Mutants & Mortals - นิยาย Mutants & Mortals : Dek-D.com - Writer
×
NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายเนื้อหาที่เกี่ยวกับความรุนแรงสูง

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด

    Mutants & Mortals

    ผู้เข้าชมรวม

    217

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    13

    ผู้เข้าชมรวม


    217

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    4
    หมวด :  แฟนตาซี
    จำนวนตอน :  10 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  17 ต.ค. 67 / 12:00 น.
    คำเตือนเนื้อหา NC

    มีการบรรยายเนื้อหาที่เกี่ยวกับความรุนแรงสูง

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    จะเป็นอย่างไรถ้าโลกของเรามีมนุษย์ที่มีพลังพิเศษเหมือนกับภาพยนตร์ขึ้นมา? ในนิยายมีคำตอบ(ที่อาจจะไม่ตรงกับความเป็นจริง)ให้กับคุณ นิยายเรื่องนี้เกี่ยวกับโลกของคนที่มีพลังพิเศษตามที่กล่าวไป แต่ไม่ใช่เพียงแค่นั้น โลกใบนี้มีมนุษย์อยู่ทั้งหมด 3 แบบ: คนธรรมดา คนที่มีพลังพิเศษซึ่งเรียกว่า D.E.M. และบรูแม็กนิสต์หรือคนที่ปัญญาเหนือมนุษย์ทั่วไป มนุษย์กลายพันธุ์บางคนใช้พลังในทางที่ผิด จึงทำให้เกิดอาชีพที่เรียกว่าพีซการ์ดขึ้นมา ซึ่งมีสำนักงานพีซการ์ดเป็นสถานที่ทำงานหลัก

    คำแนะนำสำหรับผู้อ่าน:

    ตัวละครสำคัญทุกตัวจะถูกแนะนำตัวด้วยชื่อเต็มและเป็นตัวอักษรทึบ

    ข้อมูลเพิ่มเติมต่อไปนี้ไม่จำเป็นต้องอ่านก่อนเริ่มอ่านตอนที่ 1:

    มนุษย์

    มนุษย์ธรรมดา (Mortal/Human):

    มนุษย์ธรรมดาเป็นมนุษย์ที่ยังคงสภาพเดิมของตัวเองโดยไม่ได้กลายพันธุ์ พวกเขามีประชากรโดยเฉลี่ย 55% จากมนุษย์ทั้งโลก

    บรูเมจิสต์ (Brumagist):

    บรูแม็กนิสต์คือมนุษย์ที่ปัญญาเหนือมนุษย์ทั่วไป พวกเขามีประชากรโดยเฉลี่ย 10% จากมนุษย์ทั้งโลก บรูเมจิสต์รุ่นแรกเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาที่มีชีวิตในเหตุการณ์อุกกาบาตทรงลูกบาศก์ สมองของพวกเขาพัฒนาอย่างรวดเร็วทันทีอุกกาบาตชนโลกในปี ค.ศ. 1959 พวกมีปัญญาที่สูงจนสามารถคิดค้นและสร้างเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย

    บรูเมจิสต์นั้นมีอยู่ 2 ประเภท ได้แก่

    1. บรูเมจิสต์ธรรมดา (Normal Brumagist): บรูเมจิสต์ที่มีเชื้อสายของบรูเมจิสต์
    2. บรูเมจิสต์หายาก (Rare Brumagist): บรูเมจิสต์ที่มีแต่เชื้อสายของคนธรรมดาทั้งพ่อและแม่

    มนุษย์กลายพันธุ์ (Mutant):

    มนุษย์กลายพันธุ์คือกลุ่มคนที่มีพลังพิเศษ พวกเขามีประชากรโดยเฉลี่ย 35% จากมนุษย์ทั้งโลก มนุษย์กลายพันธุ์รุ่นแรกเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาที่มีชีวิตในเหตุการณ์อุกกาบาตทรงลูกบาศก์ การกลายพันธุ์ของพวกเขาเริ่มขึ้นหลังจากการระเหยแก๊สของอุกกาบาต ซึ่งมนุษย์กลายพันธุ์คนแรกถูกพบเจอเมื่อปี ค.ศ. 1962 หลังจากนั้นมนุษย์กลายพันธุ์ก็กลายเป็นประชากรกลุ่มที่ปะปนปกับมนุษย์ทั่วไป มนุษย์กลายพันธุ์ถูกแบ่งประเภทออกเป็น 3 ประเภทหลัก 14 ประเภทย่อย ได้แก่

