miss
แฮะๆมันมาตามอารมณ์ เพราะช่วงแรกๆที่จัดคอนกันใหม่ๆไม่ค่อยเห็นพี่ท้อปสุงสิงกับน้องแดสักเท่าไหร่เลยโรคจิตเขียนขึ้นมา 555 ถ้าผิดพลาดตรงไหนขอโทษมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ ^^ เม้นเป็นกำลังใจให้ไรท์ด้วยนะค้าา
ผู้เข้าชมรวม
161
ผู้เข้าชมเดือนนี้
3
ผู้เข้าชมรวม
“คิดยังไงก็พูดออกไปเลย”
“เชื่อใจตัวเองสิฮะ”
ครั้งนึงแดซองเคยแนะนำผมมาแบบนั้นตอนผมมีข่าวหลุดกับผู้หญิงคนนึงถึงความสัมพันธ์เกินปกติ ทำให้ทุกคนในวงต่างคาดคั้นผมว่าเรื่องมันเป็นมายังไง ผมก็เลยบอกไปว่าชอบแต่ยังไม่ได้บอกเธอออกไป แต่จริงๆแล้วนั่นมันแผนการตลาดของท่านประธานต่างหาก ผมไม่ได้ชอบจริงๆสักหน่อย แล้วพอผมบอกไปแบบนั้นแดซองก็เลยแนะนำอันที่จริงไม่ใช่แดซองแค่คนเดียวยังมีจียง แทยัง แล้วก็ซึงรีอีกที่พูดทำนองเดียวกัน แต่พอทุกอย่างถูกเปิดเผยโดยท่านประธานเจ้าพวกนั้นก็โฮ่กันยกใหญ่ คิดว่าเป็นเรื่องจริงจนแนะนำให้ผมรับละครหรือหนังเพราะฝีมือการแสดงของผม
ผมนั่งทบทวนสิงที่แดซองเคยพูดไว้ รู้สึกยังไงหรอ คิดยังไงล่ะ เชื่อใจตัวเองยังไงดี แล้วถ้าผมบอกไปจะรับได้มั้ยนะ ความรู้สึกตัวเองหน่ะผมมั่นใจแน่นอนอยู่แล้วว่ารักแดซอง คิดยังไงก็แน่ล่ะ ผมคิดเกินคำว่าพี่น้องกับแดซองไปตั้งนานแล้ว แต่ถ้าเกิดผมทำตามใจตัวเองในแบบที่ผมเชื่อจริงๆขึ้นมาแดซองจะเชื่อผมรึเปล่า แก้วเบียร์ในมือที่พวกผมเป็นพรีเซนเตอร์ลดไปเกือบหมดแต่นั่นไม่ทำให้ผมเมาหรอกออกจะหลับสบายด้วยซ้ำมั้ง
แกร๊ก
ผมหันไปมองที่ประตูหอพักที่มีคนเปิดเข้ามาพอเห็นว่าเป็นแดซองสภาพดูโงนเงนใกล้จะหลับเต็มที เทวดาของผมเพลียแล้วสินะพอเค้าเงยหน้าจากกองรองเท้าที่ไม่ค่อยจะเป็นระเบียบของพวกเราก็ส่งยิ้มมาให้ ยิ้มแบบที่ผมชอบผมยิ้มตอบเค้าบางๆ
“ทำไมยังไม่นอนล่ะฮะ”เค้าถามแล้วเดินมานั่งข้างๆผม เค้าพิงโซฟาอย่างหมดแรงผมเลยวางแก้วลงแล้วมองหน้าเค้าแทน
“นอนไม่ค่อยหลับหน่ะ”เค้าพยักหน้าขึ้นลงช้าๆก่อนจะเปิดเปลือกตาขึ้นมา
“พี่ต้องพักเยอะๆนะฮะ ช่วงนี้งานเยอะแถมยังต้องบินไปบินมาอีก”เค้าพูดพร้อมรอยยิ้มแบบที่ผมชอบนั่นแหละผมรู้สึกว่ารอยยิ้มที่เค้าส่งมามันมีความพิเศษกว่าคนอื่นๆมันทำให้ผมรู้สึกต่างออกไปความพิเศษที่ไม่มีตัวตนแต่รับรู้ได้ ผมพยักหน้าขึ้นลงกับคำแนะนำของเค้า
