การจัดบรรยากาศในชั้นเรียน จึงเป็นสิ่งสำคัญในการช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ของผู้เรียนและส่งเสริมให้ผู้เรียนสามารถรับผิดชอบควบคุมดูแลตนเอง ได้ในอนาคต การจัดบรรยากาศมีทั้งด้านกายภาพ เป็นการจัดสภาพแวดล้อมในห้องเรียนทั้งการจัดตกแต่งในห้องเรียน จัดที่นั่ง จัดมุมเสริมความรู้ต่างๆ ให้สะดวกต่อการเรียนการสอน ทางด้านจิตวิทยา เป็นการสร้างความอบอุ่น ความสุขสบายใจให้กับผู้เรียน ผู้สอนควรจัดบรรยากาศทั้ง 2 ด้านนี้ให้เหมาะสม นอกจากนี้การสร้างบรรยากาศการเรียนรุ้ให้เกิดความสุขแก่ผู้เรียนเป็นองค์ประกอบสำคัญประการหนึ่งที่จะสร้างคุณลักษณะนิสัยของการใฝ่เรียนรู้ การมีนิสัยรักการเรียนรู้ การเป็นคนดี และการมีสุขภาพจิตที่ดีสามารถอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุขทั่งในปัจจุบันและอนาคตต่อไป ซึ่งบุคคลสำคัญที่จะสร้างบรรยากาศการเรียนรู้อย่างมีความสุขให้เกิดขึ้นได้ คือ ครูผู้นำทางการเรียนรู้นั่นเองการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพนั้นเกิดจากการเรียนรู้ที่ครบวงจร ซึ่งได้แก่การให้ผู้เรียนเลือกเรื่องที่จะเรียนและวิธีการเรียน จากนั้นจึงลงมือปฏิบัติตามที่ได้คิดไว้โดยการเรียนรู้ร่วมกับกลุ่มแล้วสรุปความรู้ด้วยตนเอง นอกจากนี้ประสิทธิภาพของการเรียนรู้ยังเกิดจากการสนับสนุนจากปัจจัยเอื้อสามประการคือ การเรียนรู้อย่างสอดคล้องกับธรรมชาติการเรียนรู้ของวัยหรือพัฒนาการได้แก่ การเรียนรู้โดยการเคลื่อนไหวและการกระทำ ปัจจัยเอื้อประการต่อมาคือบรรยากาศที่สนับสนุนการเรียนรู้ที่สร้างความรู้สึกมีความสุข ผ่อนคลาย ไม่เคร่งเครียด ปลอดภัยและได้รับการยอมรับจากกลุ่ม ส่วนปัจจัยเอื้อที่สามคือการดูแลสนับสนุนและอำนวยความสะดวกของครูในการจัดกิจกรรมให้เด็กได้สร้างความรู้ผ่านการปฏิสัมพันธ์กับเพื่อน กับครู และสิ่งแวดล้อม
ดังนั้นการจัดบรรยากาศที่เหมาะสมจะส่งผลต่อประสิทธิภาพการเรียนรู้ของเด็ก เพราะการเรียนท่ามกลางบรรยากาศที่มีความสุข ผู้เรียนจะเกิดความรู้สึกผ่อนคลายไม่กดดัน ทำให้เกิดการเรียนรู้ได้ง่ายและมีประสิทธิภาพ
7 ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเรียนรู้ได้อย่างมีคุณภาพ
1.บรรยากาศเปิด
1. สภาพในโรงเรียน/ห้องเรียน เอื้อต่อการเรียนการสอน
2. เรียนรู้ทั้งในและนอกห้องเรียน
3. มีการนำเข้าสู่บทเรียน เช่น ร้องเพลง เล่านิทาน
4. มีสื่ออุปกรณ์หลากหลาย
5. สนับสนุนให้เกิดความอยากรู้ อยากเห็น
6. ห้องเรียนสะอาด สวยงาม
7. ครูและนักเรียนทำตัวเป็นกันเอง
2.ครูเปิด
1. เปิดกว้างให้นักเรียนมีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็น
2. รับรู้ใหม่ ๆ ทันเหตุการณ์
3. มีการพัฒนาตนเองโดยศึกษาจากแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ
4. ให้โอกาสนักเรียนซักถามปัญหาที่สงสัย
5. เปิดโอกาสให้นักเรียนได้ลงมือปฏิบัติจริง
6. ครูพร้อมที่จะทำการสอน
7. ใช้คำถามจูงใจเด็ก
8. ให้นักเรียนศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง
3.สื่อเปิด
1. มีสื่อที่หลากหลายตามความสนใจเด็ก
2. นำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้
3. สื่อพร้อมที่จะใช้งานและให้บริการ
4. น่าสนใจเหมาะสมกับเนื้อหา
5. ใช้สื่อจากภูมิปัญญาในท้องถิ่น
6. สื่อต้องมีประสิทธิภาพแปลกใหม่
7. นักเรียนมีส่วนในการผลิตและใช้สื่อ
4.นักเรียนใฝ่เรียนรู้
1. ตั้งใจเรียนมีความพร้อมที่จะเรียน
2. มีความกระหายใฝ่รู้ในการเรียน
3. รับผิดชอบเวลาในการจัดกิจกรรม
4. แสวงหาความรู้ด้วยตนเอง
5. ให้ความร่วมมือในการจัดกิจกรรม
6. มีทักษะในการทำงาน
7. มีพื้นฐานในเรื่องที่จะเรียน
8. ต้องการเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา/คิดริเริ่มสร้างสรรค์
5.ครูใส่ใจ
1. จัดกิจกรรมที่หลากหลาย/กระตุ้นให้เด็กอยากเรียน
2. ดูแลให้คำปรึกษาเมื่อเกิดปัญหา
3. มีการเตรียมการสอนล่วงหน้า
4. สนใจเนื้อหาวิชาที่ถ่ายทอด
5. อำนวยความสะดวกในการจัดกิจกรรมการเรียน
6. ยอมรับความคิดเห็นและความสามารถของนักเรียน
7. ศึกษาค้นคว้าหาความรู้อยู่เสมอ
8. สรุปผลการเรียน/สอดแทรกคุณธรรม
9. จัดกิจกรรมโดยการปฏิบัติจริง
10. เสียสละ
6.ผู้อำนวยการสนับสนุน
1. มีวิสัยทัศน์ เห็นความสำคัญของวิชาวิทยาศาสตร์
2. ให้การสนับสนุนและหางบประมาณ
3. จัดอบรมครู/หาสื่ออุปกรณ์ให้มีความพร้อม
4. ต่อยอดองค์ความรู้เพื่อทำผลงานของครู
5. ให้ขวัญและกำลังใจครูในการปฏิบัติงาน
6. มีการกำกับติดตามการปฏิบัติงาน
7.แหล่งเรียนรู้
1. มีแหล่งเรียนรู้ตามธรรมชาติ/ ในชุมชน
2. เทคโนโลยีทันสมัย พร้อมใช้งาน
3. มีความหลากหลายตามความต้องการ
4. ให้การสนับสนุนในการศึกษาค้นคว้าจากแหล่งเรียนรู้
5. ใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่น สอดแทรกกับเนื้อหา/วัยของเด็ก
ความคิดเห็น