    1. มนุษย์กลายพันธุ์ทางร่างกาย (Corporal Mutant):

    มนุษย์กลายพันธุ์ที่มีร่างกายเป็นมนุษย์กลายพันธุ์ที่ค้นพบได้ง่ายที่สุด

    1.1 มนุษย์กลายพันธุ์ทางยีน (Gene Mutant): มนุษย์กลายพันธุ์ที่มีร่างกายที่ใกล้กับมนุษย์ทั่วไป ซึ่งเป็นมนุษย์กลายพันธุ์ที่ค้นพบได้ง่ายที่สุด เช่น ร่างกายตัวใหญ่ขึ้น หรือมี 4 แขน

    1.2 มนุษย์กลายพันธุ์ทางขน (Feathery Mutant): มนุษย์กลายพันธุ์ที่มีขนแตกต่างจากมนุษย์ทั่วไป เช่น มีสีขนเหมือนนก หรือมีขนที่หนาพอที่จะที่จะใช้ป้องกันตัวแบบมนุษย์

    1.3 มนุษย์กลายพันธุ์ทางกระดูก (Bone Mutant): มนุษย์กลายพันธุ์ที่มีกระดูกรูปร่างแปลกจากมนุษย์ทั่วไป เช่น มีกงเล็บงอกออกมาบริเวณปลายแขน

    1.4 มนุษย์กลายพันธุ์ทางผิงหนัง (Leather Mutant): มนุษย์กลายพันธุ์ที่ผิวหนังแตกต่างจากมนุษย์ทั่วไปหรือมีพลังพิเศษที่ผิวหนัง เช่น มีสีผิวที่ม่ใกล้เคียงกับมนุษย์ทั่วไป หรือสามารถเปลี่ยนสีผิวเพื่อพรางตัวได้

    1.5 มนุษย์กลายพันธุ์ขาปล้อง (Arthro Mutant): มนุษย์กลายพันธุ์ที่มีเนื้หนังแขง็งแต่มีกระดูกอ่อน และมีอวัยวะคล้ายกับสัตว์ขาปลอง เช่น เหล็กในหรือหนวดสัผัสอากาศ

    1.6 มนุษย์กลายพันธุ์ทางน้ำ (Aquatic Mutant): มนุษย์กลายพันธุ์ที่สามารถใช้ชีวิตใต้น้ำได้และมีการกลายพันธุ์ทางชีววิทยาเล็กน้อยถึงปานกลาง เช่น มี่พิษในร่างกายแบบปลาปักเป้า

    1.7 มนุษย์กลายพันธุ์มีปีก (Avian Mutant): มนุษย์กลายพันธุ์ที่มีปีกและขนเหมือนสัตว์ปีก และอาจมีอวัยวะอื่นๆที่พบเฉพาะในสัตว์ปีก เช่น มีถุงใต้คาง

    2. มนุษย์กลายพันธุ์ทางอวัยวะภายใน (Organ Mutant):

    มนุษย์กลายพันธุ์ที่มีอวัยวะภายในเป็นมนุษย์กลายพันธุ์ที่ไม่สามารถดูออกได้ว่าเป็นมนุษย์กลายพันธุ์หรือไม่

    2.1 มนุษย์กลายพันธุ์ทางลูกตา (Optic Mutant): มนุษย์กลายพันธุ์ที่มีพลังที่ลูกตา เช่น ตาเรืองแสงได้

    2.2 มนุษย์กลายพันธุ์ทางกระแสจิต (Biosonic Mutant): มนุษย์กลายพันธุ์ที่ส่งคลื่นเสียงโซนาร์ได้

    2.3 มนุษย์กลายพันธุ์ทุ่งหิมะ (Thundra Mutant): มนุษย์กลายพันธุ์ที่สามารถใช้ชีวิตในพื้นที่ที่อุณต่ำได้และมีการกลายพันธุ์ทางชีววิทยาเล็กน้อยถึงปานกลาง เช่น สะสมความเย็นในร่างกายเพื่อสร้างน้ำแข็งผ่านมือ

    2.4 มนุษย์กลายพันธุ์ทางฟิสิกส์ (Physical Mutant): มนุษย์กลายพันธุ์ที่มีพลังทางฟิสิกส์ เช่น สามารถปล่อยสายฟ้าได้

