ข้านี้ละ คุณชายอหังการ:มหาศึกเจ้าดินแดน [It's me, Lord of the Earth](อ่านฟรีจนกว่าจะแต่งจบ)

บทนำเรื่อง

วันเวลาขับเคลื่อนต่อไป โลกใบนี้เป็นเวลาเนิ่นนานแล้ว ผู้คนต่างฝึกฝนวิชาตามสัตว์ร้าย สายเลือดอันสูงส่งตั้งแต่ยุคบรรพกาลสืบต่อมา กำหนดให้คนเหล่านั้นเป็นนาย ส่วนผู้ที่อ่อนแอกว่าตกเป็นบ่าว ปกครองกันมานับหมื่นนับแสนปี มีเกิดใหม่ ก็มีดับสูญ เคยมีคนคิดรวบรวมดินแดนบูรพาทวีปแห่งนี้เป็นปึกแผ่นอยู่หลายหน แต่เมื่อรวบรวมแล้วก็สูญปล่าว เมื่อผู้แข็งแกร่งผู้เป็นผู้ปกครองตายไป บ้านเมืองก็แตกแยก ยุคแรกคือจักรพรรดิบรรพกาล ต่อมาเป็นจักรพรรดิกัปนาท และล่าสุดจักรพรรดิมังกร ทั้งสามจักรพรรดินี้เมื่อได้สิ้นใจไป ลูกหลานหาได้รั้งตึงอำนาจให้เป็นปึกแผ่นเหมือนดั่งเดิมได้ไม่ ทุกครั้งเมื่อผู้สูงสุดล้มตาย ไม่กี่ร้อยปีจักรวรรติก็ค่อย ๆ แตกแยก ไม่มีอำนาจใดที่คงทน เหล่าผู้สูงสุดเหล่านั้นทำเพียงแต่ให้ตนแข็งแกร่งขึ้นเพื่อให้ผู้อื่นนับถือและหวั่นเกรง หาได้สร้างคุณงามความดีให้ผู้อื่นยกย่องและติดตามไม่ ดินแดนแห่งนี้ยังคงไร้ซึ่งศรัทธา จวกจนมีผู้ตื่นรู้ผู้หนึ่งมาเผยแผ่หลักคำสอน ก่อตั้งเป็นลัทธิเล็ก ๆ ต่อมาเมื่อมีผู้เลื่อมใสมากขึ้น ลัทธิเล็ก ๆ แห่งนี้ก็กลายเป็นลัทธิใหญ่ เริ่มมีผู้คนมาสร้างวิหาร บูชาหลักคำสอน นำหลักคำสอนมาใช้ในการดำเนินชีวิตและฝึกตน ดินแดนป่าเถื่อนที่นิยมชมชอบผู้ที่แข็งแกร่งแห่งนี้จึงมีคุณธรรมขึ้นมาบ้าง ทั้งนี้ผู้เผยแผ่หลักคำสอนได้ถูกยกย่องเป็นศาสดา นามเฮ่าเทียน ชื่อเฮ่าเทียนนี้จึงเป็นชื่อลัทธิในเวลาต่อมา ลัทธิที่ยกย่องในความกล้าและแสงสว่าง ลัทธิที่แกร่งกร้าวที่สุดในบูรพาทวีป “ลัทธิเฮ่าเทียน”

เฮ่าเทียนนั้นเป็นผู้ตื่นรู้ รู้เห็นในอานาคต อนาคตอันห่างไกล เห็นเป็นว่าจะมีผู้สูงสุดถือกำเนิดขึ้นใหม่ และเขาจะรวบรวมดินแดนให้เป็นปึกแผ่นอีกครั้ง แต่คราวนี้มันจะแตกต่างออกไป ครั้งนี้จะไม่เหมือนครั้งก่อน ๆ ที่ผู้สูงสุดจะมีเพียงหนึ่งเดียว หากแต่ครั้งนี้จะมีถึงสาม ผู้หนึ่งเป็นแสงตะวัน ผู้หนึ่งเป็นแสงจันทรา ส่วนอีกผู้หนึ่งเป็นความมืดมิดที่ไม่อาจหยั่งถึง เมื่อสามสิ่งมาบรรจบกัน เกรงว่าฟ้าดินจะปั่นป่วน ท้องฟ้าจะแปรปรวน ห่าฝนพิรุณจะตกลงมาเป็นสีเลือด ! นี่เป็นคำทำนายสุดท้ายของเฮ่าเทียน ก่อนที่เขาจะลาจากโลกไป ทางลัทธิจึงเฝ้าคอยสังเกตการณ์อยู่อย่างสม่ำเสมอ แต่ผ่านมา 500 ปีแล้ว พวกเขาเหล่านั้นก็ยังไม่ปรากฏตัวขึ้นเลย

