง แต่เช้าฉันก็ไม่เห็นแล้ว"ยูชอนหน่วยกล้าตายเอ่ยตอบแทนอีกสองคนที่กำลังตะลึงกับบุคลิกที่ไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนักของยุนโฮ

      "ถ้าแจจุงกลับมาเมื่อไร ฉันต้องการคุยกันตามลำพัง พวกนายเข้าใจนะ? "

      "นี่นายไล่พวกฉันไปนอนข้างนอกรึไง? มีเรื่องอะไรกันทำไมต้องเดือดร้อนคนอื่นด้วยวะ?"ยูชอนชักฉุน

      บ๊ะ ไอ้นี่อยู่ๆ

      เอะอะๆก็ไล่อย่างนั้นเรอะ?!


      ยุนโฮปรายตาหันมามองด้วยสายตาที่สามารถเชือดไก่ได้ทุกเมื่อก่อนจะพูดเสียงเย็นจนอีกสองคนที่เหลือพร้อมที่จะออกจากห้องตอนนี้ในทันที


      "ถ้ายังอยากให้ทงบังชินกิมีสมาชิกห้าคนต่อไปแล้วล่ะก็ ทำตามที่ฉันบอกซะ"


      .
      .



      เสียงประตูเปิดดังขึ้นกลางดึกของคืนวันนั้น..แจจุงย่องเข้ามาให้เบาที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่แล้วจู่ๆไฟในห้องก็สว่างพรึบพร้อมกับเสียงเย็นเฉียบของอีกคน

      "ทำไมเพิ่งกลับมา? "

      ร่างบางสบตากับคนที่นั่งอยู่บนโซฟาเพียงนิดก่อนจะรีบหันหนีไปอีกทาง ตาโตกวาดตามองหาสมาชิกร่วมวงคนอื่นๆที่ปกติแล้วน่าจะยังอยู่ในห้องรับแขกในเวลานี้..แต่ในเมื่อไม่เห็นมีวี่แววของใครเลยสักคนนอกจากคนที่ไม่อยากเจอหน้าที่สุดตรงหน้า ร่างบางจึงตัดสินใจก้มหน้าก้มตามุ่งหน้าเดินไปยังประตูห้องนอนอย่างเร็วที่สุด..แต่ก็ไม่รอดพ้นวงแขนของอีกคนไปได้


      "ฉันถามว่าไปไหนมา? "

      "ก็..วันหยุดไม่ใช่หรอ? ฉันก็แค่ไปหาเพื่อนมาเท่านั้นเอง"แจจุงตอบเสียงเบาพลางขัดขืนอ้อมกอดของอีกคนที่รัดแน่นมากขึ้นเรื่อยๆอย่างหมดหนทาง

      "แล้วเสื้อผ้าที่หายไปค่อนตู้ล่ะ จะว่ายังไง? "

      "เอ่อ..ฉัน.. "

      "ทำไมจะต้องหลบหน้าด้วย? ฉันมันน่ารังเกียจขนาดนั้นเลยรึไง?! "ยุนโฮเริ่มพูดด้วยเสียงที่ดังขึ้นเรื่อยๆเพราะแรงอารมณ์

      แจจุงสะบัดหน้ามองทันที ดวงตาฉายแววน้อยใจเต็มเปี่ยมก่อนจะก้มหน้าลงเหมือนเดิม ปากแดงเม้มอย่างชั่งใจ


      และจะให้ทำยังไงล่ะ!?

      จะให้ตื่นขึ้นมาแล้วฟังที่นายบอกว่าถือซะว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นอย่างนั้นหรอ?



      "นายอยากหนีฉันขนาดนั้นบอกกันตรงๆก็ได้ ถ้าเรื่องเมื่อคืนเป็นเพียงแค่อารมณ์ชั่ววูบของนายแล้วล่ะก็..ฉันจะพยายามตัดใจเอง"


      คราวนี้แจจุงเงยหน้ามองอีกคนด้วยความงุนงง

      อะไรกัน?

      ตัดใจ?


      นั่นมันเป็นประโยคที่เขาควรจะพูดไม่ใช่รึไง?!

      ที่นายมีอะไรกับฉันนั่นไม่ใช่เพราะคิดว่าฉันเป็นจุนซูหรอกหรอ?

      คนที่นายรัก


      ไม่ใช่ คิม จุนซู...อย่างนั้นหรอ?



      ยุนโฮคลายอ้อมกอดลงก่อนจะยืนหันหลังให้แจจุง เปลือกตาเรียวถูกปิดลงขณะที่กำลังพูดประโยคถัดมา


      "ขอเวลาฉันหน่อยนะ ยังไงพวกเราก็คงยังต้องอยู่วงเดียวกันไปอีกนาน ฉันคงทำใจในเร็ววันไม่ได้หรอก…"

      "จะให้ฉันลืมสัมผัสเมื่อคืนเพียงวันเดียวอย่างนาย…."