    2.5 มนุษย์กลายพันธุ์ร่างดึงดูด (Astro Mutant): มนุษย์กลายพันธุ์ที่มีแรงดึงดูดเหมือนดาวเคราะห์ เช่น ร่างกายสามารถดึงดูดน้ำได้

    2.6 มนุษย์กลายพันธุ์ทางเคมี (Chemical Mutant): มนุษย์กลายพันธุ์ที่สามารถผลิตสสารได้มากกว่าปกติหรือสสารที่มีธาตุที่มนุษย์ทั่วไปผลิตไม่ได้ เช่น ร่างกายสามารถหลั่งน้ำกรดออกมาทางผิวหนังได้

    3. มนุษย์กลายพันธุ์เลียนแบบ (Copy Mutant):

    มนุษย์กลายพันธุ์ที่สามารถลอกเลียนแบบ DNA ที่สำผัสได้ ซึ่งเป็นกลุ่มมนุษย์กลายพันธุ์ที่หายากที่สุด

    เมื่อคนธรรมดามีลูกกับมนุษย์กลายพันธุ์ ลูกของพวกเขาจะเป็นมนุษย์กลายพันธุ์ 100%

    ถ้ามนุษย์กลายพันธุ์มีลูกกับบรูเมจิสต์ ลูกของพวกเขามีโอกาสเกิดมาเป็นมนุษย์กลายพันธุ์ที่ไม่มี DNA ของบรูเมจิสต์เลย 50% และบรูเมจิสต์ที่มไม่ DNA กลายพันธุ์เลย 50%

    ถ้าหากมนุษย์กลายพันธุ์มีลูกกัน ลูกของพวกเขามีโอกาศเกิดมาเป็นมนุษย์ที่มีพลังของพ่อหรือแม่คนใดคนหนึ่ง 60% มีพลังของทั้งคู่ 35% แต่อีก 5% นั้นคือคนที่ไม่มีพลังของใครเลยแต่ยังมี DNA กลายพันธุ์ ซึ่งพวกเขาถูกเรียกว่า“รีเวอร์ดีอุส” (Reverdeus)

    เทคโนโลยีล้ำสมัยทั่วไป

    หลังจากที่บรูเมจิสต์มีตัวตน เทคโนโลยีลำสมัยก็ถูกสร้างขึ้นมา

    ปืนเลเซอร์ (Laser Gun):

    ปืนเลเซอร์ถูกสร้างจากกองทัพสหรัฐ มันเป็นอาวุธสำหรับหน่วยรบพิเศษเท่านั้น เนื่องด้วยทุนการสร้างที่แพงเกินที่จะใช้กับกองร้าย พลังทำลายล้างของมันมหาศาล แต่มันถูกทำลายได้ง่ายมาก ถึงแม้ว่าความทนทานจะสูงก็ตาม

    ชุดเกราะพลังงาน (Power Armor):

    ชุดเกราะพลังงานถูกสร้างจากกองทัพสหรัฐ ด้วยความง่ายในการใช้และความทนทานของมัน มันจึงถูกสร้างมาให้ทุกกองทัพทั่วประเทศ จึงทำให้ชุดเกราะพลังงานปรากฎบนโปสเตอร์ของกองทัพแทบจะทั้งหมด ในปี 1987 บริษัท Lockwood ได้รับสิทธิ์ในการผลิตชุดเกราะพลังงานเป็นสินค้าที่ขายให้โรงงานและพื้นที่สาธารณะต่างๆ โดยชุดเกราะพลังงานที่ขายให้ประชาชนจะมีความทนทานที่ตำกว่าแต่ใช้ง่ายและสะดวกกว่า และยังมีน้ำหนักเบากว่าของกองทัพ ในเวลาต่อมา บริษัท Lockwood สาขาย่อยในต่างประเทศก็เริ่มได้รับสิทธิ์ในการผลิตชุดเกราะพลังงานในประเทศของตนเอง ชุดเกราะพลังมีทั้งหมด 4 แบบดังนี้