ลำดับขั้นการฝึกตน

 ในโลกแห่งนี้คนเราเมื่อรวบรวมกลุ่มดาวแห่งสวรรค์และโลกาครบ 10 ดวงแล้วจะก่อรูปปราณเซียน โดยการรวบรวมกลุ่มดาวทั้งสิบจะถูกเรียกว่าขั้นรวบรวมปราณ ต่อจากนั้นจะเป็นการตั้งรากฐานปราณของเซียน โดยลำดับขั้นปราณเซียนจะเรียงไปดังนี้ 

1.ขั้นก่อกำเนิดปราณ 

2.ขั้นแก่นแท้ปราณ 

3.ขั้นเอกวิญญาณกำเนิด 

4.ขั้นสะบั้นวิญญาณ 

5.ขั้นแปลงวิญญาณ 

6.ขั้นจิตแท้เจ้าปฐพี 

7.ขั้นจิตแท้เจ้าเมฆา 

8.ขั้นจิตแท้เจ้าสวรรค์

 : กัดกินสิ้นชียล ทรนงแดนขุมนรก สถิตลงสู่กลางสมรภูมิ วอดวายกัดกร่อนจนสิ้นเเสงอัธการ !  ถามไถ่สวรรค์ ข้าน่ะหรือผู้สูงสุด ถามไถ่ฟ้าดิน ข้าน่ะหรือเจ้าดินแดน

 : ดวงสุริยาผงาดขึ้นเหนือนภา แสงฏีกาแห่งสวงสวรรค์ จุติลงมากลางอัมพรพลัน ขับแสงสุริยันนิรันดร ! หากเดินเส้นทางนี้ข้าพบเห็นศิลา ถ้าเช่นนั้นข้าก็จะหั่นศิลา บุกเบิกเส้นทางใหม่เสีย !
 

 : มหาสมุทรสู่ท้องนภา สายธารดาราสู่สวงสวรรค์ หนึ่งรัชนีกรชั่วนิรันดร์ สาดแสงจันทรานิจนิรันดร ! ชีวิตนี้ของข้า.. ข้าจะขอใช้มันเพื่อตนเอง  โชคชะตาของข้า..ข้าก็จะขอเป็นผู้ลิขิต ดูสิใครมันจะกล้ามาขวางทางข้าได้ !

****************************************************************************
     
*นิยายเรื่องนี้ค่อยข้างมีบทสนทนาเยอะนะครับ นิยายเรื่องนี้เกิดจากจินตนาการของไรท์
*อาจมีฉากรุนแรงหรือเหตุการณ์ที่ไม่สมเหตุสมผลอยู่บ้าง นี่เป็นผลงานจริงจังเรื่องแรกของผม ซึ่งผมทุ่มเทกับมันมาก ผมหวังจากใจจริงว่านักอ่านทุกคนที่ผ่านทางมาจะชอบกันนะครับ
*ทั้งนี้เพื่อไม่ให้พลาดนิยายตอนใหม่ กดติดตามเพื่อติดตามนิยายตอนใหม่ ๆ ของนักเขียน ขอบคุณครับ

 

**เรื่องย่อ**

เยว่ชิงนี้นิยมชมชอบอิสระเสเพล ถึงเสเพลก็หาได้สร้างความเดือดร้อนแก่ผู้อื่นแต่อย่างใด ชีวิตนี้เขาหวังแค่ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขไปวัน ๆ เขาไม่ได้คาดหวังอะไรในตัวเองเสียด้วยซ้ำ เป็นเรื่องที่โชคร้ายสำหรับเขา ที่เขามีชาติกำเนิดที่ไม่ธรรมดา ถึงแม้เขาจะไม่ได้คาดหวังอะไรในตนเอง กลับมีผู้คนมากมายมาคาดหวังในตัวเขาเสียนี่