“นายก็เหมือนกัน”ผมอยากจะยื่นมืออกไปลูบหน้าเค้าแบบที่เคยทำจัง แต่ตั้งแต่เค้าไปญี่ปุ่นสามปีจนตอนนี้กลับมาผมก็ยังไม่ได้ทำมันเลย ไม่รู้ว่าเพราะอะไรที่ผมไม่กล้ายื่นมือออกไปทั้งที่แดซองนั่งอยู่ตรงหน้าแล้วแท้ๆ
“เหนื่อยมั้ย”ผมถามหลังจากเราเงียบกันไปสักพักอาจจะเพราะเค้าหลับตาล่ะมั้ง ทำให้ผมไม่กล้าพูดมากแต่ผมก็ไม่อยากให้มันเงียบจนเกินไป
“ไม่เท่าไหร่ฮะ สนุกดี”ผมพยักหน้าอยากจะทำอะไรมากกว่านี้แต่มันไม่กล้าจริงๆ ความรู้สึกแบบนี้มันเริ่มมาตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ ความรู้สึกที่ไม่ถึงกับห่างเหินแต่ก็ไม่เข้าใกล้ ความรู้สึกครึ่งๆกลางๆทำเอาผมอึดอัดแปลกๆ อยากจะทำอะไรก็ไม่กล้าไปซะหมด ผมอยากจะพูดกับเค้า สัมผัสเค้า อยากจะดึงเค้ามากอดไว้ แต่ผมไม่กล้าเลยทุกครั้งที่จะทำเหมือนมีอะไรมาขวางไว้จนความกล้าของผมกลายเป็นความไม่กล้าไปในทันที ผมมองมือของตัวเองที่ทำให้รู้สึกว่าผมเดียวดายทั้งๆที่ทุกคนยังอยู่กับผม ซึงรียังคอยกวนประสาททุกวัน จียงก็แต่งเพลงเสียงดังทะลุห้องมารบกวนการนอนไม่เปลี่ยน แทยังก็ขยันทำทรงผมให้ผมประหลาดใจอยุ่เรื่อยๆ แดซองก้ยังยิ้มหวานให้ผมเหมือนเดิม ทุกอย่างรอบตัวผมยังเหมือนเดิม แล้วความรู้สึกนี้มันคืออะไรกันนะ ผมไม่รู้ว่าคนแก่มักจะอารมณ์ไม่ปกติจริงรึเปล่าแต่ผมกำลังเป็นแบบนั้นหล่ะ ตาที่มองมือผมอยู่เริ่มพร่ามัวและมือผมเริ่มสั่นจนควบคุมไม่ได้ ผมว่าบางทีอาการผมก็เริ่มหนักจนอยากจะไปปรึกษาแพทย์ จากมือสั่นเค้าก็กัดฟังไม่ส่งเสียงออกไปจนหน้าสั่น เพราะกลัวแดซองจะตื่นแต่ตอนนี้ผมกำลังจะทนไม่ไหวทุกอย่างมันสั่นไปหมดจนผมควบคุมไม่ได้ แดซองคงจะตกใจที่ได้ยินเสียงสะอื้นของผมเลยตื่นขึ้นมาเค้ามองผมอย่างตกใจที่เห็นผมร้องไห้ ผมก้มหน้าลงซบกับมือตัวเองเพื่อไม่ให้เค้าเห็น
“เป็นอะไรครับพี่ท้อป ใครทำอะไร”ผมไม่ตอบอะไรยังก้มหน้าอยู่อย่างนั้น
“ไม่ร้องนะครับ บอกผมหน่อยสิร้องทำไมครับ”แดซองจับผมเงยหน้าขึ้นมาตอนนี้หน้าผมคงแปลกพิลึกเพราะพยายามจะยิ้มให้เค้าแต่เสียงสะอื้นก็ดังลอดออกมา แดซองฉุดผมให้ลุกขึ้นจากโซฟา ผมไม่รู้ว่าเค้าจะพาไปไหนแต่ผมเชื่อใจเค้าเลยยอมตามไปทั้งที่ตัวเองมีสภาพแบบนี้เค้ายิ้มอ่อนโยนแล้วพาผมมาหยุดที่กลางห้องนั่งเล่น