    1. ชุดเกราะพลังงานทางการทหาร (Military Power Armor): ชุดเกราะพลังงานที่ใช้ในกองทัพ ซึ่งมีเฉพาะในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น
    2. ชุดเกราะพลังงานทั่วไป (Common Power Armor): ชุดเกราะพลังงานที่ขายให้ประชาชนที่ต้องมีทะเบียน
    3. ชุดเกราะพลังงานประจำหมู่เกาะ (Isles Power Armor): ชุดเกราะพลังงานที่ถูกสร้างมาดูและหมู่เกาะเล็กๆ ซึ่งมีเฉพาะในสหราชอาณาจักร ไอร์แลนด์ และออสเตรเลียเท่านั้น
    4. ชุดเกราะพลังงานทะเลทราย (Desert Power Armor): ชุดเกราะพลังงานที่มีไว้สำหรับลุยทะเลทรายโดยเฉพาะ ส่วนมากพบในเม็กซิโก ออสเตรเลีย และแอฟริกา

    กะบังแสง (Light Visor):

    กะบังแสงถูกสร้างขึ้นมาสำหรับมนุษย์กลายพันธุ์ที่มีพลังปล่อยแสง

    แฟลตดิสก์ (Flatdisk):

    แฟลตดิสก์ถูกสร้างมาเพื่อเก็บข้อมูลและคำสั่งสำหรับหุ่นยตร์ ซึ่งมันสามารถกำหบดนิสัยของหุ่นยนตร์ได้ โดยนิสัยจะถูกกำหนดผ่านการตัดสินการกระทำที่ถูกกำหนดเอาไว้ในแฟลตดิสก์ ในด้านรูปร่างลักษณะ แฟลตดิสก์มีรูปร่างเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า หนากว่าแผ่น DVD มีเส้นตัดลายทาง และมีตัวเลขขนาดข้อมูลที่บรรจุเอาไว้ แฟลตดิสก์ถูกผลิตออกมาด้วยขนาดความจุตั้งแต่ 4 GB จนถึง 64 GB ในปี 2015 มีสี 12 สี และมีความแข็งในระดับที่ใช้มือหักไม่ได้ แฟลตดิสก์ถูกคิดค้นโดย Anderson Isaac ในปี 1964

    เอเนอร์ชิป (Enership):

    เอเนอร์ชิปเป็นเชื้อเพลิงสำหรับอาวุธพลังงาน เช่น ปืนเลเซอร์ มันมักจะถูกผลิตให้กับหน่วยรบพิเศษและบริษัทเอกชนที่มีอาวุธพลังงานเป็นของตัวเอง เอเนอร์ชิปถูกคิดค้นโดย Sieta Arcoiris ในชื่อของบริษัท Lockwood

    โฮโลแกรม (Hologram):

    โฮโลแกรมถูกสร้างโดยบริษัท Holotech ที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งถูกสร้างมาเพื่อมอบความบันเทิงและปกป้องประชาชน โดยโฮโลแกรมมีอยู่ 2 แบบ

    1. โฮโลแกรมทั่วไป (Common Hologram): โฮโลแกรมสำหรับมอบความบันเทิงทั่วไปและประโยชน์อื่นๆ
    2. โฮโลแกรมทางการทหาร (Military Hologram): โฮโลแกรมที่มีระบบความร้อนในการรบ มีเฉพาะกองทัพที่ใช้

    แฟลตดิสก์โคเดอร์ (Flatdisk Coder):

    เว็บไซต์โคเดอร์ถูกสร้างโดย Wolf Mooseman มันเป็นเว็บไซต์สำหรับคนที่อยากสร้างหุ่นยนตร์ที่มีนิสัยที่ต้องการ หน้าที่ของมันคือเขียนโค๊ดสำหรับหุ่นยนตร์ตามตัวเลือกของที่ผู้ใช้ต้องการ เมื่อผู้ใช้เลือกให้หุ่นยนตร์ที่ใช้นั้นกลายเป็นภัยต่อมนุษย์และหุ่นยนตร์ด้วยกันเอง เว็บไซต์จะส่งที่อยู่ของผู้ใช้ไปให้ตำรวจทันที

    ออสิสโต (Aussisto):

     ออสิสโตเป็นหุ่นยนตร์ที่ถูกสร้างมาให้ช่วยงานเจ้าของในงานต่างๆ ซึ่งถูกแบ่งเวอร์ชันออกสำหรับงานต่างๆโดยเฉพาะ โดยมี 10 เวอร์ชันดังนี้ ออสิสโตถูกสร้างโดย Anderson Isaac ก่อนที่เขาจะขายไอเดียนี้ให้บริษัท Lockwood