      "ฉันคงทำไม่ได้…"




      "แล้วนายคิดว่าฉันทำได้อย่างนั้นหรอ?.. "


      ยุนโฮหันหน้ากลับมาทันทีที่ได้ยินเสียงสั่นเครือนั่น


      "ใครกันแน่ที่ต้องลืม? นายเกลียดฉันนักไม่ใช่รึไง? แค่หน้าก็ไม่มองกัน แล้วแบบนี้นายยังต้องใช้ความพยายามอะไรลืมเรื่องเมื่อคืนอีกอย่างนั้นหรอ? "ร่างบางพูดทั้งน้ำตา


      "นายรักจุนซู แต่นายกลับกอดฉัน คิดว่าฉันไม่เจ็บปวดอย่างนั้นหรอ?!! "เสียงของร่างบางดังขึ้นบ้างท่ามกลางความสับสนปนเปในจิตใจ


      "นายต่างหากไม่ใช่รึไงที่รักไอ้ยูชอนมัน!? "

      "วันที่เป็นไข้ นายเอาแต่เพ้อถึงมัน ทั้งๆที่ฉันเป็นอุ้มนายมาที่ห้อง เช็ดตัวให้นาย นายไม่ใช่หรอ?ที่เอาแต่เพ้อละเมอถึงชื่อไอ้หมอนั่น!!! "ร่างสูงตะโกนดังลั่นทั่วห้อง เมื่อจบประโยคยุนโฮหอบหายใจแรงก่อนจะหันหน้าหนีสายตางุนงงของอีกคน


      อะไรนะ?..

      วันนั้น..

      หรือว่า..

      วันที่เขาเป็นไข้วันนั้น..

      คนที่พาเขามาที่ห้อง..


      เป็นยุนโฮ?!

      ไม่ใช่ยูชอนหรอกหรือ?


      .
      .
      .


      "อื้อ~~ปวดหัว ยูชอน... "

      "ฮึก..ฮึก..ยูชอน..ฉันเจ็บไปหมดแล้ว..ฉันควรทำยังไงดี? "มือเล็กคว้าเข้าที่แขนของคนที่เข้าใจว่าเป็นเพื่อนร่วมวงอีกคน

      "เมื่อไร เมื่อไรจะรักฉันสักที ฮึก... "

      "เป็นฉันไม่ได้หรอ? ฮึก เป็นฉันได้ไหม? ฮึก"



      "รักฉัน ฮึก..รักฉันทีเถอะ.."


      .
      .



      "ถ้านายลำบากใจขนาดนั้นแล้วล่ะก็ ฉันจะเป็นคนไปเอง..ฉันจะย้ายไปนอนกับคนอื่นในวงเอง"ร่างสูงว่าแค่นั้นก่อนจะกำลังสาวเท้าเดินผ่านแจจุงไป...แต่ยังไม่ทันถึงประตูดี มือเล็กของอีกคนก็คว้าตัวเขาไว้ ใบหน้าที่เปียกชื้นไปด้วยน้ำตากำลังแนบลงกับหลังของเขา..



      "ฉันไม่ได้รักยูชอน.... "


      "คนที่ฉันรัก มีแค่นาย มีแค่นายมาตลอด... "



      ร่างสูงหันหลังกลับมาแทบจะในทันที มือใหญ่คว้าเข้าที่มือเล็กราวกลับกลัวว่าถ้าปล่อยแล้วคนตรงหน้าจะหนีหายไปไหน...


      "นายพูดอะไรออกมารู้ตัวรึเปล่า? "ยุนโฮพูดอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง..


      "ฉัน..ฮึก..วันนั้น...ฉันแค่คิดว่า….เป็นคนอื่น..ฮึก...ฉันแค่...."


      แค่ไม่คิดว่า…

      คนๆนั้นจะเป็นนาย




      ร่างสูงเข้าใจทุกอย่างเพียงเสี้ยววินาที..มือใหญ่รวบร่างตรงหน้าเข้ากอดอย่างแนบแน่นก่อนจะค่อยๆบรรจงแนบริมฝีปากไล้ไปทั่วใบหน้าอย่างโหยหา...และปิดท้ายลงที่ริมฝีปากแดงสด...

      ลิ้นร้อนถูกส่งเข้าไปเก็บเกี่ยวความหอมหวานอย่างไม่รอช้า เวลาที่สูญเสียไปทั้งหมดกับความเข้าใจผิด ยุนโฮกำลังเรียกคืนกลับมาอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย มือใหญ่ประคองใบหน้าขาวของอีกคนให้องศาที่พอดี ร่างสูงจูบเท่าที่อยากจูบ หอมเท่าที่อยากหอม ทำในสิ่งที่อยากทำเท่าที่ต้องการ...


      "รักฉันนะ รักฉัน เรารักกันได้ใช่ไหม?"

      "ฉันรักนาย แจจุง รัก รัก รักนาย"












      END

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×