“เครียดหรอครับ ไม่สบายหรอ พี่เจ็บตรงไหนรึเปล่า”ผมส่ายหัวไปมาผมก็อธิบายให้เค้าฟังไม่ถูกเหมือนกันว่าผมเป็นอะไรแดซองจับมือผมแบบประสานนิ้วเอาไว้ข้างนึงก่อนจะจับมือผมอีกข้างไปวางไว้ที่เอวเค้าแล้วเลื่อนมือเค้ามาวางไว้บนบ่าผมที่ยังสะอื้นไม่หาย เค้าไม่พูดอะไรแต่เค้ายิ้ม เค้าเริ่มร้องเพลงสากลอะไรสักเพลงที่ผมจำชื่อมันไม่ได้เค้าเริ่มพาผมขยับตัวไปช้าๆพาผมขยับไปด้วย เสียงหวานๆของเค้ายังร้องไปอีกสักพักจนอาการของผมเริ่มสงบจนยืนนิ่งๆไม่มีอาการสั่นได้แล้ว
“ดีขึ้นมั้ยครับ”แดซองถามผมหลังจากที่เงียบกันไปสักพักผมพยักหน้าขึนลงแลวผละออกก็เห็นเค้ายิ้มให้ผมอยู่ ยิ้มแบบที่ทำให้ผมรู้สึกพิเศษ
“ขอบใจนะ” ปากผมบอกแบบนั้นแต่ในใจมันอีกอย่าง อยากจะบอกว่าคิดถึง
“ครับ ผมว่าพี่ไปนอนดีมั้ย”
“อือ”ผมพยักหน้าอีกครั้งแดซองยิ้มแล้วกำลังจะเดินแยกไป
พี่รู้สึกยังไงล่ะฮะ
คิดยังไงก็พูดออกไปเลย
เชื่อใจตัวเองสิฮะ
“คิดถึงนะแดซอง”คำนี้แหละเหมาะที่สุดแล้ว ไม่ว่าจะทำอะไรผมมักจะมีเค้ามาวนเวียนในหัวเสมอ ทั้งตอนที่เค้าอยู่และไม่อยู่ถึงแม้ชีวิตผมจะวนไปตามลูปเดิมแต่การที่มีเค้าร่วมทำอะไรกับผมมันต่างกับตอนที่เค้าไม่อยู่มาก คิดถึงนี่แหละให้คำจำกัดความได้ดีที่สุดแล้ว
คิดถึงเค้า
คิดถึงรอยยิ้มของเค้า
คิดถึงช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกัน
คิดถึงสัมผัสของเค้า
ผมพูดออกไปถึงแม้จะไม่ดังแต่พื้นที่ตรงนี้คงจะเงียบเกินไปทำให้เค้าได้ยินผมก้มหน้านิ่งทุกอย่างรอบตัวผมเงียบ เงียบจนน่าใจหายเค้าเดินเข้าห้องไปแล้วรึเปล่าผมก็ไม่มั่นใจเค้าเดินเขามาหารึเปล่าผมไม่รู้เลย ทุกอย่างเหมือนหยุดนิ่ง แต่ใจผมเริ่มที่จะไม่นิ่งแล้ว เค้าจะรู้สึกยังไงนะ
อั่ก
ผมเซถอยหลังเพราะแดซองที่วิ่งเข้ามากระโดดกอดอย่างแรงผมรับตัวเค้าไว้แม้จะจุกนิดๆแต่ความสุขมันมีมากกว่าจนผมพอจะมองข้ามเรื่องนั้นไป
“ผมคิดว่าพี่จะไม่บอกซะแล้ว”ผมยิ้ม เคยมีใครบอกเค้ามั้ยครับว่าเค้าน่ารัก
“คิดถึงพี่มั้ย”เค้าสั่นหัวน้อยๆทำเอาผมแปลกใจ
“ก็พี่นั่นแหละ”
“อ้าว ทำไมอยู่ๆมาโทษพี่ละ”
“คิดถึงแล้วทำไมไม่ไปหาล่ะครับ”เสียงแดซองอู้อี้จนแทบจะฟังไม่รู้เรื่อง ผมหลุดขำ ดูเหมือนเค้าจะงอนผมจริงจังแล้วล่ะครับ
“ไม่รู้หรอครับว่าผมรอ” พอเจอประโยคนี้ทำเอาผมเงียบไปเลยถึงท่าทีของเราสองคนจะคลุมเครือมานานแต่ผมก็ไม่เคยถามเค้าอย่างจริงจังหรือทำอะไรให้มันชัดเจนเลยสักครั้ง เพราะกลัวว่าความรู้สึกของเราจะไม่ตรงกัน กลัวจะเสียเค้าไป