    1. บัทสิสโต (Butsisto): ออสิสโตสำหรับเสริฟของต่างๆ
    2. คลีนสิสโต (Cleansisto): ออสิสโตติดเครื่องดูดฝุ่นสำหรับทำความสะอาด
    3. ออชูโต (Aushooto): ออสิสโตสำหรับยิงและตีลูกบอลที่ใช้ในกีฬา
    4. กรีนสิสโต (Greensisto): ออสิสโตติดปืนฉีดน้ำและเลื่อยไฟฟ้าสำหรับดูแลสวนและแปลงผัก
    5. ออพิสโต (Aupisto): ออสิสโตติดอาวุธปืนเพ็นท์บอลสำหรับเฝ้ายาม
    6. ดริลลิสโต (Drillisto): ออสิสโตติดสว่านสำหรับขุดเหมือง
    7. บีฟิสโต (Beefisto): ออสิสโตติดเตาย่างสำหรับทำอาหาร
    8. ฮาร์วิสโต (Harvisto): ออสิสโตติดใบมีดสำหรับเก็บเกี่ยวผลผลิต
    9. กราฟิสโต (Graphisto): ออสิสโตสำหรับถ่ายรูป
    10. อัลฟิสโต (Alphisto): ออสิสโตสำหรับดูแลสัตว์เลี้ยง

    ฮิวมิค (Humic):

    ฮิวมิคเป็นหุ่นยนตร์ที่มีรูปร่างหน้าตาเหมือนมนุษย์ ซึ่งถูกสร้างออกมาแล้ว 5 รุ่นในปี 2015 เดิมทีแล้ว มันถูกสร้างออกมาแบบหุ่นรองเสื้อ แต่ในรุ่นหลังๆมาก็ถูกปรับเปลี่ยนให้ดูเหมือนคนมากขึ้นในรุ่นหลังๆ ฮิวมิคถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใช้แรงงานโดยเฉพาะ แฟลตดิสก์ทุกชิ้นถูกสร้างขึ้นมาให้มีนิสัยจงรักพรรคดีต่อบริษัท ฮิวมิคมีพัฒนาการตามรุ่นดังนี้ ฮิวมิคถูกสร้างโดย Jonathan Boston ในนามของบริษัท Infantech

    1. ฮิวมิครุ่นที่ 1 (Humic Mk. 1): ฮิวมิคที่มีรูปร่างเหมือนหุ่นลองเสื้อเดินได้
    2. ฮิวมิครุ่นที่ 2 (Humic Mk. 2): ฮิวมิคที่มีสีผิวแบบมนุษย์และขยับร่างกายเหมือนมนุษย์
    3. ฮิวมิครุ่นที่ 3 (Humic Mk. 3): ฮิวมิคที่มีรูปร่างหน้าตาเหมือนมนุษย์ มีขนที่ทำจากไนลอน
    4. ฮิวมิครุ่นที่ 4 (Humic Mk. 4): ฮิวมิคที่มีน้ำแดงอยู่ภายในเหมือนเลือด
    5. ฮิวมิครุ่นที่ 5 (Humic Mk. 5): ฮิวมิคที่มีรูปร่างหน้าตาเหมือนมนุษย์เกือบสมบูรณ์

    สังคมและวัฒนธรรม

    กลายพันธุ์วิทยาและยุทศาสตร์กลายพันธุ์ (Mutology & Mutant Strategy):

    กลายพันธุ์วิทยากลายเป็นวิยาศาสตร์แขนงใหม่หลังจากที่มีการค้นพบมนุษย์กลายพันธุ์ ซึ่งเป็นวิทยาศาสตร์ที่ศึกษาเกี่ยวกับมนุษย์กลายพันธุ์และบรูเมจิสต์ โดยตำราความรู้เกี่ยวกับอุกกาบาตทรงลูกบาศก์และสารจากบรูเมจิสต์ถูกย้ายมาอยู่ในวิทยาศาสตร์แขนงนี้ ซึ่งในสมัยก่อนนั้นถูกนับเป็นชีวะวิทยาและเคมีวิทยา หลังจากที่มีกลายพันธุ์วิทยา มหาวิทยาลัยเริ่มมีคณะวิทยาลัยกลายพันธุ์ (Mutant Faculty) เพื่อคนที่อยากทำงานให้กับสำนักงานพีซการ์ดโดยเฉพาะ

    ยุทศาสตร์กลายพันธุ์เป็นวิชาที่ถูกคิดค้นในปีค.ศ. 1963 เพื่อฝึกฝนมนุษย์กลายพันธุ์เพื่อไปเป็นพีซการ์ด