“ตอนนี้ยังรออยู่มั้ย”พอจบคำถามผมทุกอย่างก็เข้าสู่โหมดเงียบอีกครั้ง ผมอยากจะมุดเข้าไปในหัวเค้าจังอยากจะรู้ว่าเค้าคิดอะไรอยู่กันแน่ เอาจริงๆเราก็คลุมเครือกันทั้งคู่แหละครับ
“นายรู้สึกยังไง คิดอะไรก็พูดออกมาเถอะ เชื่อใจของตัวเองสิ” ผมเอาประโยคเค้ามาย้อนพูดเลยได้รับแรงจากกำปั้นน้อยๆแต่หนักของแดซองมากลางหลัง
“เลียนแบบ”
“ตอบพี่หน่อยสิคนดี ยังรอพี่ท้อปอยู่มั้ย”ผมถามแล้วโยกตัวเราสองคนไปมาก่อนจะกอดเค้าแน่นขึ้นอีก ผมสิงเค้าไปเลยดีมั้ยนะ
“ผมก็รอพี่คนเดียวนั่นแหละ เมื่อไหร่จะชัดเจนสักที ผมรอนานแล้วนะครับ”จบคำพูดเค้าผมก็ยิ้มก่อนจะผละออกแล้วจ้องหน้าเค้าที่เอาแต่มองไปทางอื่น
“หยุดรอเถอะ” แดซองกัดปากล่างแน่นเมื่อผมพูดจบเค้าพยักหน้าขึ้นลงช้าๆแล้วเริ่มเดินถอยหลังจนผมต้องฉุดเค้าไว้ก่อนดูเหมือนเค้าจะไม่เข้าใจความหมายคำว่าหยุดของผม
“เอ่อ ผมง่วงแล้วฮะ”
“พี่ยังไม่พูดไม่จบ”
“ผมเข้าใจแล้ว”
“แน่ใจ”เค้าสะบัดหน้าส่งสายตาเขียวปั้ดมาทางผม ทำไม่เค้าน่ารักอย่างนี้นะ
“ผมจะไปนอน”
“ตอบคำถามพี่อีกข้อนึง”การแกล้งเค้ามันสนุกครับได้เห็นหน้าหลายๆอารมณ์ของเค้าหน่ะ งานอดิเรกผมอย่างนึงเลยนะ
“ว่ามาสิฮะ”เค้าถามแล้วเฉไฉมองไปทางอื่นผมเลยจับคางเค้าให้หันมามองผมแทนผมมองตาเค้าที่มีแววสบสนผมยิ้มก่อนจะพูดมันออกไป
“เป็นแฟนกันนะ” ผมจ้องตาเค้าที่เริ่มลอกแลกหน้าหวานๆเริ่มขึ้นสีผมทำท่าจะขยับเข้าไปแต่เค้าถอยหนี
“ผมยังไม่ตกลงสักหน่อย”เค้ายู่ปากอย่างเด็กโดนขัดใจรู้มั้ยครับ น่ารักสุดๆ
“พี่รู้ว่าแดจะตกลง”
“หลงตัวเอง”
“แล้วจริงมั้ย”เค้ากลับมากัดปากอีกครั้งผมจะดึงเค้ามาจูบเลยได้มั้ยนะ หมั่นเขี้ยวจริงๆ
“อือออ”ผมยิ้มกว้างให้แดซองที่มุดหน้าหนีผมไปแล้วผมก้มลงไปจะจูบเค้าแต่แดซองก็ม้วนตัวออกไปจากผมแล้ววิ่งปรู้ดเข้าห้องไปทันที
“ย่าห์ ตัวแสบ”ผมส่งเสียงตามเค้าไป
“ไว้พรุ่งนี้พี่จะมาจูบนะ”ผมบอกแล้วเอานิ้วแตะปากตัวเองก่อนจะแปะมันไว้ตรงประตูห้องนอนเค้าแล้วเดินเข้าห้องตัวเองไปนอนบ้าง
“แดซองอ่า ทรงผมใหม่พี่เฟี้ยวมั้ย”
“แฮะๆ”แดซองที่ไม่รู้จะตอบอะไรได้แต่ยิ้มแห้งๆส่งให้พี่ชายไป
“เอาดีๆสิพี่เครียดนะเนี่ย”พูดแล้วทำหน้ายับยู่ยี่
“ก็ถ้าเป็นคนอื่นทำคงดูไม่จืด แต่นี่เป็นพี่ก็เลยดูดีอ่ะฮะ แสดงถึงความเป็นพี่ดี”
“เหมือนไม่ถูพื้นก็พูดไปสิฮะ”ซึงรีที่เดินมานั่งที่โต๊ะกินข้าวพูดแล้วทำหน้าล้อเลียนแดซองบีบมือแทยังเบาๆ
“พูดดีๆสิเดี๋ยวไม่มีใครคอยให้อาหารนะ”แดซองพูดยิ้มๆแต่ทำเอาซึงรีจุกเลยทีเดียว
“งื้อออ ไม่ล้อก็ได้อย่าใจร้ายสิฮะ”ใครบอกว่าพวกพี่ๆทำอะไรไอมักเน่ตัวแสบไม่ได้อย่างน้อยก็แดซองนั่นแหละที่เอาอยู่ แดซองขยี้หัวซึงรีที่ถูไถอยู่ตรงไหล่เค้าอย่างหมั่นไส้
“เชื่อสิครับ ดูดีออก แต่ถ้าเป็นซึงรีทำผมจะบอกให้น้องมันไปตัด55555”
“โหย ลำเอียงเห็นๆ”ซึงรีว่าอย่างไม่จริงจังมากนักเค้ากับพี่แทยังยังพอสูสีแต่อย่าให้พี่ท้อปมา เค้าจะกลายเป็นหมาหัวเน่าทันทีแทยังไม่สนใจซึงรีที่ออกอาการบ้าบอแต่เช้าก้มหน้าก้มตากินอาหารเช้าทันที
“มีอารายกินบ้างงงง”จียงที่เดินเข้ามาใหม่แซะๆซึงรีออกไปจากเก้าอี้แล้วอ้อนน้องชายอีกคน
“แดซองอ่า ป้อนพี่หน่อยจิ”แทยังกับซึงรีที่เห็นก็หมั่นไส้อยากจะงัดไอพี่หัวแดงไปทิ้งนอกห้องจริงๆ
“มีมือก็กินเองสิ”ทั้งหมดหันไปมองผู้มาใหม่ที่ยืนหน้ายับอยู่หน้าห้องครัว “ลุกๆๆฉันจะนั่ง”
“อะไรของพี่เนี่ยผมนั่งอยู่นะ”
“จะทำไม ฉันจะนั่งกับแฟน”
“ฮะ!!!”แทยังที่เคี้ยวข้าวอยู่ข้าวแทบพุ่ง จียงอ้าปากค้างจนแมลงจะบินไปทำรัง ส่วนซึงรีที่พอจะรู้ก็ยักไหล่แล้วเดินไปทิ้งตัวนั่งข้องแทยัง ส่วนแดซองหน้าแดงอย่างไม่ต้องสงสัย
“เมื่อไหร่”แทยังถามออกมาเป็นคนแรก
“เมื่อคืน”
“ไม่จริงอ่ะ”จียงสติหลุดพร่ำเพ้ออกมาก่อนจะมีซึงรีช่วยเขย่าให้รู้สึกตัว “จริงหรอ” ไม่วายหันไปถามแดซองที่น่งยิ้มเขินๆอยู่ งื้ออออใครปล่อยให้ไอลิงนี่มาแย่งเค้าไปอ่ะ
“ฮะ แฮะๆ”
“โอ้ว ม่ายยยยย”จียงโวยวายแล้วเข้าห้องไปทุกคนมองตามอย่างตกใจ
“เอ่อ เดี๋ยวผมไปดูพี่จีก่อนนะฮะ”แดซองบอกแล้วกำลังจะลุกไปแต่ท้อปฉุดไว้ก่อน เรื่องอะไรจะให้แดซองไปหามันถึงในห้อง
“ปล่อยมันไปเถอะ”แทยังเองก็ช่วยยืนยันเพราะเค้ารู้จักจียงดี “เดี๋ยวมันก็หาย”
“เดี๋ยวผมไปดูเอง”ซึงรีไม่ฟังคำใครเดินไปทางห้องจียงทันที
“หายนะชัดๆ”ท้อปและแทยังพูดพร้อมกันก่อนที่เหลือจะลงมือกินข้าวโดยมีท้อปคอยบริการแดซองอย่างดี แทยังมองยิ้มๆในที่สุดก็ชัดเจนกันสักที เสียงดังโครมครามมาจากห้องจียง เป็นระยะคงไม่แคล้วต้องไปช่วยกันเก็บกวาดซากศพใครคนใดคนหนึ่งแน่ๆ แต่มันทำให้พวกเค้ารุ้สึกดี พูดได้เต็มปากเลยว่าเค้าคิดถึงบรรยากาศ และสัมผัสแบบนี้ แบบที่เรียกว่าความอบอุ่นละมั้ง
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ผลงานอื่นๆ ของ DaesungOppa ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ DaesungOppa
ความคิดเห็น