    สำนักงานพีซการ์ด (Peace Guard Department):

    สำนักงานพีซการ์ดถูกก่อตั้งมาเพื่อจับกุมอาชยากรและหยุดเหตุก่อการร้ายต่างๆ สำนักงานพีซการ์ดแห่งแรกถูกก่อตั้งอยู่ในเมืองลอสแองเจลิสในรัฐแคลิฟอร์เนียที่ประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อปีค.ศ. 1964 โดยสำนักงานนั้นมีชื่อว่า “Great Tower” โดยสำนักงานพีซการ์ดมีตำแหน่งงานดังนี้

    • ผู้ช่วย (Assistant): เจ้าหน้าที่ที่ออกตามจับและหยุดยั้งเหตุร้ายและช่วยเหลือประชาชนร่วมกับพีซการ์ด ซึ่งไม่จับกัดว่าจะเป็นมนุษย์กลายพันธุ์หรือไม่ คนที่เป็นผู้ช่วยจะได้รับการฝึกฝนให้พร้อมกับการเป็นผู้ช่วยพีซการ์ด หลังจากที่ได้เป็นผู้ช่วย พวกเขาจะต้องมีพีซการ์ดเป็นหัวหน้าในขณะที่ออกปฏิบัติหน้าที่
    • พีซการ์ด (Peace Guard): บุคลากรที่ออกตามจับและหยุดยั้งเหตุร้ายและช่วยเหลือประชาชน ซึ่งจำกัดให้มนุษย์กลายพันธุ์ที่แข็งแกร่งเท่านั้นที่เป็นได้ มนุษย์กลายพันธุ์ที่เข้ามาเป็นพีซการ์ดต้องมีอย่างน้อย 1 ใน 3 คุณสมบัติของดังนี้ 1. จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยคณะยุทศาสตร์กลายพันธุ์สาขาไใดก็ได้ 2. ถูกเลื่อนขั้นมาจากการเป็นผู้ช่วย 3. มีประวัติการทำหน้าที่คล้ายคึงกับพีซการ์ดที่บันทึกไว้ เมื่อได้พีซการ์ด ไม่จำเป็นต้องมีผู้ช่วยคอยติดตาม แต่บางครั้งจะได้รับคำแนะนำให้มี
    • หัวหน้าหน่วย (Chief): บุคลากรระดับสูงประจำหรน่วย
    • นักสืบ (Detective): เจ้าหน้าที่สืบสวนคดีใหญ่
    • นักวิจัย (Scientist): บุคลากรที่ให้ความช่วยเหลือพีซ

    เรนเจอร์ประจำเมือง (City Rangers):

    เรนเจอร์ประจำเมืองคือหน่วยรบพิเศษของรัฐที่คอยปกป้องเมืองที่ตัวเองประจำอยู่จากกลุ่มธุรกิจมืดหรือมาเฟีย เรนเจอร์ประจำเมืองต่างๆมีชื่อเรียกโดยรวมเป็นตัวย่อของเมืองที่ประจำอยู่ตามด้วยคำว่า “เรนเจอร์” โดยตามมาตรฐานแล้ว เรนเจอร์จะต้องมีสมาชิกอย่างน้อย 5 คน ซึ่งสมาชิกแต่ละคนมีชื่อในกลุ่มและสีประจำตัวที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งสีคือตัวบ่งบอกตำแหน่งของสมาชิก

    • สีแดง: หัวหน้าทีม
    • สีน้ำเงิน: นักสู้ระยะประชิด เน้นการโจมตีระยะไกล้ถึงประชิด
    • สีเหลือง: มือสังหาร เน้นการโจมตีที่รวดเร็ว
    • สีส้ม: มือระเบิด เน้นการโจมตีด้วยระเบิดหรือขีปนาวุธ
    • สีเขียว: มือปืนกลหนัก เน้นการโจมตีที่หนักแน่น
    • สีชมพู: แพทประจำกลุ่ม เน้นการช่วยเหลือสมาชิกในทีมมากกว่าการต่อสู้
    • สีไซอัน: วิศวกรประจำกลุ่ม เน้นการซ่อมอุปกรณ์และต่อยอดวิทยาการมากกว่าการต่อสู้
    • สีดำ: มือสไนเปอร์ เน้นโจมตีระยะใกล
    • สีขาว: ฝ่ายปอกป้อง เน้นการทำลายอาวุธหนักของศัตรู

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น